ส่งฟ้องแดงโคราช....ขึ้นศาลคดีหมิ่นสถาบันย้อนคดีนี้อีกที“หางแดงถ่อย” จ่อคุก! ชาวโคราช/ทหารแจ้งจับหมิ่นเบื้องสูง 10 เมษายน 2552
Eปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์
เป็นเจ้าของ สถานีวิทยุชุมชนพลังแผ่นดิน ด้วย
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ชาวโคราชรวมพลังเข้าแจ้งจับ “หางแดงถ่อย” กับพวก ข้อหาหนักฐานหมิ่นเบื้องสูง-ผิดเกี่ยวกับความมั่นคงและหมิ่นประมาท โทษติดคุกถึง 15 ปี เหตุเหิมเกริมเผาโลงศพข้างย่าโม ระบุข้อความ “พระองค์ท่าน..., พลเอกเปรม…” พร้อมแจ้งดำเนินคดี ตร.เมืองโคราช ยกแผงทั้ง ผบก.-ผกก.-รอง ผกก.และ ตร.กว่า 10 นาย ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ปล่อยเสื้อแดงกระทำการไม่บังควร ด้าน ผกก.สภ.เมือง ระบุขอเวลารวบรวมหลักฐานและสอบปากคำเพิ่มเติมก่อนตั้งข้อหา ด้านทหารเสนาธิการ ทัพภาค 2 รุดแจ้งจับแกนนำม็อบหางแดงโคราชกับพวก หมิ่นเบื้องสูงเช่นกัน เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (10 เม.ย.) ที่สภ.เมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสันติ ถิระวงศ์ ทนายความสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และ นายกฤช ขวัญโภคา เลขาธิการสมัชชาฯ, นางสารภี บุญประตูชัย ผู้ประสานงานกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย พร้อมประชาชนชาวโคราชเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.นครราชสีมา (พธม.) กว่า 100 คน ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา
ทั้งนี้ เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดง “กลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม” นำโดย นางปภัสชนันท์ ฉิ่งอินทร์ หรือ “เจ๊แดง” ที่ก่อเหตุเผาโลงศพ ระบุข้อความข้างโลงศพว่า “พระองค์ท่าน..., พลเอกเปรม..., พันธมิตร รัฐบาลโจร... ชาตะ... มรณะ 8 เม.ย. 2552” และ มีภาพใบหน้า ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ อยู่ด้านข้าง ฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และความผิดเกี่ยวกับความมั่งคงและฐานหมิ่นประมาท พร้อม แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา, พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผู้กำกับ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา, พ.ต.ท.พิเชษฐ อรชุน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา, พ.ต.ท.ชลาสินธุ์ ชลาลัย รอง ผกก. ป.สภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 10 นาย กรณีไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ปฏิบัติ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชน มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
พ.ต.อ. บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ อรชุน สารวัตรเวร สภ.เมืองนครราชสีมา เป็นพนักงานสวบสวน รับแจ้งความพร้อมรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลเพิ่มเติม
ด้าน นายสันติ ถิระวงศ์ ทนายความที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ เปิดเผยว่า วันนี้ (10 เม.ย.) ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่าย ทั้งโลงศพ และ การกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช ที่เผาโลงศพในช่วงเย็น (16.00 น.) ของวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ซึ่ง การกระทำของ นางปภัสชนันท์ ฉิ่งอินทร์ กับ พวก ถือเป็นการกระทำที่เป็นปฎิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ขัดต่อจารีตประเพณีอันดีงามและขัดต่อกฎหมายของบ้านเมือง ต้องรับโทษทางอาญา ดังนี้คือ
ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผู้ใดประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี , ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113, 114 และ 115 , ความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามมาตรา 326
นอกจากนี้ ในเหตุการณ์ดังกล่าวปรากฏว่า ไม่มีข้าราชการตำรวจ เข้าไปดำเนินการปกป้อง คุ้มครองตามอำนาจหน้าที่แต่อย่างใด ทั้งที่ในวันเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกำกฎหมายมิได้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่ ชาติ พระมหากษัตริย์ ประธานองคมนตรี องคมนตรีและประชาชนโดยทั่วไป “ทางกลุ่มสมัชชาฯ และภาคีมวลชนคนโคราชฯ รวมถึงประชาชนชาวโคราชรู้สึกไม่สบายใจจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงาน สอบสวนให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้กระทำผิด รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วย” นายสันติ กล่าว ขณะ ที่ พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจจะ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ และขอเวลาในการรวบรวมข้อมูลหลักฐานและพยานเพิ่มเติมก่อนถึงจะสามารถบอกได้ ว่าจะตั้งข้อหาอะไรกับผู้ที่ถูกแจ้งความบ้าง จนถึงขณะนี้มีผู้เข้าแจ้งความกรณีดังกล่าว 2 รายแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะรวมเป็นคดีเดียวกัน และดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อ คืนที่ผ่านมา (9 เม.ย.) เวลาประมาณ 21.00 น. พ.อ.วีระภัทรพล บุญย์เชี่ยว ทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้นำเอกสารหลักฐาน เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พ.ต.ท.จุลฑิตย์ กิตติรงค์ พนักงานสอบสวน สารวัตรเวร สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินคดีกับ นางปภัสชนันท์ ฉิ่งอินทร์ หรือ “เจ๊แดง” กับพวกกลุ่มคนเสื้อแดง “กลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม” ที่ก่อเหตุเผาโลงศพ ระบุข้อความข้างโลงศพว่า “..., พลเอกเปรม...,พันธมิตร รัฐบาลโจร... ชาตะ... มรณะ 8 เม.ย.2552 ” เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา ในข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และ พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้ เพราะเห็นว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ผู้ใดประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี
ลำดับเหตุกาณ์....7 เมษายน 2552
ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม และเครือข่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จ.นครราชสีมา ได้ทำการเผาโลงศพจำลอง
9 เมษายน 2552พ.อ.วีระภัทรพล บุญย์เชี่ยว นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา
ให้ดำเนินคดีต่อปภัสชนัญญ์และพวก ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
10 เมษายน 2552
กลุ่มประชาชนชาวโคราช และพันธมิตรฯ จ.นครราชสีมา ในนามสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา และภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตยได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ให้ดำเนินกับ น.ส.ปภัสนันท์ ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เช่นกัน รวมถึงข้อหาความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113, 114 และ 115, ความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามมาตรา 326
นอกจากนี้ยังได้มีการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ
ให้ดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับ พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา, พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผู้กำกับ (ผกก.) สภ.เมืองนครราชสีมา, พ.ต.ท.พิเชษฐ อรชุน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครราชสีมา, พ.ต.ท.ชลาสินธุ์ ชลาลัย รอง ผกก. ป.สภ.เมืองนครราชสีมา และเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุดังกล่าวอีกจำนวน 10 นาย ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 2,000- 20,000 บาท
23 เมษายน 2552ศาล จังหวัดนครราชสีมา ได้อนุมัติหมายจับเลขที่ 122/2552 ลงวันที่ 23 เมษายน 2552 ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ กรณีก่อเหตุเผาโลงศพ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่บริเวณลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
24 เมษายน 2552เมื่อ เวลาประมาณ 14.00 น. ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม และนปช.จ.นครราชสีมา หรือกลุ่มคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา ได้เข้ามอบตัวกับ พ.ต.ท.ชัยวุฒิ เกียรติก้องกำจาย พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา
ฟ้องสุรชัยแซ่ด่าน ปราศรัยหมิ่นเบื้องสูง 21 ตค. 2553 15:00 น.

พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุรชัย แซ่ด่าน หรือ ด่านวัฒนานุสรณ์ อายุ 68 ปี แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
โดยคำฟ้องโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.51 จำเลย ได้ขึ้นเวทีปราศรัย นปช. ที่ตั้งอยู่ท้องสนามหลวง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กทม. ซึ่งได้กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งด้วยถ้อยคำที่เป็นการดูหมิ่นในประการที่น่าจะทำให้พระมหากษัตริย์ เสื่อมเสียเกียรติยศ ถูกดูหมิ่นประมาทและเกลียดชัง ด้วยเครื่องขยายเสียงต่อประชาชนโดยทั่วไปที่รับฟังการปราศรัยจำนวนมากโดย เจตนาจะทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพสักการะ ต่อมาวันที่ 10 มี.ค.52 จำเลยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ ซึ่งการกระทำของจำเลยเป็นความผิดต่อกฎหมาย โจทก์ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 41 ลงวันที่ 21 ต.ค.19 ข้อ 1
ศาลประทับรับคำฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.3444/2553 และนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 13 ธ.ค.นี้ เวลา 13.30 น.
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=475300สุรชัย....คนนั่งกลาง
"นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์(แซ่ด่าน)เดิมทีเป็นที่รู้จักดีในการเมืองช่วงหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา จากการเป็นสมาชิกคนสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทื่เคลื่อนไหวแบบยุทธวิธีกองโจรในป่า ซึ่งต่อมาได้รับโทษถึงประหารชีวิตอันเนื่องจากคดีฆาตกรรมจากการปล้นรถไฟ แต่ต่อมาได้รับการพระราชทานอภัยโทษในปี พ.ศ. 2531
ต่อมานายสุรชัยได้เข้าร่วมการเมืองในระบบรัฐสภาด้วยการเป็นสมาชิกพรรคความหวังใหม่ จากการชักชวนของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา จังหวัดนครศรีธรรมราช และผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
นายสุรชัย เข้าร่วมการชุมนุมขับไล่ คมช.ที่ท้องสนามหลวง และต่อมาได้แยกตัวออกมาจัดตั้งกลุ่ม "แดงสยาม" ร่วมกับนายจักรภพ เพ็ญแข"
สุรชัยอดีตนักโทษประหารชีวิต....ได้รับพระราชทานอภัยโทษ
ศาลปรับสุรชัย แซ่ด่าน ๕ หมื่นฐานหมิ่น “ชวน” ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วานนี้ ศาลอ่านคำพิพากษาคดีดำที่ อ.๙๙๑/๕๑ ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา ๗ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือแซ่ด่าน อายุ ๖๖ ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการกระจายเสียง
โดยโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๑ ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ที่ ๖ ส.ค.๒๕๕๐ เวลากลางคืน จำเลยได้ปราศรัยบนเวทีใส่ความหมิ่นประมาท นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ผู้เสียหาย ทำนองว่าเป็นคนดีตรงไหน แต่กลับเป็นคนผิดประเพณี ไม่เคารพสิทธิ ผิดศิลข้อ ๓ เป็นชู้กับเมียคนอื่นและข้อความอื่น ๆ ซึ่งล้วนเป็นเท็จ การกระทำของจำเลยทำให้ผู้ที่ได้ฟังคำปราศรัยเข้าใจว่าผู้เสียหายเป็นคนไมดี ประพฤติผิดศิลธรรม เป็นชู้กับภรรยาผู้อื่น ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ให้การรับสารภาพในชั้นศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยได้บรรเทาผลร้ายและสำนึกผิดต่อการกระทำโดยขอโทษและยอมรับผิดต่อผู้เสียหายเมื่อคำนึงถึงจำเลยซึ่งมีอายุ ๖๖ ปีเศษ ทั้งพฤติการณ์แห่งคดีไม่ร้ายแรง เห็นสมควรลงโทษสถานเบาและให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี
พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ และ ๓๒๘ ให้ปรับ ๕๐,๐๐๐ บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับจำเลย ๒๕,๐๐๐ บาทhttp://www.chaoprayanews.com/2009/07/10/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%95/