อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby Obi-Wan » Sat Jul 31, 2010 4:18 pm

mou2543มีแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ซึ่งจัดทำโดยฝรั่งเศสฝ่ายเดียวแล้วทำไมถึงไม่ยกเลิกmou2543

ยอมรับmou2543ก็เท่ากับยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000

ปัจจุบันเขมรเข้ามาสร้างวัดและชุมชนในพื้นที่ที่ไทยเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อนแต่เขมรเรียกว่าพื้นที่ของเขมร

แค่เรียกว่าพื้นที่ทับซ้อนก็แพ้แล้วครับ

ปี2505ศาลโลก ตัดสิน Temple เป็นของเขมร

แต่พื้นที่เป็นของประเทศไทยนะครับ

ถ้าจะสู้กับเขมรก็ต้องยกเลิกmou2543แล้วยึดหลักศาลโลก ปี2505

ผลักดันคนเขมรกลับประเทศเขมรไปซะ
May the force be with you
User avatar
Obi-Wan
 
Posts: 396
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:43 am


Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby noway2know » Sat Jul 31, 2010 5:32 pm

SpeedDeVa wrote:VDO ประกอบกระทู้ครับ
http://www.youtube.com/user/SpeedDeVa#p/u/0/8Ksxplb8EGc



หามาตั้งนาน...หาไม่เจอคลิปนี้....ขออนุญาตินำคลิปนี้โพสต์ด้วย
ขอบคุณนะค่ะ

คลิปนายกอภิสิทธิ์....อภิปรายเรื่องเขาพระวิหาร
สมัยเป็นฝ่ายค้าน...ในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช
รัฐมนตรีต่างประเทศ...นายนพดล ปัทมะ

"นายกอภิสิทธิ์"ครั้งเป็นผู้นำฝ่ายค้าน 24 มิ.ย.51 ขณะอภิปรายรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช กรณีปราสาทพระวิหาร เคยย้ำชัดค้านแผนที่ฝรั่งเศส 1 ต่อ 2 แสน ยึดหลักสันปันน้ำ อ้างอิงคำตัดสินศาลโลกให้เฉพาะตัวปราสาทเป็นของเขมร พื้นที่โดยรอบยังเป็นของเรา

"ฝ่ายไทยทั้งหมด ซึ่งมีทั้งชาวต่างประเทศ และ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ข้อต่อสู้หลักของเราก็คือเราไม่ยอมรับแผนที่ครับ เราบอกแผนที่ประจักษ์ทำกันมาเป็นเรื่องใช้ภายใน ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่เราจะไปใช้เป็นเขตแดนอ้างอิงครับและเราไม่เคยยอมรับความถูกต้องว่าแผนที่ที่ให้ไปทำตามสันปันน้ำมันตรงกับข้อเท็จจริงหรือเปล่า ต่อสู้อย่างนี้ครับ

แต่ที่แพ้คดีมันไม่ใช่เพราะเรื่องทนายครับศาลโลกตัดสินให้แพ้คดีเพราะบอกว่าจะดูว่าประเทศไทยรับแผนที่หรือไม่ ไม่ใช่มาปฏิเสธกันตอนนั้นหรือไม่ครับ แต่ดูจากการกระทำในอดีตของรัฐบาล นับเนื่องมาผมเข้าใจว่าร่วม 50 ปี

นั่นก็คือว่า พอคนเขาทำแผนที่ให้ส่งมาที่รัฐบาลไทย รัฐบาลไทยก็รับเอาไว้ ขอบคุณเขา แล้วไม่ทักท้วง แต่ว่าโชคดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือว่า ศาลโลกไม่เคยตัดสินในเรื่องของเขตแดน แม้จะบอกว่าประเทศไทยยอมรับ ยอมรับแผนที่และเป็นเหตุให้แพ้คดี แต่การตัดสินของศาลโลกมีอยู่ 3 ข้อ ข้อที่ 1 ครับ ข้อที่ 1 ศาลโลกได้ตัดสินว่า ปราสาทพระวิหาร ปราสาทพระวิหาร ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Temple อยู่บนพื้นที่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ข้อที่ 2 ครับ ให้ประเทศไทยถอนกำลัง จะเป็นทหาร ตำรวจ ที่อยู่ในที่ตรงนั้น ออกมา ข้อที่ 3 ที่ศาลตัดสินครับท่านประธาน ก็คือว่า อะไรที่คนไทยได้เอาไปจากตัวปราสาท หรือบริเวณปราสาท ตรงนี้สำคัญนะครับ ปราสาท คือ Temple หรือบริเวณปราสาท ภาษาอังกฤษคือ Temple area ให้ประเทศไทยคืนให้เขาครับ

ท่านประธานสังเกตนะครับ คำว่า บริเวณปราสาท ปรากฏอยู่เฉพาะในคำตัดสินข้อที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องการคืนของ แต่คำตัดสินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอธิปไตย ศาลโลกใช้คำว่า Temple คือ ปราสาท เมื่อเป็นอย่างนี้นะครับ รัฐบาลไทยทำอย่างไร นี่คือหัวใจนะครับ ผมฟังท่านรัฐมนตรีชี้แจงหลายเวทีแล้วครับ ไปบอกว่า พอศาลตัดสินอย่างนั้น เราก็เลยไปกำหนดเขตแดนตามมติคณะรัฐมนตรี 2505 ข้อแรก ท่านไปสนับสนุนการขึ้นทะเบียนของมรดกโลก โดยกัมพูชาเพียงฝ่ายเดียว ในเรื่องของปราสาทพระวิหาร โดยขอบของปราสาทเป็นไปตามแผนที่ในส่วนที่เรียกว่า N1 ก็คือแผนผังที่ผมให้ดูเมื่อกี้นะครับ ที่เขาตีเส้นเป็นตาราง แล้วก็ขณะเดียวกัน ก็จะมีเขตที่เรียกว่า Buffer Zone เพื่อประโยชน์ในการกำหนดเขตอะไรต่อไป ในทางทิศตะวันออกและทิศใต้ของตัวปราสาท

ท่านประธานครับ ถ้ายึดถือว่าตามคำพิพากษาของศาลโลก เฉพาะซากปราสาท ตัวปราสาทนี่เรียกว่าซากปราสาท เป็นของกัมพูชา ท่านตีขอบออกมาอีก ก็คือสละสิทธิ์ตรงนั้นไปอีกแล้ว แล้วก็เป็นการสละสิทธิ์ตามที่รัฐบาลไทยเคยทักท้วง ประท้วงไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2505 นี่ข้อที่ 1

ข้อที่ 2 นะครับ เขาก็เขียนว่า ในสปิริตของความปรารถนาดีและความประนีประนอม กัมพูชาจะยังไม่นำเสนอเขตที่เรียกว่า Buffer Zone ซึ่งจะไปใช้เรื่องเขตอนุรักษ์อะไรต่างๆ ทางทิศเหนือกับทิศตะวันตกของตัวปราสาท ผมถามว่าทิศเหนือกับทิศตะวันตกของตัวปราสาท ท่านรัฐมนตรีว่าเป็นเขตไทยไหมครับ ถ้าเป็นเขตไทย การที่เขายังไม่กำหนด ไม่ใช่ไม่กำหนดนะครับ ยังไม่กำหนดเขตตรงนี้ ทำไมต้องเป็นสปิริตของการประนีประนอม ก็ของเรานี่ครับ แต่จำได้ใช่ไหมครับเวลาเขาบันทึกมาถึงเรา เขาไม่ได้แม้แต่เรียกว่าทับซ้อนนะครับ เขาบอกของเขา แล้วท่านก็ไปเขียนแถลงการณ์ร่วมอย่างนี้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่แค่ตัวขอบปราสาทแล้วนะครับ ปัญหาก็คือว่าการบริหารจัดการพื้นที่ซึ่งไทยถือว่าเป็นของไทยในปัจจุบันตามสันปันน้ำต่อไปนี้ เขามีสิทธิ์เข้ามาร่วมบริหารจัดการ และบริหารจัดการอย่างไร ยูเนสโกคุยกับกัมพูชาครับ ไม่ต้องคุยกับไทย"

รักในหลวง หวงแผ่นดิน
เกลียดเสื้อแดง จะรัฐบาล ม.แม้ว หรือ ม.มาร์ค ก็น่าผิดหวัง เลวพอๆกัน
ไปม๊อบมา ไปก็บอกว่าไป..ไม่ใช่ประเภท....ตุลาคมก็อยู่นะ(โกหก)
http://www.baanpud.net/forum/index.php....http://www.prachathon.org/forum/
User avatar
noway2know
 
Posts: 7750
Joined: Thu May 20, 2010 12:19 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby noway2know » Sat Jul 31, 2010 6:22 pm

'มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์' จะปกป้องแผ่นดินไทย อภิสิทธิ์ต้องเลิก MOU43

Image

ประเด็นที่กำลังร้อนระอุที่สุดในรอบสัปดาห์นี้คงไม่มีเรื่องใดร้อนไปกว่ากรณีที่กัมพูชาจะเสนอแผนบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งมีขึ้นที่ประเทศบราซิล เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนให้กับกัมพูชา จึงเกิดกระแสคัดค้านอยากหนักจากประชาชนไทยทั่วประเทศ

ขณะที่รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่เคยนิ่งเฉยปล่อยให้ทหารกัมพูชารุกล้ำแผนดินไทยมาตลอดก็จำใจต้องลุกขึ้นแสดงท่าทีคัดค้านพร้อมทั้งประกาศว่าหากไทยไม่ได้รับความเป็นธรรม ไทยก็ถอนตัวจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลก รวมทั้งถอนตัวจากภาคีสมาชิกยูเนสโก จนหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นท่าทีที่สายเกินไป

ทั้งนี้ที่ผ่านมาการคัดค้านของภาคประชาชนมีผลมากน้อยเพียงใด รัฐบาลไทยได้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศหรือไม่และหากกัมพูชาประสบความสำเร็จในการเสนอแผนครั้งนี้..ไทยควรจะทำอย่างไร 'ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์' ได้พูดคุยกับ

'มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์' นักวิชาการไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ติดตามและเคลื่อนไหวในเรื่องนี้มาตลอด

**การออกไปชุมนุมของภาคประชาชนที่ยูเนสโกประเทศไทย เป็นการยืนยันชัดเจนว่ามีคนไทยจำนวนไม่น้อยที่คัดค้านการนำประสาทพระวิหารไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและคัดค้านแผนบริหารจัดการพื้นที่ของกัมพูชา

คือก็มีนักข่าวคนหนึ่งเขาไปสัมภาษณ์คุณสุวิทย์ (สุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทยที่เดินทางไปประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประเทศบราซิล) แล้วก็โทร.มาหาดิฉันว่า....อาจารย์ที่อาจารย์บอกว่าจะเอาคนออกมาชุมนุมคัด ค้านแค่ร้อยคนเนี่ย เอาออกมาสักหมื่นคนสิ ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดอะไร วันรุ่งขึ้นมาดูข่าว เห็นหน้าคุณสุวิทย์เหลือสองนิ้ว ก็อืม..คงไม่ไหวจริงๆ คุณจำลอง(พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย) ก็โทร.มาปรึกษาว่าเอาคนออกมาแล้วจะคุ้มไหม เราก็เลยบอกว่า นักข่าวเขาโทร.มาบอกว่าคุณสุวิทย์มองว่าร้อยคนไม่พอ เอาออกมาหมื่นหนึ่งได้ไหม ก็เลยตัดสินใจว่าต้องเอาคนออกมา แล้วดิฉันก็ส่งข้อความไปบอกคุณสุวิทย์ว่า..คอยดูนะวันที่ไปยูเนสโก คนจะออกมาเป็นหมื่น แล้วจงใช้ประโยชน์จากภาคประชาชนเพื่อปกป้องประเทศชาติ

**หลังการออกมาชุมนุมในวันนั้น ตามที่ปรากฏว่าอาจารย์เป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสได้พูดคุยกับนายกฯ เนื้อหาที่พูดคุกันเป็นอย่างไรบ้าง

คือที่เข้าหารือกับท่านนายกฯเพราะ พล.ต.จำลอง โทร.มาแจ้งว่าให้ดิฉันเป็นหนึ่งในตัวแทนเข้าไปคุยกับนายกฯ ตอนนั้นเราก็คิดว่าคงเป็นนิมิตหมายอันดีเพราะกำลังเกิดเรื่องและคนออกมาคัด ค้านเยอะ นายกฯอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) คงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และอยากร่วมมือกับภาคประชาชน แต่พอเข้าไปคุยกันแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เข้าไปแล้วมันเหมือนกับว่าเขาอยากจะบอกว่าฉันชอบอะไร ไม่ชอบอะไร คือไม่ชอบให้ใครมาพูดกับฉันแบบนี้ ดิฉันก็สงสัยว่าเขาอยากได้อะไร ดิฉันก็บอกกับท่านนายกฯว่า จริงๆแล้วประชาชนอยากร่วมมือกับรัฐบาลเพียงแต่เราไม่รู้ยุทธศาสตร์ของรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะมาบอกว่าไอ้อย่างนี้เราไม่ควรออกมา...มันไม่ใช่คือที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยเปิดเผยแผนงานว่าจะดำเนินการอย่างไรกับกรณีเขาพระวิหาร เราก็ดำเนินการไปตามที่เราวิเคราะห์ ถ้ารัฐบาลอ่อนเรื่องนี้ เราต้องเดินอย่างนี้

วันนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ซึ่งก็มีทั้งประเด็นที่นายกฯเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งหน่อมแน้มมาก ในที่สุดเราก็ถามไป 2 ประเด็น คือ 1.ประเด็น MOU43 มันหมายถึงอะไร และเราจะยกเลิกได้อย่างไร 2.ประเด็นเรื่องศาลโลก ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นนี้เรากับนายกฯเห็นไม่ตรงกัน

**เห็นไม่ตรงกันตรงไหน

คือประเด็นแรกเราขอให้ยกเลิก MOU43 (บันทึกข้อตกลงระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ลงนามในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย) เพื่อเป็นการแก้ปัญหาทั้งหมด เพราะไม่เช่นนั้นถ้ายังมีการอ้าง MOU ตัวนี้ กัมพูชาก็ล้ำแดนเราได้

นายกฯก็ไม่เห็นด้วย บอกว่า MOU43 มีข้อดี
ข้อดีประการที่1
มันเป็นการยืนยันว่ากัมพูชายอมรับว่าตรงนั้นเป็นพื้นที่พิพาทระหว่าง ไทย-กัมพูชา แต่โดยหลักการแล้ว MOU43 มันยึดแผนที่ที่ใช้อัตราส่วนพื้นที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งกัมพูชาเขาก็ใช้อัตราส่วน 1 ต่่อ 200,000 แล้วอย่างนั้นตรงไหนเป็นพื้นที่พิพาท


แต่ถ้าเราใช้สันปันน้ำเป็นแนวแบ่งเขตพื้นที่ระหว่างประเทศ ซึ่งยึดแผนที่ที่ใช้อัตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ขณะที่กัมพูชาใช้แผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 มันก็จะมีพื้นที่ที่กัมพูชาล้ำเข้ามา ซึ่งตรงนี้จึงจะเรียกว่าพื้นที่พิพาท นอกจากนั้นถ้าบอกว่าเป็นพื้นที่พิพาท พื้นที่ตรงนี้ก็ต้องไม่เป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งทางกัมพูชาก็ต้องยอมรับด้วยว่ามันเป็นพื้นที่พิพาท แต่เขาไม่ยอมรับเขาอ้างว่าเป็นของกัมพูชาแล้วถามว่าทำไมนายกฯอภิสิทธิ์จึงไม่บอกว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของไทย เพราะถ้าบอกว่าเป็นของไทยก็แปลว่า MOU43 ที่ไทยทำกับกัมพูชาในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ก็ใช้ไม่ได้สิ

ข้อดีประการที่ 2
นายกฯบอกว่า ข้อ 5 ใน MOU43 ระบุว่าทั้ง 2 ประเทศไม่สามารถทำอะไรก็ตามที่ถือว่าเป็นการทำลายหรือก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในอาณาบริเวณตรงนี้ได้ เพราะมันเป็นอาณาบริเวณที่จะต้องมีการจัดทำหลักเขตแดนเนื่องจากยังไม่ชัดเจนว่าตรงไหนเป็นของใคร
แต่ในความเป็นจริงแล้วพื้นที่ตรงนี้กัมพูชาได้เข้ามาสร้างวัด ทำถนน สร้างตลาด สร้างชุมชน และเอาคนของเขาเข้ามาอยู่นานแล้ว สิ่งเหล่านี้เขาทำมาร่วมสิบปีแล้ว ขณะที่ไทยประท้วงไปเขาก็ไม่ถอนคนและสิ่งก่อสร้างออกจากพื้นที่ แสดงว่ากัมพูชาไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดใน MOU ดังนั้นเราจึงไม่เห็นด้วยกับนายกฯ เพราะมันมีแต่ข้อเสีย จะเห็นได้ว่าปัจจุบันไทยไม่สามารถยืนยันอธิปไตยในพื้นที่ตรงนี้ได้เลย ไม่ใช่บอกว่าเขาเข้ามาเราก็มีทหารยืนกันแต่ทหารเราจะใช้วิธีแสดงสัญลักษณ์ด้วยการไปปรากฏกายอยู่ที่วัดซึ่งกัมพูชาเข้ามาสร้างในพื้นที่ประเทศไทย แต่ปรากฏว่าเมื่อไม่กี่วันมานี้เขมรก็เอาทหารเข้ามาแล้ว เอาพระมาทำพิธี เพื่อตรึงกำลังตรงวัด เท่ากับเป็นการทำลายสัญลักษณ์ของเราแล้ว ต่อไปนี้ถามว่าทหารไทยจะขึ้นไปแสดงตัวตรงนั้นได้หรือไม่


ประเด็นที่สองเรื่องศาลโลกท่านนายกฯเห็นว่าถ้าเราคัดค้านการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้วทางกัมพูชาเอาเรื่องขึ้นศาลโลกแล้วขยายผลไทยจะเสียเปรียบ ซึ่งเราก็เถียงว่าไม่เห็นจำเป็นจะต้องขึ้นศาลโลกเลยเพราะประเทศไทยเรามีอธิปไตยตรงนี้สำคัญ คุณรู้จักคำว่าอธิปไตยไหม ถ้ารู้จักอธิปไตยจะรู้ว่าเราไม่ต้องยอม องค์กรที่ 3 ก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งเรา ศาลโลกเนี่ยถือว่าองค์กรที่ 3 เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะมาบังคับเพราะประเทศเรามีอธิปไตย

**ตามหลักการแล้วไทยสามารถยกเลิก MOU43 ได้ใช่ไหม

ทำไมจะยกเลิกไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญของไทยระบุว่าเรื่องใดที่เป็นข้อ ตกลงระหว่างประเทศ รัฐบาลต้องนำเข้าหารือต่อที่ประชุมสภา แต่การทำ MOU43 ระหว่างไทย-กัมพูชา รัฐบาลขณะนั้นไม่ได้นำเข้าสภา ไอ้ที่เข้าสภามันเป็นแค่เอกสารประกอบในเรื่องของกรอบการเจรจา ส่วนตัวที่เป็นสนธิสัญญาไม่ได้ผ่านสภา ดังนั้นจึงถือว่ามันเป็นโมฆะต้องแต่ต้น เราบอกเลยว่าทำไมรัฐบาลไม่ใช้อนุสัญญาเวียนนาให้เป็นประโยชน์ เพราะตามอนุสัญญากรุงเวียนนาข้อ 46 ระบุว่า โดยปกติแล้ว รัฐต่างๆ เมื่อไปลงนามในหนังสือสัญญาใดๆไม่สามารถอ้างเหตุของการทำผิดกฎหมายภายใน ประเทศไปลบล้างข้อผูกมัดได้ ยกเว้นว่าการละเมิดกฎหมายดังกล่าวนั้นเป็นการละเมิดกฎหมายที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญก็ถือว่าเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ดังนั้นรัฐบาลสามารถยกเลิก MOU43 ได้

**บรรยากาศการหารือกับนายกฯ ในวันนั้นเป็นอย่างไร

เรารู้สึกเหมือนถูกรุมนะ เพราะฝ่ายรัฐบาลมีทั้งคุณกษิต (นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ) คุณชวนนท์ (นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุด เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ) คุณศิริโชค (นายศิริโชค โสภา เลขานุการส่วนตัวนายกรัฐมนตรี) เขาก็คอยค้านความเห็นเรา แต่คุณกษิตแกไม่ค่อยพูดหรอก คิดว่าแกอาจเข้าข้างเราด้วยซ้ำ แต่บางทีมีความจำเป็นต้องบอกว่านโยบายรัฐบาลเป็นอย่างนี้..อย่างนี้... แต่ถ้าไม่พูดเรื่องนโยบายรัฐบาลดิฉันว่าคุณกษิตต้องเห็นด้วยกับเรา ส่วนท่านนายกฯพูดไปก็ทุบโต๊ะไปตลอดเวลาเลย เราก็บอกว่าเอาอย่างนี้ไหมท่านนายกฯ...เราก็มีนักวิชาการของเรา ท่านก็มีผู้เชี่ยวชาญของท่าน มีกองงานของกระทรวงการต่างประเทศที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ เรามาจัดการความรู้กันไหม จัดประชุมและก็ถกเถียงกันเลยว่าในที่สุดแล้วจะเอาแบบไหนยังไง นายกฯก็บ่ายเบี่ยง คุณกษิตก็บอกว่าถ้าอยากประชุมเดี๋ยวผมจัดให้ได้ แต่เราบอกว่ามันไม่ใช่ความหมายของการจัดเวที แต่หมายถึงว่าเรามาดีเบตกัน แลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างฝ่ายที่คัดค้านกับฝ่ายรัฐบาลซึ่งยังมีความเห็น ไม่ตรงกันอยู่ แต่มันต้องมีข้อสรุปที่นำไปสู่การปฏิบัติ

นายกฯก็บอกว่าบางทีมันเป็นเรื่องของความมั่นคง เราก็บอกว่าท่านนายกฯไว้ใจใครก็ส่งคนนั้นมาคุยแล้วกัน เดี๋ยวเราจัดทำข้อมูลให้แต่เขาไม่ได้สนใจทำให้เรารู้เลยว่าการเรียกเราไปคุยครั้งนี้เขาไม่ได้อยากขอความร่วมมือจากเรา และทำงานร่วมกันไม่ได้ จริงๆเขาน่าจะชมว่าเฮ้ย...ประชาชนออกมาขนาดนี้ ภาคประชาชนเนี่ยเป็นตัวช่วยเลยนะ แต่เขากลับไม่เห็นความสำคัญของภาคประชาชนเลย เราก็เลยมองว่าถ้าอย่างนั้นเราก็เดินไปตามทางของเรา ทำไมต้องมาพยายามประสานขอความร่วมมือจากรัฐบาลเพราะรัฐบาลไม่ได้ต้องการเราสักนิด

**แปลว่าท่าทีของคุณอภิสิทธิ์เปลี่ยนไปจากเมื่อครั้งเป็น ฝ่ายค้าน ซึ่งลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสมัคร (สุนทรเวช) กรณีเขาพระวิหาร

ใช่ค่ะ เปลี่ยนไปมาก ตอนเป็นฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ก็ส่งคนมาขอข้อมูลเรื่องเขาพระวิหาร เราก็นั่งคุยกันอะไรกัน พอคุณอภิสิทธิ์อภิปรายเสร็จก็โทร.มาหาดิฉัน บอกว่า..ขอบคุณครับ เราก็เออ...ดีใจว่าเราทำข้อมูลและพิสูจน์ข้อมูลตรงนี้แล้วมีคนเอาไปใช้ ประโยชน์ แล้วที่ผ่านมาหลังจากนั้นมีอะไรคุณอภิสิทธิ์ก็จะส่งข้อความมาตลอด กระทั่งเป็นนายกฯก็ยังประสานกันตลอด กฎหมายบางฉบับเราไม่อยากให้เอาเข้าสภาเราก็ส่งข้อความไปบอก นายกฯก็โทร.กลับมาถามว่า...มีอะไรครับ คือนายกฯก็เหมือนกับเพื่อนนักวิชาการที่พูดกันรู้เรื่อง จนกระทั่งมีการพูดเรื่องเสียดินแดน ท่าทีของคุณอภิสิทธิ์ก็เปลี่ยนไป ตอนเป็นฝ่ายค้านเขาบอกว่าต้องยกเลิกแถลงร่วมระหว่างไทย-กัมพูชาในการขึ้น ทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่จนถึงปัจจุบันรัฐบาลนี้ก็ยังไม่ได้มีการยกเลิกเลย

**ที่ผ่านมาตั้งแต่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ รัฐบาลได้มีมติหรือท่าทีอะไรเกี่ยวกับพระวิหารบ้าง

คือพอรัฐบาลสมชาย (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) ได้ผ่านกรอบการเจรจา เมื่อ 8 ต.ค.2551 ต่อมา 6 เม.ย.2552 ได้เกิดร่างข้อตกลงชั่วคราวระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งในรายงานครั้งที่ 33 ของคณะกรรมการมรดกโลกระบุว่ามาดามฟรองซัวร์ ( มาดามฟรองซัวร์ ริวิริแยร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก) ซึ่งเป็นตัวแทนของยูเนสโกได้แนะนำว่าไทยและกัมพูชาต้องตกลงกันเสีย ให้เกิดสันติ และควรต้องมีข้อตกลงร่วมกันขึ้นมา เพื่อที่จะนำสิ่งเหล่านี้ไปประกอบในการพิจารณาขอขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก

จากคำแนะนำตรงนี้ต่อมามันก็เกิดข้อตกลงชั่วคราว 6 เม.ย.2552 ทหารของกัมพูชาที่เข้ามาตรึงกำลังในพื้นที่ประเทศไทยก็แปลงร่างเป็นชุด ติดตามสถานการณ์ชั่วคราว เพราะอยู่ในฐานะทหารที่เข้าตรึงกำลังก็อาจจะถูกมองว่าไทยกับกัมพูชาไม่มี สันติ ซึ่งยูเนสโกทำเพื่อปกป้องตัวเอง และทำให้เห็นว่าพื้นที่ตรงนี้ไม่มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งใดๆ ซึ่งเป็นการสร้างมายาภาพว่ามีสันติ แต่ทำไมรัฐบาลไทยไม่ฉลาดพอที่จะจับประเด็นว่าจริงๆแล้วยูเนสโกแคร์ประเด็นเรื่องภายในประเทศ

ดังนั้นประเด็นที่รัฐบาลอภิสิทธิ์บอกว่าถ้าเราคัดค้านโดยเอาคำสั่งศาลซึ่ง ระงับแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูา ที่สนับสนุนให้มีการจดทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชาแต่เพียง ฝ่ายเดียวมาแสดงไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องภายในประเทศ ยูเนสโกเขาไม่ฟังหรอก ซึ่งดิฉันว่าไม่ใช่และตรงนี้มันไม่ใช่เรื่องภายในประเทศเสียทีเดียวเพราะมันเกี่ยวข้องกับอาณาเขตระหว่างไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนมรดกโลก ซึ่งมันสามารถเอาไปเป็นข้อโต้แย้งได้ แม้แต่ในข้อตกลงชั่วคราวในข้อ 8 ก็ระบุว่าประเทศภาคีต้องดำเนินการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการกฎหมายภายในของตน

**ดูแล้วรัฐบาลไม่ฉลาด ไม่รู้เรื่อง หรือว่ามีผลประโยชน์อะไรแอบแฝงหรือเปล่าถึงได้ทำแบบนี้

คือทุกอย่างรัฐบาลยอมจำนนหมดไงคะ พอเราอธิบายอะไรไปรัฐบาลก็จะบอกว่าต่างประเทศไม่เข้าใจหรอก มันต้องอธิบายบรรยายกันยาว ก็แล้วทำไมคุณต้องมาทำวันนี้ล่ะ เป็นรัฐบาลมาตั้งเป็นปีๆทำไมไม่พยายามอธิบาย ถ้ารักประเทศชาติ แล้วรู้ว่ากำลังจะสูญเสียแผ่นดินไป เราต้องพยายามปกป้องใช่ไหม มีคนบอกดิฉันว่าเขมรมันฉลาดมากนะ จริงๆ แล้วเขมรไม่จำเป็นต้องฉลาดเลยเพราะรัฐบาลไทยไม่ทำอะไรเลย

คือถ้าเราเชื่อว่านายกฯไม่โกง พรรคประชาธิปัตย์ไม่โกง ก็ต้องไปยอมรับว่า กระทรวงต่างประเทศไม่รู้เรื่องอะไรเลยแต่จะเป็นไปได้ไหม จริงอยู่คุณอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองที่ซื่อสัตย์แต่ไม่ใช่ว่ารัฐบาลนี้มีคุณอภิสิทธิ์คนเดียว ยังมีนักการเมืองอีกตั้งเยอะแยะเขาเล่นกันคนละหน้า ถามว่าสุเทพ (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง)ไปทำอะไรกับใครหรือเปล่า

พูดถึงเรื่องนี้ ดิฉันก็แปลกใจว่าทำไมสุรเกียรติ์ถึงมาเปิดตัวในช่วงนี้บ่อยครั้ง มาให้สัมภาษณ์นักข่าวบางสำนักว่า MOU43 มีประโยชน์ เพราะอะไร? เพราะ MOU44 มันรับรอง MOU43 ในเมื่อสุรเกียรติ์ทำ MOU44 ในสมัยรัฐบาลทักษิณ แล้วจะมาบอกว่า MOU43 ที่ทำในสมัยรัฐบาลชวนไม่ดีได้ยังไง นอกจากนั้น นพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาลทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ลงนามร่วมกับกัมพูชาในการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนประสาท พระวิหารเป็นมรดกโลก ยังเคยเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และเป็นที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายในสมัยรัฐบาลชวน วศิน ธีรเวชญาณ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฏหมาย ในสมัยรัฐบาลชวน เขาก็ทำวิทยานิพนธ์เรื่องทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทย และปัจจุบันคุณวศินก็เป็นประธานเจบีซี (ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา) ฝ่ายไทย

**การยื่นแผนพัฒนาพื้นที่ฯ ครั้งนี้ทางกัมพูชาก็ใช้แผนที่ในอัตราส่วนพื้นที่ 1 ต่อ 200,000 ?

ใช่ คือกัมพูชารู้ดีว่าในทางพฤตินัยกระบวนการจัดทำพื้นที่ของเรานั้นถ้าภาคประชาชนไม่ออกมาคัดค้าน วันนี้มันเสร็จแล้วและมีแผนที่ประเทศไทยใหม่ รุ่นลูกรุ่นหลานเราใช้แผนที่ประเทศไทยอันเดิมไม่ได้แล้ว

ที่ผ่านมามันก็มีนักวิชาการฝ่ายไทยไปให้การสนับสนุนแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ในช่วงรัฐบาลสมัคร ขณะที่เครือข่ายภาคประชาชนออกมาคัดค้านว่าไทยไม่ควรยอมรับแผนที่ 1 ต่อ 200,000 แต่คุณวศิน (ปัจจุบันเป็นประธานเจบีซี ฝ่ายไทย ) กลับให้สัมภาษณ์ว่าเราควรใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งประเด็นนี้ ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล ผู้เชี่ยวชายด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ท่านก็ค้านว่าเราต้องยึดคำพิพากษาของศาล ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำพิพากษาที่ 23 และ 24 /2551 และคำพิพากษาของศาลปกครองเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 52 ที่ระบุว่าใครจะไปกำหนดเขตแดนที่ไม่เป็นคุณต่อประเทศจะกระทำไม่ได้ และถือว่าเป็นการละเมิดศาล

**ที่ผ่านมาท่าทีของยูเนสโกเข้าข้างกัมพูชามาตลอดเป็นเพราะคณะกรรมการในยูเนสโกได้ประโยชน์ทางธุรกิจอะไรจากกัมพูชาหรือเปล่า


ยังไงฝรั่งเศสเขาก็ต้องถือว่ากัมพูชาเคยเป็นประเทศอาณานิคมของเขา นอกจากนั้นฝรั่งเศสก็มีผลประโยชน์เรื่องธุรกิจน้ำมันและธุรกิจท่องเที่ยวใน กัมพูชา ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนว่าที่ผ่านมา มาดามฟรองซัวร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายวัฒนธรรมของยูเนสโก มักจะเข้ามาแนะนำให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาทำอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งมันขัดต่อความเป็นจริง

**ตอนนี้รัฐบาลไทยก็ประกาศว่าจะคัดค้าน และจะตอบโต้อย่างเต็มที่

เราก็ต้องรอดูว่าประกาศอกมาแล้ว จะทำไหม ในสมัยนพดล ปัทมะ เป็น รมว.ต่างประเทศ ก็บอกว่าจะคัดค้านกัมพูชา กัมพูชาขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียวไม่ได้ ไทยต้องขึ้นทะเบียนร่วมด้วย แต่พอเอาเข้าจริงกลับไปสนับสนุนกัมพูชา โดยเอาอุทยานแห่งชาติของไทยเข้าไปร่วมขึ้นทะเบียนด้วย ซึ่งส่งผลให้จากเดิมที่เราจะสูญเสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,000 ไร่ แต่ตามโมเดลใหม่นี้ทำให้ไทยต้องเสียดินแดนเพิ่มขึ้นอีก 1.5 ล้านไร่ ดังนั้นเมื่อนายกฯอภิสิทธิ์บอกว่าเราคัดค้านและไม่ต้องการให้เสียดินแดนก็ต้องถามต่อว่าแล้วขั้นต่อไปคืออะไร

ที่ผ่านมามีข้อเสนอว่าเราน่าจะเอาพื้นที่ป่าเขาลำเนาไพร่ที่อยู่ใน อีก 3 จังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมพัฒนาด้วย ซึ่งคนที่ไม่รู้อาจจะมองว่าดี เขาจะมาช่วยพัฒนาพื้นที่ให้ แต่จริงๆแล้วถ้าขึ้นร่วมแบบนี้พื้นที่ซึ่งเป็นของคนไทยและคนไทยอาศัยทำมาหา กินได้รับผลกระทบแน่เพราะคนที่เคยอยู่อาศัยหรือทำมาหากินในบริเวณนี้ต้อง ย้ายออกทันที ตอนที่หารือกับนายกฯ ท่านก็บอกว่าถ้าขึ้นทะเบียนร่วมแบบนี้ไทยไม่เสียดินแดนแน่ เราก็ถามกลับไปว่าพื้นที่ตรงนี้เรายังมีโฉนดเป็นของประเทศไทยหรือเปล่า หรือต้องไปใช้โฉนดของเขา นายกฯก็อึ้งเลย ตอบไม่ได้ แล้วนายกฯ ก็คิดว่าถ้าขึ้นร่วมแบบนี้ประชาชนคนไทยก็คงไม่รู้หรอกว่าเปลี่ยนแปลงดินแดนตามแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ตามที่กัมพูชาเสนอแล้ว เพราะหลังจากขึ้นทะเบียนมรดกโลก ประชาชนจะเข้าไปในพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้เลย

แล้วก็ต้องถามต่อว่าถ้าเป็นเช่นนั้นรัฐบาลได้เตรียมมาตรการไว้รองรับ หรือให้การช่วยเหลือประชาชนที่เคยอาศัยทำกินในพื้นที่แถบนี้ซึ่งต้องย้ายออก หลังขึ้นทะเบียนแล้วหรือยัง ที่ผ่านมามีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบจากการรุกไล่ยึดพื้นที่ของฝ่ายกัมพูชาแล้ว จนกระทั่งชาวบ้านกลุ่มหนึ่งบอกว่าไม่ไหวแล้ว ชาวบ้านก็กลับเข้าไปใหม่เพราะไม่มีที่ทำกิน ซึ่งที่บางแห่งก็มีเจ้าของ จากเดิมเขามีที่ร้อยกว่าไร่ ถูกกัมพูชาบุกรุกจนเหลือไร่เดียว จนเกิดเป็นเครือข่ายทวงคืนแผ่นดินแม่ขึ้นมา

**แล้วประเทศไทยควรทำอย่างไร

ไทยจะควรขอถอนตัวจากการเป็นภาคีสมาชิกยูเนสโก ซึ่งยูเนสโกเป็นองค์กรที่ไม่ได้มีอำนาจจะไปบังคับประเทศใดได้ และการถอนตัวไม่ได้ทำให้เราได้รับผลกระทบอะไร ที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดเจนว่าคณะกรรมการในยูเนสโกมีผลประโยชน์แอบแฝงตลอดแม้แต่แผนการอนุรักษ์ที่บอกว่ามันมีมาตรฐานอย่างนั้นอย่างนี้ ยูเนสโกก็เป็นคนกำหนดเองทั้งหมด แล้วก็เอาประเทศต่างๆ เข้ามาร่วมพัฒนา ซึ่งประเทศเหล่านี้ต่างก็มีธุรกิจแอบแฝงกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นตรงนี้มันคือรูปแบบของอาณานิคมสมัยใหม่ ซึ่งนานาประเทศต้องลุกขึ้นมาต่อต้าน

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9530000105503

รักในหลวง หวงแผ่นดิน
เกลียดเสื้อแดง จะรัฐบาล ม.แม้ว หรือ ม.มาร์ค ก็น่าผิดหวัง เลวพอๆกัน
ไปม๊อบมา ไปก็บอกว่าไป..ไม่ใช่ประเภท....ตุลาคมก็อยู่นะ(โกหก)
http://www.baanpud.net/forum/index.php....http://www.prachathon.org/forum/
User avatar
noway2know
 
Posts: 7750
Joined: Thu May 20, 2010 12:19 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby bbiggy » Sat Jul 31, 2010 8:45 pm

รู้สึกว่า มันจะมีปัญหาที่ตาเมือนธมนะครับ
อันนั้น ใช้สันปันน้ำไม่ได้เยแหละ เพราะมันอยู่ในที่ราบ
พระวิหาร ยังพออ้างได้ แต่ตรงนั้น หลุดแน่ ถ้าไปอ้างเรื่องสันปันน้ำ
ดังนั้น ต้องดู เป็น case by case ใช้หลักการเดียวเหมาหมดไม่ได้
User avatar
bbiggy
 
Posts: 186
Joined: Sun Apr 11, 2010 6:17 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby Canthai » Sat Jul 31, 2010 9:05 pm

ตาเมือนทม เป็นเรื่องการเคลื่อนย้ายหลักเขตครับ
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby zereza » Sun Aug 01, 2010 1:09 am

เท่าที่ตามข้อมูลมาพบว่า MOU ปี 43 มีสถานะเป็นกลางกับทั้งสองฝ่ายมากกว่านะครับคือแต่ละประเทศมีข้อได้เปรียบทั้งคู่ แต่เป็นข้อได้เปรียบที่ต้องอาศัยการเจรจาจึงจะสรุปได้ ดังนั้น MOU ปี 43 จึงไม่ใช่ข้อสรุปใดๆ ณ ตอนนี้ สาระสำคัญที่ไทยได้เปรียบก็คือ พื้นที่บริเวณเขาพระวิหารยังไม่ได้มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน(การแบ่งต้องใช้หลักสากลคือสันปันน้ำ)ดังนั้นการจัดการพื้นที่บริเวณนั้นจึงควรจะต้องทำภายหลังที่มีการตกลงปักปันเขตแดนเสร็จสิ้นแล้ว(ซึ่งตอนนี้ยังดำเนินการไปได้แค่ครึ่งทาง) ส่วนสาระสำคัญที่เขมรได้เปรียบก็คือเขาได้อ้างอิงแผนที่ 1:200000 ซึ่งขีดลึกเข้ามาภายในประเทศไทยโดยที่ไม่ได้มีหลักใดๆ ทำให้ MOU ฉบับนี้เป็นการบังคับกลายๆว่าทั้งสองประเทศจำเป็นต้องอาศัยการเจรจาเพื่อหาข้อยุติเรื่องเขตแดนก่อนจะดำเนินการใดๆต่อปราสาทพระวิหาร แต่ปัญหามันเกิดขึ้นตอนที่รัฐมนโทของเราดันไปเซ็นยกให้เค้าทั้งๆที่การเจรจาเรื่องเขตแดนยังไม่เสร็จสิ้น(ตรงนี้ศาลปกครองสั่งยกเลิกไปแล้ว) ทำให้เขมรอาศัยจุดนี้อ้างว่าพื้นที่นั้นเป็นของเขาแล้วนำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก ถ้าว่าตามจริงแล้วที่เขมรทำนั้นถือว่าข้ามขั้นตอน ดังนั้นนายกจึงบอกว่า MOU ปี 43 จึงยังยกเลิกไม่ได้เพื่อจะใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงว่าเขมรกระทำการข้ามขั้นตอน เพราะถ้ายกเลิกจะทำให้เขมรใช้สิทธิ์อ้างอิงแผนที่ 1:200000 ได้เต็มที่ และมันจะทำให้ซ้ำรอยเดิมสมัยที่แพ้คดีในศาลโลกครับ

จากตรงนี้การที่บอกว่าเราเสียดินแดนไปแล้วผมคิดว่ายังไม่ถึงจุดนั้น แต่ที่รับไม่ได้มากกว่าก็คือสุนัขบางตัวที่ป่าวประกาศว่าประเทศไทยเป็นอันธพาลจะไปแย่งของเขาครับ :evil: :evil: :evil:
Last edited by zereza on Sun Aug 01, 2010 1:49 am, edited 1 time in total.
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby finder » Sun Aug 01, 2010 1:41 am

finder wrote:

ก็หลักฐานมันชัดตั้งแต่2505

อ่านข้อความข้างล่าง แล้วคิดตามครับ


lc537 wrote:ผมคิดแบบง่ายๆเลย ไม่ต้องใช้หลักฐานอะไรให้วุ่นวาย

สิ่งที่เขมรได้ตามศาลโลกมีแค่ตัวปราสาท

พื้นที่ที่เหลือแม้แต่บันไดทางขึ้นก็ยังเป็นของไทย

แต่ทำไมตอนนี้อยู่ในความดูแลของเขมรไปแล้วทั้งหมด



จากคำตัดสินของศาลโลก ให้เขมรได้สิทธิ์ตัวปราสาท
แต่พื้นที่โดยรอบยังเป็นของไทยแม้แต่บันไดทางขึ้น ตามที่จอมพลสฤษดิ์เอารั้ว
ไปกั้นไว้ และไทยได้ขอสงวนสิทธิ์ตามกฎของศาลโลกว่าถ้าวันหนึ่งข้างหน้า
ไทยมีหลักฐานเพิ่มเติมก็จะขอนำมาใช้อ้างสิทธิ์ได้อีก

จากผลการยื่นของไทยดังกล่าว ทำให้ไทยยังสามารถอ้างสิทธิ์ในตัวปราสาทได้อีก เท่ากับว่า

ตัวปราสาทคือพื้นที่ทับซ้อน

เพราะอ้างสิทธิ์โดยสองประเทศ ส่วนพื้นที่รอบๆเป็นของไทย100% ไม่มีพื้นที่ทับซ้อนอื่นใดอีก

ไทยจึงมีสิทธิ์เด็ดขาดในพื้นที่ดังกล่าว

ด้วยเหตุดังกล่าว หลังจากมีMOU2543แล้ว ทำไมจึงมีพื้นที่ทับซ้อนอื่นๆและพื้นที่พิพาทเพิ่มขึ้นมาได้ ถ้าไม่ใช่มีสาเหตุจากการไปทำสัญญากับเขมร โดยอ้างMOU2543ฉบับนี้

การทำอะไรก็ตามย่อมมีทั้งดีและเสีย การอ้างข้อดีที่มีน้อยมาก จนคนทั่วไปมองไม่เห็นและเขมรก็ไม่ปฏิบัติตาม มันจะมีประโยชน์อะไรครับ ในขณะที่ข้อเสียที่มีอยู่ มีมากจนไม่คุ็้มกับข้อดีที่จะได้
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby Canthai » Sun Aug 01, 2010 2:31 am

“สุเทพ”หวัง 1 ปีเจรจาเขตแดนลงตัว

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลก องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหปะชาชาติ (ยูเนสโก) ซึ่งประชุมกันที่ประเทศบราซิลมีมติให้เลื่อนการพิจรณาแผนการบริหารจัดการ พื้นที่ปราสาทเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลกของกัมพูชาออกไปเป็นปี 2554 ว่า สถานการณ์ที่ชายแดนไม่น่ากังวล อย่าไปตระหนกตกใจกับข่าวที่ออกมา โดยจะต้องมองเพื่อนบ้านในแง่ดีเอาไว้ก่อน เมื่อคนไทยมีเจตจำนงที่ชัดเจนว่าต้องการอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างสันติ อย่างคนที่มีมิตรไมตรีต่อกัน ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านคงมองท่าทีของประเทศไทยออก

"ส่วนเรื่องขัดใจอื่นๆ ต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่าสันติวิธี ต้อง เจรจากัน กรณีที่คณะกรรมมรดกโลกมีมติให้เลื่อนการพิจารณาแผนการบริหารจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารถือว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้ไทยและกัมพูชาได้รีบเจรจากัน เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเขตแดนให้ลงตัวในช่วงเวลาระหว่าง1 ปีนี้"นายสุเทพกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าระยะเวลา 1 ปีจะแก้ไขปัญหาเรื่องเขตแดนให้ชัดเจนได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ เพราะมีคณะกรรมการที่ว่าด้วยการปักปันเขตแดนอยู่ ซึ่งทั้งสองฝ่ายต้องช่วยกันทำงานและหาข้อสรุปทางออกด้วยความสันติวิธีให้ได้

"จุดยืนของรัฐบาลไทยคือ รักษาอำนาจอธิปไตย และกรณีที่มีความขัดแย้งต้องแก้ไขกันด้วยการพูดคุยอย่างสันติวิธีกับทุกระดับตั้งแต่รัฐบาลลงมาจนถึงคณะกรรมการชุดต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณชายแดน"นายสุเทพกล่าว

ติงอย่าเอาปัญหาชาติเป็นของเล่น

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง เพราะล่าสุดมีคนไทยกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันเดินขึ้นปราสาทพระวิหารเพื่อประท้วงกัมพูชาอีกแล้ว นายสุเทพกล่าวว่า “บ้านเมืองเราน่ากลุ้มใจ อะไรก็เอาเป็นปัญหาการเมืองไปหมด ต้องแยกแยะว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เรื่องของประเทศไทย เป็นเรื่องของชาติทั้งชาติ เราอย่าเอามาเป็นของเล่น”

เมื่อถามว่า ขณะนี้ชาวกัมพูชากลุ่มหนึ่งได้อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่พิพาทแล้ว รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า คนที่มีหน้าที่ก็แก้ไขกันอยู่ จะต้องรวบรวมทุกกรณีทุกประเด็นและนำมาพูดคุยให้ครบถ้วนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เคยมีข้อตกลงกันอย่างไร ยืนยันว่าจะรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าวให้เรียบร้อย

"มาร์ค" ขอบคุณกองเชียร์

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนจำนวนมากที่ได้แสดงออกถึงความรักหวงแหนอธิปไตยและผืนแผ่นดิน อย่างไรก้ตามเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่ากัมพูชามีความมุ่งมั่นในการที่จะเดินหน้า เรื่องจัดส่งแผนบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร

“ก็ชัดเจนขึ้นว่าเขาไม่สามารถใช้แผนที่ที่เรามีปัญหาประกอบการพิจารณาได้ จนกว่าจะดำเนินการเรื่องหลักเขตแดน หมายความว่าข้อตกลงปี 2543 (เอ็โอยู) เป็นข้อจำกัดไม่ให้ดำเนินการใช้แผนที่อ้างอิงได้ ที่ผ่านมาเรามีความกังวลไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการดำเนินการมักจะมีการรวบรัด เช่น การส่งเอกสารกระทันหัน การมองข้ามความละเอียดอ่อนเรื่องอธิปไตยซึ่งครั้งนี้เราได้แสดงออกอย่างค่อนข้างชัดเจน ทั้งในส่วนรัฐบาลและประชาชน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า โดยในเวลา 1 ปีจะสามารถนำเอกสารที่ทางกัมพูชายื่นเข้ามาศึกษาได้โดยละเอียดเพื่อจะได้ให้ความเห็นครบถ้วนรอบด้านกับกรรมการมรดกโลก จะไม่เหมือนกับที่ผ่านมาว่าจะต้องไปต่อสู้อภิปรายกันโดยไม่มีเวลาเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆเลย ดังนั้นอีก 1 ปีข้างหน้าทุกหน่วยงานจะต้องพร้อมในการจะศึกษาข้อเสนอต่างๆของทางกัมพูชา โดยต้องทำให้ดีที่สุด

เมื่อถามว่า แนวทางที่จะบริหารจัดการร่วมกันเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนจะมีเรื่องมรดกโลกมีการเปิดให้ประชาชนทั้งสองฝั่งสามารถไปเที่ยวได้ สองฝ่ายช่วยกันดูแลตัวปราสาทกับพื้นที่ที่เกี่ยวข้องได้ เป็นประโยช์กับคนในพื้นที่เอง และไม่กระทบกับเรื่องสิทธิอธิปไตยของไทย หากดำเนินการตามนั้นได้จะเป็นผลดี

“องอาจ”เตือน"พธม."ให้ระวัง

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติการประชุมที่ออกมาให้เลื่อนพิจารณาการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกไม่ได้เกิดขึ้นได้ภายในวันสองวันที่มีการประชุม แต่เกิดขึ้นจากการทำงานในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาพอสมควร เพราะฉะนั้น ในส่วนของรัฐบาลดำเนินการอย่างรอบคอบ และหวังให้เกิดผลสำเร็จอย่างแท้จริง ทั้งนี้จึงไม่ได้เป็นการดำเนินการที่ล่าช้าไปกว่าระยะเวลาที่ควรจะเป็น

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงเรื่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) ที่เตรียมจะเคลื่อนไหวไปยังพื้นที่เขาพระวิหารหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวในกรอบของกฎหมายเป็นสิทธิของพลเมืองไทยที่สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่การเคลื่อนไหวที่ชายแดนอาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดก็จะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจมีกองกำลังในพื้นที่โดยเฉพาะในส่วนของกัมพูชา ที่อยู่ในพื้นที่จำนวนมาก ในส่วนของรัฐบาลหลังจากนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยจะหารือนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางในการเคลื่อนไหวในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby noway2know » Sun Aug 01, 2010 2:39 am

จากพื้่นที่ของเรา กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อน
ศาลโลกตัดสิน เขมรได้แค่ตัวปราสาทไป
ตัวเองก็รู้สึกเหมือนกัน รัฐบาลทำอะไรอยู่
ทำไมเขมร รุกเข้ามาได้เรื่อยๆ คำพูดที่บอกเรายังไม่เสียพื้นที่
แต่เข้าพื้นที่ตัวเองไมไ่ด้ มันต่างกันตรงไหน
ดูคลิปของคุณวีระ แล้วเจ็บใจ ...มันพื้นที่ประเทศไทย
ทำไมต้องถอยร่นให้เขมรไปเืรื่อยๆ

รักในหลวง หวงแผ่นดิน
เกลียดเสื้อแดง จะรัฐบาล ม.แม้ว หรือ ม.มาร์ค ก็น่าผิดหวัง เลวพอๆกัน
ไปม๊อบมา ไปก็บอกว่าไป..ไม่ใช่ประเภท....ตุลาคมก็อยู่นะ(โกหก)
http://www.baanpud.net/forum/index.php....http://www.prachathon.org/forum/
User avatar
noway2know
 
Posts: 7750
Joined: Thu May 20, 2010 12:19 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby Canthai » Sun Aug 01, 2010 2:41 am

ก็คงต้องเจ็บไปเรื่อยๆ มั๊ง ยังใช้หากินได้อีกนานเรื่องนี้

เพราะรัฐบาลเน้นสันติวิธี
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby noway2know » Sun Aug 01, 2010 2:47 am

คงอย่างนั้นมั้งค่ะ สันติวิธีไปเรื่อยๆให้เขมรเต็มบ้านเสียก่อน
ให้ปัญหามันแก้ยากเรื่อยๆแล้วค่อยแก้
เหมือนปล่อยให้ม๊อบแดงโต แล้วให้มันเผาเสียก่อน
ใช้ทหารดี อย่างพันเอกร่มเกล้าและทหารคนอื่น แลกกับพวกเศษสวะ

รักในหลวง หวงแผ่นดิน
เกลียดเสื้อแดง จะรัฐบาล ม.แม้ว หรือ ม.มาร์ค ก็น่าผิดหวัง เลวพอๆกัน
ไปม๊อบมา ไปก็บอกว่าไป..ไม่ใช่ประเภท....ตุลาคมก็อยู่นะ(โกหก)
http://www.baanpud.net/forum/index.php....http://www.prachathon.org/forum/
User avatar
noway2know
 
Posts: 7750
Joined: Thu May 20, 2010 12:19 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby 55555 » Sun Aug 01, 2010 9:38 am

ประเด็นเรื่อง MOU 43 คงน่าจะเข้าใจกันดีแล้ว...

ส่วนเรื่องเขมรลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่พิพาท...รัฐบาลควรจัดการอย่างหนึ่งอย่างใด...

ผมคิดว่า เรื่องบางเรื่อง กับ มนุษย์บางประเภท..บางทีการเจรจามันไม่ค่อยได้ผลแฮะ...

นับแต่นี้ไป รัฐบาลน่าจะต้องทำให้เรื่องมันเข้มข้นกว่าเดิม...

ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวไปทั่วโลกอีกซักระยะ ยิ่งยาวยิ่งดี...

โลกจะได้เห็นความเลวของกัมพูชา...เมื่ออาจถึงจุดที่ต้องหักกัน จะได้ไม่มีปัญหาในการอธิบาย...
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby noway2know » Sun Aug 01, 2010 11:16 am

เห็นด้วยเหมือนกันค่ะ บางเรื่องรัฐบาลควรจะจัดการได้แล้ว
ไม่ใช่หน่อมแน้ม ส่งแต่หนังสือไป แล้วก็หายเงียบ
มันบุกรุกทีหนึ่งส่งหนังสืออีก เขมรมันทำตามที่ไหน
หัดเอาจริงซะมั่ง ตอนเป็นฝ่ายค้าน ก็ปากดีกัน
2 ปีผ่านมา แก้ปัญหาการบุกรุกไม่ได้สักที
ความเลวของเขมร ต่างชาติเขาก็รู้บุกรุกดินแดนเราอยู่
ยกเว้นพวกต่างชาติที่ยังเข้าข้างเขมร เพราะผลประโยชน์มันบังตาอยู่
ทุกชาติแหละค่ะ ทำในสิ่งที่ชาติตัวเองได้ประโยชน์กัน
ยกเว้นพี่ไทย ปล่อยให้เขมรบุกรุกเอา บุกรุกเอา
เราไม่เสียดินแดน ...แต่เขมร เต็มบ้านเรา
ไทยเข้าพื้นที่ัตัวเองไม่ได้ ต่างกันต่างไหน
เวลาก็เหลือให้ทำงานไม่มากแล้ว
ไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน เรื่องการผลักดันเขมรออกไป
การเจรจาก็เลื่อนออกไปแล้วเรื่องการขึ้นทะเีบียนมรดกโลก

รักในหลวง หวงแผ่นดิน
เกลียดเสื้อแดง จะรัฐบาล ม.แม้ว หรือ ม.มาร์ค ก็น่าผิดหวัง เลวพอๆกัน
ไปม๊อบมา ไปก็บอกว่าไป..ไม่ใช่ประเภท....ตุลาคมก็อยู่นะ(โกหก)
http://www.baanpud.net/forum/index.php....http://www.prachathon.org/forum/
User avatar
noway2know
 
Posts: 7750
Joined: Thu May 20, 2010 12:19 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby noway2know » Sun Aug 01, 2010 11:25 am

“ดร.สุวันชัย” ชี้ MOU43 มีประโยชน์อยู่บ้าง สามารถนำมาใช้ได้ในตอนนี้แนะ “สุวิทย์” แจกคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อให้เห็นว่ามีการระบุว่าพื้นที่ตรงปราสาทพระวิหารมีการพิพาทมาตั้งแต่ปี 2543 แล้ว แต่ระยะยาวต้องยกเลิกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอีก รวมถึง MOU44 ก็มีปัญหาเหมือนกัน รัฐบาลควรพิจารณาใหม่

Image

(29 ก.ค.)รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ทีวีของประชาชน เวลา 20.30-22.00 น. มีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ รับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งวันนี้ได้มีการเชิญ พล.ร.ท. ประทีป ชื่นอารมณ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และ ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมพูดคุยในรายการถึงประเด็นการขึ้น ทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารที่กำลังจะมีผลสรุปออกมาว่าการประชุมพิจารณาแผน บริหารจัดการของคณะกรรมการมรดกโลก จะออกมาเป็นอย่างไร

ดร.สุวันชัยกล่าวว่า ดูการเคลื่อนไหวของรัฐบาลดีขึ้น การที่คณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนการพิจารณาออกไปถือ เป็นสัญญาณที่ดี แต่ก็ยังไม่แน่ใจ 100% ว่าจะเห็นพ้องกันหรือไม่ ไทยไปครั้งนี้อยู่ในฐานะที่ดี เป็นกรรมการ1 ใน 21 คน และยังได้รับเลือกเป็นรองประธานด้วย ต้องใช้ประโยชน์ตรงนี้ให้มากที่สุด ส่วนประเด็นที่นายสุวิทย์จะคัดค้าน ซึ่งไม่ได้เปิดเผยทั้งหมด โดยหากจะค้านในลักษณะที่ว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารมันผิดขั้นตอน หากยกประเด็นเหล่านี้ให้คณะกรรมการได้เห็นตรงนี้จะเป็นประโยชน์

แต่หากที่ประชุมไม่เห็นด้วย ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ไม่ใช่เสียงแค่เสียงข้างมาก อันนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีของเรา แต่ถ้ายังอนุมัติรับอีก นายสุวิทย์ต้องพิจารณาตามขั้นตอนที่มติครม.รองรับไว้ อาจจะต้องวอล์กเอาต์ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ และเมื่อไม่เข้าประชุมกลับมาแล้วรัฐบาลต้องรวบรวมเอกสารและข้อมูลทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อม อย่างการที่ไทยไปปีที่แล้วมีเอกสารแค่หน้า 2 หน้า

อย่างกรณีแผนบริหารจัดการกัมพูชาเพิ่งมาแจกเอกสารเมื่อวาน ไม่แน่ใจว่าได้ส่งให้ศูนย์มรดกโลกก่อนหรือเปล่า ที่นายสุวิทย์ ไปแย้งว่าส่งเอกสารช้า ประธานกรรมการมรดกโลกดันบอกว่าเคยมีกรณีนี้มาแล้ว นายสุวิทย์ก็ต้องแย้งไปว่าแต่มันเป็นการทำผิดและครั้งนี้สำคัญด้วยเพราะจะกระทบกับดินแดนของ 2 ประเทศ

การที่ทางคณะกรรมการมรดกโลกให้ไทยกับกัมพูชาไปคุยกันก่อนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าหวังมากเกิน เพราะที่ผ่านมาการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารได้รับการยกเว้น อนุมัติ ข้อกำหนดมาโดยตลอด และประเทศส่วนใหญ่ก็เข้าข้างกัมพูชามาโดยตลอด

พล.ร.ท.ประทีปกล่าวว่า ตอนที่ศาลโลกตัดสินปราสาทพระวิหารให้เป็นของกัมพูชา ตอนนั้นรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ได้นำเรื่องนี้มาปลุกระดมความปรองดอง สมานฉันท์ภายในชาติ แต่รัฐบาลนี้ไม่คิดจะทำ ควรเอาโอกาสนี้มาเป็นเครื่องมือสร้างความปรองดองและควรทำมานานแล้ว หรือรัฐบาลอาจมีทิฐิ ว่าหากใช้ตรงนี้จะเป็นการตามก้น ASTVผู้จัดการหรือเปล่า เพราะเป็นสื่อเดียวที่ออกมาโวยวายเรื่องนี้

ดร.สุวันชัยกล่าวว่า หากเราแพ้ก็คงเพราะความต่อเนื่องเราไม่มี คนที่รับผิดชอบตรงนี้ไม่ต่อเนื่อง กระทรวงต่างประเทศเองก็ยังเห็นต่างกับความเห็นทั่วไป แต่กัมพูชานี่ทำอย่างแข็งขัน ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมามีการพาทูต 20 ประเทศไปดูพื้นที่ปราสาทพระวิหารและร้านค้าแถวนั้น ในขณะที่ไทยเพิ่งทำวันนี้ และทำไมไม่พาไปดูที่ปราสาทบ้าง จะได้เห็นว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น เรียกได้ว่ารัฐบาลเพิ่งจะมาทำเมื่อประชาชนออกมาประท้วง

พล.ร.ท.ประทีป กล่าวว่า การปฏิบัติการทางทหารบริเวณแนวชายแดนตนไม่กังวล แต่รัฐบาลต้องไม่สร้างเงื่อนไขให้กองทัพลำบากใจในการปฏิบัติการ อยากฝากให้กองทัพตระหนักว่าเรื่องที่เกี่ยวกับอธิปไตย และการดูแลปกป้องสถาบัน เป็นเรื่องที่กำหนดอำนาจในรัฐธรรมนูญแล้ว อย่าเพียงรอคำสั่งจากรัฐบาล แต่ต้องริเริ่มเสนอแนวคิดให้รัฐบาล เนื่องจากทหารอยู่ในพื้นที่ย่อมรู้ถึงสถานการณ์มากกว่า

อ.สุวันชัย กล่าวถึงการมีข้อเสนอให้ขึ้นทะเบียนร่วมว่า รัฐบาลต้องให้ชัดเจนว่าเป็นการขึ้นทะเบียนร่วมลักษณะใดหากเป็นแบบที่กัมพูชาขึ้นทะเบียนอยู่ก่อนแล้ว และเราไปขึ้นร่วมอันนี้ไม่ควร เพราะต้องไปช่วยกัมพูชาทำโน่นทำนี่ เหมือนแค่ไปสมทบอันนี้อย่าทำเด็ดขาด แต่ถ้าเป็นในลักษณะที่ว่ากัมพูชาถอนตัวออกมาก่อน แล้วมาเจรจาเสนอแผนใหม่ นับ 1 ใหม่ทั้งคู่ อันนี้เป็นการดี แต่ทางนี้มันยากเพราะกัมพูชาไม่มีทางทำ

“ส่วนมาตรการที่จะให้ไทยลาออกจากการเป็นภาคีอนุสัญญามรดกโลก วิธีนี้จะไม่มีผลทันที ต้องทำหนังสืออย่างเป็นทางการยื่นต่อผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก และจะมีผลภายใน 12 เดือน หลังจากได้หนังสือแล้ว มรดกโลกที่เรามี 5 แห่งก็ต้องโดนถอนออกอันนี้ต้องยอมรับผลของมัน แต่สิ่งนี้ต้องเป็นทางเลือกสุดท้าย เราต้องพยายามคัดค้านอย่างเป็นทางการมีระบบ เชื่อว่าหากเรามีข้อมูลหลักฐานชัดเจนก็ยากที่เขาจะปฏิเสธ ลองวิธีนี้ก่อน หากไม่ได้ผลค่อยถอนตัว” ดร.สุวันชัย กล่าว

อ.สุวันชัยกล่าวอีกว่า ยกตัวอย่างสิ่งที่จะเอาไปคัดค้านได้ เช่น การประเมิน เขมรต้องส่งเอกสารให้ประเมินก่อนขึ้นทะเบียนปราสาทและพื้นที่โดยรอบ แต่การประเมินนี่ผิดหลักวิชาการเพราะมีสิ่งก่อสร้างต่างๆในเขตไทยด้วย แต่ก็ดันประเมินผ่านทั้งๆที่มีองค์ประกอบต่างๆ หลังจากนั้นก็ขอยื่นแค่ตัวปราสาท ถ้าอ่านการประเมินของอีโคโมส มันมีปัญหาว่ากัมพูชายังไม่ได้กำหนดเขตกันชน ทิศเหนือ และทิศตะวันตก ระบุด้วยว่าอยู่ในพื้นที่พิพาท จะมีปัญหาได้ แต่อีโคโมสก็ยังไม่ได้ให้ความเห็นชัดเจน ความจริงถ้าทำแบบถูกต้องแล้วอีโคโมสต้องแนะนำคณะกรรมการมรดกโลกไปว่าต้องให้ไทยและกัมพูชาไปตกลงกันให้ได้ก่อนถึงจะขึ้นทะเบียนได้

แต่ดันไปเสนอว่าให้กัมพูชาส่งแผนบริหารจัดการ และแผนที่ โดยตามมติคณะกรรมการมรดกโลกปี 51 ระบุว่า ภายในกุมภาพันธ์ปี 53 ต้องส่งแผนบริหารจัดการฉบับสมบูรณ์ และแผนที่ฉบับสุดท้าย แต่กัมพูชาก็ไม่ได้ส่ง และการประเมินอีโคโมสนี่เสร็จก่อนที่จะประชุม คกก.ปี51 เพียง 10 กว่าวัน ตามข้อกำหนดแล้วเอกสารต้องส่งอย่างน้อย 6 สัปดาห์ก่อนการประชุม แต่ปรากฎว่าคณะกรรกมารมรดกโลก ดันรับเอกสารมาแล้วอนุมัติไปได้ อันนี้เป็นประเด็นว่า คณะกรรมการได้รับทราบแล้วว่าจะมีข้อพิพาทแต่ก็ไม่ได้สนใจ ไทยต้องใช้ตรงนี้ในการอ้างอิง

ดร.สุวันชัยกล่าวเสริมอีกว่า MOU43 มีประโยชน์อยู่บ้างแต่ต้องชั่งน้ำหนัก สิ่งที่เป็นโทษอย่างมากตรงที่ว่า ไปยอมรับว่าแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนเป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดนผสม ระหว่างสยาม-อินโดจีน ทำให้ต้องยึดถือแผนที่นี้ แต่ถ้ายกเลิกไปได้กัมพูชาจะมาอ้างไม่ได้ว่าไทยยอมรับ

“ แต่ก็เป็นประโยชน์อยู่บ้างตรงที่ว่าแสดงให้เห็นว่า 2 ประเทศยังตกลงเขตแดนกันไม่ได้ ระหว่างที่ยังไม่เลิก นายสุวิทย์ วันนี้ถ้าเป็นไปได้เอาสำเนา MOU43 แจกคณะกรรมการเลย ว่าเขตแดนยังอยู่ในขั้นตอนการตกลงกัน ตรงนี้รัฐบาลควรใช้ประโยชน์ แต่ในระยะยาวให้พิจารณายกเลิกเพื่อที่จะไม่ให้เกิดผลต่อเนื่อง คิดว่าเป็นประโยชน์อย่างมากด้วย ให้เห็นว่า2ประเทศได้ทำข้อตกลงกันในการที่จะสำรวจ และจัดทำหลักเขต ตั้งแต่ปี43 แล้ว และถ้าแนบหนังสือไปด้วยว่ากระทรวงต่างประเทศเคยประท้วงว่า กัมพูชาได้ขึ้นมาสร้างถนน ชุมชน อันนี้เป็นหลักฐานยืนยันให้คณะกรรมการเห็นว่าเราไม่ได้นิ่งเฉยกับกรณีนี้แต่มีเรื่องพิพาทมาตั้งแต่ 43 เรื่อยมา ไม่ใช่เพิ่งมาขี้แพ้ชวนตี

ดร.สุวันชัยกล่าวถึงประเด็นการที่มหาอำนาจเข้าข้างกัมพูชามากกว่าไทย เพราะกัมพูชามีทรัพยากรที่ต่างชาติสนใจ อเมริกาและจีน จึงยื่นมือเข้ามา และกัมพูชาเป็นประเทศที่ยังไม่พัฒนา ผู้นำเป็นเผด็จการ การที่มหาอำนาจเข้ามาใช้ทรัพยากรเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า อย่างไทยต้องผ่านรัฐสภา

โดยอยากฝากถึง MOU 44 ด้วยว่ามีปัญหาเหมือนกันรัฐบาลต้องทบทวนด้วย สภาที่ปรึกษาฯเคยเสนอรัฐบาลว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงเขตแดนหรือเปล่า เพราะอยู่ๆที่ของไทยที่เคยอ้างสิทธิ์กลายเป็นต้องไปแบ่งปันร่วมกับกัมพูชาและไม่ได้ผ่านรัฐสภาฯตามรํฐธรรมนูญปี 40 ด้วย แต่หากใช้ต่อไปต้องเสนอกรอบเจรจาใหม่ให้รัฐสภาอนุมัติ

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000104909

รักในหลวง หวงแผ่นดิน
เกลียดเสื้อแดง จะรัฐบาล ม.แม้ว หรือ ม.มาร์ค ก็น่าผิดหวัง เลวพอๆกัน
ไปม๊อบมา ไปก็บอกว่าไป..ไม่ใช่ประเภท....ตุลาคมก็อยู่นะ(โกหก)
http://www.baanpud.net/forum/index.php....http://www.prachathon.org/forum/
User avatar
noway2know
 
Posts: 7750
Joined: Thu May 20, 2010 12:19 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby รักน้องพิณ » Sun Aug 01, 2010 4:20 pm

55555 wrote:ประเด็นเรื่อง MOU 43 คงน่าจะเข้าใจกันดีแล้ว...

ส่วนเรื่องเขมรลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่พิพาท...รัฐบาลควรจัดการอย่างหนึ่งอย่างใด...

ผมคิดว่า เรื่องบางเรื่อง กับ มนุษย์บางประเภท..บางทีการเจรจามันไม่ค่อยได้ผลแฮะ...

นับแต่นี้ไป รัฐบาลน่าจะต้องทำให้เรื่องมันเข้มข้นกว่าเดิม...

ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นข่าวไปทั่วโลกอีกซักระยะ ยิ่งยาวยิ่งดี...

โลกจะได้เห็นความเลวของกัมพูชา...เมื่ออาจถึงจุดที่ต้องหักกัน จะได้ไม่มีปัญหาในการอธิบาย...

ดีไม่ดีโลกจะได้เห็นความเลวของฝรั่งเศสด้วย
วิญญาณปู่จะร้องไอ้ลูกหลานจัญไร­!!
User avatar
รักน้องพิณ
 
Posts: 2710
Joined: Wed Feb 18, 2009 12:42 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby คนเดินดิน » Sun Aug 01, 2010 8:18 pm

เวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน.......


อะ พิ สิด เปี่ยน ไป
User avatar
คนเดินดิน
 
Posts: 645
Joined: Wed Oct 15, 2008 2:15 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby saopao » Sun Aug 01, 2010 8:20 pm

เพราะ mou ปี 43 เป็นเอกสารข้อตกลงชิ้นเดียวระหว่างไทยกับ เขมร ที่ยืนยันเอกสารอนุสัญญา 1904 ที่ไทยตกลงกับฝรั่งเศสให้ใช้สันปันน้ำเป็นหลัก ครับ
Image
User avatar
saopao
Moderator
 
Posts: 2593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:21 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby SpeedDeVa » Sun Aug 01, 2010 9:26 pm

saopao wrote:เพราะ mou ปี 43 เป็นเอกสารข้อตกลงชิ้นเดียวระหว่างไทยกับ เขมร ที่ยืนยันเอกสารอนุสัญญา 1904 ที่ไทยตกลงกับฝรั่งเศสให้ใช้สันปันน้ำเป็นหลัก ครับ


ถามแบบไม่รู้แลยนะครับ

1.ทำไมถึงใช้ MOU2543 มายืนยันเอกสารอนุสัญญา 1904 เพราะถ้ายึดหลักสากลทั้งโลกเค้าใช้กัน มันไม่มีความจำเป็น
2.ในทางกลับกันเขมรก็อ้างได้ว่า MOU2543 ยืนยันการมีอยู่ของ แผนที่ 1:200000 เหมือนกัน ซึ่งเราไม่เคยยอม
User avatar
SpeedDeVa
 
Posts: 1126
Joined: Sat Jul 31, 2010 6:54 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby zereza » Sun Aug 01, 2010 10:20 pm

SpeedDeVa wrote:
saopao wrote:เพราะ mou ปี 43 เป็นเอกสารข้อตกลงชิ้นเดียวระหว่างไทยกับ เขมร ที่ยืนยันเอกสารอนุสัญญา 1904 ที่ไทยตกลงกับฝรั่งเศสให้ใช้สันปันน้ำเป็นหลัก ครับ


ถามแบบไม่รู้แลยนะครับ

1.ทำไมถึงใช้ MOU2543 มายืนยันเอกสารอนุสัญญา 1904 เพราะถ้ายึดหลักสากลทั้งโลกเค้าใช้กัน มันไม่มีความจำเป็น
2.ในทางกลับกันเขมรก็อ้างได้ว่า MOU2543 ยืนยันการมีอยู่ของ แผนที่ 1:200000 เหมือนกัน ซึ่งเราไม่เคยยอม


ถ้าเขาพระวิหารไม่ถูกตัดสินจากศาลโลกอะไรๆจะง่ายมากครับเพราะว่ามันไม่ได้มีเส้นที่ขีดเขตแดนเขมรมาแผ้วพานรอบๆเขาพระวิหารเลย แต่พอศาลโลกตัดสินออกมาแบบนั้น ก็กลายเป็นว่าแผนที่ที่เขมรถือนั้น(1:200000) มันผิดหลักสากลแต่ดันถูกคำตัดสินของศาลโลก(งงมั้ยครับ?) ทีนี้พอจะเจรจาปักปันเขตแดนตามปกติแล้วไม่จำเป็นต้องไปทำ MOU อะไรหรอกครับเพราะใช้หลักสากลได้ แต่กรณีนี้มันดันมีคำตัดสินที่เป็นเสมือนข้อยกเว้นขึ้นมาแบบนี้ ทำให้ไม่ว่ายังไงเขมรเค้าจะต้องเอามาอ้างอิงอยู่ดีเพราะถือว่าเป็นคำสั่งของศาลโลก

ดังนั้น MOU จึงถูกร่างขึ้นมาเพื่อให้ไทยสามารถอ้างอิงกับชาวโลกได้ในกรณีที่มีการปักหมุดเขตแดนแล้วมีปัญหาว่าพื้นที่รอบๆนั้นเราจะใช้มาตรฐานสากล แต่ยกเว้นไว้เฉพาะตัววิหารเท่านั้นที่เราจำยอมยกให้เขมรครับ
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby SpeedDeVa » Sun Aug 01, 2010 10:34 pm

zereza wrote:
SpeedDeVa wrote:
saopao wrote:เพราะ mou ปี 43 เป็นเอกสารข้อตกลงชิ้นเดียวระหว่างไทยกับ เขมร ที่ยืนยันเอกสารอนุสัญญา 1904 ที่ไทยตกลงกับฝรั่งเศสให้ใช้สันปันน้ำเป็นหลัก ครับ


ถามแบบไม่รู้แลยนะครับ

1.ทำไมถึงใช้ MOU2543 มายืนยันเอกสารอนุสัญญา 1904 เพราะถ้ายึดหลักสากลทั้งโลกเค้าใช้กัน มันไม่มีความจำเป็น
2.ในทางกลับกันเขมรก็อ้างได้ว่า MOU2543 ยืนยันการมีอยู่ของ แผนที่ 1:200000 เหมือนกัน ซึ่งเราไม่เคยยอม


ถ้าเขาพระวิหารไม่ถูกตัดสินจากศาลโลกอะไรๆจะง่ายมากครับเพราะว่ามันไม่ได้มีเส้นที่ขีดเขตแดนเขมรมาแผ้วพานรอบๆเขาพระวิหารเลย แต่พอศาลโลกตัดสินออกมาแบบนั้น ก็กลายเป็นว่าแผนที่ที่เขมรถือนั้น(1:200000) มันผิดหลักสากลแต่ดันถูกคำตัดสินของศาลโลก(งงมั้ยครับ?) ทีนี้พอจะเจรจาปักปันเขตแดนตามปกติแล้วไม่จำเป็นต้องไปทำ MOU อะไรหรอกครับเพราะใช้หลักสากลได้ แต่กรณีนี้มันดันมีคำตัดสินที่เป็นเสมือนข้อยกเว้นขึ้นมาแบบนี้ ทำให้ไม่ว่ายังไงเขมรเค้าจะต้องเอามาอ้างอิงอยู่ดีเพราะถือว่าเป็นคำสั่งของศาลโลก

ดังนั้น MOU จึงถูกร่างขึ้นมาเพื่อให้ไทยสามารถอ้างอิงกับชาวโลกได้ในกรณีที่มีการปักหมุดเขตแดนแล้วมีปัญหาว่าพื้นที่รอบๆนั้นเราจะใช้มาตรฐานสากล แต่ยกเว้นไว้เฉพาะตัววิหารเท่านั้นที่เราจำยอมยกให้เขมรครับ


ศาลโลกไม่ได้พูดถึง ความถูกต้องของแผนที่ หรือเส้นเขตแดนใน 1:200000 (annex1) ครับ และในคำพิภากษาแย้ง ก็บอกว่าบางส่วนของแผนที่มันผิด ผมอ้างอิงจาก ศ.ดร.สมปอง สุจริตกุล


ตาม Link http://www.youtube.com/user/SpeedDeVa#p ... C1e3faFVD4
User avatar
SpeedDeVa
 
Posts: 1126
Joined: Sat Jul 31, 2010 6:54 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby zereza » Sun Aug 01, 2010 11:22 pm

เข้าใจว่าความคิดเห็นที่แตกต่างกันคงเป็นเรื่องการตีความที่ต่างกันแล้วล่ะครับเพราะเอกสารอ้างอิงมันค่อนข้างเยอะ และเวลามันก็ผ่านมานานโข เหมือนการสู้คดีความที่ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียวเสมอในคดีแบบเดียวกัน ผมคงไม่มีความรู้ใดๆมากพอจะไปแย้งนักวิชาการได้ แต่เท่าที่เห็นแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครยอมยกดินแดนให้เขมรหรอกครับ ขอแค่อย่าทะเลาะกันเองจนตีกันก็พอแล้วครับ
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby SpeedDeVa » Mon Aug 02, 2010 12:45 am

zereza wrote:เข้าใจว่าความคิดเห็นที่แตกต่างกันคงเป็นเรื่องการตีความที่ต่างกันแล้วล่ะครับเพราะเอกสารอ้างอิงมันค่อนข้างเยอะ และเวลามันก็ผ่านมานานโข เหมือนการสู้คดีความที่ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียวเสมอในคดีแบบเดียวกัน ผมคงไม่มีความรู้ใดๆมากพอจะไปแย้งนักวิชาการได้ แต่เท่าที่เห็นแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครยอมยกดินแดนให้เขมรหรอกครับ ขอแค่อย่าทะเลาะกันเองจนตีกันก็พอแล้วครับ


ผมไม่ได้เข้ามาทะเลาะกับใคร ผมกำลังบอกว่าผมคิดอะไร ด้วยเหตุผมได เท่านั้นเอง ถ้าจะแก้ปัญหาก็ต้องแก้ที่เหตุ มันจะได้จบ แล้วเราจะได้เดินไปข้่างหน้าด้วยกันเท่านั้นเอง
User avatar
SpeedDeVa
 
Posts: 1126
Joined: Sat Jul 31, 2010 6:54 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby Canthai » Mon Aug 02, 2010 1:27 am

หากจะไม่ยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 ต้องย้อนไปไม่ยอมรับ สนธิสัญญา 1904,1907

MOU 2534 ย้อนไปถึงสนธิสัญญา รศ. 122 ลองอ่านใน ข้อ 1. ของ MOU นะครับ

ข้อมูลเรื่องระวาง แผนที่ ซึ่งไทยได้รับมา 11 ระวางในปี 1908 หาอ่านได้ใน วิกิพีเดีย
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby zereza » Mon Aug 02, 2010 2:33 am

SpeedDeVa wrote:
zereza wrote:เข้าใจว่าความคิดเห็นที่แตกต่างกันคงเป็นเรื่องการตีความที่ต่างกันแล้วล่ะครับเพราะเอกสารอ้างอิงมันค่อนข้างเยอะ และเวลามันก็ผ่านมานานโข เหมือนการสู้คดีความที่ไม่จำเป็นต้องมีรูปแบบเดียวเสมอในคดีแบบเดียวกัน ผมคงไม่มีความรู้ใดๆมากพอจะไปแย้งนักวิชาการได้ แต่เท่าที่เห็นแต่ละฝ่ายก็ไม่มีใครยอมยกดินแดนให้เขมรหรอกครับ ขอแค่อย่าทะเลาะกันเองจนตีกันก็พอแล้วครับ


ผมไม่ได้เข้ามาทะเลาะกับใคร ผมกำลังบอกว่าผมคิดอะไร ด้วยเหตุผมได เท่านั้นเอง ถ้าจะแก้ปัญหาก็ต้องแก้ที่เหตุ มันจะได้จบ แล้วเราจะได้เดินไปข้่างหน้าด้วยกันเท่านั้นเอง


ผมไม่ได้กล่าวหาคุณว่ามาทะเลาะกับใครนะครับ จนถึงตอนนี้เองก็เชื่อได้ว่าความคิดเห็นก็ยังกระจัดกระจายสรุปไปทางใดทางหนึ่งลำบากอยู่เพราะแต่ละฝั่งก็มีนักวิชาการและเหตุผลสนับสนุนอยู่ ผมหมายความถึงภาพใหญ่คือการชุมนุมประท้วงข้างนอกจอคอมนี่ต่างหาก อยากให้ใจเย็นๆกัน อย่าให้มันลุกลามใหญ่โตไปอีกรอบเพราะประเทศพึ่งจะฟื้นฟูได้ไม่นานเองครับ
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby SpeedDeVa » Mon Aug 02, 2010 6:21 am

Canthai wrote:หากจะไม่ยอมรับแผนที่ 1 : 200,000 ต้องย้อนไปไม่ยอมรับ สนธิสัญญา 1904,1907

MOU 2534 ย้อนไปถึงสนธิสัญญา รศ. 122 ลองอ่านใน ข้อ 1. ของ MOU นะครับ

ข้อมูลเรื่องระวาง แผนที่ ซึ่งไทยได้รับมา 11 ระวางในปี 1908 หาอ่านได้ใน วิกิพีเดีย



แยกเป็น 2 ส่วนนะครับ

1.เรื่องอนุสัญญา 1904 1907 เป็นเรื่องของหลักการ

2.เรื่อง 1:200000 ก็คือ 11 ระวางที่ว่า เป็นเรื่องของการปฏิบัติ

ซึ่งเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ตอนที่ฝรั่งเศสทำก็ไม่ได้ปรึกษาเรา เพราะถ้าถือว่า 11 ระวางนั่นเป็นผลงานของคณะกรรมการปักปันสมัยนั้น ป่านนี้เรื่องพระวิหารมันจบนานแล้ว สีหนุ คงได้ทั้งปราสาทและพื้นที่อีกมาก แต่พอดีตอนนั้นศาลโลกเค้าไม่พิจารณาเพิ่ม ตามคำร้องขอของเขมรสมันนั้น และเราไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200000 จนถึง MOU2543

และ 1 ใน 11 ระวางที่ว่าก็คือ Dangrek ที่เขมรเอาพระวิหารไปขึ้นศาลโลกนี่แหละครับ

Image
User avatar
SpeedDeVa
 
Posts: 1126
Joined: Sat Jul 31, 2010 6:54 am

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby SpeedDeVa » Mon Aug 02, 2010 6:28 am

ตรงนี้ที่บอกว่าเขมรมั่ว เราไม่เคยยอมรับเรื่อง 1:200000 และศาลโลกไม่เคยตัดสินเรื่องความถูกต้องของแผนที่และเส้นเขตแดน แต่เราก็ไม่ได้ประท้วงอะไร จนเขมรขึ้นทะเบียนพระวิหารจนได้


Image
User avatar
SpeedDeVa
 
Posts: 1126
Joined: Sat Jul 31, 2010 6:54 am


Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby Canthai » Mon Aug 02, 2010 6:50 am

แผนที่ทั้งหลายเป็นการจำลองภูมิประเทศ ย่อมคลาดเคลื่อนได้ แต่ความจริงคือ ภูมิประเทศของจริง

ตราบใดที่ยังไม่ได้ปักปันเขตแดน เราก็ยังใช้ "สนธิสัญญา 1904" ซึ่งถือเอา "สันปันน้ำ" เป็นเขตแดนได้เสมอ

เอกสารแนบท้าย จะต้องไม่ทำลายเนื้อหาของสนธิสัญญา การลงนามข้อตกลงนี้ จึงเป็นการดึงปัญหากลับไปสู่สนธิสัญญา 1904 โดยที่ฝ่ายเขมร ไม่รู้ตัว

ส่วนที่ปักหลักเขตแดน ที่ 1 จากช่อง เกล ในจังหวัดสุรินทร์ ห่างเขาพระวิหารประมาณ 90 ก.ม. ไปทางตะวันตก

ไล่ไปเรื่อยๆ จนถึงหลักที่ 73 ที่ตราด นั่นเป็นหลักเขตแดนแท้จริง และต้องค้นหา เนื่องเพราะมีการสูญหาย เคลื่อนย้าย

ส่วนที่ต้องปักปันใหม่คือ จากหลักที่ 1 ที่จังหวัดสุรินทร์ มาทางทิศตะวันออกไปจนจด ดินแดน สามเหลี่ยมมรกตซึ่งเป็นจุดบรรจบของประเทศไทย/ลาว/เขมร
User avatar
Canthai
 
Posts: 14925
Joined: Fri Oct 24, 2008 3:47 pm

Re: อภิสิทธิ์บอกว่ายึดหลักสันปันน้ำแล้วทำไมไม่ยกเลิกmou2543

Postby SpeedDeVa » Mon Aug 02, 2010 6:56 am

Canthai wrote:ขึ้นทะเบียนเฉพาะส่วนปราสาทครับ

Image



ทราบครับ

แต่ประเด็นผมก็คือ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จากตอนแรกเขมรไม่ควรจะขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ จนกลายเป็นเหตุการแบบนี้ไปได้


ทำไม?
User avatar
SpeedDeVa
 
Posts: 1126
Joined: Sat Jul 31, 2010 6:54 am

Next

Return to สภากาแฟ



cron