"นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

ห้องสำหรับกระทู้นอกเรื่อง ดูแลโดย Mod 1ktip

"นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby Canthai » Tue Feb 16, 2010 11:03 pm

http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1265281554
หนังตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่อง "นาคปรก" หนังไทยประเด็นอ่อนไหวเล่าเรื่องราวของ "โจรในคราบพระ" ที่ต้องรอคอยเวลาถึง 3 ปี กว่าจะได้ลงโรงฉายตามระบบการจัดเรตของพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฉบับใหม่

Image

ในที่สุด ภาพยนตร์เรื่อง “นาคปรก” ก็ได้ฉายหลังจากถ่ายทำเสร็จมาร่วม 3 ปี และผ่านขั้นตอนการตัดต่อมาหลายครั้ง จนเข้าสู่ปีที่เริ่มใช้พระราชบัญญัติภาพยนตร์ฉบับใหม่ ก็ยังถูกเลื่อนกำหนดฉายมาหลายครั้ง ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการแฝงตัวของอาชญากรในคราบผ้าเหลือง

ในใบปิดหนังฉบับนี้นี้แจ้งไว้ว่าหนังจะได้กำหนดฉายคือ 18 มีนาคม 2553 โดยไม่มีการตัดทอนแต่อย่างใด – หากเป็นดังที่แจ้งมานี้ก็ถือว่าน่ายินดีกับตัวหนังเอง

อย่างไรก็ตาม “การไม่ตัด” ก็ยังน่่าสงสัยทีเดียวว่าข่าวที่เคยมีการออกมาก่อนหน้านี้ว่า หนังจะได้รับเรต น 18+ โดยมีการขึ้นคำเตือนต่างๆ ตลอดทั้งเรื่องจะเกิดขึ้นหรือไม่ ?

เช่นเดียวกันว่าหนังที่ผ่านกระบวนการตัดต่อมาหลายฉบับ และผ่านรอบฉายทดลองมาหลายครั้งเรื่องนี้ แท้จริงแล้วฉบับที่จะฉายตามโรงภาพยนตร์ทั่วไปนี้ จะตรงกับฉบับดั้งเดิมหรือใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้สร้างต้องการมากน้อยเพียงไหน ?

ทางเครือข่ายคนดูหนังจะพยายามติดตามข่าว และแจ้งผลให้ทราบต่อไป
http://thaiaudience.wordpress.com/2010/ ... proknocut/
*******************************************************************************

มติชนออนไลน์
--------------------------------------------------------------------------------
"นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ ที่รอคอยเวลาถึง 3 ปีก่อนจะได้ลงโรงฉาย (ชมคลิปวิดีโอ)

ด้วยความที่เล่าเรื่องราวของโจรในคราบพระ "นาคปรก" จึงเป็นหนังไทยที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นเรื่องระบบเซ็นเซอร์และพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฉบับใหม่มากที่สุดเรื่องหนึ่ง หนังต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าจะได้ลงโรงฉาย และนี่คือที่มาของหนังเรื่องนี้

(ชมตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง "นาคปรก" ได้ที่สัญลักษณ์ "กล้องวิดีโอ" เหนือพาดหัวข่าว)

"นาคปรก" คือภาพยนตร์ผลงานการกำกับของ "ภวัติ พนังคศิริ" (ผู้ที่เคยทำหนังเกี่ยวกับคณะสงฆ์ในแง่มุมสว่างสดใสมาแล้วในเรื่อง "อรหันต์ซัมเมอร์") ซึ่งถ่ายทำและตัดต่อเสร็จมาร่วม 3 ปีแล้ว แต่หนังเรื่องนี้เพิ่งจะได้ฤกษ์ลงโรงฉายในเดือนมีนาคม 2553 น่าสนใจว่าอะไรคือสาเหตุแห่งการรอคอยอันยาวนานดังกล่าว

นาคปรกเป็นภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงและนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นการเซ็นเซอร์ รวมทั้ง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 2551 รองจาก "แสงศตวรรษ" ของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ที่ตกเป็นเหยื่อของระบบเซ็นเซอร์ไทยไปก่อนหน้านี้

สิ่งที่นาคปรกทำก็คือการตั้งคำถามว่าระบบเซ็นเซอร์ไทยสามารถรับได้แค่ไหน หากคนทำหนังต้องการจะบอกเล่าประเด็นละเอียดอ่อนของศาสนาอย่างตรงไปตรงมา

หนังเล่าเรื่องของโจรโฉด 3 คนที่ขนเงินเอามาซ่อนไว้ใต้อุโบสถที่กำลังซ่อมแซม แต่ครั้นถึงเวลาย้อนมาเอาเงิน พวกเขากลับพบว่าที่ซ่อนถูกโบนปูนทับไปเรียบร้อยแล้ว ทางเดียวที่อาชญากรกลุ่มนี้จะนำเงินกลับมาได้ก็คือการโกนหัวห่มผ้าเหลืองทำตัวกลมกลืนกับพระสงฆ์รูปอื่น เพื่อหาทางขุดนำเงินของพวกตนกลับคืน

ด้วยเนื้อหาเข้มข้นรุนแรง นาคปรกจึงถูกเพ่งเล็งตั้งแต่กำลังถ่ายทำ เมื่อมีจดหมายจากองค์กรทางศาสนาฉบับหนึ่งส่งมาถึงบริษัทผู้สร้าง คือ "บาแรมยู" ในเครือสหมงคลฟิล์ม และกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อแจ้งให้ทราบว่าได้รับรู้ถึงความหมิ่นเหม่ของเนื้อหาในหนังเรียบร้อยแล้ว และเรียกร้องให้มีการเฝ้าระวังภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ

เมื่อนาคปรกแสดงให้เห็นถึงภาพการใช้ความรุนแรงต่อพระสงฆ์และภาพโจรในคราบพระหลายต่อหลายฉาก ดังนั้น ในช่วงเพิ่งถ่ายทำเสร็จใหม่ ๆ ซึ่งอยู่ในระบบเซ็นเซอร์และกฎหมายภาพยนตร์ฉบับเก่า หนังจึงมีโอกาสสูงที่จะโดนแบนหรือตัดฉากต่าง ๆ ออกเป็นชุด

ทีมงานผู้สร้างพยายามแก้ไขปัญหาในหลายวิถีทาง ตั้งแต่ใช้เทคนิคซีจีเข้ามาช่วยลบภาพความรุนแรงบางฉาก หรือการที่ผู้กำกับตัดสินใจให้ตัวละครเอกที่เป็นโจรในคราบพระถอดสบงออกจนเหลือเพียงอังสะ เพื่อเป็นนัยยะสื่อว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่พระเต็มตัว

อย่างไรก็ตาม เมื่อพระราชบัญญัติภาพยนตร์ฉบับใหม่ซึ่งกำหนดให้หนังทุกเรื่องต้องเข้ารับการ "จัดเรต" แทน "เซ็นเซอร์" มีความคืบหน้าไปมาก ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการผลิตของนาคปรก จึงส่งให้หยุดการแก้ไขหนังเรื่องนี้ แล้วนำหนังในฉบับแรกที่ดั้งเดิมที่สุดเข้าสู่ระบบการจัดเรต ด้วยหวังว่าโอกาสถูกแบนจะมีน้อยลง

ขณะเดียวกัน ทีมงานผู้สร้างก็นำหนังไปฉายให้คนกลุ่มต่าง ๆ ดูเป็นการประชาพิจารณ์ ตั้งแต่ตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ, องค์กรทางศาสนาต่าง ๆ, กลุ่มข้าราชการ, บุคคลทั่วไป และพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้ผลตอบรับน่าพอใจทั้งสิ้น หลังทำการประชาพิจารณ์อยู่ครึ่งปี ทีมงานจึงตัดสินใจนำนาคปรกเข้าสู่ระบบการจัดเรตและวางโปรแกรมฉายไว้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2553

นาคปรกขอเรต น 18+ (หนังที่เหมาะสำหรับผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป) จากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ และคณะกรรมการก็ตัดสินให้หนังได้รับเรต น 18+ จริง ๆ แต่เรตดังกล่าวกับมาพร้อมกับคำสั่งที่ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องขึ้นคำเตือนในฉากที่พระสงฆ์ทำการสักร่างกายให้ฆราวาสว่า "การสักร่างกายไม่ใช่กิจที่พระสงฆ์พึงกระทำ" และทุกฉากที่มีภาพพระสัมผัสตัวสีกา (ซึ่งไม่ได้มีแค่ฉากเดียว) ว่า "พระภิกษุสัมผัสสตรีเป็นพฤติกรรมที่ผิดต่อวินัยสงฆ์"

ผู้อำนวยการผลิตอย่างปรัชญาจึงพยายามต่อสู้ให้คำเตือนทั้งหลายไปขึ้นรวบยอดตอนก่อนเข้าเรื่อง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงมีข่าวว่าเขาเตรียมผลักดันหนังฉบับเต็มที่ไม่มีคำเตือนใด ๆ เข้าสู่การพิจาณาของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอรับเรต น 20- (ภาพยนตร์ที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีดู ยกเว้นผู้บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส)

ล่าสุด สหมงคลฟิล์มเจ้าของหนังเรื่องนี้ได้ประชาสัมพันธ์ว่านาคปรกมีกำหนดฉายแน่นอนในวันที่ 18 มีนาคม 2553 โดยจะเป็นหนังฉบับเต็มที่ไม่ถูกตัดทอนแต่อย่างใด ซึ่งคงต้องติดตามต่อไปว่า นาคปรกฉบับที่จะฉายตามโรงภาพยนตร์นั้นคือหนังฉบับใด? ใช่ต้นฉบับดั้งเดิมหรือไม่? หรือจะเป็นหนังฉบับเรต น 18+ ซึ่งมีการขึ้นคำเตือนต่าง ๆ อยู่ในหลายฉากดังคำสั่งของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์?

(ข้อมูลจากนิตยสารไบโอสโคป ฉบับประจำเดือนมกราคม 2553 และ http://thaiaudience.wordpress.com/2010/ ... proknocut/)
Last edited by Canthai on Tue Feb 16, 2010 11:25 pm, edited 1 time in total.
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby ริวเซย์ » Tue Feb 16, 2010 11:13 pm

น่าสนุกดีนะครับ คิดถึงสมัยตอนผมเรียนมหาลัย ตอนนั้นผมกับแฟนไปดูหนังกันแทบทุกเรื่อง
จนมาเริ่มทำงาน แฟนใหม่ก็ไม่ค่อยชอบดูหนัง ก็เลยซาๆไป ขนาดเรื่องที่ดังสุดๆอย่างอวตาร
๒๐๑๒ ผมยังไม่ได้ดูในโรงเลย ต้องหาแผ่นมาสเตอร์เช่าดูเอา คิดแล้วเศร้า :(

หนังไทยทำได้ดีมากครับ หลายเรื่อง ดูแล้วเหนือกว่าหนังฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลี เยอะ
หากดอกไม้แย้มบานในใจแห่งผู้คนที่ทุกข์ทน
ความสว่างส่องทางสับสนด้วยความรักที่มอบแก่กัน
ให้ดอกไม้นั้นแทนความงามแห่งน้ำใจ ยิ่งใหญ่
เมฆหมอกก็คงสลาย ด้วยดอกไม้คือความสดใสในแสงตะวัน
คือดอกไม้อันดีงาม คงอยู่ด้วยความสดใส
คือดอกไม้ของน้ำใจ งดงามเพียงใดให้แก่กัน
User avatar
ริวเซย์
Site Admin
 
Posts: 3386
Joined: Fri Oct 17, 2008 12:34 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby turethai » Tue Feb 16, 2010 11:20 pm

ลงชื่อเข้าอ่าน

หนังไทยเรื่องล่าสุดที่ผมดู "องค์บาก 2" ที่ดูเพราะชอบป๋าเอก

ส่วนหนังเรื่องนี้ ผมคงไม่ดู เพราะไม่ชอบดารานำของเรื่อง :D
User avatar
turethai
 
Posts: 435
Joined: Sat Jan 16, 2010 11:43 pm
Location: นครปฐม

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby Canthai » Tue Feb 16, 2010 11:30 pm

เท่าที่คุยกับแหล่งข่าว เรื่องนี้ตีตราอายุ 18+ ครับ

หลังจากไม่ค่อยได้สนใจวงการหนังมานาน มาแอบดูเรื่องนี้ต้องบอกว่า เนื้อหาพลิกความคาดหมาย

บางคนบวชมาหลายสิบปี สุดท้ายติดคุก โจรกลับใจเอาปืนขี้หัวพระเพื่อทำพิธีบวชได้ธรรมะ บวชไม่สึก อะไรแบบนี้

หนังให้ข้อคิดดีๆ ถ้าเป็นยุคกฎหมายเก่า รับประกันสร้างไม่ได้ ขนาดนั้น เจ้าของหนังยังนำไปฉายให้นักเรียนนิสิตนักศึกษาดูก่อน เพื่อสร้างความเข้าใจ

ข่าวว่าวัยรุ่ยชอบครับ...เนื้อหนัง..อาจเลยไปใกลถึงรางวัลปลายปีนี้


[youtube]KaL3EvLyC20&feature[/youtube]
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby Canthai » Sun Feb 21, 2010 4:37 am

turethai wrote:ลงชื่อเข้าอ่าน

หนังไทยเรื่องล่าสุดที่ผมดู "องค์บาก 2" ที่ดูเพราะชอบป๋าเอก

ส่วนหนังเรื่องนี้ ผมคงไม่ดู เพราะไม่ชอบดารานำของเรื่อง :D


"องค์บาก 3" พิถีพิถันมาก ผมดูดร๊าฟคัทเมื่อคืน...เสี่ยสั่งให้เพิ่มความมันเข้าไปอีก

คงเข้าฉายปลายปีครับ ทีแรกวางโปรแกรมกลางปี...
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby จีรนุช » Sun Feb 21, 2010 2:02 pm

:lol: :lol: ภิกษุสันดานกามาก่อนหรือหลังหนังเรื่องนี้หนอ :lol: :lol:
User avatar
จีรนุช
 
Posts: 5689
Joined: Sun Nov 30, 2008 7:34 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby Canthai » Tue Mar 02, 2010 11:53 am

ภิกษุสันดานกา
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

Image

ภิกษุสันดานกา โดย อนุพงษ์ จันทรภิกษุสันดานกา เป็นผลงานภาพวาดของ อนุพงษ์ จันทร อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาจิตรกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

ภาพภิกษุสันดานกา มีปัญหาต่อกลุ่มพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งนำโดย พระมหาโชว์ ทัศนีโย แกนนำสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติ ซึ่งกล่าวว่าเป็นการดูหมิ่นสงฆ์ โดยภาพที่แสดงพระภิกษุ 2 รูปหลับตาเอาศีรษะชนกันและมีปากเป็นปากของกา นอกจากนี้ยังมีรอยสักเต็มตัว และแสดงกิริยาแย่งสายสิญจน์กับตะกรุดที่อยู่ในบาตร ส่วนลายสักเป็นรูปกบกำลังผสมพันธุ์และตุ๊กแกกำลังผสมพันธุ์กัน

Image

*******************


ภิกษุสันดานกา เป็นภาพชุดที่ได้รับรางวัลเหตุเกิดก่อนเลือกตั้ง 50 น่าจะเกิดหลังหนังนาคปรก ซึ่งถ่ายทำมาก่อนหน้านั้น แต่กว่าภาพวาดชุดนี้จะมาได้รางวัล น่าจะทำการวาดมาก่อน อาจจะเป็นการสร้างสรรค์งานในเวลาที่ใกล้เคียงกัน

******************
กรณีพระสงฆ์บางส่วนออกมาประท้วงภาพเขียนที่ชื่อ”ภิกษุสันดานกา”ที่คว้ารางวัลจากงานประกวดศิลปกรรมแห่งชาติปีนี้ พร้อมจี้ให้ ม.ศิลปากรถอนรางวัลคืนและงดแสดงภาพดังกล่าว โดยอ้างว่า เป็นภาพที่ลบหลู่ดูหมิ่นสงฆ์นั้น น่าจะจุดประกายให้สังคมช่วยกันหาคำตอบว่า แท้จริงแล้ว ภาพเขียนชิ้นนี้หมิ่นสงฆ์จริงหรือ? ทั้งที่หลายฝ่ายยืนยันว่า สิ่งที่ศิลปินสื่อออกมาในภาพ คือ “คำสอน”ที่มีอยู่แล้วในพระไตรปิฎก และเป็น”เรื่องจริง”ที่เกิดอยู่แล้วในสังคม นาทีนี้...หลายคนอาจเริ่มสงสัยแล้วว่า ภาพเขียนดังกล่าวหมิ่นสงฆ์ หรือสงฆ์ที่ประท้วงครั้งนี้ “ไม่ยอมรับความจริงด้านมืด”ที่ทำให้ศาสนาและวงการสงฆ์ต้องมัวหมองอยู่ทุกวันนี้กันแน่

( ผู้จัดการ )

****************
Last edited by Canthai on Tue Mar 02, 2010 12:13 pm, edited 3 times in total.
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby Canthai » Tue Mar 02, 2010 12:02 pm

เจ้าของภาพ'ภิกษุสันดานกา'ยัน เขียนภาพจากข้อเท็จจริง

โดย มติชน วัน พุธ ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550 00:00 น.

ม.ศิลปากร หารือกรณีภาพ'ภิกษุสันดานกา'ถูกประท้วง ด้านเจ้าของภาพฉาวของระบุ กระแสต่อต้านเป็นเรื่องธรรมดา ยันไม่มีเจตนาลบหลู่พระพุทธศาสนา แต่วาดจากข้อเท็จจริงของสังคม หวังกระตุ้นสังคมช่วยกันปกป้องศาสนาไม่ให้เป็นเหยื่อของผู้แสวงประโยชน์ ด้านสธ.รอฟังผลของศิลปากร

จากกรณีที่กลุ่มตัวแทนสมัชชาชาวพุทธแห่งชาติทั้งพระสงฆ์และฆราวาสเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยศิลปากรระงับการจัดแสดงภาพ'ภิกษุสันดานกา'ของนายอนุพงษ์ จันทร ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองจากการชนะเลิศการประกวดผลงานศิลปกรรมแห่งชาติครั้งที่ 53 ประจำปี 2550 ประเภทจิตรกรรม ซึ่งจะนำไปจัดแสดงในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2550 ถึงวันที่ 29 มีนาคม 2551 และขอให้ถอนรางวัลเหรียญทองด้วย เพราะเป็นการดูหมิ่นและเหยียดหยามพระสงฆ์ไทยนั้น

เมื่อวันที่ 26 กันยายน นายญาณวิทย์ กุญแจทอง รักษาการรองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวว่า วันที่ 28 กันยายน เวลา 13.00 น. จะประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการพิจารณาผลงานศิลปินแห่งชาติดังกล่าวกว่า 10 คน ประกอบด้วยศิลปินแห่งชาติ นักวิชาการ และผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อหารือถึงความเหมาะสมในการจัดแสดงภาพภิกษุสันดานกา และการถอนรางวัลเหรียญทองของนายอนุพงษ์ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวมองว่าการถอนรางวัลเหรียญทองคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นมติเอกฉันท์ของคณะกรรมการพิจารณาตัดสินแล้ว และที่ผ่านมาไม่เคยมีการถอนรางวัลเกิดขึ้น

นายญาณวิทย์กล่าวว่า นอกจากนี้จะจัดสัมมนาเกี่ยวกับการจัดแสดงผลงานศิลปกรรมแห่งชาติที่จัดขึ้นครั้งนี้ด้วย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านงานศิลปะให้กับประชาชน นักเรียน นักศึกษา อันจะส่งผลให้สังคมเห็นคุณค่าของภาพศิลปะลึกซึ้งมากขึ้น โดยเฉพาะผลงานศิลปะที่สะท้อนสังคมอย่างภาพภิกษุสันดานกา และภาพล้อเลียนสังคม รวมทั้งภาพล้อเลียนบุคคลสำคัญอีกจำนวนมากที่ศิลปินสร้างสรรค์ขึ้น แต่กลับถูกสังคมต่อต้านว่าไม่เหมาะสม

'ปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความไม่เข้าใจกันระหว่างศิลปินและกลุ่มสมัชชาชาวพุทธดังกล่าว เนื่องจากมองกันคนละมุม ดังนั้นจึงต้องพูดคุยกันให้เข้าใจทั้งสองฝ่าย ในฐานะที่ผมเป็นศิลปินคนหนึ่ง เชื่อว่าเจ้าของผลงานไม่มีเจตนาลบหลู่พระสงฆ์ไทยแต่อย่างใด เพียงแค่ต้องการทำหน้าที่เป็นกระจกสะท้อนปัญหาสังคมในปัจจุบันเท่านั้น อย่างไรก็ตามการจัดแสดงผลงานครั้งนี้เป็นการให้เกียรติเจ้าของผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ซึ่งปฏิบัติกันมาทุกปี หากต้องการระงับการแสดงภาพดังกล่าวก็สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องปรึกษากันกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน' นายญาณวิทย์กล่าว

ด้านนายอนุพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้เป็นอาจารย์ประจำอยู่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรม สาขาวิจิตรศิลป์ หลังจากมีกระแสต่อต้านภาพดังกล่าว ถือเป็นเรื่องธรรมดา ที่การนำเสนอภาพหมิ่นเหม่ทางศาสนาจะมีพุทธศาสนิกชนออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งขอยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะลบหลู่ดูหมิ่นพุทธศาสนาและพระสงฆ์ไทยแต่อย่างไร

นายอนุพงษ์กล่าวว่า ภาพที่วาดขึ้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในสังคม ได้แนวคิดจากนิทานทางพุทธศาสนาเรื่องเปรตภูมิ โดยต้องการนำเสนอภาพดังกล่าว เพื่อกระตุ้นให้สังคมช่วยกันปกป้องพระพุทธศาสนาไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของผู้แสวงหาประโยชน์จากพุทธศาสนา เช่นเดียวกับคนโบราณที่มักสอนลูกหลานไม่ให้พูดโกหก เพราะจะมีปากเท่ารูเข็ม หรือไม่ให้ตบตีพ่อแม่ เพราะทำให้มือโต ซึ่งเป็นกุศโลบายที่ได้รับการสั่งสอนจากผู้ปกครองมาในวัยเด็ก

'สาเหตุที่ผมนำจีวรของพระมาขึงในการเขียนภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับงานเขียนเท่านั้น ไม่ได้เหยียบย่ำผ้าจีวร แต่กลับบูชาไว้อย่างดี นอกจากนี้ภาพที่ผมวาดไม่ได้ระบุสถานที่ จึงไม่ได้เหมารวมว่าเป็นพระสงฆ์ไทย ดังนั้นผมถือว่างานที่สร้างสรรค์ออกมาเป็นการปกป้องพุทธศาสนามากกว่าทำให้ศาสนาเสื่อม เพราะต้องการปลูกจิตสำนึกที่ดีให้สังคม จึงอยากให้มองที่เจตนาของผมด้วย ซึ่งผมพร้อมจะชี้แจงทุกเรื่อง' นายอนุพงษ์กล่าว

ขณะที่นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องแยกกันระหว่างการประกวดภาพ และการเผยแพร่ เพราะไม่ใช่ว่าพระไม่เห็นด้วยกับภาพนั้นในเชิงของการวาดภาพ และการให้รางวัล แต่เข้าใจว่าออกมาประท้วงเพราะภาพนั้นสื่อความหมายไปในทางที่ทำให้เสียหายต่อวงการสงฆ์ ภาพนั้นมันเกิดผลกระทบ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบก็มีสิทธิที่จะร้องเรียน ซึ่งพระก็ออกมาร้องเรียนเพียงเพื่อไม่ให้แสดงภาพนี้เท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของมหาวิทยาลัยศิลปากรที่จะต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งรอฟังอยู่เช่นกัน

นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้ส่งหนังสือถึง กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) และมหาวิทยาลัยศิลปากรให้พิจารณาความเหมาะสมการนำภาพดังกล่าวมาจัดแสดง แม้ว่าจะเป็นภาพศิลปะ แต่ก็ทำร้ายจิตใจผู้ที่พบเห็นที่เป็นพุทธศาสนิกชน
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby Canthai » Tue Mar 02, 2010 12:20 pm

ภาพเขียนจะสื่อความหมายด้วยตัวภาพเอง คนดูก็จะรับรู้และตอบสนองต่างกัน เพราะไม่มีคนอธิบาย

แต่ภาพยนต์ มีโอกาสอธิบายได้มากกว่า ดังนั้นผลสะเทือนด้านต่อต้านจากภาพยนต์ น่าจะไม่มากเท่าภาพเขียน


ยิ่งภาพยนต์ที่ผ่านการเซ็นเซ่อร์มาแล้ว ก็ต้องมีคำอธิบายได้ดีระดับหนึ่ง แต่ปัญหาคือ...

กรรมการเซ็นเซ่อร์ใช้แนวคิดปกป้องพระพุทธศาสนาหรือไม่เพียงใด บางทีเราก็เดาไม่ถูก

เพราะกรรมการเซ็นเซ่อร์และพระสงฆ์ ก็เป็นคนละกลุ่ม คนละพวก รวมทั้งพวกองค์กรพิทักษ์พระศาสนาต่าง ๆ

เท่าที่อ่านจากข่าว หนังเรื่องนี้ก็ลองเสี่ยงนำภาพยนต์ไปฉายตามโรงเรียน ตลอดจน ให้พระสงฆ์ดูมาแล้ว..
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: "นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ

Postby Jseventh » Fri Mar 05, 2010 7:50 am

ความเห็นส่วนตัวหลังจากที่ได้อ่านเรื่องย่อและดูหนังตัวอย่างแล้ว
ขอบอกว่า..นี่เป็นหนังไทยที่น่าดูอีกเรื่องนึงเลยค่ะ :)
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นเทวาหรือซาตาน มนุษย์เท่านั้นที่เป็นผู้กำหนด
User avatar
Jseventh
 
Posts: 1741
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:19 am


Return to ห้องพัก



cron