ท่าน พลเอก อนุพงษ์ และกองทัพบก ได้เวลาที่ท่านจะออกมายืนเคียงข้างประชาชนแล้ว

[คนไทยคนหนึ่ง]

ไม่ทราบว่า ท่าน พลเอก อนุพงษ์ และกองทัพบก จะรับลูกไหม

อยากเห็นทหารในเครื่องแบบ ออกมายืนเรียงแถวรักษาความสงบ ในการชุมนุมทุกเวทีในต่างจังหวัด

แทนตำรวจ ที่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำหน้าที่รักษาความสงบ กลับยืนดูอันธพาลรุมตีผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้

ได้โดยไม่มีความละอายในใจเลย แม้ทหารจะไม่มีอำนาจในการจับกุม แต่ก็จะปรามไม่ให้เกิดความรุนแรงได้

ถ้าทหารไม่ออกมารักษาความสงบ มิคคสัญญี และการนองเลือดก็จะอยู่ไม่ไกลแล้ว เพราะเป็นเป้าหมายของกลุ่มอันธพาล

ที่ต้องการให้เกิดขึ้น คนเราความอดทนมีจำกัด ถ้ามันระเบิดแล้ว แม้แต่แกนนำทั้ง5 ก็อาจจะเอาไม่อยู่

เมื่อถึงจุดนั้น กองทัพก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบความเสียหายที่จะเกิดกับประเทศด้วย

เพราะแกนนำได้ร้องขอมาแล้ว ถ้าท่านยังนิ่งเฉย ก็ต้องถือว่าท่านอยากจะเห็นความรุนแรง และงานนี้จะน่ากลัวกว่า

14 ตุลา 6ตุลา และ พฤษภาทมิฟ รวมกันเสียอีก เพราะจะเป็นการที่คนเป็นล้านทั่วประเทศลุกฮือขึ้นมา อาจจะเกิดการจราจล

และอาจจะมีการลากคอคนออกมากระทืบจนตาย ซึ่งเหตุการณ์อย่างนี้ไม่ควรจะให้เกิดในประเทศไทย เลือดมันจะนองทั่วแผ่นดิน

ถึงเวลาแล้วที่พวกท่านจะออกมายืนเคียงข้างประชาชน อย่างที่ท่านเคยพุดอยู่เสมอแล้ว

อย่ารอจนเหตูการณ์มันลุกลามจนเกินความควบคุมเลย ถึงเวลาแล้วที่พวกท่านจะต้องออกมายืนเคียงข้างประชาชน

และเราก็ไม่ได้ขออะไรที่มากจนเกินไป

เพียงแต่ท่านทำหน้าที่ในการรักษาความสงบภายในให้สมบูรณ์ตามหน้าที่ของท่านเท่านั้นเอง

[moon]

การที่ทหารจะเคลื่อนไหวในครั้งนี้ จะต้องมีเงื่อนไขมากกว่าคราวที่แล้ว (ซึ่งไม่ได้หมายถึงให้ออกมาปฏิวัตินะ)
เมื่อปฏิวัติคราวที่แล้วทหารเพียงแค่ได้ข่าวว่าจะมีการขนคนมาปะทะกัน จึงได้ทำการปฏิวัติเสียก่อนป้องกัน
การเสียเลือดเนื้อของคนไทยด้วยกันเอง ในครั้งนี้ถ้าทหารจะออกมาจะต้องถึงขั้นนองเลือด จลาจลไปทั้ว
ทั้งแผ่นดินเสียก่อน ถึงจะมีความชอบธรรมในการออกมาปกป้องประชาชน และล้มรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลคงจะไม่ยอม
ให้เกิดอย่างนี้นแน่นอน ตอนนี้แค่เกิดการปะทะเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พันธมิตรที่จัดอีกหลายจังหวัดก็ไม่มีปัญหา

ใจเย็นๆ ครับ ตอนนี้ทหารก็ได้แต่นั่งกัดฟันกรอดๆ ด้านหนึ่งกระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินคดีความกับไอ้เหลี่ยมอยู่
ด้านนึงก็ปัญหาชายแดนภาคใต้ที่รัฐบาลไม่ใคร่ให้ความสนใจ ด้านนึงก็ปราสาทพระวิหารที่ไอ้รัฐบาลนี้มันทำปู้ยี่ปู้ยำเอาไว้

ใจเย็นๆ ครับ ถ้าทหารออกมาคราวนี้ จะต้องเป็นครั้งสุดท้าย และทุกอย่างจะต้องคลี่คลายได้อย่างแน่นอน
เพียงแต่ต้องรอเวลา ให้ปัจจัยทุกอย่างมันครบองค์ประกอบ และสุกงอมพอที่จะทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรา

[คนไทยคนหนึ่ง]

อย่างที่บอกละครับไม่ได้ขออะไรมาก แค่ให้กองทัพ จัดกำลังมารักษาความสงบตามหน้าที่

เหมือนกับ ที่ตำรวจทำเป็นปรกติ ไม่ต้องมาร่วมชุมนุมด้วย แค่มาตั้งแถวรักษาความสงบ

ไม่ให้เกิดการปะทะกันระหว่างมวลชนทั้งสองฝ่าย โดยใช้อำนาจของ คณะกรรมการรักษาความสงบภายใน

ออกมาตามหน้าที่ครับไม่ใช่มาเข้าร่วมการชุมนุม เพราะตำรวจไม่ทำหน้าที่

 พอมีพวกอันธพาลบุกเข้ามาก็เปิดทางให้เข้าไปทำร้ายประชาชนผู้ไร้อาวุธ

อย่างที่บอกละครับ ความอดกลั้นมันก็มีลิมิต ถ้ามันระเบิดแล้วจะน่ากลัวมากๆ

ผมไม่ได้บอกให้ทหารทำรัฐประหารนะครับอย่าเข้าใจผิด

[marrykate]

พูดตรงๆ หนูหมดความหวัง ความศรัทราต่อคนๆนี้ ที่กินเงินเดือนจากภาษีเรา

เมื่อเย็นพึ่งได้ฟังข่าว นักข่าวถามเรื่องบทบาทของทหาร และ กอรมน ในการปกป้องความปลอดภัยให้ประชาชนผู้ชุมนุมโดยความสงบ

มัน เอ๊ย ! ท่านบอกว่า ไม่ได้เป็นหน้าที่ของทหาร (วลีนี้ได้ยินมากี่ครั้งแล้วคะ)

[คนไทยคนหนึ่ง]

ถ้ามองโลกในแง่ดี ท่าน พลเอกอนุพงษ์ อาจจะยังไม่ทราบรายละเอียดของแถลงการณ์ที่แกนนำพูดเมื่อบ่ายนี้

ยังรับลูกไม่ทัน เลยพูด play save ไปก่อน

[moon]

ถึงคุณ คนไทยคนหนึ่ง ผมเข้าใจครับ และไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ผมก็อยากให้ทหารออกมาทำอะไรแบบที่คุณอยากให้ทำใจจะขาด

แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลา อีกฝ่ายจะโจมตีให้เสียความชอบธรรมไป ต้องอดทนกันอีกนิดนึงครับ เช่น สมมุตินะครับ เกิดการจลาจลไปทั่วประเทศ ระหว่าง

ผู้ที่เห็นด้วยกับรัฐบาล และ ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ประชาชนตีกันเองทั่วทุกจังหวัด ตำรวจไม่สามารถจัดการบ้านเมืองให้อยู่ในความสงบได้

อะไรประมาณนี้ครับ

[เพื่อนร่วมชาติ]

อนุพงษ์ก็ทำตัวเหมือนนายกคนก่อนนั่นแหละ

ให้ตัวเองปลอดภัยไว้ก่อน

ไม่ทำเลว แต่ก็ไม่กล้าทำสิ่งที่ถูกต้องให้ถึงที่สุด

ดีไม่ดีอาจจะโดนฝ่ายศาสดาหน้าเหลี่ยมกุมความลับอะไรไว้

แบบเรื่องเขายายเที่ยงของนายกคนก่อน (โดนเข้าที ถึงกับเข้าเกียร์ถอยหลัง)

[คนไทยคนหนึ่ง]

ทำไมต้องรอให้เกิดการจราจลก่อนละครับ ถ้ารอถึงขั้นนั้น คงต้องประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว

และการระงับเหตุการณ์จราจลมันยากกว่าการป้องกันไม่ให้เกิดมากมายนักครับ

[noohin_2550]

 
 เจ้าของทู้คงจะผิดหัวงแล้วอ่ะนะ เพราะวันนี้พลเอก อนุพงค์ให้สัมภาษณ์ว่า
 ที่เกิดม็อบปะทะกันนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ฟังท่านพูดแล้ว ต้องวิ่งไปซื้อ
 ยาทัมใจมาทาน นี่หรือผู้นำทหารที่กินเงินเดือนภาษีของประชาชน ไม่ปกป้อง
 ประชาชนแถมยังบอกไม่ใช่หน้าที่ท่าน โอ้ยปวดใจ สู้ ท่านประทีป นายพลนอกราชการ
 ไม่ได้ท่านออกมาแสดงจุดยืน ชัดเจนแล้วว่า ภายใน 7 วันถ้ารัฐาบาลนี้ยังอยู่
 ท่านยอมตายเป็นตาย เพื่อปกป้องพี่น้องประชาชนชาวไทย น่าอายไหมท่านอนุพงค์
 ต้องให้ทหารแก่ๆ ออกมาปกป้องประชาชน ท่านยังจะทำหน้าที่ของท่านอยู่อีกหรือ
 รีบๆ ลาออกไปตีกล็อฟ ตามความถนัดของท่านเถิด ปล่อยให้ทหารแก่ๆ มาตีพวก
 หมาขายชาติเอง   

[คนไทยคนหนึ่ง]

ดูจากเวลาที่ พลเอกอนุพงษ์ให้ข่าว  น่าจะยังไม่ทราบเรื่องที่แกนนำมาออก แถลงการณ์

เพราะแกนนำออกแถลงการณ์ เมื่อ ประมาณบ่าย 2โมงครึ่ง และช่วงบ่ายพลเอกอนุพงษ์ ไปอัดรายการที่ช่อง5

พอออกมาจากประดูก็ถูกเอาไมด์จ่อปาก จึงมีโอกาสเป็นไปได้สูงมากที่จะยังไม่รู้เรื่องถึงการร้องขอจากแกนนำ

[ริวเซย์]

ถ้าทหารยังนิ่งเฉยต่อไป และทางพันธมิตรยังถูกคุกคามอย่างไม่มีทางสู้แบบนี้ต่อไป

จะนำไปสู่ความอัดอั้นตันใจและเป็นชนวนต้นเหตุของสงครามกลางเมืองในที่สุด

สุดท้ายทหารก็ต้องออกมาใช้กำลังสลายสงครามอยู่ดี

ทางที่ดี ให้ท่านดูแลประชาชนตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่าให้เรื่องมันบานปลายแล้วค่อยมาแก้ทีหลังซึ่งก็ไม่น่าจะทันการณ์แล้ว

[คนไทยคนหนึ่ง]

สงครามกลางเมือง

คุณ ริวเซย์ ให้คำจำกัดความได้ดีมากครับ มันจะเป็นสงครามกลางเมืองจริงๆ

เพราะจะเกิดการลุกฮือขึ้นของคนนับล้านทั้งประเทศ ไม่ได้เกิดจุดเดียวเหมือนครั้งก่อนๆ

ไม่ง่ายหรอกครับที่จะระงับเหตุ แค่ออกมาตั้งแถวรักษาความสงบไม่ให้สองฝ่ายปะทะกันง่ายกว่ากันเยอะครับ

และก้เป็นการออกมาตามหน้าที่ด้วย ไม่มีใครจะสามารถตำหนิท่านได้

ออกมาทำหน้าที่ ตามกรอบอำนาจของกอรมนครับ เพราะตำรวจไม่สามารถคุมสถานการณ์ได้

เพราะเกิดการปะทะกันทุกครั้งที่อันธพาลบุกเวทีชุมนุม

[tu249cm]

เอาล่ะ..เรื่องนี้ไม่ใช่หน้าที่ของท่าน
แล้วหน้าที่ปกปักรักษาดินแดนไทย
ท่านทำสำเร็จไหมล่ะ .....

[คนไทยคนหนึ่ง]

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กองทัพบกไม่มีอำนาจ

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000087745

ท่านบอกว่าท่านไม่มีอำนาจ  ไม่น่าเชื่อว่ายักษ์ ไม่รู้ว่าตัวเองมีกระบอง

พระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นปีที่ ๖๓ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล
ซึ่งมาตรา ๒๙ และมาตรา ๓๑ ประกอบกับมาตรา ๓๒ มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๔ มาตรา ๓๖
มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัย
อำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑”

มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้
“การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” หมายความว่า การดำเนินการเพื่อป้องกัน
ควบคุม แก้ไข และฟื้นฟูสถานการณ์ใด ที่เป็นภัยหรืออาจเป็นภัยอันเกิดจากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่
ก่อให้เกิดความไม่สงบสุข ทำลาย หรือทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประชาชนหรือ
ของรัฐ ให้กลับสู่สภาวะปกติเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ
“คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
“ผู้อำนวยการ” หมายความว่า ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
“หน่วยงานของรัฐ” หมายความว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐ แต่ไม่รวมถึงศาลและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
“เจ้าหน้าที่ของรัฐ” หมายความว่า ข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งผู้อำนวยการแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“จังหวัด” หมายความรวมถึง กรุงเทพมหานคร
“ผู้ว่าราชการจังหวัด” หมายความรวมถึง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

มาตรา ๕ ให้จัดตั้งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เรียกโดยย่อว่า
“กอ.รมน.” ขึ้นในสำนักนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่และรับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
กอ.รมน. มีฐานะเป็นส่วนราชการรูปแบบเฉพาะอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาขึ้นตรง
ต่อนายกรัฐมนตรี โดยวิธีการปฏิบัติราชการและการบริหารงาน การจัดโครงสร้าง การแบ่งส่วนงาน
และอำนาจหน้าที่ของส่วนงาน และอัตรากำลัง ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลเป็นผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน
ราชอาณาจักร เรียกโดยย่อว่า “ผอ.รมน.” เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้าง
ใน กอ.รมน. และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของ กอ.รมน. โดยมีผู้บัญชาการทหารบกเป็น
รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ผู้อำนวยการอาจแต่งตั้งผู้ช่วยผู้อำนวยการจากข้าราชการในสังกัด กอ.รมน. หรือเจ้าหน้าที่
ของรัฐอื่นได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงโครงสร้างและการแบ่งส่วนงานภายในของ กอ.รมน.
ให้เสนาธิการทหารบกเป็นเลขาธิการ กอ.รมน. มีหน้าที่รับผิดชอบงานอำนวยการและธุรการของ กอ.รมน.
รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และเลขาธิการ กอ.รมน. มีอำนาจบังคับบัญชาข้าราชการ
พนักงาน และลูกจ้างใน กอ.รมน. รองจากผู้อำนวยการและมีอำนาจหน้าที่อื่นตามที่ผู้อำนวยการ
กำหนดให้ผู้อำนวยการมีอำนาจทำนิติกรรม ฟ้องคดี ถูกฟ้องคดี และดำเนินการทั้งปวงเกี่ยวกับคดี
อันเกี่ยวเนื่องกับอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน. ทั้งนี้ โดยกระทำในนามของสำนักนายกรัฐมนตรี
ในการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัตินี้ ผู้อำนวยการจะมอบอำนาจ
เป็นหนังสือให้รองผู้อำนวยการเป็นผู้ปฏิบัติหรือใช้อำนาจแทนก็ได้

มาตรา ๗ ให้ กอ.รมน. มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินแนวโน้มของสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยคุกคาม
ด้านความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป
(๒) อำนวยการในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการนี้ให้มีอำนาจหน้าที่เสนอ
แผนและแนวทางในการปฏิบัติงานและดำเนินการต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
เมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแล้วให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตามแผนและแนวทางนั้น
(๓) อำนวยการ ประสานงาน และเสริมการปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องในการ
ดำเนินการตามแผนและแนวทางในการปฏิบัติงานตาม (๒) ในการนี้ คณะรัฐมนตรีจะมอบหมายให้
กอ.รมน. มีอำนาจในการกำกับการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนดด้วยก็ได้
(๔) เสริมสร้างให้ประชาชนตระหนักในหน้าที่ที่ต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา และ
พระมหากษัตริย์ สร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามี
ส่วนร่วมในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
และความสงบเรียบร้อยของสังคม
(๕) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติหรือตามที่คณะรัฐมนตรี สภาความมั่นคงแห่งชาติ
หรือนายกรัฐมนตรีมอบหมาย

มาตรา ๑๕ ในกรณีที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรแต่ยัง
ไม่มีความจำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์
ฉุกเฉิน และเหตุการณ์นั้นมีแนวโน้มที่จะมีอยู่ต่อไปเป็นเวลานานทั้งอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือความ
รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยคณะรัฐมนตรีจะมีมติมอบหมายให้
กอ.รมน. เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์
ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรนั้นภายในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนดได้ ทั้งนี้
ให้ประกาศให้ทราบโดยทั่วไป
ในกรณีที่เหตุการณ์ตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลงหรือสามารถดำเนินการแก้ไขได้ตามอำนาจหน้าที่
ของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบตามปกติ ให้นายกรัฐมนตรีประกาศให้อำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน.
ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลง และให้นายกรัฐมนตรีรายงานผลต่อสภาผู้แทนราษฎรและ
วุฒิสภาทราบโดยเร็ว

มาตรา ๑๖ ในการดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕ ให้ กอ.รมน. มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) ป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง
ภายในราชอาณาจักรตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕
(๒) จัดทำแผนการดำเนินการตาม (๑) เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อให้ความเห็นชอบ
(๓) กำกับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการ
หรือบูรณาการในการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนตาม (๒)
(๔) สั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีพฤติกรรมว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
หรือเป็นอุปสรรคต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกจากพื้นที่ที่กำหนด
ในการจัดทำแผนตาม (๒) ให้ กอ.รมน. ประชุมหารือกับสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องด้วย และในการนี้ให้จัดทำแผนเผชิญเหตุในแต่ละสถานการณ์ที่คาดว่า
จะเกิดขึ้น
ในกรณีที่มีคำสั่งตาม (๔) แล้ว ให้ กอ.รมน. แจ้งให้หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้น
สังกัดทราบพร้อมด้วยเหตุผล และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับคำสั่งให้ออกจากพื้นที่นั้นไปรายงานตัว
ยังหน่วยงานของรัฐที่ตนสังกัดโดยเร็ว ในการนี้ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดดำเนินการออกคำสั่งให้
เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหน้าที่ หรือพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตามที่กำหนดไว้ใน
คำสั่งดังกล่าว
เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีความจำเป็นที่ กอ.รมน.
ต้องใช้อำนาจหรือหน้าที่ตามกฎหมายใดที่อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือความรับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐใด
ให้คณะรัฐมนตรีมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งใด ๆ ใน กอ.รมน.เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามกฎหมายนั้น หรือมีมติให้หน่วยงานของรัฐนั้นมอบอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมาย
ในเรื่องดังกล่าว ให้ กอ.รมน. ดำเนินการแทนหรือมีอำนาจดำเนินการด้วยภายในพื้นที่และระยะเวลา
ที่กำหนด ทั้งนี้ ต้องกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้อำนาจนั้นไว้ด้วย

มาตรา ๑๘ เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทา
เหตุการณ์ภายในพื้นที่ตามมาตรา ๑๕ ให้ผู้อำนวยการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอำนาจ
ออกข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
(๑) ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด
(๒) ห้ามเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนดในห้วงเวลาที่ปฏิบัติการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น
(๓) ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กำหนด
(๔) ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
(๕) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
(๖) ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือหรืออุปกรณ์
อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ข้อกำหนดตามวรรคหนึ่งจะกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนเวลาหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ด้วยก็ได้
ทั้งนี้ การกำหนดดังกล่าวต้องไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ

มาตรา ๒๑ ภายในเขตพื้นที่ที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ กอ.รมน. ดำเนินการตามมาตรา ๑๕
หากปรากฏว่าผู้ใดต้องหาว่าได้กระทำความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรตามที่
คณะรัฐมนตรีกำหนด แต่กลับใจเข้ามอบตัวต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเป็นกรณีที่พนักงานสอบสวน
ได้ดำเนินการสอบสวนแล้วปรากฏว่าผู้นั้นได้กระทำไปเพราะหลงผิดหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์และการเปิด
โอกาสให้ผู้นั้นกลับตัวจะเป็นประโยชน์ต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการนี้
ให้พนักงานสอบสวนส่งสำนวนการสอบสวนของผู้ต้องหานั้น พร้อมทั้งความเห็นของพนักงานสอบสวนไปให้ผู้อำนวยการ
ในกรณีที่ผู้อำนวยการเห็นด้วยกับความเห็นของพนักงานสอบสวนให้ส่งสำนวนพร้อม
ความเห็นของผู้อำนวยการให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล หากเห็นสมควรศาลอาจสั่งให้ส่ง
ผู้ต้องหานั้นให้ผู้อำนวยการเพื่อเข้ารับการอบรม ณ สถานที่ที่กำหนดเป็นเวลาไม่เกินหกเดือน
และปฏิบัติตามเงื่อนไขอื่นที่ศาลกำหนดด้วยก็ได้
การดำเนินการตามวรรคสอง ให้ศาลสั่งได้ต่อเมื่อผู้ต้องหานั้นยินยอมเข้ารับการอบรมและ
ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าว
เมื่อผู้ต้องหาได้เข้ารับการอบรมและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลกำ หนดดังกล่าวแล้ว
สิทธินำคดีอาญามาฟ้องผู้ต้องหานั้นเป็นอันระงับไป

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันมีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคง
จากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีหลากหลาย มีความรุนแรง รวดเร็ว สามารถขยายตัวจนส่งผลกระทบ
เป็นวงกว้าง และมีความสลับซับซ้อน จนอาจกระทบต่อเอกราชและบูรณภาพแห่งอาณาเขต ก่อให้เกิดความ
ไม่สงบเรียบร้อยในประเทศ และเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน ดังนั้น เพื่อให้สามารถป้องกัน
และระงับภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที จึงสมควรกำหนดให้มีหน่วยปฏิบัติงานหลักเพื่อรับผิดชอบ
ดำเนินการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ตลอดจนบูรณาการและประสานการปฏิบัติร่วมกับ
ทุกส่วนราชการ ส่งเสริมให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและรักษาความมั่นคง รวมทั้ง
เสริมสร้างความเข้มแข็งในท้องถิ่นของตน เพื่อป้องกันภยันตรายที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในยามปกติ และในยามที่เกิด
สถานการณ์อันเป็นภัยต่อความมั่นคงในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง และกำหนดให้มีมาตรการและกลไกควบคุม
การใช้อำนาจเป็นการเฉพาะตามระดับความรุนแรงของสถานการณ์ เพื่อให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่าง
มีประสิทธิภาพและเป็นเอกภาพ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ปล. ขอแก้ไขพระราชบัญญัติ การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรครับ

ที่ผม โพสไปเป็นตัวร่าง ของคุณ จงเจริญ ถึงจะเป็นฉบับที่ประกาศใช้ครับ ขอให้เครดิตกับคุณจงเจริญครับ

[คนไทยคนหนึ่ง]

เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิดอีก ว่าเป็นการเรียกทหารให้ ทำการรัฐประหาร

หรือเรียกร้อง ให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยใช้ พรบ รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

เราไม่ได้ขอมากมายขนาดนั้น และไม่มีความคิดให้ทหารทำด้วย

ถ้าทหารจะทำจริงๆเราก็จะขัดขวางด้วยซ้ำไป

เราเพียงเรียกร้องเพียงให้ทหารออกมาเป็นกันชนไม่ให้สองฝ่ายปะทะกันเท่านั้น

เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรง เพราะตำรวจปล่อยให้พวกอันธพาลเข้ามาทำร้ายประชาชน ทุกครั้ง

[คนไทยคนหนึ่ง]

มาลชนระดับนี้ ถ้าบ้าคลั่งไร้การควบคุมขึ้นมา กองทัพทั้งกองทัพก็เอาไม่อยู่

ถ้าใช้ความรุนแรง ยึดอำนาจรัฐได้นานแล้ว อย่าให้มันจบแบบนั้นเลย ท่านพลเอกอนุพงษ์

และถ้าทหารคิดจะทำการรัฐประหาร ก็คงจะทำไม่ได้เพราะพันธมิตรฯคงไม่ยอมและได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะต่อต้าน

และคงไม่ยอมให้มาฉวยโอกาสเหมือนตอน 19 กันยาอีกแล้ว

[เบื่อไอ้เหลี่ยม]

มีข้อน่าสังเกตุ
1. อนุพงษ์ เมื่อไม่นานมานี้ มีการเลี้ยงรุ่น ตท 10 แล้วพูดทำนองว่า ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกัน เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน( ทหาร ตท 10 ที่ เคยไปลูบไข่ทักสิน และรวมถึงทักสินด้วย)
2. อนุพงษ์ ติดสอยห้อยตาม ยกอันทะ ไอ้หมัก ไป ตปท หลายครั้งจนจำไม่หมด กลัวไอ้หมักปลด หรือป่าว
3. ตอนไอ้หมัก และไอ้นพดวย ตาเหล่ เซ็นให้เขมรไปขึ้นทะเบียน ปราสาทพระวิหาร อนุพงษ์ ยืนยัน ไอ้ นพดวยทำถูกแล้ว ไม่เสียดินแดน(มันโง่ โดนหลอก หรือแกล้งโง่)
4. หลายครั้ง ที่ประชาชนให้อนุพงษ์ ออกความเห็นเกี่ยวกับความยำยำของไอ้หมัก อนุพงษ์ทำเฉยๆ (รอรับงบไปซื้ออาวุธ)
5. ครั้งนี้ ที่ ประชาชนอุดร โดนตีแบบน่าอนาถ อนุพงษ์ บอกว่า ผมไม่มีอำนาจ หน้าที่
  สรุป อนุพงษ์ เป็นทหารของประชาชน หรือทหารของทักสิน และรัฐบาลโจรกันแน่  แล้วทหารที่คุมกำลังเมื่อเห็นหัวหน้าคุณเป็นแบบนี้ คุณจะเป็นทหารของหัวหน้า หรือทหารของประชาชน และพระเจ้าอยู่หัว  ใครที่เป็นทหาร มาอ่านแล้วตอบให้ผมฟังด้วย  ผมไม่ว่าหรอก ถ้าคุณจะบอกว่า คุณเป็นทหารของรัฐบาลโจร ผมจะได้เตรียมตัวไงครับ

[littleboy]

ผมว่าถ้ามองอีกมุม
ถ้าพล.อ.อนุพงศ์ ในฐานะผอ.กอ.รมน.เอาด้วยคือการจัดทหารร่วมกับตำรวจและฝ่ายปกครอง จัดการควบคุมดูแลเพื่อให้เกิดความรุนแรงในขณะที่ฝ่านพันธมิตรชุมนุม..แต่ถ้าฝ่ายอันตราย นปก.ใช้เหตุนี้เป็นการยั่วยุแบบสุดๆโดยเข้าโจมตีลักษณะเดียวกันแบบหน้าบ้านป๋าเปรมหรืออาจจะให้รุนแรงกว่านั้น โดยทำขึ้นหลายๆจุดเพื่อให้เกิดภาพจราจลไปทั่วภาคอีสาน เหนือ หรือทั้งประเทศ แล้วถ้าเหตุการณ์บานปลายควบคุมไม่อยู่ ก็เข้าทางของฝ่ายที่เตรียมรอคุก  และเพื่อเป็นเหตุผลที่จะขอลี้ภัยการเมืองของไอ้แม้ว  สรุปคือพวกมันก็รอสุกงอม..เหมือนกับทุกเราหรือทุกๆฝ่ายที่กำลังรอสุกงอมเช่นกัน..
และแล้วคำตอบที่ทุกๆฝ่ายรอคอยก็จะได้มาเฉลยให้รู้กันแล้ว ว่าเป็นอย่างไร

[protecter]

ทหารบอก ต้องรอให้ฆ่ากันตายไปครึ่งประเทศ่ก่อน แล้วค่อยคิดดูอีกที

[PK]

เลิกหวังพึ่งทหารเถิดครับ  ผมขอร้องให้เลิกคิดได้แล้ว
ที่ผ่านมา พวกเราร้องขอความช่วยเหลือให้ทหารคอยคุ้มกันอันตรายให้พวกเรา  เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว
แต่ก็คำร้องขอของพวกเรา ไร้ค่า
แถม ผบ.ทบ อนุพงษ์ ก็ตอบท่าทีออกมาให้เราเห็นหลายครั้งแล้ว
เราควรเข้าใจได้แล้วว่า เขาต้องการปกป้องคนในระบอบทักษิณเท่านั้น คนอื่นนอกนั้นไม่ใช่หน้าที่ของเขา

โปรดทำความเข้าใจเรื่องนี้สักทีเถิด  ผมขอร้อง
 

[คนไทยคนหนึ่ง]

ไม่ได้หวังจะพึ่งทหารครับ แค่ต้องการพิสูจน์ฝ่าย

ว่า พลเอก อนุพงษ์อยู่ฝ่ายไหนเท่านั้นเอง ไมใช่ยังแทงกั๊กอยู่แบบนี้

จะยืนอยู่ฝ่ายรัฐบาลก้ไม่ว่าอะไร เพราะตอนนี้ต้องเลือกแล้ว

[dragon baby]

ไม่ได้หวังจะพึ่งทหารครับ แค่ต้องการพิสูจน์ฝ่าย

ว่า พลเอก อนุพงษ์อยู่ฝ่ายไหนเท่านั้นเอง ไมใช่ยังแทงกั๊กอยู่แบบนี้

จะยืนอยู่ฝ่ายรัฐบาลก้ไม่ว่าอะไร เพราะตอนนี้ต้องเลือกแล้ว

ยังไม่รู้อีกเหรอว่า อนุพงษ์อยู่ฝ่ายไหน  ไปอยู่ที่ไหนมา?????

[BERSERK]

การที่ทหารจะเคลื่อนไหวในครั้งนี้ จะต้องมีเงื่อนไขมากกว่าคราวที่แล้ว (ซึ่งไม่ได้หมายถึงให้ออกมาปฏิวัตินะ)
เมื่อปฏิวัติคราวที่แล้วทหารเพียงแค่ได้ข่าวว่าจะมีการขนคนมาปะทะกัน จึงได้ทำการปฏิวัติเสียก่อนป้องกัน
การเสียเลือดเนื้อของคนไทยด้วยกันเอง ในครั้งนี้ถ้าทหารจะออกมาจะต้องถึงขั้นนองเลือด จลาจลไปทั้ว
ทั้งแผ่นดินเสียก่อน ถึงจะมีความชอบธรรมในการออกมาปกป้องประชาชน และล้มรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลคงจะไม่ยอม
ให้เกิดอย่างนี้นแน่นอน ตอนนี้แค่เกิดการปะทะเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น พันธมิตรที่จัดอีกหลายจังหวัดก็ไม่มีปัญหา

ใจเย็นๆ ครับ ตอนนี้ทหารก็ได้แต่นั่งกัดฟันกรอดๆ ด้านหนึ่งกระบวนการยุติธรรมกำลังดำเนินคดีความกับไอ้เหลี่ยมอยู่
ด้านนึงก็ปัญหาชายแดนภาคใต้ที่รัฐบาลไม่ใคร่ให้ความสนใจ ด้านนึงก็ปราสาทพระวิหารที่ไอ้รัฐบาลนี้มันทำปู้ยี่ปู้ยำเอาไว้

ใจเย็นๆ ครับ ถ้าทหารออกมาคราวนี้ จะต้องเป็นครั้งสุดท้าย และทุกอย่างจะต้องคลี่คลายได้อย่างแน่นอน
เพียงแต่ต้องรอเวลา ให้ปัจจัยทุกอย่างมันครบองค์ประกอบ และสุกงอมพอที่จะทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรา

 เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

[บักหัวเถิก]

ตีกอฟให้เพลินเถอะทหารกล้า  เหล่าประชาให้เดือดร้อนไป

[อยากประหยัดให้ติดแก๊ส]

บ้านเมืองมีกฎหมาย ที่พวกคณะปฏิวัติร่างเองทั้งนั้น ยังไปยุให้ทหารทำผิดกฎหมายที่มันร่างกันเองนี่บ้าหรือเปล่าวะ
ให้ทหารออกมารักษาความสงบโดยที่รัฐบาลไม่ได้สั่ง และไม่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน มันจะต่างกับเตรียมตัวกบฏตรง
ไหน ถ้าออกมาแล้วมันก็ต้องยึดอำนาจรัฐบาลเลย วนกลับไปเป็นอย่างเก่า เห็นสภาพสมเด็จบังมหาราชตอนนี้ คนฉลาด
คงรู้ว่าอยู่เฉยๆ ดีกว่า อยาก play save ให้ติดแก๊ส

[littleboy]

เหอ..เหอ เจ้ายังหวังอะไรกะรัฐบาลสัตว์นรกชุดนี้อีกเล่า...อย่าแกล้งโง่

[chaturant]

เรียกร้องให้ออกมา จัดการกลุ่มที่มันเตรียม ตัวไปบุกกระทืบ พธม. ครับ แต่ไม่ใช่มายึดอำนาจน่ะ  ออกมารักษาความสงบไม่ให้มันบุกมาตี พธม.  ในวันที่ 2 สิงหาคม  มันบอกจะระดมพลครั้งใหญ่ มากระทืบ พธม.    ทหารครับ ออกมาปกป้องน่ะครับ ไม่ได้ออกมายึดอำนาจ  โอเค๊

[คนไทยคนหนึ่ง]

กองทัพขยับ!ผบ.ทบ.สั่งสห.รับมือม็อบถ่.อย

 "อนุพงษ์" สั่งกองทัพแถลงจุดยืน ยันห่วงใยประชาชนไม่เพิกเฉย ติดตามเหตุเกาะติด ลั่นไม่รอเหตุการณ์บานปลาย สั่ง ส.ห.พร้อมทุกภาคหากร้องขอ

อนุพงษ์ลั่นพร้อมดูแลประชาชน

มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอีกด้านหนึ่ง   เมื่อ พ.อ.หญิงศิริจันทร์  งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงว่า  ได้รับมอบหมายจาก  พล.อ.อนุพงษ์  เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้มาชี้แจงว่าห่วงใยต่อสถานการณ์อย่างยิ่ง   และไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงต่อกันไม่ว่ากรณีใดๆ   ซึ่งการดูแลความสงบเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนกองทัพบกกำลังทหารที่มีอยู่   โดยเฉพาะในต่างจังหวัด  มิได้รับการฝึกฝนมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลผู้ชุมนุม และมีข้อจำกัดในเรื่องอุปกรณ์และเครื่องมือ  อาจทำให้การดูแลไม่เรียบร้อย  รวมทั้งการจะส่งทหารไปดำเนินการต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย  ได้แก่ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551

"การใช้กำลังทหารจำเป็นต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายดังกล่าว   แต่อีกด้านหนึ่งการใช้กำลังทหารจะเกิดผลกระทบในเชิงลบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ   อันจะนำมาซึ่งความเสียหายในหลายๆ  ด้านที่อาจคาดไม่ถึงในอนาคต ซึ่งกองทัพบกขอยืนยันว่า  หากจำเป็นในการใช้กำลังทหารตามกฎหมายข้างต้น กองทัพบกก็มีความพร้อมดูแลพี่น้องประชาชน  และขอยืนยันว่ากองทัพบกได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะไม่ปล่อยให้สถานการณ์รุนแรงจนเกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน   หรือเกิดความเสียหายอันใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ   โดยจะดำเนินการไปตามขั้นตอนที่กฎหมายที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด" พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าวต่อว่า  ล่าสุด  ผบ.ทบ.มีคำสั่งให้กองร้อยทหารสารวัตรของมณฑลทหารบก   และจังหวัดทหารบกในทุกกองทัพภาค เตรียมกำลังเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเพื่อให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่มีการชุมนุมหากมีการร้องขอกำลังมา  เพื่อป้องกันมิให้เกิดการปะทะกันและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้นในระหว่างที่ชุมนุม   ซึ่งการใช้สารวัตรทหารไม่เกี่ยวข้องกับ   กอ.รมน. แต่เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของกองทัพบกตามอำนาจหน้าที่ของผู้บัญชาการทหารบก

"การส่ง  ส.ห.เข้าไปก็ไม่ได้เกี่ยวกับการปรามกลุ่มที่จะออกมาปะทะ  แต่ ผบ.ทบ.ท่านปรารถนาดีและเป็นห่วง   การแถลงวันนี้ก็เพราะหลายฝ่ายอยากจะให้ทหารเข้าไปมีบทบาทในการชุมนุม  แต่เรามีกรอบกฎหมายแค่นั้น   กองทัพบกไม่มีอำนาจหน้าที่ในการส่งกำลังทหารไปดูโดยพลการ อยากให้เข้าใจภาพรวมและกรอบของเรา  ดังนั้นเสียงเรียกร้องหรืออยากจะให้ทหารทำอะไรบางอย่างนอกกรอบที่เราทำได้ ก็จะได้เข้าใจกัน" พ.อ.หญิงศิริจันทร์กล่าว

ไทยโพสต์
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&iDate=29/Jul/2551&news_id=161722&cat_id=501

อย่างน้อย อนุพงษ์ ก็ประกาศอีกครั้ง ว่ายืนอยู่ข้างประชาชน แต่ก็ยังไม่ได้ออกมาเต็มตัว