http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1265281554
หนังตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่อง "นาคปรก" หนังไทยประเด็นอ่อนไหวเล่าเรื่องราวของ "โจรในคราบพระ" ที่ต้องรอคอยเวลาถึง 3 ปี กว่าจะได้ลงโรงฉายตามระบบการจัดเรตของพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฉบับใหม่
ในที่สุด ภาพยนตร์เรื่อง “นาคปรก” ก็ได้ฉายหลังจากถ่ายทำเสร็จมาร่วม 3 ปี และผ่านขั้นตอนการตัดต่อมาหลายครั้ง จนเข้าสู่ปีที่เริ่มใช้พระราชบัญญัติภาพยนตร์ฉบับใหม่ ก็ยังถูกเลื่อนกำหนดฉายมาหลายครั้ง ด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการแฝงตัวของอาชญากรในคราบผ้าเหลือง
ในใบปิดหนังฉบับนี้นี้แจ้งไว้ว่าหนังจะได้กำหนดฉายคือ 18 มีนาคม 2553 โดยไม่มีการตัดทอนแต่อย่างใด – หากเป็นดังที่แจ้งมานี้ก็ถือว่าน่ายินดีกับตัวหนังเอง
อย่างไรก็ตาม “การไม่ตัด” ก็ยังน่่าสงสัยทีเดียวว่าข่าวที่เคยมีการออกมาก่อนหน้านี้ว่า หนังจะได้รับเรต น 18+ โดยมีการขึ้นคำเตือนต่างๆ ตลอดทั้งเรื่องจะเกิดขึ้นหรือไม่ ?
เช่นเดียวกันว่าหนังที่ผ่านกระบวนการตัดต่อมาหลายฉบับ และผ่านรอบฉายทดลองมาหลายครั้งเรื่องนี้ แท้จริงแล้วฉบับที่จะฉายตามโรงภาพยนตร์ทั่วไปนี้ จะตรงกับฉบับดั้งเดิมหรือใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้สร้างต้องการมากน้อยเพียงไหน ?
ทางเครือข่ายคนดูหนังจะพยายามติดตามข่าว และแจ้งผลให้ทราบต่อไป
http://thaiaudience.wordpress.com/2010/ ... proknocut/
*******************************************************************************
มติชนออนไลน์
--------------------------------------------------------------------------------
"นาคปรก" หนังศาสนาว่าด้วยโจรในคราบพระ ที่รอคอยเวลาถึง 3 ปีก่อนจะได้ลงโรงฉาย (ชมคลิปวิดีโอ)
ด้วยความที่เล่าเรื่องราวของโจรในคราบพระ "นาคปรก" จึงเป็นหนังไทยที่ถูกนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นเรื่องระบบเซ็นเซอร์และพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฉบับใหม่มากที่สุดเรื่องหนึ่ง หนังต้องใช้เวลาถึง 3 ปี กว่าจะได้ลงโรงฉาย และนี่คือที่มาของหนังเรื่องนี้
(ชมตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง "นาคปรก" ได้ที่สัญลักษณ์ "กล้องวิดีโอ" เหนือพาดหัวข่าว)
"นาคปรก" คือภาพยนตร์ผลงานการกำกับของ "ภวัติ พนังคศิริ" (ผู้ที่เคยทำหนังเกี่ยวกับคณะสงฆ์ในแง่มุมสว่างสดใสมาแล้วในเรื่อง "อรหันต์ซัมเมอร์") ซึ่งถ่ายทำและตัดต่อเสร็จมาร่วม 3 ปีแล้ว แต่หนังเรื่องนี้เพิ่งจะได้ฤกษ์ลงโรงฉายในเดือนมีนาคม 2553 น่าสนใจว่าอะไรคือสาเหตุแห่งการรอคอยอันยาวนานดังกล่าว
นาคปรกเป็นภาพยนตร์ไทยอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงและนำไปเชื่อมโยงกับประเด็นการเซ็นเซอร์ รวมทั้ง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ 2551 รองจาก "แสงศตวรรษ" ของอภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล ที่ตกเป็นเหยื่อของระบบเซ็นเซอร์ไทยไปก่อนหน้านี้
สิ่งที่นาคปรกทำก็คือการตั้งคำถามว่าระบบเซ็นเซอร์ไทยสามารถรับได้แค่ไหน หากคนทำหนังต้องการจะบอกเล่าประเด็นละเอียดอ่อนของศาสนาอย่างตรงไปตรงมา
หนังเล่าเรื่องของโจรโฉด 3 คนที่ขนเงินเอามาซ่อนไว้ใต้อุโบสถที่กำลังซ่อมแซม แต่ครั้นถึงเวลาย้อนมาเอาเงิน พวกเขากลับพบว่าที่ซ่อนถูกโบนปูนทับไปเรียบร้อยแล้ว ทางเดียวที่อาชญากรกลุ่มนี้จะนำเงินกลับมาได้ก็คือการโกนหัวห่มผ้าเหลืองทำตัวกลมกลืนกับพระสงฆ์รูปอื่น เพื่อหาทางขุดนำเงินของพวกตนกลับคืน
ด้วยเนื้อหาเข้มข้นรุนแรง นาคปรกจึงถูกเพ่งเล็งตั้งแต่กำลังถ่ายทำ เมื่อมีจดหมายจากองค์กรทางศาสนาฉบับหนึ่งส่งมาถึงบริษัทผู้สร้าง คือ "บาแรมยู" ในเครือสหมงคลฟิล์ม และกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อแจ้งให้ทราบว่าได้รับรู้ถึงความหมิ่นเหม่ของเนื้อหาในหนังเรียบร้อยแล้ว และเรียกร้องให้มีการเฝ้าระวังภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นพิเศษ
เมื่อนาคปรกแสดงให้เห็นถึงภาพการใช้ความรุนแรงต่อพระสงฆ์และภาพโจรในคราบพระหลายต่อหลายฉาก ดังนั้น ในช่วงเพิ่งถ่ายทำเสร็จใหม่ ๆ ซึ่งอยู่ในระบบเซ็นเซอร์และกฎหมายภาพยนตร์ฉบับเก่า หนังจึงมีโอกาสสูงที่จะโดนแบนหรือตัดฉากต่าง ๆ ออกเป็นชุด
ทีมงานผู้สร้างพยายามแก้ไขปัญหาในหลายวิถีทาง ตั้งแต่ใช้เทคนิคซีจีเข้ามาช่วยลบภาพความรุนแรงบางฉาก หรือการที่ผู้กำกับตัดสินใจให้ตัวละครเอกที่เป็นโจรในคราบพระถอดสบงออกจนเหลือเพียงอังสะ เพื่อเป็นนัยยะสื่อว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่พระเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม เมื่อพระราชบัญญัติภาพยนตร์ฉบับใหม่ซึ่งกำหนดให้หนังทุกเรื่องต้องเข้ารับการ "จัดเรต" แทน "เซ็นเซอร์" มีความคืบหน้าไปมาก ปรัชญา ปิ่นแก้ว ผู้อำนวยการผลิตของนาคปรก จึงส่งให้หยุดการแก้ไขหนังเรื่องนี้ แล้วนำหนังในฉบับแรกที่ดั้งเดิมที่สุดเข้าสู่ระบบการจัดเรต ด้วยหวังว่าโอกาสถูกแบนจะมีน้อยลง
ขณะเดียวกัน ทีมงานผู้สร้างก็นำหนังไปฉายให้คนกลุ่มต่าง ๆ ดูเป็นการประชาพิจารณ์ ตั้งแต่ตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ, องค์กรทางศาสนาต่าง ๆ, กลุ่มข้าราชการ, บุคคลทั่วไป และพระราชธรรมนิเทศ (พยอม กัลยาโณ) ซึ่งล้วนแล้วแต่ได้ผลตอบรับน่าพอใจทั้งสิ้น หลังทำการประชาพิจารณ์อยู่ครึ่งปี ทีมงานจึงตัดสินใจนำนาคปรกเข้าสู่ระบบการจัดเรตและวางโปรแกรมฉายไว้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2553
นาคปรกขอเรต น 18+ (หนังที่เหมาะสำหรับผู้ชมอายุ 18 ปีขึ้นไป) จากคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์ และคณะกรรมการก็ตัดสินให้หนังได้รับเรต น 18+ จริง ๆ แต่เรตดังกล่าวกับมาพร้อมกับคำสั่งที่ว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องขึ้นคำเตือนในฉากที่พระสงฆ์ทำการสักร่างกายให้ฆราวาสว่า "การสักร่างกายไม่ใช่กิจที่พระสงฆ์พึงกระทำ" และทุกฉากที่มีภาพพระสัมผัสตัวสีกา (ซึ่งไม่ได้มีแค่ฉากเดียว) ว่า "พระภิกษุสัมผัสสตรีเป็นพฤติกรรมที่ผิดต่อวินัยสงฆ์"
ผู้อำนวยการผลิตอย่างปรัชญาจึงพยายามต่อสู้ให้คำเตือนทั้งหลายไปขึ้นรวบยอดตอนก่อนเข้าเรื่อง แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ จึงมีข่าวว่าเขาเตรียมผลักดันหนังฉบับเต็มที่ไม่มีคำเตือนใด ๆ เข้าสู่การพิจาณาของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์อีกครั้งหนึ่ง เพื่อขอรับเรต น 20- (ภาพยนตร์ที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีดู ยกเว้นผู้บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส)
ล่าสุด สหมงคลฟิล์มเจ้าของหนังเรื่องนี้ได้ประชาสัมพันธ์ว่านาคปรกมีกำหนดฉายแน่นอนในวันที่ 18 มีนาคม 2553 โดยจะเป็นหนังฉบับเต็มที่ไม่ถูกตัดทอนแต่อย่างใด ซึ่งคงต้องติดตามต่อไปว่า นาคปรกฉบับที่จะฉายตามโรงภาพยนตร์นั้นคือหนังฉบับใด? ใช่ต้นฉบับดั้งเดิมหรือไม่? หรือจะเป็นหนังฉบับเรต น 18+ ซึ่งมีการขึ้นคำเตือนต่าง ๆ อยู่ในหลายฉากดังคำสั่งของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์?
(ข้อมูลจากนิตยสารไบโอสโคป ฉบับประจำเดือนมกราคม 2553 และ http://thaiaudience.wordpress.com/2010/ ... proknocut/)