**กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Sat Feb 28, 2009 6:00 pm

การพิมพ์หน้าเว็บ

เราต้องว่าแต่ความจริง

แม้ทนไม่ได้ ก็ต้องทนครับ

หลอกคนอื่นอาจจะได้ แต่ไม่เสมอไป


ปล. อย่าหลอกแม้กระทั่งตัวเอง :lol:
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 6:05 pm

เออหนอ....ภาษาคนยังอ่านไม่ออกเลย..

สีข้างแดงเถือกหมดแล้วมั้ง..

พลีชีพเพือใคร...แล้วทำไมต้องยอมบัดพลี


ขำๆๆๆ :lol:
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 6:08 pm

soco wrote:การพิมพ์หน้าเว็บ

เราต้องว่าแต่ความจริง

แม้ทนไม่ได้ ก็ต้องทนครับ

หลอกคนอื่นอาจจะได้ แต่ไม่เสมอไป


ปล. อย่าหลอกแม้กระทั่งตัวเอง :lol:


งี๊ดๆๆๆๆๆๆ

ลูกหมากัดหางตัวเอง
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Sat Feb 28, 2009 6:11 pm

หากใครใช้นิสัยหยาบคาย

ในกระทู้นี้อีก ผมเสนอให้


แบน

สถานเดียว กฎถึงเวลาบังคับใช้แล้วครับ

เพราะกระทู้นี้เป็น การกระทำเพื่อการกุศล มิใช่ทำเพื่อเรื่องอื่นแต่ประการใด

ปิดบัญชีให้สังคมรับทราบ ก็แค่นั้น
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 6:13 pm

soco wrote:หากใครใช้นิสัยหยาบคาย

ในกระทู้นี้อีก ผมเสนอให้


แบน

สถานเดียว กฎถึงเวลาบังคับใช้แล้วครับ

เพราะกระทู้นี้เป็น การกระทำเพื่อการกุศล มิใช่ทำเพื่อเรื่องอื่นแต่ประการใด

ปิดบัญชีให้สังคมรับทราบ ก็แค่นั้น


งี๊ดๆๆๆๆ ลูกหมาตกบันได
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby see-u » Sat Feb 28, 2009 6:30 pm

* ถ้ามีคนตามอ่าน ทู้ นี้ จะรู้ว่า ...
ไม่เคยมีใครไปแตะเรื่องการ กุศล เลยสักนิดอย่างที่คุณ SOCO กล่าวหา
ที่เขาถาม ... เขาเน้นไปที่เรื่องที่ คุณ บอนนี่ ควรจะอธิบายและ เม่ย ควรมาตอบ
วันนี้ทั้ง 2 คนมาตอบแล้วตรงตามกำหนดวัน ... แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามาตอบตรงเวลาแล้วคำตอบจะต้องเคลียร์ ถ้าคำตอบมันเคลียร์จริง ... จะมีคนมาถาม มาพูดต่อไหม ?
กระทู้ นี้ผ่านมาเป็นเดือน .. มีทั้งทะเลาะ มีทั้งวิจารณ์ มีทั้งเขียนเล่าเรื่องที่ตัวเองเจอมาในรูปแบบต่าง ๆ
ในเมื่อ... เราให้เวลากะเรื่องนี้มาตั้งนาน ถ้าจะเพิ่มเวลาอีกสักนิดเพื่อที่จะได้โปร่งใสในทุก ๆ เรื่อง
ทำไมถึงทนกันไม่ได้ละคะ ... ทำไมถึงมีคนออกอาการเดือดร้อนใจจนต้องรีบบอกว่า ล็อค กระทู้เหอะ
มันไม่แปลกเกินไปหรือที่มีคนรวบรัดให้รีบจบเรื่องทุกอย่างแบบนี้ ???

อ่อ ... ตรงนี้ขอ quote อีกที แบบว่ามีอารมณ์อยากโพสอ่ะ
:lol:

see-u wrote:* แหม ! หลังจากตั้ง ทู้ นี้ .. แล้ว คุณ บอนนี่ เข้ามาตอบคำถามเพื่อนสมาชิกด้วยข้อความแบบเล่านิยายให้ฟัง จนมีคนมาทักท้วงว่า ที่คุณ บอนนี่ เขียนโม้ตอบมาน่ะมันมีข้อความมันขัดแย้งกันไป - มา นะจ๊ะ ... แล้วคุณก็หายตัวไปจากบอร์ด :lol: :lol: ผ่านมาเกือบเดือน คุณ บอนนี่ กลับเข้ามาตอบ คห. อีกครั้งหลังจากที่มีคนสมัครใช้ ล็อคอินใหม่ ๆ เข้ามาด่าสมาชิกที่สงสัยในความไม่เคลียร์ของหนังสือเล่มเก่า .. 555 มาครานี้มีอาการตกใจด้วยว่า .. เกิดอะไรขึ้น โอ้โฮ เอากันใหญ่ ละเลงกันจนเละเทะ ... โอย คุณ บอนนี่ ใสซื่อยังกะดาวพระศุกร์เลยนะคะ แบบว่าเข้ามา งง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นเหรอตัวเอง ... ง่ะ แถว ๆ บ้าน ดิฉัน เรียกคนที่ออกอาการแบบนี้ว่า fake ค่ะ :lol: :lol:

เอาหล่ะเรามาคุยกันนะคะ ... ตามหัวข้อที่คุณ บอนนี่ มาเล่านิยาย เอ๊ย มาตอบคำถาม :lol:
แต่ ดิฉัน .. ขอโพสเรื่องที่คุณ บอนนี่ เขียนในข้อที่ 21 ก่อนอื่นเลย เนื่องจากอ่านแล้วมันคันมือ... ส่วนข้ออื่น ๆ จะไล่เลียงถามในเรื่องที่ตัวองสงสัยทีละประเด็น นะคะ
;)

*bonny wrote:
21) เรื่องบ้านทรงไทย ตกลงมีจริงไหม เป็นของคุณบอนนี่หรือเปล่า?


บ้านทรงไทยที่นำรูปมาลงนั้น เป็นสวนหลังบ้านของผมเองนะนั่น พูดละเลงกันจนจะเป็นบ้านพลาสติกไปแล้ว ถ้าเห็นบ้านหลังหน้าที่ผมอาศัยอยู่ สงสัยมีบางคนกระอักเลือด



* รู้ไหม .. ทำไม ดิฉัน เลือกตอบข้อนี้เป็นข้อแรก
เพราะอ่านข้อความที่คุณเขียนโพสว่า
> ถ้าเห็นบ้านหลังหน้าที่ผมอาศัยอยู่ สงสัยมีบางคนกระอักเลือด <
ตอบจากใจจริงว่า ... อ่าน แล้ว จะ อ๊วก ค่ะ !!!
ดิฉัน ... เจอ สมาชิกในบอร์เสรีไทยอย่างต่ำก็เกือบ 40 ล็อคอินในบอร์ดนี้ ทั้ง 2 ฟากความเห็น
เจอคนมาทุกสาขาอาชีพ .. ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนมือรางวัล , นักพูดที่มีชื่อเสียง , สถาปนิก , วิศวกร , หมอ , เอเยนซี่ , เจ้าของท่าเรือสะพานปลาที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ , ผู้บริหารตำแหน่งสูงของแบงค์ใหญ่ที่หลาย ๆ คนใช้บริการ , ผู้บริหารบางบริษัทที่เงินเดือนเป็นเลข 6 หลักขึ้นไป , เจ้าของกิจการนำเข้า - ส่งออก ฯลฯ ... โดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าของ กิจการ ในธุรกิจด้านต่าง ๆ สมาชิกเว็บเสรีไทยมีเยอะมากค่ะ... คุณอย่าอวดตัวมากนักเลย ... สมาชิกท่านอื่น ๆ ที่เขามาอ่านเขาจะ อมยิ้ม ในข้อความที่คุณเขียนด้วยความ สมเ _ ช อ่ะ :lol: คุณกลับไปดูก่อนว่า ... ทำไมเรื่องบ้านที่คุณเอามาลงถึงมีคนเขียนถาม .... มันไม่ใช่เพราะประโยคที่คุณเขียนโพสตอบกลับมาแบบข้อความที่ขัดแย้งกันเองหรอกเหรอ ?

ปล. เด๋วมาต่อในข้ออื่น ๆ ที่คุณ บอนนี่ โพสมาค่ะ
:mrgreen:
* See - U Never Die *

** ข้ออ้างจากพวกหิวคะแนน..

แมงสาบ : ไม่เลือกเราเขา (แม้ว) มาแน่
ตะกวดแดง : เลือกเรา "แม้ว"จะกลับมา


ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา : ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชน
User avatar
see-u
 
Posts: 5073
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:04 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Sat Feb 28, 2009 6:34 pm

คิดถึงวันนี้ ผมถือว่า ผมโชคดีจริง ๆ :lol:
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 6:42 pm

soco wrote:คิดถึงวันนี้ ผมถือว่า ผมโชคดีจริง ๆ :lol:


งี๊ดๆๆๆๆ

ลูกหมาถูกทิ้ง
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 6:47 pm

*bonny wrote:อันนี้..เสรีชนเหยียบจมูกหน้าเหลี่ยม
Image



ภาพนี้เป็นภาพที่บอนนี่บอกว่าเป็นภาพที่ลูกแก วาดขึ้นค่ะ

แล้วอยากให้ลงในปกหนังสือ...แทนที่ของ คุณsaopao ที่ชนะโหวตมาจากเพื่อนสมาชิก

และอีกภาพนึง เป็นภาพที่บอนนี่บอกว่าร่างขึ้นมาเอง ภูมิใจนำเสนอมาลงที่หน้าปกแทน

ดอกฟ้าฯ เลยบอกว่า..."ถ้าคิดว่าดี เหมาะสม ก็ไปขอมติ จากสมาชิกเสรีไทยก่อน"

จำได้ว่าแกนำไปเสนอที่หน้าบอร์ด...แต่ไม่มีใครเลือก บอนนี่เลยยอมตามนั้น



*bonny wrote:ภาพเหตุการณ์ 19 กย.
Image
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Sat Feb 28, 2009 6:52 pm

เรื่องหน้าสี

ใช้อำนาจอะไรไปใส่จำเพาะ กวี กลอน


ทำไมไม่ถามใคร ?
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 7:02 pm

soco wrote:เรื่องหน้าสี

ใช้อำนาจอะไรไปใส่จำเพาะ กวี กลอน


ทำไมไม่ถามใคร ?



แล้วเสรือกรู้ได้ไง...ว่าไม่ถาม?


จะบอกให้นะ....ทุกอย่างจนสิ้นสุดกระบวนการทำหนังสือ ทุกคนรับรู้ร่วมกัน

เม่ยถือเงิน ฉันถือบัตรพลาสติกที่ไม่เคยเบิกเงินแม้แต่บาทเดียว

การมัดจำการพิมพ์หนังสือ หรือรายจ่ายอื่นที่มี ต้องผ่านความเห็นชอบจากกองบอกอ ทั้งสิ้น


ถ้าใครบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น แปลว่าตอแหล เข้าใจยัง


ส่วนเรื่องภาพสี...ทำไมไปอยู่ท้ายๆเล่มซึ่งเป็นบทกวีหมด

เพราะเป็นเหตุเฉเพาะในการวางภาพสี ที่ต้องต่อเนื่องกัน

จะกระโดดวางภาพไปมาไม่ได้ ไม่งั้นต้องจ่ายเพิ่มอีกบานเลย


เราในตอนนั้นเลยเห็นพ้องกันว่า ให้ไปอยู่ในที่เดียวกัน

เพราะเป็นบทกวี ที่ควรจะมีภาพสี ให้เป็นจุดสนใจในหนังสือเล่มนี้


ปล. ฉันแต่งแค่บทเดียว และแถมไม่ได้ใช่ชื่อตัวเองด้วย


คำถามห่วยๆแบบนี้ ...ทีหลังอย่ามาถามโชว์กระบือนะ


ไปไหนก็ไป....ที่ชอบที่ชอบน่ะ

เดี๋ยวจะกรวดน้ำตามไปให้
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 7:04 pm

soco wrote:เรื่องหน้าสี

ใช้อำนาจอะไรไปใส่จำเพาะ กวี กลอน


ทำไมไม่ถามใคร ?


แง่ง แฮ่ งู่ๆๆๆ

ลูกหมาไม่ชอบอาหารเม็ด
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:


แง่งๆ แง่วๆ เอ๋ง

แล้วก็จะต่อด้วยลูกหมาแย่งของเล่น
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Sat Feb 28, 2009 7:06 pm

ขนาด บรรณาธิการ ส่งรูปมาลง


ไล่ให้มาโหวตในเว็บ


ว่าไปนั่นจริง ๆ

ถึงว่า หน้าสี อำนาจ โดนยึดเรียบไปตั้งนาน
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 7:08 pm

soco wrote:ขนาด บรรณาธิการ ส่งรูปมาลง


ไล่ให้มาโหวตในเว็บ


ว่าไปนั่นจริง ๆ

ถึงว่า หน้าสี อำนาจ โดนยึดเรียบไปตั้งนาน



กร๊ากกกกก ยังไม่ทันขาดคำนั่นไงมาแล้ว

แง่งๆ แง่วๆ เอ๋ง

แล้วก็จะต่อด้วยลูกหมาแย่งของเล่น

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 7:13 pm

สงสัยจะจริง...เล่นกับลูกหมามานาน

ลืมไปว่า....มันไม่รู้ประสาคน
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 7:20 pm

ใหม่ ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด -ข้อความ: (Re: ภาพป่าคอนกรีตจากบีทีเอสแกลเลอรี่)‏
จาก: ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (noreply@serithai.net)
คุณอาจไม่รู้จักผู้ส่งรายนี้ทำเครื่องหมายว่าปลอดภัย|ทำเครื่องหมายเป็นอีเมลขยะ
ส่งเมื่อ: 8 พฤษภาคม 2550 7:55:29


(DATE)*bonny ได้ส่งข้อความส่วนตัวถึงคุณ:

อ้างจาก: ดอกฟ้ากับหมาวัด ที่ เมื่อวานนี้ เวลา 17:35 ี่

สวัสดีค่ะ คุณบอนนี่ ดอกฟ้าฯได้กลับนึกทบทวนถึงภาพปกหนังสือของพวกเราแล้ว

อยากเรียนตามตรงว่า ยังไม่มั่นใจว่าควรจะเป็นภาพหน้าปกหรือไม่

ดอกฟ้าฯก็เลยนัดพบกับน้องๆที่ขอให้เค้ามาช่วย กันออกความเห็น

เพราะพวกเค้ามีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำหนังสือมามากกว่า 8 เล่ม และมีความสามารถทางด้านอาร์ตเวิร์ก เป็นอย่างดี
หลายคนลงความเห็นว่าภาพของคุณบอนนี่ทีวาดมานั้นไม่น่าจะลงเป็นภาพปก

น่าจะอยู่ในปกในหรือเป็นภาพประกอบบทความจะเหมาะกว่า เพราะออกเป็นลักษณะ

การ์ตูนล้อการเมือง ดอกฟ้าฯก็เลยขอความเห็นเค้าเกี่ยวกับภาพของคุณsaopao

ซึ่งทุกคนลงความเห็นกันว่า ภาพนี้น่าจะเหมาะกว่า เพราะดูอินเทรนด์และสามารถสื่อได้อย่างชัดเจน

ดยอีกประการหนึ่งสมาชิกเสรีไทยฯ หลายๆท่านก็ชื่นชอบภาพนี้ รวมทั้งดอกฟ้าฯด้วย

ดอกฟ้าฯก็เลยขอร้องน้องที่รับวาดภาพให้เราสองภาพ ว่าจะช่วยต่อเติมเสริมภาพให้ได้มั้ย

เค้าก็รับปากว่าได้ และทำให้ฟรีโดยไม่คิดมูลค่าเพราะเค้าก็ไม่ชอบเหลี่ยมเหมือนกัน

ดอกฟ้าฯขอเสนอความเห็นส่วนตัวให้แก่ในที่ประชุมเท่านั้น หากใครมีข้อเสนอแนะหรือมีความเห็นอย่างไร ยินดีรับทราบค่ะ

ทั้งนี้ดอกฟ้าฯทำงานนี้อย่างเต็มที่และเต็มใจโดยปราศจากอคติใดๆค่ะ ดอกฟ้าฯ


ยินดีครับ หากมีภาพปกที่ทุกคนพอใจมากกว่า ภาพของผมก็ตัดออกไปได้ แต่ภาพปกของคุณsaopao ต้องแก้ไขสักหน่อย

ถ้าคนขี่จักรยานคนนั้นสามารถสื่อได้ว่า เป็นคุณทักษิณก็จะเป็นการดี

เช่นศีรษะที่กระเด็นเป็นสี่เหลี่ยมมีหน้าตา หรือไม่ก็ เป็นรูปซีทีเอ็กซ์เสียเลย

ยอมรับครับว่า แม้แต่ผมที่ช่ำชองทางการเมืองมองภาพนี้แล้วก็ชื่นชอบอยู่

แต่ถ้าไม่ได้อ่านคำอธิบายของคุณsaopao ผมไม่รู้ความหมายของภาพเหมือนกัน หรือไม่ก็

..ขอเปลี่ยนคอนเซ็ปท์ใหม่ให้สื่อสารได้ง่ายกว่านี้ อย่าลืมว่า มองปุ๊บต้องรู้ความหมายทันทีนะครับ

เพราะคนทั่วไปจะไม่สามารถอ่านคำอธิบายใดๆ ได้ ใจผมอยากจะให้เปลี่ยนคอนเซ็ปท์ครับ

ซึ่งผมก็ได้แสดงความเห็นทำนองเดียวกันนี้ในกระทู้ไปแล้ว


ยังคิดว่า ของคุณsaopao ลึกเกินไปที่จะเข้าใจได้ ผมไม่อยากให้คนทั่วไปตีความไปได้หลายๆ แง่

ที่สมาชิกส่วนใหญ่ชื่นชอบเพราะยังไม่มีคอนเซ็ปท์อื่นๆ มาเปรียบเทียบก็ได้นะครับ

ผมถึงได้เสนอความเห็นไปว่า อยากเห็นรูปแบบอื่นๆ แต่ก็ไม่มีใครออกแบบมาให้ดู

ให้อ้อทำ ก็เกี่ยงอีก แต่ถ้าน้องๆ ที่อาสามาช่วยงาน จะนำคอนเซ็ปท์ของผมไป

Remake ใหม่ให้อินเทรนด์ก็จะดีไม่น้อย หรือ เป็นคอนเซ็ปท์อื่นที่สื่อสารกับคนทั่วไปได้ง่ายๆ

ก็จะดีมาก อนึ่ง..ถ้าเราออกแบบปกเองทั้งหมด (ปกหลังด้วย) ก็อาจคุยกับอ้อใหม่ได้เรื่องราคาอาร์ตปกนะครับ

แต่อาจเสียความรู้สึกระหว่างกันเล็กน้อย ก็ต้องบอกว่า เราเข้าใจผิดไปหน่อยคิดว่า


เขาจะทำงานในขอบเขตที่กว้างกว่านั้น ส่วนน้องๆ ที่อาสามาช่วยงานนี้

ก็ต้องขอขอบพระคุณอย่างสูง ถึงแม้ไม่รับผลตอบแทนใดๆ


ก็รับกุศลผลบุญไปตลอดชาตินี้และชาติหน้าก็แล้วกันนะครับ

ตอบกลับไปที่ข้อความส่วนตัว: index.php?action=pm;sa=send;f=inbox;pmsg=18733;quote;u=88




เอามาให้หมามันอ่าน....ถ้ายังไม่รู้ภาษา...มีอีกเพียบ
Last edited by ดอกฟ้ากับหมาวัด on Sat Feb 28, 2009 7:25 pm, edited 1 time in total.
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 7:23 pm

55555 เห่ยจริงๆ แล้วยังคิดว่าเจ๋ง

ผมไม่ได้ระบุชื่อนะครับแล้วแต่จะเข้าใจกันเอาเอง
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Sat Feb 28, 2009 7:31 pm

soco wrote:คิดถึงวันนี้ ผมถือว่า ผมโชคดีจริง ๆ :lol:




ผมอ่าน พิมพ์ เรียนรู้จิตวิทยาคนมาเย๊อะ พวกนี้ไม่ได้แอ้มผมหร๊อกกกก

ให้ถือว่าเป็นกรณีศึกษา :lol: :lol:
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 7:32 pm

soco wrote:
soco wrote:คิดถึงวันนี้ ผมถือว่า ผมโชคดีจริง ๆ :lol:




ผมอ่าน พิมพ์ เรียนรู้จิตวิทยาคนมาเย๊อะ พวกนี้ไม่ได้แอ้มผมหร๊อกกกก

ให้ถือว่าเป็นกรณีศึกษา :lol: :lol:


งึดงุดๆ

ลูกหมางอนละ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 9:22 pm

*bonny wrote:
6) มีคนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมต้องรีบเร่งเรื่องส่งบทความ ในเมื่อบทความไม่พร้อม ทำไมไม่ขยายเวลาออกไป?

จริงๆ เรายืดหยุ่นให้นะครับ
เดิมเราให้เวลาหนึ่งเดือน หรือ 1 ใน 3 ของระยะเวลาโครงการ ไม่ถือว่า เร่งรัดหรอก ถ้ามีสมาชิกเริ่มต้นเขียนแต่ยังเขียนไม่เสร็จ เรายินดีขยายเวลาให้ จะอีกกี่วันก็ว่ามา แต่ครบหนึ่งเดือนแล้ว หากยังไม่ได้เริ่มจดปากกาเขียน แสดงว่า ไม่สนใจส่งบทความแล้ว
เรามีการกระตุ้นให้เริ่มเขียนบทความส่งตลอดทั้งเดือนนะครับ โน้วน้าวแล้วโน้มน้าวอีก กระทู้เก่าเป็นพยานได้
พอครบกำหนด 1 เดือน เราก็ขยายเวลาออกไปอีก 10 กว่าวัน จนแน่ใจจริงๆ ว่า ไม่มีผู้สนใจส่งบทความแน่แล้วเราจึงเดินหน้าต่อ ระยะเวลาที่ขยายออกไปนี้ก็ทำให้หนังสือออกช้ากว่ากำหนด จาก 3 เดือน เป็น 4 และเป็น 5 เดือนในที่สุด

นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ผมต้องให้เป็นไปเช่นนั้น..คือ
--หนังสือที่มีสาระเกี่ยวกับการเมืองและเศรษฐกิจ ต้องสะท้อนภาพการเมืองและเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่หนังสือออกได้ใกล้เคียงที่สุด เรามีกำหนดการ 3 – 4 เดือนในการทำให้จบ ระหว่างนั้น เป็นรัฐบาล นายกสุรยุทธ์ ผมได้แต่ภาวนาทุกคืนวันว่า อย่าเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงขึ้นในฉับพลัน เช่น..ปฏิวัติซ้อนที่มีข่าว หรือ ทักษิณกลับเมืองไทย หรือ มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น เพราะจะทำให้บทความที่เรามีอยู่กลายเป็นเรื่องล้าสมัยในทันที เรียกว่า อาจต้องโละบทความบางบททิ้งก็ได้

--.ผมได้กำชับคุณดอกฟ้าและเม่ยอย่างเด็ดขาดว่า อย่าเพิ่งเปิดกระทู้รับจองหนังสือและเก็บเงินสมาชิกหากงานยังไปไม่ถึงบทสรุป 70-80% เพราะจะทำให้เราถูกบีบเรื่อง ราคาหนังสือ และกำหนดเวลาแล้วเสร็จ
แต่เธอทั้งสองก็ไปตั้งกันเองแล้ว และมีคนจองเข้ามาแล้ว ส่งเงินเข้าบัญชีกันแล้ว มีการคาดการณ์กำหนดวันที่หนังสือจะจัดส่งกันแล้ว
จะให้ผมทำยังไงครับ ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เกมมันไม่ได้กำหนดที่ผมนะครับ ผมแค่เดินตามให้ทันและอย่าสะดุดล้ม




ตอบ : ตอนแรกยอมรับว่าไม่เข้าใจแล้วยังงงๆ

แต่พอเรื่องมันดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว...ตาสว่างเลย

คำพูดของคุณบอนนี่...มันขัดแย้งกันอยู่ในตัว

เกี่ยวกับคำที่กล่าวหาว่า...ดอกฟ้าฯ รวบอำนาจ

แหม....ถ้าเป็นงั้นจิง...คงเห็นควายเดินตามมาตั้งหลายตัวเลย




7) คุณดอกฟ้ากล่าวหาว่า คุณพยายามยัดเยียดบทความเก่าของคุณลงในหนังสือเล่มนี้แบบฉวยโอกาสที่มีคนถอนเรื่องออก ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร?

ในสัปดาห์สุดท้ายก่อนส่งบทความและรูปภาพเข้าสู่โรงพิมพ์ จู่ๆ สมาชิกเจ้าของบทความท่านหนึ่งก็เมล์มาขอให้ถอนบทความออก มิเช่นนั้นจะฟ้องหากนำไปลง

ตอนนั้น ทำให้เราขาดบทความไปหนึ่งเรื่อง ไม่สามารถปิดหนังสือได้ตามจำนวนหน้าที่กำหนด และผมเองก็คงไม่เขียนเพิ่มแล้ว มันกระชั้นชิดเกินไปที่จะทำผลงานให้ดี จึงปรึกษาน้องทั้งสองว่า ผมมีบทความอยู่ในบล็อกส่วนตัว 2 เรื่องที่อยากแนะนำให้ไปอ่านดู หากอ่านแล้วชอบใจก็ไปเก็บมาได้ แต่ผมก็บอกก่อนแล้วว่า..เคยลงที่พันทิปมาแล้วนะ นานหลายปีแล้ว สมาชิกหลายท่านคงยังไม่ได้อ่าน (น้องทั้งสองเคยอยู่พันทิปมาก่อนก็คงยังไม่เคยอ่านเช่นกัน)

แต่ดอกฟ้าแย้งว่า ในเมื่อเป็นบทความเก่า ไม่ได้เขียนขึ้นใหม่ตามกติกา ถือว่า ผมทำผิดกฏซะเอง ซึ่งผมก็ไม่ได้โต้แย้งว่ากระไรสักคำเดียวนะครับ ไม่เอาก็คือไม่เอา กรณียัดเยียดนี่คงเป็นไปไม่ได้
ผมจะไปยัดเยียดเพื่ออะไรกันครับ เพราะเรื่องสั้นทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องสั้นที่ยังไม่ได้ส่งให้สำนักพิมพ์ นอกนั้นในบล็อกผมถูกนำไปตีพิมพ์เป็นหนังสือหมดแล้ว เรื่องสั้นทั้งสองเรื่องนี้ก็รอผมเติมให้ครบจำนวนหน้า ส่งให้โรงพิมพ์ขายรวมเล่ม ก็ได้เงินไปแจกเด็กๆ เหมือนกัน (เรื่องสั้นเรื่องหนึ่งได้เงินประมาณ 5000 บาท ส่วนนิยายได้ 30000 – 50000 บาทต่อเรื่อง ผมจึงไปเขียนนิยายก่อน ใช้เวลาผลิตเท่ากัน)

ผมแค่เสนอทางแก้ในสถานการณ์เข้าตาจนและยังบอกด้วยว่า ถ้าเอือมชื่อ*bonny จะใช้นามปากกา ปริณดา ก็ได้ ไม่ได้บังคับว่าต้องนำไปลง และไม่เคยเถียงหรือคะยั้นคะยอสักคำเดียว แต่ยังบอกให้ตระหนักกันแต่แรกว่า เคยเป็นกระทู้เก่าในพันทิปมาแล้วนะ

ในเมื่อไม่เอาบทความเก่า แทนที่พวกเราจะต้องประชุมหาวิธีอื่นแก้ปัญหา ยังมีอีกตั้งหลายวิธีที่หาทางออกได้ เช่น เลื่อนงานพิมพ์ ..ลดจำนวนหน้าพร้อมลดราคา หรือ เอาบทความที่ได้คะแนนน้อยมาพิจารณาใหม่

แต่ปรากฏว่า น้องทั้งสองได้ใช้โอกาสนี้ ตัดผมออกจากทีมงาน ยึดอำนาจในการพิจารณาร่วมกันของผมไปหมด ไม่ยอมพูดคุย ไม่ติดต่อผมอีกเลย

ผมมารู้เอาภายหลังจากหนังสือออกขายแล้วว่า พวกเธอแอบไปติดต่อนักเขียนที่มีบทความอยูในหนังสือจำนวนหลายเรื่องแต่ใช้ชื่อต่างกันให้เขียนเรื่องเพิ่มเติม แล้วนำส่งให้โรงพิมพ์ไปเลยโดยไม่ต้องให้ผมร่วมรับรู้



ตอบ : ตรงนี้คุณบอนนี่ตอแหลกลางอากาศเลย

บทความสุดท้ายที่ได้ลงในหนังสือเล่มนี้ ของคุณโกย (จน) เจ๊ง เรื่อง ฤทธิืคิดสั้น

ที่ไปขอความกรุณา จากนักเขียนท่านหนึ่ง ที่ช่วยปั่นส่งมาให้ชั่วข้ามคืน

ได้ผ่านการพิจารณา...จากเราทั้งสาม ด้วยเหตุผลที่บอนนี่ ไม่อาจปฎิเสธได้


"คนโกหกมักจำคำพูดของตัวเองไม่ได"้ ตรงนี้พยายามเข้าใจนะ
์ื์


ผมมาได้อ่านเรื่องนี้พร้อมกับเพื่อนสมาชิกท่านอื่นๆ ตอนหนังสือออกแล้วนั่นแหละครับ
นอกจากนี้ ภาพเขียนของผมทั้งหมดก็ถูกตัดออกด้วย แต่ภาพที่คุณดอกฟ้านำเสนอทั้งหมด ได้ปรากฏอยู่ในหนังสือทุกภาพ แม้บางภาพรับปากกันว่า จะหามาใหม่ก็นำมาบรรจุหมด
คุณดอกฟ้าจัดการหมด สั่งการเองหมด ไม่งั้นคุณอ้อจะจัดเรียงภาพเหล่านั้นได้อย่างไรถ้าไม่มีคนส่งภาพให้
จริงๆ แล้ว คุณอ้อ ทำรูปเล่มแล้วจะต้องส่งดราฟท์งานให้ทีมงานกองบก.ตรวจถึงจะถูก แต่ผมไม่เคยได้ตรวจดราฟท์งาน มีแต่งานให้ตรวจบรูฟ
คงกลัวผมจะคัดค้านเรื่องภาพสีที่แอบสอดไส้มั้ง ?
การข้ามขั้นตอนที่ผมจำเป็นต้องมีส่วนร่วมนี่แหละครับ ที่เธอเอาไปคุยในกระทู้ว่า หนังสือเล่มนี้เธอทำเองคนเดียว คุณบอนนี่ไม่เกี่ยว

อย่างนี้ คุณคิดว่า ใครกันแน่ที่ยัดเยียด และใครกันแน่ที่ใช้อำนาจอันมิชอบ


ตอบ : นี่ไง...เห็นชัดๆเลย

เมื่อไม่มีหมาแมวมาช่วย ต้องดิ้นรนขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็ต้องทำ

บทคุณบอนนี่จะหายก็หายเข้ากลีบเมฆไปเลย


ทิ้งอะไรให้ตัดสินใจกันเอง พอเข้ามาก็บอกว่าไม่เห็น

เพราะใช้ล๊อกอินอื่น


อยากดูหลักฐานอีกป่ะ ว่าคุณแก้ตัวว่าไง




8) ทำไมกระทู้ที่แฉเบื้องหลังของคุณดอกฟ้า กับถ้อยแถลงของคุณจึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงแล้วจะให้เชื่อใครดี?

ผมตกใจพอสประมาณที่เธอกล้าทำกระทู้แฉเบื้องหลัง ที่สุดท้ายลงเอยด้วยการยกหางตัวเอง แสดงว่า เธอไม่ปกติแล้ว คนจิตปกติไม่ทำเรื่องเช่นนี้หรอกครับ

คุณดอกฟ้ากล้าประกาศในกระทู้เบื้องหลังการทำหนังสือของเธอว่า นี่คือ วีรกรรมที่เธอได้ทำลงไปและสมควรได้รับการยกย่อง ก็แสดงว่า เธอคิดว่า เป็นสิ่งดีงามแล้ว

แต่ผมกลับคิดว่า นี่เป็นความเลวร้ายที่สุดเท่าที่คนทำงานคนหนึ่งจะได้รับจากเพื่อนร่วมงาน..

ถ้านี่เป็นการทำธุรกิจ ผมก็ถูกหักหลังโดยหุ้นส่วน เพราะความไว้วางใจคนที่ผมแทบไม่รู้จักมาดูแลเรื่องเงินให้ผม ก็คงยกให้เป็นความผิดของผมเองด้วยก็แล้วกัน

ความจริงตอนนั้น.. ถ้าพวกเธอมีนักเขียนอยู่ในใจและต้องการเสนอทางออกนี้ ถ้านำเสนอในที่ประชุม คงคิดว่าผมจะคัดค้านหรือไงครับ?
ผมจะตอบรับข้อเสนอด้วยความยินดีด้วยซ้ำไป หรือหากผมไม่เห็นด้วยขึ้นมา ก็เป็นเพียงเสียงเดียวที่แพ้โหวตในที่ประชุมอยู่วันยังค่ำ ใยต้องใช้วิธีต่ำทรามเช่นนี้ ทั้งๆ ที่อ้างกฎระเบียบกับผม แต่คุณทำลายกฏทุกข้อ ยกเว้น กฏแห่งกรรม

เข้าใจว่า เธอคงเกลียดผมและอยากทำอะไรแก้แค้นให้ผมเจ็บใจมากกว่า



ตอบ : ฉันจะเกลียดคุณหรือเม่ยเรื่องอะไร

คิดดูให้ดี...ก่อนจะป้ายสีคนอื่น

ทำหน้าที่แทนที่คุณควรจะทำมันให้แล้วเสร็จ คุณคิดแบบนี้ถือว่าชั่วมากจริงๆ




ผมจะทำอะไรได้ ในเมื่อไม่ใช่คนถือเงินของสมาชิก คุณคิดว่า คุณอ้อและโรงพิมพ์จะฟังผมหรือคนที่จะจ่ายเงินเขาล่ะครับ จะร้องแรกแหกกระเฌอประนามในกระทู้อย่างที่เธอทำอยู่นี้ บอกตามตรงว่า ไม่เคยคิดเลยครับ มันเป็นวิธีการที่อุบาทว์ชนเท่านั้นคิดเรื่องเช่นนี้ได้

ในสังคมของคุณดอกฟ้าอาจเรียกว่า นั่นเป็นวีรกรรม แต่ในสังคมที่ผมสังกัด เราเรียกว่า การทรยศครับ

วิธีการของผมในการตอบโต้ คือ ใช้ขันติธรรม..อดทน อดกลั้น นิ่งเฉย ใครอยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมไม่เคยปริปากบอกเรื่องนี้กับใครนะครับ ยังยึดมั่นในทีมสปิริต ยึดมั่นในความถูกต้องที่ผมกระทำ แม้หนังสือออกแล้ว ก็เข้าไปแจมกระทู้ตลอด ทำเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างกัน
จนกระทั่งวันนี้ หากเธอไม่ทำกระทู้แฉเบื้องหลัง ผมก็คงไม่พูดถึงมันอีก เพราะคิดเสมอว่า มันผ่านไปแล้วๆ ๆ ให้อภัยและลืมมันซะ
ผมใช้เมตตาพรหมวิหารที่ผมภาวนาอยู่เป็นประจำแผ่เมตตาให้เธอเสมอๆ นะครับ

สรรพเพสัตตา อพยาปัชโช โหตุ..ขอให้สัตว์โลกอย่าผูกพยาบาทต่อสัตว์โลกที่ทำไม่ดีต่อเรา
สรรพเพสัตตา อนีโฆ โหตุ..ขอให้สัตว์โลกทั้งหลายหลุดพ้นจากทุกข์ที่ถือโทษโกรธเคืองรุมเร้าจิตใจด้วยเถิด

ส่วนสมาชิกที่ได้อ่านทั้งสองฝ่ายแล้ว ควรจะเชื่อใครดีนั้น ผมคงตอบแทนสมาชิกไม่ได้หรอก
คนเรามีวินิจฉัยต่อเรื่องราวที่ตนเองกระทำลงไปแตกต่างกันไป คุณดอกฟ้าบอกว่า นี่เป็นวีรกรรมที่งดงาม ก็เพราะเธอเชื่อเช่นนั้นจริงๆ ตามวิสัย และวิถีชีวิตที่เธอได้รับการอบรมมา

ผมขอยกตัวอย่างกรณีหนึ่ง..
นักเรียนช่างกลปทุมวันยิงนักเรียนอุเทนถวายเสียชีวิต ถ้าหากคนยิงไม่ถูกตำรวจจับ เขาก็จะบอกกับเพื่อนๆ ของเขาว่า ที่เขาทำน่ะ เป็นวีรกรรมี่ดีเลิศ น่ายกย่องที่สุดแล้ว “มันเสือกมองหน้าทำไม ถ้าหลบสายตาป่านนี้ก็ไม่ตายหรอก” คือยังไง นักเรียนคนนี้ก็ไม่คิดว่า สิ่งที่ตัวเองทำนั้นผิด เพราะได้รับการบ่มเพาะความเชื่อมาตลอดว่านี่คือ การกอบกู้ศักดิ์ศรีของโรงเรียนและของลูกผู้ชาย

คนที่จะตัดสินว่า เด็กคนนี้ผิดหรือไม่ มีเพียงผู้พิพากษาเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อนฝูง พ่อ-แม่ หรือ ครูอาจารย์

ทุกท่านในที่นี้ก็ต้องตัดสินกันเอาเองโดยใช้วิจารณญาณที่ดี และสติปัญญาที่พวกท่านมีอยู่แล้ว



ตอบ : ขอบคุณมากๆเลย..ที่แผ่เมตตามหากุศลให้

แต่คำพูดที่คุณบอนนี่พล่ามมาทั้งหมดมันขัดแย้งกับความในใจพิกล

มิน่าพักนี้..ถึงรวยๆ แถมสุขกายสบายใจจริงๆ

เลยได้ไปท่องเที่ยวอย่างมีความสุข



9) การออกมาเปิดโปงคนในทีมเช่นนี้ ไม่คิดหรือครับว่า จะเป็นคนทำลายทีมสปิริตเสียเอง?

การยึดมั่นในทีมสปิริตของผมคงทนตลอดไปไม่ได้นะครับ เพราะมีผู้เสียหาย ทั้งผม ..เม่ย และสมาชิกที่จ่ายเงินค่าหนังสือมา รวมทั้งขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดด้วย มีผมคนเดียวเท่านั้นที่จะเรียกคืนความเป็นธรรมให้กับคนเหล่านั้นได้

การพูดในครั้งนี้ จะเป็นบรรทัดฐานในการทำงานของคณะผู้จัดทำหนังสือชุดต่อไปด้วยว่า ต้องทำอย่างไร มีจุดอ่อนในการจัดการอย่างไร



ตอบ : หากต้องออกมาชี้แจงเพราะโดนป้ายสี

จากคำพูดที่เป็นข้อเขียน ที่คุณบอนนี่จั่วหัวกระทู้ ซึ่งน่าจะหมายถึงใคร

เด็กอมมือก็ตีความออก จำเป็นต้องออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเอง




10) ทำไมคุณดอกฟ้ากับเม่ยถึงแตกคอกันได้ล่ะ พวกเขาร่วมมือกันมาตลอดมิใช่หรือ?

หลังจากหนังสือออกแล้ว เธอกับเม่ยก็จัดงานเปิดตัวหนังสือ มีเลี้ยงสังสรรค์กัน โดยไม่มีการปรึกษากับผมใดๆ ทั้งสิ้น



ตอบ : ตรงนี้ก็ตอแหลอีกแล้ว....ไม่เชื่อไปถามเม่ยสิ

เราเชิญคุณบอนนี่ บอกกล่าววันเวลาเบ็ดเสร็จ

บอนนี่ตอบว่า ผมอาจจะไปร่วมงาน โดยอาจผ่านไปแถวนั้น

แล้วโดดรถลงมาแจมด้วย

ดอกฟ้าฯ ตอบว่า ไม่ได้ค่ะ ทุกคนที่เข้าร่วมงาน ต้องมีรหัส ที่เราจัดให้ทุกคน

ไม่มีข้อยกเว้น รวมทั้งทีมงานทุกคนด้วย ใครที่ไม่มีรหัส ไม่สามารถเข้ามาร่วมงานได้


เรื่องนี้ สมาชิกที่มาร่วมงานเปิดตัวหนังสือทราบดี


คุณบอนนี่ก็เลยเงียบไป...จะโกหกหน้าบอร์ด ทำให้เนียนๆหน่อยก็ดีนะ




การอดทนรอ และนิ่งเฉยของผมดำเนินไปตลอดไม่ได้นะครับ เพราะงานของโครงการยังไม่จบนี่ครับ

เงินที่รับจากสมาชิกต้องเคลียร์ที่มาที่ไป และส่งเงินบริจาคให้เด็กด้อยโอกาสเสียก่อน ผมจึงยังต้องเข้ามาสางงานต่อในส่วนนี้ ซึ่งพอจะตั้งลำเคลียร์ คุณดอกฟ้าก็เปิดหมวกลาออกในกระทู้ของผมทันที ไม่ลาออกเปล่าๆ ทราบภายหลังจากเม่ยว่า ชวนเม่ยให้สละเรือพร้อมกับเธอด้วย กะให้*bonny ตายซากอยู่คนเดียวพร้อมกับงานเก็บกวาดขยะที่ต้องทำให้จบ

อืมม์..สุดยอด

น้องเม่ยเอะใจ และเกิดภาวะ ตาสว่างขึ้นมาเมื่อไรไม่ทราบได้ ยินยอมทำงานร่วมกับผมต่อไปและระบายความในใจให้ผมฟังผ่านเมล์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และขอโทษที่ต้องทำเช่นนั้นลงไปเพราะเธอถูกครอบงำอย่างโงหัวไม่ขึ้น

และที่ผมกับเม่ยต้องทำงานกันสองคนตั้งแต่การส่งมอบหนังสือ การบริจาคเงินให้เด็กๆ จนถึงทุกวันนี้ ก็คือ งานเก็บกวาดที่เหลืออยู่ พูดง่ายๆ ก็คือ งานภารโรง ถ้าไม่ทำจะให้ใครทำล่ะครับ แต่ดอกฟ้ากลับบอกว่า ผมและเม่ยกำลังกอบโกยความดีใส่ตัวไปเสียฉิบ อ้าว..เวรกรรม

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในทุกกระทู้ของผมและเม่ยและมีคุณดอกฟ้ามาแจมด้วยการแขวะใส่และหยามน้ำหน้าเสมอมา แต่ก็ลองไปเปิดดูได้ทุกกระทู้นะครับว่า ผมไม่เคยตอบโต้ และไม่เคยนำเรื่องราวของเธอไปเปิดเผยในที่สาธารณะให้เสียหาย เพราะตอนนั้น ผมยังยึดมั่นในทีมสปิริตอยู่

(พักครึ่งนะครับ อีก 10 คำถามจะตามมา)




ตอบ : เพิ่งจะรู้นะเนี่ย ว่าสามารถสะกดจิต ครอบงำใครได้

คนที่ถูกแขวะตลอดเวลา...ทั้งที่ลาออกจากงานหนังสือแล้วน่ะ

เป็นดอกฟ้าฯเองมากกว่า....คุณบอนนี่ละเมอป่ะ



ปล. อมยิ้มพระเอก (ยี่เก) ของคุณบอนนี่เสื่อมเร็วจังนะ

เสื่อมเพราะคำพูดของตัวเองแท้ๆ อย่าโทษคนอื่นเลย ขอบอก

ขอพักยกเหมือนกัน...เด๊่ยวมาต่อ
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 10:49 pm

[quote="*bonny"]11) มีคนบอกว่า คุณ*bonny กับเม่ยเอาความดีความชอบของคุณดอกฟ้ากับหมาวัดไปหมด เธอทำงานหนักคนเดียวในหนังสือเล่มนี้จริงหรือ?

เธอควรจะให้เกียรติทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำหนังสือนะ การพูดว่า หนังสือเล่มนี้ดอกฟ้าทำงานหนักที่สุด ทำคนเดียว เป็นการฉกฉวยผลประโยชน์ใส่ตัวอย่างน่าละอายที่สุด

ลำพังแค่ภาพถ่าย + จัดงานเลี้ยง ทำให้เกิดหนังสือไม่ได้หรอกครับ และโครงการนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่ทำหนังสือจบเท่านั้น

หนังสือสำเร็จได้ เพราะทุกคนมีส่วนร่วมต่างหาก ตั้งแต่คุณเก็ตถวา น้องออฟ คุณอ้อ เม่ย และผม รวมทั้งนักเขียนบทความทุกคน ต้องได้รับคำชื่นชม
หนังสือเล่มนี้ คนซื้อเพราะสาระของบทความนะครับ ไม่ใช่เพราะภาพถ่าย คุณดอกฟ้าต้องจดจำไว้



ตอบ : มีคำพูดไหน ในกระทู้ไหนที่เคยยกหางตัวเองบ้างรึเปล่า

ถ้ามี...ช่วยเอามาแปะให้ดูด้วย...บอกทุกครั้งว่าไม่เคยจับหรือทำหนังสือมาก่อน

ทำเสร็จได้...เพราะดันทุรังทำ แถมโดนประณามก็มากเกินไปแล้ว


ถ้าคนสั่งจองซื้อ...แล้วรู้เจตนาของคุณบอนนี่...คนคงต้องคิดหนักอ่ะค่ะ


ตอนนั้นดอกฟ้าฯ ยังไม่เฉลียวใจเลย..ว่ามีวาระแอบแฝง



คนที่ทำงานหนักที่สุดไม่ใช่ดอกฟ้าครับ แต่เป็นน้องเม่ย
ส่วนคนที่เจ็บปวดจากหนังสือเล่มนี้มากที่สุดก็ไม่ใช่ดอกฟ้าอีกเช่นกัน แต่เป็นผม

งานทำหนังสือเล่มหนึ่ง ถ้าตัดเรื่องงานเขียน งานอาร์ต งานพิมพ์ ออกไปแล้ว เหลืองานไม่เยอะหรอกครับ จะว่างานหนักคงไม่ใช่ แต่น่าจะเป็นอาการหนักใจมากกว่า

หลังจากคุณดอกฟ้าลาออกไป น้องเม่ยต้องเป็นคนส่งหนังสือให้กับสมาชิกที่สั่งจองด้วยตัวเองหมด ผมบอกว่าจะช่ายเธอยังไม่ยอมเลย ความจริงผมมีลูกน้องที่ทำงานที่คุ้นเคยกับการทำเรื่องเช่นนี้มาหลายครั้ง แต่เธอยืนยันว่า ไม่หนักหนาอะไร นอกจากนี้ยังต้องทำบัญชีรับจ่ายทั้งหมดดังที่ปรากฏ
น้องเม่ยยังต้องทำเรื่องส่งเงินบริจาคไปยังองค์กรการกุศลต่างๆ ให้ด้วย ล่าสุดหอบหนังสือหลายร้อยเล่มไปบริจาคให้กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงศึกษาจนแล้วเสร็จ

ผมบอกให้เม่ยเบิกค่าพาหนะต่างๆ ที่จ่ายไปแล้วจำนวนมาก ทั้งค่าแท็กซี่ รถไฟฟ้า จยย.รับจ้าง แต่เธอบอกว่า ไม่เอา กลัวเป็นขี้ปากให้คนนินทา

ที่พูดมาไม่ใช่ว่า คุณดอกฟ้าไม่มีผลงานนะครับ เธอก็เป็นคนที่ทุ่มเทให้หนังสือเล่มนี้อย่างมากด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่ทุ่มเทนั้นผิดหลักการทำงานร่วมกัน เธอรวบงานบางอย่างไปทำคนเดียวเพราะความหวาดระแวง เกลียดและกลัวครอบงำจิตใจ



ตอบ : ตรงนี้...คือวลีที่สะท้อนคำพูดกับคำชม..ที่ขัดแย้งกันแบบ

น่ารังเกียจที่สุด จะด่าก็ด่า จะชมก็ชม คนแถวบ้านเค้าเรียกว่าหลอกด่าแบบ ขาดเหตุผล

ถ้าเม่ยจะเหนื่อยนะ...คือเรื่องปากยื่นปากยาว นินทาชาวบ้านไปทั่วมากกว่า

เธอขอทำเรื่องส่งหนังสือ ให้สมาชิกเอง

ด้วยเหตุผลที่ว่า...ขอทำอะไรเป็นประโยชน์บ้าง

ทั้งที่ดอกฟ้าฯ พนักงานในบริษัทฯ ช่วยกันส่ง วันเดียวก็ถึงมือสมาชิกทุกท่าน


เธออ้างว่า....บ้านเธออยู่ใกล้ ที่ทำการไปรษณีย์




เธอลืมไปว่า โครงการนี้ผมเป็นเจ้าของโครงการ เมื่อเริ่มแล้วผมก็ต้องทำจนจบ เริ่มที่ผมก็ต้องจบที่ผม ไม่ใช่จบที่คุณดอกฟ้าหรือใครๆ ต่อให้เธอทำงานคนเดียว 100% ยังไงก็มีสถานะผู้ร่วมงานไม่ใช่เจ้าของโครงการนี้ เว้นเสียแต่ผมยกโครงการนี้ให้เธอไปทำ ซึ่งก็ไม่ใช่อีก ดังนั้น..เธอจะตัดผมออกจากความรับผิดชอบไม่ได้
โดยเฉพาะเธอบอกว่า เธอหลงหรือหลวมตัวมาทำงานนี้เพราะถูกคนยุ งานอาสาสมัครนะคุณดอกฟ้า ถ้าหลวมตัวเข้ามาแล้วเห็นว่า ไม่ดี คุณลาออกเมื่อไรก็ได้ แต่ไม่มีสิทธิ์ไปทำลายคุณค่าโครงการของเขา สุดท้ายจัดงานเลี้ยงแล้วเปิดหมวกอำลาเอง มาบอกว่า หลวมตัว เสียค่าโง่ไปแล้ว ทำไมความรู้สึกของคุณช้าจัง



ตอบ : เอ้าา...พูดอีกก็ผิดอีก

ก็พ่อแม่สั่งสอนมาดีไงคะ...ว่าจะรับทำการใดๆ จงทำให้บรรลุผล

ไม่ว่าจะเจออุปสรรค เป็นช้าง ม้า วัว ควาย ก็ควรทำให้เสร็จสิ้น

แล้วจงแอบภูมิใจที่ได้ทำ นั่นก็เพียงพอแล้ว






12) คุณดอกฟ้าบอกว่า เธอออกเงินค่าเลี้ยงดูทีมงาน และคนนอก และออกค่าใช้จ่ายงานเลี้ยงเปิดตัวหนังสือเองทั้งหมด เป็นความจริงหรือไม่?

เป็นความจริงครับ แต่ผมไม่ถือเป็นผลงานในโครงการนี้แต่เป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอเสนอตัวทำเอง

หนังสือการกุศลหารายได้ให้เด็กๆ แต่นัดพบปะพูดคุยทำความรู้จักกันที่ห้องอาหารในโรงแรมโซฟีเทล เซ็นทรัล (หลายครั้ง) ผมถือว่า เป็นการอวดศักดาและบารมีส่วนตัว ทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่า เธอมีบารมีทางการเงิน หาใช่แนวทางของการทำหนังสือของผมไม่



ตอบ : ตรงนี้...เป็นความชอบของดอกฟ้าฯ ในอันที่จะเลือกสถานที่ประชุม

และยินดีที่จะเลี้ยงทีมงานให้สมเกียรติ ที่ยอมเหน็ดเหนื่อยมาร่วมทำงานให้เรา

ดอกฟ้าฯ ไม่เคยมาประกาศหน้าบอร์ดให้ใครรับทราบว่าเลี้ยงกันที่ไหน

คุณบอนนี่ทราบ...เพราะว่าดอกฟ้าฯ เรียนเชิญบอกกล่าวให้มาร่วมประชุม

คุณปฎิเสธยังไม่พอ...ยังมาหาว่าดอกฟ้าฯ อวดศักดาบารมีแบบคุณ

ที่เอาภาพบ้านทรงไทยมาอวดชาวบ้านแบบไร้ยางอายอีก


เออ...หนอคน...."ตัวเองเป็นอย่างไร มักจะคิดว่าคนอื่นขี้อวดเหมือนตัวเอง"




การจัดงานเลี้ยงเปิดตัวหนังสือ ผมจำได้ว่า เดิมจะใช้ร้านบารนีของคุณอังศนา มีน้ำท่า ชากาแฟนิดหน่อย คุณอังศนายินดีให้บริการ แต่เธอเปลี่ยนเป็นโชว์เมนูที่เธอลงมือทำเอง หมดเงินไปเยอะ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่เธอมีพาวเวอร์จะทำได้ คุณเธอก็ได้หน้าได้ตาได้รับคำนิยมชมชอบไปหมดแล้ว ผมไม่คัดค้านใดๆ แต่ถือเป็นบุญคุณกับหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ มันไม่ใช่แนวทางของผม คุณดอกฟ้ากำหนดแนวทางเองหมด เหมือนกับที่เธอทำงานกับผม คือ พยายามควบคุมทุกส่วนเอาไว้ในมือ เพื่อทำตามอำเภอใจและลงความเห็นว่า นี่คือผลงานที่ทุ่มเท

งานเปิดตัวหนังสือทั่วๆ ไปที่สำนักพิมพ์จัดขึ้น ยอดพิมพ์เป็นหมื่นเล่ม เขาเลี้ยงแค่ชา กาแฟ และคุ้กกี้ เท่านั้น นั่นเขาทำเพื่อหากำไรจากหนังสือนะ แต่เราไม่ใช่

ผมทำหนังสือกับคุณอ้อมาหลายเล่ม คุยกันทางโทรศัพท์ ส่งงานกันทางเน็ต และไปรษณีย์ ไม่เคยเจอหน้ากันเลย แต่หนังสือก็เสร็จสมบูรณ์เหมือนกัน

ฉะนั้น..กรุณาอย่าตีค่าเงินที่คุณหว่านลงไปโดยไม่จำเป็นมาเกี่ยวข้องกับงานทำหนังสือเล่มนี้เลยครับ

13) มีคนบอกว่า ผลประโยชน์ตกอยู่กับคุณ*bonny เต็มๆ คุณแอบอ้างทำโครงการนี้ทำเพื่อตนเองหรือเปล่า?

ผลประโยชน์บ้าบออะไร ตั้งแต่มีงานนี้ขึ้นมา เจ็บตัวกันทุกคน เฉพาะเรื่องตัวเงิน คุณดอกฟ้าก็หมดไปเยอะ เม่ยก็หมดไปเยอะ ผมก็หมดไปเยอะ แต่ละคนควักกันเรือนหมื่นทั้งนั้น ผมจ่ายไปแล้วทั้งสิ้น 9,500 บาท ได้หนังสือมา 7 เล่ม
สุดท้าย เรามาทะเลาะกัน สาวไส้กันให้คนในบอร์ดตัดสินว่า ใครถูกใครผิด ได้ประโยชน์ตรงไหนไม่ทราบ



ตอบ : คุ้มค่ะ...เพราะจะได้เป็นกรณีศึกษาว่า

คอหยักๆ สักแต่เรียกว่าคนไง




หนังสือเล่มนี้พิมพ์เป็นการเฉพาะกิจ แค่ 1000 เล่ม ขายภายในบอร์ดไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ขายภายนอก 50 เล่มนอกนั้น..แจกฟรี
ตั้งข้อสังเกตแบบนี้ เพราะมีนามแฝง*bonny ปรากฏเป็นเสนียดตาหลายคนมากกว่ามั้ง

หน้ามืดจนลืมกันไปว่า ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือ สังคมที่ด้อยโอกาสต่างหากล่ะ


ผลประโยชน์แอบแฝง...มีมากมาย

สำหรับใครบางคนที่นำส่วนนี้...ไปอ้างอิงผลงานในอนาคตได้ไง



นอกจากนี้ ตอนทำหนังสือเล่มนี้ คนทำงานอาร์ตให้เราและโรงพิมพ์ยังไม่ยอมรับพิมพ์บทความของ*bonny ด้วยเหตุผลที่ว่า..ค่อนข้างหมิ่นเหม่ต่อการถูกฟ้องร้อง จนผมต้องเอากลับมาแก้ไขถึงสองครั้งสองคราจึงพิมพ์ได้ เนื้อหาตอนแรก เล่นกันตั้งแต่คุณพ่อของคุณทักษิณออกหากินเลยนะครับ ผมเล่นแรงและเล่นหนักถึงไส้ถึงพุง อยากรู้นักว่า ผมได้ประโยชน์จากบทความหรือคนอ่านได้ประโยชน์กันแน่









ในหนังสือเล่มนี้ ลองอ่านดูนะครับ ผู้ที่เขียนบทความโจมตีระบอบทักษิณเต็มๆ มีแค่ผม กับคุณศิลาแลง คนละสองบทความ นอกนั้นเขียนเรื่องความรู้ทางการเมืองและสังคมทั่วๆ ไป
ถ้าถูกฟ้องร้อง ไม่ว่าจะเป็นบทความของ *bonny หรือ ของคุณศิลาแลง (คุณศิลาแลงใช้ชื่อตัวละครปลอมทั้งหมด ยังไงก็ต้องตีความหลายชั้นกว่าจะถึงตัว) คนที่ต้องรับผิดชอบ คือ บรรณาธิการของหนังสือเล่มนี้ ซึ่งก็เป็นผมวันยังค่ำ คงไม่ใช่ดอกฟ้า หรือเม่ยหรอก คนอื่นในเสรีไทยก็คงไม่อาจช่วยผมได้หรอกครับ

และเพราะใช้ชื่อ*bonny นี้นามเดียวมาตลอด ไม่เคยสวมหน้ากาก ทำให้สืบหาที่อยู่ และตัวตนได้ไม่ยาก

แม้แต่สมาชิกในนี้ยังมีการพยายามเอาชื่อ เอาที่อยู่ เอาบริษัทของผมมาแปะเพื่อประจานตัวผมได้ ( เลวสุดๆ ในบรรดาการใช้อวิชชาแล้ว) ในเมื่อพวกคุณหาได้ ตำรวจก็หาได้

ตอนหนังสือออกมา มีหนังสือคู่แข่งอีกเล่ม เรื่อง “ไม่เปรม” คนทำและคนเขียนต้องหลบๆ ซ่อนๆ หนังสือถูกเก็บกวาดไปเร็วมาก ทุกวันนี้ คนเขียนบางคนยังต้องคดีอยู่เลยครับ

แต่ผมรับรองว่า ถ้าไม่ใช่เพราะขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดล่ะก็ จ้างให้ผมไม่ยอมเขียนบทความสุ่มเสี่ยงอย่างนั้นอย่างเด็ดขาด

อย่าลืมนะว่า คมช.อยู่เดี๋ยวเดียวก็ไปนะครับ ตอนสมัครเป็นนายก เฉลิมเป็นมหาดไทย จักรภพดูแลสื่อ หากลิ่วล้อผู้จงรักภักดีอยากจะหาเรื่องปิดเว็บนี้ ส่งหนังสือไปให้ดู คนที่ถูกเชือดคือผมก่อนเพื่อน ริดกุนเป็นจำเลยที่สองนะครับ

ที่เขาไม่ทำเช่นนั้นเพราะมีข้าศึกตัวใหญ่กว่าที่ต้องเผชิญหน้าต่างหาก เสรีไทยเป็นบอร์ดเล็กๆ หนังสือเล่มนี้ก็ไม่แพร่หลายในวงกว้าง ส่วนใหญ่เผยแพร่ในกลุ่มพันธมิตรที่ต่อต้านทักษิณ แต่ถ้ายอดพิมพ์เป็นหมื่นเล่มแบบรู้ทันทักษิณ ป่านนี้โดนไปแล้ว
ไอ้กลัวติดคุกน่ะ ไม่กลัวหรอกครับ คดีถึงศาลก็ชนะ แต่ในระหว่างที่ศาลยังไม่ตัดสินนี่สิ ทำอะไรไม่ได้ไปหลายปี เพราะจะไม่มีใครรับผลงานของผมอีก ไม่ว่าจะใช้นามปากกาไหน สงสารเด็กๆ นะครับ

ผมถึงบอกตั้งแต่ต้นไงครับว่า ทีนี่ดีนะ กล่าวหากันง่ายๆ ไม่เสียตังค์ หมิ่นประมาทคนไม่ติดคุก แค่เสียล็อกอิน เปลี่ยนหน้ากากเดี๋ยวก็กลับมาใหม่



ตอบ : ตรงนี้...บทความที่หมิ่นเหม่ต่อข้อกฎหมาย

ที่คุณบอนนี่เขียนมา

ยืนยันที่จะลงตีพิมพ์ให้ได้...

คุณมาถามกอง บก. ด้วยความดื้อของคุณว่า

"น้องทั้งสองพร้อมจะขึ้นศาล

กับพี่ได้มั้ย ถ้าน้องทั้งสองพร้อม พี่ก็พร้อม" ฮามั๊ยล่ะ


เลยต้องขอร้องคุณอ้อ..ให้ทนายเกี่ยวกับสื่อสิ่งพิมพ์

เอาไปอ่านและตีความ


ผลที่ได้ คือนอกจากหมิ่นประมาท แล้วยังอาจโดนข้อหาละเมิดด้วย


บอนนี่ถึงยอม...



ที่เหลือ....เดี๋ยวมาต่อ
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ริวเซย์ » Sat Feb 28, 2009 10:54 pm

คุณบอนนี่กับคุณเม่ยชี้แจงได้เคลียร์นะครับ

โดยส่วนตัวผมไม่ติดใจอะไรอีกต่อไป

พวกเราก็น่าจะเลิกทะเลาะกันได้แล้วครับ

เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี

ปล่อยวางบ้างครับ

ใครจะผิดจะถูก ก็ควรให้อภัยซึ่งกันและกันจะดีกว่าครับ

มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายถึงขนาดต้องตามเหยียบย่ำกันจนไม่มีจุดยืนในสังคมเว็บบอร์ด


จริงอย่างที่เขาว่านะครับว่า การที่เราออกมาพูดมากๆมันไม่ส่งผลดีอะไร มีแต่ผลเสียเพราะสุดท้ายคำพูดจะมามัดตัวเราภายหลัง

ดังนั้นปัญหานี้ควรยุติได้แล้วครับ


ด้วยความปรารถนาดีครับ

:D
หากดอกไม้แย้มบานในใจแห่งผู้คนที่ทุกข์ทน
ความสว่างส่องทางสับสนด้วยความรักที่มอบแก่กัน
ให้ดอกไม้นั้นแทนความงามแห่งน้ำใจ ยิ่งใหญ่
เมฆหมอกก็คงสลาย ด้วยดอกไม้คือความสดใสในแสงตะวัน
คือดอกไม้อันดีงาม คงอยู่ด้วยความสดใส
คือดอกไม้ของน้ำใจ งดงามเพียงใดให้แก่กัน
User avatar
ริวเซย์
Site Admin
 
Posts: 3386
Joined: Fri Oct 17, 2008 12:34 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 10:59 pm

ริวเซย์ wrote:คุณบอนนี่กับคุณเม่ยชี้แจงได้เคลียร์นะครับ

โดยส่วนตัวผมไม่ติดใจอะไรอีกต่อไป

พวกเราก็น่าจะเลิกทะเลาะกันได้แล้วครับ

เพื่อสุขภาพกายและใจที่ดี

ปล่อยวางบ้างครับ

ใครจะผิดจะถูก ก็ควรให้อภัยซึ่งกันและกันจะดีกว่าครับ

มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายถึงขนาดต้องตามเหยียบย่ำกันจนไม่มีจุดยืนในสังคมเว็บบอร์ด


จริงอย่างที่เขาว่านะครับว่า การที่เราออกมาพูดมากๆมันไม่ส่งผลดีอะไร มีแต่ผลเสียเพราะสุดท้ายคำพูดจะมามัดตัวเราภายหลัง

ดังนั้นปัญหานี้ควรยุติได้แล้วครับ


ด้วยความปรารถนาดีครับ

:D




ขอบคุณ ในความปรารถนาดีค่ะ


ที่ต้องออกมาชี้แจง..เพราะถูกพาดพิงให้เสียหาย

ถ้าไม่สบายใจ..ก็เลยข้ามไปเถอะนะคะ


ส่วนเรื่องคำพูดจะมาพันคอในภายหลัง ไม่กังวล


เพราะทุกอย่างล้วนแต่เป็นข้อเท็จจริงทั้งสิ้น

ไม่ชอบซุกขยะไว้ที่มุมห้องค่ะ
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby พริกขี้หนู1 » Sat Feb 28, 2009 11:14 pm

รอมาตั้งนาน ในที่สุดนักเขียนนิยายก็มาตามที่คาดคั้นไว้
เขาเรียกว่า เรียกมากินยาดีๆ ไม่เอา ต้องจับมากรอกคะ

อ่านวิธีการเขียน ของบอนนี่แล้วนึกถึง เป็ดเหลิม กับออหมักเลย
เขียนได้ อร่อยจริงๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

นี่บ้านทรงไทย ยังไม่ลืมโม้อีกหรือคะ ( ฮา ปรบมือ กระทืบเท้า)

-----------------------------------------------
ขอคุยส่วนที่เกี่ยวข้องกับดิฉันก่อนนะคะ

15) ทำไมคุณพริกขี้หนูตามรังควานคุณตลอดมา?
.................
พริกขึ้หนูเป็นนามแฝงเฉพาะกิจเพื่อโจมตีผมโดยเฉพาะ จริงๆ เรื่องระหว่างผมกับเขาไม่มีหรอก
แต่เป็นเรื่องที่คุณแบ่งฝัน...ปันรัก ไปก่อไว้ในสงครามแย่งชิงอำนาจเว็บนี้เมื่อสามปีก่อน


-----------------------------------------------------------------
บอนนี่ แสดงความอ่อนหัด และโกหกคำโตเป็นอย่างที่สุด ในเรื่องนี้
ในเมื่อ บอนนี่ตั้งสมมุติฐานที่ผิด ก็เลยลงเหวแบบนี้แหละคะ โยมเอ๋ย (ฮา)

พริกขี้หนู เข้ามาเป็นสมาชิกแรกๆ ตอนก่อตั้งเสรีไทยใหม่ๆ ส่วนใหญ่อ่านมากกว่าเขียน

จะมีที่ลงไป เขียนแรงๆ ก็ครั้งที่ใส่ คุณ TR ตอนที่เขาเขียนถึงผู้หญิงโดยใช้คำพูดที่เหมาะสม
คนที่จะยืนยันได้ก็คงจะเป็นคุณ TR และผู้หญิงหลายๆคนในเวปนี้

เรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่ดิฉันจะอัดคุณ กระเจิงในกระทู้แบ่งฝัน ไม่น้อยกว่าครึ่งปีคะ
---------------------------------------------------------------
กระทู้แบ่งฝันโกงเงิน บริจาค ไม่ทราบว่ายังอยู่ในคลังกระทู้เก่าหรือเปล่าคะ
ถ้าหากมี รบกวนคุณริดกุนช่วยนำมา ฝากหน่อยสิคะ
คนมาทีหลังจะได้ทราบที่ไปที่มา ไม่เช่นนั้น จะเจอนักเขียนนิยาย
ที่ชอบใช้ลูกเล่นแบบเดิมๆ ตีขลุม ว่าตัวเองดี คนอื่นมีอคติกับตัวเอง

กระทู้ดังแห่งปีตอนนั้น คนที่ตามอ่านก็คงจะทราบดี สมาชิกหลายคนตามจี้บอนนี่
แต่บอนนี่ ก็ตอบแบบหนอมแน้ม จะมีก็แต่พริกขี้หนู ที่รำคาญ ก็เลยลงมากระชากหน้ากากบอนนี่

พร้อมทั้งตั้งเป็นข้อๆ ให้บอนนี่ตอบ โดยยกข้อความเก่าๆของบอนนี่ ในกระทู้อื่นๆมาลงประกอบด้วย
ชี้ให้เห็นว่า บอนนี่ ขาดความรับผิดชอบ และไม่ตามงาน ทั้งที่รู้มาก่อน
เล่นเอาบอนนี่ออกอาการมวยวัด ไม่กล้าตอบ และหายไปเลียแผลอยู่หลายเดือน

ตอนนั้นทำไมไม่ทำเก่ง เขียน ยาวๆ แบบตอนนี้ละคะ
หรือว่าสู้กับคุณดอกฟ้า บอนนี่สบายใจกว่าเจอพริกขี้หนู เยอะเลยโยม
(ฮา)

ซึ่งดิฉันก็ไม่คิดมาก่อนว่า คนที่เขียนวิจารณ์นักการเมืองเก่งๆ ของห้องราชดำเนิน คนนี้
กลับมาตายน้ำตื้น ที่เสรีไทยแห่งนี้

สังคมในนี้ ก็เหมือนสังคมการเมืองภายนอก

เวลา ดร.เจิมศักดิ์ หรือคุน สนธิ ลิ้ม มาชี้ว่าแม้วโกง

แทนที่คนจะไปดูว่าเขาโกงจริงหรือเปล่า กลับจะมาตรวจสอบ
คนที่ชี้เป้าแทน ซึ่งพริกขี้หนู ก็โดนสมาชิกบางท่านที่ไม่เข้าใจในตอนนั้น สงสัยเช่นกัน

ตอบดังๆ ได้ เลยว่า ข้าฯ มาคนเดียว ไม่ใช่พวกใคร ไม่มีเวปส่วนตัวที่ไหน

แล้วก็ไม่หน้าตัวเมียเหมือนบางคน ที่เปลี่ยนล๊อคอิน เฉพาะกิจที่เข้ามากระทู้นี้โดยตรง

อ้าว แบบนี้ บอนนี่จะว่ายังไงคะ โยม ( ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า)

-----------------------------------------------------

เรื่องแบ่งฝันโกงเงิน หากดำเนินคดีได้พริกขี้หนูก็ว่าควรทำ
แต่ที่ดิฉัน ไม่ออกหน้าติดตาม ก็เพราะว่า

1) มีวีระบุรุษท่านหนึ่งทำเป็นเก่งประกาศในกระทู้ว่าจะรับผิดชอบติดตามให้
ตอนนี้ ก็เงียบจ๋อยกลืนน้ำลายตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว
2)พริกขี้หนู ไม่ได้ บริจาคเงินกับเขา ก็ปล่อยให้คนบริจาคเขาตามกันเอง

*การไม่บริจาคเงินนี่ เป็นข้อดีนะคะ*
1)ไม่ถูกโกงบริจาค เสียเงิน แล้วเสียความรู้สึก
2)ไม่เสียท่าค่าทำหนังสือให้บอนนี่เขียน (ฮา)
3)ไม่เสียค่าซื้อหนังสือเพื่ออ่านเรื่องของบอนนี่ (ฮา อีก )
----------------------------------------------------
เรื่องที่จะโยงให้ดิฉันไปเกี่ยวพัน กับสมาชิกคนอื่น หรือเจ้าของเวปอื่นนั้น
บอนนี่ อย่าทำเลย แค่คิดก็ผิดแล้ว ดิฉัน ถือศีล 8 เคร่งกว่าคุณเยอะ จึงอยากจะเตือนไว้
ปีที่แล้วคุณก็เขียนตีขลุมแบบนี้ จนคนที่ถูกพาดพิงมาชี้แจง

บอนนี่ก็หายหน้าไปแบบเดิม นี่ผ่านมาไม่นาน เรื่องเก่า เรื่องเดิม
บอนนี่ก็ใช้วิธีเดิมอีก สมาชิกเก่า เขาจำกันได้คะ

ที่คุณโดนสมาชิก และดิฉันใส่ใน 2 กระนี้ ก็เพราะคนเขาเริ่มมองคุณออก
ของจริงกับของปลอม ระยะเวลามันพิสูจน์กันได้

มัวแต่หลอกตัวเองไปวันๆ เหมือนที่เขียนนิยาย
ก็เป็นเพียงแค่ปลอบใจตัวเองเท่านั้น จะหลอกก็ได้กับบางคนเท่านั้น
มิเช่นนั้น พระพุทธเจ้าจะสอนเรื่อง บัวสี่ประเภทหรือคะ


ว่างๆ จะมาเขียนต่อคะ
User avatar
พริกขี้หนู1
 
Posts: 100
Joined: Tue Jan 27, 2009 5:23 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby อธิฏฐาน » Sat Feb 28, 2009 11:21 pm

พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์แล้วค่ะคุณดอกฟ้า เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ กรวดน้ำคว่ำขันดีกว่า
ใครทำอะไรก็ได้รับอย่างนั้น เรื่องเงินถึงแม้สมาชิกคนอื่นไม่มีบ้านใหญ่โตคงไม่มีใครติดใจ
ถือว่าเป็นการทำบุญค่ะ อยากให้กระทู้นี้ปิดจริง ๆ เสียที
User avatar
อธิฏฐาน
 
Posts: 3001
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:18 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Sat Feb 28, 2009 11:44 pm

อธิฏฐาน wrote:พูดไปก็ไม่เกิดประโยชน์แล้วค่ะคุณดอกฟ้า เสียสุขภาพจิตเปล่า ๆ กรวดน้ำคว่ำขันดีกว่า
ใครทำอะไรก็ได้รับอย่างนั้น เรื่องเงินถึงแม้สมาชิกคนอื่นไม่มีบ้านใหญ่โตคงไม่มีใครติดใจ
ถือว่าเป็นการทำบุญค่ะ อยากให้กระทู้นี้ปิดจริง ๆ เสียที




อยากปิดเหมือนกันค่ะ..


คนตั้งกระทู้ปิดบัญชี...แล้วข้อมูลตัวเลขเอามานำเสนอแบบมั่วๆ


ถ้ามีใครอยากลืมๆมัน...ดอกฟ้าฯ ก็ยินดี

ไม่ได้อยากเอาชนะเพื่อถ้วยรางวัลอะไร


เราปล่อยให้คนชั่วๆ ลอยหน้าลอยตาในสังคมมานานเกินไปแล้ว


ขอบคุณ คุณอธิฏฐานค่ะ
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby see-u » Sat Feb 28, 2009 11:46 pm

* คุณ ริวเซย์ .. นี่อะไรก็ สมานฉันท์ ตลอดเวลาเลยนะคะ
ขนาด ดิฉัน มีเรื่อง คันมือ ที่จะเขียนถามต่อจากนี้ตั้งหลายเรื่อง ..ดิฉัน ยังอดใจรอ ที่จะเขียนโพสข้อความเลย
บอกตรงๆ น่ะ ว่า ...เบื่อว่ะ เรื่องสมานฉันท์ แบบน่าเอ็นดู
ปล่อยให้คนที่เข้าคาใจ ..พูดเรื่องที่ตัวเองอยากพูดไปเหอะค่ะ ใครพูดไม่จริง เด๋วเขาก็ตายคา กระทู้ เอง
แสดงบทพระเอกมากๆ...เด๋วจะกลายเป็น บก . ลายจุด นะคุณ

ปล . คุณ ดอกฟ้า มีอะไรที่เป็นข้อเท็จจริง และ มีอะไรในใจ
คุณโพสออกมาให้หมดได้แล้วค่ะ ...ถ้าคุณยัง กั๊ก เรื่องที่คุณอยากจะพูดอยู่แบบนี้
บอกตรง ๆ ว่า ... ไม่ว่าคุณจะลงแรงไปแค่ไหน คุณก็เป็นแค่คนที่โพสรำพึงรำพันในเรื่องที่คุณถูกกระทำ เพราะคุณเล่าเรื่องไม่เก่งแบบคุณ บอนนี่ เขา พอได้แล้วค่ะ บทนางเอก .. เอาเนื้อหาล้วน ๆ ที่คุณมีอยู่ในมือ มาให้สมาชิกในบอร์ดดูได้แล้วค่ะ ......... ด้วยความหวังดี

ปล.อีกที ...20 ข้อที่โพสของ บอนนี่ ดิฉัน ยังไม่ได้แยกย่อยในคำถามเลย :lol:
:twisted: :lol:
* See - U Never Die *

** ข้ออ้างจากพวกหิวคะแนน..

แมงสาบ : ไม่เลือกเราเขา (แม้ว) มาแน่
ตะกวดแดง : เลือกเรา "แม้ว"จะกลับมา


ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา : ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชน
User avatar
see-u
 
Posts: 5073
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:04 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Sat Feb 28, 2009 11:57 pm

เอางี้ ปิดกระทู้ก็ได้ ไม่ยาก

ถ้า แม้วบอกว่าขายหุ้นไม่เสียภาษี สรรพากรก็บอกแล้วว่าไม่ต้อง
คุณบอกว่า "ก็ชัดเจนดีแล้ว เขาทำถูกตามกฎหมายแล้ว"
ผมจะเงียบ

ถ้า เห็นแม้วให้สส.ออกกฎหมายนิรโทษกรรม
คุณบอกว่า "ยอมๆเขาไปเถอะ คนในชาติจะได้ปรองดองกัน"
ผมจะเงียบ

ถ้าเห็นเสื้อแดง ยกพวกตีชาวบ้าน
คุณบอกว่า "ก็เขาชุมนุมกันโดยชอบ อยากไปขวางเขาเอง"
ผมจะเงียบ

ถ้าแม้วออกข่าวโจมตีประเทศดูถูกกระบวนการยุติธรรม
คุณบอกว่า "ช่างมันเถอะ แม้วมันก็พูดถูก ประเทศไทยเป็นอย่างนั้นจริงๆ"
ผมจะเงียบ

ถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้น คุณยังจะท้วง คุณยังอยากหาความจริง
กระทู้คงปิดไม่ลง
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby พริกขี้หนู1 » Sun Mar 01, 2009 12:00 am

เวปนี้ เป็นเวปการเมือง ดิฉันจึงได้ย้ำเสมอว่า

ก่อนที่จะไปตรวจสอบนักการเมืองคนอื่น คุณกล้าที่จะแสดงความเห็น
กับเรื่องที่ไม่ถูกต้องในนี้หรือไม่คะ
ความกลัวทำให้คนเสื่อม ขอยืมคำพูดนักการเมืองบางท่าน มาใช้หน่อยคะ

อนาคต บอนนี่ จะเขียนที่นี่ หรือไม่อยู่ ก็ไม่มีผลอะไรกับดิฉันทั้งนั้น
แบ่งฝัน เรียนกฎหมายมา อนาคตจะเป็นอะไรก็เรื่องของเขา
แต่ดิฉันก็มีชื่อจริง กับนามสกุลของเขาอยู่

เรื่องของ บอนนี่ ดิฉันเห็นอย่างไร ก็ทักไปอย่างที่เห็น ก็ใช้สิทธิ์ในฐานะสมาชิกเก่าที่นี่เท่านั้น
สมาชิกส่วนใหญ่ อยากให้สังคมของตัวเองเป็นแบบไหนก็เชิญกำหนดกันเอาเองเถอะคะ

(หมายเหตุ สำหรับท่านสมาชิกใหม่ ) คุณ TR เป็นคนเก่า และมีผลงานการเขียนมาก ในเสรีไทย
เป็นคนดังในที่นี้ ปัจจุบัน ก็ยังเป็นคนดัง ในเวปการเมืองชื่อดังอีกแห่งหนึ่งคะ

ขออภัย คุณ TR ด้วย ที่ดิฉันเอ่ยนาม ทั้งนี้เพื่อแสดงให้รู้ว่า บอนนี่ โกหกคำโต
ดิฉันไม่ใช่อมยิ้มเฉพาะกิจคะ
User avatar
พริกขี้หนู1
 
Posts: 100
Joined: Tue Jan 27, 2009 5:23 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby see-u » Sun Mar 01, 2009 12:07 am

* เอ๊ย ! ทำไมมีแต่คนบอกว่าให้ ปิดบัญชี ...

บอนนี่ .. มาโพสขี้โม้ตั้งเยอะ ตั้ง 20 กว่าข้อความ
ดิฉัน ยังไม่ได้เขียนถามอะไรเลยนะ
ให้เวลา ดิฉัน โพสถามเรื่องที่ น้า บอนนี่ แกมาโม้ก่อนได้ไหม .. แล้วค่อยปิดบัญชีกัน ????????????
:o
* See - U Never Die *

** ข้ออ้างจากพวกหิวคะแนน..

แมงสาบ : ไม่เลือกเราเขา (แม้ว) มาแน่
ตะกวดแดง : เลือกเรา "แม้ว"จะกลับมา


ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา : ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชน
User avatar
see-u
 
Posts: 5073
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:04 am

PreviousNext

Return to ประกาศเก่า



cron