เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

ไม่มี login ก็โพสได้นะครับ

เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ฮักเกิ้ล » Wed Nov 19, 2008 1:28 am

เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgiveness)

ออกอากาศทางสถานีวิทยุ BBC เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

(ผู้ประกาศBBC)
ศาสนาจารย์ Julie Nicholsonได้พบบุคคลที่เห็นว่าการพยายามให้อภัยเป็นความผิดพลาดอย่างมากและยังมีคนที่เลือกที่จะไม่ยอมให้อภัย ในขณะที่เธอออกแสวงหาเพื่อทำความเข้าใจถึงเรื่องการให้อภัย


(ศาสนาจารย์ Julie Nicholson)
ในฐานะที่เป็น parish priest (parish เขตทางศาสนา, โบสถ์ท้องถิ่น) ความคิดเรื่องการให้อภัยเป็นส่วนหนึ่งของงานและชีวิตของฉัน ฉันอธิษฐานถึงการให้อภัยตามคำอธิษฐานที่พระเยซูทรงสอนไว้ และเทศนาเรื่องการให้อภัยของพระเจ้าต่อคริสตศาสนิกชนที่ชุมนุมกันในโบสถ์

จริงๆ แล้วฉันยอมรับกับตัวเองว่าไม่ค่อยแน่ใจนักว่ามีความคิดลึกซึ้งมากแค่ไหนเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของการให้อภัย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๗ เดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๔๘ มีคน ๕๒ คนถูกฆ่าตายจากการระเบิดที่รุนแรง
ที่สถานีรถไฟของกรุงลอนดอน


Jenny ลูกสาวอายุ ๒๔ ปีของฉันตายขณะที่เธอเดินทางไปทำงาน

เธอถูกระเบิดตายจากมือระเบิดพลีชีพชื่อ Mohammed Siddique Khan

นับจากนั้นเป็นต้นมาความคิดเรื่องการให้อภัยก็ไม่ได้ผ่านเข้ามาในใจของฉันอีกเลย


และแล้ววันหนึ่งฉันก็ถูกถามว่า

เคยคิดไหมว่าฉันมีพันธะที่จะให้อภัยคนที่ฆ่าลูกสาวของตัวเอง


และฉันก็ตอบไปโดยไม่ต้องคิดเลยว่า “ไม่”


(ยังมีต่อ)
ฮักเกิ้ล
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ฮักเกิ้ล » Thu Nov 20, 2008 5:23 pm

ขอแก้ข้อความผิดครับ


คือจากข้อความที่ว่า
“ศาสนาจารย์ Julie Nicholsonได้พบบุคคลที่เห็นว่าการให้อภัยเป็นความผิดพลาดอย่างมากและยังมีคนที่เลือกที่จะไม่ยอมให้อภัย”


เปลี่ยนเป็น
“ศาสนาจารย์ Julie Nicholsonได้พบกับบุคคลผู้ให้อภัยแก่คนที่กระทำสิ่งที่ร้ายกาจ และได้พบกับบุคคลผู้เลือกที่จะไม่ยอมให้อภัย”
ฮักเกิ้ล
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ridkun » Fri Nov 21, 2008 12:46 am

การให้อภัยก็ต้องมีขอบเขต และแม้จะให้อภัย ผู้ที่ำทำผิดก็ต้องได้รับโทษ
โลกนี้ไม่มีทางสงบหากทุกคนทำผิดได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวการลงโทษ

ที่สำคัญ "กฎแห่งกรรม" ไม่เคยให้อภัยใครแน่นอน

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

ridkun
Site Admin
 
Posts: 1815
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:08 am

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ตรอง » Fri Nov 21, 2008 1:55 am

การให้อภัยนั้นเป็นสิ่งถูกต้องที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องของจิตใจ

สังคมมนุษย์ต้องมีกติกาการอยู่ร่วมกัน สังคมจึงจะยั่งยืนอยู่ได้
นั่นคือต้องมี ศีลธรรม มีระเบียบวินัยเป็นเครื่องรักษาค้ำจุนสังคม
เพื่อให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ไม่เดือดร้อนวุ่นวาย
ด้วยการแย่งชิงกัดฉีกกันลับหลัง แบบสัตว์ฉลาด แต่ไร้ศีลธรรม

อภัยทาน การลงโทษ เมื่อความผิดเกิดขึ้น
เป็นกฏเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกันของสังคมมนุษย์
อภัยทานเป็นเรื่องของจิตใจที่พร้อมให้อภัย
ขณะเดียวกัน กติกา(กฏหมาย ซึ่งมีพื้นฐานจากการทำผิดศีลธรรม)
ในการอยู่ร่วมกันของสังคมมนุษย์ก็ต้องรักษาไว้เช่นกัน

สังคมตะวันออก ในสมัยพุทธกาลนับเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับชาวพุทธที่ตั้งใจปฏิบัติ ไม่ใช่ชาวพุทธแต่เปลือก
ย่อมรู้แท้ในใจว่า ยังหามีผู้ใดมีพระมหาเมตตากรุณา
เสมอเท่าพระพุทธองค์ไม่ พระองค์ทรงสอนให้เราชาวพุทธ
มีพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา
และให้ทานสูงสุด คืออภัยทาน พระองค์ท่าน
ทั้งสอนด้วยการตรัสสอน แกระทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
แต่ขณะเดียวกัน สังคมสงฆ์ มีวินัยสงฆ์ 227 ข้อ และ
กำหนดโทษในการผิดวินัยไว้ ตั้งแต่โทษเบาที่สุด จนขั้นรุนแรงที่สุด
คือ ปาราชิก ซึ่งเปรียบเสมือนการลงโทษประหารชีวิต
คือขาดจากความเป็นพระ และไม่สามารถบวชได้อีกแล้ว

ก่อนพระพุทธองค์จะปรินิพพาน พระองค์ตรัสว่า
"ธรรมและวินัย จะป็นศาสดาแทนเราตถาคต ต่อไป"
และเพราะพุทธสาวกผู้มีสติปัญญา และมีจิตใจเปี่ยมด้วยคุณธรรม
รักษา ธรรมและวินัย ไว้อย่างเคร่งครัดสืบต่อกันมา
จึงวันนี้ พุทธศาสนาจึงยังเรืองรองส่องสว่างในใจ เป็นที่พึงพิงอย่างแท้จริง
ของมนุษย์ผู้มีความกตัญญู มีสัมมาทิฏฐิ มีหิริโอตัปปะ ตลอดมาและตลอดไป

สังเกตดู สังคมสัตว์เดรัจฉานที่บางสังคม สมสู่กันไม่เลือกหน้า
ก็ยังมีกฏกติกา ในการอยู่ร่วมกัน
ไฉนเลย สังคมมนุษย์ มนุษย์ที่แปลว่าผู้มีจิตใจสูง
จะไร้ซึ่งกติกาในการอยู่ร่วมกัน เช่นที่เห็นและเป็นอยู่ในหมู่คนบางประเภท
ที่ไร้ซึ่งหิริและโอตัปปะ หลอกลวงประชาชนที่ด้อยสติปัญญา รู้ไม่เท่าทัน
ไร้ซึ่งความกตัญญูต่อแผ่นดิน และผู้มีพระคุณ ย่ำยีพระพุทธศาสนา
หยาบช้าสามานย์ สมสู่กันผิดผัวผิดเมีย ไม่เลือกลูกเขาเมียใคร
ทั้งยังทะเยอทะยาน ทำได้ทุกวิธีเพื่อมีอำนาจเงิน มีอำนาจครอบครองความเป็นใหญ่
มีอำนาจครอบครองปัจจัยต่างๆ เหนือผู้อื่น แล้วเช่นนั้น สังคมเช่นนี้
จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร ดังเช่นที่ ท่านพุทธทาสภิกขุ
เตือนไว้ว่า "ศีลธรรมไม่กลับมา โลกาจะวินาศ"
ตรอง
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby G.Annie » Fri Nov 21, 2008 5:37 am

การให้อภัยในกรณีที่ทำผิดอย่างมากไม่สามารถทำได้ จึงมีการออกกฎหมายขึ้นมาเป็นกรอบ อีกอย่างผู้กระทำผิดจะได้สำนึกในการกระทำของตัวเองและจะได้ไม่ทำผิดเดิมๆอีก ถ้าอย่างนั้นก็มีการกระทำผิดซ้ำๆเดิมๆอีก โดยไม่มีการสำนึก เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ
User avatar
G.Annie
 
Posts: 246
Joined: Sat Nov 01, 2008 9:23 pm

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby Solidus » Sat Nov 22, 2008 6:53 pm

ถ้าจะให้อภัยก่อนอื่นต้องให้ผู้นั้นสำนึกผิดก่อน แต่ถ้าไม่สำนึกอาจต้องใช้การทำลายให้สิ้นซาก :lol: :lol:
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ฮักเกิ้ล » Wed Nov 26, 2008 12:06 am

(ต่อครับ)

(ศาสนาจารย์ Julie Nicholson) (ต่อ)

ในไม่ช้าก็เป็นที่ปรากฏชัดแก่ฉันว่าฉันไม่สามารถที่จะปฏิบัติศาสนากิจได้อีกต่อไป
ฉันไม่สามารถเป่าประกาศถึงการให้อภัยของพระเจ้าต่อคณะผู้ชุมนุมได้

เมื่อไม่พร้อมที่จะเสนอเรื่องการให้อภัยด้วยตัวฉันเอง
ฉันจึงลาออกจากตำแหน่งพระ
และหางานอื่นทำในเขตการปกครองของบิชอปนั้น

นับแต่นั้นเป็นต้นมาฉันก็ทุ่มเทความคิดให้กับเรื่องการให้อภัย

เรื่องการให้อภัยนี้เป็นแนวคิดที่มีจุดกำเนิดมาจากศาสนาอันเก่าแก่
แต่เมื่อเร็วๆ นี้เอง การให้อภัยได้ถูกนำมาใช้โดยนักจิตวิทยาเช่นเดียวกันกับพระ

ดูเหมือนว่าการให้อภัยถูกนำมาอธิบาย แสดง และยกตัวอย่างให้ปรากฏไปทั่ว
ทั่วจนครอบคลุมทุกเรื่อง
นับตั้งแต่เรื่องทะเลาะกันในสนามเด็กเล่นโรงเรียน
ไปจนถึงเรื่องฆาตกรรมโหดเหี้ยม

ดังนั้นฉันจึงออกเริ่มค้นหาให้พบว่าอะไรคือความหมายที่แท้จริงของการให้อภัย



ฉันได้พบปะกับผู้คนที่ให้อภัยการกระทำผิดร้ายแรงได้
และพบปะกับผู้คนที่เป็นเช่นเดียวกันกับฉัน
คือเลือกที่จะไม่ให้อภัย

Ann Macaskill เป็นศาสตราจารย์จิตวิทยาเพื่อสุขภาพ
แห่งมหาวิทยาลัย Sheffield Hallam

เธอได้ทำการวิจัยเพื่อหาว่าอะไรเกิดขึ้นจริงๆ
เมื่อคนให้อภัย



(ศาสตราจารย์Ann Macaskill)

การให้อภัยที่แท้จริงถูกนิยามว่าเป็นของขวัญที่ไม่มีเงื่อนไขใดๆ
ไม่มีข้อผูกมัดอะไร
ไม่มีอะไรที่ต้องจ่ายคืน

(ยังมีต่อครับ)
ฮักเกิ้ล
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby สุดแสนสำราญ » Wed Nov 26, 2008 3:07 am

ซาตานแม้ว มันยังไม่ยอมรับว่าผิดเลยแต่มาขออภัยโทษ ในเมื่อมันบอกว่ามันไม่ผิดแล้วมาขออภัยโทษทำห่าทำเหวอะไรวะ ทุเรสสิ้นดี
สุดแสนสำราญ
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ridkun » Thu Nov 27, 2008 10:25 pm

มีคนกดผิดเป็น report มา เลยเอามา post ให้ครับ

---------------------------

ใจให้อภัยนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่การอยู่ร่วมกันเป็นสังคม ต้องมี กติกา มีวินัย มีระเบียบประเพณี มีกฎหมาย ตะวันออก โดยเฉพาะพุทธศาสนา สอนเรื่อง พรหมวิหาร ๔ มี เมตตา กรุณา มุทิตา และอุบกขา ตลอดจนทานที่มีผลมากที่สุด คือ อภัยทาน สมบูรณ์ที่สุดแล้ว ขณะเดียวกัน ในสมัยพุทธกาล วินัยของสงฆ์ นั้น มีถึง 227 ข้อ และจะหาผู้ใดในโลกมีเมตตา และให้อภัยเสมอด้วยพระพุทธองค์หามีไม่ แต่สาวกองค์ใดผิดวินัย ก็มีบทบัญญัติลงโทษ หนักเบามากน้อย ขึ้นกับความผิดที่กระทำลงไป โทษสูงสุด คือ ปาราชิก ซึ่งในสังคมสงฆ์ เปรียบเทียบเหมือนถูกประหารชีวิต ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า ธรรมและวินัยจะเป็นศาสดาแทนเรา ตถาคต ต่อไป สังคมสงฆ์ พุทธศาสนาจึงยั่งยืนมาถึง 2550 กว่าล่วงมาถึงปัจจุบันนี้ สังคมมนุษย์จะร่มเย็นเป็นสุขและยั่งยืนได้ ต้องมีศีลธรรมเป็นเครื่องรักษาค้ำจุนสังคม ให้สังเกตดู แม้สังคมของสัตว์****** ยังมีกฏเกณฑ์การอยู่ร่วมกันเลย ไฉนเลย สังคมมนุษย์ ซึ่งแปลว่า ผู้มีจิตใจสูง จึงจะละเลย ศีลธรรม จรรยาได้

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

ridkun
Site Admin
 
Posts: 1815
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:08 am

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby สุดแสนสำราญ » Thu Nov 27, 2008 10:41 pm

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทักษิณครองประเทศ

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าทักษิณได้ครองประเทศ ปกครองระบอบทักษิณ โลภและโกงกันทั้งประเทศ
ตั้งแต่นายกยันคนเก็บขยะ
คนดีๆ กลายเป็นคนชั่วกันหมด อะไรจะเกิดขึ้น??
คนชั่วจะรักและสามัคคีกัน?? และอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข??
ทักษิณอยากได้อะไรก็ได้ อยากเป็นอะไรก็เป็น
คุณคิดว่าทักษิณจะหยุดไหม??

มันคงยกทัพไปตีเขมร พม่า ลาว มาเลเซีย
เมื่อสำเร็จก็ออกล่าอาณานิคม ไปยุโรป อเมริกา จีน และทั่วโลก

ระบอบทักษิณปกครองไปทั่วโลก
เมื่อทักษิณได้ครองโลกแล้ว มันจะเอาอะไรอีก
แล้วมันจะหยุดหรือป่าว??

มันคงส่งยานอวกาศออกล่าอาณานิคมไปยังดาวต่างๆ
จับมนุษย์ต่างดาวมาบังคับให้ปกครองด้วยระบอบทักษิณ

ทักษิณครองจักวาลแล้ว มันจะเอาอะไรอีก
แล้วคุณคิดว่ามันจะหยุดหรือยัง???
ถ้าพันธมิตรแพ้ 23 พย

1.ในเชิงโครงสร้าง ระบอบทักษิณ จะถูกสถาปณา ให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมหลายเท่า ย้ำหลายเท่า

2. บรรดาอรรถคดี ถูกล้มเลิกไปโดยรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

3. องค์กรอิสระ ทั้งศาล ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการศิทธิฯ สตง. ถูกครอบงำเบ็ดเสร็จโดยคนของเขา

4. หน่วยงานขึ้นตรงทหาร ตำรวจ กระทรวงทบวงกรม เป็นแค่ทาสรับใช้ ระบอบทักษิณ อันทรงพลัง

5. ฝ่ายตรงข้าม ถูกเช็คบิลฝังเป็นหน้ากรอง พันธมิตร ฝ่ายค้าน ทหาร ตำรวจ และ ผู้ที่อยู่ในองค์กรอิสระ

6. ประเทศไทย มีเจ้าชีวิตในเชิงสัญลักษณ์ ชื่อ "ทักษิณ" ทุกคนในแผ่นดิน ต้องยอมศิโรราป ให้กับคน ๆ นี้เพียงคนเดียว

7. ทักษิณ จะเหลิงอำนาจ และทรงอำนาจมากที่สุดในประเทศ พลังความแค้นของทักษิณ จะทำให้ทักษิณ ฆ่าทุกคนที่เป็นปฏิปักษ์ อย่างเลือดเย็น สมกับคำว่า เอาคืนทั้งโคตร

8. สื่อมวลชน ก็จะพากันรับเศษเดนจากระบอบทักษิณ ให้พอมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ

มาถึงตอนนี้ ประเทศก็เป็นของทักษิณ แบบสมบูรณ์ ตระกูลชิน ยิ่งใหญ่เกรียงไกรในปฐพี ยกประเทศให้ตระกูลชิน
ถ้ามันยึดแกเลกซี่ได้ บอกมันหรี่ดวงอาทิตย์หน่อย ร้อนจะตายห่าอยู่แล้ว
มันจะตามหา Dragon Balls ที่ดาวนาแม็ก แล้วขอพรให้ตัวเองเป็นอมตะด้วย เพราะมันคือพรีชเชอร์
------------------------------------------------
ทักษิณ คงสู้ได้อีกไม่กี่ยก สงครามการล้าง

ผลาญเงินทองของทักษิณกำลังเรื่มแล้ว มีสมุนรับใช้ไข่

แม้ว กำลังเสนออุบาย แผนการณ์ ไว้คอยหลอกเงินไป

สร้างสถานการณ์เมกกะโปรเจค ขนม๊อบเสื้อแดง แก้รัฐ

ธรรมนูญ แก้เคล็ด แก้ดวง แล้วแต่จะคิดกันได้

สุดท้าย ทักษิณ มีแต่ เจ๊ง อย่างเดียว สมุนของ

ทักษิณมีกี่คนที่รักและห่วงทักษิณด้วยความจริงใจ ผม

สังเกตุแล้วไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่รักทักษิณ ทุกคน

พ้อมที่จะหักหลัง แทงข้างหลัง ซ้ำเติม สมน้ำหน้า

ทักษิณ วันที่ทักษิณพลาด พวก สส.และ รมต.

ของพรรคพลังประชาชน จะหนีเอาตัวรอดทุกคน ทุกคน

พร้อมที่จะประณามทักษิณทุกคน ออกมาสาวใส้ทักษิณ

เพื่อเอาความดีเข้าตัว เรื่องความชั่วยกให้ทักษิณคนเดียว

มิตรต้องกลายเป็นศัตรู จะมาประจานความชั่วของ

ทักษิณ สิ่งใดที่ประชาชนไม่รู้ ก็จะได้รับรู้ความจริง

ศัตรูกลายเป็นมิตร คอยแทงข้างหลัง ทักษิณเมื่อถึง

คราวที่ทักษิณพลาด

ไม่มีใครยอมตายหรือติดคุกเพื่อทักษิณ หรือแม้แต่

เมียของทักษิณเองก็ตาม


--------------------

ทักษิณฆ่าตัวตาย สมชายลาออก คนบ้านนอกมีการศึกษา
ประเทศไทยพัฒนา ปวงประชาแสนสุขใจ
สุดแสนสำราญ
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby max » Sat Nov 29, 2008 3:48 pm

ฮักเกิ้ล wrote:เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgiveness)

ออกอากาศทางสถานีวิทยุ BBC เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

(ผู้ประกาศBBC)
ศาสนาจารย์ Julie Nicholsonได้พบบุคคลที่เห็นว่าการพยายามให้อภัยเป็นความผิดพลาดอย่างมากและยังมีคนที่เลือกที่จะไม่ยอมให้อภัย ในขณะที่เธอออกแสวงหาเพื่อทำความเข้าใจถึงเรื่องการให้อภัย


(ศาสนาจารย์ Julie Nicholson)
ในฐานะที่เป็น parish priest (parish เขตทางศาสนา, โบสถ์ท้องถิ่น) ความคิดเรื่องการให้อภัยเป็นส่วนหนึ่งของงานและชีวิตของฉัน ฉันอธิษฐานถึงการให้อภัยตามคำอธิษฐานที่พระเยซูทรงสอนไว้ และเทศนาเรื่องการให้อภัยของพระเจ้าต่อคริสตศาสนิกชนที่ชุมนุมกันในโบสถ์

จริงๆ แล้วฉันยอมรับกับตัวเองว่าไม่ค่อยแน่ใจนักว่ามีความคิดลึกซึ้งมากแค่ไหนเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของการให้อภัย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๗ เดือนกรกฎาคม ปี ๒๕๔๘ มีคน ๕๒ คนถูกฆ่าตายจากการระเบิดที่รุนแรง
ที่สถานีรถไฟของกรุงลอนดอน


Jenny ลูกสาวอายุ ๒๔ ปีของฉันตายขณะที่เธอเดินทางไปทำงาน

เธอถูกระเบิดตายจากมือระเบิดพลีชีพชื่อ Mohammed Siddique Khan

นับจากนั้นเป็นต้นมาความคิดเรื่องการให้อภัยก็ไม่ได้ผ่านเข้ามาในใจของฉันอีกเลย


และแล้ววันหนึ่งฉันก็ถูกถามว่า

เคยคิดไหมว่าฉันมีพันธะที่จะให้อภัยคนที่ฆ่าลูกสาวของตัวเอง


และฉันก็ตอบไปโดยไม่ต้องคิดเลยว่า “ไม่”


(ยังมีต่อ)





เป็นความรู้สึกของคนคนเดียว ของ นางจูเลีย เท่านั้น ทำมัยต้องเรียกว่าตะวันตก ไม่ใช้คนตะวันตกทั้งหมดคิดแบบนี้ทุกคนเมื่อรัย จะเอาแนวคิดพระเยซู มาใช้กับปีศาจ ได้เหรอ เลอะเทอะ คนไทยเป็นชาติที่มีการให้อภัยมากที่สุดในโลก ไม่มีคนชาติใดในโลกที่มีจิตเมตตา เท่าคนชาติไทย คุณไปเช็คดูได้

แต่ถ้าคนไทยให้อภัยหน้าเหลี่ยม ถือว่าคนไทยซวยทั้งประเทศ ไอ้เหลี่ยม มันไม่ใช่คน ไม่ใช่****** มันเลวกว่านั่น มันจิตทรามโดนสันดานทั้งโคตร มันสั่งฆ่าคนมาแล้วกี่พันศพ ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ กรณียาบ้า มันอุ้มสมชายสั่งฆ่าคนปักษ์ใต้ ที่กรือเซะ และนราธิวาส มํนโกงภาษี โกงชาติ มันสมสู่ไม่เลือกหน้า มันเป็นทั้งโคตร ลูกเมียมันก้อเป็นแบบนี้ มันอยากเป็นกษัตรย์ แบบสมเด็จฮุนเซ็น มันเอาเศษเงินแจกให้คนไทยทะเลาะกันเอง ยิ่งปล่อยไว้ สังคมไทยยิ่งงเสื่อม ผมว่า วิสามัญ ไอ้เหลี่ยม ก้อเป็นการให้อภัยอย่างนึงนะ มันจะได้ไม่ไปทำชั่วเพิ่มอีก
max
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby Guest » Sat Nov 29, 2008 5:24 pm

ควรให้อภัยแก่คนที่สำนึกผิด และ กลับตัวเป็นคนดีแล้วเท่านั้น
ถ้ายังชั่วเหมือนเดิม ก็เปล่าประโยชน์ที่จะให้อภัย
Guest
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ฮักเกิ้ล » Sun Nov 30, 2008 2:06 am

ขอตอบหน่อยครับเพราะมีผู้ถามมา

“เป็นความรู้สึกของคนคนเดียว ของ นางจูเลีย เท่านั้น ทำมัยต้องเรียกว่าตะวันตก ไม่ใช้คนตะวันตกทั้งหมดคิดแบบนี้ทุกคนเมื่อรัย”

เรื่องนี้ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับว่าการตั้งชื่อแบบนี้ ทำให้มีข้อเสียดังที่กล่าวมา
แต่หาชื่ออื่นไม่เจอครับ
เพราะทุกชื่อมีข้อเสียหมด
ที่เลือกชื่อนี้เพราะมีข้อเสียน้อยที่สุดแล้วครับ

“จะเอาแนวคิดพระเยซู มาใช้กับปีศาจ ได้เหรอ”
ผมว่าความคิดอันนี้ขัดกับความคิดอันแรกนะครับ
เพราะถ้าบอกว่าเป็นความรู้สึกของคนคนเดียว เหตุใดจึงใช้ว่าเป็นแนวคิดพระเยซูไปได้ครับ
การบอกว่าเป็นแนวคิดพระเยซูยิ่งร้ายแรงไปกว่าความคิดแบบตะวันตกด้วยซ้ำนะครับ
อย่างไรก็ตามข้อความหลังนี้เป็นเหตุผลที่สนับสนุนการใช้ชื่อเรื่องนี้ของผมครับ
คือเหตุผลหนึ่งในหลายเหตุผลที่ผมใช้ชื่อนี้
เพราะต้องการที่จะกันไม่ให้คิดว่าผมกำลังเผยแพร่ศาสนาคริสต์ครับ
จึงใช้ว่าตะวันตกแทน

ผมเองแทบไม่รู้เรื่องศาสนาคริสต์เลยครับ เจอศัพท์เฉพาะแล้วงง ไม่รู้จะแปลว่าอย่างไรดี
ส่วนใหญ่ผมอ่านพระไตรปิฎก อรรถกถา วิสุทธิมรรค และคัมภีร์เนตติปกรณ์ครับ

มีเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผมแปลกใจมาก
คือมีการโยงเรื่องนี้ไปกับคุณทักษิณมาก เป็นเรื่องที่ผมแปลกใจสุดๆ เลยครับ
เพราะตอนที่ผมแปลนั้น ผมไม่เคยมีชื่อคุณทักษิณอยู่ในหัวเลย

ถึงแม้ผมจะเห็นว่าคุณทักษิณมีส่วนอย่างมากในหลายส่วนที่ทำให้ประเทศไทยแตกแยกก็ตาม
ฮักเกิ้ล
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ฮักเกิ้ล » Wed Dec 03, 2008 12:08 am

(ต่อครับ)
เนื่องจากบทสัมภาษณ์ตอนนี้เข้าใจยากมาก ผมจึงขอเปลี่ยนเป็นข้อเขียนของศาสตราจารย์Ann Macaskill แทนครับ



(ศาสตราจารย์Ann Macaskill)

การให้อภัยทำให้โลกหมุนไป
สังคมดำเนินไปได้เพราะผู้คนให้อภัยกัน
และครอบครัวมีอยู่เพื่อสิ่งนี้
นั่นคือมีช่วงที่ทะเลาะกันและมีช่วงเรียนรู้ที่จะให้อภัยกัน


ตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
เราได้เห็นการทำลายล้างของมนุษย์ที่ไม่ยอมให้อภัยกัน
ความคั่งแค้นและการจองเวรที่มีผลออกมาเป็นสงคราม
เป็นการปะทะกันและการขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติ


เป็นที่ปรากฏชัดว่ามนุษย์มีสมรรถภาพไม่จำกัดในการทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด
บางครั้งเป็นไปโดยตั้งใจ
และบางครั้งก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ที่พาไป
หรือเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน

จริงๆ แล้วมีหลายกรณีที่แยกออกได้ยากมากว่าใครทำร้ายใครกันแน่
และมักจะพบเสมอว่าแต่ละฝ่ายรู้สึกว่าตัวเองต่างหากที่ถูกทำร้าย


ไม่ว่าจะถูกทำร้ายด้วยสาเหตุใดก็ตาม
คนที่ถูกทำร้ายส่วนใหญ่จะให้อภัยได้ยากมาก
เรายังคงความขุ่นแค้นและความเจ็บปวดอยู่ได้นานหลายปี




อาจเป็นไปได้ที่การกระทำบางอย่างไม่สามารถให้อภัยได้
แต่การที่เรายังคงเจ็บปวดจากการกระทำของใครก็ตาม
นั้นหมายความว่าเขาคนนั้นยังคงเป็นฝ่ายชนะเรา
ยังคงทำร้ายชีวิตของเราวันแล้ววันเล่า

ส่วนใหญ่แล้วคนที่ทำร้ายเราก็ใช้ชีวิตไปตามทางของเขา
ความขุ่นแค้นเจ็บปวดของเราไม่มีผลต่อชีวิตของเขาเลย
และเขาแทบจะไม่ได้คิดถึงเราด้วยซ้ำ

ดังนั้นเราควรจะถามตัวเราเองว่าความเจ็บปวดแบบนี้คุ้มค่าไหม
การที่เรายังคงความขุ่นแค้นเอาไว้
การที่ยังหล่อเลี้ยงความรู้สึกถูกทำร้ายเอาไว้นั้น
มันคุ้มค่าหรือกับการได้รับความเจ็บปวด
กับการที่ติดอยู่กับอดีต
และกับความไม่สามารถที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้

อย่างไรก็ดีมีช่องว่างมหาศาลระหว่างความตั้งใจจริงที่จะให้อภัยกับการให้อภัยได้จริง
อย่างแรกเป็นเรื่องของความคิด
แต่อย่างหลังเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจ
มิใช่ว่าแค่เพียงแต่คิดให้อภัยก็ให้อภัยกันได้

คนทั่วไปเมื่อคิดที่จะให้อภัย
ก็ทำแต่เพียงแค่ตัดสินใจให้อภัย
แต่ไม่ทำอะไรเลยเพื่อให้เกิดจิตใจอภัยจริงๆ
ผลก็คือปัญหาต่างๆ ก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม

เรายังมีความคิดแบบเพ้อฝันในเรื่องการให้อภัยอยู่มาก

ไม่มีหนทางราบรื่นสำหรับคนที่คิดจะให้อภัย
จริงๆ แล้วมีสิ่งยากมากมายที่ต้องทำ
มีความเจ็บปวดอีกมากที่ต้องเผชิญ
มีทางเลือกมากมายที่รอการตัดสินใจ
ต้องใช้เวลานาน
ต้องมุ่งมั่นจริงๆ
ต้องมีเป้าหมายชัด
จึงจะสามารถเปลี่ยนตนเองให้เป็นคนที่พร้อมจะให้อภัยได้

ฉันขอแนะนะว่าให้คุณเริ่มทำการให้อภัยทันทีเลย
เพราะเป็นการดีกว่าอยู่แล้วที่เราจะพยายามทำเพื่อเพื่อให้ตัวเองคลายความระทมทุกข์
คลายความเจ็บปวด และคลายความโกรธ
ถึงแม้ว่าการให้อภัยทั้งหมดจะเป็นไปไม่ได้
หรือไม่น่าปรารถนาก็ตาม
อาจบางทีหลายสิ่งหลายอย่างก็เป็นไปไม่ได้


เราก็เป็นเพียงคนๆ หนึ่ง
ทำอะไรไม่ได้มากในความผิดพลาดของคนอื่น

ปฏิกิริยาของสังคมที่มีต่อคุณมีส่วนช่วยมากในการให้คุณมีความหวังขึ้นมา

(ยังมีต่อครับ)
ฮักเกิ้ล
 

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby pepsi » Thu Dec 04, 2008 5:44 am

ผมเป็นแค่คนธรรมดาและไม่ใชนักบุญ
เพราะฉนั้น การให้อภัยในความคิดของผม ต้องดุว่า
การให้อภัยนั้นจะก่อให้เกิดผลอย่างไร ทั้งต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น และต่อสังคมส่วนรวม :twisted: :twisted:
คนไทย ใช้ประชาธิปไตยได้ โง่ และ เลว ที่สุด เท่าที่มีระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นมา
User avatar
pepsi
 
Posts: 426
Joined: Wed Oct 22, 2008 11:46 pm

Re: เมื่อตะวันตกไตร่ตรองถึงเรื่องการให้อภัย (In Search Of Forgi

Postby ฮักเกิ้ล » Wed Dec 10, 2008 12:11 am

(ต่อครับ)

(ศาสนาจารย์ Julie Nicholson)
ดังนั้นมีคนพิเศษบางคนที่ให้อภัยได้ง่ายๆ หรือ

(ศาสตราจารย์Ann Macaskill)
คนเรามีความแตกต่างกันมากมายมหาศาลในการให้อภัย
กล่าวได้ว่าเราใช้คุณสมบัติในการให้อภัยนี้เป็นเครื่องวัดความแตกต่างของบุคลิกภาพ

และดูเหมือนว่าความสามารถในการให้อภัยนี้เมื่ออยู่กับใครแล้วก็อยู่อย่างนั้น
คือมีความคงตัวสูง มีอิสระ
เวลาผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่เปลี่ยนแปลง
มีข้อยกเว้นว่าคนเราจะให้อภัยได้ง่ายขึ้นเมื่อแก่ตัวลง

คนที่ยากที่จะให้อภัยจะไม่มีทางเข้าใจคนที่เข้าใจคนที่ให้อภัยง่ายๆ ว่าอภัยได้อย่างไร
ความให้อภัยที่มีไม่เท่ากันในแต่ละคนนี้ ดูเหมือนว่ามันจะมีอยู่แล้วอย่างนั้น
โดยที่เรายังไม่รู้ว่ามันมาจากไหน


และถ้าเรามีความเชื่อมั่นในความไม่ยุติธรรมของสังคม
เราก็เพียงแต่ให้อภัย

เมื่อใด
เรามีความเชื่อว่าสังคมนี้ไม่ยุติธรรม
สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นได้เสมอ
เรื่องร้ายๆ กลับเกิดขึ้นกับคนที่ทำดี
และมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
เมื่อนั้น
เราก็จะอภัยได้ง่ายขึ้น
เพราะเราคาดการณ์ไว้แล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แต่ถ้าอะไรที่เราคาดไว้ไม่เกิดขึ้น
เราก็เลี้ยงฉลอง


เมื่อใด
เราถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็กจากสังคม
และอภิปรายกันว่าสังคมต้องยุติธรรม ต้องมีเสรีภาพ
เมื่อนั้น
เราจะหัวเสียมาก
เมื่อสังคมไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ขอจบเนื้อหาจาก BBC เพียงเท่านี้ครับ


เดิมที่นั้นนักจิตวิทยาไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องการให้อภัย
เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องของศาสนา
เมื่อหันมาสนใจ
จึงเกิดมีการไตร่ตรองขึ้นมา ๓ เรื่องคือ

๑.ความหมาย
แต่ละคนให้ความหมายของคำว่า “Forgiveness” แตกต่างกันไป
ดังนั้นจึงต้องมีความหมายร่วม
เพื่อให้เข้าใจร่วมกันว่ากำลังพูดถึงเรื่องเดียวกันอยู่

๒. ทางเลือก
การให้อภัยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วหรือในสถานการณ์เช่นนี้
ควรเลือกทางอื่นก่อนจะดีกว่าไหม
หรือควรเลือกที่จะไม่ให้อภัย

๓. เงื่อนไข
การให้อภัยควรมีเงื่อนไขหรือไม่
การมีเงื่อนไขคือ
ก. ต้องมีความรู้สึกสำนึกเสียใจจากผู้ทำร้ายจึงจะให้อภัยได้
ข. การกระทำบางอย่างให้อภัยไม่ได้
ถ้าไม่มีเงื่อนไขก็ตรงกันข้ามครับ
ฮักเกิ้ล
 


Return to ห้องสาธารณะ



cron