**กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby มาดู » Mon Mar 02, 2009 2:21 pm

มาดูลาดเลา :lol:
มาดู
 

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby อธิฏฐาน » Mon Mar 02, 2009 3:34 pm

เสียดายคุณจีปิดกระทู้โหวตชื่อหนังสือไปแล้ว ไม่งั้นจะมีคนเสนอชื่อหนังสือเล่มใหม่

"เจ็บยังไงก็ไม่ชิน"
User avatar
อธิฏฐาน
 
Posts: 3001
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:18 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby Unnamable » Mon Mar 02, 2009 3:43 pm

อธิฏฐาน wrote:เสียดายคุณจีปิดกระทู้โหวตชื่อหนังสือไปแล้ว ไม่งั้นจะมีคนเสนอชื่อหนังสือเล่มใหม่

"เจ็บยังไงก็ไม่ชิน"


ลืมตอบคุณไปที่คำถามที่ว่า หากคนที่คอยกระแนะกระแหนเ้จ้า ควรทำอย่างไรดี

คำตอบก็คือ เท่าที่ผมรู้ เว็บที่มีคนโพสต์หมิ่นกันเยอะๆ เคยเบาไปสักช่วงหนึ่งมั้งครับ

หลังกฏหมายมาตรา 112 มีการปรับปรุง ความผิดทางเว็บบอร์ดจะชัดเจนมากขึ้น(เพราะถูกบัญญัติความผิดไว้ ต่างจากปัจจุบันที่ยังต้องนั่งตีความ)

แต่คนที่ซวยก็คือเว็บมาสเตอร์ ซึ่งผมว่ามันก็คงต้องยอมรับในส่วนนั้น

ไม่รู้ตอบตรงคำถามคุณหรือเปล่านะครับ
Nothing to say,
see you in the battle.

;)
User avatar
Unnamable
 
Posts: 1289
Joined: Mon Oct 27, 2008 9:08 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby BlueFoot » Mon Mar 02, 2009 3:47 pm

ท่านๆครับ หยุดรบกันเถอะ หรือพักรบกันชั่วครู่ก็ยังดี
หม่ายเซียอ่า ... นั๊งเซียอ่าแปะเอี่ยเก๊าเซียก๋านา อิ๊อิ๊


ท่านๆเข้ามาอ่าน 2 กระทู้นี้กันก่อนเถอะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นๆๆๆเห็นๆ

1) http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=1433.0

2) http://topicstock.pantip.com/rajdumnern ... 69431.html

3) http://topicstock.pantip.com/rajdumnern ... 42926.html


ต้องอ่านครบทั้ง 3 กระทู้นะครับ ... เสียเวลานิดหน่อย ไม่เกิน 10-15 นาที
User avatar
BlueFoot
Moderator
 
Posts: 1927
Joined: Mon Mar 02, 2009 1:16 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby Unnamable » Mon Mar 02, 2009 4:13 pm

BlueFoot wrote:ท่านๆครับ หยุดรบกันเถอะ หรือพักรบกันชั่วครู่ก็ยังดี
หม่ายเซียอ่า ... นั๊งเซียอ่าแปะเอี่ยเก๊าเซียก๋านา อิ๊อิ๊


ท่านๆเข้ามาอ่าน 2 กระทู้นี้กันก่อนเถอะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นๆๆๆเห็นๆ

1) http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=1433.0

2) http://topicstock.pantip.com/rajdumnern ... 69431.html

3) http://topicstock.pantip.com/rajdumnern ... 42926.html


ต้องอ่านครบทั้ง 3 กระทู้นะครับ ... เสียเวลานิดหน่อย ไม่เกิน 10-15 นาที


โหย ยิ่งดูยิ่งโมโห ตอนนั้นกว่าจะแต่งได้ทีเสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ ออกมายังสำนวนดูไม่ได้อีก



เอ้อ ไม่รู้ท่านลี้ถ้ำฮวยกับท่านดาราเดชยังสบายดีอยู่ไหมหนอ? คิดถึงพวกคุณชิบหาย
Nothing to say,
see you in the battle.

;)
User avatar
Unnamable
 
Posts: 1289
Joined: Mon Oct 27, 2008 9:08 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Mon Mar 02, 2009 4:36 pm

เออ....เป็นกระทู้ที่มีล็อกอินใหม่สมัครมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะเยอะจริงๆ
เอาเป็นว่าถ้าเป็นคนใหม่จริงๆนะ "เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน"
ถ้าเป็นคนเก่าแต่อยากโพสแบบเพลเซพ "ใจคนยากแท้หยั่งถึง"
แต่ไม่ว่าจะเก่าจะใหม่แล้วยกเรื่องนี้มา "มันก็ไม่เกี่ยวกันเลย"
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Mon Mar 02, 2009 7:18 pm

เพิ่งทราบเหมือนกันว่า คุณ ลูกไทยหลานไทย เจ้าบทเจ้ากลอน

:?


อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลา ประจำที่ครับพี่น้อง

เร่เข้ามา ๆ :lol:

ต่ออีกยก
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ริวเซย์ » Mon Mar 02, 2009 9:15 pm

สันติวิธี ให้อภัยกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะจะทำให้ปัญหาจบลงอย่างรวดเร็ว

ผมเคยบอกแล้วแต่ดูเหมือนไม่มีใครเชื่อ กระทู้ก็เลยลากยาวมาจนถึงหน้า10กว่าแล้ว


เอาเถอะ มาอ่านรอบนี้ผมคงไม่ห้าม ถ้ายังไม่สาแก่ใจก็มาต่อกันเถอะครับ

ถึงหน้า100หน้า1000จะเป็นไรไปจริงไหมครับ?

อย่าเพิ่งเลิกไปก่อนนะ ผมกำลังตามอ่านมันส์เลย อีก5วันผมจะกลับมาดูอีกรอบ
หากดอกไม้แย้มบานในใจแห่งผู้คนที่ทุกข์ทน
ความสว่างส่องทางสับสนด้วยความรักที่มอบแก่กัน
ให้ดอกไม้นั้นแทนความงามแห่งน้ำใจ ยิ่งใหญ่
เมฆหมอกก็คงสลาย ด้วยดอกไม้คือความสดใสในแสงตะวัน
คือดอกไม้อันดีงาม คงอยู่ด้วยความสดใส
คือดอกไม้ของน้ำใจ งดงามเพียงใดให้แก่กัน
User avatar
ริวเซย์
Site Admin
 
Posts: 3386
Joined: Fri Oct 17, 2008 12:34 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby scorpio6 » Mon Mar 02, 2009 9:24 pm

ริวเซย์ wrote:สันติวิธี ให้อภัยกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะจะทำให้ปัญหาจบลงอย่างรวดเร็ว

ผมเคยบอกแล้วแต่ดูเหมือนไม่มีใครเชื่อ กระทู้ก็เลยลากยาวมาจนถึงหน้า10กว่าแล้ว


เอาเถอะ มาอ่านรอบนี้ผมคงไม่ห้าม ถ้ายังไม่สาแก่ใจก็มาต่อกันเถอะครับ

ถึงหน้า100หน้า1000จะเป็นไรไปจริงไหมครับ?

อย่าเพิ่งเลิกไปก่อนนะ ผมกำลังตามอ่านมันส์เลย อีก5วันผมจะกลับมาดูอีกรอบ


เห็นด้วยครับคุณริวเซย์ 1เสียงครับ"พี่น้องเสรีไทย" :roll:
Man-on-Mission>สันติภาพ
Another way is possible
scorpio6
 
Posts: 256
Joined: Mon Oct 13, 2008 6:57 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby Unnamable » Mon Mar 02, 2009 11:01 pm

soco wrote:เพิ่งทราบเหมือนกันว่า คุณ ลูกไทยหลานไทย เจ้าบทเจ้ากลอน

:?


อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลา ประจำที่ครับพี่น้อง

เร่เข้ามา ๆ :lol:

ต่ออีกยก


หุ หุ ฝีมืออ่อนด้อยครับ พี่อังฯเคยสอนๆอยู่แต่ผมมันยังข้ามอุปสรรคไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่เหมือนบางคน พิมพ์ปื้ดๆยังกับสายน้ำ เป็นพรสวรรค์ที่น่าอิจฉา

สงสัยคืนนี้ต่างฝ่ายคงจะแยกย้ายกลับที่ตั้งกันชั่วคราวมั้งครับ :mrgreen:
Nothing to say,
see you in the battle.

;)
User avatar
Unnamable
 
Posts: 1289
Joined: Mon Oct 27, 2008 9:08 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Mon Mar 02, 2009 11:21 pm

Unnamable wrote:
soco wrote:เพิ่งทราบเหมือนกันว่า คุณ ลูกไทยหลานไทย เจ้าบทเจ้ากลอน

:?


อาบน้ำอาบท่า กินข้าวกินปลา ประจำที่ครับพี่น้อง

เร่เข้ามา ๆ :lol:

ต่ออีกยก


หุ หุ ฝีมืออ่อนด้อยครับ พี่อังฯเคยสอนๆอยู่แต่ผมมันยังข้ามอุปสรรคไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ไม่เหมือนบางคน พิมพ์ปื้ดๆยังกับสายน้ำ เป็นพรสวรรค์ที่น่าอิจฉา

สงสัยคืนนี้ต่างฝ่ายคงจะแยกย้ายกลับที่ตั้งกันชั่วคราวมั้งครับ :mrgreen:



โชคดีนะครับที่ท่าน ลูกไทยหลานไทย

ไม่เหมือนผ้ม

ผมแทบไม่เป็นเลย หากเข้าไปแจม ต้องบอกว่าลอกเค้ามา


อ.อังฯ เคยทราบ ผมเคยไปแจมเรื่องข้าวหอมมะลิ เปิดตำราลอกเลย

:D


ก็ไม่ทราบหรอกว่า กลอนมันจะเวียนหัวปานนั้น หากอ่อนหัด เราย่อมคิดได้ ถอยมาดีกว่า ไม่อาวว ดีกว่า ...
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby คนในวงการ » Tue Mar 03, 2009 12:35 am

ริวเซย์ wrote:สันติวิธี ให้อภัยกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะจะทำให้ปัญหาจบลงอย่างรวดเร็ว

ผมเคยบอกแล้วแต่ดูเหมือนไม่มีใครเชื่อ กระทู้ก็เลยลากยาวมาจนถึงหน้า10กว่าแล้ว


เอาเถอะ มาอ่านรอบนี้ผมคงไม่ห้าม ถ้ายังไม่สาแก่ใจก็มาต่อกันเถอะครับ

ถึงหน้า100หน้า1000จะเป็นไรไปจริงไหมครับ?

อย่าเพิ่งเลิกไปก่อนนะ ผมกำลังตามอ่านมันส์เลย อีก5วันผมจะกลับมาดูอีกรอบ




เมื่อเช้าที่ผ่านมา ผมได้คุยกับเพื่อนในเสรีไทยคนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ผ่าน MSN เขาถามผมว่า ผมอยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร ผมตอบไปว่า ผมไม่อยากอะไรทั้งสิ้น เพราะตอนจบของกรณีเบื้องหลัง + ปิดบัญชี หนังสือยังไงก็ไม่ชินมันถูกกำหนดอยู่ในตัวมันเองอยู่แล้วคือ

1. คุณบอนนี่ออกมาเผชิญหน้ากับความจริง พูดเรื่องจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเรื่องก็จะจบลงแบบไม่มีใครติดใจค้างคากันอีกต่อไป เพราะถือว่าได้ให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

หรือ

2. คุณบอนนี่เลือกที่จะทำแบบเดิมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา คือเลือกที่จะเงียบไป หายไปสักระยะ ให้คนที่ตามขุดคุ้ยเลิกลากันไปเอง ซึ่งก็คือการหนีความจริง แน่นอนว่าการเลือกที่จะหนี ก็เป็นทางออกที่ได้ผล

เพื่อนคนนั้นเลยบอกว่า ถ้างั้นเรื่องนี้คงจะจบในแบบที่ 2 เพราะเขารู้จักคุณบอนนี่มานาน เป็นแฟนประจำกระทู้คุณบอนนี่มาตั้งแต่ครั้งราชดำเนิน (อ้อ เพื่อนคนนี้เป็นสมาชิกขบวนการฯ ด้วยนะครับ - เผื่อลุงแคนนึกสงสัยขึ้นมาอีกจะได้ไม่เสียเวลาถาม) เขาบอกว่าทุกครั้งที่คุณบอนนี่เจอปัญหา คุณบอนนี่มักเลือกที่จะเงียบหายไป

ผมบอกเขาว่า SO BE IT ถ้าคุณบอนนี่เลือกที่จะหนี ก็ต้องหนีไปชั่วชีวิต แต่ไม่ได้หนีพวกผมหรอก ไม่มีใครตามล้างตามผลาญคุณบอนนี่ได้ตลอดชีวิต อีกสักพักพวกผมก็เบื่อกันแล้ว แต่คุณบอนนี่ต้องหนีสิ่งที่เรียกว่า "ความจริง" ความจริงที่จะตามหลอกหลอนคุณบอนนี่ ทุกครั้งเวลาที่คุณบอนนี่คิดเรื่องนี้ขึ้นมา ทุกครั้งที่มีใครพูดถึงหนังสือเล่มนี้ ทุกครั้งที่คุณบอนนี่คิดจะทำหนังสือสักเล่ม

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ "ความจริง" มันไม่เคยเปลี่ยนแปลง สมาชิกในเสรีไทยเว็บบอร์ดอาจผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า แต่ "ความจริง" ก็ยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ เพราะหนึ่งในคนที่รู้ความจริงคือตัวคุณบอนนี่เอง ถ้าเลือกที่จะหนี ก็ต้องหนีไปตลอดชีวิต ความจริงในเรื่องนี้จะกลายเป็นรอยด่างพร้อยในใจคุณบอนนี่ไปตลอดกาล

SO BE IT!!


คุณริวเซย์บอกว่า "สันติวิธี ให้อภัยกัน เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพราะจะทำให้ปัญหาจบลงอย่างรวดเร็ว" สันติวิธี ให้อภัยกันในขณะนี้ ในเวลานี้ ในเงื่อนไขที่คุณบอนนี่ใช้สำนวนการเขียนกล่าวหาโจมตีคนที่เคยร่วมงาน เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่นอย่างไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้ ไม่ได้ทำให้ปัญหาจบลงอย่างรวดเร็วอย่างที่คุณริวเซย์คิดหรอกครับ แต่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะกลบปัญหาให้พ้นหูพ้นตาคุณริวเซย์แค่นั้นเอง

ที่จริงผมเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ว่าวีธีที่ดีที่สุดคืออะไร? ผมว่าคุณริวเซย์ไม่ได้อ่าน หรือคงอ่านผ่าน ๆ หลงหูหลงตาไป เพราะบังเอิญลุงแคนอมยิ้มพลีชีพรุ่นชรามาโชว์ความเก๋าเป็นแน่ ถ้าพอจะมีเวลาว่าง เบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ ก็ลองย้อนกลับไปอ่านดูนะครับ

viewtopic.php?f=2&t=4436&st=0&sk=t&sd=a&start=600#p92707



ความจริงรับใช้ตัวมันเองอย่างซื่อสัตย์เสมอ หนีไม่พ้นหรอกครับ ....
"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee. Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
User avatar
คนในวงการ
 
Posts: 36
Joined: Tue Feb 10, 2009 3:22 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Tue Mar 03, 2009 12:40 am

หากมีคนคุยกะคุณในวงการ คุยเอ็มกัน มีจริง

ต้องอ้างถึง

ไม่ใช่ยกเมฆมา

ครับ


ผมเริ่มยกใหม่ให้ ดูคนเขียนนิยายว่า จะไปได้กี่น้ำ
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Tue Mar 03, 2009 12:42 am

Unnamable wrote:
BlueFoot wrote:ท่านๆครับ หยุดรบกันเถอะ หรือพักรบกันชั่วครู่ก็ยังดี
หม่ายเซียอ่า ... นั๊งเซียอ่าแปะเอี่ยเก๊าเซียก๋านา อิ๊อิ๊


ท่านๆเข้ามาอ่าน 2 กระทู้นี้กันก่อนเถอะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นๆๆๆเห็นๆ

1) http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=1433.0

2) http://topicstock.pantip.com/rajdumnern ... 69431.html

3) http://topicstock.pantip.com/rajdumnern ... 42926.html


ต้องอ่านครบทั้ง 3 กระทู้นะครับ ... เสียเวลานิดหน่อย ไม่เกิน 10-15 นาที


โหย ยิ่งดูยิ่งโมโห ตอนนั้นกว่าจะแต่งได้ทีเสียเวลาเป็นชั่วโมงๆ ออกมายังสำนวนดูไม่ได้อีก



เอ้อ ไม่รู้ท่านลี้ถ้ำฮวยกับท่านดาราเดชยังสบายดีอยู่ไหมหนอ? คิดถึงพวกคุณชิบหาย





คุณ ลูกไทย หลานไทย สบายดีนะคะ


ไม่เจอกันนาน...เห็นกลอนที่แต่ง...รื่นไหลงดงามดี

แบบนี้เค้าเรียกว่า...กลอนสัมผัสใจค่ะ...อย่าเขินอย่าอาย
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby Canthai » Tue Mar 03, 2009 12:48 am

ตะกร้าสร้างนักเขียนมาแล้วทุกยุค
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Tue Mar 03, 2009 12:50 am

ขอบคุณ คุณในวงการค่ะ ที่ชี้ประเด็นแยกแยะประเด็น

ความผิดถูกให้เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น

คนที่ถูกกล่าวหา...ไม่กล้าเผชิญความจริง

เราเป็นคนที่มาหาความถูกต้อง...กลับถูกด่า ป้ายสีแบบสกปรก


ไม่ถอยหรอกค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Tue Mar 03, 2009 12:52 am

Image


ชงกาแฟมาครับพี่น้อง อาหารว่าง ผมรับเสริฟให้

งานนี้ไม่อั้น
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Tue Mar 03, 2009 12:56 am

พยายามเข้า...พยายามมากๆที่จะโชว์ตัวตนของคนที่ต้องการกลบเกลื่อน


ไม่อยากให้ความจริงปรากฎ...เพราะใครบางคนกำลังหนีความจริงแบบสุดชีวิต


หนีได้หนีไป...หายหน้าไปสักพัก...คนไทยลืมง่ายจะตาย
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby see-u » Tue Mar 03, 2009 10:05 am

* ตอนที่ใช้บอร์ดเก่า ... ดิฉัน ไม่ค่อยได้อ่านหรือพูดคุยกะคุณคนในวงการทางหน้า กระทู้ มากนัก ( หลังไมค์ก็ไม่เคย ) มาอ่านความเห็นคุณในวงการ จากหลาย ๆ คำตอบใน กระทู้ นี้ ... ทำให้คิดว่า คุณคนในวงการ ค่อนข้างจะเป็นคนที่มีเหตุมีผล และน่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีกระบวนการคิดที่ดี , มี EQ ค่อนข้างสูงคนหนึ่ง เพราะ ดูจากการพูดคุยที่แสดงออกมา ถ้าคนที่ไม่ได้มีเจตนามาหาเรื่อง หรือ มีเป้าหมาย มีอคติ กะ ล็อคอิน นั้น ๆ ย่อมจะแยกออกในเรื่องที่เขาเขียน และเรื่องของเหตุที่เกิดกับผลที่ตามมาได้ไม่ยาก

กระทู้ นี้ ... หลังจากที่ บอนนี่ เขามาโพสตอบ 21 คำถามแบบขี้โม้ชมตัวเองในหน้าที่ 8 ของกระทู้ ( ซึ่ง ดิฉัน ยังไม่ได้เขียนตอบถึง 20 ข้อที่เขาโม้ไว้เลยนะจ๊ะ อย่าลืม :lol: ) ... ก็มีสมาชิกหลายคนที่ตามเรื่องนี้อยู่มาอ่านแล้วรู้สึกว่ามันขัดแย้งกันในคำพูดตัวเองอีกแล้ว .. เขาก็ออกมาพูดว่า ที่ บอนนี่ เขียนมันเอาดีใส่ตัวข้างเดียวเลยน่ะ ... และก็มีการโต้แย้งกัน


กระทู้ นี้ .. เละเทะมากในการโพสหน้าที่ 11 - 12 ซึ่งถ้าใคร ๆ กลับไปอ่านก็จะเห็นว่า มีใครบ้างที่เข้ามาพูดจาในลักษณะแบบไหน ซึ่งไม่ยากเลยเพราะตัวหนังสือมันฟ้องอยู่เห็น ๆ .. ว่าอยู่ ๆ ก็มีการเข้ามาเขียนยั่วยุกัน ซึ่งคนที่ทำพฤติกรรมนั้นลงไปเขาคงคิดแบบรอบคอบแล้วว่า มันคือเรื่อง ที่ดีสำหรับตัวเขา .. :o ก็ว่ากันไปค่ะ ( เพราะถ้าเรื่องจะเกินเลยไปจนอาจ.... !!! อันนี้ก็แล้วแต่คู่กรณีว่าเขาจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพราะ คงห้ามไม่ได้ )

ส่วนใครที่คิดว่า ... สมาชิกที่เข้ามาถามเรื่อง ทู้ ปิด หนังสือยังไงก็ไม่เคลียร์ :lol: ต้องการจะเข้ามาเพื่อที่จะทะเลาะ คงจะเข้าใจผิด ... เพราะเขาไม่ได้มาเพื่อโต้แย้ง กะ คนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ( ถึงจะมีการพยายามก็เหอะ ) ทู้ นี้น่าจะชัดเจนว่าคนที่เพื่อนสมาชิกจะซักถามมีอยู่แค่ 2 คน เท่านั้น คือ เม่ย กะ บอนนี่ .. ซึ่งการกลับเข้ามาโพสตอบอีกครั้งในหน้าที่ 8 แล้วมีการรวบรัดว่า เห็นมั๊ย เขามาตอบแล้วงั้นจบเลยนะ ห้ามพูด ห้ามถาม อีก ? ... มันเป็นเหตุผลที่หน่อมแน้มเกินไปน่ะ ดิฉัน ว่า :lol:

ส่วน บอนนี่ จะทำอย่างไรต่อไป ดิฉัน คิดแบบคุณคนในวงการว่า .... เลือกวิธีเงียบหายไปสักระยะ เพราะเห็นพฤติกรรมแบบมีมาตั้งแต่กรณีเรื่องแบ่งฝันอมเงินแล้ว ( เอาไว้ถ้ามีเวลาจะมาสรุปประเด็นที่คุยกันใน ทู้ ปิดบัญชีนี้ให้อีกที )

ความจริงรับใช้ตัวมันเองอย่างซื่อสัตย์เสมอ หนีไม่พ้นหรอกค่ะ .... ( ขอยืมคำพูดนี้หน่อยละกัน )
Last edited by see-u on Tue Mar 03, 2009 10:16 am, edited 1 time in total.
* See - U Never Die *

** ข้ออ้างจากพวกหิวคะแนน..

แมงสาบ : ไม่เลือกเราเขา (แม้ว) มาแน่
ตะกวดแดง : เลือกเรา "แม้ว"จะกลับมา


ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา : ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชน
User avatar
see-u
 
Posts: 5073
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:04 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby Canthai » Tue Mar 03, 2009 10:14 am

หนังสือการเมือง ย่อมมีการเมืองเลือกข้าง

หนังสือการมุ้ง มันก็ยุ่งเพราะการมุ้ง

ยิ่งมีเรื่อง "ปาฏิหารย์" มันยิ่งร้าวราน...หัวใจ


ทำให้นึกถึงเพลง ที่สุชาติ ชวางกูร ร้องคู่ กับอัญชะลี ไพรีรัก ทำปากพะงาบๆ
คอยงับเสียงร้องของ กรรณิการ์ อารีสมาน ร้องเสียงจริง..

.โอ..มลุลีค่ำนี้มืดมน...ช้ำเหลือทนอับจนหัวใจ...ลืม...รักที่ผ่านดังฝันชั่วคืน...ครั้งพอตื่นกลับคืนหายไป..

คิดแล้วคงพอนึกภาพออก..."ปาฎิหารย์"...บางเรื่อง มันทนม่ายด๊ายยยยยย


ดังนั้นบทบาทของ "บอนนี่ แอนด์ ไคลน์" จึงต้องให้ตายด้วยคมกระสุนพรุนไปทั้งร่าง โดยกลุ่มตำรวจที่ซุ่มรุมยิงตายข้างรถหน้าธนาคาร

นับเป็นฉากสุดระทึก สยดสยอง ชนิดสาวๆ ไม่กล้ามอง

ฉากนี้มีสตรีหลากหลายอยากแสดงบทนั้น แต่ก็นั่นแหละ ผู้รับบทนั้นในเวที

"ต้องมีคนเดียว"

เอวังก็มีด้วยประการ....ฉนี้
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby see-u » Tue Mar 03, 2009 10:29 am

* ถึงจะมีใครพยายามเบี่ยงประเด็นใน กระทู้ นี้ตลอดเวลา
ก็พยายามไปเหอะค่ะ .. :lol: ดิฉัน ไม่เขวหรอก ;)
แต่อันนี้บอกไว้ล่วงหน้าก่อนเลยว่า ...
ถ้าเมื่อไหร่ที่มีใครก้าวล่วง ดิฉัน แล้วแสดงพฤติกรรมแบบที่ทำกะคุณดอกฟ้าในหน้าที่ 11 - 12
ของกระทู้นี้แบบระบุ ล็อคอิน เมื่อไหร่ ?
ดิฉัน .. ไม่มาเสียเวลามาโพสเถียงในบอร์ดหรอก ... ก็คงรู้นะคะว่า ดิฉัน จะทำอย่างไร
:D
* See - U Never Die *

** ข้ออ้างจากพวกหิวคะแนน..

แมงสาบ : ไม่เลือกเราเขา (แม้ว) มาแน่
ตะกวดแดง : เลือกเรา "แม้ว"จะกลับมา


ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา : ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชน
User avatar
see-u
 
Posts: 5073
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:04 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby Unnamable » Tue Mar 03, 2009 10:33 am

มาปาดน้องซียูแว้บนึง

ขอทักทายคุณดอกฟ้าฯหน่อยครับ ผมสบายดีครับ :lol: เล่นบอร์ดนั้นบ้างบอร์ดนี้บ้าง สลับกันไปมาครับ

อ้ะ เชิญต่อครับ
Nothing to say,
see you in the battle.

;)
User avatar
Unnamable
 
Posts: 1289
Joined: Mon Oct 27, 2008 9:08 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Tue Mar 03, 2009 10:37 am

Canthai wrote:หนังสือการเมือง ย่อมมีการเมืองเลือกข้าง

หนังสือการมุ้ง มันก็ยุ่งเพราะการมุ้ง

ยิ่งมีเรื่อง "ปาฏิหารย์" มันยิ่งร้าวราน...หัวใจ


ทำให้นึกถึงเพลง ที่สุชาติ ชวางกูร ร้องคู่ กับอัญชะลี ไพรีรัก ทำปากพะงาบๆ
คอยงับเสียงร้องของ กรรณิการ์ อารีสมาน ร้องเสียงจริง..

.โอ..มลุลีค่ำนี้มืดมน...ช้ำเหลือทนอับจนหัวใจ...ลืม...รักที่ผ่านดังฝันชั่วคืน...ครั้งพอตื่นกลับคืนหายไป..

คิดแล้วคงพอนึกภาพออก..."ปาฎิหารย์"...บางเรื่อง มันทนม่ายด๊ายยยยยย


ดังนั้นบทบาทของ "บอนนี่ แอนด์ ไคลน์" จึงต้องให้ตายด้วยคมกระสุนพรุนไปทั้งร่าง โดยกลุ่มตำรวจที่ซุ่มรุมยิงตายข้างรถหน้าธนาคาร

นับเป็นฉากสุดระทึก สยดสยอง ชนิดสาวๆ ไม่กล้ามอง

ฉากนี้มีสตรีหลากหลายอยากแสดงบทนั้น แต่ก็นั่นแหละ ผู้รับบทนั้นในเวที

"ต้องมีคนเดียว"

เอวังก็มีด้วยประการ....ฉนี้


เก็บหลักฐาน ;)
มันมีปัญญาแค่นี้ก็ทำได้แค่นี้แหละ
ใครทำอะไรมันก็ชัดอยู่แล้วทั้งเจตนา และสันดาน
เอ๊า...ออกทะเล เอิ๊กๆๆๆๆๆ

เอ๊าแล้วเมื่อไหร่จะตอบ แมร่งนอกเรื่องทั้งนั้น
เขาคุยเรื่องหนังสือกันอยู่เว๊ยยยยยย
หนังสือที่มรึงดอดเอาไปแจกชาวบ้านประหนึ่งเป็นของมริงเองน่ะ
อธิบายมาสิ โถ่เอ๊ย ลูกหมายังน้อยไปมั๊ง
ต้องเรียกว่า"โจรเฒ่า เต่ารู"หลอกเงินบริจาคทำเว็บยังไม่พอ
ยังแอบขโมยเอาหนังสือเล่มละไม่กี่บาทไปด้วย
หลอกแดกเงินชาวบ้านมาตั้งเยอะ แค่นี้ไม่มีปัญญาซื้อไปแจกในนามตัวเองหรือไง ถุ๊ยยยย
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby จีรนุช » Tue Mar 03, 2009 10:47 am

เเค่คนเล่นพีเอ็มจีบกัน ยังเป็นเรื่องให้คุยเเฮะ เราก็นั่งอ่านได้ตั้งสามสี่หน้า
รักเเปะลิ้มมากค่ะ
User avatar
จีรนุช
 
Posts: 5689
Joined: Sun Nov 30, 2008 7:34 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Tue Mar 03, 2009 11:03 am

เอิ๊ก...ใครจะจีบใครผมไม่รู้นะ
แต่พูดถึง pm เนี่ย ผมเห็น Canthai นั่งอ่านนานสองนาน
แล้วก็ส่ง(หรือทำท่าจะส่ง)อยู่หลายทีเหมือนกัน :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby Canthai » Tue Mar 03, 2009 11:26 am

*bonny wrote:11) มีคนบอกว่า คุณ*bonny กับเม่ยเอาความดีความชอบของคุณดอกฟ้ากับหมาวัดไปหมด เธอทำงานหนักคนเดียวในหนังสือเล่มนี้จริงหรือ?

เธอควรจะให้เกียรติทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำหนังสือนะ การพูดว่า หนังสือเล่มนี้ดอกฟ้าทำงานหนักที่สุด ทำคนเดียว เป็นการฉกฉวยผลประโยชน์ใส่ตัวอย่างน่าละอายที่สุด

ลำพังแค่ภาพถ่าย + จัดงานเลี้ยง ทำให้เกิดหนังสือไม่ได้หรอกครับ และโครงการนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่ทำหนังสือจบเท่านั้น

[color=#FF0000]หนังสือสำเร็จได้ เพราะทุกคนมีส่วนร่วมต่างหาก ตั้งแต่คุณเก็ตถวา น้องออฟ คุณอ้อ เม่ย และผม รวมทั้งนักเขียนบทความทุกคน ต้องได้รับคำชื่นชม

หนังสือเล่มนี้ คนซื้อเพราะสาระของบทความนะครับ ไม่ใช่เพราะภาพถ่าย คุณดอกฟ้าต้องจดจำไว้

คนที่ทำงานหนักที่สุดไม่ใช่ดอกฟ้าครับ แต่เป็นน้องเม่ย
ส่วนคนที่เจ็บปวดจากหนังสือเล่มนี้มากที่สุดก็ไม่ใช่ดอกฟ้าอีกเช่นกัน แต่เป็นผม


งานทำหนังสือเล่มหนึ่ง ถ้าตัดเรื่องงานเขียน งานอาร์ต งานพิมพ์ ออกไปแล้ว เหลืองานไม่เยอะหรอกครับ จะว่างานหนักคงไม่ใช่ แต่น่าจะเป็นอาการหนักใจมากกว่า

หลังจากคุณดอกฟ้าลาออกไป น้องเม่ยต้องเป็นคนส่งหนังสือให้กับสมาชิกที่สั่งจองด้วยตัวเองหมด ผมบอกว่าจะช่ายเธอยังไม่ยอมเลย ความจริงผมมีลูกน้องที่ทำงานที่คุ้นเคยกับการทำเรื่องเช่นนี้มาหลายครั้ง แต่เธอยืนยันว่า ไม่หนักหนาอะไร นอกจากนี้ยังต้องทำบัญชีรับจ่ายทั้งหมดดังที่ปรากฏ
น้องเม่ยยังต้องทำเรื่องส่งเงินบริจาคไปยังองค์กรการกุศลต่างๆ ให้ด้วย ล่าสุดหอบหนังสือหลายร้อยเล่มไปบริจาคให้กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงศึกษาจนแล้วเสร็จ

ผมบอกให้เม่ยเบิกค่าพาหนะต่างๆ ที่จ่ายไปแล้วจำนวนมาก ทั้งค่าแท็กซี่ รถไฟฟ้า จยย.รับจ้าง แต่เธอบอกว่า ไม่เอา กลัวเป็นขี้ปากให้คนนินทา

ที่พูดมาไม่ใช่ว่า คุณดอกฟ้าไม่มีผลงานนะครับ เธอก็เป็นคนที่ทุ่มเทให้หนังสือเล่มนี้อย่างมากด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ทุ่มเทนั้นผิดหลักการทำงานร่วมกัน เธอรวบงานบางอย่างไปทำคนเดียวเพราะความหวาดระแวง เกลียดและกลัวครอบงำจิตใจ

เธอลืมไปว่า โครงการนี้ผมเป็นเจ้าของโครงการ เมื่อเริ่มแล้วผมก็ต้องทำจนจบ เริ่มที่ผมก็ต้องจบที่ผม ไม่ใช่จบที่คุณดอกฟ้าหรือใครๆ ต่อให้เธอทำงานคนเดียว 100% ยังไงก็มีสถานะผู้ร่วมงานไม่ใช่เจ้าของโครงการนี้ เว้นเสียแต่ผมยกโครงการนี้ให้เธอไปทำ ซึ่งก็ไม่ใช่อีก ดังนั้น..เธอจะตัดผมออกจากความรับผิดชอบไม่ได้
โดยเฉพาะเธอบอกว่า เธอหลงหรือหลวมตัวมาทำงานนี้เพราะถูกคนยุ งานอาสาสมัครนะคุณดอกฟ้า ถ้าหลวมตัวเข้ามาแล้วเห็นว่า ไม่ดี คุณลาออกเมื่อไรก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ไปทำลายคุณค่าโครงการของเขา สุดท้ายจัดงานเลี้ยงแล้วเปิดหมวกอำลาเอง มาบอกว่า หลวมตัว เสียค่าโง่ไปแล้ว ทำไมความรู้สึกของคุณช้าจัง

12) คุณดอกฟ้าบอกว่า เธอออกเงินค่าเลี้ยงดูทีมงาน และคนนอก และออกค่าใช้จ่ายงานเลี้ยงเปิดตัวหนังสือเองทั้งหมด เป็นความจริงหรือไม่?

เป็นความจริงครับ แต่ผมไม่ถือเป็นผลงานในโครงการนี้แต่เป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอเสนอตัวทำเอง

หนังสือการกุศลหารายได้ให้เด็กๆ แต่นัดพบปะพูดคุยทำความรู้จักกันที่ห้องอาหารในโรงแรมโซฟีเทล เซ็นทรัล (หลายครั้ง) ผมถือว่า เป็นการอวดศักดาและบารมีส่วนตัว ทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่า เธอมีบารมีทางการเงิน หาใช่แนวทางของการทำหนังสือของผมไม่

การจัดงานเลี้ยงเปิดตัวหนังสือ ผมจำได้ว่า เดิมจะใช้ร้านบารนีของคุณอังศนา มีน้ำท่า ชากาแฟนิดหน่อย คุณอังศนายินดีให้บริการ แต่เธอเปลี่ยนเป็นโชว์เมนูที่เธอลงมือทำเอง หมดเงินไปเยอะ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอมีพาวเวอร์จะทำได้ คุณเธอก็ได้หน้าได้ตาได้รับคำนิยมชมชอบไปหมดแล้ว ผมไม่คัดค้านใดๆ แต่ถือเป็นบุญคุณกับหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ มันไม่ใช่แนวทางของผม คุณดอกฟ้ากำหนดแนวทางเองหมด เหมือนกับที่เธอทำงานกับผม คือ พยายามควบคุมทุกส่วนเอาไว้ในมือ เพื่อทำตามอำเภอใจและลงความเห็นว่า นี่คือผลงานที่ทุ่มเท

งานเปิดตัวหนังสือทั่วๆ ไปที่สำนักพิมพ์จัดขึ้น ยอดพิมพ์เป็นหมื่นเล่ม เขาเลี้ยงแค่ชา กาแฟ และคุ้กกี้ เท่านั้น นั่นเขาทำเพื่อหากำไรจากหนังสือนะ แต่เราไม่ใช่

ผมทำหนังสือกับคุณอ้อมาหลายเล่ม คุยกันทางโทรศัพท์ ส่งงานกันทางเน็ต และไปรษณีย์ ไม่เคยเจอหน้ากันเลย แต่หนังสือก็เสร็จสมบูรณ์เหมือนกัน

ฉะนั้น..กรุณาอย่าตีค่าเงินที่คุณหว่านลงไปโดยไม่จำเป็นมาเกี่ยวข้องกับงานทำหนังสือเล่มนี้เลยครับ

13) มีคนบอกว่า ผลประโยชน์ตกอยู่กับคุณ*bonny เต็มๆ คุณแอบอ้างทำโครงการนี้ทำเพื่อตนเองหรือเปล่า?

ผลประโยชน์บ้าบออะไร ตั้งแต่มีงานนี้ขึ้นมา เจ็บตัวกันทุกคน เฉพาะเรื่องตัวเงิน คุณดอกฟ้าก็หมดไปเยอะ เม่ยก็หมดไปเยอะ ผมก็หมดไปเยอะ แต่ละคนควักกันเรือนหมื่นทั้งนั้น ผมจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 9,500 บาท ได้หนังสือมา 7 เล่ม
สุดท้าย เรามาทะเลาะกัน สาวไส้กันให้คนในบอร์ดตัดสินว่า ใครถูกใครผิด ได้ประโยชน์ตรงไหนไม่ทราบ

หนังสือเล่มนี้พิมพ์เป็นการเฉพาะกิจ แค่ 1000 เล่ม ขายภายในบอร์ดไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ขายภายนอก 50 เล่มนอกนั้น..แจกฟรี
ตั้งข้อสังเกตแบบนี้ เพราะมีนามแฝง*bonny ปรากฏเป็นเสนียดตาหลายคนมากกว่ามั้ง

หน้ามืดจนลืมกันไปว่า ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือ สังคมที่ด้อยโอกาสต่างหากล่ะ

นอกจากนี้ ตอนทำหนังสือเล่มนี้ คนทำงานอาร์ตให้เราและโรงพิมพ์ยังไม่ยอมรับพิมพ์บทความของ*bonny ด้วยเหตุผลที่ว่า..ค่อนข้างหมิ่นเหม่ต่อการถูกฟ้องร้อง จนผมต้องเอากลับมาแก้ไขถึงสองครั้งสองคราจึงพิมพ์ได้ เนื้อหาตอนแรก เล่นกันตั้งแต่คุณพ่อของคุณทักษิณออกหากินเลยนะครับ ผมเล่นแรงและเล่นหนักถึงไส้ถึงพุง อยากรู้นักว่า ผมได้ประโยชน์จากบทความหรือคนอ่านได้ประโยชน์กันแน่

ในหนังสือเล่มนี้ ลองอ่านดูนะครับ ผู้ที่เขียนบทความโจมตีระบอบทักษิณเต็มๆ มีแค่ผม กับคุณศิลาแลง คนละสองบทความ นอกนั้นเขียนเรื่องความรู้ทางการเมืองและสังคมทั่วๆ ไป
ถ้าถูกฟ้องร้อง ไม่ว่าจะเป็นบทความของ *bonny หรือ ของคุณศิลาแลง (คุณศิลาแลงใช้ชื่อตัวละครปลอมทั้งหมด ยังไงก็ต้องตีความหลายชั้นกว่าจะถึงตัว) คนที่ต้องรับผิดชอบ คือ บรรณาธิการของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งก็เป็นผมวันยังค่ำ คงไม่ใช่ดอกฟ้า หรือเม่ยหรอก คนอื่นในเสรีไทยก็คงไม่อาจช่วยผมได้หรอกครับ

และเพราะใช้ชื่อ*bonny นี้นามเดียวมาตลอด ไม่เคยสวมหน้ากาก ทำให้สืบหาที่อยู่ และตัวตนได้ไม่ยาก

แม้แต่สมาชิกในนี้ยังมีการพยายามเอาชื่อ เอาที่อยู่ เอาบริษัทของผมมาแปะเพื่อประจานตัวผมได้ ( เลวสุดๆ ในบรรดาการใช้อวิชชาแล้ว) ในเมื่อพวกคุณหาได้ ตำรวจก็หาได้

ตอนหนังสือออกมา มีหนังสือคู่แข่งอีกเล่ม เรื่อง “ไม่เปรม” คนทำและคนเขียนต้องหลบๆ ซ่อนๆ หนังสือถูกเก็บกวาดไปเร็วมาก ทุกวันนี้ คนเขียนบางคนยังต้องคดีอยู่เลยครับ

แต่ผมรับรองว่า ถ้าไม่ใช่เพราะขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดล่ะก็ จ้างให้ผมไม่ยอมเขียนบทความสุ่มเสี่ยงอย่างนั้นอย่างเด็ดขาด

อย่าลืมนะว่า คมช.อยู่เดี๋ยวเดียวก็ไปนะครับ ตอนสมัครเป็นนายก เฉลิมเป็นมหาดไทย จักรภพดูแลสื่อ หากลิ่วล้อผู้จงรักภักดีอยากจะหาเรื่องปิดเว็บนี้ ส่งหนังสือไปให้ดู คนที่ถูกเชือดคือผมก่อนเพื่อน ริดกุนเป็นจำเลยที่สองนะครับ

ที่เขาไม่ทำเช่นนั้นเพราะมีข้าศึกตัวใหญ่กว่าที่ต้องเผชิญหน้าต่างหาก เสรีไทยเป็นบอร์ดเล็กๆ หนังสือเล่มนี้ก็ไม่แพร่หลายในวงกว้าง ส่วนใหญ่เผยแพร่ในกลุ่มพันธมิตรที่ต่อต้านทักษิณ แต่ถ้ายอดพิมพ์เป็นหมื่นเล่มแบบรู้ทันทักษิณ ป่านนี้โดนไปแล้ว
ไอ้กลัวติดคุกน่ะ ไม่กลัวหรอกครับ คดีถึงศาลก็ชนะ แต่ในระหว่างที่ศาลยังไม่ตัดสินนี่สิ ทำอะไรไม่ได้ไปหลายปี เพราะจะไม่มีใครรับผลงานของผมอีก ไม่ว่าจะใช้นามปากกาไหน สงสารเด็กๆ นะครับ

ผมถึงบอกตั้งแต่ต้นไงครับว่า ทีนี่ดีนะ กล่าวหากันง่ายๆ ไม่เสียตังค์ หมิ่นประมาทคนไม่ติดคุก แค่เสียล็อกอิน เปลี่ยนหน้ากากเดี๋ยวก็กลับมาใหม่

14) นั่นสิ ทำไมคุณไม่เปลี่ยนนามแฝงไปหลายๆ บทความอย่างนักเขียนอีกท่าน?

อย่างที่บอก คือ ชื่อ*bonny ใช้มานาน ไม่ใช่รู้จักกันแค่ในเสรีไทยนะครับ คุณลองไปเสิร์ชหาในกูเกิ้ลได้ มีบทความของผมอีกหลายร้อยเรื่องที่ผมไม่ได้เอาไปเผยแพร่เอง แต่อยู่ในเว็บบอร์ดของหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ แม้แต่เว็บบอร์ดของรัฐสภาผมก็เคยเจอ
และผมก็นึกไม่ถึงหรอกว่า จะต้องปิดบังไปทำไมในเมื่อมันเป็นแค่นามแฝงที่คนรู้จักกันดีในหมู่นักท่องเว็บว่า เป็นนามแฝงที่เป็นสัญลักษณ์ของขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด และมีจุดยืนต่อต้านทักษิณชัดเจนมานานแล้ว

สำนวนการเขียนของผมก็เหมือนลายเซ็นต์ประจำตัว ใครก็อ่านออกแต่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้ อีกอย่าง ผมไม่รู้จะหลอกสมาชิกที่นี่ไปทำไมกัน ที่นี่มันเว็บบอร์ดของเสรีไทยนะครับ ..ชอบไม่ชอบ ให้ผมรับเต็มๆ ดีกว่าครับ แต่ท่านอื่นเขาก็มีเหตุผลส่วนตัวของเขา ผมเคารพไม่ก้าวก่าย ในขณะที่คนอื่นๆ กลับนำมาสร้างเรื่องโจมตี หรือว่า..ชอบให้ผมโกหกว่า ไม่ได้เขียนในเรื่องที่ตัวเองเขียน ตรงนี้ถือว่า ไม่เข้าท่ามากๆ

15) ทำไมคุณพริกขี้หนูตามรังควานคุณตลอดมา?

คงเป็นเหตุผลส่วนตัวมั้งครับ คนไม่ชอบผมมีเยอะ แต่ละคนมีเหตุผลต่างกันไป
พริกขึ้หนูเป็นนามแฝงเฉพาะกิจเพื่อโจมตีผมโดยเฉพาะ จริงๆ เรื่องระหว่างผมกับเขาไม่มีหรอก แต่เป็นเรื่องที่คุณแบ่งฝัน...ปันรัก ไปก่อไว้ในสงครามแย่งชิงอำนาจเว็บนี้เมื่อสามปีก่อน

ขอย้อนไปกล่าวเรื่องสงครามทลายฝันสักนิดหนึ่ง..

ตอนผมยกขบวนสมาชิกจำนวนหนึ่งจากพันทิปมาที่นี่ เว็บไม่ได้ใช้ชื่อนี้ และก็มีคนที่ไม่ชอบทักษิณแต่ไม่ใช่สมาชิกขบวนการเสรีไทยอยู่อีกกลุ่มหนึ่งเข้ามาที่นี่เช่นกัน
เมื่อผมย้ายมาที่นี่แล้ว ก็ขอให้ริดกุนเปลี่ยนชื่อเว็บบอร์ดเป็นขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดซะ เพราะมีคนรู้จักแล้ว คุณริดกุนโอเค ผมจึงไปประกาศในพันทิปให้สมาชิกของผมตามมาที่นี่
ชื่อห้องสนทนาตอนแรกก็ไม่ใช่อย่างที่เห็นอยู่ แต่เป็นชื่อที่ผมตั้งขึ้นโดยความเห็นขอบของริดกุน แต่ใช้ชื่อห้องสนทนานั้นได้ไม่นาน กลุ่มที่ไม่ใช่สมาชิกของขบวนการก็ขอให้ริดกุนแก้ไขใหม่หมด เป็นชื่อห้องสนทนาที่เป็นอยู่ในปัจจุนันนี้แหละ
แต่คนกลุ่มนั้นไม่ได้หยุดแค่นี้ ขอเปลี่ยนชื่อเว็บใหม่อีก โดยขอใช้ชื่ออื่นที่ไม่ใช่ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด นั่นทำให้คุณแบ่งฝันปันรัก ซึ่งตอนนั้นได้รับเลือกจากผมให้เป็นหนึ่งใน 9 อรหันต์ ดูแลบริหารจัดการเว็บนี้ไม่ยินยอมเพราะถือว่า คนที่ไม่ใช่สมาชิกขบวนการไม่มีสิทธิ์มายุบขบวนการทิ้ง
ซึ่งในบรรดา 9 อรหันต์ในขณะนั้น ที่ยังเล่นบอร์ดที่นี่อยู่ก็มีทั้ง คุณปุถุชน ลุงแคน และริดกุนด้วย แต่ไม่มีชื่อของคนในกลุ่มนั้นเนื่องจากผมไม่รู้จัก และไม่รู้ด้วยครับว่า มีการจับกลุ่มย่อยๆ ขึ้นมาในเว็บบอร์ดแห่งนี้

คุณแบ่งฝันไม่ได้ปรึกษากับใครในเรื่องนี้ แต่ก่อสงครามในเว็บนี้ขึ้นมาโดยปลอมตัวเป็นล็อกอินอื่น ใช้ชื่อว่า สาวแก่ ปฏิบัติการกามิกาเซ่ใส่เจ้าของความคิดนั้น จนบอร์ดลุกเป็นไฟ

สุดท้าย คนกลุ่มนั้นแยกตัวออกไปตั้งบอร์ดใหม่เป็นบอร์ดคู่ขนานกับเสรีไทยแห่งนี้พร้อมกับสมาชิกส่วนหนึ่ง

ผมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะความเข้าใจว่า แบ่งฝันเป็นคนของผม อะไรที่แบ่งฝันทำลงไป สะเทือนถึงสถานะของผมทั้งสิ้น แม้ผมจะไม่รู้เรื่องสงครามเว็บที่เกิดขึ้น มารู้เอาตอนสงครามสงบแล้วพร้อมกับการจากไปของแบ่งฝันเนื่องจากถูกจับได้ว่า เป็นเจ้าของล็อกอิน “สาวแก่”


การที่มีสมาชิกบางคนเข้ามาจิกตีผมเป็นการส่วนตัวก็เพราะแบ่งฝันจากไปแล้ว แต่ความแค้นยังอยู่ จึงต้องปลอมชื่อเข้ามาเล่นแทนชื่อเดิมที่เคยใช้ที่นี่

ก็น่าคิดนะ จะกระชากหน้ากากของผมให้ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองสวมหน้ากากอยู่ (หลายใบ)

เรื่องที่โจมตีผม นอกจากเรื่องหนังสือยังไงก็ไม่ชินแล้ว ก็เป็นเรื่องเงินบริจาคที่คุณแบ่งฝันหอบติดตัวไปด้วยพร้อมกับการหายตัวไปจากบอร์ดนี้ และคุณพริกขี้หนูก็โผล่ออกมา และเจาะจงว่า ผมต้องรับผิดชอบแทนแบ่งฝันสำหรับเงินที่เธอเชิดหนีไป 3 หมื่นกว่าบาท

โถ..
ผมตั้งให้เป็นเลขาที่ประชุมเพราะเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวใน 9 อรหันต์ ไม่ได้ตั้งให้เป็นแคชเชียร์นะคุณ เลขาที่ประชุม มีหน้าที่รวบรวมเรื่องราวและจัดทำวาระการประชุมนำเสนอต่อสมาชิก ไม่ใช่เก็บเงิน
แต่แกก็ยังยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า ผมต้องรับผิดชอบทั้ง 3 หมื่นบาทที่หายไปด้วย ไม่งั้นไม่ยอม

เอ..ผมก็งงๆ อยู่ เพราะตอนนั้น รับแจ้งทางเมล์ว่า มีการขอรับบริจาคเงิน ให้ชื่อจริงและเบอร์บัญชีมาให้ ใครบริจาคเท่าไรก็ได้ ผมก็ใส่ไป 10,000 บาท

การเปิดบัญชีรับบริจาคในครั้งนั้นเป็นมติที่ออกมาจาก 9 อรหันต์ ที่ไม่มีผมอยู่ร่วมด้วยแต่คุณพริกขี้หนูไม่เล่นงาน 9 อรหันต์หรอก เพราะไม่ใช่เป้าหมาย ต้อง *bonny ออกมารับผิดชอบคนเดียว

แกจะใช้วิธีการกล่าวหาเลื่อนลอยไปทีละสเต็ปๆ พอเราแก้ข้อนี้ ก็ไปเริ่มข้อใหม่ เช่น..
ตอนแรกสุด บอกว่า ผมกับแบ่งฝันสมรู้ร่วมคิดกัน เชิดเงินไปแบ่งกันแล้ว พอเราไปค้นใบโอนเงินเมื่อปีก่อนนู้นว่า ได้โอนเงินไปให้จริงๆ 10,000 บาท เอาหลักฐานมาแปะ เธอก็บอกว่า ไม่รู้ล่ะ ในเมื่อตั้งแบ่งฝันเป็นเลขาได้ก็ต้องรับผิดชอบเงินทั้งหมดด้วย
ผมก็เลยแก้ว่า..
ถ้างั้น เงินบริจาคของผมเองก็ปาไปแล้ว 1 หมื่นบาท ที่เหลือ หากสมาชิกท่านใดติดใจเรื่องความรับผิดชอบให้ส่งหลักฐานการบริจาคไปที่เมล์ของผม ผมจะจ่ายคืนให้
ร้อนถึงคุณปุถุชนต้องออกมาบอกว่า ยินดีแบ่งเบาภาระร่วมกับผมครึ่งหนึ่งหากผมต้องจ่ายจริง (คุณปุถุชนก็บริจาคให้แบ่งฝันด้วยเช่นกัน เป็นเงิน 5000 บาท เราสองคนรวมกันก็เป็นผู้เสียหายรายใหญ่แล้ว ฮา..)

แต่คุณพริกขี้หนูเนี่ยเธอก็ยังไม่พอใจครับ บอกว่า ต้องให้ดำเนินคดีกับแบ่งฝันด้วย

ฮ่า..ฮ่า ผมเลยเอะใจว่า อย่างนี้มันเล่นไม่เลิกนี่หว่า ตรรกะแบบนี้ ต้องเชิญให้ไปฟ้องศาลกันเองดีกว่าครับ ชื่อ- ที่อยู่ – เบอร์โทรฯ ของแบ่งฝัน น้องออฟหามาให้แล้ว ใครอยากฟ้องดำเนินคดีจัดการได้เลย
ส่วนของผมหนึ่งหมื่น ตอนนี้ไม่เสียดายแล้ว ถือเป็นค่าทำสงครามปกป้องขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดก็แล้วกัน

ตอนแรก คุณพริกขึ้หนูก็หาสมัครพรรคพวก ทำท่าจะฟ้องร้องเอาจริงเอาจัง แต่ทำไปทำมาก็เลิก จะฟ้องได้ยังไงล่ะครับ ในเมื่อ ในหมู่พวกเธอไม่มีใครเป็นผู้เสียหายโดยตรง เพราะไม่เคยบริจาคเลยซักบาทเดียว ก็คงเช่นเดียวกับหนังสือเล่มนี้ เธอไม่เคยซื้อหรอกครับ แต่เจ็บร้อนกว่าคนซื้อเสียอีก

16) แล้วผู้จัดทำหนังสือครบรอบ 3 ปีจะถูกโจมตีไหม?

ผมคิดว่า ทั้งสองท่านไม่ใช่เป้าหมายของพวกเขาหรอกครับ อย่ากังวล

คุณJerasak กับคุณMoon โปรดทราบ ถ้าไม่อยากมาทำ 20 คำถามแบบผม กรุณาอย่าเรียกใช้บริการของผม ฮา..

17) มีหลายคนสงสัยพฤติกรรมของคุณเพราะคุณไม่เปิดเผยตัวตนกับสาธารณะ?

ผมไม่ได้จงใจปิดบังสถานภาพของตัวเองหรอก แต่เมื่อใดที่ผมเห็นว่า ไม่มีความจำเป็น ใยผมต้องแสดงตัวตนในโลกแท้จริงออกมา กิจการที่ผมดูแลอยู่ มีลูกค้าเป็นทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง ไม่อยากสร้างผลกระทบให้กับคนอื่นๆ ครับ

แม้กระนั้น..ยังมีบางคนในนี้ไปสืบค้นตัวตนและที่อยู่จริงของผมมาแปะจนได้ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไปเพื่ออะไร??? ทราบหรือไม่ว่า หากเจ้าตัวไม่ยินยอมถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างผิดกฎหมายน่ะ
เพียงเพื่อเอาชนะผมให้ได้ ยอมทำทุกวิถีทาง โอ..นี่ถือเป็นความเลวร้ายอย่างที่สุดของการเล่นเว็บบอร์ดแล้วครับ

จริงๆ ก็มีสมาชิกของเสรีไทยท่านหนึ่งที่เคยพบหน้าค่าตาตัวเป็นๆ ของผมมาแล้ว เป็นผู้ใหญ่ในนี้ที่ทุกคนรู้จัก เราไปเดินขบวนต่อต้านดวงเฉลิมด้วยกันที่ลานพระรูป แต่อย่าเอ่ยนามเขาดีกว่าครับ เดี๋ยวไปมะรุมมะตุ้มเขาหมด และตั้งข้อหาว่า เป็นพวกผม

ส่วนเรื่องคุณปุถุชนที่พอผมแย้ม ก็หาว่า ผมขี้ตู่นั้น
ผมรู้จักคุณปุถุชนมา 10 ปีแล้วทางตัวอักษร ตอนนั้นยังเป็น เขายังเป็นมหาไล้อยู่ ฮ่า..
คุณลุงปุติดตามงานเขียนของผมมาตั้งแต่เรื่อง “ผมเหลือกระสุนนัดเดียวในลูกโม่ ผมจะใช้มันกับใครดี” หวังว่า ถ้าคุณปุเข้ามาอ่านคงจำได้

ผมเพิ่งมารู้ว่า คุณปุถุชน คือ คนที่ผมเคยไปพบที่บริษัทแถวบางลำภู ก็ตอนให้ส่งรายชื่อไปประท้วงรัฐบาลสมัครเรื่องเขาพระวิหารนั่นแหละครับ ก็เลยเข้าไปทักในเมล์ ยังหัวเราะกันอยู่ว่า โลกกลม

มีคนบอกว่า ผมอุปโลกเรื่องขึ้นเพื่อหวังเกาะลุงปุหากิน ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า ไม่รู้เอาสมองส่วนไหนมาคิด

18) มีคนบอกว่า คุณบอนนี่ก็มีหลายล็อกอินเหมือนกัน รวมทั้งล็อกอินชื่อแปลกๆ ที่เข้ามาในกระทู้นี้ด้วย จริงหรือเปล่า?

ไม่เป็นความจริงหรอกครับ ผมไม่ปลอมตัวมาด่าใครหรอก ไม่ใช่นิสัยผม พวกที่กล่าวหาคงคิดไม่ถึงว่า ในเว็บนี้มีคนที่รักความเป็นธรรม และรังเกียจพฤติกรรมของพวกเขาอยู่มากมาย กรุงศรีอยุธยา แตกเพราะบ่างช่างยุ แต่ก็กู้คืนได้เพราะ กรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี เสรีไทยก็เช่นกัน

19) ถ้าเรื่องนี้จบลงตรงนี้ คุณเข็ดไหมที่จะทำโครงการแบบนี้อีก?

ตอบได้ทันทีเลยครับว่า ไม่เข็ด
ก็ตัวผมเองลงทุนไปหมื่นเดียว แต่มีเงินส่งให้เด็กด้อยโอกาสตั้ง 5 หมื่น ถือว่า มีกำไรมากแล้ว
ถ้าได้ตัวเลขอย่างนี้อีก ก็จะยอมโดนด่าอีก

20) อะไรคือปาฏิหาริย์ที่ทำให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วง?

ผมถือศีล 5 เป็นนิจ และยึดมั่นในการปฏิบัติธรรมมาช้านาน สิ่งดีงามเกิดขึ้นกับผมสม่ำเสมอ ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมทำและเชื่อว่า ความดีจะคุ้มครองผม มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแน่นอน ที่ทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จลุล่วง สิ่งเหล่านั้น คือ..

1..น้องเม่ยกลับตัวได้ทัน ถ้าวันนั้น น้องเม่ยไปอยู่กับฝ่ายของคุณดอกฟ้า ผมคงทำโครงการให้จบลงไม่ได้อย่างเด็ดขาด สิ่งที่ดลใจน้องเม่ยก็คือ ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น

2..ตอนแรกเริ่ม ผมให้เม่ยกับดอกฟ้า เปิดบัญชีธนาคารร่วมกัน เบิกถอนต้องใช้ลายเซ็นต์ร่วม แต่คุณดอกฟ้าไม่สะดวก ทำให้เม่ยถือบัญชีรับจ่ายคนเดียว ทำให้คุณดอกฟ้าไม่อาจมายุ่มย่ามในการสะสางเรื่องเงินได้ ผมยังนึกไม่ออกว่า ถ้าตอนนั้น เป็นบัญชีร่วมสองคน วันนี้จะเป็นอย่างไร

3..ปาฏิหาริย์ที่ผมไว้วางใจคนทำบัญชีและถือเงินถูกคน ไม่คดไม่โกง บอกตามตรงว่า ไม่รู้จักน้องเม่ยมาก่อน ผมเสี่ยงมากที่ปล่อยมือให้ดูแลกล่องสมบัติทั้งหมดคนเดียว

4..ปาฏิหาริย์ที่คุณดอกฟ้าไปเปิดกระทู้แฉเบื้องหลังขึ้นมา ทำให้ผมมีโอกาสชี้แจงได้เช่นนี้ ทั้งๆ ที่ตอนตั้งกระทู้นี้ ผมยังไม่ได้เปิดดูกระทู้แฉเบื้องหลังของเธอ และไม่คิดว่า ตัวเองจำเป็นจะต้องอธิบายยืดยาวเช่นนี้ ถ้าไม่มีกระทู้ของเธอ สมาชิกจะไม่มีวันได้รู้ความเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากผมแน่ เพราะผมทำใจและสงบไปนานแล้ว ไม่เคยถือโทษโกรธเคืองเธอเลย แม้จนถึงเวลานี้ ก็ยังสงสารและเห็นใจครับ เธอไม่ผิดตราบใดที่เธอไม่รู้ว่า สิ่งที่ทำมันผิด

คนที่เหมาะที่จะเยียวยาเธอ มีสองประเภท คือ แพทย์ และพระ ไม่ใช่คนในบอร์ดหรอก

5..ปาฏิหาริย์ ที่คนที่ยกย่องเยินยอคุณดอกฟ้าเป็นคุณพริกขี้หนู เมื่อทั้งสองคนตกร่องปล่องชิ้นกันเช่นนี้ ก็ทำให้เห็นภาพที่ผมเคลียร์ตัวเองได้ชัดเจนขึ้น คุณพริกขี้หนูไม่มีภาพพจน์ที่จะมาช่วย แต่มาฉุดให้ภาพของคุณดอกฟ้ามัวหมองลงไปอีก เหมือนกรณี นายกสมชายลงไปช่ายนายประภัสร์ หาเสียงนั่นแหละ

6..ปาฏิหาริย์ ที่ผมมีเพื่อนสมาชิกที่ให้ความรักและชื่นชม ทำให้เรามียอดสั่งจองหนังสือในโครงการนี้และมีเงินจำนวนมากมายช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส ถ้าไม่มีพวกท่าน งานนี้ก็ไม่มีปาฏิหาริย์ครับ

ขอบคุณมากที่กรุณาอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้

.........................
หลักฐานใบโอนเงินเข้าบัญชีแบ่งฝันเมื่อ 3 ปีก่อน
Image
[/color]

*******************************************************
Canthai wrote:ตะกร้าสร้างนักเขียนมาแล้วทุกยุค


Canthai wrote:หนังสือการเมือง ย่อมมีการเมืองเลือกข้าง

หนังสือการมุ้ง มันก็ยุ่งเพราะการมุ้ง

ยิ่งมีเรื่อง "ปาฏิหารย์" มันยิ่งร้าวราน...หัวใจ


ทำให้นึกถึงเพลง ที่สุชาติ ชวางกูร ร้องคู่ กับอัญชะลี ไพรีรัก ทำปากพะงาบๆ
คอยงับเสียงร้องของ กรรณิการ์ อารีสมาน ร้องเสียงจริง..

.โอ..มลุลีค่ำนี้มืดมน...ช้ำเหลือทนอับจนหัวใจ...ลืม...รักที่ผ่านดังฝันชั่วคืน...ครั้งพอตื่นกลับคืนหายไป..

คิดแล้วคงพอนึกภาพออก..."ปาฎิหารย์"...บางเรื่อง มันทนม่ายด๊ายยยยยย


ดังนั้นบทบาทของ "บอนนี่ แอนด์ ไคลน์" จึงต้องให้ตายด้วยคมกระสุนพรุนไปทั้งร่าง โดยกลุ่มตำรวจที่ซุ่มรุมยิงตายข้างรถหน้าธนาคาร

นับเป็นฉากสุดระทึก สยดสยอง ชนิดสาวๆ ไม่กล้ามอง

ฉากนี้มีสตรีหลากหลายอยากแสดงบทนั้น แต่ก็นั่นแหละ ผู้รับบทนั้นในเวที

"ต้องมีคนเดียว"

เอวังก็มีด้วยประการ....ฉนี้



Image

Image

Image
Last edited by Canthai on Tue Mar 03, 2009 11:49 am, edited 2 times in total.
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Tue Mar 03, 2009 11:39 am

Canthai เนี่ยอำนวยแหงๆ
ยิ่งมาบอนนี่ยิ่งอ่วม ยิ่งโควตบอนนี่ยิ่งเละ :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby BlueFoot » Tue Mar 03, 2009 11:42 am

ได้นั่งอ่านมาทั้งหมดแทบจะครบทั้งหมดทุกท่านครับ จะข้ามก็เฉพาะของคุณแม่ชีกายสิทธิ์ที่เวิร์ดดิ้งอ่านแล้วต้องตีความ ข้อความวกวนมากๆ อ่านแล้วจินตนาการตามได้มั่งตามไม่ได้มั่ง สรุปคือ ผมอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ยังไม่รู้เรื่อง หนักเข้าๆผมก็เลยข้ามไปเลย ไม่อ่าน
หวังว่าการไม่อ่านของคุณชีเฉาก๊วยที่หลายๆท่านให้ความสำคัญถึงขั้นตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นอีกล็อกอินหนึ่งของคุณบอนนี่ คงจะไม่ทำให้ผมตกหล่นข้อมูลสำคัญๆไปนะครับ ก็ผมปวดหัวกับลีลาของท่านจริงๆ ทนไม่ไหว ทนไม่ได้ ไม่ขอทนต่อไปจะดีกว่า ฮ่า ฮ๋า ฮ่า ฮ่า


เห็นด้วยกับจุดประสงค์ของคุณริวเซย์ เฉพาะส่วนที่ต้องการให้ทุกท่านลืมเรื่องราวบาดหมาง แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ไม่สัมพันธ์กับเวลานะครับ เพราะคุณริวเซย์เสนอให้ต้องลืมกันซะเดี๋ยวนี้ โดยที่ละเลยไม่รอให้มีการตกผลึกของปัญหาที่เกิดให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เปรียบเหมือนซุกขยะใต้พรม พื้นห้องจะไม่รกและสะอาดอย่างรวดเร็วทันใจ แต่ต้องรอวันขยะที่ซุกไว้เน่าส่งกลิ่นเหม็นและย้อนกลับมาสร้างปัญหาขึ้นอีกในภายหลังนะครับ


ต้องขอบอกไว้ก่อนตรงนี้เลยว่า ผมแค่รู้สึกอยากจะมีส่วนร่วมกับกระทู้นี้ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งก็เท่านั้น ดังนั้นผมจึงพร้อมที่จะถกกับท่านๆในเนื้อหา แต่ไม่สนใจที่จะทะเลาะด่าทอกับใครๆ

ผมในวันนี้เป็นสมาชิกใหม่ในล็อกอินชื่อ BlueFoot ที่เลียนชื่อมาจากอุปกรณ์สื่อสารยอดฮิต "บลูทูธ" จึงขอถือโอกาสนี้รายงานตัวเองโดยตรงต่อคุณ Canthai เพื่อสร้างความไว้วางใจเลยว่า ผมเป็นสมาชิกเก่าแก่ในอีกชือล็อกอินหนึ่งมาตั้งแต่อยู่ราชดำเนิน พันทิพ และก็ได้อพยพตามๆกันมาอยู่ที่นี่เสรีไทยเมื่อ 3 ปีก่อน อ้อ ผมไม่ได้เป็นสมาชิกขบวนการเสรีไทยของคุณ bonny เหมือนกับใครๆเขาด้วยหรอกครับ เพราะผมไม่เห็นทิศทางชัดเจนของนโยบายและไม่เข้าใจวิธีการดำเนินการตลอดจนกิจกรรมของขบวนการฯเลยว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับการลงสนามในเวทีการเมืองจริงมากกว่าสนามในเวทีความคิดผ่านรูปแบบตั้งเป็นกระทู้ทางอินเตอร์เน็ต (ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญมากๆต่อความเห็นของผมที่มีต่อประเด็นของกระทู้นี้ ไว้ผมจะนำมาอธิบายเพิ่มเติมภายหลังครับ)

อีกเรื่องที่จะไม่ข้ามไปเฉยๆก็คือผมยอมรับกับคุณ loginofu ว่า ผมเพิ่งจะสมัครขอล็อกอินเข้ามาเมื่อตอนบ่ายแก่ๆของวานนี้เอง และก็เพื่อกระทู้นี้โดยเฉพาะซะด้วย จึงเรียนมาเพื่อไม่ต้องมาต่อว่ากันในคราวต่อๆไป
User avatar
BlueFoot
Moderator
 
Posts: 1927
Joined: Mon Mar 02, 2009 1:16 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Tue Mar 03, 2009 12:03 pm

ไม่ได้อยากจะต่อว่าแต่อย่างใดครับ
เพียงแต่อยากให้มองข้ามว่า ใคร"เคย"เป็นใครมาจากไหน
ดูที่ว่า สิ่งที่"ใคร"ได้ทำกับเรื่องนี้นั้นเป็นอย่างไรมากกว่า
อยากให้มิตรภาพดีๆกลับมาครับ แต่ปัญหาก็ต้องเคลียให้เรียบร้อยด้วย

และสิ่งที่เห็นในกระทู้นี้ก็มีล็อกอินใหม่เข้ามามากจริงๆ
ทั้งคนเก่าที่เคยคุยกันมาแล้วหายไป คนใหม่ที่พึ่งเข้ามา
รวมทั้งใครก็ไม่รู้ที่เข้ามาป่วน จึงได้บ่นออกมา

ยังไงก็ขออภัยคุณ BlueFoot ที่ทำให้ไม่สบายใจครับ
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Tue Mar 03, 2009 12:14 pm

เรียนคุณ BlueFoot

ก่อนไปประเด็นอื่นอีกต่อจากนี้ไป

ท่านมีข้อสงสัย เรื่องปิดบัญชี อีกหรือไม่

หากยังสงสัยอยู่ ตะขิดตะขวงใจอยู่

ผมจะหาคำตอบให้

เพราะผมได้ตามอ่านอย่างละเอียด และเข้าใจ

ท่านมาแบบสุภาพชน เราก็จะตอบกับท่าน เพื่อได้มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน :mrgreen:



ส่วนพวกจิกหัวถาม ไปห่าง ๆ ผมหน่อย ผมเหม็นสาป เต็มทน
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

PreviousNext

Return to ประกาศเก่า



cron