ผมเป็นพันธมิตรคนหนึ่ง ผมขอสารภาพถึงแผนการของแกนนำพันธมิตรที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 ที่จะถึงนี้
ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมวางแผนด้วย ได้ฟังผลการประชุมแล้ว ต้องขอทรยศต่อกลุ่มที่ผมเคยเข้าร่วมด้วยอุดมการณ์ ออกมาสารภาพถึงแผนการที่จะมีขึ้นดังนี้
ก่อนอื่นจากการเข้ายึดทำเนียบรัฐบาลนอกจากใช้เป็นที่มั่นของกลุ่มเราตามที่ทราบกันแล้วนั้น สิ่งที่บุคคลภายนอกไม่ทราบคือได้มีการขนทรัพย์สินมีค่าภายในตึกต่างๆ เช่น ตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ตึกนารีสโมสร ที่สำคัญได้มีการงัดแงะตู้เซพใหญ่ของสน.นายกรัฐมนตรี ได้แก่เครื่องใช้ไม้สอย ของขวัญมีค่าจากประเทศต่างๆ เช่นรูปภาพ ของเก่า ที่หาค่าไม่ได้ ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนกับกรมศิลปากรไว้ทุกชิ้น มีเอกสารสำคัญของประเทศ และเงินสดอีกหลายสิบล้านบาท ซึ่งแกนนำเป็นผู้ได้ขนย้ายและนำไปเก็บซ่อนไว้แล้วทั้งหมด ซึ่งพวกผมไม่ได้รู้เห็น หรือได้ประโยชน์จากการนี้เลยไม่ เมื่อเหตุการณ์จบลงวันใดวันหนึ่ง ต้องมีการเข้าไปตรวจสอบของในทำเนียบแน่นอน และเรื่องจะแดงขึ้นมาว่ามีสิ่งใดสูญหายไปบ้าง ซึ่งในขณะนี้ข่าวการขนของออกไปเก็บไว้นั้นเริ่มรั่วไหลออกไปบ้างแล้ว ทำให้แกนนำเกิดความร้อนใจมาก
เมื่อเป็นเช่นนี้ แผนที่แกนนำวางไว้คือต้องมีการทำลายหลักฐานทั้งหมดทั้งสิ้นด้วยการ เผาทำลายทำเนียบรัฐบาลและเคลื่อนย้ายมวลชนไปยึดรัฐสภาเป็นที่มั่นต่อไป โดยจะปล่อยข่าวว่ารัฐบาลใช้กำลังเข้าปราบพวกเราและใช้อาวุธสงครามทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น เป็นการทำลายหลักฐานที่แยบยลที่สุด
ในฐานะที่ผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่หลวมตัวเข้ามาร่วมรับรู้ รู้เห็นกับการกระทำของแกนนำพันธมิตรที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนอย่างที่สุด จนยอมทำลายทำเนียบรัฐบาล อันเป็นโบราณสถานที่สวยงาม และมีประวัติศาสตร์ยาวนานและที่คาดเดาไม่ได้คือ อาจจะมีพี่น้องที่เป็นเหยื่อเสียชีวิตจากแผนการนี้อีกก็เป็นไปได้ ทั้งหมดนี้ขัดกับความรู้สึกของผมจนไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป จึงต้องขอแจ้งข่าวนี้ให้พี่น้องประชาชนเพื่อให้ทราบว่าแท้ที่จริงแล้วแกนนำทั้งหลายล้วนมีส่วนแบ่งผลประโยชน์ โดยไม่ได้รักประเทศชาติ หรือห่วงชีวิตพี่น้องอย่างที่พร่ำพูดแม้แต่น้อยทำให้ผมผิดหวัง หมดศรัทธา จนไม่อาจทนร่วมมือต่อไปได้
สุดท้ายนี้ผมไม่สามารถออกมายืนยันความจริงด้วยตนเองได้ แต่หวังว่าสิ่งที่ผมพูดจะสามารถไถ่บาปให้ตัวเองได้ไม่มากก็น้อยหลายๆครั้งที่ผมไม่สามารถรับกับแผนการของแกนนำได้ ได้แต่เสียใจกับเหตุการที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะการบาดเจ็บ สูญเสียของพี่น้องประชาชนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย และในครั้งนี้ผมขอออกมาพูดก่อนที่จะสายเกินไปเพื่อให้มีการระวังป้องกันทางใด ทางหนึ่งไม่ให้เกิดเหตุการณ์สลดนี้ขึ้น เป็นวิธีเดียวที่ผมทำได้ในขณะนี้
โปรดใช้วิจารณาญานในการอ่านครับ...ที่มา
http://prachachonthai.com/www/index.php ... 4&Itemid=1