รัฐบาลทักษิณกู้เงินมากกว่ารัฐบาลนี้ ฟันธง!

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

รัฐบาลทักษิณกู้เงินมากกว่ารัฐบาลนี้ ฟันธง!

Postby lego_seri » Sun Nov 29, 2009 10:11 pm

ผมไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมพวกเสื้อแดงจึงไม่ยอมหาข่าวสารอะไรเลย
อย่างเงินกู้ก็หาว่า รัฐบาล ปชป ชอบกู้อย่างเดียว เห็นตามกำแพง และโปสเตอร์โฆษณาต่างๆ เต็มไปหมด

แต่ที่จริงแล้ว ประเทศไทยมีการกู้มาตลอด จากกระทรวงการคลัง พบว่าในช่วงสมัยทักษิณ

ปี 2544 --> กู้เงินในประเทศมาทั้งหมด 107,849.3 ล้านบาท
ปี 2545 --> 475,000 ล้านบาท
ปี 2546 --> 76,000 ล้านบาท
ปี 2547 --> 279,987.9 ล้านบาท
ปี 2548 --> 169,400 ล้านบาท

จะเห็นเกือบทุกปี กู้มากกว่า รัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ กู้เสียอีก
อยากให้พวกเสื้อแดงหาข้อมูลมากกว่านี้ ไม่ใช่ ไอ้ทักขี้บอกว่ารัฐบาลนี้เก่งกู้ก็เชื่อทักขี้ไปหมด
User avatar
lego_seri
 
Posts: 154
Joined: Thu Nov 05, 2009 5:56 pm

Re: รัฐบาลทักษิณกู้เงินมากกว่ารัฐบาลนี้ ฟันธง!

Postby Canthai » Sun Nov 29, 2009 10:14 pm

ต้องเอาตัวเลขแฉออกทีวีบ่อยๆ ซีครับ ฮ่า ฮ่า
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: รัฐบาลทักษิณกู้เงินมากกว่ารัฐบาลนี้ ฟันธง!

Postby Canthai » Sun Nov 29, 2009 11:08 pm

วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เวลา 13:55:49 น. มติชนออนไลน์

คลังเผยตัวเลขหนี้สาธารณะล่าสุด 30 ก.ย.52 กว่า 4 ล้านล้านบาท 45.5% ของจีดีพี

หมายเหตุ"มติชนออนไลน์" -เป็นการรายงานเรื่องหนี้สาธารณะ ณ วันที่ ๓๐ กันายน ๒๕๕๒ ตามประกาศกระทรวงการคลังซึ่งต้องแจ้งให้สาธารณชนรับทราบตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ซึ่งมีจำนวน ทั้งสิ้น๔,๐๐๑,๙๔๒.๐๐ ล้านบาทหรือร้อยละ ๔๕.๕๕ ของผลิตภัรฑ์มวลรวมภายในประเทศ( GDP) ประกอบด้วย

หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง ๒,๕๘๖,๕๑๓.๑๘ ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ๑,๑๐๘,๕๘๐.๓๒ ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็น สถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน ๒๐๘,๗๐๒.๐๒ ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนา ระบบสถาบันการเงิน ๙๘,๑๔๖.๔๘ ล้านบาท

รายงานดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้

๑. รายงานสถานะหนี้สาธารณะ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒

๑.๑ หนี้สาธารณะ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ มีจำนวน ๔,๐๐๑,๙๔๒.๐๐ ล้านบาทหรือร้อยละ ๔๕.๕๕ ของ GDP ประกอบด้วย หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง ๒,๕๘๖,๕๑๓.๑๘ ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ๑,๑๐๘,๕๘๐.๓๒ ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน ๒๐๘,๗๐๒.๐๒ ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ๙๘,๑๔๖.๔๘ ล้านบาท

หนี้สาธารณะจำนวนดังกล่าวจำแนกตามอายุของหนี้เป็นหนี้ระยะยาว ๓,๖๐๐,๙๕๗.๙๙ ล้านบาท และหนี้ระยะสั้น ๔๐๐,๙๘๔.๐๑ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๘๙.๙๘ และร้อยละ ๑๐.๐๒ และจำแนก ตามแหล่งที่มาเป็นหนี้ต่างประเทศ ๓๘๔,๓๗๖.๖๘ ล้านบาท และหนี้ในประเทศ ๓,๖๑๗,๕๖๕.๓๒ ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ ๙.๖๐ และร้อยละ ๙๐.๔๐ ตามลำดับ
-----------------------------------------
ตาราง หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒(หน่วย:ล้านบาท)

๑. หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง ๒,๕๘๖,๕๑๓.๑๘/ ๒๙.๔๔( % GDP)
๑.๑ หนี้ต่างประเทศ ๖๒,๙๙๗.๗๓
๑.๒ หนี้ในประเทศ ๒,๕๒๓,๕๑๕.๔๕


๒. หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน ๑,๑๐๘,๕๘๐.๓๒ / ๑๒.๖๒ ( % GDP)
๒.๑ หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ๕๕๙,๔๗๓.๘๕
- หนี้ต่างประเทศ ๑๗๕,๕๔๓.๕๖
- หนี้ในประเทศ ๓๘๓,๙๓๐.๒๙


๒.๒ หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ๕๔๙,๑๐๖.๔๗
- หนี้ต่างประเทศ ๑๓๗,๓๕๗.๘๔
- หนี้ในประเทศ ๔๑๑,๗๔๘.๖๓


๓. หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐค้ำประกัน) ๒๐๘,๗๐๒.๐๒ / ๒.๓๘( % GDP)
๓.๑ หนี้ต่างประเทศ ๘,๔๗๗.๕๕
๓.๒ หนี้ในประเทศ ๒๐๐,๒๒๔.๔๗


๔. หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟู ฯ ๙๘,๑๔๖.๔๘ / ๑.๑๒( % GDP)
๔.๑ หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน ๗๓,๗๙๔.๖๐
๔.๒ หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน ๒๔,๓๕๑.๘๘


๕. หนี้หน่วยงานอื่นของรัฐ - -
๕.๑ หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน -
๕.๒ หนี้ที่รัฐบาลไม่ค้ำประกัน -



๖. รวม ๔,๐๐๑,๙๔๒.๐๐/ ๔๕.๕๕( % GDP)



หมายเหตุ :- ๑. ประมาณการ GDP ปี ๒๕๕๒ เท่ากับ ๘,๗๘๖.๒๙ พันล้านบาท (สศช. ณ วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๒)
๒. ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ยังไม่รวมหนี้ของ SPV จำนวน ๒๓,๙๙๙.๙๐ ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีภาระผูกพันต้องจ่ายภายใต้สัญญาเช่าพื้นที่อาคาร สัญญาบริการ สัญญาบริการจัดหาเฟอร์นิเจอร์ และสัญญาโอนสิทธิเรียกร้อง ของโครงการศูนย์ราชการกรุงเทพมหานคร ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งตามระบบ GFS นับเป็นหนี้สาธารณะ
-----------------------------------

๒. รายการการกู้เงินและค้ำประกัน ระหว่างเดือนเมษายน - กันยายน ๒๕๕๒



คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะได้จัดทำแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๒ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ ประกอบด้วย ๖ แผนย่อย และได้ปรับปรุงแผน ฯ ในระหว่างปีเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้เงินกู้และบริหารหนี้ ซึ่งหลังการปรับปรุงแผน ฯ ครั้งที่ ๔/๒๕๕๒ ทำให้วงเงินรวมในแผน ฯ ที่จะบริหารจัดการมีจำนวนทั้งสิ้น ๑,๓๗๕,๕๓๕.๔๕ ล้านบาท ทั้งนี้ในช่วงระหว่างเดือนเมษายน - กันยายน ๒๕๕๒ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการกู้เงินและบริหารหนี้เป็นวงเงินทั้งสิ้น ๖๙๑,๑๖๗.๔๐ ล้านบาท ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้


๒.๑ การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล


๒.๑.๑ กระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และกรณีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ จำนวน ๒๒๕,๕๓๐.๕๒ ล้านบาท โดยออกพันธบัตรรัฐบาล วงเงินรวม ๑๔๕,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท ตั๋วสัญญาใช้เงิน วงเงินรวม ๑๔,๐๓๐.๕๒ ล้านบาท และตั๋วเงินคลัง วงเงินรวม ๖๖,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนของตั๋วสัญญาใช้เงินที่ได้ดำ เนินการออกนั้น


กระทรวงการคลังได้ไถ่ถอนก่อนครบกำหนดโดยใช้งบชำระหนี้ วงเงิน ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท ทำให้ลดหนี้คงค้างลงตามจำนวนดังกล่าว และลดภาระดอกเบี้ย จำนวน ๖๙๗.๖๐ ล้านบาท


๒.๑.๒ กระทรวงการคลังได้ Roll - over ตั๋วเงินคลังเพื่อบริหารดุลเงินสด วงเงิน๘๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท และตั๋วเงินคลังที่ได้กู้มาเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่สะสมมาในช่วง
ปีงบประมาณ ๒๕๔๒ - ๒๕๔๗ จำนวน ๖๗,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท ทั้งนี้ ในส่วนของตั๋วเงินคลังที่ได้กู้มาเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณที่สะสมมาในช่วงปีงบประมาณ ๒๕๔๒ - ๒๕๔๗ ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้โดยแปลงเป็นพันธบัตรระยะยาว จำนวน ๑๙,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท


๒.๑.๓ กระทรวงการคลังได้ Roll - over พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอน๓ รุ่น วงเงินรวม ๔๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ๕ แห่ง ตามจำนวน
ดังกล่าวมาชำระคืนในวันที่ครบกำหนด จากนั้นได้ออกพันธบัตรรัฐบาล ๓ รุ่น วงเงินรวม๓๗,๗๔๐.๐๐ ล้านบาท สมทบกับเงินจากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน ๒,๒๖๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นดังกล่าว


๒.๑.๔ กระทรวงการคลังได้ Roll - over พันธบัตรรัฐบาลที่ครบกำหนดไถ่ถอน๒ รุ่น วงเงินรวม ๓๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ๔ แห่ง ตามจำนวน
ดังกล่าวมาชำระคืนในวันที่ครบกำหนด จากนั้นได้ออกพันธบัตรรัฐบาล ๓ รุ่น วงเงินรวม๓๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้น


๒.๑.๕ กระทรวงการคลังได้ไถ่ถอนตั๋วสัญญาใช้เงินก่อนครบกำหนด วงเงิน๑๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยใช้งบชำระหนี้ ซึ่งทำให้ลดหนี้คงค้างลงตามจำนวนดังกล่าว และลดภาระ
ดอกเบี้ย จำนวน ๔๓๔.๖๖ ล้านบาท


๒.๒ การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF)



กระทรวงการคลังได้ดำเนินการ Roll - over พันธบัตร FIDF3 (พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่สอง พ.ศ. ๒๕๔๕) ที่ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน๕๔,๒๔๕.๗๓ ล้านบาท โดยการกู้เงินระยะยาวจากสถาบันการเงิน ๒ แห่ง จำนวน ๒๓,๑๖๒.๐๐ ล้านบาทสมทบกับการกู้เงินระยะสั้นจากสถาบันการเงิน ๓ แห่ง จำนวน ๑๓,๙๓๔.๖๔ ล้านบาท และเงินทดรองจ่ายจากบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง จำนวน ๑๑,๐๖๕.๓๖ ล้านบาท เพื่อชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด


จากนั้นได้ออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ วงเงิน ๒๕,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท มาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นและเงินจากบัญชีเงินฝาก ฯ ทั้งนี้ ในส่วนที่ไม่ได้กู้เงินเพื่อมาชำระคืนในวันที่ครบกำหนดไถ่ถอน ได้มีการชำระคืนเงินต้นจากเงินในบัญชีสะสมเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน ๖,๐๘๓.๗๓ ล้านบาท นอกจากนี้ณ สิ้นเดือนกันยายน ๒๕๕๒ ได้ดำเนินการชำระคืนเงินกู้ระยะยาวอีกส่วนหนึ่ง จำนวน ๗๑๑.๐๐ ล้านบาทโดยใช้เงินจากบัญชีสะสม ฯ ด้วย


อนึ่ง ในปีงบประมาณ ๒๕๕๒ ยังมีพันธบัตร FIDF3 ที่ครบกำหนดไถ่ถอน อีก ๒ รุ่นวงเงินรวม ๙๔๔.๙๙ ล้านบาท ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้ดำเนินการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนโดยใช้เงินจากบัญชีเพื่อการชำระคืนต้นเงินกู้ชดใช้ความเสียหายให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน แทนการ Roll - over ที่กำหนดไว้เดิม ทำให้ลดหนี้คงค้างได้๙๔๔.๙๙ ล้านบาท


๒.๓ การบริหารและจัดการเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. ๒๕๕๒


๒.๓.๑ กระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อสมทบเป็นเงินคงคลัง จำนวน ๕๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาทโดยออกพันธบัตรรัฐบาล


๒.๓.๒ กระทรวงการคลังได้กู้เงินเพื่อแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ๒๕๕๕จำนวน ๓๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยกู้เงินจากสถาบันการเงินรวม ๔ แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งโตเกียว- มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด สาขากรุงเทพ ฯ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยจำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งกระทรวงการคลังมีแผนที่จะแปลงเป็นพันธบัตรรัฐบาลในโอกาสแรกที่ภาวะตลาดเอื้ออำนวยต่อไป


๒.๔ การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจรัฐวิสาหกิจได้ดำ เนินการกู้เงินและบริหารหนี้ในประเทศ จำ นวนทั้งสิ้น๑๐๙,๐๑๕.๑๘ ล้านบาท เป็นเงินกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๕๙,๕๗๕.๑๘ ล้านบาทและไม่ค้ำประกัน จำนวน ๔๙,๔๔๐.๐๐ ล้านบาท สามารถแบ่งตามวัตถุประสงค์ได้ดังนี้


๒.๔.๑ เงินกู้ในประเทศทดแทนเงินกู้จากต่างประเทศรัฐวิสาหกิจ ๓ แห่ง ได้กู้เงินในประเทศทดแทนเงินกู้จากต่างประเทศวงเงินรวม ๑๐,๑๔๗.๔๕ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ได้แก่


(๑) การไฟฟ้านครหลวงได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม๑,๗๘๘.๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ ๙ ปี ๒๕๔๗ - ๒๕๕๐ (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๒) จำนวน ๖๔๐.๐๐ ล้านบาท แผนงานเปลี่ยนสายป้อนอากาศเป็นสายป้อนใต้ดิน ปี ๒๕๔๗ - ๒๕๕๒ จำนวน ๑๔๘.๐๐ ล้านบาท และแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ ๑๐ ปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๔ จำนวน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท


(๒) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตรวงเงินรวม ๘,๒๓๙.๔๕ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครใต้ชุดที่ ๓ จำนวน ๖๙๔.๗๙ ล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมบางปะกง ชุดที่ ๕จำนวน ๒,๐๓๐.๘๑ ล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือ ชุดที่ ๑ จำนวน ๑,๕๙๓.๙๘ ล้านบาท โครงการขยายระบบไฟฟ้าในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล ระยะที่ ๒ จำนวน ๙๓๑.๗๑ ล้านบาท


โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ ๑๑ จำนวน ๗๙๕.๕๖ ล้านบาท โครงการ สายส่ง ๕๐๐ เควี. เพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน ๒ จำนวน ๔๐๐.๐๐ ล้านบาทโครงการระบบส่งไฟฟ้าเพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำงึม ๒ จำนวน ๕๒๙.๑๐ ล้านบาทโครงการระบบส่งไฟฟ้า ๕๐๐ เควี. สำหรับรับไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน ระยะที่ ๑ จำนวน ๙๖๓.๔๙ ล้านบาท และโครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ ๑๐ จำนวน ๓๐๐.๐๐ ล้านบาท


(๓) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม๑๒๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๖ ส่วนที่ ๒


๒.๔.๒ เงินกู้เงินบาทสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศรัฐวิสาหกิจ ๔ แห่ง ได้กู้เงินบาทสมทบโครงการเงินกู้จากต่างประเทศวงเงินรวม ๘,๒๔๙.๖๘ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน ได้แก่


(๑) การประปานครหลวงได้กู้เงินจากธนาคารทหารไทย จำ กัด(มหาชน) วงเงิน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ ๗


(๒) การไฟฟ้านครหลวงได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม๑,๒๑๒.๐๐ ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามแผนปรับปรุงและขยายระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ ๙ ปี ๒๕๔๗ - ๒๕๕๐ (ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๒) จำนวน ๒๐๐.๐๐ ล้านบาท แผนงานเปลี่ยนสายป้อนอากาศ เป็นสายป้อนใต้ดิน ปี ๒๕๔๗ - ๒๕๕๒ จำนวน ๕๒.๐๐ ล้านบาท และแผนปรับปรุงและขยาย ระบบจำหน่ายพลังไฟฟ้า ฉบับที่ ๑๐ ปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๔ จำนวน ๙๖๐.๐๐ ล้านบาท


(๓) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตรวงเงินรวม ๕,๗๖๐.๕๕ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครใต้ชุดที่ ๓ จำนวน ๘๕๐.๘๑ ล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมบางปะกง ชุดที่ ๕จำนวน ๙๖๙.๑๙ ล้านบาท โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมพระนครเหนือ ชุดที่ ๑ จำนวน ๕๑๑.๗๖ ล้านบาท โครงการขยายระบบไฟฟ้าในเขตกรุงเทพ ฯ และปริมณฑล ระยะที่ ๒ จำนวน๔๓๔.๒๑ ล้านบาท โครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ ๑๑ จำนวน ๑,๓๑๙.๓๔ ล้านบาท



โครงการสายส่ง ๕๐๐ เควี. เพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำเทิน ๒ จำนวน๓๐๐.๗๔ ล้านบาท โครงการระบบส่งไฟฟ้าเพื่อการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนน้ำงึม ๒จำนวน ๔๗๔.๕๐ ล้านบาท โครงการระบบส่งไฟฟ้า ๕๐๐ เควี. สำหรับรับไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าเอกชน ระยะที่ ๑ จำนวน ๗๐๐.๐๐ ล้านบาท และโครงการขยายระบบส่งไฟฟ้า ระยะที่ ๑๐ จำนวน๒๐๐.๐๐ ล้านบาท


(๔) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม๒๗๗.๑๓ ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๖ ส่วนที่ ๑ จำนวน ๑๗๙.๕๗ ล้านบาท และโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๗ ส่วนที่ ๒ จำนวน ๙๗.๕๖ ล้านบาท


๒.๔.๓ เงินกู้เพื่อลงทุนรัฐวิสาหกิจ ๖ แห่ง ได้กู้เงินเพื่อลงทุน วงเงินรวม ๒๑,๘๔๘.๑๖ ล้านบาทเป็นเงินกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๑๘,๓๑๕.๒๙ ล้านบาท และไม่ค้ำประกัน จำนวน๓,๕๓๒.๘๗ ล้านบาท ได้แก่


(๑) การเคหะแห่งชาติได้กู้เงินจากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)วงเงินรวม ๔,๐๗๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ ๓ จำนวน ๒๗๐.๐๐ ล้านบาท โครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ ๔ จำนวน ๑,๓๐๐.๐๐ ล้านบาท และโครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ ๕ จำนวน ๒,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท


(๒) การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้กู้เงินจากธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงินรวม ๓,๕๐๗.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกันเพื่อดำเนิโครงการทางพิเศษสายบางพลี - สุขสวัสดิ์ จำนวน ๒,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โครงการทางพิเศษรามอินทราวงแหวนรอบนอกกรุงเทพ ฯ จำนวน ๑,๒๓๐.๐๐ ล้านบาท และโครงการทางยกระดับด้านทิศใต้สนามบินสุวรรณภูมิเชื่อมทางพิเศษบูรพาวิถี จำนวน ๒๗๗.๐๐ ล้านบาท


(๓) การประปานครหลวงได้กู้เงินจากธนาคารทหารไทย จำ กัด(มหาชน) วงเงิน ๕๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน เพื่อดำเนินโครงการปรับปรุงกิจการประปาแผนหลัก ครั้งที่ ๗/๑


(๔) การประปาส่วนภูมิภาคได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงิน๘๕๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อดำเนินการตามแผนงานก่อสร้างปรับปรุงขยายประปาชลบุรี ประปาพัทยา และประปาแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี


(๕) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม ๓,๐๓๒.๘๗ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างและปรับปรุงเสริมระบบจำหน่าย ระยะที่ ๖ จำนวน ๖๐๖.๘๗ ล้านบาท โครงการติดตั้งศูนย์สั่งจ่ายไฟ ระยะที่ ๒ จำนวน ๓๘๘.๗๔ ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๘ ส่วนที่ ๑ จำนวน ๕๘๗.๑๓ ล้านบาท โครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๘ ส่วนที่ ๒จำนวน ๒๓๔.๔๔ ล้านบาท โครงการเพิ่มความเชื่อถือได้ของระบบไฟฟ้า ระยะที่ ๒ จำนวน ๒๕๐.๐๐ ล้านบาท


โครงการก่อสร้างระบบจำหน่ายด้วยสายเคเบิ้ลใต้น้ำไปยังเกาะต่าง ๆ ที่มีไฟฟ้าใช้แล้ว (เกาะล้าน เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี) จำนวน ๖๙.๔๐ ล้านบาท โครงการขยายเขตติดตั้งระบบไฟฟ้าให้เกาะต่าง ๆ (เกาะสีบอยา เกาะปู เกาะพีพีดอน จังหวัดกระบี่) จำนวน ๖๐.๑๔ ล้านบาทโครงการก่อสร้างและปรับปรุงเสริมระบบจำหน่าย ระยะที่ ๗ จำนวน ๗๒๙.๑๗ ล้านบาทและโครงการพัฒนาระบบสายส่งและสถานีไฟฟ้า ระยะที่ ๗ ส่วนที่ ๑ จำนวน ๑๐๖.๙๘ ล้านบาท


(๖) การรถไฟแห่งประเทศไทยได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร และกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน และใช้เงินกู้ Short term facility วงเงินรวม๙,๘๘๘.๒๙ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อดำเนินโครงการจัดหารถโบกี้บรรทุกตู้สินค้า ๑๑๒ คัน จำนวน ๑๙๓.๒๘ ล้านบาท และโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน ๙,๖๙๕.๐๑ ล้านบาท


๒.๔.๔ เงินกู้เพื่อดำเนินกิจการทั่วไปและอื่น ๆรัฐวิสาหกิจ ๑๐ แห่ง ได้กู้เงินเพื่อดำเนินกิจการทั่วไปและอื่น ๆ วงเงินรวม๔๐,๖๒๒.๕๖ ล้านบาท เป็นเงินกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๑๗,๖๙๒.๕๖ ล้านบาทและไม่ค้ำประกัน จำนวน ๒๒,๙๓๐.๐๐ ล้านบาท ได้แก่


(๑) การไฟฟ้านครหลวงได้กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)วงเงิน ๑๗๑.๔๔ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อชดเชยรายได้กรณี ๖ มาตรการ ๖ เดือน


(๒) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตรและกู้เงินจากสถาบันการเงิน ๔ แห่ง วงเงินรวม ๒๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันเพื่อใช้ในการดำเนินงาน


(๓) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร และกู้เงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) วงเงินรวม ๔,๑๓๐.๐๐ ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๒,๙๐๐.๐๐ ล้านบาท และไม่ค้ำประกัน จำนวน ๑,๒๓๐.๐๐ ล้านบาทเพื่อชดเชยรายได้กรณี ๖ มาตรการ ๖ เดือน และใช้ในการดำเนินงาน


(๔) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร และกู้เงินจากธนาคารออมสิน วงเงินรวม ๔,๕๙๔.๔๖ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อชำระค่าดอกเบี้ยเงินกู้ และหนี้ค่าน้ำมันและค่าเหมาซ่อมพร้อมดอกเบี้ย


(๕) องค์การคลังสินค้าได้กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)วงเงิน ๔,๙๑๘.๘๔ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อใช้ในการดำเนินงาน


(๖) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรได้กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) วงเงิน ๑๐๗.๘๒ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อใช้ในการดำเนินงาน


(๗) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ได้กู้เงินจากธนาคารออมสินวงเงิน ๑,๒๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน เพื่อใช้ในการดำเนินงาน


(๘) สำนักงานธนานุเคราะห์ได้กู้เงินจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)วงเงิน ๕๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน เพื่อใช้ในการดำเนินงาน


(๙) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม ๔,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อ


(๑๐) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงิน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน เพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อ


๒.๔.๕ การบริหารและจัดการหนี้รัฐวิสาหกิจ ๙ แห่ง ได้ Roll - over หนี้ที่ครบกำหนดชำระคืน วงเงินรวม ๒๘,๑๔๗.๓๓ ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๒๓,๕๖๗.๓๓ ล้านบาทและไม่ค้ำประกัน จำนวน ๔,๕๘๐.๐๐ ล้านบาท ได้แก่



(๑) การเคหะแห่งชาติได้กู้เงินจากธนาคารออมสิน วงเงินรวม๕,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน


(๒) การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร และกู้เงินจากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) วงเงินรวม ๒,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลัง
ค้ำประกัน


(๓) การประปาส่วนภูมิภาคได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงิน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน


(๔) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตรวงเงินรวม ๔,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน


(๕) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงิน๕๘๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกัน


(๖) การรถไฟแห่งประเทศไทยได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม ๔,๒๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน


(๗) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้กู้เงินจากธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) วงเงินรวม ๑,๒๕๒.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน


(๘) องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยได้กู้เงินจากธนาคารออมสิน วงเงิน ๑๑๕.๓๓ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน


(๙) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้กู้เงินโดยการออกพันธบัตร วงเงินรวม ๑๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท กระทรวงการคลังค้ำประกัน


การ Roll - over ของรัฐวิสาหกิจทั้ง ๙ แห่ง เป็นการ Roll - over ภายใต้วงเงินที่ครบกำหนด ๓๔,๗๘๙.๓๓ ล้านบาท โดยรัฐวิสาหกิจชำระคืนหนี้ส่วนที่ไม่ได้ Roll - overจำนวน ๖,๖๔๒.๐๐ ล้านบาท


๒.๕ การก่อหนี้จากต่างประเทศไม่มีการดำเนินการกู้เงินตามแผนงานนี้


๒.๖ การบริหารหนี้ต่างประเทศกระทรวงการคลังได้ชำระคืนหนี้เงินกู้ธนาคารพัฒนาเอเชีย ๖ สัญญา ก่อนครบกำหนด วงเงินเทียบเท่า ๑,๔๕๙.๗๐ ล้านบาท โดยใช้งบชำระหนี้ ทำให้สามารถลดหนี้คงค้างจำนวน๑,๔๕๙.๗๐ ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ย ๗๔.๔๒ ล้านบาท


๓. การกู้เงินและบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ


๓.๑ การกู้เงินและบริหารหนี้ของบริษัทมหาชนจำกัด ที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจรัฐวิสาหกิจ ๒ แห่ง ได้กู้เงินและบริหารหนี้รวม ๔๘,๗๐๐.๐๐ ล้านบาท ได้แก่


๓.๑.๑ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้กู้เงิน จำนวน ๑๐,๗๐๐.๐๐ ล้านบาทเพื่อจัดซื้อเครื่องบินแอร์บัส ๓๓๐ - ๓๐๐ ลำที่ ๑ - ๓ และเพื่อใช้ในการดำเนินงาน นอกจากนี้ มีการRoll - over หนี้ที่ครบกำหนดชำระคืน จำนวน ๓,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท โดยต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงินหลังจากนั้นมีการแปลงเป็นเงินกู้ระยะยาว


๓.๑.๒ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้กู้เงินโดยการออกหุ้นกู้ วงเงินรวม๓๕,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท


๓.๒ การกู้เงินระยะสั้นเพื่อเสริมสภาพคล่องในรูป Credit Lineรัฐวิสาหกิจ ๓ แห่ง ได้กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องรวม ๑๑,๐๕๐.๐๐ ล้านบาท ได้แก่


(๑) การประปานครหลวง วงเงิน ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท


(๒) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย วงเงิน ๑๐,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท


(๓) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ วงเงิน ๕๐.๐๐ ล้านบาท


๔. สรุปผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๒ (เมษายน - กันยายน ๒๕๕๒)


๔.๑ จากผลการดำเนินงานที่กล่าวมาแล้ว ในช่วงระยะเวลา ๖ เดือนหลังของปีงบประมาณ ๒๕๕๒ (เมษายน - กันยายน ๒๕๕๒) กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารและจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๒เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๖๙๑,๑๖๗.๔๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๐.๒๕ ของแผน ฯ


๔.๒ ผลการกู้เงินและบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงินของแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ปีงบประมาณ ๒๕๕๒ รัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๕๙,๗๕๐.๐๐ ล้านบาท


๔.๓ จากการดำเนินการตามข้อ ๔.๑ และ ๔.๒ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๗๕๐,๙๑๗.๔๐ ล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินใหม่ จำนวน ๔๔๓,๑๔๘.๓๗ ล้านบาทและการบริหารหนี้ จำนวน ๓๐๗,๗๖๙.๐๓ ล้านบาท


ทั้งนี้ การกู้เงินและบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจจำนวน ๑๖๘,๗๖๕.๑๘ ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน จำนวน ๕๙,๕๗๕.๑๘ ล้านบาท และไม่ค้ำประกัน จำนวน ๑๐๙,๑๙๐.๐๐ ล้านบาท


๔.๔ เมื่อรวมผลการดำเนินการตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ๒๕๕๒ ในช่วง ๖ เดือนแรก (ตุลาคม ๒๕๕๑ - มีนาคม ๒๕๕๒) และ ๖ เดือนหลัง (เมษายน -กันยายน ๒๕๕๒)



กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผน ฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๑,๑๓๕,๗๙๘.๓๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๒.๕๗ ของแผน ฯและเมื่อรวมกับการกู้เงินและบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงินของแผน ฯ แล้ว ในปีงบประมาณ ๒๕๕๒ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๑,๒๖๕,๒๑๑.๒๗ ล้านบาท



แบ่งเป็นการกู้เงินใหม่ ๘๕๙,๔๒๕.๖๘ ล้านบาท และการบริหารหนี้ ๔๐๕,๗๘๕.๕๙ ล้านบาท ซึ่งผลของการบริหารหนี้ที่ได้ดำเนินการทั้งในส่วนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจนั้น สามารถลดยอดหนี้สาธารณะคงค้างได้ ๔๓,๕๘๘.๒๒ ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้ ๑,๒๐๖.๖๙ ล้านบาท


ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒


นริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: รัฐบาลทักษิณกู้เงินมากกว่ารัฐบาลนี้ ฟันธง!

Postby bangkaa » Sun Nov 29, 2009 11:13 pm

ไม่รู้จัก เป็นหนี้... จะรวยได้อย่างไร....



.... ใคร เคย พูด หว่า......



**********************************************************************

เงินทุนสำรองเราตอนนี้ เป็น 100,000 ล้านเหรียญ
มีหนี้ต่างประเทศ หลัก 10,000 ล้านเหรียญเอง... ไม่มีปัญหาอะไรหรอก
ส่วนใหญ่ กู้ในประเทศ... ก็หมุนตังค์เอากับประชาชน หรือไม่ก็ขายพันธบัตรให้กับ ลุงๆป้าๆ ที่มีตังค์หน่อย...

เรื่อง กู้เงิน ไม่ใช่ปัญหา... ถ้าจำเป็นมันก็ต้องทำ...

แต่ปัญหาโลกแตกก็คือ.... แต่ละโปรเจกต์ ก็พิสดาร... เวอร์.. ไม่คุ้มค่า... หลอกแดรกภาษีประชาชน อีกนี่สิ...
ทำยังไง... จะแก้ได้เสียที พี่น้องงงงงงงงงงงง เอ้ยยยยยยยยยย...
มาทำหน้าที่ ใช้หนี้แผ่นดิน และมาทำบุญ...
User avatar
bangkaa
 
Posts: 1473
Joined: Sun Oct 19, 2008 12:22 am

Re: รัฐบาลทักษิณกู้เงินมากกว่ารัฐบาลนี้ ฟันธง!

Postby Canthai » Sun Nov 29, 2009 11:21 pm

กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการบริหารจัดการหนี้สาธารณะตามกรอบแผน ฯ เป็นจำนวนทั้งสิ้น ๑,๑๓๕,๗๙๘.๓๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๒.๕๗ ของแผน ฯและเมื่อรวมกับการกู้เงินและบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องอยู่ภายใต้กรอบวงเงินของแผน ฯ แล้ว ในปีงบประมาณ ๒๕๕๒ กระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจได้กู้เงินและบริหารหนี้รวมทั้งสิ้น ๑,๒๖๕,๒๑๑.๒๗ ล้านบาท

แบ่งเป็นการกู้เงินใหม่ ๘๕๙,๔๒๕.๖๘ ล้านบาท และการบริหารหนี้ ๔๐๕,๗๘๕.๕๙ ล้านบาท ซึ่งผลของการบริหารหนี้ที่ได้ดำเนินการทั้งในส่วนของรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจนั้น

สามารถลดยอดหนี้สาธารณะคงค้างได้ ๔๓,๕๘๘.๒๒ ล้านบาท และลดภาระดอกเบี้ยได้ ๑,๒๐๖.๖๙ ล้านบาท


ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒


นริศ ชัยสูตร รองปลัดกระทรวงการคลัง
หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: รัฐบาลทักษิณกู้เงินมากกว่ารัฐบาลนี้ ฟันธง!

Postby just in case. » Mon Nov 30, 2009 7:38 am

อืม....เปลี่ยนความคิดคนพวกนี้คงยากครับ
just in case.
 
Posts: 766
Joined: Sat Oct 17, 2009 10:11 am


Return to สภากาแฟ



cron