สวัสดีครับ..
ขอตอบแบบยาวๆ นะครับสำหรับความเห็นนี้
คุณปุถุชน..คุณTR..
ผมเห็นด้วยกับคุณปุนะ ในกทม.มีกล้องจับผิดเต็มไปหมด เรื่องคงไม่ระเบิดที่นี่หรอกครับ อย่างมากสุดก็เท่าที่เห็นวันก่อน
แต่ในตจว.นี่สิ..
นอกจากโดนรุมกินโต๊ะฟรีแล้ว หลังเลิกงานอาจโดนสอยตามข้างทางได้อีก
ผมเคยบอกแล้วว่า คุณกำลังเล่นกับเผด็จการที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่ใช้รถถังวิ่งไล่ ไม่ใช้เฮลิคอปเตอร์กราดยิง แต่มันใช้....คาถาเงิน + อันธพาลนอกรูปแบบ
อย่างคุณอภิสิทธิ์ว่านั่นแหละ..
นายกเคยบอกว่า ขอให้กรณีปชป.โดนยำที่เชียงใหม่เป็นครั้งสุดท้าย แต่เรื่องที่เกิดที่สยามพารากอน และเวิลด์เทรดนั้น ก็เป็นสมุนกลุ่มเดิมๆ ของนักการเมืองที่ขนกันมาเชียร์และทำร้ายผู้คน
หมอมิ้งมาบีบน้ำตาว่า ขอให้คนเดือนตุลา..หยุด
ผมนี่แหละ..คนเดือนตุลา และผมขอให้คุณหมอ..หยุดก่อน
เพราะคุณหมอไม่รู้เลยหรือว่า สิ่งที่เกิดขึ้นที่หน้าห้างทั้งสองเกิดจากน้ำมือของฝ่ายของทรท.เริ่มต้น
จริงอยู่
ฝ่ายพันธมิตรจัดตั้งกลุ่มคนไปยั่วยุ แต่การกระทำรุนแรงเกิดจากฝ่ายใด??
...................................
แผนดาวกระจายของฝ่ายต่อต้าน ไม่ว่าใครเป็นคนวางแผนก็ตาม ผมว่า มันล่อแหลมมากๆ เป็นกลยุทธที่นำไปสู่ความขัดแย้งที่ต้องใช้ความรุนแรงเข้าระงับ
ซึ่งพวกเขาก็รู้แก่ใจดีอยู่แล้ว แต่ต้องการท้าทายเพื่อให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงขึ้นจนนำไปสู่..จราจล
ซึ่งผมไม่เห็นด้วยทั้งสองฝ่ายนะครับ ไม่ว่าทรท. หรือ ฝ่ายต่อต้าน
ทรท. เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่า คนที่มาร้องตะโกนสนับสนุนนายกนั้น ถูกเกณฑ์มาด้วยอามีสสินจ้างจำนวนหนึ่ง
หมอมิ้งต้องไม่โกหกตัวเองวันยังค่ำว่า ทำเช่นนี้ คือ การรักษาระบอบประชาธิปไตยของบ้านเมือง ถ้าไม่มีพวกนี้ ก็อาจไม่มีพวกต่อต้านแบบดาวกระจายก็ได้
หมอมิ้งต้องรู้ทันว่า ที่คุณทักษิณขยันไปตรวจราชการเฉพาะสองภาค คือ เหนือ และอิสาน นั้น คุณทักษิณทำเพื่ออะไร...มิใช่เพื่อตรวจราชการอย่างแท้จริง เพราะภาคกลาง ตะวันตก ตะวันออก และภาคใต้ ก็ล้วนมีประชากรไทยอาศัยอยู่ทั้งสิ้น
หมอมิ้งต้องยอมรับว่า นายกไป
รักษาฐานคะแนนเสียง ที่ใหญ่ที่สุดของทรท. เพราะการจะชนะเลือกตั้งอีกครั้งนั้น สองภาคนี้จะเป็นผู้กำหนดชะตาทางการเมืองของคุณทักษิณ และของคุณหมอเองด้วย จริงไหมล่ะ?
ดังนั้น ที่ขอให้คนเดือนตุลา..หยุด
ผมจึงต้องขอสวนกลับไปว่า ผมนี่แหละขอให้คุณหมอ..
หยุดแหกตาชาวบ้านซักที..........................................
พี่น้องชาวเสรีไทยที่รัก..
เหตุการณ์เดือนตุลาในอดีต ทำให้นักศึกษาและประชาชนตายไปจำนวนมาก มากกว่าที่พวกคุณเคยรู้เสียอีก
คนที่มีส่วนร่วมที่ยังไม่ถูกสังคมและผลกรรมลงโทษ บัดนี้ก็กลับมาเป็นชนวนหนึ่งของความขัดแย้งอีกแล้วครับท่าน ทั้งสองคือ คุณสมัคร และคุณดุสิต
สามสิบปีผ่านไป สองคนนี้ก็ยังเลือกอยู่ข้างเดิม คือ ฝ่ายผิด
ผมอยู่ในเหตุการณ์เวลานั้นด้วย ในฐานะนักศึกษาคนหนึ่งที่ร่วมประท้วงการกลับมาของจอมพลถนอม..
พวกเราไม่ได้ขัดแย้งกับรัฐบาลสมัยนั้น แต่กำลังกดดันรัฐบาลให้รับฟังเสียงของนักศึกษาบ้างต่างหาก
ผิดไหม?
ความคิดอ่านไม่ผิด
แต่คนดำเนินนโยบายผิดพลาดต้องโทษผู้นำ สนนท. และ อมธ. ในสมัยนั้น..
รู้ทั้งรู้ว่า ในม.ธรรมศาสตร์มันเป็นสภาพปิดล้อม รู้ทั้งรู้ว่า นศ.และประชาชนไม่มีทางสู้เลย หากฝ่ายตรงข้ามใช้ความรุนแรงเข้าห้ำหั่น
กระแสข้างนอก ไม่ได้อยู่ข้างนศ.ทั้งหมด มีแรงผลักดันจากสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะวิทยุของทหาร และรายการเสี้ยมให้คนฆ่ากัน ของนายดุสิต ศิริวรรณ
สัญญาณอันตรายมันเตือนอยู่ทุกวัน แต่ผู้นำบนเวทีก็ประกาศแต่ว่า สู้ๆ ๆ ๆ ..เราจะอยู่ตรงนี้.. สู้จนตาย.. เพื่อให้ได้รับชัยชนะ จะไม่ยอมสลายตัวไปไหน...
ผมเองก็ยังคล้อยตามไปกับเขาด้วย ยืนจับมือกันเป็นลูกโซ่ตอนที่มีข่าวว่า ทหาร ตำรวจและลูกเสือชาวบ้านจะบุกเข้ามา ก็ผู้นำยืนอยู่บนเวทีบอกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่าหนี อย่าวิ่ง เขาไม่กล้าฆ่าพวกเราหรอก
กฎหมายมันใช้การได้หรือครับ ในกรณีที่เกิดจราจล??
ตรงนี้ นศ.ไม่ได้คิด เหตุการณ์ที่หน้าสยาม และหน้าเวิลด์เทรด อาจจับมือใครดมไม่ได้เลย หากคนที่ชุมนุมต่อต้านอยู่ในสภาพถูกปิดล้อม นี่ดีนะ มันเป็นสาธารณสถาน เปิดโล่งทุกด้าน
ตอนกลางวันผ่านพ้นไป พวกเขาไม่บุกเข้ามา น่าจะเพราะมันเห็นชัดเกินไป แดดยังจ้าอยู่ แต่..แทนที่รับฟังข่าวสารมาแล้ว ผู้นำนศ.จะหาทางแก้ไข ให้ผู้มาชุมนุมทุกคนปลอดภัย
กลับคิดว่า
ตัวเองได้รับชัยชนะแล้ว พวกนั้นไม่กล้าบุก เพราะพวกเราแสดงพลังให้เห็นผมเพิ่งมารู้ตอนนี้เองว่า ผู้นำ นศ.เหล่านั้นต่างหากที่ ไม่บ้า ก็โง่ ที่ไม่เชื่อสัญญาณเตือนภัยทั้งหลายที่ดังลั่นไปหมด แต่กลับไปกดปุ่มปิดสัญญาณ
คืนนั้น ผมยังยืนยามอยู่เลยครับ เพราะอยู่ชมรมมวย เขาให้เป็นการ์ด แต่ผมยืนอยู่ถือ สองทุ่มก็กลับบ้านไปอาบน้ำ นอน พรุ่งนี้จะต้องกลับมาใหม่
แต่..
เช้ามืดวันนั้น ทหาร ตร. และประชาชนก็ยิงกระหน่ำเข้าไปในธรรมศาสตร์อย่างบ้าระห่ำ
ฆ่าคนไม่มีความผิดตามกฎหมาย เพราะคนที่ตาย เขาป้ายสีว่า เป็นญวน และคอมมิวนิสต์
หลังจากนั้นสามเดือน ผมกลับไปเรียนต่อ แต่เพื่อนๆ ที่เรียนมาด้วยกัน ยืนประท้วงกลางแดดหายไปหลายคน
ผมถามทุกท่านตรงนี้หน่อยเถิดว่า..คุ้มไหมครับ???
ถ้าให้กาลเวลาเป็นเครื่องตัดสินใจแทนแล้ว ผมว่า ตอนนี้ทุกคนโตเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว คุณสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และคุณธงชัย วินิจกุล ทั้งสองท่านคือ ผู้นำที่อยู่บนเวทีคงได้ข้อคิด
การที่นำฝูงชนไปตาย
หลายร้อยคน ในเหตุการณ์ครั้งนั้น แลกกับการที่ท่านทั้งสองจบปริญญาเอกจากเมืองนอก มันคุ้มกันไหมครับ???
ทุกวันนี้ ผมก็ยังคิดว่า ภาพที่หลอกหลอนผู้นำนศ.ทั้งสองคนไปตลอดชีวิต คือ ภาพของเพื่อนๆ ที่เคยอยู่ในกำมือของตน ตายไปต่อหน้าต่อตา เพราะความสะเพร่า และบกพร่องของตัวเองแท้ๆ
แลกกับคำว่า
วีรชนเดือนตุลาถุย..! ทุกเรศว่ะ