วันที่ 09 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:08:09 น. มติชนออนไลน์
ไขปริศนาทำไม "เดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์" จึงผงาด
ขณะที่ "อวตาร" พ่ายหมดรูปบนเวทีออสการ์
แม้การประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งล่าสุดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่หลายคนยังคงค้างคาใจไม่หายว่าทำไมหนังฟอร์มยักษ์ที่ทำรายได้ถล่มทลายทั่วโลกอย่าง "อวตาร" ของเจมส์ คาเมรอน จึงตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แก่หนังดราม่าสงครามอิรักคือ "เดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์" ของแคธรีน บิเกโลว์ ไปอย่างหมดรูป
หากพิจารณาผ่านตัวเลขทางเศรษฐกิจแล้ว หนังอย่างเดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์ ย่อมไม่สามารถเทียบกับอวตารได้เลย เพราะขณะที่เรื่องแรกมีทุนสร้าง 15 ล้านเหรียญสหรัฐ เรื่องหลังกลับมีทุนสร้างประมาณ 300 ล้านเหรียญ และขณะที่เรื่องแรกโกยรายได้ภายในประเทศไปเพียงแค่ 14.7 ล้านเหรียญ แต่เรื่องหลังกลับทำรายได้ในประเทศไป 721 ล้านเหรียญ รวมทั้งเก็บรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 2.6 พันล้านเหรียญ
ทำไม "เดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์" ถึงกลายเป็นผู้ชนะ?
มีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้เดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์ กลายเป็นราชินีที่กวาดรางวัลออสการ์ประจำปีนี้ได้ถึง 6 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับยอดเยี่ยมว่า เป็นเพราะหนังของบิเกโลว์สามารถสะท้อนอารมณ์ความรู้สึก เรื่องราวบาดแผล และปัญหาทางจิตใจแห่งยุคสมัยอันเกี่ยวเนื่องกับสงครามอิรักของชาวอเมริกันออกมาได้อย่างดีเยี่ยม หนังเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งหวาดกลัวจากสมรภูมิที่ยังไม่ระเหยหายไป รวมทั้งการแสดงความเห็นใจต่อคนผู้มีส่วนร่วมในสงครามดังกล่าว
แล้วทำไม "อวตาร" ถึงแพ้?
มีผู้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่หนังดังประจำปีของคาเมรอนต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้บนเวทีออสการ์ไว้หลายประการ ได้แก่
1. ความเป็นภาพยนตร์สามมิติของอวตาร ส่งผลให้หนังไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของเรื่องออกมาได้ดีพอ
2. คาเมรอนและทีมงานผู้สร้างยืนยันว่า นักแสดงนำในอวตารทำงานและใช้ความสามารถของตนเองอย่างเต็มที่ แม้ภาพตัวละครนำทั้งหลายจะต้องผ่านการประกอบสร้างทางเทคนิคคอมพิวเตอร์ก็ตาม ดังนั้น พวกเขาและเธอจึงสมควรได้รับการพิจารณาในระดับเดียวกันกับนักแสดงในหนังเรื่องอื่น ๆ แต่คนดูจำนวนมากรวมทั้งคณะกรรมการตัดสินรางวัลทางภาพยนตร์ทั้งหลายก็ยังค้างคาใจอยู่ดีว่า ตกลงแล้วตัวละครในอวตารคือนักแสดงที่เป็นมนุษย์หรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกประกอบสร้างขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์กราฟฟิกกันแน่
3. แม้ในช่วงหลังทีมงานผู้สร้างจะพยายามรณรงค์ว่าอวตารมีสถานะเป็นภาพยนตร์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ก็ช้าไม่ทันการณ์เสียแล้ว เพราะหลังจากหนังออกฉายก็มีผู้วิจารณ์ว่าโครงเรื่องของอวตารนั้นธรรมดา คลุมเครือ และอาจมีเนื้อหาต่อต้านความเป็นอเมริกัน นอกจากนี้ ยังมีผู้แสดงความเห็นว่าเนื้อหาของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ เป็นเพียงแค่การพลิกแพลงเรื่องราวของหนังการ์ตูน "โพคาฮอนทัส" และหนังเก่าอย่าง "แดนเซส วิธ วูล์ฟส์" มาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
4. สุดท้ายยังมีคนวิเคราะห์อีกว่า คณะกรรมการตัดสินรางวัลออสการ์มีความตั้งใจช่วยเหลือหนังอิสระทุนต่ำ ซึ่งมีแนวโน้มจะสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ยิ่งกว่าหนังกระแสหลักฟอร์มยักษ์ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกเขาเลือกเดอะ เฮิร์ท ล็อคเกอร์ เป็นหนังยอดเยี่ยม แทนที่จะเลือกอวตาร
อย่างไรก็ตาม คงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า ธุรกิจภาพยนตร์อินดี้อเมริกันจะถูกกระตุ้นครั้งใหญ่ หลังการประกาศผลรางวัลออสการ์ประจำปีนี้