รวมแหลทักษิณ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby amplepoor » Fri May 27, 2011 8:01 pm

ทีนี้มาดูประโยคเด็ดจากบทความกัน

1 วันก่อนโอนหุ้นชินคอร์ปให้ลูก พานทองแท้ต้องทำหนังสือใช้หนี้แม่ 4,500 ล้านบาท เป็นค่าหุ้นธนาคารทหารไทย 150 ล้านหุ้น และค่าใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น (warrant) อีก 300 ล้านหน่วย ทั้งที่ราคาทุนไม่ใช่ 4,500 ล้านบาทตามที่อ้าง แต่อยู่ที่ 1,500 ล้านบาทเท่านั้น เพราะ warrant 300 ล้านหน่วยนั้นแถมมากับหุ้น

การซื้อหุ้นครั้งนั้นไม่ มีการชำระเงินค่าหุ้นกันจริงๆ เพราะมารดาให้เงินในวันเกิด แล้วนำเงินไปซื้อจากพี่ชาย พี่ชายก็นำมาคืนมารดาในทันที ....... จึงน่าเชื่อว่าถูกพ่อแม่ใช้ชื่อเพื่อปรับจำนวนหุ้นที่ต้องการใช้ชื่อถือแทนมากกว่า ทันทีที่พินทองทาบรรลุนิติภาวะ



ฯลฯ

คนที่ตามสอบนี่ ต้องอดทนจริงๆ และตาต้องไวกว่ามดอีก

:shock:
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby amplepoor » Fri May 27, 2011 8:03 pm

ท่อนนี้ สำหรับน้องปูแหลเป็นกรณีพิเศษ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งได้รับหุ้นชินคอร์ปมูลค่า 20 ล้าน บาท มีพฤติกรรมที่บ่งชี้ว่าซุกหุ้นชัดเจนกว่ากรณีของบรรณพจน์ ดามาพงศ์ กล่าวคือ มีตำแหน่งเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงในเครือชินคอร์ป แต่ไม่เคยจ่ายค่าหุ้น 20 ล้านบาทให้กับพี่ชาย อ้างว่าเป็นการค้างชำระหนี้ ต่อมาอีก 3-4 ปี เมื่อชินคอร์ปเริ่มจ่ายปันผล ถึงค่อยๆ ทยอย “ชำระหนี้” ด้วยเงินปันผลที่ได้รับ (คือไม่ใช้เงินของตนเองเลย) 2 ครั้ง คือ 9 ล้านบาท และ 11 ล้านบาท ครั้งที่สองนั้นเขียนตัวเลขบนเช็ค 13.5 ล้านบาท เท่ากับเงินปันผลที่ได้รับในงวดนั้นเต็มจำนวน แล้วจึงค่อยขีดฆ่าเปลี่ยนตัวเลขใหม่เป็น 11 ล้านบาท คงเป็นเพราะฉุกคิดได้ว่าจ่ายเกินหนี้แล้ว บ่งชี้ว่าหนี้ 20 ล้านบาทนั้นไม่มีอยู่จริง เพราะ พ.ต.ท. ทักษิณไม่เคยขายหุ้นให้จริง เพียงแต่ใช้ชื่อถือหุ้นแทนเท่านั้น

ส่วนเงินปันผลงวดที่ 3-6 ก็จ่ายเข้าบัญชีตัวเองเพียง 2.1 ล้านบาท ที่เหลืออีก 68 ล้าน บาทเขียนเช็คเงินสด (หมายความว่าใครก็ตามที่ถือเช็คสามารถนำไปขึ้นเงินได้) โดยอ้างว่านำไปใช้เป็นค่าตกแต่งบ้าน ทำสวน สระว่ายน้ำ ฯลฯ แต่ไม่สามารถนำหลักฐานใดๆ มายืนยันต่อศาลได้ว่าใช้จ่ายในเรื่องเหล่านี้จริง (รายละเอียดอ่านได้ในคำพิพากษาหน้า 98-99)


ใช้เงินไป 68 ล้าน เพื่อเป็น ค่าตกแต่งบ้าน ทำสวน สระว่ายน้ำ ฯลฯ โดยไม่มีใบเสร็จซักใบ.....ฮา

หนูเอย จะมาเป็นนายก อย่าทำอะไร ง่ า ว อย่างนี้อีกนะ

อ้าว เฮ้ย...ยังงัยก็เป็นไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็โดยสอยข้อหาช่วยพี่ชายซุกหุ้นแล้ว
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am


Re: รวมแหลทักษิณ

Postby jaw » Fri May 27, 2011 8:41 pm

คตส. เปิดเผยหลักฐานสำคัญ 2 ชิ้น มัดทักษิณคดีซุกหุ้นภาค 2


ชิ้นแรกคือ หลักฐานคำขอเปิดบัญชีธนาคารยูบีเอส เอจี ซึ่งระบุว่า ผู้มีอำนาจลงนามแทนแอมเพิลริชฯ จากปี 2542 ถึงกรกฏาคม 2548 คือ Dr. T. Shinawatra (เป็นช่วงเวลาที่ ทักษิณเข้าดำรงตำแหน่งนายกแล้ว) หลังจากนั้น ในปี 2548 จึงเปลี่ยนเป็น นายพานทองแท้ และ น.ส.พิณทองทา เพื่อเตรียมลงนามขายหุ้นให้เทมาเส็ก ในต้นปี 2549 ในที่สุด

หลักฐานชิ้นที่สอง ประกอบด้วยเอกสารหลายชิ้นที่พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า วินมาร์คเป็นเจ้าของหุ้นชินคอร์ป 45 ล้านหุ้น (หรือ 4.5 ล้านหุ้นหลังแตกพาร์) ที่ผู้สังเกตการณ์หลายคน เคยสันนิษฐานว่าเป็น “หุ้นที่ทักษิณซุกไว้ลึกสุด” เช่น หนังสือจากวิคเกอร์ บัลลาส ลงวันที่ 6 กันยายน 2544 แจ้งการโอนหุ้นชินคอร์ปผ่านธนาคารซิตี้แบงก์ในกรุงเทพฯไปฝากไว้ที่บัญชีธนาคารยูบีเอส เอจี สิงคโปร์ สำหรับวินมาร์ค ลิมิเต็ด บัญชีเลขที่ 121751 (เอกสารที่ 1) และ หนังสือของธนาคารไทยพาณิชย์ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2547 แจ้งการโอนเงินจำนวน 11,835,074.30 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 485 ล้านบาท) ไปให้บริษัทวินมาร์คที่ธนาคารยูบีเอส เอจี สิงคโปร์ บัญชีเลขที่ 121751 (เอกสารที่ 2)


Image

ตัวเลข “121751” ในรหัสบัญชีในเอกสารที่ 1 และ 2 ข้างต้น ตรงกับตัวเลขรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทชินคอร์ป จากรายงานประจำปีของบริษัทเอง ซึ่งระบุว่าธนาคารยูบีเอสสิงคโปร์บัญชีเลขที่ 121751 ถือหุ้นชินคอร์ปอยู่กว่า 53.6 ล้านหุ้น เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เป็นบัญชีของบริษัทวินมาร์ค (เอกสารที่ 3)

Image

ยังไม่รวมพยานหลักฐานแวดล้อมอื่นๆ อีกหลายชิ้นที่ส่อให้เห็นว่า ผู้มีอำนาจลงนามในแอมเพิล ริช กับวินมาร์คนั้น เป็นบุคคลคนเดียวกัน เช่น จากสรุปรายงาน....

ธนาคารยูบีเอส ได้ส่งหุ้นไปเข้าบัญชี UOB Nominee Private Limited (UOB) เพื่อบัญชี วินมาร์ค จำนวน 18,048,870 หุ้นในวันที่ 19 กันยายน 2545 โดยตัดหุ้นจากบัญชีที่ถือหุ้น แอมเพิล ริช ทำให้จำนวนหุ้นในบัญชีเป็นเพียง 83,385,000 หุ้น ซึ่งต่ำกว่า 100 ล้านหุ้น แสดงว่าได้ใช้หุ้นของ แอมเพิล ริช ไป และต่อมา ธนาคารยูบีเอส ตัดหุ้นจากบัญชี Pledge A/C-121751 (Win Mark) จำนวน 17,000,000 หุ้น มาชดเชยบัญชี แอมเพิล ริช ในวันที่ 4 ตุลาคม 2545 ทำให้หุ้นในบัญชี Pledge A/C-121751 ดังกล่าว ลดลงจาก 53,642,130 หุ้น เหลือเพียงจำนวน 36,642,130 หุ้น และบัญชี แอมเพิล ริช กลับมามียอดสูงกว่า 100 ล้านหุ้นอีกครั้งหนึ่ง

แสดงว่า แอมเพิล ริช และ วินมาร์ค เป็นของเจ้าของเดียวกัน จึงตัดบัญชีกว่า 18 ล้านหุ้นจากบัญชี แอมเพิล ริช ส่งไปเข้าบัญชี วินมาร์ค ที่ UOB และตัดหุ้นจากบัญชี วินมาร์ค มาคืนเพียง 17 ล้านหุ้น ก็ทำได้ ทั้งนี้รายการรับส่งหุ้นต่างๆ ระหว่างบัญชีดังกล่าวเป็นรายการที่ไม่มีการชำระเงินแต่อย่างใด


จากรายงานของ คตส. และข้อมูลสาธารณะที่เปิดเผยอยู่แล้ว สรุปได้ว่าทักษิณซุกหุ้น 3 ก้อน ตามตารางต่อไปนี้

Image



1.ส่วนที่อยู่ในประเทศ (1, 2, 3, และ 18 ในตารางข้างต้น) : ซุกผ่านชื่อลูกๆ และญาติๆ ส่วนนี้เป็นส่วนที่สาธารณชนเพ่งเล็ง จึงต้องถือไว้เฉยๆ ไม่ทำการซื้อขายใดๆ รับเงินปันผลอย่างเดียว (หนึ่งในหลักฐานที่บ่งชี้ว่าทักษิณและพจมานเป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริง คือเส้นทางการโอนเงินปันผลชินคอร์ป โดยเฉพาะของลูกชายและลูกสาว ที่พอได้มาเมื่อไหร่ก็โอนเข้าบัญชีแม่)

2.ส่วนที่อยู่ต่างประเทศผ่านชื่อ แอมเพิล ริช (4 และ 6 ในตาราง ส่วนนี้คือ 329 ล้านหุ้น (229+100) ที่เคยอ้างว่า ขายให้ลูกไปแล้วก่อนเป็นนายกฯ ถึงแม้จะเป็นชื่อ แอมเพิล ริช แต่ก็ทำอะไรโฉ่งฉ่างนักไม่ได้ เพราะชื่อของ แอมเพิล ริช เคยขึ้นมาเป็นข่าวในช่วงคดีซุกหุ้นภาคแรกไปแล้ว (หลักฐานที่บ่งชี้ว่าทักษิณยังเป็นเจ้าของ คือเอกสารเปิดบัญชีที่ระบุว่า ผู้มีอำนาจลงนามแทน แอมเพิล ริช จากปี 2542 ถึงกรกฏาคม 2548 คือ Dr. T. Shinawatra )

3.ส่วนที่อยู่ต่างประเทศผ่านชื่อ วินมาร์ค (11 และ 21 ในตาราง) นี่คือ หุ้น ที่ซุกไว้ลึกที่สุด ไม่มีใครเคยรู้ว่า มี ดังนั้นจึงเป็น หุ้น ที่มี “การเคลื่อนไหว” มากที่สุด รวมทั้งเอาไว้ใช้ “ข้อมูลภายใน” ไล่ซื้อหุ้นชินคอร์ปในช่วงก่อนที่เทมาเส็กจะประกาศซื้อชินคอร์ป ทำกำไรไปหลายร้อยล้านบาท ซึ่งแปลว่าละเมิด พ.ร.บ. หลักทรัพย์ ไม่รู้กี่ครั้ง หลักฐานหลักๆ ที่พิสูจน์ว่าทักษิณอยู่เบื้องหลังคือรหัสบัญชี รวมทั้งการโอนหุ้นไปมาระหว่างบัญชี แอมเพิล ริช และวินมาร์ค ที่แสดงว่ามีผู้ควบคุมคนเดียวกัน ดังนั้น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทักษิณเป็นเจ้าของ แอมเพิล ริช ก็เท่ากับว่าทักษิณเป็นเจ้าของวินมาร์คด้วย

ข้อมูลสรุปจาก คตส (ฉบับเต็มยาว 18 หน้า ใครสนใจมั่งคะ ^^ )
User avatar
jaw
 
Posts: 2796
Joined: Sun Dec 19, 2010 1:09 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby jaw » Fri May 27, 2011 8:54 pm

ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการซุกหุ้นหลงเหลืออยู่อีกมั้ยคะ :lol: :lol: :lol:
User avatar
jaw
 
Posts: 2796
Joined: Sun Dec 19, 2010 1:09 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby amplepoor » Fri May 27, 2011 8:57 pm

jaw wrote:ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการซุกหุ้นหลงเหลืออยู่อีกมั้ยคะ :lol: :lol: :lol:


เชอะ.....ไม่เชื่อหรอก...ทำข้อมูลเอง ขอลิ้งค์หน่อยดิ กล้าให้ป่าว

:lol:
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby steviegear » Fri May 27, 2011 9:02 pm

ถ้ายกมาหมดคงยาวกว่าพระไตรปิฏกอีกนะเนี่ย :lol:
User avatar
steviegear
 
Posts: 635
Joined: Wed Apr 28, 2010 11:10 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby jaw » Fri May 27, 2011 9:03 pm

amplepoor wrote:
jaw wrote:ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการซุกหุ้นหลงเหลืออยู่อีกมั้ยคะ :lol: :lol: :lol:


เชอะ.....ไม่เชื่อหรอก...ทำข้อมูลเอง ขอลิ้งค์หน่อยดิ กล้าให้ป่าว

:lol:


ไม่มีลิ้ง แต่มีข้อมูลของ คตส ยาว 18 หน้าอย่างที่บอก หนูย่อมา อยากได้แบบเต็มจะเอาไงดีหนูโหลดมาตั้งแต่ปี 07 จำไม่ได้แล้วว่าโหลดจากไหนอ่ะ
User avatar
jaw
 
Posts: 2796
Joined: Sun Dec 19, 2010 1:09 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby pooyong » Fri May 27, 2011 9:05 pm

steviegear wrote:ถ้ายกมาหมดคงยาวกว่าพระไตรปิฏกอีกนะเนี่ย :lol:

เอาเฉพาะ หัวข้อ ก็น่าจะมากกว่า พระธรรม 7 บทแล้วมั้ง :mrgreen:
การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน
User avatar
pooyong
 
Posts: 1496
Joined: Mon Oct 19, 2009 9:55 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby amplepoor » Fri May 27, 2011 9:23 pm

เอามาเติมให้มันหนักๆ ข้อมูลเข้าไว้ เผื่อเด็กรุ่นหลังจะศึกษาว่า สุดยอดคนไทยที่เลวสุดนับจากมีประเทศไทย คือใคร

รายงาน คตส.ปิดคดี"ซุกหุ้น2-เอื้อประโยชน์ตัวเอง-ร่ำรวยผิดปกติ"ซัด"แม้ว"ซุกหลักฐาน
วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2551 เวลา 09:50:40 น.
http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=169

หนังสือ พิมพ์"มติชน-ประชาชาติธุรกิจ"ได้นำเสนอข่าวและข้อมูลเรื่องนี้อย่างต่อ เนื่อง โดยมีบทความเรื่องหนึ่งชื่อ"นิติกรรมอำพราง" ได้เขียนขึ้นเพื่อเปิดโปงคดีดังกล่าวมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ไม่ได้รับความสนใจจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง

หมายเหต"มติชนออนไลน์" -รายงานกระบวนการไต่สวนกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทรัพย์สินมาโดยมิสมควรสืบเนื่องจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่( ร่ำรวยผิดปกติ )ที่นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)แจกในการแถลงข่าวปิดคดีซุกหุ้นภาค 2 -เอื้อประโยชน์ใหแก่ตนเอง-ผลประโยชน์ที่เครือชินคอร์ปได้รับโดยชี้ให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตรนายกรัฐมนตรีผู้ถูกกล่าวหาพยายามประวิงเวลาด้วยการไม่แสดงพยานหลักฐานแก้ข้อกล่าวหา

ทั้งนี้อนุกรรมการไต่สวนคดีดังกล่าวจะนำสำนวนเรื่องนี้เสนอต่อ คตส.ชุดใหญ่ในกลางเดือนพฤษภาคม 2551 และส่งให้อัยการสูงสุดก่อนที่ คตส.จะหมดอายุลงภายในสินเดือนมิถุนายน 2551
..........................................................................................................................................................................................................................................................
ฐานทางกฎหมาย : " สมการยึดทรัพย์"
(๑)นายกรัฐมนตรีจงใจฝ่าฝืนกฎหมาย คงถือไว้ซึ่งหุ้นธุรกิจสัมปทานชินคอร์ป + (๒) เกิดมาตรการเอื้อประโยชน์ธุรกิจสัมปทาน ๖ มาตรการในสมัยรัฐบาลนั้น
= (๓) เกิดประโยชน์เป็นความมั่งคั่งต่อธุรกิจสัมปทานของนายกรัฐมนตรี
= (๔) ประโยชน์นี้ถือเป็นทรัพย์สินที่นายกรัฐมนตรีได้มาโดยมิสมควรสืบเนื่องจากการใช้ตำแหน่งหน้าที่
= (๕) คตส.ยื่นคำร้องต่อศาลให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเป็นของแผ่นดิน

ข้อ (๑) ? (๓) เป็นปัญหาข้อเท็จจริง (๔)และ (๕) เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
คตส. ยื่นคำร้องโดยอาศัยอำนาจตามประกาศ คปค.ฉบับ ๓๐ ประกอบ พ.ร.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ต้องเริ่มคดีด้วยการไต่สวนตามกฎหมาย ปปช. และระเบียบ คตส.คือ ตรวจสอบมูลคดี ( ตุลา ๔๙ - พฤษภา ๕๐ ) แล้วเริ่มไต่สวนตั้งข้อกล่าวหาและแจ้งข้อกล่าวหา ( พฤษภา ๕๐ ? ๓ มกรา ๕๑ ) แล้วเปิดรับรอฟังคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ( มกรา ๕๑ - มีนา ๕๑ ) จนพิจารณาคำชี้แจงแล้วสั่งสำนวนในเมษายนนี้ว่า

๑) อนุกรรมการฯได้มีมติไม่เห็นควรสืบพยานหลักฐานกว่าร้อยรายการตามคำชี้แจงข้อ กล่าวหาของพ.ต.ท.ทักษิณ ฯ เพราะมิได้เกี่ยวพันกับหลักฐานที่ได้กล่าวหาไว้

๒) ที่ประชุม คตส.เห็นชอบตามข้อเสนอของอนุกรรมการ และมีมติใช้อำนาจตามกฎหมาย สั่งให้ เลขาธิการ คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ส่งพยานหลักฐานในครอบครองทั้งปวงที่เกี่ยวข้องกับความเป็นเจ้าของบริษัทวิ นมาร์ค ของ พ.ต.ท.ทักษิณฯและครอบครัว ให้แก่อนุกรรมการภายใน ๑๐ เมษายน ศกนี้

๓) อนุกรรมการประมาณว่า จะสามารถศึกษาสำนวน แล้วสรุปเป็นรายงานผลการไต่สวน เสนอ คตส.ได้อย่างช้า ภายในกลางเดือน พฤษภาคม นี้

ข้อกล่าวหา, คำชี้แจงข้อกล่าวหา และพยานหลักฐานชี้ขาดที่ต้องการ
พ.ต.ท.ทักษิณฯได้ชี้แจงปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด เฉพาะในส่วนข้อเท็จจริงนั้น ก็ยืนยันว่าตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีโดยมิได้ถือครองหุ้นชินคอร์ปฯเลย เพราะได้ขายให้บุตรและพี่น้องไปหมดแล้ว มาตรการเอื้อประโยชน์ที่รัฐให้แก่ชินคอร์ปฯนั้น ตนก็มิได้รู้เห็นเกี่ยวข้องสั่งการใดโดยทุจริต มูลค่าหุ้นชินคอร์ปที่เพิ่มขึ้นก็เพิ่มขึ้นตามความเจริญของกิจการโดยปกติ

ทั้งข้อกล่าวหาและคำชี้แจงนี้ล้วนอ่านเข้าใจได้ พอให้เห็นประเด็น ที่โต้แย้งกันได้ แต่พยานหลักฐานที่แต่ละฝ่ายใช้อ้างอิงนั้นจะสมบูรณ์หรือ ไม่ เกี่ยวข้องหรือไม่ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง

ฝ่าย อนุกรรมการฯ คตส.นั้น ได้ตรวจสอบจนมีหลักฐานเพียงพอ ก็ได้กล่าวหาและอธิบายชี้บ่งไว้ในข้อกล่าวหาชัดเจนแล้วว่า มีฐานข้อเท็จจริงเช่นใด ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณฯ ปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ปรากฏว่า พยานหลักฐานที่นำเสนอมานั้นมิได้เกี่ยวพันหักล้างกับพยานหลักฐานที่ชี้บ่ง ไว้ในข้อกล่าวหาเลย

ดังนี้บรรดาพยานหลักฐานที่เสนอมากว่าร้อยรายการนั้น ก็หาใช่พยานหลักฐานชี้ขาดที่ต้องการไม่และคตส.ในฐานะผู้ไต่สวนความจริงก็มี อำนาจที่จะไม่สืบพยานตามที่ชี้แนะมาในคำชี้แจงนั้นได้ เพราะนี่คือการไต่สวนมูลคดีด้วยอำนาจฝ่ายเดียวของ คตส. หาใช่การต่อสู้คดีในชั้นศาลแต่อย่างใดไม่ กล่าวคือ

ข้อกล่าวหาที่หนึ่ง : " ซุกหุ้นชินคอร์ป "
กล่าวหาว่า เมื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ๒๕๔๔ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ยังคงฝ่าฝืนกฎหมายถือไว้ซึ่งหุ้นชินคอร์ปทั้งทางตรงทางอ้อม โดยใช้ชื่อบุตรหรือพี่น้อง เป็นจำนวนรวม๔๘.๐๘% หุ้นทั้งหมดนี้ครอบครัวชินวัตรถือครองมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๕ ถูกนำมารวมขายกองทุนเทมาเส็ค เมื่อ มกราคม ๒๕๔๙ แบ่งตามการจัดการได้เป็นสองกลุ่ม
๑. หุ้นชินฯ ที่ถือผ่านบริษัท และจัดการโดยสถาบันการเงินต่างประเทศ มีสองส่วนคือ
๑.๑)หุ้นชิน-แอมเปิลริช ถือครองโดยบริษัทแอมเปิลริช อินเวสต์เมนต์ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯจดทะเบียนจัดตั้งไว้ตามกฎหมายเกาะบริติชเวอร์จิ้น มีหน้าที่ถือครองหุ้นชินฯเพียงประการเดียว โดยอ้างว่าได้รับซื้อหุ้นชินฯ ไป ๑๑.๘๗% เมื่อ ๒๕๔๒ เพื่อนำหุ้นชินไปเข้าตลาดแนสแด็ก บริษัทแอมเปิลริชนี้ พ.ต.ท.ทักษิณอ้างต่อ ก.ล.ต. เมื่อตุลาคม ๒๕๔๔ ว่า ตนได้ขายให้นายพานทองแท้ บุตรชายไปแล้วเมื่อ ธันวาคม ๒๕๔๓ แต่ไม่มีการรายงานการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นชินฯผ่านแอมเปิล ริช ต่อ ก.ล.ต. ( แบบ ๒๔๖-๒) ตามระเบียบแต่อย่างใด
๑.๒)หุ้นชิน ? วินมาร์ค วินมาร์คมีผู้จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อปี ๒๕๔๒ ที่เกาะบริติชเวอร์จิ้นเช่นกัน มีที่อยู่ที่เดียวกับแอมเปิล ริช มีพฤติการณ์เข้ามาซื้อหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวชินวัตร ๑ ครั้ง ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณฯจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเมื่อนางสาวพินทองทา บุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณฯ บรรลุนิติภาวะแล้วก็โอนหุ้นคืนนางสาวพินทองทาในที่สุด

บริษัทเอสซีแอสเสทนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษฯ ได้กล่าวหาต่อพนักงานอัยการแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯและภริยา เป็นผู้ถือหุ้นแท้จริงแต่ปกปิดโครงสร้างผู้ถือหุ้นไว้ ส่วนทาง คตสนั้นก็ได้ตรวจสอบพบหลักฐานว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯ ได้ใช้ บริษัทนี้ถือหุ้นชินคอร์ปอีกก้อนหนึ่งด้วย ตั้งแต่ปี ๒๕๔๑ จนถึง ๒๕๔๙ เป็นจำนวน ๕๔ ล้านหุ้น

หลักฐานที่ต้องการชิ้นที่ ๑ หุ้นชินทั้งสองก้อนนี้ ผู้มีอำนาจได้ว่าจ้างให้ธนาคารยูบีเอส เอจีสิงค์โปร์ รับเป็นผู้ดูแล ( Custodian ) และจากปี ๒๕๔๓ ? ๒๕๔๘ คตส.ได้ตรวจพบหลักฐานสำคัญคือ

- พบเอกสารเปิดบัญชีที่ยูบีเอสให้แก่แอมเปิลริช ที่แจ้งรับรู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯเป็นผู้มีอำนาจลงนามแทนบริษัทในการจัดการหุ้นชิน ? แอมเปิล ริช ลงวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๔๒ จนต่อมาในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๔๘ เอกสารเปิดบัญชีนี้จึงได้เปลี่ยนชื่อผู้มีอำนาจเป็น พานทองแท้และพินทองทา

- ต่อหลักฐานข้างต้น พ.ต.ท.ทักษิณชี้แจงว่า หลังจากตนโอนบริษัทแอมเปิล ริช ในธันวาคม ๒๕๔๓ ให้พานทองแท้ฯแล้ว ตนก็มิได้ข้องเกี่ยวใดๆอีก กรรมการบริษัทแอมเปิล ริชจะเห็นควรเปลี่ยนชื่อผู้มีอำนาจเมื่อใด ก็เป็นเรื่องของการจัดการเมื่อเห็นว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนเอกสารไม่จำเป็นต้อง ใส่ชื่อนายพานทองแท้ตั้งแต่วันที่รับโอนบริษัทจากตนแต่อย่างใด

- หลักฐานชี้ขาดปัญหานี้อยู่ตรงที่ว่า ในระหว่างปี ๒๕๔๒ ถึง ๒๕๔๘ นั้น มีธุรกรรมหุ้นชิน-แอมเปิลริช ถึง ๕ ครั้ง อย่างแน่นอน เอกสารธุรกรรมเหล่านี้อยู่ในครอบครองของธนาคารยูบีเอส หากฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ หรือพานทองแท้ ผู้เป็นลูกค้าของยูบีเอสใช้สิทธิขอหลักฐานมาแสดงได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทางตรงทางอ้อม คดีในส่วนนี้ก็จะยุติเป็นคุณแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ในชั้น คตส.ในทันที ซึ่งคำกล่าวหาของคตส. ก็ได้ระบุประเด็นนี้ไว้อย่างชัดแจ้ง

แต่ พ.ต.ท.ทักษิณก็ชี้แจงตัดบทไว้ห้วนๆ ว่าไม่รู้เห็น โดยไม่ยอมขวนขวายหาหลักฐานชี้ขาดที่ว่านี้มาเลย ส่วนคตส.เองนั้นก็ไม่มีช่องทางได้หลักฐานเหล่านี้ได้ เนื่องจากเป็นความลับลูกค้าที่อยู่ในครอบครองของธนาคารต่างประเทศ

หลักฐานที่ต้องการชิ้นที่ ๒ คือรายงานของ ธนาคารยูบีเอสฯในวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๔๔ ที่แจ้งว่า ได้มีการโอนหุ้นชินจำนวนหนึ่งมารวมอยู่ในบัญชี เดียวกันกับหุ้นชินอีกจำนวนหนึ่งและหุ้นทั้งสองเป็นของคนคนเดียวกัน โดยเมื่อนับรวมกันแล้วมียอดเพิ่มขึ้นเกิน ๕%ธนาคารฯจึงแจ้งให้ กลต.ทราบตามระเบียบ

หุ้นชินฯทั้งสองก้อนตามรายงานนี้ ตรวจสอบแล้ว เป็นของบริษัทแอมเปิล ริชและบริษัทวินมาร์ค รายงานดังกล่าวจึงแสดงว่า ธนาคารยูบีเอส มีข้อมูลลูกค้าที่แสดงว่า ทั้งสองบริษัทมีเจ้าของคนเดียวกัน นั่นก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณฯนั่นเอง

-หลักฐานชี้ขาดปัญหานี้จึงอยู่ที่คำชี้แจงของธนาคารยูบีเอสฯ ที่หากฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณฯ สามารถขอคำอธิบายจากธนาคารมายืนยันได้ ว่า คตส.เข้าใจรายงานของ ยูบีเอสผิด คดีก็จะยุติได้อีกเช่นกัน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณฯก็มิได้ขวนขวายนำมาแสดงเลย ทั้งๆที่เป็นลูกค้าของธนาคารนั้น

หลักฐานที่ต้องการชิ้นที่ ๓ คือรายการหลักฐานจากสถาบันการเงินในสิงค์โปร์และฮ่องกงทั้งปวงที่ กลต.ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ สามารถรวบรวมจากทางการของทั้งสองประเทศ จนได้หลักฐานที่สามารถยืนยันได้โดยตรงและชัดเจนว่า ผู้เป็นเจ้าของบริษัทวินมาร์คนั้น ก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ,คุณหญิงพจมานและบุตรทั้งสามนั่นเอง

หลักฐานชุดนี้ปัจจุบันยังคงมีฐานะเป็นข้อผูกพันให้ฝ่ายไทยต้องใช้เฉพาะในคดีเอสซีแอสเสทของดีเอสไอเท่านั้น

เฉพาะในส่วนคุณหญิงพจมานฯหรือ พ.ต.ท.ทักษิณฯนั้น หากสามารถนำหลักฐานมาแสดงได้ว่า เงินค่าหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อ้างว่าขายให้บริษัทวินมาร์ค ๑,๕๐๐ ล้านบาท เมื่อ ๒๕๔๓ นั้น วินมาร์คเอามาจากแหล่งใดบ้าง จากบัญชีธนาคารของผู้ใดในประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งถ้าได้ข้อมูลนี้เมื่อใดก็จะช่วยชี้ขาดปริศนาตัวตนของวินมาร์ค ในชั้นไต่สวนของคตส.ได้อย่างแน่นอน

๒. หุ้นชินที่ถือผ่านบุคคลธรรมดาและจัดการในประเทศ เป็นการใช้ชื่อบุตรและพี่น้องถือหุ้นแทน มีข้อปรากฏเป็นประเด็นในคดี ดังนี้

๒.๑) ประวัติคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณฯและภริยา ในระยะแรกจะซุกหุ้นเพื่อแอบเล่นหุ้น มีทั้งหุ้นชินฯและหุ้นอื่นส่วนหนึ่งจะใช้ชื่อคนใช้และบริวาร จนเกิดคดีจงใจแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จถูก ปปช.ฟ้องต่อศาลให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง ( คดีซุกหุ้น ๑ ) นอกจากให้คนใช้ถือแทนแล้วยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ให้นายบรรณพจน์ฯถือแทนเท่าที่ จำเป็น

จนต่อมาเมื่อกันยายน ๒๕๔๓ พ.ต.ท.ทักษิณฯและภริยา ยังมีชื่อถือหุ้นก้อนใหญ่เหลืออยู่ในมืออีก ๓๔.๐๗% จึงทำเป็นขายให้บุตรและพี่น้องจนหมดในคราวเดียว แล้วก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี ๒๕๔๔ โดยอ้างได้ว่าตนไม่มีหุ้นสัมปทานกับรัฐเหลืออยู่ในมืออีกต่อไป ( เป็นการต้องห้ามตาม ม.๑๐๐ แห่ง พ.ร.บ.ปปช. ) แต่ขณะเดียวกันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณฯ ก็ต้องคดีซุกหุ้น ๑ ที่กล่าวหาย้อนหลังไปถึงปี ๒๕๔๐ ว่า ได้เข้าเป็นรองนายกรัฐมนตรีโดยภริยาซุกหุ้นไว้ในชื่อคนใช้ ๑.๕ หมื่นล้านบาท แต่ก็พ้นคดีในศาลไปได้ด้วยเสียงตุลาการ ๘ : ๗

ส่วนการขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในปี ๒๕๔๔ นั้น พ.ต.ท.ทักษิณฯ และภริยาจะได้ซุกหุ้นใดหรือไม่ ก็เป็นข้อที่ยังมิได้เคยมีการตรวจสอบหรือฟ้องเป็นคดีใดๆ เลย มาจนปัจจุบันนี้จึงได้เริ่มมีการตรวจสอบตามฐานกฎหมายต่างๆ แล้ว เช่น ดีเอสไอ.ก็ตรวจว่า ซุกหุ้นเอสซีแอสเสท ( กล่าวหาว่าผิดตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ ), คตส.ก็ตรวจสอบหุ้นชินตามกฎหมาย ปปช.ที่ห้ามนายกรัฐมนตรีถือหุ้นธุรกิจสัมปทาน ส่วน ป.ป.ช.นั้นก็เริ่มตรวจฐานแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ตรวจพฤติการณ์ซุกหุ้นทั้งหุ้นเอสซีแอสเสท, หุ้นชินคอร์ป,หุ้นชินแซท และหุ้นอื่น

คำชี้แจงข้อกล่าวหาของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ยังไม่เข้าใจประวัติคดีซุกหุ้นของตนอย่างชัดเจนเพียงพอ จึงเกิดข้อโต้แย้งดังนี้
- โต้แย้งว่าคดีของตนได้เป็นที่ยุติเด็ดขาดไปแล้วด้วยคดีซุกหุ้น ๑ ความข้อนี้คลาดเคลื่อนจากความจริง เพราะคดีซุกหุ้นชินฯครั้งนี้ เป็นการกล่าวหาว่าพ.ต.ท.ทักษิณฯ ขึ้นเป็น นายกฯในปี ๒๕๔๔ และ ๒๕๔๘ โดยยังคงถือหุ้นสัมปทานชินคอร์ป

ส่วนคดีซุกหุ้น ๑ เป็นการซุกหุ้นหลายบริษัทไว้ในนามคนใช้ แล้วเข้าเป็นรองนายกฯในปี ๒๕๔๐ โดยมาต้องคดีแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จขึ้นศาลในต้นปี ๒๕๔๔ หาใช่กล่าวหาว่ากระทำผิดในช่วงขึ้นเป็นนายกฯเมื่อต้นปี ๒๕๔๔ แต่อย่างใดไม่

ส่วนคำร้องของกลุ่ม สว.ในปี ๒๕๔๙ นั้น เป็นการร้องว่า นายกรัฐมนตรีฯฝ่าฝืนแอบถือหุ้นชินฯ ซึ่งก็ตรงกับมูลคดี คตส.ในครั้งนี้ แต่คดีนั้นมิใช่คดีอาญาแต่เป็นคดีขอให้ถอดถอนเพราะขาดคุณสมบัติ และศาลก็ยังมิได้ชี้ขาด เพราะสั่งไม่รับฟ้องว่าฟ้องไม่ชัดเจนเพียงพอ ข้อที่พ.ต.ท.ทักษิณฯ อ้างว่าว่าศาลรัฐธรรมนูญในคดีนั้นชี้ขาดคดีไปแล้วจึง คลาดเคลื่อนอีกเช่นกัน

- โต้แย้งข้อกล่าวหา ของ คตส.ที่ว่าตนซุกหุ้นชินฯเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายห้ามรัฐมนตรีถือหุ้นว่า เลื่อนลอย เพราะตนมิอาจทราบผลเลือกตั้งล่วงหน้าได้ จะได้วางแผนซุกหุ้นเสียแต่ต้นมือ ความข้อนี้คณะทำงานได้เคยพิจารณาแล้วก็เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ฯเริ่มทุ่มเทตั้งพรรคไทยรักไทยตั้งแต่ปี ๒๕๔๒ ก่อนหน้าการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ถึง ๒ ปี

ส่วนการยักย้ายชื่อผู้ถือหุ้นชินฯนั้นก็กระทำเป็นระยะมาโดยตลอด ระยะแรกใช้ชื่อคนไกลตัวคือคนใช้หรือบริษัท กระดาษในเกาะนอกระบบ เช่นนี้ก็น่าเชื่อได้ว่า ทำไปเพื่อเล่นหุ้นโดยปกปิด แต่มาในกันยายน ๒๕๔๓ ก่อนการเลือกตั้งเพียง ๔ เดือน และเป็นช่วงที่ ปปช. เริ่มตรวจสอบหุ้นคนใช้ และกฎหมายใหม่ก็ห้ามชัดเจนแล้วว่ารัฐมนตรีจะถือหุ้นสัมปทานไม่ได้ หรือยุ่งเกี่ยวจัดการหุ้นใดไม่ได้

ตรงจุดนี้นี่เองที่คณะทำงานเชื่อว่าได้เกิดการวาง แผนย้ายหุ้นของพ.ต.ท.ทักษิณฯไปเป็นชื่ออื่นเพื่อเตรียมรับการเข้าดำรง ตำแหน่งในรัฐบาลที่อาจจะมาถึง จึงเกิดการยัก ย้ายหุ้นชินทั้ง ๓๔.๐๗ %ที่เหลืออยู่ และหุ้นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด ในเดือนกันยายน ๒๕๔๓( การยักย้ายหุ้นอสังหาฯส่วนนี้ ดีเอสไอ.มีหลักฐาน กล่าวหาแล้วว่าซุกหุ้นเอสซีแอสเสท ) และสามารถทำได้โดยมิต้องวิตกว่าถ้าแพ้การเลือกตั้งจะเอาหุ้นคืนได้อย่างไร เพราะ ชื่อที่ใช้นั้นล้วนอยู่ในอำนาจสั่งการของ ตนทั้งสิ้น และถ้าต่อมาได้เป็นนายกฯและต้องถูกตรวจสอบก็น่าที่จะอธิบายให้เชื่อถือได้ เพราะได้หันไปใช้ชื่อบุตรและพี่น้อง แทนที่จะเป็นคนใช้คนขับรถเหมือนคดีซุกหุ้น ๑ ที่ ป.ป.ช.กำลังตรวจพบอยู่ในขณะนั้น

- ข้อโต้แย้งทั้งสองข้อนี้ยังมีฐานะเป็นความแตกต่างทางความเห็นเท่านั้น จึงไม่มีหลักฐานชี้ขาดที่ต้องการ

๒.๒) หุ้นชินฯ - พานทองแท้ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีใน มกรา ๒๕๔๔ มีหุ้นชินฯ ๓๘% อยู่ในชื่อบุคคลในครอบครัวดังนี้

- นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย มีหลักฐานแจ้งต่อ กลต. เมื่อกันยา ๒๕๔๓ว่า ได้รับซื้อหุ้นชินฯจากบิดาและมารดารวม ๒๔.๙๙% นอกตลาด ในราคาต้นทุนหุ้นละ ๑๐ บาท ( ราคาตลาดขณะนั้น ๑๕๐ บาท ) ซึ่งการขายหุ้นในราคาต้นทุนให้บุตรในครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณฯยื่นคำชี้แจงว่า เป็นการขายให้ด้วยความรักระหว่างบิดามารดากับบุตรจึงขายให้ในราคาต้นทุน และให้บุตรออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ถือไว้ แล้วค่อยนำเงินมาผ่อนชำระภายหลัง ฝ่ายคณะทำงาน คตส. เชื่อว่ามิใช่การซื้อขายแท้จริง และเหตุที่ต้องขายเท่าทุนก็เพื่อจะได้มิต้องเสียภาษี ซึ่งก็ต้องขายให้บุตรเพื่อใช้ความรักมาอธิบาย

- หุ้นชินฯเริ่มให้ปันผลตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ แต่นายพานทองแท้ฯ ผู้ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของกลับมิเคยได้เป็นเจ้าของ หรือใช้สอยเงินปันผลกว่า๑,๔๖๑ ล้านบาทนี้เลย เหตุเพราะบริษัทชินคอร์ปได้มีหนังสือแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์ว่า ขอให้จ่ายเงินปันผลเป็นเช็คแล้วส่งมอบโดยตรงให้ตัวแทนลูกค้า ซึ่งจะไปรับเช็คแล้วนำมาเข้าบัญชีนายพานทองแท้ฯ ทันที และภายในไม่เกิน ๑ สัปดาห์ เงินปันผลนี้ก็จะโอนไปเข้าบัญชีคุณหญิงฯผู้มารดาจนหมดสิ้น

จากการตรวจสอบก็พบว่าตัวแทนรับเช็คนี้ก็คือพนักงานคนสนิทของคุณหญิงฯ และเงินปันผลที่คุณหญิงดึงไปจากบัญชีนายพานทองแท้นั้น ก็รวมยอดได้ถึง ๕,๒๓๔ ล้านบาทท่วมค่าซื้อหุ้นที่อ้างว่านายพานทองแท้เป็นหนี้บิดามารดาอยู่๗๓๔ ล้านบาท ไปเป็นจำนวน ๔,๕๐๐ ล้านบาท

หลักฐานที่ต้องการชิ้นที่ ๔ ปัญหา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณฯ รักลูกจริงจึงขายหุ้นให้ลูก หรือใช้ชื่อลูกเพื่อซุกหุ้นหนีกฎหมายนั้น ไม่มีหลักฐานชี้ขาดความรักในใจคนได้ แต่ คตส.ตรวจพบว่า ก่อนหน้าที่อ้างว่าขายหุ้นให้ลูก ๑ วัน คุณหญิงพจมานฯ ได้ให้นายพานทองแท้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ตนยึดถือไว้ เท่าราคาตลาดของหุ้น๒๔.๙๙% คือ ๔.๕ พันล้านบาท พอดี จากนั้นจึงได้ทำเป็นขายหุ้นให้ในราคาเท่าทุนคือ ๗๓๔ ล้านบาท

ต่อมาเมื่อหุ้นชินฯเริ่มให้เงินปันผลแก่หุ้นชิน-พานทองแท้ จากปี ๒๕๔๕ ? ๒๕๔๘ รวมเป็นเงินกว่า ๕ พันล้านบาท นายพานทองแท้ผู้ถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของฯ ก็มิได้มีโอกาสใช้เงินปันผลนี้เลย ต้องส่งเงินปันผลเข้าบัญชีธนาคารของมารดาในทันที จนหมดสิ้น ทั้งหมดนี้ทำให้น่าเชื่อได้ว่า นายพานทองแท้ มิใช่เจ้าของแท้จริง ถูกใช้ชื่อถือแทนบิดามารดาเท่านั้น และเนื่องจากมิได้รับความไว้วางใจเช่นที่ควร จึงได้ถูกผูกพันให้ออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้มารดาถือไว้เท่าราคาหุ้นในตลาด หาใช่เท่าราคาต้นทุน ๗๓๔ ล้านแต่อย่างใดไม่

ด้วยความสงสัยนี้ คตส.ได้สอบถามความเป็นมาของหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินฉบับนี้จากนางกาญจนาภา หงษ์เหิน มาครั้งหนึ่งแล้ว นางกาญจนาภาฯก็ได้รับปากแล้วว่าจะหาหลักฐานมาให้ใน ๗ วัน แต่ก็มิเคยนำมาให้ พ.ต.ท.ทักษิณฯจึงควรนำหลักฐานหรือคำอธิบายนี้มาให้ชี้ขาดในสำนวนไต่สวนของ คตส.ด้วย แต่ก็มิได้นำเสนอไว้แต่อย่างใดเลย

๒.๓) หุ้นชินฯ ? พินทองทา ชื่อนางสาวพินทองทา ได้เริ่มถูกนำมาใช้ถือหุ้นชินฯและหุ้นเอสซีแอสเสท เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว เฉพาะหุ้นชินฯนั้น นายพานทองแท้ฯได้แจ้งต่อ กลต.ว่า ตนได้ขายหุ้นให้นางสาวพินทองทา ไปเป็นจำนวน ๓๖.๗ ล้านหุ้น ในราคาต้นทุนหุ้นละ ๑๐ บาท เป็นเงิน ๓๖๗ ล้านบาท

เงินก้อนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ยื่นคำชี้แจงว่า บุตรสาวได้เก็บหอมรอมริบจากเงินของขวัญที่ได้จากผู้ใหญ่ตามกาละโอกาสต่างๆ แต่ คตส.ตรวจพบจากบัญชีธนาคารว่า เป็นเงินที่โอนในคราวเดียวกันจากบัญชีคุณหญิงพจมานฯ มาเข้าบัญชีพานทองแท้ผู้อ้างว่าขายหุ้น แล้วโอนกลับคืนคุณหญิงจนหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ คตส.เชื่อว่า น่าจะเป็นการแบ่งหุ้นให้ตัวแทนเชิดคนใหมถือแทนเท่านั้น

หลักฐานที่ต้องการชิ้นที่ ๕ ความข้อนี้นางสาวพินทองทาฯเคยให้ปากคำต่อ คตส.ไว้แล้วว่า มารดาให้เงินในคราวเดียวเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อบรรลุนิติภาวะ การตรวจสอบทางเดินของเงินโดย คตส.ก็ยืนยันตรงกัน หาก พ.ต.ท.ทักษิณมีหลักฐานเป็นอื่น ก็ควรให้นางสาวพินทองทา แสดงหลักฐานบัญชีเงินฝากที่ใช้สะสมเงินของขวัญเหล่านี้มาแสดงต่อ คตส.ด้วย

ใน ส่วนการใช้เงินปันผลหุ้นชินฯก้อนนี้นั้น ได้ถูกรับเข้าไปสั่งสมไว้ในบัญชี นางสาวพินทองทาทุกครั้งโดยไม่เร่งเบิกคืนมารดาเหมือนบัญชีพี่ชาย ได้มีการนำไปใช้ครั้งใหญ่เมื่อนำเงินปันผลไปแปลงเป็นหุ้นเอสซีแอสเสท โดยทำเป็นให้นางสาวพินทองทาซื้อหุ้นเอสซีแอสเสทคืนจากบริษัทวินมาร์คและพวก เป็นจำนวน ๔๘๕.๘ ล้านบาทซึ่งหากศาลเห็นตรงกับ คตส.ว่า บริษัทวินมาร์คนี้เป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณฯ และภริยา และบุตรทั้งสาม

ความเท็จเรื่องพินทองทาซื้อหุ้นเอสซีจากวินมาร์ คก็จะปรากฏ จนเห็นเป็นเท็จต่อไปได้ทั้งหมดในที่สุด กรณีจึงไม่ต้องขอพยานหลักฐานชี้ขาดใดจากฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณฯในส่วนนี้

๒.๔) หุ้นชิน ? บรรณพจน์ หุ้นชินฯถูกกล่าวอ้างว่าเป็นของนายบรรณพจน์ ๒ กรณีคือซื้อจากคุณหญิงพจมานฯในราคาทุน ๔ ครั้งและซื้อจากการเพิ่มทุนตามสิทธิของคุณหญิง ๑ ครั้ง โดย ๔ ใน ๕ ครั้ง ใช้เงินจากบัญชีคุณหญิงฯ อธิบายว่าเป็นเงินยืม ส่วนอีก ๑ ครั้งอันเป็นครั้งสุดท้ายที่ซื้อจากคุณหญิงฯ ใช้วิธีออกตั๋วสัญญาใช่เงินให้ถือเป็นประกัน หนี้ทั้ง ๕ ก้อนนี้ ไม่มีการชำระคืนเลย แต่เงินปันผลทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้มิได้นำไปใช้

ครั้นหุ้นชิน-บรรณพจน์ ถูกขายให้กองทุนเทมาเส็คจนหมดเมื่อ มกรา ๒๕๔๙ แล้ว เงินที่ได้ก็นำมารวมกับเงินปันผล แยกออกมาจากทรัพย์สินส่วนตัวของนายบรรณพจน์ฯ เป็นบัญชีชิน- บรรณพจน์ โดยชัดเจน และปัจจุบันส่วนหนึ่งได้ถูกอายัด อีกส่วนหนึ่งได้ทยอยไปเข้าบริษัทครอบครัว ในชื่อคุณหญิงฯหรือบุตรแล้ว

ข้อหาซุกหุ้นในส่วนนี้ คำชี้แจงข้อกล่าวหาระบุว่าได้ขายให้นายบรรณพจน์ฯ แล้ว แล้วก็ไม่เคยทราบการจัดการเงินต่างๆ ของนายบรรณพจน์ฯเลย ตัวนายบรรณพจน์ฯเองนั้น ก็ได้เคยมาให้ปากคำ ต่อ คตส.ไว้แล้ว ช่องทางสืบพยานเพิ่มเติมในส่วนนี้จึงไม่ปรากฏในคำชี้แจง

๒.๕) หุ้นชิน ? ยิ่งลักษณ์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีชื่อถือหุ้นชินเพียงธุรกรรมเดียวคือ ถูกอ้างว่ารับซื้อหุ้นชินฯจากพี่ชาย ๒ ล้านหุ้น หรือ ๐.๖๘ % หุ้นละ ๑๐ บาทอันเป็นจำนวนที่เหลือหลังจากขายให้แก่บุตรแล้ว โดยขายให้ในราคาทุนและออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้ถือไว้เป็นประกัน จำนวน ๒๐ ล้านบาท

ข้อนี้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า เมื่อได้รับเงินปันผลเมื่อใดก็จะส่งคืนพี่ชายพี่สะใภ้ตลอด โดยเงินปันผล ๒๐ ล้านบาทแรก จะส่งคืนพี่ชายจนครบหนี้ซื้อหุ้นที่อ้าง ส่วนเงินปันผลอีก ๗๗.๒ ล้านบาทนั้น เกินจากยอดหนี้ที่อ้าง ก็ต้องหาทางส่งคืนอีกวิธีหนึ่ง โดยออกเป็นเช็คให้เจ้าหน้าที่ของพี่สะใภ้มารับเช็คไปใบละไม่เกิน ๒ ล้านบาทจนหมด ทั้งหมดนี้เป็นพิรุธทำให้เชื่อได้ว่านางสาวยิ่งลักษณ์ฯ ทำตนเป็นผู้ถือหุ้นแทนเท่านั้น

ต่อข้อกล่าวหาในส่วนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณฯชี้แจงว่า ขายหุ้นให้ นางสาวยิ่งลักษณ์แล้ว ก็ไม่ข้องเกี่ยวทราบเรื่องใดอีกเลย

หลักฐานที่ต้องการชิ้นที่ ๖ พ.ต.ท.ทักษิณฯ ควรให้น้องสาว ยื่นหลักฐานต่อ คตส.ว่า ตนนำเงินตามเช็คเงินปันผล อีก๗๗ ล้านบาทไปชำระให้ผู้ใดในมูลหนี้ใด เหตุใดจึงซอยแบ่งเป็นเช็คใบละไม่เกิน ๒ ล้านเช่นนั้น

๓. ความน่าเชื่อถือของการตรวจสอบธุรกรรม หุ้นชิน ? ชินวัตร โดยระบบจดแจ้งหลักทรัพย์ คำชี้แจงของ พ.ต.ท.ทักษิณได้พยายามกล่าวอ้างระบบจดแจ้งการถือครองหลักทรัพย์มาเป็นหลัก ฐานยืนยันการโอนหุ้นชินฯในคดีว่า เป็นที่รับรู้รับรองโดยระบบนี้มาตลอด หรือแม้แต่ระบบภาษีเงินได้เอง คตส.ก็ได้นำมาเรียกเก็บภาษีจากธุรกรรมเหล่านี้ก็มีอีกเช่นกัน อนุกรรมการพิเคราะห์แล้วก็เห็นว่ามีข้อกฎหมายที่ถูกบิดเบือน และมีหลักฐานที่ต้องนำมาชี้ขาดให้กระจ่างดังนี้

- การตรวจสอบสามระบบ สัมภาระผู้โดยสารที่จะส่งเข้าบรรทุกใต้ท้องเครื่องบิน อาจต้องถูกตรวจทั้งระเบิด,อาวุธ,และยาเสพติด ในเวลาเดียวกันฉันใด การโอนหุ้นก็อาจต้องถูกตรวจทั้งความโปร่งใสจดแจ้งตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์, ทั้งกำไรที่ต้องเสียภาษี และทั้งการทุจริตประพฤติมิชอบของข้าราชการก็ได้ฉันนั้น โดยการตรวจแต่ละระบบนี้ต่างก็จะมีเป้าหมายและวิธีการตลอดจนผลการตรวจของ ตนเองเป็นเอกเทศ สัมภาระใดถูกตรวจแล้วไม่มียาเสพติดก็หาได้หมายความว่าไม่มีระเบิดแต่อย่างใด ไม่ หรือธุรกรรมขายหุ้นใดผู้มีชื่อซื้อหุ้นได้กำไรและเสียภาษีไปแล้ว แต่อาจถูกกฎหมายปราบคอรัปชั่นพิสูจน์ว่า เป็นการซื้อขายจอมปลอมสร้างตัวแทนเชิดมาถือครองหุ้นรสัมปทานนั้นแทนนายก รัฐมนตรีก็ได้เช่นกัน

ข้อที่ พ.ต.ท.ทักษิณอ้าง การตรวจสอบตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์และตามกฎหมายภาษีอากรมาปฏิเสธการตรวจสอบ ตามกฎหมายปราบคอรัปชั่นจึงไม่ถูกต้อง ตั้งแต่แรกแล้ว

- การตรวจสอบตามกฎหมายตลาดหลักทรัพย์ อนุกรรมการฯมีความเห็นว่า การตรวจสอบตามกฎหมายหลักทรัพย์ที่กระทำต่อธุรกรรมหุ้นชินฯของครอบครัวชิน วัตรนั้น ไม่อาจอ้างอิงเป็นหลักประกันความใสสะอาดของธุรกรรมเหล่านั้นได้เลย เพราะหาได้มีการตรวจสอบที่ได้มาตรฐานตามที่ควรจะเป็นแต่อย่างใดไม่ โดยมาตรการตรวจสอบในส่วนแรกคือหน้าที่จดแจ้งของบุคคลในครอบครัวชินวัตรนั้น ก็จะพบว่าไม่อาจเชื่อถือในความสุจริตใจได้เลย

- ไม่มีการแจ้งที่เป็นปัจจุบัน เช่นการโอนหุ้นแอมเปิล ริช จาก พ.ต.ท.ทักษิณฯให้พานทองแท้ เมื่อ ธันวาคม ๒๕๔๓ ก็อธิบายลอยๆต่อ กลต.ในตุลาคม ๒๕๔๔ ว่าขายให้บุตรไปแล้ว และยอมรับทำเอกสารแจ้งการซื้อขายเมื่อ กุมภา ๒๕๔๙ และถูกปรับไป ๕ ล้านบาท

- การจดแจ้งย้อนหลังจะทำขึ้นก็ต่อเมื่อจนมุมเกิดคดีให้ต้องอธิบายกลบเกลื่อนเท่านั้น เช่น
เมื่อ ปปช.ฟ้องซุกหุ้นและขอให้ กลต.ตรวจสอบการถือหุ้นชินของครอบครัวชินวัตรทั้งหมด จนกลต.ไปพบหุ้นชิน- แอมเปิลริช ในกันยายน ๒๕๔๔ ถึงตรง นี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ขอแก้ไขใบแจ้งโดยอธิบายว่าลืมไปว่าตนยังถือหุ้นชินฯผ่านแอมเปิล ริช อยู่

ครั้นถามต่อไปว่าเมื่อขึ้นเป็นนายกฯ ในมกรา ๔๔ นั้นตนยังถือหุ้นชิน ? แอมเปิล ริชอยู่หรือไม่ ก็อธิบายต่อไปว่า ลืมแจ้งไปอีกเพราะได้ขายแอมเปิล ริช ให้บุตรชายไปแล้ว

ครั้นเมื่อขายหุ้นชิน ? แอมเปิล ริช ให้กองทุนเทมาเส็ค เมื่อมกราคม ๒๕๔๙ แล้ว สาธารณะชนก็รู้ทันทีว่ามีหุ้นชิน- แอมเปิลริช อยู่ในโลกตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ แล้ว ถึงตรงนี้ พ.ต.ท.ทักษิณฯถึงยอมจำนนให้ นายพานทองแท้ ยอมแจ้งการซื้อหุ้นชิน- แอมเปิลริชเ เมื่อธันวา ๒๕๔๓ ต่อก.ล.ต. โดยแจ้งเมื่อ กุมภา ๒๕๔๙ และถูกปรับไป ๕ ล้านบาทในที่สุด

- ภาพรวมที่แท้จริง นับแต่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นต้นมา หุ้นชินฯของครอบครัวชินวัตร ไม่เคยเป็นที่ติดใจ ติดตามของสาธารณะและ ก.ล.ต.เลย ก.ล.ต.ได้แต่รับแจ้งแล้วก็ไม่ตรวจสอบเช่นที่ควร ส่วน ปปช.นั้น หลังแพ้คดีซุกหุ้น ๑ แล้วก็มิได้ตรวจสอบจริงจังอะไรอีก

จนต่อมาเมื่อมีการรวมหุ้นชิน ? ชินวัตร ขายกองทุนเทมาเส็คในมกรา ๒๕๔๙ โดยไม่เสียภาษี คำอธิบายที่เชื่อได้ยากจึงได้เป็นที่รับรู้ และนายพานทองแท้ฯ ก็จำต้องยอมแจ้งธุรกรรม ปี ๒๕๔๓

ในปี ๒๕๔๙ และเสียค่าปรับในที่สุด ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากความจำยอมของครอบครัวชินวัตร และ กลต.ทั้งสิ้น ข้อกล่าวอ้างที่ว่าธุรกรรมของตนได้รับการตรวจสอบระบรองจาก กลต.แล้ว จึงไม่เป็นจริงโดยสิ้นเชิง
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby amplepoor » Fri May 27, 2011 9:44 pm

ฆ่าตัดตอนยาเสพติด มากกว่า 2500 ศพ

นโยบายที่เลวทรามที่สุดที่คิดขึ้นมาโดยแม้ว คือการปราบยาเสพติดด้วยการฆ่าตัดตอน ประเมินกันว่า ระหว่างปฤิบัติงาน ซึ่งอ้างว่าจะนำผลถวายในวันเฉลิมในเดือนธันวาคมนั้น มีผู้เสียชีวิตโดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม มากกว่า 2500 ศพ นี่ยังไม่รวมที่ถูกฆ่าก่อนประกาศโครงการอีกหลายร้อยศพ หรืออาจจะเป็นพันๆ เพราะไม่มีการเก็บข้อมูลเลย

เป็นการสังหารโหตประชาชนภายใต้ระบอบประชาธิปไคยครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

คลิบนี้ คือเหยื่อรายหนึ่ง

http://www.youtube.com/watch?v=E1rNkABDeco
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby AtheNa » Fri May 27, 2011 10:08 pm

,,,มิน่าเชื่อ...มีควายมาในนี้ด้วย...โอ้วววไม่นะ
donkey kong wrote:แม้ว ยังเป็นขวัญใจ คนไทยเสมอ
ขนาดโดน พวกเควี่ย ใส่ร้าย สลายพรรค
ประชาชน ยังเืลือก พรรคนอมินีของแม้ว ให้ ชนะ พรรคขี้้ข้าอำหมาดมาตลอด...
:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:
เลือกตั้งครั้งล่าสุด ขนาดเอา ผู้เล่น ตัวสำรองมาแข่ง กับ ตัวจริง ของ พรรคขี้ข้าอำหมาด
พวกขี้ข้าอำหมาด ยังไม่มีปัญญา เอาชนะตัวสำรองของ แม้ว เลย :mrgreen: :mrgreen:
เพราะ ฉะนั้น การใส่ร้ายแม้ว อย่างซ้ำๆซากๆ จริงบ้างเท็จ บ้าง
จึงไม่มีประโยชน์อันใด นอกจาก หามาปลอบใจกันเอง ดูกันเอง...
แล้ว ก็พยักหน้าหงึกๆ แม้วแหล แม้วเลว... ยอมรับกันเองใน กะลา ว่าเราคิดถูก คิดดีแล้วนะ
ที่เกลียดไอ้แม้ว...

ในขณะที่ความจริงของโลกภายนอก ไม่ได้เป็นอย่างที่คุยกันในกะลา ใบนี้ หรอกครับ..
เป็นความจริง ที่เจ็บปวด สำหรับเหล่ากากแมงสาบขี้้ข้าอำหมาด ทั้งหลาย....
:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:

:o
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้ชัยชนะ นั่นก็คือ การที่คนดีๆ นิ่งดูดาย

" The only thing necessary for the Triumph of Evil is for Good Men to do Nothing "


(Edmund Burke)
User avatar
AtheNa
 
Posts: 403
Joined: Fri Nov 13, 2009 10:08 pm
Location: Bkk

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Tam-mic-ra » Sat May 28, 2011 12:04 am

jaw wrote:
Tam-mic-ra wrote:แจ๋วรู้อะไรก็บอกสิ่
จะรวมแหลทักษิณ ก็แฉเลย
รออ่านอยู่
ต้องเสียไม่เสียเพราะยังไง

ถ้าต้องเสีย
นี่แสดงว่าแจ๋วเก่งกว่า คตส. อีกแฮะเนี่ย


อ้าว แฉแล้วไง :lol: :lol: :lol:


ละอ่อนใสซื่อแบบนี้เลยถูกแก๊งค์ไอหล่อแหลหลอกเอาง่ายๆ
อย่าแถไถไปเรื่องอื่น

เฮีย ขอถามใหม่ชัดๆ

"แม้วขายลูกไป"
ต้องเสีย-ไม่เสียภาษี? เพราะยังไง ??

คตส. ทำไมไม่เล่นงานตรงธุรกรรมนี้ ??

หนูแจ๋วทำมาเนียนแค่ยกเอาข้อกฏหมายมาทำเป็นเท่ห์ๆ
แต่เฮียไม่รู้ หนูจะรู้เรื่องราวของรูปคดี มากกว่าคนอื่นไหม

:mrgreen: :D :P ตอบสิ่ตอบ อิๆ
คำว่า "คนฉลาด" ด้วยเพราะคนอื่นเขายกย่อง มิใช่ ยกหางเน่าๆของตัวเอง โดยการโยนยัดใส่คนอื่นว่า โง่
มาดูกัน นักเรียนตลอดชีพแถว่าสมัยแม้วปล่อยเขมรมาสร้างวัด viewtopic.php?f=2&t=37916&p=708131#p707996
User avatar
Tam-mic-ra
 
Posts: 901
Joined: Mon Mar 02, 2009 4:03 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Moon » Sat May 28, 2011 12:05 am

จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง
User avatar
Moon
 
Posts: 6807
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:51 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Bookmarks » Sat May 28, 2011 12:12 am

สฤณี อาชวานันทกุล และน้องสาวของเธอ เป็นเสื้อแดงนะครับ ตอนที่ สฤณี มาเขียนบทความว่า แม้วทำชาติเสียหาย และบอกว่า ศาลน่าจะตัดสินว่าต้องยึดหมด กับยึดครึ่งหนึ่ง ในประชาไท ยังโดน ไอ้หงอกเจียม ด่าซะเละเลย ว่าเรียนจบสูงแต่โง่บัดซบ มันให้เหตุผลว่า ถึงแม้วจะโกง ก็ต้องยกฟ้อง เพราะ คตส ไม่มีอำนาจในการตรวจสอบแม้ว :lol: :lol: :lol:
Last edited by Bookmarks on Sat May 28, 2011 12:13 am, edited 1 time in total.
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Gop » Sat May 28, 2011 12:13 am


ข้อนี้ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ เพราะมันขายใน "ราคาทุน" ทักษิณจึงไม่มีรายได้พึงประเมินในการเสียภาษีนั่นเอง

แล้วคุณ Tam-mic-ra คิดอย่างไรเรื่องการซุกหุ้นครับ ผมว่าหลักฐานแน่นนะครับ โดยเฉพาะ Dr. T. Shinawantra เนี่ย ผมว่าชัดแจ๋วเลย ไหนจะลักษณะการใช้เงินของ โอ๊ค เอม อีก :roll:
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Tam-mic-ra » Sat May 28, 2011 12:24 am

jaw wrote:
amplepoor wrote:น้องแจ๋วได้ของเล่นใหม เป็นตุ๊กตาล้มลุกแดงเถือก....ต่อยล้มไปกี่ที ก็จะด้านทนลุกมาให้ต่อยอีก

:lol: :lol: :lol:


หนูกำลังสงสัยว่าตกลงเขาได้อ่านสิ่งที่เราพยายามอธิบายให้ฟังมั่งมั้ย ถ้าหนูเป็นเสื้อแดงแล้วมีโอกาสเห็นข้อมูลแบบนี้หนูว่าหนูเลิกเป็นนะคะพี่แอม เลิกแล้วคงจะอายมากเลยที่เคยเป็นเสื้อแดงมาก่อน :lol: :lol:


แหมๆ
อวยกันเอง แก้อาการปวดใจที่เจอความจริง

ส่วนไอ คลิป500บาท นี่มีแต่เด็กเท่านั้นทื่เชื่อ
เพราะ 500 แม้วเขาพูดถึงต่อแถวรับเบี้ยคนชรา
คำว่า "คนฉลาด" ด้วยเพราะคนอื่นเขายกย่อง มิใช่ ยกหางเน่าๆของตัวเอง โดยการโยนยัดใส่คนอื่นว่า โง่
มาดูกัน นักเรียนตลอดชีพแถว่าสมัยแม้วปล่อยเขมรมาสร้างวัด viewtopic.php?f=2&t=37916&p=708131#p707996
User avatar
Tam-mic-ra
 
Posts: 901
Joined: Mon Mar 02, 2009 4:03 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby DumpDump » Sat May 28, 2011 12:25 am

ท่านแม้วคือเทพพระเจ้า ต่อให้ท่านแม้วทำโลกแตกท่านแม้วก็ไม่มีความผิด :evil:
อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนน
รู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

แป๊ะ ออกไป๊
DumpDump
 
Posts: 1669
Joined: Fri Jan 23, 2009 1:45 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Bookmarks » Sat May 28, 2011 12:34 am

Tam-mic-ra wrote:
Gop wrote:
Tam-mic-ra wrote:หนูแจ๋ว นี่ตอบอะไรแบบคิกขุอาโนเน๊ะน่ารักๆดีน่ะ
แต่ไปศึกษาเรื่องราวให้แม่นก่อนค่อยมาคุยกะเฮียง่ะ
จะได้คุยกันรู้เรื่องหน่อย

ขายในตลาด เขายกเว้นภาษี ก็ถูกแล้วนิ
ใครๆก็รู้ หนูแจ๋วยกกฏหมายมา ให้เป็นประเด็นอะไรทำไมหว่า

แม้วเขาขายลูกไป แล้วลูกก็ซื้อขายกับสิงคโปที่ต่างประเทศซึ่งมันก็ไม่มีภาษี
แล้วมาโอนในตลาดไทยก็ไม่มีภาษี

คิดง่ายๆนะ สมมติถ้าแม้วขายตรงๆรวดเดียว ให้เขาไป ในตลาดไทย
ก็ไม่ต้องเสียภาษี

จบ.. . ไม่ต้องผิดอะไรเลย
(ควายนักเลงสถุน ก็จะหาเรื่องไปใส่ร้ายเรื่องอื่นต่อ เช่น ขายสมบัติชาติ ฯ บลาๆๆ)



แล้วที่ "แม้วขายลูกไป" ที่คุณว่าน่ะ มันทำในตลาดหลักทรัพย์หรือเปล่าครับ :?: :?:
ถ้าไม่ทำในตลาดหลักทรัพย์ ก็ต้องเสียภาษ๊ไม่ใช่หรือครับ :?: :?:


ปลายปี 43 คุณทักษิณและภรรยา ขายโอนชินคอร์ปฯให้ลูกที่ต้นทุน ก่อนจะเป็นนายกฯ เพื่อให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ: เป็นหุ้นชินคอร์ปฯส่วน 38% (ที่ถือในฐานะบุคคล) และเป็นตัวบริษัทแอมเพิลริช (ที่ถือหุ้นชินคอร์ปฯส่วน 11%)

และอีกอย่าง คตส. ก็ไม่เห็นจับจุดนี้นะครับ
แต่ยังไง รอหนูแจ๋วอาจจะตอบได้ดีกว่าผม

เขียนเองนะ คุณ tam mic ra ว่าแม้วโอนหุ้นชินให้ลูก เพื่อให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ

หนังสือรับรองบริษัท แอมเพิลริช ที่ธนาคารยูบีเอสใช้อ้างอิงมี Dr.T Shinawatra เป็นผู้มีอำนาจถอนเงินและหลักทรัพย์แต่เพียงผู้เดียว ลงวันที่ 11 มิ.ย. 2542

มีการติดต่อขายกับเทมาเส็ก แก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 49% วันศุกร์ พอวันจันทร์ บินไปสิงคโปร์ขายกันวันนั้นเลย ออกกฎหมายมาปั๊บ ใช้ก่อนคนแรกเลย แสดงให้เห็นว่าใช้อำนาจในการบริหารไม่ถูกต้อง มีผลประโยชน์ทับซ้อน

ขนาด พวกเสื้อแดง อย่าง วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ยังยอมรับเลยว่า ทักษิณซุกหุ้นให้ลูกจริง
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Moon » Sat May 28, 2011 12:36 am

Tam-mic-ra wrote:
jaw wrote:
amplepoor wrote:น้องแจ๋วได้ของเล่นใหม เป็นตุ๊กตาล้มลุกแดงเถือก....ต่อยล้มไปกี่ที ก็จะด้านทนลุกมาให้ต่อยอีก

:lol: :lol: :lol:


หนูกำลังสงสัยว่าตกลงเขาได้อ่านสิ่งที่เราพยายามอธิบายให้ฟังมั่งมั้ย ถ้าหนูเป็นเสื้อแดงแล้วมีโอกาสเห็นข้อมูลแบบนี้หนูว่าหนูเลิกเป็นนะคะพี่แอม เลิกแล้วคงจะอายมากเลยที่เคยเป็นเสื้อแดงมาก่อน :lol: :lol:


แหมๆ
อวยกันเอง แก้อาการปวดใจที่เจอความจริง

ส่วนไอ คลิป500บาท นี่มีแต่เด็กเท่านั้นทื่เชื่อ
เพราะ 500 แม้วเขาพูดถึงต่อแถวรับเบี้ยคนชรา


ก็มีแต่ควายแดงเท่านั้นแหละที่เชื่อ ว่าไอ้ขี้โกงนี่มันพูดถึงเบี้ยคนชรา
จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง
User avatar
Moon
 
Posts: 6807
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:51 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Tam-mic-ra » Sat May 28, 2011 12:51 am

Gop wrote:
ข้อนี้ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ เพราะมันขายใน "ราคาทุน" ทักษิณจึงไม่มีรายได้พึงประเมินในการเสียภาษีนั่นเอง

แล้วคุณ Tam-mic-ra คิดอย่างไรเรื่องการซุกหุ้นครับ ผมว่าหลักฐานแน่นนะครับ โดยเฉพาะ Dr. T. Shinawantra เนี่ย ผมว่าชัดแจ๋วเลย ไหนจะลักษณะการใช้เงินของ โอ๊ค เอม อีก :roll:





เรื่องซุกนี่ ครั้งที่1 ผมว่าก็ดูน่าเกลียดไปหน่อย

ส่วนพอหลัง 19 กันยา
ผมยัง 50-50 ครับ
คือได้นายกแม้วแรกๆผมก็เหลืองเก่า กรณีทักษิณ ผมไม่ได้สรรเสริญแกอะไรมากมาย
แกอาจมีข้อเสียบ้างก็คงเป็นปรกติของมนุษย์ทุกคน

หรือถ้าซุกจริง ผมก็ไม่เห็นว่าโกงใครกินอะไร เป็นเพียงผิดข้อกฏบัญญัติไว้
แม้วอาจจะลืมจริง หรือเพราะได้เป็นนายก จึงมีเวลาไม่พอ ที่ต้องหาคนมาซื้อดีลใหญ่ๆ เลยต้องซุกไว้ก่อน

ผมไม่ได้เลือกคนที่บริสุทธิไม่เคยทำผิด แต่เลือกคนที่เลวน้อยที่สุด
เพื่อให้ฝ่ายแพ้เลือกตั้ง ทำเลวให้น้อยลงๆ เราก็ค่อยเปลี่ยนตัวเลือกใหม่
เสื้อแดงไม่ใช่พวกเห็นคนทำไม่ดี แต่ยังเลือกเพราะเศษเงินอะไร แบบที่พวกคุณละเลงกัน
แต่อย่าไปติงต๊องกาโนโหวต เพราะมันก็ไม่ทำให้อะไรมันก้าวหน้าเลย

แต่ที่ผมยังไม่ไว้ใจ และยังไม่เชื่อ คือกรณี ที่มาของ คตส. ที่แต่งตั้งโดย คมช.เข้ามาเพื่อเล่นแม้วโดยเฉพาะ
ถึง คตส. จะสรุปแบบดีใจที่เจอไม้ตายตอนหลัง ว่าเจอลายเซ็น Dr. T. Shinawantra ก็ตาม

ทั้งที่ ทีเรื่องอื่นของพวกเดียวกัน ชัดๆเช่น GT200 ฯลฯ
ไม่เห็นมีหน่วยงานอิสระไหนกล้าออกมาเล่นงานเลย
แถมตัวคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ก็มีหลักฐานว่าร่ำรวยผิดปรกติเองเสียสะงั้น

สรุปคือผมยัง 50-50 ไว้ก่อน ว่า ข้อมูลข้อสรุปต่างๆ
ผมว่าอาจเป็น "รวมแหล คตส." ก็ได้ :D
คำว่า "คนฉลาด" ด้วยเพราะคนอื่นเขายกย่อง มิใช่ ยกหางเน่าๆของตัวเอง โดยการโยนยัดใส่คนอื่นว่า โง่
มาดูกัน นักเรียนตลอดชีพแถว่าสมัยแม้วปล่อยเขมรมาสร้างวัด viewtopic.php?f=2&t=37916&p=708131#p707996
User avatar
Tam-mic-ra
 
Posts: 901
Joined: Mon Mar 02, 2009 4:03 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Moon » Sat May 28, 2011 12:54 am

แถมตัวคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ก็มีหลักฐานว่าร่ำรวยผิดปรกติเองเสียสะงั้น


ขอหลักฐานหน่อยเดะ
จันทร์เอ๋ย จันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง
User avatar
Moon
 
Posts: 6807
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:51 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Robert De Niro » Sat May 28, 2011 1:17 am

Tam-mic-ra wrote:หรือถ้าซุกจริง ผมก็ไม่เห็นว่าโกงใครกินอะไร เป็นเพียงผิดข้อกฏบัญญัติไว้
แม้วอาจจะลืมจริง หรือเพราะได้เป็นนายก จึงมีเวลาไม่พอ ที่ต้องหาคนมาซื้อดีลใหญ่ๆ เลยต้องซุกไว้ก่อน

ผมก็รีบ ผมไม่มีเวลาพอจะรอไฟแดง ผมผ่ามันทุกแยกเลยได้ไหมครับ

ถ้าคนทุกคนอ้างแบบนี้ แล้วทำผิดกฏหมาย บ้านเมืองก็บรรลัยดิครับ
ยิ่งเป็นผู้บริหารประเทศหมายเลข 1 ยิ่งทำไม่ได้

จะบริหารประเทศ แต่ทะลึ่งบริหารเงิน บริหารหุ้นตัวเองไม่ได้ก็อย่ามา
ทำดิครับ ไม่มีใครเค้าบังคับให้เป็นนายกฯนี่ :mrgreen:
กองกำลังไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด (...ใส่แว่นสีฟ้า)
User avatar
Robert De Niro
 
Posts: 6093
Joined: Sat Nov 08, 2008 11:27 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby amplepoor » Sat May 28, 2011 1:51 am

ฉลาดสุดๆอย่าง tam....ยังออกมายอมรับว่าเลือกแม้ว เลือกทั้งๆรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แถมยังบอกว่าเลือกคนเลวน้อยที่สุดอีก

โหย...พูดจาตอแหลได้ขนาดนี้ แม้วมาใช้ล็อกอินนี้เองป่าวหว่า
ยิ่งอ้างคตส ที่มาไม่ถูกต้อง ...แต่แม้วน่ะ ที่มาโคตรถูกต้องเลยนิ แล้วการทำสำนวนของคตส มีอะไรผิดใหม แต่การบริหารของแม้ว หาอะไรที่ถูกต้องเจอบ้างใหม...ฮา นี่แหละสองมาตรฐานของแท้

ไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมต้องอวดเรื่องดีๆ เพื่อทำชั่วๆ ด้วย
พวกเสื้อแดงที่บอกว่ารักแม้วเพราะแม้วให้ตังค์ ยังจะแมนซะกว่า
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby someone » Sat May 28, 2011 1:59 am

กรณีที่ทักษิณซุกหุ้นภาคแรก ผมให้อภัยได้ครับ คิดว่าผิดครั้งแรกหยวนๆ น่า ศาลยังตัดสินว่าพกพร่องสุจริต โอเครับได้

พอครั้งที่สอง เอาอีกแล๊ะ มันซุก ซ้อน ซ่อนเงื่อน อีกแล๊ะ คนมันสันดานโกง มันเป็นงี้นี่เอง ทำได้ทุกเมื่อ-เมื่อมีช่องทาง ไม่มีช่องทาง-มันก็หาทางเปิดช่องให้ตัวเองซะเลย เออ แม้วนี่มันเก่งจริงๆ
User avatar
someone
 
Posts: 752
Joined: Thu Feb 19, 2009 6:27 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Tam-mic-ra » Sat May 28, 2011 3:41 am

หนูample น่าสังเวช(poor)

ก็เฮียเกลียด ปชป. นี่นา ก็ต้องเลือกอะไรที่เราคิดว่าเลวน้อยสุดสิ่ เกี่ยวอะไรกับตอแหลไม่ตอแหล

เฮียเริ่มเกลียด ปชป.ของหนู ก็วันที่ไอหล่อแหลดีแต่แพล่มมาเป็นหัวหน้าพรรคแหล่ะ

ยิ่งพอย้อนกลับไปดู สภาพการเมืองไทยสมัย รัฐบุรุด 8ปี
ก็ยิ่งได้คิด ว่าสกปรกเละเทะ เพราะผู้นำตอนนั้นขาดฝีมือขาดวิสัยทัศน์ขนาดไหน
คำว่า "คนฉลาด" ด้วยเพราะคนอื่นเขายกย่อง มิใช่ ยกหางเน่าๆของตัวเอง โดยการโยนยัดใส่คนอื่นว่า โง่
มาดูกัน นักเรียนตลอดชีพแถว่าสมัยแม้วปล่อยเขมรมาสร้างวัด viewtopic.php?f=2&t=37916&p=708131#p707996
User avatar
Tam-mic-ra
 
Posts: 901
Joined: Mon Mar 02, 2009 4:03 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby Bookmarks » Sat May 28, 2011 3:45 am

Tam-mic-ra wrote:
Gop wrote:
ข้อนี้ผมพอจะเข้าใจแล้วครับ เพราะมันขายใน "ราคาทุน" ทักษิณจึงไม่มีรายได้พึงประเมินในการเสียภาษีนั่นเอง

แล้วคุณ Tam-mic-ra คิดอย่างไรเรื่องการซุกหุ้นครับ ผมว่าหลักฐานแน่นนะครับ โดยเฉพาะ Dr. T. Shinawantra เนี่ย ผมว่าชัดแจ๋วเลย ไหนจะลักษณะการใช้เงินของ โอ๊ค เอม อีก :roll:





เรื่องซุกนี่ ครั้งที่1 ผมว่าก็ดูน่าเกลียดไปหน่อย

ส่วนพอหลัง 19 กันยา
ผมยัง 50-50 ครับ
คือได้นายกแม้วแรกๆผมก็เหลืองเก่า กรณีทักษิณ ผมไม่ได้สรรเสริญแกอะไรมากมาย
แกอาจมีข้อเสียบ้างก็คงเป็นปรกติของมนุษย์ทุกคน

หรือถ้าซุกจริง ผมก็ไม่เห็นว่าโกงใครกินอะไร เป็นเพียงผิดข้อกฏบัญญัติไว้
แม้วอาจจะลืมจริง หรือเพราะได้เป็นนายก จึงมีเวลาไม่พอ ที่ต้องหาคนมาซื้อดีลใหญ่ๆ เลยต้องซุกไว้ก่อน

ผมไม่ได้เลือกคนที่บริสุทธิไม่เคยทำผิด แต่เลือกคนที่เลวน้อยที่สุด
เพื่อให้ฝ่ายแพ้เลือกตั้ง ทำเลวให้น้อยลงๆ เราก็ค่อยเปลี่ยนตัวเลือกใหม่
เสื้อแดงไม่ใช่พวกเห็นคนทำไม่ดี แต่ยังเลือกเพราะเศษเงินอะไร แบบที่พวกคุณละเลงกัน
แต่อย่าไปติงต๊องกาโนโหวต เพราะมันก็ไม่ทำให้อะไรมันก้าวหน้าเลย

แต่ที่ผมยังไม่ไว้ใจ และยังไม่เชื่อ คือกรณี ที่มาของ คตส. ที่แต่งตั้งโดย คมช.เข้ามาเพื่อเล่นแม้วโดยเฉพาะ
ถึง คตส. จะสรุปแบบดีใจที่เจอไม้ตายตอนหลัง ว่าเจอลายเซ็น Dr. T. Shinawantra ก็ตาม

ทั้งที่ ทีเรื่องอื่นของพวกเดียวกัน ชัดๆเช่น GT200 ฯลฯ
ไม่เห็นมีหน่วยงานอิสระไหนกล้าออกมาเล่นงานเลย
แถมตัวคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ก็มีหลักฐานว่าร่ำรวยผิดปรกติเองเสียสะงั้น

สรุปคือผมยัง 50-50 ไว้ก่อน ว่า ข้อมูลข้อสรุปต่างๆ
ผมว่าอาจเป็น "รวมแหล คตส." ก็ได้ :D

แก้กฎหมายเพื่อตัวเอง เพื่อจะได้ขายหุ้นได้ยกล๊อต โดยไม่คำนึงถึงชาติ แต่คำนึงแค่ตัวเองจะขายหุ้นได้ราคาแพงๆ แค่นั้น ร่วมมือกับสิงคโปร์เข้ามาซื้อหุ้นของตัวเอง หานอมินี่ให้เสร็จ
คนเป็นนายกเค้าทำกันแบบนี้หรือ เข้ามาบริหารบ้านเมืองคิดถึงแต่ประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก
ไหนจะแก้กฎหมาย สร้างตึกสูงเกิน 9 ชั้นได้ หลังจากให้เมียมาซื้อที่ดินรัชดาแล้ว
ใช้อำนาจในมือ แก้กฎหมายตามใจชอบ เพื่อตัวเอง จนน่าเกลียด
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby amplepoor » Sat May 28, 2011 4:03 am

ความสำนึกในผิดชอบชั่วดี ใช้คำพูดกลบเกลื่อนไม่มิดดอก

เกลียด ปชป. นี่นา ก็ต้องเลือกอะไรที่เราคิดว่าเลวน้อยสุดสิ่ เกี่ยวอะไรกับตอแหลไม่ตอแหล
เกลียดปชป อันนี้เข้าใจได้ ผมก็ไม่ได้ชอบพรรคนี้สุดสวาท แต่เกลียดพรรคนี้แล้วมาเป็นสมุนแม้ว อันนี้หักมุมมากไปหน่อย ไม่น่าเชื่อ ควรจะบอกว่า อ้างเกลียดปชป เพื่อจะมารุมทึ้งประเทศชาติกับแม้ว เพราะมันรวยเร็ว

เริ่มเกลียด ปชป.ก็วันที่ไอหล่อแหลดีแต่แพล่มมาเป็นหัวหน้าพรรคแหล่ะ
ประโยคนี้แค่ตอแหล ทำเป็นว่ามีหลักการ ที่จริงไม่มีสาระอะไร หากจะมีก็เป็นพวกตุ๊ดขี้อิจฉาเท่านั้นเอง จึงมาอ้างเรื่องหล่ออยากเป็นหัวหน้าพรรค ไม่มีหรอกครับ เกลียดพรรคเพราะเรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องจริง นายคนนี้ก็เป็นแค่สมุนเสธหนั่น ที่แพ้เกมส์ต้องยกพวกออกจากพรรคมา....ฮา

พอย้อนกลับไปดู สภาพการเมืองไทยสมัย รัฐบุรุด 8ปี
อันนี้มาเข้ากระบวนการโค่นอำมาตย์ละ เพื่อจะอ้างเหตุที่ไปเข้ากับแม้ว ความจริงถอดสมการคนเกลียดมาร์คกับคนเกลียดป๋า...แค่นี้ก็รู้แล้วว่า หมอนี่เป็นใคร เหอๆๆๆๆๆ

ก็ยิ่งได้คิด ว่าสกปรกเละเทะ เพราะผู้นำตอนนั้นขาดฝีมือขาดวิสัยทัศน์ขนาดไหน
คิดได้ว่ารัฐบุรุษ 8 ปี สกปรกเละเทะ แต่กลับไม่เห็นความ โส โครก ของรัฐบาลทุบุรุษชื่อแม้ว....เมื่อรวมกับแฟคเตอร์ที่เพิ่งถอดสมการมา ฮ่าๆๆๆๆ ตีวงได้แล้ว ว่ามาจากใหน

ตามตัวไม่ยาก .....ไม่ยากจริงๆ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby หนูอ้อย » Sat May 28, 2011 6:56 am

Bookmarks wrote:
คนเป็นนายกเค้าทำกันแบบนี้หรือ เข้ามาบริหารบ้านเมืองคิดถึงแต่ประโยชน์ตัวเองเป็นหลัก
ไหนจะแก้กฎหมาย สร้างตึกสูงเกิน 9 ชั้นได้ หลังจากให้เมียมาซื้อที่ดินรัชดาแล้ว
ใช้อำนาจในมือ แก้กฎหมายตามใจชอบ เพื่อตัวเอง จนน่าเกลียด


ยังมีอีกเรื่องนะคะที่ใช้อำนาจมิชอบ
ท่านสุรเกียรติ์ก็ออกมาเป็นพยานให้แล้วด้วย
ใช้เอ็กซิมแบงก์ปล่อยเงินกู้ให้พม่ามาซื้อเทคโนโลยีเอไอเอสของตัวเอง(ที่อ้างเป็นของลูก 55)
ธนาคารไทยอุ้มโดยภาษีคนไทยไปปล่อยกู้ให้ประเทศที่ไม่มีความมั่นคงทุกด้าน
เออถ้าแม้วพาไปกู้ธนาคารสวิสไม่มายุ่งกับแบงก์ไทย
อย่างนี้สิจึงจะไม่รวมเรื่องนี้ไว้ในหัวข้อรวมแหลแม้ว
สู้ถวายหัว
User avatar
หนูอ้อย
 
Posts: 2095
Joined: Sat Mar 21, 2009 10:40 pm

Re: รวมแหลทักษิณ

Postby jaw » Sat May 28, 2011 8:53 am

Tam-mic-ra wrote:
jaw wrote:
Tam-mic-ra wrote:แจ๋วรู้อะไรก็บอกสิ่
จะรวมแหลทักษิณ ก็แฉเลย
รออ่านอยู่
ต้องเสียไม่เสียเพราะยังไง

ถ้าต้องเสีย
นี่แสดงว่าแจ๋วเก่งกว่า คตส. อีกแฮะเนี่ย


อ้าว แฉแล้วไง :lol: :lol: :lol:


ละอ่อนใสซื่อแบบนี้เลยถูกแก๊งค์ไอหล่อแหลหลอกเอาง่ายๆ
อย่าแถไถไปเรื่องอื่น

เฮีย ขอถามใหม่ชัดๆ

"แม้วขายลูกไป"
ต้องเสีย-ไม่เสียภาษี? เพราะยังไง ??

คตส. ทำไมไม่เล่นงานตรงธุรกรรมนี้ ??

หนูแจ๋วทำมาเนียนแค่ยกเอาข้อกฏหมายมาทำเป็นเท่ห์ๆ
แต่เฮียไม่รู้ หนูจะรู้เรื่องราวของรูปคดี มากกว่าคนอื่นไหม

:mrgreen: :D :P ตอบสิ่ตอบ อิๆ


ยังไงดีล่ะ ขอพูดตรงๆเลยนะ เราเจอเสื้อแดงมาเยอะ แต่หลังจากเจอหลักฐานพวกนี้เขาก็เงียบไป เพราะชัด ที่เราแปะให้คุณดูนี่ไม่ใช่เพิ่งหามานะ แต่เป็นข้อมูลเก่าของเราเองที่ใช้โต้กับเสื้อแดงมานานแล้ว ข้อมูลพวกนี้เราทำแล้วไม่เคยทิ้ง ก็เก็บๆไว้ มีโอกาสใช้ก็ค้นๆดู เจอก็ก๊อปมาแปะเท่านั้นเอง พูดง่ายๆว่าใช้มาหลายงาน เพิ่งมีงานนี้ กับแดงอย่างคุณที่ดูเหมือนจะกลายเป็นบางอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยข้อมูล ก็แปลกดีค่ะ
User avatar
jaw
 
Posts: 2796
Joined: Sun Dec 19, 2010 1:09 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ