Canthai wrote:ก็เพราะนพดล ปัทมะเป็นรมต.ต่างประเทศ ไปเซ็นต์ยินยอมให้เขมร ขึ้นทะเบียนนะสิ
เพราะการจะขึ้นทะเบียนได้ ต้องได้รับคำยินยอมจากฝ่ายไทยก่อน ทั้งๆ ที่รัฐบาลก่อนหน้า ก็ยืนยันไม่สนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว
SpeedDeVa wrote:Canthai wrote:ก็เพราะนพดล ปัทมะเป็นรมต.ต่างประเทศ ไปเซ็นต์ยินยอมให้เขมร ขึ้นทะเบียนนะสิ
เพราะการจะขึ้นทะเบียนได้ ต้องได้รับคำยินยอมจากฝ่ายไทยก่อน ทั้งๆ ที่รัฐบาลก่อนหน้า ก็ยืนยันไม่สนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว
แล้วไงครับ ก็ยอมเหรอ ถ้ามีแนวทางอย่างนี้ก็สู้ไปก็ไม่ได้อะไร มีแต่เสียกับเสีย ทำไมไม่ทำให้มันถูกล่ะ เป็น รบ แล้วนี่ ลงโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด แล้วประการยกเลิกไม่ยอมรับเรื่องของ รบ ก่อนหน้านั้นไปก็จบ
คิดอะไรกันอยู่?
55555 wrote:SpeedDeVa wrote:Canthai wrote:ก็เพราะนพดล ปัทมะเป็นรมต.ต่างประเทศ ไปเซ็นต์ยินยอมให้เขมร ขึ้นทะเบียนนะสิ
เพราะการจะขึ้นทะเบียนได้ ต้องได้รับคำยินยอมจากฝ่ายไทยก่อน ทั้งๆ ที่รัฐบาลก่อนหน้า ก็ยืนยันไม่สนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว
แล้วไงครับ ก็ยอมเหรอ ถ้ามีแนวทางอย่างนี้ก็สู้ไปก็ไม่ได้อะไร มีแต่เสียกับเสีย ทำไมไม่ทำให้มันถูกล่ะ เป็น รบ แล้วนี่ ลงโทษผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด แล้วประการยกเลิกไม่ยอมรับเรื่องของ รบ ก่อนหน้านั้นไปก็จบ
คิดอะไรกันอยู่?
ศึกษารายละเอียดซะขนาดนั้น....
เรื่องประกาศไม่ยอมรับนี่..ไม่เชื่อว่าคุณไม่เคยได้ยินข่าว...
อภิสิทธิ์ พูดซักไม่รู้กี่ร้อยครั้ง เรืองคัดค้านการขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว.......แถลงการร่วมสนับสนุนกัมพูชา ก็ถูกประกาศยกเลิกไปแล้ว ด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ...โดยอ้างว่า ผิดมาตรา 190
ไทยเราก็แจ้งยกเลิก การแถลงการร่วมกับกัมพูชาไปแล้ว โดยนายกษิต ภิรมย์....
เท่าที่ผมดู ตอนนี้ ขาดอยู่อย่างเดียว...ยกทัพเข้าไปไล่เขมร....
Canthai wrote:กระทรวงต่างประเทศไปให้ความรู้ประชาชนทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้วแต่งบประมาณคงไม่มีมาก เลยจัดสัมนาได้ไม่กี่จังหวัด
Canthai wrote:ก็เพราะนพดล ปัทมะเป็นรมต.ต่างประเทศ ไปเซ็นต์ยินยอมให้เขมร ขึ้นทะเบียนนะสิ
เพราะการจะขึ้นทะเบียนได้ ต้องได้รับคำยินยอมจากฝ่ายไทยก่อน ทั้งๆ ที่รัฐบาลก่อนหน้า ก็ยืนยันไม่สนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว
55555 wrote:
ศึกษารายละเอียดซะขนาดนั้น....
เรื่องประกาศไม่ยอมรับนี่..ไม่เชื่อว่าคุณไม่เคยได้ยินข่าว...
อภิสิทธิ์ พูดซักไม่รู้กี่ร้อยครั้ง เรืองคัดค้านการขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว.......แถลงการร่วมสนับสนุนกัมพูชา ก็ถูกประกาศยกเลิกไปแล้ว ด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ...โดยอ้างว่า ผิดมาตรา 190
ไทยเราก็แจ้งยกเลิก การแถลงการร่วมกับกัมพูชาไปแล้ว โดยนายกษิต ภิรมย์....
เท่าที่ผมดู ตอนนี้ ขาดอยู่อย่างเดียว...ยกทัพเข้าไปไล่เขมร....
เขาพระวิหาร:มุมมองจากนักกฎหมายไทย
http://www.krumalinee.com/article/preview.php?id=51030000000012
- คดีปราสาทเขาพระวิหาร มาจากผลสืบเนื่องของอนุสัญญา ค.ศ. 1904 และ ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450)
o ตามข้อกำหนดในอนุสัญญา ค.ศ. 1904 ( พ.ศ. 2447) ข้อ 1 และข้อ 3 กำหนดไว้ดังนี้
"ข้อ 1 เขตแดนระหว่างประเทศสยามกับกประเทศกัมพูชาเริ่มต้นบนฝั่งซ้ายของทะเลสาปจาก ปากแม่น้ำสะตุง โรลูโอส?.ฯลฯ ??จนถึงทิวเขาดงรัก จากที่นั้นเส้นเขตแดนคือสันปันน้ำระหว่างลุ่มน้ำของแม่น้ำเสนและแม่น้ำโขง ด้านหนึ่งกับแม่น้ำมูลอีกด้านหนึ่ง????."
"ข้อ 3 ให้มีการปักปันเขตแดนระหว่างราชอาณาจักรสยามกับดินแดนที่ประกอบเป็น อินโดจีนฝรั่งเศส การปักปันนี้ให้กระทำโดยคณะกรรมการผสมประกอบด้วยพนักงานซึ่งประเทศภาคีทั้ง สองแต่งตั้ง งานของคณะกรรมการจะเกี่ยวกับเขตแดนส่วนที่กำหนดไว้ในข้อ 1 และข้อ 2 ???."
คณะกรรมการผสมได้ดำเนินการปักปันเส้นเขตแดนจนเกือบจะแล้วเสร็จ แต่สยามกับฝรั่งเศสได้ชิงลงนามอนุสัญญาปี ค.ศ. 1907 ไปก่อน จึงยังไม่ได้มีการทำแผนที่สมบูรณ์ให้รัฐบาลทั้งสองฝ่ายลงนามรับรองแต่อย่างใด ต่อมาฝรั่งเศสได้ดำเนินการตีพิมพ์แผนที่ซึ่งรัฐบาลสยามยังไม่ได้รับรองอย่าง เป็นทางการนั้น โดยได้จัดพิมพ์แต่เพียงฝ่ายเดียวที่กรุงปารีส แล้วจึงส่งแผนที่จำนวน 11 ท่อน มาให้รัฐบาลสยามในจำนวนนี้มีแผนที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับดินแดนบริเวณเขาพระ วิหารด้วยฉบับหนึ่ง รัฐบาลสยามมิได้รับรองแผนที่ดังกล่าวไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แผนที่ ดังกล่าวกำหนดเส้นเขตแดนบนภูเขาดงรักเรียกว่า "แผ่นดงรัก" (ไทยประท้วงว่าไม่ได้ผ่านความเห็นชอบและการพิจารณาของคณะกรรมการผสม) ดังนั้น หากยึดตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 (พ.ศ. 2447) ก็จะต้องกำหนดตามเขตแดนธรรมชาติคือ สันปันน้ำ ซึ่งไทยยืนยันว่าสันปันน้ำปันเขาพระวิหารมาไว้ในอาณาเขตไทย แต่แผนที่ทำขึ้นกำหนดปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในกัมพูชา
* กัมพูชาอ้างว่าต้นฉบับแผนที่นี้พิมพ์โดยอาศัยอำนาจมอบหมายจากคณะกรรมการผสมมีไทยฝรั่งเศส ได้มีการส่งแผนที่ไปให้รัฐบาลสยามจำนวน 50 ฉบับ เสนาบดีมหาดไทยทรงตอบรับใน พ.ศ. 2451 กับขอเพิ่มเติมอีก 15 ชุด เพื่อไปแจกจ่ายแก่เจ้าพนักงานท้องถิ่น
Tam-mic-ra wrote:55555 wrote:
ศึกษารายละเอียดซะขนาดนั้น....
เรื่องประกาศไม่ยอมรับนี่..ไม่เชื่อว่าคุณไม่เคยได้ยินข่าว...
อภิสิทธิ์ พูดซักไม่รู้กี่ร้อยครั้ง เรืองคัดค้านการขึ้นทะเบียนฝ่ายเดียว.......แถลงการร่วมสนับสนุนกัมพูชา ก็ถูกประกาศยกเลิกไปแล้ว ด้วยศาลรัฐธรรมนูญ ...โดยอ้างว่า ผิดมาตรา 190
ไทยเราก็แจ้งยกเลิก การแถลงการร่วมกับกัมพูชาไปแล้ว โดยนายกษิต ภิรมย์....
เท่าที่ผมดู ตอนนี้ ขาดอยู่อย่างเดียว...ยกทัพเข้าไปไล่เขมร....
ไทยเรายกเลิก การแถลงการร่วมกับกัมพูชาไปแล้ว รับรองแล้วโดยมติประชุมมรดกโลก ครั้งที่ 32
ซึ่งนานาชาติรับรู้ร่วมกันไปนานนนนนนนแล้ว
:หลักฐาน
(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
ข้อมติ: 32 COM 8 B. 102
คณะกรรมการมรดกโลก 7 กรกฎาคม 2551
5. รับรอง ว่าคำแถลงการณ์ร่วมฉบับเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2008 โดยผู้แทนของรัฐบาลแห่งกัมพูชาและไทย กับยูเนสโก รวมทั้งร่างคำแถลงการณ์ร่วมซึ่งได้อ้างผิดว่าได้ลงนามเมื่อวันที่ 22 และ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 ในเอกสาร WHC 08/32.COM/INF.8B1.Add.2 ต้องไม่ใช้ ตามการตัดสินใจของรัฐบาลไทยที่ระงับผลของแถลงการณ์ร่วม ภายหลังคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองไทยในเรื่องนี้
ต่อมา หลังการประชุมครั้งที่ 32 นายเตช รมต.ต่างประเทศคนต่อมา ก็ขอบคุณที่เขมรยอมรับว่าแถลงการณ์ร่วมนพดล ไม่ใช่สนธิสัญญา (ต่างกับศาลไทยที่บอกว่าเป็น และแอบเติมคำว่า "อาจจะ" ลงไปในคำวินิจฉัย ว่า"อาจจะ"ทำให้ไทยเสี่ยงเสียดินแดนรอบๆปราสาทฯในภายหน้า)
ซึ่งตอนหลัง 2ประเทศ มีหนังสือบอกกันเป็นหลักฐานของการคุยเรื่องนี้ของนายเตช ---> ยืนยันการยกเลิกไปอีกที
แล้วที่คุณ 5555 บอกว่า กษิตยกเลิก น่ะ ใช่จริงรึ???
เอ่อ นายกษิต ภิรมย์.... ใครหว่า เอ่อๆๆ อ่าๆๆๆๆ
Tam-mic-ra wrote:Jseventh
อ่า รู้สึกตอนนี้คุณอยู่ใน Level ที่เชื่อว่า ต้องปักปันก่อน ค่อยขึ้นทะเบียน
หน่อมแน้มจิงๆ คงไปเชื่อ อ เทพมนตรีมามั้ง
มันทำไม่ได้หรอก และธรรมนูญมรดกโลกเขาก็บอกไว้ว่า
ทำความเข้าใจจุดนี้ก่อน
http://whc.unesco.org/archive/convention-en.pdf
Article 11
3. The inclusion of a property in the World Heritage List requires the consent of the State concerned. The inclusion of a property situated in a territory, sovereignty or jurisdiction over which is claimed by more than one State shall in no way prejudice the rights of the parties to the dispute.
:แปล
การรวมเอาทรัพย์สินเข้าไปในรายการมรดกโลก จะต้องได้รับอนุญาตจากประเทศที่เกี่ยวข้อง การรวมเอาทรัพย์สินที่อยู่ในพื้นที่ อำนาจอธิปไตย ขอบเขตอำนาจศาล ที่มี่การอ้างสิทธิโดยมากกว่าหนึ่งรัฐ (ประเทศ) จะไม่ทำให้สิทธิของทุกฝ่ายในข้อขัดแย้งนั้นเสียไป
หมายความข้างบนคือว่า การขึ้นทะเบียน ไม่ส่งผลต่อการขัดแย้งของไทย-เขมร ที่มีมาก่อนหน้า
จะปักก่อนปักทีหลังไม่เกี่ยวกับขึ้นทะเบียน
อันนี้เชื่อว่า ปชป. กับ กมม ก็รู้อยู่
แต่ในอดีต กลับจงใจ ทำให้เป็นเรื่องราวเอาขึ้นมาหวังผลคะแนนเสียง และโค่นรัฐบาลเสื้อแดง
ก็แค่นั้น
Jseventh เอาธง ออกก่อน แล้วศึกษารอบด้านก่อน ค่อยตั้งธงนะครับ
ถกกับคุณมันเหนื่อยจริงๆ
แต่ก่อนก็ถกกับผมซะยืดยาว สุดท้ายคุณไปตั้งกระทู้ของตัวเองใหม่ แล้วยอมรับในกระทู้ว่าเพิ่งศึกษามากำๆ
คุณอ่านของนพดลทั้ง 6 ข้อดีๆเถิด มันรัดกุมดี แต่คุณไปมองว่าสุ่มเสี่ยงได้ยังไง
ไทยสนับสนุนเพราะมองว่าคุณค่าควรอนุรักษ์ คุณก็เถียงว่านพดลไปอนุญาติ ทั้งที่ คมช. รบ. สุรยุทธ์ก็สนับสนุน
เหนื่อยกับการหาหลักฐานมาอ้างอิง กันคนที่ตั้งธงแบบไร้หลักการ
3. The inclusion of a property in the World Heritage List requires the consent of the State concerned. The inclusion of a property situated in a territory, sovereignty or jurisdiction over which is claimed by more than one State shall in no way prejudice the rights of the parties to the dispute.
:แปล
การรวมเอาทรัพย์สินเข้าไปในรายการมรดกโลก จะต้องได้รับอนุญาตจากประเทศที่เกี่ยวข้อง การรวมเอาทรัพย์สินที่อยู่ในพื้นที่ อำนาจอธิปไตย ขอบเขตอำนาจศาล ที่มี่การอ้างสิทธิโดยมากกว่าหนึ่งรัฐ (ประเทศ) จะไม่ทำให้สิทธิของทุกฝ่ายในข้อขัดแย้งนั้นเสียไป
Tam-mic-ra wrote:Jseventh
อ่า รู้สึกตอนนี้คุณอยู่ใน Level ที่เชื่อว่า ต้องปักปันก่อน ค่อยขึ้นทะเบียน
หน่อมแน้มจิงๆ คงไปเชื่อ อ เทพมนตรีมามั้ง
มันทำไม่ได้หรอก และธรรมนูญมรดกโลกเขาก็บอกไว้ว่า
ทำความเข้าใจจุดนี้ก่อน
http://whc.unesco.org/archive/convention-en.pdf
Article 11
3. The inclusion of a property in the World Heritage List requires the consent of the State concerned. The inclusion of a property situated in a territory, sovereignty or jurisdiction over which is claimed by more than one State shall in no way prejudice the rights of the parties to the dispute.
:แปล
การรวมเอาทรัพย์สินเข้าไปในรายการมรดกโลก จะต้องได้รับอนุญาตจากประเทศที่เกี่ยวข้อง การรวมเอาทรัพย์สินที่อยู่ในพื้นที่ อำนาจอธิปไตย ขอบเขตอำนาจศาล ที่มี่การอ้างสิทธิโดยมากกว่าหนึ่งรัฐ (ประเทศ) จะไม่ทำให้สิทธิของทุกฝ่ายในข้อขัดแย้งนั้นเสียไป
หมายความข้างบนคือว่า การขึ้นทะเบียน ไม่ส่งผลต่อการขัดแย้งของไทย-เขมร ที่มีมาก่อนหน้า
จะปักก่อนปักทีหลังไม่เกี่ยวกับขึ้นทะเบียน
อันนี้เชื่อว่า ปชป. กับ กมม ก็รู้อยู่
แต่ในอดีต กลับจงใจ ทำให้เป็นเรื่องราวเอาขึ้นมาหวังผลคะแนนเสียง และโค่นรัฐบาลเสื้อแดง
ก็แค่นั้น
Jseventh เอาธง ออกก่อน แล้วศึกษารอบด้านก่อน ค่อยตั้งธงนะครับ
ถกกับคุณมันเหนื่อยจริงๆ
แต่ก่อนก็ถกกับผมซะยืดยาว สุดท้ายคุณไปตั้งกระทู้ของตัวเองใหม่ แล้วยอมรับในกระทู้ว่าเพิ่งศึกษามากำๆ
คุณอ่านของนพดลทั้ง 6 ข้อดีๆเถิด มันรัดกุมดี แต่คุณไปมองว่าสุ่มเสี่ยงได้ยังไง
ไทยสนับสนุนเพราะมองว่าคุณค่าควรอนุรักษ์ คุณก็เถียงว่านพดลไปอนุญาติ ทั้งที่ คมช. รบ. สุรยุทธ์ก็สนับสนุน
เหนื่อยกับการหาหลักฐานมาอ้างอิง กันคนที่ตั้งธงแบบไร้หลักการ
4. ระหว่างที่รอผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการร่วมเพื่อการปักปันเขตแดนทางบก (Joint Commission for Land Boundary หรือ JBC) เกี่ยวกับพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้รับการระบุให้เป็น หมายเลข 3 ในแผนที่ที่อ้างอิงไว้ในวรรค 1 ข้างต้น แผนการบริหารจัดการพื้นที่เหล่านี้จะได้รับการจัดทำในลักษณะของการประสาน ร่วมมือกันระหว่างทางการผู้รับผิดชอบของกัมพูชาและทางการผู้รับผิดชอบของไทย โดยสอดคล้องกับมาตรฐานการอนุรักษ์ระหว่างประเทศ ด้วยทัศนะที่มุ่งรักษาคุณค่าอันเป็นสากลที่โดดเด่นของทรัพย์สินดังกล่าวนี้ แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับ ปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2010 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ในปี 2010
55555 wrote:
ประเด็นคือ ถ้านพดล ไม่ไปสนับสนุนเขมรขึ้นทะเบียน มันจะมีเรื่องวุ่นวายอย่างทุกวันนี้หรือปล่าว...
ส่วนไอ้เหตุผลหลักการมันเป็นเรื่องปลีกย่อยที่นำมาถกเถียงแก้ตัวกัน ผมว่า มันไร้สาระครับ...
Jseventh wrote:55555 wrote:
ประเด็นคือ ถ้านพดล ไม่ไปสนับสนุนเขมรขึ้นทะเบียน มันจะมีเรื่องวุ่นวายอย่างทุกวันนี้หรือปล่าว...
ส่วนไอ้เหตุผลหลักการมันเป็นเรื่องปลีกย่อยที่นำมาถกเถียงแก้ตัวกัน ผมว่า มันไร้สาระครับ...
คุณ 55555 อาจทราบเรื่องราวดีแล้ว แต่ท่านอื่นอาจจะยังไม่ทราบ
คุณ Tam-mic-ra เท้าความมา ดิฉันก็เลยต้องชี้แจงกลับ
ดิฉันขอตอบคุณ 55555 ในฐานะที่ถูก quote มาด้วย
ถ้าไม่มีการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนฝ่้ายเดียว เรื่องราวคงไม่วุ่นขนาดนี้ค่ะ
Jseventh wrote:55555 wrote:
ประเด็นคือ ถ้านพดล ไม่ไปสนับสนุนเขมรขึ้นทะเบียน มันจะมีเรื่องวุ่นวายอย่างทุกวันนี้หรือปล่าว...
ส่วนไอ้เหตุผลหลักการมันเป็นเรื่องปลีกย่อยที่นำมาถกเถียงแก้ตัวกัน ผมว่า มันไร้สาระครับ...
คุณ 55555 อาจทราบเรื่องราวดีแล้ว แต่ท่านอื่นอาจจะยังไม่ทราบ
คุณ Tam-mic-ra เท้าความมา ดิฉันก็เลยต้องชี้แจงกลับ
ดิฉันขอตอบคุณ 55555 ในฐานะที่ถูก quote มาด้วย
ถ้าไม่มีการสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนฝ่้ายเดียว เรื่องราวคงไม่วุ่นขนาดนี้ค่ะ
Jseventh wrote:ู^ ตอบแบบโน๊ะเน๊ะก็แล้วกันนะ (ชักติดใจอ่ะ)
อยากรู้อะไรก็ไปหาเอาเองดิ เรื่องอะไรมาใช้คนอื่นเขา
ขอบคุณที่แนะนำสั่งสอนให้รู้ว่า ตัวดิฉันพูดโน๊ะเน๊ะไร้เหตุผลได้แค่ไหน..
เอาเป็นว่าแถลงการณ์ร่วม สุโค่ยมาก ไร้ช่องโหว่ มิมีข้อโต้แย้ง
เชิญฉลาดเฉียบแหลมตามสบายค่า...ดิฉันมันพวกโน๊ะเน๊ะไปวันๆ
55555 wrote:ถ้าเดินต่อได้ ทำไม UNESCO ถึงเลื่อนไปปีหน้าครับ..
zereza wrote:เท่าที่ตามข้อมูลมาพบว่า MOU ปี 43 มีสถานะเป็นกลางกับทั้งสองฝ่ายมากกว่านะครับคือแต่ละประเทศมีข้อได้เปรียบทั้งคู่ แต่เป็นข้อได้เปรียบที่ต้องอาศัยการเจรจาจึงจะสรุปได้ ดังนั้น MOU ปี 43 จึงไม่ใช่ข้อสรุปใดๆ ณ ตอนนี้ สาระสำคัญที่ไทยได้เปรียบก็คือ พื้นที่บริเวณเขาพระวิหารยังไม่ได้มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน(การแบ่งต้องใช้หลักสากลคือสันปันน้ำ)ดังนั้นการจัดการพื้นที่บริเวณนั้นจึงควรจะต้องทำภายหลังที่มีการตกลงปักปันเขตแดนเสร็จสิ้นแล้ว(ซึ่งตอนนี้ยังดำเนินการไปได้แค่ครึ่งทาง) ส่วนสาระสำคัญที่เขมรได้เปรียบก็คือเขาได้อ้างอิงแผนที่ 1:200000 ซึ่งขีดลึกเข้ามาภายในประเทศไทยโดยที่ไม่ได้มีหลักใดๆ ทำให้ MOU ฉบับนี้เป็นการบังคับกลายๆว่าทั้งสองประเทศจำเป็นต้องอาศัยการเจรจาเพื่อหาข้อยุติเรื่องเขตแดนก่อนจะดำเนินการใดๆต่อปราสาทพระวิหาร แต่ปัญหามันเกิดขึ้นตอนที่รัฐมนโทของเราดันไปเซ็นยกให้เค้าทั้งๆที่การเจรจาเรื่องเขตแดนยังไม่เสร็จสิ้น(ตรงนี้ศาลปกครองสั่งยกเลิกไปแล้ว) ทำให้เขมรอาศัยจุดนี้อ้างว่าพื้นที่นั้นเป็นของเขาแล้วนำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลก ถ้าว่าตามจริงแล้วที่เขมรทำนั้นถือว่าข้ามขั้นตอน ดังนั้นนายกจึงบอกว่า MOU ปี 43 จึงยังยกเลิกไม่ได้เพื่อจะใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงว่าเขมรกระทำการข้ามขั้นตอน เพราะถ้ายกเลิกจะทำให้เขมรใช้สิทธิ์อ้างอิงแผนที่ 1:200000 ได้เต็มที่ และมันจะทำให้ซ้ำรอยเดิมสมัยที่แพ้คดีในศาลโลกครับ
จากตรงนี้การที่บอกว่าเราเสียดินแดนไปแล้วผมคิดว่ายังไม่ถึงจุดนั้น แต่ที่รับไม่ได้มากกว่าก็คือสุนัขบางตัวที่ป่าวประกาศว่าประเทศไทยเป็นอันธพาลจะไปแย่งของเขาครับ![]()
![]()
soco wrote:คนมันเพื้ยนแล้ว
สิบปีผ่านไป บันทึกความเข้าใจ ต้องยกเลิก
แล้วยกเลิกข้างเดียวนี่น่ะ
ไม่พาลเกเรไปหน่อยเร๊อะ