ดอกฟ้ากับหมาวัด wrote:ตรู...จะบ้าตาย...มันคันจนออกอาการ กายสิทธิ์แบบนี้เลยเหรอ
....เปลี่ยนหน้ากันมาเห่าเยอะๆ...เผื่อคนอื่นจะเห็นใจ
สมเพชจิงๆ
ฝากบอกแม่ชีว่า...ไปโปรดสัตว์ ที่อมอะไรไว้ในปาก...มาช่วยชี้แจงด้วยนาคะ
ไม่มีใครอยากจองเวรจองกรรมกับพวกไร้สาระหรอกค่ะ
หลอนตัวเอง...น่ะมันผิดบาปนะตะเอง
อิ อิ...
เจ้าของกระทู้....อยู่ไหน...มาเก็บกวาดด่วน
จาก ซิสเตอร์เมอทิล
ลูกดอกฯ จ๋า แม่มองเห็นคำว่า อมอะไรไว้ในปาก ทำให้แม่เกิดความสงสัย
แม่จึงเพ่งจิตไปยังอดีตของลูก ก็ทำให้แม่เข้าใจอะไรบางอย่าง คลายความ
สงสัยลงไปได้บ้าง แม่ก็สงสัยนะ ตอนแรกที่ลูกพิมพ์นั้น ยังไม่มีคำนี้เลยนะ
เมื่อแม่มองตัวหนังสือ ก็มองเห็นจิตอันเร่าร้อน สับสน ของลูก ลูกบอกว่า
ไม่อยากจองเวรจองกรรมพวกไร้สาระ แต่ทำไมลูกยังปั่นกระทู้ทั้งสอง
อยู่ทุกวันล่ะ ลูกมีอะไรลูกก็บอกไปเลยว่าไม่พอใจอย่างไร ลูกทำอย่างนี้
คนอื่นเขามองลูกออกนะ แม่เตือนด้วยความหวังดีนะ ภาพของลูกที่ลูกคิดไว้
คนอื่นเขาไม่ได้มองอย่างที่ลูกคิดนะ
ลูกพยายามส่งกระแสร์จิตออกไป เพือพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต
ให้กับผู้ที่มีหัวอกเดียวกันกับลูก ได้รับรู้ ถึงความรู้สึกของลูก ซึ่งกระแสร์
จิตนั้น แม่สัมผัสได้ เพราะเรามันหัวอกเดียวกันนะลูก แต่เชื่อแม่เถอะ
ปล่อยวางซะ สิ่งที่ลูกเคยร่วมทำกันมาแล้วในอดีต มันมีค่ามากมายเสียจน
ไม่มีอะไรมาเทียบได้ ถ้าลูกยังไม่รู้สึกตัว คนที่ลูกคิดว่าเขามีความคิดเห็น
เหมือนกับลูกนั้น คนนี้ลูกต้องระวังไว้นะ เขากำลังจะมาทำลายลูกๆ ทั้งหลาย
แต่แม่มั่นใจว่าเขาทำไม่ได้หรอก เพราะว่าท้ายที่สุดเมื่อแม่มองออกไปใน
อนาคต ผู้คนที่ลูกได้ผูกจิตอาฆาตไว้นั่นแหละ จะคือเพื่อนที่ดีที่สุดของลูก
เลยหละ เชื่อแม่เถอะ
อาเมน