Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby นู๋เจ๋ง » Fri Nov 21, 2008 7:57 am

cp ใช้วิธีการแบบนี้มาตลอด
ใครเก่งก็เชิญ ไปให้ความรู้ช่วงแรกก็ให้เกียรติมากมาย
พอได้ความรู้แล้วก็ถีบ ไม่ให้ความสำคัญ ให้ออกไป...

เรื่องการขยายกิจการ ไม่ใช่เฉพาะ 7-11 ทุกธุรกิจก็ทำแบบนี้
เริ่มต้นจากให้คนในท้องถิ่นเปิด ถ้าทำได้ดี เจริญก้าวหน้า
ก็จะมาเปิดแข่ง แล้วก็จะบอกว่าที่เปิดใหม่นี้คือ บริษัทแม่ ตัวจริงมาเปิดเอง

แล้วก็บีบให้ร้านในท้องถิ่นปิดไปเองโดยปริยาย
ในทุกธุรกิจค่ะ
เมื่อรู้ว่าอะไรชั่วแล้วยังทำ..คนนั้นก็จะต้องรับกรรม..เราเชื่อว่ากรรมนั้นมีอยู่จริง...คนไม่เห็น เทวดาย่อมเห็น
User avatar
นู๋เจ๋ง
 
Posts: 962
Joined: Mon Oct 13, 2008 6:24 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Fri Nov 21, 2008 9:27 am

cameronDZ wrote:ลุงปุ จะไปดูไบ เหรอครับ

:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:




แต่ อืมม กระทู้นี้ค่อนข้างเงียบเชียบ ไม่มีโลนเข้ามาแทะกระทู้สักกะตัว

คาดว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะตะแบงไปทางไหนดี

ผมว่า เราเปลี่ยนเวบเสรีไทย จากเวบการเมือง เป็นเวบเศรษฐกิจก็ดีนะ

รับรอง ไม่มีโลนมากวน



วันที่ 24 พย. ผมจะไปญี่ปุ่น และ กลับ 30 พย.
ถ้าให้ผมเล่าให้ฟัง ส่วนหนึ่งจะเปิดโปงพฤติกรรมของ'พ่อบุญธรรม' ของ'บัตรเติมเงิน'
ดังนั้นพวก'บัตรเติมเงิน' พวก'หนอนฯ' คงคลานเข้ามาอ่าน เพื่อเก็บไปฟ้อง'พ่อบุญเติม' รับ'บัตรเติมเงิน' อีก....!!!
ถ้าเป็นอย่างนั้น อย่าหาว่าผมแกล้งโยนเศษอาหารให้น่ะ จะบอกให้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby TypeYourMind » Fri Nov 21, 2008 10:01 am

ปุถุชน wrote:
cameronDZ wrote:ลุงปุ จะไปดูไบ เหรอครับ

:mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:




แต่ อืมม กระทู้นี้ค่อนข้างเงียบเชียบ ไม่มีโลนเข้ามาแทะกระทู้สักกะตัว

คาดว่า ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จะตะแบงไปทางไหนดี

ผมว่า เราเปลี่ยนเวบเสรีไทย จากเวบการเมือง เป็นเวบเศรษฐกิจก็ดีนะ

รับรอง ไม่มีโลนมากวน



วันที่ 24 พย. ผมจะไปญี่ปุ่น และ กลับ 30 พย.
ถ้าให้ผมเล่าให้ฟัง ส่วนหนึ่งจะเปิดโปงพฤติกรรมของ'พ่อบุญธรรม' ของ'บัตรเติมเงิน'
ดังนั้นพวก'บัตรเติมเงิน' พวก'หนอนฯ' คงคลานเข้ามาอ่าน เพื่อเก็บไปฟ้อง'พ่อบุญเติม' รับ'บัตรเติมเงิน' อีก....!!!
ถ้าเป็นอย่างนั้น อย่าหาว่าผมแกล้งโยนเศษอาหารให้น่ะ จะบอกให้.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า



สวัสดีคับ ป๋าปุ
เมื่อวานเพิ่ง Register มีโอกาสได้อ่านข้อความป๋า มานานละ
ชอบความคิดป๋าปุคับ
ตรงดี ผมคนนึงที่เกลียดพวกหนอน กะแก๊งบัตรเติมเงินมากกกกกกกก
.. ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต
.. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม???
.. ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก
.. ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม
.. เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ย และกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ
User avatar
TypeYourMind
 
Posts: 764
Joined: Thu Nov 20, 2008 4:15 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ริวเซย์ » Fri Nov 21, 2008 11:30 am

เห็นทีต้องเลิกอุดหนุน7-Eleven ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างจริงจังแล้ว
หากดอกไม้แย้มบานในใจแห่งผู้คนที่ทุกข์ทน
ความสว่างส่องทางสับสนด้วยความรักที่มอบแก่กัน
ให้ดอกไม้นั้นแทนความงามแห่งน้ำใจ ยิ่งใหญ่
เมฆหมอกก็คงสลาย ด้วยดอกไม้คือความสดใสในแสงตะวัน
คือดอกไม้อันดีงาม คงอยู่ด้วยความสดใส
คือดอกไม้ของน้ำใจ งดงามเพียงใดให้แก่กัน
User avatar
ริวเซย์
Site Admin
 
Posts: 3386
Joined: Fri Oct 17, 2008 12:34 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby พลังเงียบ » Fri Nov 21, 2008 1:24 pm

shuu wrote:ไม่รู้สินะ model ธุรกิจมันเปลี่ยนไป เราจริงๆต้องประบัตัวด้วย พวกระบบ สหกรณ์ที่เคยมี ถ้าพวกผู้บริโภครวมตัวกัน ปันผลยุติธรรม ก็อยู่ได้ไปแล้ว กินกินเอง ใช้กันเองในชุมขมนี่แหละ
แทนที่จะปรับระบบ...ก็ปรับที่พฤติกรรมเราด้วย เราคงไปห้ามพวกมันเปิดไม่ได้
โลตัสไล่แล้วมันก็ทำเป็น Lotus Exp เอาแทน

อันนี้ ผมเห็นด้วยครับ......
ส่วนเรื่อง ระบบ สหกรณ์ ผมสังเกตุเห็นว่า ในหลายๆ จังหวัด นี่ เริ่มทำได้ดีแล้ว สามารถสู้กับของนอกได้เลย
ถ้าปรับ เรื่อง โนว์ฮาวต่างๆ อีกนิดหน่อยให้ใกล้เคียงกับ ห้างใหญ่ นี่สู้ได้เลยครับ :mrgreen: :mrgreen:
User avatar
พลังเงียบ
 
Posts: 565
Joined: Wed Oct 29, 2008 1:46 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Fri Nov 21, 2008 1:44 pm

เรื่องที่จะรณรงค์ไม่ให้ซื่อ หรือ หยุดไม่ให้พวก ร้านสะดวกซื้อ กับ ห้างค้าปลีก หยุดขยายสาขา มันคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับ

ปัญหานี้มันต้องพึ่งรัฐบาลจริงๆนั่นละครับ ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับ ร้านโชว์ห่วย ให้เป็นแบบที่ คุณVargarv กล่าวถึง อาเฮีย สมาคมค้าปลีก คนนั้น

อาจจะให้ตั้งในรูปของสหกรณ์ให้เป็นศูนย์กลางใหญ่ที่กรุงเทพ แล้วแตกสาขาตามจังหวัดต่างๆ(มีสถานเป็นองค์การของรัฐ - เอกชน ก็ว่าไป แต่รัฐต้องถือหุ้นเกิน 51% ขึ้นไป เพื่อให้มีอำนาจในการบริหาร)ที่จะทำการแจกจ่ายสินค้าไปตามร้านโชว์ห่วยต่างๆ เพื่อที่จะได้ต้นทุนที่เป็นธรรมขึ้น ไม่ต้องไปซื้อจากห้างค้าปลีกพวกนี้

ในรูปสหกรณ์ ที่หลายๆคนว่ามาข้างบนก็น่าสนใจครับ อาจจะเก็บภาษีในอัตราต่ำ และมีระบบเงินปันผลให้สมาชิกคืนด้วย

ถ้ารัฐบาลรณรงค์อย่างจริงจัง ออกโครงการปลุกจิตสำนึกรักชาติ ไทยช่วยไทย ผมว่าน่าจะมีทางไปได้นะครับ คงไม่ถึงกับต้องเอาชนะพวกร้านสะดวกซื้อหรอก

เอาแค่ให้มีอนาคตมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
Last edited by Sweet Chin Music on Fri Nov 21, 2008 1:59 pm, edited 1 time in total.
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby ปุถุชน » Fri Nov 21, 2008 1:52 pm

ริวเซย์ wrote:เห็นทีต้องเลิกอุดหนุน7-Eleven ห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่างจริงจังแล้ว



ถ้ารัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมร้านค้าปลีก ร้านขายของชำ ร้านโชวห่วยในเมืองไทยอย่างจริงจัง มีธรรมาภิบาล ไม่ช่วยเหลือ เปิดช่องทางให้กลุ่ม'ค้าปลีก' ของนายทุนพรรคฯเอารัดเอาเปรียบ ภายใต้การค้าเสรีขององค์การค้าโลก WTO ก็ทำได้....!!!

แต่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ไทย ทำหน้าที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์(ต่างประเทศ)ประจำประเทศไทยมากกว่า
จะเห็นว่ารัฐมนตรีต่างชาติ เอกอัครราชฑูตต่างชาติ นักธุรกิจต่างชาติ
เข้าพบรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์'อย่างว่า' มากกว่านักธุรกิจไทย ผู้ค้าปลีกไทย.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ประเทศไทยควรให้ค้าปลีกขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดยักษ์ และ ข้ามชาติ ประกอบธุรกิจในประเทศไทยอยู่ร่วมกัน เป็นกำลังพัฒนาเศรษฐกิจไทย ธุรกิจค้าปลีก ภายใต้กฏหมายและกำกับของกระทรวงพาณิชย์ หรือ หน่วยงานอื่นๆ เช่นเดียวกับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ได้บริหาร กำกับธุรกิจค้าปลีกภายในประเทศของเขา โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ทางค้าปลีก เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ญี่ปุ่น ที่มีการลงทุนค้าปลีกในประเทศไทยอยู่แล้ว....!!!

ที่ผ่านมารัฐมนตรีฉ้อฉล แสร้งโง่ ข้าราชการประจำกระทรวงพาณิชย์ที่ควรจะรู้จริง ควรจะชี้แจงให้รัฐมนตรีให้เข้าใจ ให้สำนึกถึงหน้าที่ตำแหน่ง แต่ไม่ได้กระทำอย่างนั้น ส่วนใหญ่ตอบสนองความต้องการของรัฐมนตรีที่มาจากนายทุนพรรคฯด้วยซ้ำไป....

รัฐมนตรีเหล่านี้ ข้าราชการเหล่านี้ แสดงความคิดเห็นเป็น'แผ่นเสียงตกร่อง'ว่า ประเทศไทยอยู่ภายใต้กฏ ระเบียบการค้าเสรีขององค์การค้าโลก จึงต้องปฏิบัติตามกฏกติกาด้วย การมีกฏหมาย การมี พรบ.ค้าปลีกไม่ได้ ทั้งที่ประเทศที่เอ่ยในคคห.นี้ ล้วนแต่เป็นประเทศที่สนับสนุนการค้าเสรี(เพราะได้เปรียบ)และเป็นสมาชิกองค์การค้าโลกWTO ทั้งสิ้น....

พวกเขาไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือ เข้าใจ ไม่ยอมแก้ไข ไม่ยอมออกฏหมายอย่างจริงจัง และ รวดเร็ว ยอมให้คนไทยที่'รู้ทัน' แสดงความรังเกียจ เหยียดหยามและประณามพฤติกรรมโฉดเขลา เพื่อรับใช้นายทุนพรรคฯ..... !!!
Last edited by ปุถุชน on Fri Nov 21, 2008 4:09 pm, edited 1 time in total.
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Fri Nov 21, 2008 2:21 pm

Shelmikedmu wrote:เห็นด้วยกับเนื้อหานะครับ แต่ว่าทางออกที่เสนอมันดูด้วนๆ ห้วนๆ ซึ่งการเสนอว่าให้บอยคอท
สินค้าและบริการของพวกโมเดอร์นเทรดนั้นไม่น่า จะเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวนะ

แล้วการที่สรุปมาลงที่ทุนสามานย์ ก็ไม่ค่อยเกี่ยวกันเลย เพราะ เรื่องความนิยมในโมเดอร์นเทรด
มันเป็นเรื่องของ "ธรรมชาติของผู้บริโภค" ที่จะวิ่งเข้าหา สินค้าที่ถูกกว่า และบริการที่ดีกว่าใน
ตัวเงินเท่าๆกัน สิ่งที่พูดมาในหัวข้อกระทู้มันเป็นเรื่องของ การเข้าใจในธรรมชาติของผู้บริโภค และ
กลยุทธ์การตลาด ที่จะสร้าง ให้เกิด 4P คือ ความแตกต่างในตัวสินค้า ราคา สถานที่ และโปรโมชั่น
การทำแบบนี้ ถ้าถูกหาว่า เป็นเรื่องของทุนสามานย์ มันออกจะไม่แฟร์

ถ้าอยากจะเปิดประเด็นเรื่องทุนสามานย์ น่าจะพูดถึงเรื่องของการเปิดเสรี ของห้างพวกนี้มากกว่า ที่ทำ
ให้ ห้างที่มีทุนมากกว่า สามารถสร้างต้นทุนสินค้าราคาส่งที่ถูกกว่าได้ โดยที่ ร้านค้าเล็กๆน้อยๆ ได้แต่ทำตาปริบๆ
แต่ นี่คือสัจจะธรรมไม่ใช่หรือ โชว์ห่วย ปกติก็ถูก ซาปั๊ว ที่ถือว่าเป็นทุนที่ใหญ่กว่าเอาเปรียบ ซาปั๊ว ก็เอามาจากยี่ปั๊ว
ที่มีทุนใหญ่กว่า

ตรงนี้ต่างหาก ที่ผมอยากฟังคนวิเคราะห์ ว่า ในโลกแห่ง ตลาดเสรี จะมีกฎเกณฑ์อะไรที่จะทำให้ ทุนขนาด
เล็ก สามารถ ดำรงอยู่ได้ โดยที่ไม่ถูก ทุนระดับใหญ่กลืนกิน (โดยที่ไม่ได้เป็นการไปอุ้ม อยู่ตลอดเวลา) ไม่ใช่แค่
เรื่องของแค่ โมเดอร์นเทรดแล้ว ถ้าอธิบายตรงนี้ได้ จะโยงมาเรื่องทุนสามานย์ ก็ไม่ว่า แต่ถ้าพูดถึงแค่เรื่อง โปรโมชั่น
ของพวก บิ๊กซี เซเว่น แล้วบอกว่า นี่คือความเลวร้ายของทุนสามานย์ นี่คนละเรื่องแล้ว



ที่คุณพูดมาก็ถูกนะครับ ทางออกของผมมันออกจะห้วนไปมาก เพราะเป็นธรรมดาที่ผู้บริโภคต้องแสวงหาสินค้าที่ราคาถูกกว่าอยู่แล้ว

มันคงเป็นไปได้ยากที่จะให้ผู้บริโภคไปอุดหนุนสินค้าตามร้ายโชว์ห่วย ที่มีราคาสูงกว่าร้านสะดวกซื้อหรือห้างค้าปลีก

แต่ในมุมกลับกัน ก็พวกนี้ไม่ใช่หรือ ที่เอาแต่ถีบ บีบ กฎหมายที่จะมาควบคุมห้างค้าปลีก (ฝ่ายนิติบัญญัติของเรา ก็ไม่ได้เรื่อง ไม่ได้คิดจริงจัง สำเหนียกต่อหน้าที่ของตนเองเลย มิหนำซ้ำยังโดดประชุมเป็นว่าเล่นอีก) ผมถึงอยากให้รัฐมาช่วยเหลืออย่างจริงๆจังไงครับ

ไม่ใช่ปล่อยให้แค่ คนไม่กี่คนที่ไม่มีอำนาจเต็มที่ มาเคลื่อนไหวอย่างที่เป็นอยู่ มันไม่ได้ผลเท่าไรหรอกครับ ห้างพวกนี้ไม่สะเทือนอยู่ละ

ส่วนเรื่องแผนการตลาดที่ผมมาโยงกับทุนนิยมสามานย์ ต้องขออภัยด้วยครับ จริงๆแล้วผมก็ต้องขอชมเชยนะครับ พวกนี้ที่วางแผนการตลาดได้ดีขนาดนี้

เช่น ออกใบปลิวแจกว่า วันนี้ถึงวันนี้ มีสินค้าราคาถูก ซึ่งก็ถูกจริงๆและทางห้างก็อาจจะขาดทุนกับสินค้าประเภทนั้น แต่ว่าถ้าคนที่มาซื้อของ ซื้อสินค้าอย่างอื่นที่ไม่ได้ลดราคาไปด้วย มันก็พอหักลบต้นทุน แถมยังกำไรมากขึ้นได้อีก

ซึ่งความคิดพวกนี้ ของร้านค้าปลีก จะเอามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับร้านโชว์ห่วยก็ได้ เพราะแผนการตลาดต่างๆที่ออกมา ก็เพื่อโน้มน้าวใจให้ผู้บริโภคเข้าไปอุดหนุนอยู่แล้ว
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Shelmikedmu » Fri Nov 21, 2008 9:32 pm

กฎเกณฑ์เท่านั้นจะเป็นตัวสร้างสมดุลย์ให้เกิดระหว่าง ค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่
การอ้าง เรื่องระเบียบการค้าตลาดเสรี นั้นเป็นแค่ข้ออ้างมากกว่า เพราะว่า จริงๆ แล้ว มันไม่ีมีตลาดเสรีที่ไหน
ที่ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย เสรียังไงก็ต้องอยู่ใต้กฎเกณฑ์ เพียงแต่ว่า วันนี้ยังไม่ค่อยมีใคร (หรือ
อาจจะมีก็ได้ แต่ผมคงตกข่าว ไม่ค่อยได้เห็นข้อเสนอดีๆ จากใครเลย) ที่เสนอให้รัฐออกกฎเกณฑ์
ที่เป็นรูปธรรม และยุติธรรม ต่อทั้งพวก โมเดอร์นเทรดและค้าปลีก

ส่วนร้านค้าโชห่วย ก็ต้องปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน ตรงนี้ต้องยอมรับจริงๆ
ว่าใครจะไปเข้าไปซื้อร้านที่มืดๆ ฝุ่นเขรอะ ทั้งที่ข้างๆร้านเป็น เซเว่น อีเลเว่น เปิดแอร์เย็นฉ่ำราคา
เ่่ท่ากัน

สรุปว่าา มันต้องมีสมดุลย์ของกฎเกณฑ์ และการปรับตัวตามยุคของผู้ค้าเอง ให้สามารถแข่งขันได้


ปล คิดมาถึงตรงนี้ผมก็แปลกใจเหมือนกัน ว่าทุกวันนี้ที่เราบอกกันว่า ค้าปลีกไปไม่รอด จริงๆ แล้ว
มันหมายถึง ค้าปลีกพวกโชห่วยเท่านั้นใช่มั้ย เพราะว่า พวกค้าปลีกเสื้อผ้าตามแผงลอย ทุกวันนี้ก็ยัง
ขายได้ขายดี คนเดินช๊อบตามข้างถนนเยอะแยะไปหมด หรือพวก ข้าวแกงข้างถนน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
ต่างๆ ก็ไม่ได้ถูก โมเดอร์นเทรด กลืนไปแม้แต่น้อย ตรงนี้ผมก็ไม่มีคำอธิบายเหมือนกัน ว่าทำไมถ้าใคร
พอเข้าใจพอยท์ของผม ช่วยอธิบายหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างสูง
User avatar
Shelmikedmu
 
Posts: 130
Joined: Tue Oct 28, 2008 5:51 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Vargarv » Fri Nov 21, 2008 9:53 pm

Shelmikedmu wrote:กฎเกณฑ์เท่านั้นจะเป็นตัวสร้างสมดุลย์ให้เกิดระหว่าง ค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่
การอ้าง เรื่องระเบียบการค้าตลาดเสรี นั้นเป็นแค่ข้ออ้างมากกว่า เพราะว่า จริงๆ แล้ว มันไม่ีมีตลาดเสรีที่ไหน
ที่ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรเลย เสรียังไงก็ต้องอยู่ใต้กฎเกณฑ์ เพียงแต่ว่า วันนี้ยังไม่ค่อยมีใคร (หรือ
อาจจะมีก็ได้ แต่ผมคงตกข่าว ไม่ค่อยได้เห็นข้อเสนอดีๆ จากใครเลย) ที่เสนอให้รัฐออกกฎเกณฑ์
ที่เป็นรูปธรรม และยุติธรรม ต่อทั้งพวก โมเดอร์นเทรดและค้าปลีก

ส่วนร้านค้าโชห่วย ก็ต้องปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนไปด้วยเหมือนกัน ตรงนี้ต้องยอมรับจริงๆ
ว่าใครจะไปเข้าไปซื้อร้านที่มืดๆ ฝุ่นเขรอะ ทั้งที่ข้างๆร้านเป็น เซเว่น อีเลเว่น เปิดแอร์เย็นฉ่ำราคา
เ่่ท่ากัน

สรุปว่าา มันต้องมีสมดุลย์ของกฎเกณฑ์ และการปรับตัวตามยุคของผู้ค้าเอง ให้สามารถแข่งขันได้


ปล คิดมาถึงตรงนี้ผมก็แปลกใจเหมือนกัน ว่าทุกวันนี้ที่เราบอกกันว่า ค้าปลีกไปไม่รอด จริงๆ แล้ว
มันหมายถึง ค้าปลีกพวกโชห่วยเท่านั้นใช่มั้ย เพราะว่า พวกค้าปลีกเสื้อผ้าตามแผงลอย ทุกวันนี้ก็ยัง
ขายได้ขายดี คนเดินช๊อบตามข้างถนนเยอะแยะไปหมด หรือพวก ข้าวแกงข้างถนน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
ต่างๆ ก็ไม่ได้ถูก โมเดอร์นเทรด กลืนไปแม้แต่น้อย ตรงนี้ผมก็ไม่มีคำอธิบายเหมือนกัน ว่าทำไมถ้าใคร
พอเข้าใจพอยท์ของผม ช่วยอธิบายหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างสูง


ก็อย่างที่คนข้างบนบอกแหละคับ ที่ว่า ในเงินที่เท่ากันซื้อของได้ถูกกว่า เป็นทางเลือกของผู้บริโภค
เคยมีคนบอกว่า ถ้าซ์้อในชุมชน ก็ไม่ต้องเสียค่าเดินทางไปก็อาจจะประหยัดกว่า
แต่คนไทย ชอบอะไร ฟู่ฟ่าหวืหวา แบบห้าง มีแอร์ เดิน ด้วยส่วนนึง
ซึ่ง อาจจะมีอะไรให้ช๊อปมากกว่า ที่จะมาเดิน ตามโชวห่วย หรือตลาดนัด

ถ้ารัฐบาลสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ แล้วก็มี ตลาดนัดทุกวัน สำหรับชุมชนๆ นึง ซึ่ง
ผมว่า ระบบตลาดนัด ที่มีก๋วยเต๋วย บะหมี่ ข้าว อาหารตามสั่ง ก็ยังดีอยู่นะคับ
ถ้ามีการจัดสถานที่ เป็นระบบระเบียบ ทางเดินสะอาดปลอดโปร่ง สินค้าราคาถุกยุติธรรม
เพราะสถานที่มีค่าเช่าที่ถูก คนก็ต้องมาช่วยอุดหนุน
ของในชุมชมก็จะขายได้ด้วยคับ

ยกตัวอย่างเช่น ตลาดและตลาดนัด ถนอมมิตรปาร์ค ตรงวัชรพล เป็นตัวอย่างที่ดี
คุณในย่านนั้น อยู่คอนโดแถวนั้น มาจับจ่ายของแถวนั้นกันหมด มีทั้ง ธนาคาร ตู้เอทีเอ็ม ของสดของแห้งขาย มือถือ นาฬิกา มีทุกอย่าง
ของกินเยอะมาก ตรงถนอมมิตรปาร์ค แต่ผมว่าไม่ใช่รัฐจัด แต่คงเป็นนายทุนเจ้าของที่ เดิมปรับปรุงสถานที่ใหม่ให้เป็นระเบียบหน้าเดิน ทันสมัยขึ้น
ด้านบนโปร่งสบาย ร้านโชว์ห่วยขายของทั่วๆ ไปก็เช่าที่ในนั้นขาย ซี่อิ้ว น้ำปลากะปิก็มี ขายเป็นร้านอยู่แถวนั้น ตกดึกาสามทุ่มสี่ทุ่มก็ ปิดร้าน
สบายเช่าเอาไม่ต้องใช้บ้านตัวเองคับ
ซึ่งถือว่า ครบวงจรมาก ซึ่งโลตัสแถวๆ นั้นเป็นโลตัส express ขนาดใหญ่ คนเดินไม่พลุกพล่านเท่าตลาดนี้เลยคับ เพราะตรงนั้นมี เสถียรธรรมสถาน อยู่ด้วยมั้ง (เกี่ยวไม้เนี่ย)

คุณสวีทชิน เฮีย นายกสมาคมค้าปลีกแห่งประเทศไทย ชื่อ เฮียบู้ ถามแม่มาแล้ว
ออกทีวีบ่อยๆ หัวล้านๆ ที่คอยวิ่งเต้นร่างกฏหมาย ข้อบังคับของการขยายสาขา ของ ห้างยักษ์ใหญ่

ผมว่านะ 7/11 มันจะดีถ้า CP ไม่มาโจมตีกันเองแบบนี้ รายได้ก็จะกระจายทั่วถึงจริงๆ

ในความคิดผม ถ้าจะทำ minimart ผมจะเลือก family mart ไม่ก็ ยี่ห้ออื่นคับ ไม่เลือก 7/11 เด็ดขาด
ปวดฟันงะ ถอดทีสองซี่ นี่ปวดมากๆ
User avatar
Vargarv
 
Posts: 1417
Joined: Tue Oct 14, 2008 10:03 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Vargarv » Fri Nov 21, 2008 10:18 pm

Shelmikedmu wrote:ปล คิดมาถึงตรงนี้ผมก็แปลกใจเหมือนกัน ว่าทุกวันนี้ที่เราบอกกันว่า ค้าปลีกไปไม่รอด จริงๆ แล้ว
มันหมายถึง ค้าปลีกพวกโชห่วยเท่านั้นใช่มั้ย เพราะว่า พวกค้าปลีกเสื้อผ้าตามแผงลอย ทุกวันนี้ก็ยัง
ขายได้ขายดี คนเดินช๊อบตามข้างถนนเยอะแยะไปหมด หรือพวก ข้าวแกงข้างถนน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
ต่างๆ ก็ไม่ได้ถูก โมเดอร์นเทรด กลืนไปแม้แต่น้อย ตรงนี้ผมก็ไม่มีคำอธิบายเหมือนกัน ว่าทำไมถ้าใคร
พอเข้าใจพอยท์ของผม ช่วยอธิบายหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างสูง


จากการสำรวจตลาดนัดแถวบ้าน ตลาดนัด หน้าบิ๊กซี เพชรเกษม (พวกเสื้อผ้ากระเป๋า) ค่าเช่าวันละ 600 บาท
ผมว่าเสื้อที่ถูกผลิตขึ้นมัน Overdemand กว่าความต้องการของคนปัจจุบันนะ
ผู้เข้าเล่นเกมธุรกิจเสื้อผ้า มันเยอะมากๆนะคับ
อย่างจากประมาณโดยสายตา ตลาดนัดบิ๊กซี มีผู้ค้าเสื้อผ้าไม่ต่ำกว่า 50 เจ้า
เจ้านึง มีเสื้ออยู่ประมาณ เฉลี่ย 100-500 ตัว Stock นี่ผู้ค้ารายย่อยนะคับ
ยังไม่รวม โบ๊เบ๊ ที่มีสต๊อกผ้ามากมาย
Platinum ห้างเดียวไม่ต่ำกว่า 2 ล้านตัว
ของที่สต๊อกต้นทุนคือเงิน ที่เสื่อมค่าลงทุกวัน ด้วย กฏ Time Value Of Money
เงินทุกบาท ถ้าสต๊อก มีค่าเสียโอกาศ ดอกเบี้ย และ ผลตอบแทนนะคับ
ถ้าอาหารผมไม่เถียงเลยคับว่าขายดีและยังขายได้อยู่
แต่เสื้อผ้า นี่ เถียงขาดใจเลยคับ

ที่พิมพ์มานี่คือ เสื้อผ้าไม่ใช่ว่าขายดีนะคับ ไม่ดีเลยอย่างแรงๆ
ไปคุยกะคนขายมา เค้าก้ปวดหัว ตามๆกัน
แค่ขออยู่รอดได้ไปวันๆ แหนะคับผม
ปวดฟันงะ ถอดทีสองซี่ นี่ปวดมากๆ
User avatar
Vargarv
 
Posts: 1417
Joined: Tue Oct 14, 2008 10:03 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Shelmikedmu » Fri Nov 21, 2008 10:37 pm

Vargarv wrote:
Shelmikedmu wrote:ปล คิดมาถึงตรงนี้ผมก็แปลกใจเหมือนกัน ว่าทุกวันนี้ที่เราบอกกันว่า ค้าปลีกไปไม่รอด จริงๆ แล้ว
มันหมายถึง ค้าปลีกพวกโชห่วยเท่านั้นใช่มั้ย เพราะว่า พวกค้าปลีกเสื้อผ้าตามแผงลอย ทุกวันนี้ก็ยัง
ขายได้ขายดี คนเดินช๊อบตามข้างถนนเยอะแยะไปหมด หรือพวก ข้าวแกงข้างถนน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ
ต่างๆ ก็ไม่ได้ถูก โมเดอร์นเทรด กลืนไปแม้แต่น้อย ตรงนี้ผมก็ไม่มีคำอธิบายเหมือนกัน ว่าทำไมถ้าใคร
พอเข้าใจพอยท์ของผม ช่วยอธิบายหน่อยจะเป็นพระคุณอย่างสูง


จากการสำรวจตลาดนัดแถวบ้าน ตลาดนัด หน้าบิ๊กซี เพชรเกษม (พวกเสื้อผ้ากระเป๋า) ค่าเช่าวันละ 600 บาท
ผมว่าเสื้อที่ถูกผลิตขึ้นมัน Overdemand กว่าความต้องการของคนปัจจุบันนะ
ผู้เข้าเล่นเกมธุรกิจเสื้อผ้า มันเยอะมากๆนะคับ
อย่างจากประมาณโดยสายตา ตลาดนัดบิ๊กซี มีผู้ค้าเสื้อผ้าไม่ต่ำกว่า 50 เจ้า
เจ้านึง มีเสื้ออยู่ประมาณ เฉลี่ย 100-500 ตัว Stock นี่ผู้ค้ารายย่อยนะคับ
ยังไม่รวม โบ๊เบ๊ ที่มีสต๊อกผ้ามากมาย
Platinum ห้างเดียวไม่ต่ำกว่า 2 ล้านตัว
ของที่สต๊อกต้นทุนคือเงิน ที่เสื่อมค่าลงทุกวัน ด้วย กฏ Time Value Of Money
เงินทุกบาท ถ้าสต๊อก มีค่าเสียโอกาศ ดอกเบี้ย และ ผลตอบแทนนะคับ
ถ้าอาหารผมไม่เถียงเลยคับว่าขายดีและยังขายได้อยู่
แต่เสื้อผ้า นี่ เถียงขาดใจเลยคับ


สงสัยผมมองในมุมที่ต่างกันออกไปมั้งครับ ผมมองในมุมประมาณว่า เสื้อผ้าแบบโนแบรนด์ ที่ห้อยในบิ๊กซีน่ะ
มันไม่ค่อยมีใครซื้อเลย ส่วนใหญ่เดินออกมาหน้าห้าง แล้วก็ไปเดินดูของตรงแผงลอย ตรงนี้ผมเลยว่ามันไม่ค่อย
โดนโมเดอร์นเทรด กระทบเท่าไหร่ ส่วนเรื่องของ Overdemand คงเป็นอีกประเด็น ที่แตกออกจากประเด็นโมเดอร์น
เทรดมั้งครับ เพราะทุกระดับการเทรด มันเล่นผลิตออกมาอย่างบ้าคลั่งอย่างนั้น (แต่ความจริงคนซื้อก็ซื้อแบบ Overdemand
เหมือนกันนะ ดูจากผู้หญิงออฟฟิศพักเที่ยงก็จะได้เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าติดมือมาตัวนึง จากตลาดนัดข้างออฟฟิศ)
User avatar
Shelmikedmu
 
Posts: 130
Joined: Tue Oct 28, 2008 5:51 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby numdee » Fri Nov 21, 2008 11:18 pm

เป็นไปได้มั๊ยครับว่าเมื่อถึงช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในปีหน้าของไทย จะทำให้พวกคอนวีเนี่ยนสโตว์ล้มลงแบบโดมิโน เพราะปัจจัยการบริโภคของคนต้องปรับเปลี่ยนอันเนื่องจากรายได้ลดลง มีอยู่ช่วงนึงที่เจ้าสัวซีพีออกมาโชว์วิชั่นส์ในเรื่องเศรษฐกิจว่าของต้องสูง
รายได้สูง ซึ่งผมมองว่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจของแกมากกว่าประโยชน์ต่อคนส่วนรวม ลองนึกดูนะครับว่า ถ้าคุณมีรายได้สูงขึ้นจริงในขณะที่เงินเดือนคุณเพื่มขึ้นแค่ส่วนเดียว แต่สินค้าทุกชนิดนั้นสูงขึ้นหมด เท่ากับว่าคุณต้องแบกรับภาระมากขึ้นกี่เท่าตัวหล่ะครับ เงินเดือนส่วนเดียวของคุณต้องไปจ่ายให้กับสินค้านับสิบชนิดหมดหากไม่รู้จักแบ่งสรรปันส่วน ในสมัยที่ผมเรียนหนังสือในวิทยาลัย อาจารย์ผมก็เคยทำนายไว้ว่าอีกหน่อย พวกร้านโชว์ห่วยต้องเปลี่ยนเป็นคอนวีเนี่ยนสโตว์หมด พอมาวันนี้ผมก็นึกถึงคำพูดท่านได้เสมอ จุดนึงที่เป็นข้อด้อยของร้านโชว์ห่วยคือ คุณไม่ได้จับต้องสินค้าหรือพิจารณาก่อนซื้อ และบางอย่างไม่ได้ติดราคากำกับไว้ โดยนิสัยของคนต้องการจับต้องหรือเลือกสินค้าจนถูกใจก่อนที่จะจ่ายตัง ดังนั้นถ้าปรับปรุงร้านให้ใกล้เคียงกับคอนวีเนียนสโตว์ก็น่าจะพออยู่ได้ดูจากหลายๆ ร้านเจ้าของก็ปรับปรุงชั้นวางสินค้า หาสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น ติดราคา มีเคาเตอร์คิดเงิน จะต่างกันตรงอาจจะไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง แต่ก็จะเซฟเรื่องการจ้างพนักงาน แต่จุดขายของโชว์ห่วยก็จะไม่ต่างจากคอนวีเนียนเลย ทางออกก็คือต้องหาจุดต่างในการเรียกคู่แข่ง อย่างเช่น อาจจะหาสินค้าเกษตรพื้นเมืองที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางมาขายโดยตรงมาเสริม หรืออาจจะทำขายเองเช่นในเซเว่นมี ขนมจีบซาละเปา ของร้านโชว์ห่วยอาจทำพวกน้ำพริกต่างๆพร้อมกินไว้จิ้มกินกับข้าวเหนียว เป็นต้น แล้วแต่แหล่งชุมชนนั้นๆ
ผมว่าตอนนี้คนไทยควรตื่นตัวกันเอง มากกว่าจะมารอการออกกฎหมายป้องกัน ส่วนนึงควรรณรงค์ให้ใช้ร้านค้าไทยมากกว่าร้านค้าจากต่างชาติ เช่นอุดหนุนสหกรณ์ในชุมชน (แต่สาขาน้อยเหลือเกินในกรุงเทพฯรู้สึกจะมีแค่สี่สาขา) ถ้าใครที่มีพื้นที่ใกล้สะดวกก็ควรอุดหนุน มันจะได้เกิดการสมดุลในเศรษฐกิจ
"หนึ่งเสียงที่จริงใจ ดังกว่าเสียงมหาชน"
User avatar
numdee
 
Posts: 446
Joined: Tue Oct 14, 2008 12:46 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Sat Nov 22, 2008 12:17 am

เรื่องอาหารขอตัดเป็นไปอันดับแรกเลยนะครับ เพราะว่าห้างค้าปลีก รวมทั้งร้านสะดวกซื้อ รสชาติอาหารสู้พวกร้านตามสั่ง - ข้าวแกง ที่ทำสดๆไม่ได้เลย

จึงเชื่อว่า ร้านอาหารไม่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้มาก และไม่น่าจะมีปัญหาในส่วนนี้แต่อย่างใด (เห็นแย้งได้นะครับ)

ส่วนเรื่องเสื้อผ้าที่คุณว่ามานั้น ของพวกนี้ผมว่า คนขายน่าจะไปรับของมาจาก แพลตินั่ม สำเพ็งมากกว่า ซึ่งก็ได้ราคาส่งอยู่แล้ว หักกับค่าเช่า น่าจะได้กำไรอยู่บ้าง

ตลาดเสื้อผ้าพวกนี้ ผมเชื่อว่าราคาคงถูกกว่าในห้างเสียส่วนใหญ่ ก็เป็นทางเลือกของผู้บริโภคทางหนึ่งอะครับที่จะหาของถูก ซื้อได้...

ผลกระทบนั้น มันแล้วแต่บางเจ้านะครับ เห็นบางร้านก็เอาพวกของจุกจิก อย่าง แหวน ต้มหู ที่รัดผม ฯลฯ มาขายแทรกบ้าง อาจจะเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านส่วนหนึ่ง

แต่ถ้าตลาดมันมีร้านขายเสื้อผ้ามากกว่าคนซื้ออยู่แล้ว ผลกระทบยังไงๆก็ต้องได้รับอยู่ดีครับ อยู่ที่ว่าคนขายจะมีอะไรใหม่ๆ ที่หาได้ยากในตลาดนั้นมาขายหรือเปล่า
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Sat Nov 22, 2008 12:22 am

numdee wrote:เป็นไปได้มั๊ยครับว่าเมื่อถึงช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นในปีหน้าของไทย จะทำให้พวกคอนวีเนี่ยนสโตว์ล้มลงแบบโดมิโน เพราะปัจจัยการบริโภคของคนต้องปรับเปลี่ยนอันเนื่องจากรายได้ลดลง มีอยู่ช่วงนึงที่เจ้าสัวซีพีออกมาโชว์วิชั่นส์ในเรื่องเศรษฐกิจว่าของต้องสูง
รายได้สูง ซึ่งผมมองว่าเป็นประโยชน์กับธุรกิจของแกมากกว่าประโยชน์ต่อคนส่วนรวม ลองนึกดูนะครับว่า ถ้าคุณมีรายได้สูงขึ้นจริงในขณะที่เงินเดือนคุณเพื่มขึ้นแค่ส่วนเดียว แต่สินค้าทุกชนิดนั้นสูงขึ้นหมด เท่ากับว่าคุณต้องแบกรับภาระมากขึ้นกี่เท่าตัวหล่ะครับ เงินเดือนส่วนเดียวของคุณต้องไปจ่ายให้กับสินค้านับสิบชนิดหมดหากไม่รู้จักแบ่งสรรปันส่วน ในสมัยที่ผมเรียนหนังสือในวิทยาลัย อาจารย์ผมก็เคยทำนายไว้ว่าอีกหน่อย พวกร้านโชว์ห่วยต้องเปลี่ยนเป็นคอนวีเนี่ยนสโตว์หมด พอมาวันนี้ผมก็นึกถึงคำพูดท่านได้เสมอ จุดนึงที่เป็นข้อด้อยของร้านโชว์ห่วยคือ คุณไม่ได้จับต้องสินค้าหรือพิจารณาก่อนซื้อ และบางอย่างไม่ได้ติดราคากำกับไว้ โดยนิสัยของคนต้องการจับต้องหรือเลือกสินค้าจนถูกใจก่อนที่จะจ่ายตัง ดังนั้นถ้าปรับปรุงร้านให้ใกล้เคียงกับคอนวีเนียนสโตว์ก็น่าจะพออยู่ได้ดูจากหลายๆ ร้านเจ้าของก็ปรับปรุงชั้นวางสินค้า หาสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น ติดราคา มีเคาเตอร์คิดเงิน จะต่างกันตรงอาจจะไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมง แต่ก็จะเซฟเรื่องการจ้างพนักงาน แต่จุดขายของโชว์ห่วยก็จะไม่ต่างจากคอนวีเนียนเลย ทางออกก็คือต้องหาจุดต่างในการเรียกคู่แข่ง อย่างเช่น อาจจะหาสินค้าเกษตรพื้นเมืองที่ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางมาขายโดยตรงมาเสริม หรืออาจจะทำขายเองเช่นในเซเว่นมี ขนมจีบซาละเปา ของร้านโชว์ห่วยอาจทำพวกน้ำพริกต่างๆพร้อมกินไว้จิ้มกินกับข้าวเหนียว เป็นต้น แล้วแต่แหล่งชุมชนนั้นๆ
ผมว่าตอนนี้คนไทยควรตื่นตัวกันเอง มากกว่าจะมารอการออกกฎหมายป้องกัน ส่วนนึงควรรณรงค์ให้ใช้ร้านค้าไทยมากกว่าร้านค้าจากต่างชาติ เช่นอุดหนุนสหกรณ์ในชุมชน (แต่สาขาน้อยเหลือเกินในกรุงเทพฯรู้สึกจะมีแค่สี่สาขา) ถ้าใครที่มีพื้นที่ใกล้สะดวกก็ควรอุดหนุน มันจะได้เกิดการสมดุลในเศรษฐกิจ



เรื่องที่ว่า ห้างค้าปลีก จะพากันล้มนั้น ตอนนี้ผมยังไม่เห็นแววล้มเลยนะครับ หนำซ้ำยังอาจจะขายดีด้วยซ้ำ เนื่องจากคนจะไปช็อปแล้วมาตุนไว้ เพราะเห็นของถูก เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนม นม เนย น้ำตาล เกลือ น้ำปลา ฯลฯ มากินเวลาเงินช็อต นะครับ โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งฯ เนี่ย ผมไม่เห็นเลยร้านไหนจะขายถูกกว่า ห้างฯ พวกนี้ (ผมก็ไปซื้อมาไว้ แหะๆ)

ส่วนเรื่องทางแก้ปัญหา ลองเสนอๆกันมาดูก็ดีครับ
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby numdee » Sat Nov 22, 2008 12:44 am

ห้างค้าปลีกที่คุณ sweet chin หมายถึงพวกโลตัส หรือ เซเว่น ครับ ของผมคิดว่าพวกเซเว่น เพราะพวกนี้บวกราคาไว้เยอะอยู่ และต้นทุนก็ต้องแบกเยอะไหนค่าไฟ ค่าพนักงาน ค่าอะไรอีกหลายๆอย่าง ก็เลยต้องเปิดตลอด 24 ชม.เพื่อรับลูกค้าให้มากที่สุด แต่ถ้าวันใดลูกค้าที่เป็นพนักงานจากต่างจังหวัดต้องตกงานกันเพราะสภาพเศรษฐกิจ ก็จะมีส่วนนึงกลับถิ่นฐานตัวเอง เหมือนตอนต้มยำกุ้ง (เซเว่นชอบเปิดตามแหล่งที่ทำงานเหรอตามแฟลต คอนโด แหล่งชุมชน) กำลังซื้อย่อมตกลงและเป็นอย่างนี้ก็ต้องปิดกิจการเป็นธรรมดาครับ
"หนึ่งเสียงที่จริงใจ ดังกว่าเสียงมหาชน"
User avatar
numdee
 
Posts: 446
Joined: Tue Oct 14, 2008 12:46 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Sat Nov 22, 2008 9:59 am

numdee wrote:ห้างค้าปลีกที่คุณ sweet chin หมายถึงพวกโลตัส หรือ เซเว่น ครับ ของผมคิดว่าพวกเซเว่น เพราะพวกนี้บวกราคาไว้เยอะอยู่ และต้นทุนก็ต้องแบกเยอะไหนค่าไฟ ค่าพนักงาน ค่าอะไรอีกหลายๆอย่าง ก็เลยต้องเปิดตลอด 24 ชม.เพื่อรับลูกค้าให้มากที่สุด แต่ถ้าวันใดลูกค้าที่เป็นพนักงานจากต่างจังหวัดต้องตกงานกันเพราะสภาพเศรษฐกิจ ก็จะมีส่วนนึงกลับถิ่นฐานตัวเอง เหมือนตอนต้มยำกุ้ง (เซเว่นชอบเปิดตามแหล่งที่ทำงานเหรอตามแฟลต คอนโด แหล่งชุมชน) กำลังซื้อย่อมตกลงและเป็นอย่างนี้ก็ต้องปิดกิจการเป็นธรรมดาครับ



ห้างค้าปลีก ผมจัดว่าเป็นกลุ่มของ โลตัว บิ๊กซี คาร์ฟู ครับ ส่วนร้าน คอนเวอร์เนี่ยนสโตร์ ผมว่าเป็นพวก 7-11 , lotus express พวกนี้อะครับ

เรื่องที่คุณว่ามานั้น ต้นทุนเซเว่นผมว่าต้นทุนไม่เยอะนะครับ เพราะของก็ไม่ต้องหามาเอง มีคนซื้อที่เข้าไปวาง

ซื้อที่วางได้เกือบครบทุกสาขา ราคาค่าวางน่าจะสูงพอสมควร พวกว่ารายได้จากพวกนี้หลักๆ น่าจะทำให้ 7-11 ได้กำไรสูงพอสมควรครับ
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Shelmikedmu » Sat Nov 22, 2008 10:30 am

จะลองสรุปปัญหาดูให้นะครับ เพื่อที่จะให้มีบทสรุปของกระทู้ ถ้าไม่เห็นด้วยลองแย้งมาละกัน
จะได้ตัดไปทีละประเด็น คือปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจาก

1. โชว์ห่วยไม่ยอมปรับตัวตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป หรือปรับตัวไม่ทัน เพราะ
2. ทุนสามานย์ทั้งหลาย ทั้งทุนข้ามชาติ ทุนไทยขนาดใหญ่ พากัน ทุ่มตลาดในช่วงสั้นๆ
เกิดโมเดอร์นเทรด ราวกับดอกเห็ด ในเวลาอันสั้น
3. ทุนขนาดใหญ่สามารถกักตุนสินค้าได้ มีอำนาจต่อรอง กับผู้ผลิตโดยตรง สามารถสร้างต้นทุน
สินค้าที่ถูกกว่าผู้ค้าปลีกรายย่อยมากมาย
4. พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค (ภาษาชาวบ้านเรียกติดหรู)
5. นอกจากโชห่วยต้องแข่งกับโมเดอร์นเทรดแล้ว ยังต้องมาเจอ คอนวิเนี่ยนสโตร์จองเวรอีก

ทีนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร ข้อไหน ที่ กม พอจะเข้าไป สร้างกฎเกณฑ์ ให้เกิดความเป็นธรรมได้
อยากขอคำชี้แนะดูเหมือนกัน
User avatar
Shelmikedmu
 
Posts: 130
Joined: Tue Oct 28, 2008 5:51 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby tabo » Sat Nov 22, 2008 2:10 pm

ตราบใดที่คนไทยยังมีนิสัย รักสบาย, เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องแบบนี้จะยังมีอยู่ค่ะ
User avatar
tabo
 
Posts: 5
Joined: Thu Oct 16, 2008 2:08 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Vargarv » Sat Nov 22, 2008 2:29 pm

เอ้าต่อ
อย่างเซเว่น ถ้าเป็นของคนธรรมดาอาจจะล้มเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี
แต่เซเว่นของ ทาง CP มาเปิดเองล้มยากครับ เค้าเอารายได้ สาขาอื่นช่วยสาขารายได้น้อยอยู่

ยกตัวอย่าง McDonald หน้าเอแบค วันๆ ขายไม่ค่อยได้ ทั้งวันคิดว่ามีคนกินเบอร์เกอร์ไม่เกิน 20 ชิ้นหรอกครับ
ที่เหลือก็น้ำ โต๊ะละแก้ว เฟรนฟราย โต๊ะละถุง นั่งกันห้าคน ติวหนังสือไปทั้งวัน แต่สาขานี้ก็ยังอยู่ได้ ไม่เจ๋ง
จารย์บอกว่าเป็นกลยุทธ ที่ปิดทาง เจ้าอื่นเช่น A&W กับ ChesterGrill สองเจ้าเปิดข้างแม็คเจ๊งไปหมด แม็คยังอยู่คับ
ถึงขายได้น้อย แต่ก็เปิดๆไว้ ปิดทางเจ้าอื่น แต่กำไรไม่มากใช้กำไรสาขาอื่นช่วย

อีกตัวอย่าง สตาร์บัค ถ้าไปสังเกตุ ที่ แยก ราชประสงค์แหล่ง คนเมือง
รอบอนาบริเวณ นั้น มีสตาร์บัค มากกว่า 10 สาขานะคับ
กลยุทธ ป่าล้อมเมือง คับ ต่อให้คุณมีไอเดีย เริดหรู เปิดกาแฟเทพแค่ไหน คนก็ไม่เข้า เข้าสตาร์บัคหมด
เค้าปิดทางคนเดินผ่าน ทุกทาง ตั้งแต่ หลังสวน หน้าเซ็นทรัลชิดลม หน้าโซโก้ ในเซ็นทรัลเวิรด์ ไม่ก็พาราก้อน แห่งเดียวมี สี่สาขา
ไม่ใช่ทุกสาขาจะขายได้หมด แต่ทุกสาขาช่วยกันดูดลูกค้าเข้าบริษัท

กรณี 7/11 ก็เหมือนกัน อนาบริเวณ ล้อมรอบ ชุมชนชุมชนหนึ่ง สมมุติ ในชุมชน+รอบๆ มี 10 สาขา และเป็น CP ดูแลทั้งหมด
ไม่ทุกสาขาหรอก ที่ขายดีคับ แต่แต่ กำไรรายได้ เค้าน่าจะถัวเฉลี่ยกันได้ เพราะ เจ้าของเดียวกันหมด แถมได้มา ด้วยการ
ไปซื้อคืนครึ่งราคา ต้นทุนการเปิด ก็น้อยลงไปอีกคับ ถือว่าแต่ละสาขาต้นทุนทางธุรกิจน้อย จริงไหมคับ
แต่ สมมุติ 2 ใน 10 เป็นของบุคคลธรรมดา ก็ต้องไม่ไหวเป็นธรรมดา เพราะเป็นประชาชนตาดำๆ ฐานะปานกลางอยากลงทุน
คนเข้าเฉลี่ยไปใน 10 สาขา ซรวยเลย รายได้น้อยอยู่ต่อไม่ไหวก็ต้อง ปิดเป็นะธรรมดา ไม่เหมือน ทุนใหญ่อย่าง CP
อยู่ได้ เพราะมีทุน อำนาจต่อรอง supply เครดิตอย่างที่ผมบอกพวก ห่า นี่ ครึ่งปี เลยคับ
LH ก็ครึ่งปีนะ Land & House มันถึงอยู่รอดได้ถึงทุกวันนี้ไม่เคยเจ๊งไง LH

ถ้าเป็นกลยุทธจีนเค้าเรียก หลี่ตายแทนถาว
คือเอาร้านไปตั้งในเขตที่ขายไม่ดี แต่ก็ดีกว่าที่เค้าไปเข้าเจ้าอื่นจริงไหมคับ
กลยุทธนี้ใช้กับทุกอย่าง เช่น Nokia ยิลเล็ต
Nokia ออก รุ่นใหญ๋ๆ มาก่อน ฟังชั่นครบครัน 28000
หนึ่งเดือนต่อมาออกรุ่นเล็ก ตัดไปหนึ่งฟังชั่น 14000 โอ้วถูกลงครึ่งนึง ตัดฟังชั่น ถ่ายรูปทะลุกระโปร่งออกไป คุ้มคนก็แห่ไปซื้อกัน

ยิลเล็ท สังเกตุง่ายสุด
ใบมีดแพ็ค 5 อันขาย 250
แต่ด้ามบวก 3 ใบมีดขาย 320 (เหตุสมมุติ)
คนทั่วไปก็จะคิด "เฮ้ยคุ้มว่ะ เพิ่ม 70 บาทได้ด้ามด้วย" เหล่าหรอก เค้าหลอกขายด้ามนายตางหาก
ใบมีดก็อยู่บนหิ้งไปนานแสนนาน ยอมให้มีดตายและขายไม่ได้ไป เพื่อขายด้ามที่ราคาแพงกว่าออก
ปวดฟันงะ ถอดทีสองซี่ นี่ปวดมากๆ
User avatar
Vargarv
 
Posts: 1417
Joined: Tue Oct 14, 2008 10:03 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Solidus » Sat Nov 22, 2008 6:14 pm

ไอ้เรื่องถัวเฉลี่ยเนี่ยมันไม่เฉพาะรายได้ แต่มันรวมถึงพวกสินค้าที่ขาย โดยเฉพาะพวกสินค้าที่มีอายุสั้น สาขาไหนขายไม่ดีใกล้หมดอายุก้ขนไปให้สาขาที่ขายดีแล้วแปะลดราคาหน่อย เจอวิธีแบบนี้พวกโชห่วยยังไงก็สู้ไม่ได้
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Sat Nov 22, 2008 6:42 pm

แผนการตลาดพวกนี้ ส่วนใหญ่ใช้จิตวิทยา มาช่วยทั้งนั้นละครับ เพื่อให้คนเราคิดไปเองว่า ของนั้นเราซื้อได้ในราคาถูกแล้ว

ซึ่งความเป็นจริงมันอาจจะไม่ใช้สิ่งที่เราคิดก็เป็นไปด้วย กลยุทธ์พวกนี้เห็นได้ง่ายๆตามห้างค้าปลีกด้วย เช่น ออกใบปลิวบอกว่าสินค้าใดมีลดราคา

หรือขายสินค้ายอดนิยมบางอย่างที่ต้นทุนไม่สูงมากแบบยอมขาดทุน แล้วไปถั่วเฉลี่ยในสินค้าอื่นที่ไม่ได้ลดราคาไปด้วย(หักลบแล้วยังไงก็กำไร)

เช่นขนมถุงละ 20 บาท ซื้อถุงเดียวราคา 20 บาท / ซื้อ 2 ถุงราคา 30 ซึ่งจริงๆแล้วก็ขาดทุน แต่ไม่มีใครหรอกเข้าห้างแบบนี้ทั้งที เพื่อมาซื้อขนม

มันก็ต้องหยิบอย่างอื่นไปด้วยอยู่แล้ว ซึ่งในที่สุดห้างฯ ก็ได้กำไรจาดพวกนี้นละ ยิ่งมีโปรโมชั่นซื้อสินค้าในเครือบริษัทนี้ครบ ... บาท จะได้ของแถมเป็นแก้ว นาฬิกา หมอน ฯลฯ พวกนี้เป็นกลยุทธ์การขายที่มีแต่ห้างค้าปลีก หรือ ร้านคอนเวอร์เนี่ยนสโตร์(สะดวกซื้อ) เท่านั้นละครับที่ทำได้

กลับไปที่ร้านโชว์ห่วยอีกครั้งนั้น เห็นได้ว่า ถ้าไม่รวมตัวกันจริงๆจัง มี สหกรณ์ หรือ องค์กร ใดเป็น ศูนย์กลางในการรับ - ส่งสินค้า ก็จะไม่มีอำนาจต่อรองแบบพวกห้างค้าปลีก ร้านคอนเวอร์เนี่ยนสโตร์ เด็ดขาด

เพราะยังไงแล้ว ของที่วางขายตามร้านโชว์ห่วย ส่วนใหญ่มันก็รับมาจากห้างค้าปลีกอยู่ดีนั่นละ ไม่มีใครหรอกบ้าไปซื้อของประเภทเดียวกันแต่แพงกว่ามา

เพราะฉะนั้น ทำยังไงที่ร้านโชว์ห่วยจะมีอำนาจต่อรองในการเจรจากับ ผู้ผลิต เพื่อที่จะเป็นศูนย์การในการแจกจ่ายสินค้าไปยังร้านโชว์ห่วยได้ ด้วยต้นทุนหรือถูกกว่าราคาเดียวกับห้างค้าปลีก ร้านคอนเวอร์เนี่ยนสโตร์ รับมา

ผมว่าการจะตั้งศูนย์กลางแบบนี้ขึ้นมาได้ รัฐบาลก็ต้องมีส่วนผลักดันอย่างจริงๆจังๆอยู่แล้วครับ ไม่งั้นก็ไปไม่รอดหรอก และต้องให้อำนาจรัฐเหนือเอกชน ไปให้ศูนย์กลางพวกนี้ด้วย เพื่อใช้ในการเจรจาต่อรอง

และก็ไม่ควรเอาเปรียบ ผู้ผลิต จนเกินไปนัก อาจจะลดเครดิตลงมา หรือ มีการให้สิทธิพิเศษทางภาษีบางประการ หากมาขายให้ ศูนย์กลาง ที่ว่านี้แบบราคาพิเศษ

เรื่องจะมีคนซื้อหรือไม่ซื้อร้านโชว์ห่วยนั้น ถ้ามีการปลุกสำนึกรักชาติ ไทยช่วยไทย กันจริงๆ ผมว่าก็มีคนซื้ออยู่ดีนั้นละครับ การปรับปรุงภาพลักษณ์ร้านโชว์ห่วย ไม่ได้ยากจนเกินไปนัก หากว่าร้านนั้นมีของถูก(ถูกกว่าห้างค้าปลีก ร้านคอนเวอร์เนี่ยนสโตร์ ยิ่งดี)มาวางอยู่ ...
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Solidus » Sat Nov 22, 2008 8:04 pm

Sweet Chin Music wrote:
เช่นขนมถุงละ 20 บาท ซื้อถุงเดียวราคา 20 บาท / ซื้อ 2 ถุงราคา 30 ซึ่งจริงๆแล้วก็ขาดทุน แต่ไม่มีใครหรอกเข้าห้างแบบนี้ทั้งที เพื่อมาซื้อขนม
ผมไง พอดีมันอยู่ใกล้บ้าน แวะซื้อ ตากแอร์เสร็จก็เดินเข้าบ้าน :lol: :lol:
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Sweet Chin Music » Sat Nov 22, 2008 8:29 pm

Solidus wrote:
Sweet Chin Music wrote:
เช่นขนมถุงละ 20 บาท ซื้อถุงเดียวราคา 20 บาท / ซื้อ 2 ถุงราคา 30 ซึ่งจริงๆแล้วก็ขาดทุน แต่ไม่มีใครหรอกเข้าห้างแบบนี้ทั้งที เพื่อมาซื้อขนม
ผมไง พอดีมันอยู่ใกล้บ้าน แวะซื้อ ตากแอร์เสร็จก็เดินเข้าบ้าน :lol: :lol:



แหะๆๆ เอาแบบส่วนใหญ่สิครับ ใกล้บ้านอะรอดไป ทำได้

แต่ส่วนใหญ่มันทำไม่ได้ :twisted:
ทำดีได้ทำดี ทำชั่วได้ทำชั่ว
User avatar
Sweet Chin Music
Moderator
 
Posts: 3892
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:40 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby shuu » Sun Nov 23, 2008 1:13 am

เซเว่น เป็นเครือข่ายครับ ไม่ล้มง่ายๆหรอกเพราะมันเป็น Franchise
เขาก็มีกลยุทธรับมือของเขากับภาวะ ศก.
โปรโมชั่นเยอะขึ้น การต่อรองเยอะกว่าร้านโชวห่วย

พวกขายผ้าตามแผงลอยอย่าคิดว่าขายได้อย่างเดียวนะครับ ลองคิดดูดีๆ ขายได้สักเท่าไหร่เชียว ค่าครองชีพ กินวันเดียวก็หมดแล้วครับ ขายเป็นวันๆ อยู่ไปวันๆล่ะพวกขายผ้า ขายของริมถนนน่ะ..
ส่วนพวกธุรกิจถั่วงอกแบบร้านกาแฟ ร้านผ้าตามสยาม จตุจักร อยู่ได้ไม่นานหรอกครับ แปปๆก็เจ๊งแล้ว know-how ไม่มี คิดถึง supply มากกว่า demand อ่ะ

ลองอ่านนี่สิครับ
http://www.bangkokbizweek.com/20070903/ ... 49625.html
User avatar
shuu
 
Posts: 510
Joined: Fri Oct 24, 2008 4:48 pm
Location: กรุงเมพ

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Killer » Sun Nov 23, 2008 9:06 am

นึกแล้วว่า จะต้องมีอดีตผู้บริหารห้างสรรพสินค้าพื้นเมือง ออกมาเสียบในกระทู้นี้ โชว์พลังสติปัญญาอันคร่ำครึไดโนเสาร์

แทนที่จะหยิบฉวยโอกาสจังหวะนี้ ศึกษาหาทางหนีทีไล่ ว่าเหตุใดเขาจึงประสบความสำเร็จ เขาใช้เทคโนฯอะไรในการบริหาร จึงสามารถรุกตลาด ได้รวดเร็วขนาดนี้

คนพวกนี้กลับมองเห็นแต่ปัญหา หลับหูหลับตาอิจฉาตาร้อน ริษยาในความสำเร็จแล้วก็มานั่งตีอกชกหัว สะบัดมือตบ ปลอบใจตัวเองหน้ากระจก
User avatar
Killer
 
Posts: 520
Joined: Mon Oct 13, 2008 4:15 pm

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby shuu » Sun Nov 23, 2008 5:11 pm

Killer wrote:นึกแล้วว่า จะต้องมีอดีตผู้บริหารห้างสรรพสินค้าพื้นเมือง ออกมาเสียบในกระทู้นี้ โชว์พลังสติปัญญาอันคร่ำครึไดโนเสาร์

แทนที่จะหยิบฉวยโอกาสจังหวะนี้ ศึกษาหาทางหนีทีไล่ ว่าเหตุใดเขาจึงประสบความสำเร็จ เขาใช้เทคโนฯอะไรในการบริหาร จึงสามารถรุกตลาด ได้รวดเร็วขนาดนี้

คนพวกนี้กลับมองเห็นแต่ปัญหา หลับหูหลับตาอิจฉาตาร้อน ริษยาในความสำเร็จแล้วก็มานั่งตีอกชกหัว สะบัดมือตบ ปลอบใจตัวเองหน้ากระจก

มันมาแล้วkiller
เขียนบล็อกเห่าคนเดียว ได้ยินคนเดียว เห่าในถ้ำ สนุกไหมจ้ะ :P :P
User avatar
shuu
 
Posts: 510
Joined: Fri Oct 24, 2008 4:48 pm
Location: กรุงเมพ

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Vargarv » Mon Nov 24, 2008 9:12 am

เค้าไม่ได้ไดโนเสาร์คร่ำครึอะไรหรอกคับ
ที่ห้างวอมาร์ทประสพความสำเร็จได้ เพราะเงินเยอะกว่าชาวบ้านครับ
และโลตัสเมืองไทย ได้เทคนิคมาจาก wallmart เลยคับ
มันเป็นเทคนิคเงินต่อเงิน กับการต่อรอง ผมจำ กลยุทธที่วอลมาร์ท ใชิ้ไมได้แล้วคับ
ที่ว่าทำให้คู่แข่งไม่มีวันตามทันตลอดกาลเลยคับ ต่อให้มีเทคนิคเหมือนกันเทคโนโลยี่เหมือนกันก็ทำไม่ได้
โรแบค โรแบค เนี่ยแหละคับ
โรสามอัน ราคาแพงสี่อัน

สังเกตเลยคับ โลตัส คาร์ฟู ไม่ลดราคาสินค้าบางประเภท (อาจจะอำนาจต่อรองต่ำ) น้ำมันพืชครับ ยกเว้นเป็น แบรนด์ของห้างเองคับ
ปวดฟันงะ ถอดทีสองซี่ นี่ปวดมากๆ
User avatar
Vargarv
 
Posts: 1417
Joined: Tue Oct 14, 2008 10:03 am

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby shuu » Mon Nov 24, 2008 1:09 pm

Lotus เป็นเครือข่ายด้วยล่ะนะ แถมมีพวก House Brand อีกพวก คุ้มค่า ถูกกว่า บลาๆๆๆนี่แหละ
ส่วนผสมก็บริษัทเดียวกับที่เราซื้อ เช่น ซันไลต์ ลองอ่านข้างขวดดู มันก็มาจากที่เดียวกัน แต่ขายถูกกว่า อาจจะ 50 สตางค์

แล้วรู้อยู่แล้วว่า คนไทยชอบของถูกมากกว่าคุณภาพ น้ำปลา เอาน้ำดำใส่เกลือ ขายสิบบาท เห็นถูกก็ซื้อแล้ว มีสมองที่ไหน :x

ตัวอย่างง่่ายๆ บ้านผมนี่แหละ
User avatar
shuu
 
Posts: 510
Joined: Fri Oct 24, 2008 4:48 pm
Location: กรุงเมพ

Re: Modern Trade ภัยเงียบที่คืบคลานเข้าทำลายธุรกิจ ...

Postby Solidus » Mon Nov 24, 2008 2:44 pm

shuu wrote:Lotus เป็นเครือข่ายด้วยล่ะนะ แถมมีพวก House Brand อีกพวก คุ้มค่า ถูกกว่า บลาๆๆๆนี่แหละ
ส่วนผสมก็บริษัทเดียวกับที่เราซื้อ เช่น ซันไลต์ ลองอ่านข้างขวดดู มันก็มาจากที่เดียวกัน แต่ขายถูกกว่า อาจจะ 50 สตางค์

แล้วรู้อยู่แล้วว่า คนไทยชอบของถูกมากกว่าคุณภาพ น้ำปลา เอาน้ำดำใส่เกลือ ขายสิบบาท เห็นถูกก็ซื้อแล้ว มีสมองที่ไหน :x

ตัวอย่างง่่ายๆ บ้านผมนี่แหละ
บางอย่างถูกกว่าเป็นสิบเลยครับ แต่คนไทยบางส่วนเขาบ้าโฆษณบ้ายี่ห้อครับ :lol: :lol:
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ