ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 22:59
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==การโยกย้ายอธิบดีกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหารหรือไม่?== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==การโยกย้ายอธิบดีกรมสนธิสัญญาระหว่างประเทศ เกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหารหรือไม่?==  (อ่าน 3425 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 18-06-2008, 21:30 »

เป็นการตั้งข้อสังเกตเท่านั้นนะครับ เนื่องจากเมื่อต้นเดือนก่อน มีการโยกย้ายข้าราชการสำคัญ
คนหนึ่ง คือ นายวีรชัย พลาศัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฏหมายกระทรวงการต่างประเทศ

ตอนที่ถูกโยกย้ายมีข่าวฮือฮาอีกเรื่องคือ นายวีรศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกด้วยลายมือตัวเอง ยกย่องนายวีระชัย พลาศัย ในการทำงานปกป้อง
ผลประโยชน์ของชาติ และขอให้ข้าราชการยึดวีระชัยเป็นบุคคลตัวอย่างในการรับใช้ชาติ
อย่างสุดความสามารถ และรักษาศักดิ์ศรีของข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ซึ่งทำให้เกิดกระแสการตั้งข้อสงสัยจากหลายฝ่ายอยู่ระยะหนึ่งว่ามีเหตุผลอะไร โดยขณะนั้น
วิเคราะห์กันไปว่าอาจเกี่ยวกับคดีเครื่อง CTX9000 ที่คุณทักษิณมีชื่อพัวพัน

แต่มาถึงตอนนี้เมื่อมีกรณีเขาพระวิหารเกิดขึ้น ทำให้รู้สึกสงสัยว่าที่ถูกโยกย้าย
เกี่ยวกับเขาพระวิหารหรือไม่
เพราะนายวีระชัยเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญาเกี่ยวกับเขตแดนเขาพระวิหาร? 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปชป.ค้านย้ายอธิบดีกรมสนธิสัญญาเชื่อไม่โปร่งใส
โดย Post Digital 9 พฤษภาคม 2551 12:51 น.
http://www.posttoday.com/breakingnews.php?id=237129

พรรคประชาธิปัตย์ ค้านย้ายอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฏหมายกระทรวงการต่างประเทศ
เชื่อไม่โปร่งใส และมีผู้มีอำนาจสั่งการอยู่เบื้องหลัง

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การโยกย้าย นายวีรชัย พลาศรัย
อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฏหมายกระทรวงการต่างประเทศ ไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง
ไม่ได้เป็นการย้ายปกติและมีผู้มีอำนาจสั่งการอยู่เบื้องหลังแต่ยังไม่ชัดเจน ว่ามาจากสาเหตุใด
ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบต่อไป
พร้อมเห็นว่าควรมีการทบทวนคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า
เป็นการสั่งย้ายที่ไม่เหมาะสม เพราะจากการที่พรรคประชาธิปัตย์ตรวจสอบพบว่า หากไม่มีการสั่งย้าย
ในขณะนี้ก็ไม่กระทบต่อการบริหารราชการในกระทรวง พร้อมกันนี้นายองอาจ ยังเรียกร้องให้
ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศออกมาเปิดโปงความไม่โปร่งใสภายในกระทรวง เพราะเชื่อว่า
จะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย อีกทั้งเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของกระทรวงด้วย

ทั้งนี้ คำสั่งดังย้ายดังกล่าวออกมาหลังมีกระแสข่าวว่านายวีรชัย ปฏิเสธให้เอกสารในคดีซีทีเอ็กซ์ 9000
ที่โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) มอบให้กระทรวง
การต่างประเทศช่วยแปลกับฝ่ายการเมือง เนื่องจากเป็นการประสานขอด้วยวาจา แต่ได้ขอให้ทำเป็น
เอกสารแจ้งขอเป็นลายลักษณ์อักษร เนื่องจากเป็นเอกสารลับทางราชการที่ใช้ดำเนินคดีกับพันตำรวจโท
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ในคดีทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจ
วัตถุระเบิดดังกล่าว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-06-2008, 12:56 โดย jerasak » บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #1 เมื่อ: 18-06-2008, 21:36 »

ไม่กี่วันต่อมาหลังจากถูกตั้งข้อสังเกต คุณนพดลเคยออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่า
การโยกย้าย อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ เป็นเรื่องของปลัดกระทรวงฯ แต่แสดงความ
แปลกใจที่ปลัดกระทรวงทำหนังสือชื่นชมการทำงานของนายวีระชัย
พร้อมกับปฏิเสธว่าเรื่องเกาะกูดไม่เกี่ยวข้องกับกรณีการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
นพดล ยันกรณีพื้นที่ทับซ้อน-เขาพระวิหาร ไม่เชื่อมโยงกัน
โดย สำนักข่าวที-นิวส์ 2008-05-15 16:40:33
http://www.tnewsonline.net/tnewssive.php?c=1&id=22895

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยันการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยนั้น
ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกัน และไม่มีเรื่องผลประโยชน์

     นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบกระทู้ถามสดกรณีการขึ้นทะเบียน
เขาพระวิหารและการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนใน อ่าวไทย โดยยืนยันเรื่องการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารและพื้นที่
ทับซ้อนในอ่าวไทยนั้น ไม่ได้มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งการพิจารณาแง่กลไลและคณะทำงาน เพียงแต่สามารถ
ที่จะนำมาพิจารณาไปพร้อมๆกันได้ ยืนยันไม่มีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนเข้ามาเกี่ยวข้องตามที่มีการ
นำเสนอ ข่าวในหนังสือพิมพ์ของกัมพูชา และตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะดูแล
การเจรจาทั้งสองเรื่องนี้ให้มีความคืบหน้าอย่างดีที่สุด

     ส่วนกรณีคำสั่งย้ายนายวีระชัย พลาศัย อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็นเอกอัครราชทูต
ประจำกระทรวงนั้น นายนภดลยอมรับว่าส่วนตัวแล้วก็รู้สึกแปลกใจกับการที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ซึ่งเป็นผู้ลงนามในคำสั่งย้ายได้ทำหนังสือเวียนแสดงความชื่นชมในการทำงานของ นายวีระชัย แต่ยืนยัน
การโยกย้ายในครั้งนี้เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์การทำงานร่วมกัน
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #2 เมื่อ: 18-06-2008, 21:38 »

เกี่ยว 100 เปอร์เซนต์

เป็นผม ผมก็ไม่ให้ใครมาเกะกะทางผมหรอก

หนังสือที่ออกมาทีหลัง มีคำว่าราชอาณาจักรไทยในฉบับนั้นใช่ไหม
บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #3 เมื่อ: 18-06-2008, 21:47 »

เอาข่าวเก่ามาตั้งให้ชมกันก่อน

********************

เลขานุการ รมว.ตปท.ยืนยัน หน.สนง.รมต.ลาออกเพราะติดเรียน ก.ต่างประเทศ 13 พ.ค. -“ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์”แจงกรณีหัวหน้าสำนักงานเลขานุการ รมว.ต่างประเทศลาออก เพราะติดเรียน ไม่มีเวลาทำงาน ไม่ใช่ถูกฝ่ายการเมืองสั่งขอเอกสารซีทีเอ็กซ์ 9000 ยืนยันวันสุดท้ายในการทำงานยังมีการเลี้ยงส่งกัน ย้ำตรวจสอบไม่พบบัตรสนเท่ห์ร้องเรียน

น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว.พิษณุโลก ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ประจำวุฒิสภา ระบุว่าได้รับบัตรสนเท่ห์จากข้าราชการประจำในสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ขอย้ายตัวเองจากตำแหน่ง เพราะรู้สึกอึดอัดจากกรณีที่ถูกฝ่ายการเมืองสั่งการให้ขอเอกสารเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งเป็นเอกสารที่มีชั้นความลับ โดยยืนยันว่า นายภาสกร ศิริยะพันธุ์ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีฯ ขอลาออกเอง เพราะต้องการไปเรียนต่อจริง ๆ เนื่องจากงานในสำนักงานหนักมาก หากเรียนไปด้วยเกรงว่าทำงานได้ไม่เต็มที่ เพราะต้องเรียนเต็มวัน ซึ่งมีความจำเป็นต้องเรียนเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่

“รู้สึกแปลกใจกันมากกับข่าวที่เกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาทำงานร่วมกันเหมือนพี่น้อง ซึ่งวันสุดท้ายของการทำงานยังได้เลี้ยงส่งกัน นายภาสกรยังบอกกับเจ้าหน้าที่และดิฉันว่าเป็นพี่น้องกันมีอะไรให้ช่วย ก็โทรศัพท์บอกกันได้ และบัตรสนเท่ห์ดังกล่าวก็พยายามตรวจสอบแต่ไม่พบ” น.ส.ศิลัมพา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายภาสกร รู้ล่วงหน้าหรือไม่ว่า ต้องไปเรียนเพิ่มเติม น.ส.ศิลัมพา กล่าวว่า ทราบว่านายภาสกร ต้องเรียน แต่ขณะนั้นคนอื่นก็มีภารกิจไม่สามารถมาทำงานได้ ดังนั้น นายภาสกร ลองมาทำงานดูก่อน ถ้าเห็นว่าไม่ไหวค่อยพิจารณา ซึ่งปรากฏว่าเมื่อทำงานแล้วเป็นงานที่หนักจริงๆ เพราะต้องคอยประสานกับรัฐมนตรีตลอด 7 วันทำงาน จึงขอให้คนอื่นมาทำงานแทน. - สำนักข่าวไทย

http://news.mcot.net/politic/inside.php?value=bmlkPTM0NjY3Jm50eXBlPXRleHQ=
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #4 เมื่อ: 18-06-2008, 21:49 »

บทความในหนังสือพิมพ์แนวหน้า เคยตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้เอาไว้เป็นบทความขนาด 2 ตอนครับ

มีการลงข้อความในหนังสือชื่นชม อธิบดีกรมสนธิสัญญา จากปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
จึงเก็บมาให้อ่านกันนะครับ เริ่มจากตอนที่ 1 ก่อน
ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีความเกี่ยวพันกันจริงๆ ไม่ใช่เป็นแค่ข้อสังเกตเสียแล้ว  

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อย่าซื่อต่อฅนคด อย่าทรยศต่อคนไทย (กวนน้ำให้ใส)
คอลัมน์กวนน้ำให้ใส หนังสือพิมพ์แนวหน้า 15 พฤษภาคม 2551

ขณะนี้ ผู้คนสงสัยว่า มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล กำลังเกิดขึ้นภายใต้นโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลสมัคร

เป็นเรื่องที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มีหน้าที่จะต้องทำให้เกิดความกระจ่างชัด
ต่อประชาชนคนไทยเจ้าของประเทศโดย เร็วที่สุด

เพราะรัฐมนตรี คือ คนที่ทำงานกินเดือนจากภาษีอากรของประชาชนคนไทย ไม่ใช่คนที่ทำงานเป็นลูกจ้างกินเงินทักษิณ
และเป็นผู้ได้รับมอบหมายอำนาจรัฐให้ไปทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติ ไม่ใช่รับเหมาอำนาจรัฐไปตอบแทนบุญคุณส่วนตัว
ของใคร พิจารณาดูสิ่งที่เกิดขึ้น พบว่า มีข้อน่าพิรุธสงสัย หลายประการ

1. รัฐมนตรีจะอ้างว่า การโยกย้ายนายวีระชัย พลาดิศัย จากตำแหน่งอธิบดีกรมสินธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็น
เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง เป็นเรื่องการบริหารภายใน ไม่ต้องชี้แจงเรื่องความเหมาะสม หรืออ้างว่า
"เป็นความในกระทรวง เรื่องในการทำงาน ไม่อยากนำออกมาพูดข้าวนอก" ไม่ได้เป็นอันขาด นี่ไม่ใช่การเปลี่ยนตัว
ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นการเปลี่ยนตัวข้าราชการที่กำลังทำหน้าที่สำคัญของบ้านเมือง ทั้งในเรื่อง
เขาพระวิหาร และการดูแลผลประโยชน์ของชาติในพื้นที่ทับซ้อนในทะเล รวมไปถึงเป็นผู้รับผิดชอบการแปลและรักษา
เอกสารลับสำคัญเกี่ยวกับการดำเนิน การเอาผิดกับคนโกงในคดีซีทีเอ็กซ์

2.รัฐมนตรีจะอ้างว่า การโยกย้ายเป็นเรื่องของปลัด ตนเป็นเพียง "เมสเซนเจอร์" (คนส่งเรื่อง) นำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.
เท่านั้น ก็คงอ้างได้แบบน้ำขุ่นๆ สีข้างถลอกปอกเปิก เลือดไหลเป็นทาง เพราะถ้าปลัดกระทรวงเป็นคนต้นคิด ใช้วิจารณญาณ
ดุลยพินิจ ปฏิบัติหน้าที่ในการโยกย้ายอธิบดีโดยปราศจากการกดดัน แทรกซง สั่งการจากฝ่ายการเมืองจริงๆ ก็ไม่มีเหตุผล
ที่ปลัดฯจะออกมาเขียนจดหมายเปิดผนึกด้วยลายมือตนเอง กล่าวชื่นชม สดุดีการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะอธิบดีของนายวีระชัย
ก็ถ้าเห็นว่าเขาทำงานดี คนบ้าที่ไหนจะย้ายเขาให้ตนเองโดนด่า

แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เขียนจดหมายเปิดผนึก
ด้วยลายมือ ส่งถึงข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศ มีเนื้อใจความว่า

"ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ทำงานกับท่านอธิบดีวีระชัยในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเจรจาเขตแดนกับลาวและกัมพูชา
ซึ่งท่านอธิบดีได้แสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์แก่ฝ่ายลาวและกัมพูชา พวกเราทุกคนที่อยู่ในคณะผู้แทนไทยทั้งข้าราชการ
กระทรวงการต่างประเทศและ หน่วยราชการต่างๆ มีความภูมิใจที่ราชอาณาจักรไทยมีนักการทูตที่เก่งกาจเช่นท่านอธิบดีวีระชัย
ซึ่งทำหน้าที่อย่างดีเลิศในการปกป้องผืนแผ่นดินไทยและผลประโยชน์ของชาติ

ตลอดเวลาที่ผมได้ร่วมงานกับท่านอธิบดีวีรชัยมา ผมมีความเชื่อมั่นในวิจารณญาณและ INTEGRITY (ความซื่อสัตย์ซื่อตรง)
ของท่านอธิบดี ซึ่งผมมีความมั่นใจว่าท่านอธิบดีวีรชัยในการปฏิบัติหน้าที่ใหม่เป็นที่ ปรึกษากฎหมายของปลัดกระทรวงและ
ดูแลงานด้านบุคลากรของกระทรวงก็จะประสบความ สำเร็จอย่างดียิ่งด้วยคุณสมบัติดังกล่าวของท่านอธิบดี

สุดท้ายนี้ ขอให้ข้าราชการทุกท่านของกรมสนธิสัญญา ยึดถือท่านอธิบดีวีรชัยเป็นบุคคลตัวอย่างได้ทำหน้าที่รับใช้ชาติอย่าง
สุดความสามารถ และรักษาเกียรติยศของชาติของกระทรวงการต่างประเทศให้สมศักดิ์ศรีของข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"


ทำไมต้องย้ายข้าราชการที่มี INTEGRITY ออกไปจากตำแหน่งที่กำลังทำหน้าที่สำคัญ ?

3. อาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้วิเคราะห์ในรายการ "รู้ทันประเทศไทย" ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี โดยระบุว่า
การโยกย้ายครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่นายนพดล ปัทมะ ต้องการได้รับเอกสารผลการสอบสวนการทุจริตเครื่อง
ตรวจระเบิดซีทีเอ็กซ์ของ สหรัฐอเมริกา ส่วนที่ คตส.ส่งให้กระทรวงการต่างประเทศแปลเป็นภาษาไทย เพื่อใช้เป็น
หลักฐานสำคัญในการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องในชั้นศาล โดยนายนพดลไม่ได้ขอโดยตรงจากอธิบดี แต่ให้หัวหน้าสำนักงาน
รัฐมนตรีฯ เป็นคนขอให้ แต่อธิบดีได้ตอบว่า ให้ทำเอกสารขอมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะเป็นเอกสารที่มีชั้นความลับ
ซึ่งทางการสหรัฐให้มาใช้ในกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะ การจะส่งเอกสารความลับออกไปให้ใคร จึงต้องมีบันทึก
เป็นลายลักษณ์อักษร น่าสงสัยว่า นายนพดลได้กระทำเยี่ยงนั้น จริงหรือไม่ ?

หากกระทำจริง จะเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ถูกต้องตามกฎหมาย หรือไม่ เหมาะสมเพียงใด

หน้าที่ในการแสวงหาข้อมูลพยานหลักฐาน เพื่อนำมาใช้วางแผนแก้ต่างคดีให้กับผู้ถูกกล่าวหาทุจริตซีทีเอ็กซ์ เป็นหน้าที่
ของทนายความฝ่ายจำเลย ซึ่งมิใช่นายนพดล มิใช่หรือ

ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ มีความจำเป็นหรือเหตุผลกลใดหรือไม่ จึงต้องการเอกสารลับที่ทางการสหรัฐ
ส่งมาให้ คตส. ใช้ในการดำเนินคดีดังกล่าว ?

นอกจากนี้ ยังมีข้อพิรุธสงสัยอีกหลายประการ ซึ่งประกอบเข้าด้วยกันแล้ว จะทำให้เกิดสงสัย และนึกถึงคำเตือนคำสอน
ของคนรุ่นก่อนที่ว่า "อย่าซื่อต่อฅนคด อย่าทรยศต่อคนไทย"

พรุ่งนี้ มาตามดูกันต่อ

สารส้ม
วันที่ 15/5/2008
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #5 เมื่อ: 18-06-2008, 21:55 »

หมอนี่ก็อ่านข่าวกระปริบกระปอย ตามข่าวก็ไม่ละเอียด อย่าเสร่อไปให้ความเห็นเลยครับท่านผู้จำเริญ

เรื่องนี้เคยบอกตั้งนานแล้วว่า ทหารที่ร่วมโต๊ะเจรจากับเขมรนั่นแหละ เค้าขอให้เอาหมอนี่ออกไป

อยากรู้เหตุผลจริงๆ ไปตรวจดูรายชื่อนายทหารทีมเจรจาปักปันฯ แล้วก็โทร.ไปถามเค้าเป็นการส่วนตัวละกันนะจ้ะ
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #6 เมื่อ: 18-06-2008, 21:58 »

ตามด้วยตอนที่ 2 ครับ มีการตั้งข้อสังเกต นโยบายต่างประเทศต่อกัมพูชา ของรัฐบาลสมัคร
ในตอนที่ 2 นี้ ถึง 7 ประการด้วยกัน ก็ลองอ่านกันดูนะครับ

ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือมีใครได้ผลประโยชน์จากกรณีเขาพระวิหารตามข้อสังเกตหรือไม่

สักวันหนึ่งความจริงก็ต้องเปิดเผยออกมา สังเกตว่ารัฐบาลนี้ไม่ต่างกับรัฐบาลทักษิณ
ทำอะไรจะหลีกเลี่ยงไม่ยอมเปิดเผยข้อมูล และไม่ยอมให้เรื่องผ่านสภาผู้แทนราษฎร  

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อย่าซื่อต่อฅนคด อย่าทรยศต่อคนไทย (จบ) (กวนน้ำให้ใส)
คอลัมน์กวนน้ำให้ใส หนังสือพิมพ์แนวหน้า 16 พฤษภาคม 2551

เมื่อวานนี้ ชี้ข้อพิรุธเกี่ยวกับนโยบายการเมืองการต่างประเทศของไทยที่มีต่อกัมพูชาไปแล้ว 3 ประการ วันนี้ มีต่ออีก 7 ประการ คือ

1.ปรากฏข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของประเทศกัมพูชาว่า รัฐมนตรีของกัมพูชา ระบุว่า ฝ่ายไทยได้มีการนำเอาการเจรจา
ระหว่างประเทศกรณีขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็น มรดกโลก กับกรณีพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลที่มีทรัพยากรปิโตรเลียมอยู่จำนวนมาก
เข้ามาเกี่ยวข้องกัน

กลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ในหน้าหนังสือพิมพ์เมืองไทยว่า จะมีการยื่นหมูยื่นแมวใน 2 กรณีนี้

โดยวิตกกังวลว่า ฝ่ายไทยเราอาจจะยอมให้ฝ่ายกัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่ อาณาเขตที่ตั้งบางส่วนเป็นดินแดน
ของราชอาณาจักรไทย เพื่อแลกกับการได้รับผลประโยชน์จากทรัพยากรปิโตรเลียมในพื้นที่ทับซ้อนทาง ทะเล หรือไม่ ?

ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า หากเรายอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ก็เท่ากับเรายอมรับว่าพื้นดินที่ตั้ง
ในอาณาบริเวณเขาพระวิหารเป็นดินแดนของ กัมพูชา

น่าสงสัยว่า ถ้าเราจะยอมสูญเสียอธิปไตยเหนือแผ่นดินในราชอาณาจักรไทยบางส่วน เพื่อแลกกับผลประโยชน์ด้านพลังงาน
กระทำได้หรือไม่ ?

2. ก่อนหน้านี้ ปรากฏข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สนใจที่จะไปลงทุนธุรกิจพลังงานในกัมพูชา

3. พล.อ.เตีย บัณห์ รมว.กลาโหม ประเทศกัมพูชา กล่าวเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2551 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย
สนใจที่จะไปลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานในกัมพูชา และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ว่าจะเช่าเกาะกงทั้งเกาะ เพื่อทำกาสิโน
เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยอ้างว่า เป็นข่าวจากการพูดคุยวงใน

4. ปรากฏว่า เมื่อการเจรจาปัญหาเรื่องเขาพระวิหาร และพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลสะดุด และมีการโยกย้ายอธิบดีผู้ทำหน้าที่เจรจาคนเดิม
ออกจากตำแหน่งหน้าที่ ปลัดกระทรวงต่างประเทศถึงกับทำหนังสือเปิดผนึก ชื่นชม สรรเสริญการทำหน้าที่ของอธิบดีคนดังกล่าว
โดยใช้คำว่า

"ในการเจรจาเขตแดนกับลาวและกัมพูชา ท่านอธิบดีได้แสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์แก่ฝ่ายลาวและกัมพูชา พวกเราทุกคนที่อยู่ในคณะ
ผู้แทนไทยทั้งข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศและ หน่วยราชการต่างๆ มีความภูมิใจที่ราชอาณาจักรไทยมีนักการทูตที่เก่งกาจ
เช่นท่านอธิบดีวีระชัย ซึ่งทำหน้าที่อย่างดีเลิศในการปกป้องผืนแผ่นดินไทยและผลประโยชน์ของชาติ ทำหน้าที่รับใช้ชาติอย่าง
สุดความสามารถ และรักษาเกียรติยศของชาติของกระทรวงการต่างประเทศให้สมศักดิ์ศรีของข้า ราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

น่าสงสัยว่า เป็นเพราะอธิบดีคนดังกล่าว "ทำหน้าที่อย่างดีเลิศในการปกป้องผืนแผ่นดินไทยและผลประโยชน์ของชาติ" ในการเจรจา
เขตแดนกับกัมพูชา ซึ่งอาจจะขัดต่อนโยบาย หรือความต้องการบางอย่างของฝ่ายการเมือง หรือไม่ ?

5. น่าสงสัยว่า เหตุใดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จึงไม่อธิบายชี้แจงถึงเหตุผลที่ต้องเปลี่ยนตัวอธิบดีท่านี้ให้กระจ่างชัดว่า
อธิบดีทำงานไม่สนองนโยบายอย่างไร ไม่สนองความต้องการประการใด หรือไม่สนองผลประโยชน์ของใคร อย่างไร ?

อธิบายไม่ได้ ไม่อยากอธิบาย หรือใครไม่ให้อธิบาย หรืออย่างไร ?

6. การที่อธิบดีนิ่งเฉย ยอมถูกโยกย้ายโดยไม่ปริปาก ไม่ร้องเรียน ไม่เปิดเผยความจริงที่ชัดเจนต่อสาธารณชน แม้จะเป็นสิทธิส่วนตัว
ในฐานะผู้เสียหาย แต่ในฐานะข้าราชการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากพบว่า นักการเมืองได้พยายามใช้อำนาจกดดัน แทรกแซง
หรือสั่งการ เพื่อหวังอาศัยอำนาจรัฐของปวงชนชาวไทยหรืออำนาจอธิปไตยของประเทศชาติไปแลก เปลี่ยนหรือสนองตอบผลประโยชน์
ส่วนตัวของผู้ใด ในประการใดๆ สมควรจะนิ่งเฉยอยู่หรือ

7.เมื่อฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการ ต่างไม่ยอมปริปาก เปิดเผยความจริงที่กระจ่างชัด พร้อมหลักฐานและคำอธิบายที่มีน้ำหนักชัดเจน
ทุกวันนี้ สังคมก็เลยสงสัยว่า ในอนาคตอันใกล้ หากราชอาณาจักรไทยต้องสูญเสียอำนาจอธิปไตยเหนือแผ่นดินบางส่วน หรือยอมสูญเสีย
ผลประโยชน์ของชาติบางอย่าง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ด้านพลังงานและผลประโยชน์ทางธุรกิจอื่นในกัมพูชา หากปรากฏว่า ผู้ได้รับ
ผลประโยชน์ในนามชาติไทยดังกล่าวเป็นมหาเศรษฐีนักการเมืองที่กำลัง ถูกดำเนินคดีทุจริตในประเทศไทยอย่างร้ายแรง

ประชาชนคนไทยคงได้รู้สึกสงสัยว่า ประเทศไทยเป็นของใคร ?

ใครซื่อต่อฅนคด ใครทรยศต่อคนไทย ?

สารส้ม
วันที่ 16/5/2008
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #7 เมื่อ: 18-06-2008, 22:01 »

หมอนี่ก็อ่านข่าวกระปริบกระปอย ตามข่าวก็ไม่ละเอียด อย่าเสร่อไปให้ความเห็นเลยครับท่านผู้จำเริญ

เรื่องนี้เคยบอกตั้งนานแล้วว่า ทหารที่ร่วมโต๊ะเจรจากับเขมรนั่นแหละ เค้าขอให้เอาหมอนี่ออกไป

อยากรู้เหตุผลจริงๆ ไปตรวจดูรายชื่อนายทหารทีมเจรจาปักปันฯ แล้วก็โทร.ไปถามเค้าเป็นการส่วนตัวละกันนะจ้ะ

ถ้าอย่างนั้นเรื่องการปกป้องผลประโยชน์ของชาติก็ยิ่งเข้าเค้าสิครับ
เรื่องโทรไปถามถ้าเขาสะดวกเปิดเผย เราคงรู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว
ตอนนี้ก็แค่รอดูว่ามีใครได้ประโยชน์ตามข้อสังเกตหรือไม่เท่านั้น 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #8 เมื่อ: 18-06-2008, 22:03 »

หมอนี่ก็อ่านข่าวกระปริบกระปอย ตามข่าวก็ไม่ละเอียด อย่าเสร่อไปให้ความเห็นเลยครับท่านผู้จำเริญ

เรื่องนี้เคยบอกตั้งนานแล้วว่า ทหารที่ร่วมโต๊ะเจรจากับเขมรนั่นแหละ เค้าขอให้เอาหมอนี่ออกไป

อยากรู้เหตุผลจริงๆ ไปตรวจดูรายชื่อนายทหารทีมเจรจาปักปันฯ แล้วก็โทร.ไปถามเค้าเป็นการส่วนตัวละกันนะจ้ะ

ไอ้เหี้.. พ่อแม่มึงเป็นเขมรเหรอ ถึงได้เข้าข้างมัน

ทหารฝ่ายนู้น มั่นใจได้เลยมันมีธงมาแล้วว่ามันต้องการอะไร ก็เลยคุยกันไม่รู้เรื่อง

ไอ้คว..ย โง่แล้วยังเสือกมาแถมอีก เอาแค่ประเด็นที่ได้ประโยชน์นิดๆ หน่อยๆ เข้ามาแถ

ไอ้สั..ว์ พ่อแม่เขมรของมึงสอนมาอย่างนี้เหรอ
บันทึกการเข้า
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #9 เมื่อ: 18-06-2008, 22:03 »

เรื่องนี้ทหารกับกระทรวงต่างประเทศ เป็นคนเจรจา ทหารดูเรื่องความมั่นคงและเขตแดน กระทรวงต่างประเทศดูเรื่องสนธิสัญญา

เรื่องเขตแดน แผนที่ทางอากาศ ถ้าไอ้ลิ้มมันเก่งกว่า กรมแผนที่ทหาร ก็ฉิบหายแล้วบ้านนี้เมืองนี้ อยู่กันไม่ได้แล้ว
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #10 เมื่อ: 18-06-2008, 22:04 »

ไอ้เหี้.. พ่อแม่มึงเป็นเขมรเหรอ ถึงได้เข้าข้างมัน

ทหารฝ่ายนู้น มั่นใจได้เลยมันมีธงมาแล้วว่ามันต้องการอะไร ก็เลยคุยกันไม่รู้เรื่อง

ไอ้คว..ย โง่แล้วยังเสือกมาแถมอีก เอาแค่ประเด็นที่ได้ประโยชน์นิดๆ หน่อยๆ เข้ามาแถ

ไอ้สั..ว์ พ่อแม่เขมรของมึงสอนมาอย่างนี้เหรอ

มรึง สิควาย เดรัจฉาน เค้าตอบกระทู้กันอยู่ดีๆ แม่ มรึ ง ไม่ให้เอาหรือไงว้ะเนี่ย มาใส่อารมณ์กับกรู

บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
KILL...ER
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 330



« ตอบ #11 เมื่อ: 18-06-2008, 22:05 »

ทำปากเก่ง ไอ้ สัตว์ ศุกร์นี้ อย่าวิ่งหางจุกตูดนมรึงอ่ะ
บันทึกการเข้า

จงภาคภูมิใจในความเป็นไพร่กระฎุมพี
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 18-06-2008, 22:05 »

พฤติกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
บันทึกการเข้า

moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #13 เมื่อ: 18-06-2008, 22:09 »

ทำปากเก่ง ไอ้ สัตว์ ศุกร์นี้ อย่าวิ่งหางจุกตูดนมรึงอ่ะ

เออ แล้วเจอกัน ไอ้สั..ว์ ถ้าวิ่งกูจะวิ่งไปเย..ตูดแ+มึง

ไอ้เวร แถแม้แต่เรื่องแผ่นดิน เลวชาติจริงๆ มึงนี่
บันทึกการเข้า
sensei
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721



« ตอบ #14 เมื่อ: 18-06-2008, 22:51 »

เออ แล้วเจอกัน ไอ้สั..ว์ ถ้าวิ่งกูจะวิ่งไปเย..ตูดแ+มึง

ไอ้เวร แถแม้แต่เรื่องแผ่นดิน เลวชาติจริงๆ มึงนี่

เสียของเปล่าๆครับคุณ จะทำอย่างว่าทั้งที ทำกับ "คน" ดีกว่านะครับ 

อ่านความเห็นแต่ละกระทู้ของไอ้อหิวานี่แล้ว นึกถึง พญาละแวก 
บันทึกการเข้า

jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #15 เมื่อ: 19-06-2008, 00:58 »

แนะนำให้ลองอ่านข้อมูลในกระทู้ข้างล่างนี้เพิ่มเติมครับ 

ไม่แปลกเลยถ้าหากข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ
ที่รู้รายละเอียดมาก่อนจะปกป้องผลประโยชน์ของไทย

==ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาในปราสาทพระวิหาร ข้อมูลจากอดีตเอกอัครราชทูตไทย==
http://forum.serithai.net/index.php?topic=28045.0
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #16 เมื่อ: 19-06-2008, 15:05 »

ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ โยงไปโยงมา มั่วมั่ง จริงมั่ง
ไม่มีข้อเท็จจริง จะๆ อาศัยพยานแวดล้อมเสียเยอะ

ถามว่า โอกาสโยงถูกมีมั๊ย ก็ยอมรับว่ามี
แต่ถ้าโยงผิดล่ะ  เวลามันเผยแพร่เป็นธรรมกับผู้ถูกโยงหรือเปล่า

และนี่แหละต้นกำเนิดข่าวลืออันน่าเชื่อถือเพราะมันจะมีเหตุผลมารับกันเป็นทอดๆ
หลักการทำงานของ ทีวีช่องหนึ่ง เลยแหละ
บันทึกการเข้า
paper punch
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 672



« ตอบ #17 เมื่อ: 19-06-2008, 15:53 »

ไม่ชอบเรื่องแบบนี้ โยงไปโยงมา มั่วมั่ง จริงมั่ง
ไม่มีข้อเท็จจริง จะๆ อาศัยพยานแวดล้อมเสียเยอะ

ถามว่า โอกาสโยงถูกมีมั๊ย ก็ยอมรับว่ามี
แต่ถ้าโยงผิดล่ะ  เวลามันเผยแพร่เป็นธรรมกับผู้ถูกโยงหรือเปล่า

และนี่แหละต้นกำเนิดข่าวลืออันน่าเชื่อถือเพราะมันจะมีเหตุผลมารับกันเป็นทอดๆ
หลักการทำงานของ ทีวีช่องหนึ่ง เลยแหละ

เอ้อ ผมว่าคุณจีก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าเกี่ยว แค่ตั้งเป็นกระทู้คำถามว่าเกี่ยวหรือไม่
พร้อมยกข้อมูลประกอบ ส่วนจะเกี่ยวหรือไม่ น่าที่จะเป็นเรื่องที่คนอ่าน อ่านแล้ววิเคราะห์ได้นะครับ
โยงมั่วไม่มั่ว เราท่านมีสติปัญญาตัดสินได้นี่นา

ที่ข่าวลือมันน่าเชื่อถือ เพราะมีคนอ่านแล้วไม่วิเคราะห์แบบคุณmebeamหรือเปล่าน้าา
บันทึกการเข้า

LOVE CHANGES EVERYTHING...
หน้า: [1]
    กระโดดไป: