เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby จีรนุช » Fri Apr 29, 2011 9:23 am

นักประวัติศาตร์ที่ไม่ใช้วิธีการของนักประวัติศาตร์ อย่างนิธิ ใช้เเต่จินตนาการ คุณมะบังก็ยังเชื่อโดยไม่คิด คุณจะเอาอะไรกับชาวบ้าน

ถ้าคุณใช้วิธีการของนักประวัติศาตร์ ทำไมไม่อธิบายเรื่องนายนิธิ เเต่งเรื่องการใช้ดาบหรือของมีคม ชาวบ้านเขาถามตามประสา เเต่นักประวัติศาสตร์กลับตอบไม่ได้

อ้อมเเอ้ม ทำเป็นใช้ภาษาอังกฤษ ไปโน้น ไม่รู้ก็บอกไม่ไรู้ได้ การเมืองเเต่ละสมัยไม่เหมือนกัน ถึงต้องพิจจารณากันเป็นเรีอง

มาตีคลุม มั่วนิ่ม ได้ประโยชน์อะไร ใครกันเเน่ที่โฆษณาชวนเชื่อ black Propagand ไม่ต้องกระเเดะมากก็ได้ ขี้เกียจใช้กลูเกิลเเปล ...
User avatar
จีรนุช
 
Posts: 5689
Joined: Sun Nov 30, 2008 7:34 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby เพื่อนร่วมชาติ » Fri Apr 29, 2011 9:32 am

น้องมะแอทำได้แค่เสียดสีความเห็นเดียวในกระทู้นี้เหรอ

ส่วนคำถามของน้องมะแอ ขอแนะนำให้ไปศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์นิพนธ์ซะก่อนที่จะมาทำตัวเป็นเจ้าหนูจัมมัยแถวนี้ :lol:
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด คนไทยใช้แล้วเลอะเทอะชิบเป๋ง
User avatar
เพื่อนร่วมชาติ
 
Posts: 3541
Joined: Mon Oct 13, 2008 6:40 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby boonnum » Fri Apr 29, 2011 9:47 am

Strangerman wrote:เห็นความตั้งใจจริง ของ คุณ จขกท. ล่ะครับ

เป็นกำลังใจให้ล่ะกันครับ

ส่วนไอ้พวกล้มเจ้า นี่ขอให้เจริญลงๆ ไปไวๆ และตายอย่างทรมานล่ะกัน

มีในหลวงประเสริฐ ขนาดนี้ ยังไม่วายจริงๆ ไม่รู้จะสรรหา คำไหน มาด่าพวกมันจริงๆ
:lol: :lol: :lol:


เห็นด้วยอย่างแรงครับ LIKE :lol: :lol:
นิพฺพานํ ปรมํ สุขํ นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง
สุขํ สุปติ พุทฺโธ จ เยน เมฺตตา สุภาวิตาํ ผู้เจริญเมตตาดีแล้วย่อมหลับและตื่นเป็นสุข
User avatar
boonnum
 
Posts: 315
Joined: Wed Sep 02, 2009 10:46 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby overtherainbow » Fri Apr 29, 2011 9:54 am

boonnum wrote:
Strangerman wrote:เห็นความตั้งใจจริง ของ คุณ จขกท. ล่ะครับ

เป็นกำลังใจให้ล่ะกันครับ

ส่วนไอ้พวกล้มเจ้า นี่ขอให้เจริญลงๆ ไปไวๆ และตายอย่างทรมานล่ะกัน

มีในหลวงประเสริฐ ขนาดนี้ ยังไม่วายจริงๆ ไม่รู้จะสรรหา คำไหน มาด่าพวกมันจริงๆ
:lol: :lol: :lol:


เห็นด้วยอย่างแรงครับ LIKE :lol: :lol:


ติดตามเจ้าของกระทู้อย่างเหนียวแน่นด้วยความเชื่อมั่นในเจตนาที่ดี
ขอแสดงความเห็น
ข้อหนึ่ง กระทู้แบบนี้คุณแอมต้องเฝ้าระวังเลยนะคะ คนเสียหาย ที่แปลว่ากล่าวโกหกไว้ อาจหาช่องทางกระทำการอุกอาจ ได้ ซึ่งจริงๆน่ะชอบมากที่มีการจับคู่ถูกมวย
แบบคุณแอมกับพวกนี้ และคุณบวรอีกคน
ข้อสอง อยากถามว่าคุณนิธิเป็นแบบนี้ บังเอิญ หรือถูกซื้อตัว หรือเป็นการวางหมากมาแต่ต้นคะ
ข้อสาม สวัสดีคุณวินชาด้วยความเคารพค่ะ
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เรื่องพระเจ้าตาก

Postby คนกวาดขยะ » Fri Apr 29, 2011 10:00 am

คนกวาดขยะ wrote:แจ้งสมาชิกทราบ การเปลี่ยนราชวงค์เป็นเรื่องปกติในยุคโบราณ ไม่ว่าส่วนไหน อาณาจักรไหน ของโลกก็มีเช่นเดียวกัน จะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

ที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นไม่ห้ามครับ นับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่นำข้อมูลมาแย้งพวกล้มเจ้าที่ใช้ประเด็นนี้บิดเบือนโจมตีกระทบชิ่งอยู่เนืองๆ ถือเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้

แต่ห้ามสมาชิกอภิปรายในเชิงลบเพื่อกระทบต่อราชวงค์ปัจจุบัน ซึ่งผิดกฏของเว็บมีโทษแบนถาวรสถานเดียวครับ
คนกวาดขยะ
Moderator
 
Posts: 878
Joined: Mon Oct 20, 2008 12:24 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby kennn » Fri Apr 29, 2011 10:18 am

ความเห็นส่วนตัว

หากมีการอ้างว่าสมเด็จพระเจาตากสินทรงถูกทำรัฐประหาร และสมัยนั้นพระองค์ทรงเป็นที่รักของปวงชน ทำไมไม่เคยทราบว่ามีการต่อต้านจากประชาชน(หรืออาจจะมี) ออกมาเผาบ้านเผาเมืองเพื่อปกป้องกษัตริย์อันทรงเป็นที่รัก เหมือนสมาชิกท่านอื่่นได้อภิปรายไว้ว่า เจ้าพระยามหากษัติรย์ศึกทรงได้รับการต้อนรับจากประชาชนและสามารถสร้างเมืองได้อย่างยิ่งใหญ่ได้และพระองค์ยังทรงเป็นที่รักของประชาชนในสมัยนั้น

ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์
พกโพยมาด้วยเหรอ พกโพยมาด้วยเหรอเนี่ย แหมมาแค่เนี๊ยก็พกโพยมาด้วย
User avatar
kennn
 
Posts: 2041
Joined: Tue Feb 22, 2011 11:49 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby lionidas » Fri Apr 29, 2011 10:37 am

ส่วนตัวคิดว่า เรื่องบางเรื่อง ไม่สมควรจะรู้....
เรื่องบางเรื่องควรจดจำแต่ในสิ่งที่ดี ๆ
เรื่องบางเรื่องไม่ควรจะใส่ใจรายละเอียด
และ
เรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องเก่า ที่ "ควรเก็บไว้ภาคภูมิใจ"
การเปลี่ยนถ่ายอำนาจ..หากมันแย่ลงคือ เรื่องที่ต้องช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่ตำหนิ (เพราะอย่างไรเสียก็แก้ไขไม่ได้ )
ทุกพระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแก่คนไทย....
ยิ่งองค์ปัจจุบันแล้ว....
หรือพวกคุณไม่ภาคภูมิใจที่เกิดมาในแผ่นดินของพระองค์ ?


"ทรงพระเจริญ"
พี่เหนาะ คนตาบอดมันกลัวเสือเหรอ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้เราจะได้เสียงเหรอ ...
User avatar
lionidas
 
Posts: 270
Joined: Fri Apr 22, 2011 11:18 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby thanong » Fri Apr 29, 2011 10:52 am

ของปม กาแฟสองช้อน น้ำตางสอง ครีมไม่ต้อง...
:o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o :o
User avatar
thanong
 
Posts: 5110
Joined: Wed Nov 24, 2010 4:27 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby -3- » Fri Apr 29, 2011 11:29 am

รู้สึกว่าบันทึกนี้จะขัดแย้งทุกหลักการความเชื่อเลยนะเนี่ย

ว่าแต่บังดีกว่า มีอ้างอิงจากไหนครับถึงกล้าฟันธงในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ :lol: :lol:
"คนไทยนี่โชคดีจริงๆนะ จะอยู่ที่ไหน จะทำอะไร มีในหลวงฯคอยติดตามเฝ้าดูอยู่อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา...ก็ผมเห็นธนบัตรไทยมีรูปในหลวงฯของพวกคุณอยู่ ทุกๆใบแม้นกระทั่งในเหรียญที่มีค่าน้อยที่สุดถึงมีค่ามากที่สุดในธนบัตร ไม่เคยห่างกัน"
User avatar
-3-
Moderator
 
Posts: 6302
Joined: Thu Nov 27, 2008 11:34 am
Location: Gensokyo

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby capricorns » Fri Apr 29, 2011 11:41 am

เรื่องพระเจ้าตากนี่มีหลายที่มาเหมือนกันแฮะ
ที่นครศรีธรรมราชบ้านเกิดผมยังมี วลี หนึ่งนะครับ "หกว่าเป็นกระดูกเจ้าเมืองนคร"ซึ่งแปลได้ 2 ความหมาย ตามนี้
- บริเวณหกต้นหว้านั้นเป็นที่ตั้งของกระดูกเจ้าเมืองนคร
- บริเวณนั้นโดนโกหกว่าเป็นกระดูกเจ้าเมืองนคร ซึ่งอาจเป็นกระดูกของพระเจ้าตาก
และยังมีเรื่องเล่าเก่า ๆ ว่าพระเจ้าตากผนวชและมรณภาพที่วัดในอำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยครับ ส่วนสาเหตูก็มีการเล่าว่ามาจากเรื่องเงินกู้ของจีนนี่หละครับ


** ปล.เรื่องที่ผมเล่าไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้พิสูจน์นะครับ แต่เป็นเรื่องที่คนเฒ่าคนแก่ เล่าให้ผมฟังมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ จนเดี๋ยวนี้ถ้าลองไปถามคนแก่ที่นครศรีธรรมราชก็จะได้รับคำตอบประมาณนี้ครับ
User avatar
capricorns
 
Posts: 142
Joined: Mon Apr 13, 2009 2:46 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby phoosana » Fri Apr 29, 2011 12:19 pm

อ่านแล้ว มึนๆ คนแปลผิด หรือแปลถูก
เดี๋ยว บางกอก เดี๋ยว กรุงเทพ

สยาม ก็มี
เมืองไทย ก็มี
คนไทย ก็มี

คำพวกนี้เขาใช้กันสมัยนั้นแล้วหรือ
We love fender.
User avatar
phoosana
 
Posts: 2608
Joined: Tue Jan 27, 2009 11:13 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Rocky_man » Fri Apr 29, 2011 1:46 pm

บางกอกเป็นคำสมัยนั้นถูกละครับ
User avatar
Rocky_man
 
Posts: 525
Joined: Tue Apr 20, 2010 1:28 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby bonnerr » Fri Apr 29, 2011 1:50 pm

baezae wrote:อีกประการหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ การเห็นพ้องต้องกันของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ และการขึ้นครองราชย์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ ครับ

อันนี้มีพื้นฐานจากการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ท่านไม่ได้ทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าทางใด กำเนิดเป็นเพียงสามัญชน ไม่ใช่ว่าท่านไม่ทรงปรีชาสามารถนะครับ ท่านทรงปรีชามาก แต่ในสมัยโบราณคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้นำคือ ชาติกำเนิด น้อยนักที่เก่งเพียงอย่างเดียวแล้วจะเป็นผู้นำได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะก็จะมีการกระด้างกระเดื่องของผู้ที่เคยมีศักดิ์สูงกว่าอยู่เสมอ ๆ และถ้ามองในระยะยาว กลุ่มที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์บ้านพลูหลวงก็น่าจะยังมี และอาจจะกลับมาใช้ข้ออ้างนี้เมื่อไรก็ได้

ในขณะที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๑ ท่านทรงสืบสายราชวงศ์พระร่วง ทั้งความปรีชาสามารถก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า หากได้ขึ้นครองราชย์เป็นผู้นำ ก็น่าจะช่วยให้ตัดเรื่องการแย่งชิงและความร้าวฉานภายในได้ในระดับหนึ่ง ทั้งยังทรงมีกองหนุนที่เข้มแข็งมาก ๆ อย่างกรมพระราชวังบวรฯ เป็นหลักให้พิงด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าทรง"สมยอม" ในเรื่องการผลัดแผ่นดินกัน แต่ถ้าจะยกให้เฉย ๆ เลย ก็ไม่พ้นข้อครหาเรื่องการสืบราชสมบัติอีก เพราะตามมณเฑียรบาลก็ต้องต่อให้ลูกหรือไม่ก็คนในสายโลหิตเดียวกัน จะข้ามมาแบบนี้ก็ต้องใช้วิธีปราบดาภิเษกเพียงอย่างเดียว

"ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์" มีคนกล่าวไว้

ส่วนที่ว่าถ้าเป็นการสมยอม ทำไมต้องสำเร็จโทษ และประหารเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ และผู้จงรักภักดี ต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลชั้นทุติยภูมิทั้งสิ้น กล่าวคือไม่มีใครรู้เรื่องแท้จริง ณ ที่เกิดเหตุมาบอกให้เราทราบ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเพียงแค่การบันทึกเรื่องราวเพื่อบังหน้า สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ อาจจะทรงเพียงแค่ออกผนวช กลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์อาจจะได้รับการชุบเลี้ยงแบบเงียบ ๆ และกลุ่มข้าราชบริพารก็แยกย้ายกัน ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะไม่มีใครรู้จัก เพราะในสมัยก่อน ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์มองพระพักตร์ท่านโดยตรงอยู่แล้ว การจะไม่รู้จักหน้าต่อให้เดินผ่านสวนกันก็ย่อมเป็นไปได้ และหลักฐานอีกอย่างคือ การที่มีผู้สืบเชื้อสายต่อมา ทั้งในส่วนของพระเจ้าตากสินฯ และข้าราชบริพาร (เช่น พระยาพิชัยฯ) ที่มีลูกหลานสืบมาถึงปัจจุบัน ถ้าจะตัดรากถอนโคนกันจริง ๆ ต้องประหารกันไม่ให้เหลือสืบทอดแบบของจีนไปแล้ว

อันนี้สันนิษฐานของผมล้วน ๆ เลย
User avatar
bonnerr
 
Posts: 811
Joined: Thu Jan 27, 2011 2:08 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby bonnerr » Fri Apr 29, 2011 1:53 pm

bonnerr wrote:
baezae wrote:อีกประการหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ การเห็นพ้องต้องกันของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ และการขึ้นครองราชย์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ ครับ

อันนี้มีพื้นฐานจากการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ท่านไม่ได้ทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าทางใด กำเนิดเป็นเพียงสามัญชน ไม่ใช่ว่าท่านไม่ทรงปรีชาสามารถนะครับ ท่านทรงปรีชามาก แต่ในสมัยโบราณคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้นำคือ ชาติกำเนิด น้อยนักที่เก่งเพียงอย่างเดียวแล้วจะเป็นผู้นำได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะก็จะมีการกระด้างกระเดื่องของผู้ที่เคยมีศักดิ์สูงกว่าอยู่เสมอ ๆ และถ้ามองในระยะยาว กลุ่มที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์บ้านพลูหลวงก็น่าจะยังมี และอาจจะกลับมาใช้ข้ออ้างนี้เมื่อไรก็ได้

ในขณะที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๑ ท่านทรงสืบสายราชวงศ์พระร่วง ทั้งความปรีชาสามารถก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า หากได้ขึ้นครองราชย์เป็นผู้นำ ก็น่าจะช่วยให้ตัดเรื่องการแย่งชิงและความร้าวฉานภายในได้ในระดับหนึ่ง ทั้งยังทรงมีกองหนุนที่เข้มแข็งมาก ๆ อย่างกรมพระราชวังบวรฯ เป็นหลักให้พิงด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าทรง"สมยอม" ในเรื่องการผลัดแผ่นดินกัน แต่ถ้าจะยกให้เฉย ๆ เลย ก็ไม่พ้นข้อครหาเรื่องการสืบราชสมบัติอีก เพราะตามมณเฑียรบาลก็ต้องต่อให้ลูกหรือไม่ก็คนในสายโลหิตเดียวกัน จะข้ามมาแบบนี้ก็ต้องใช้วิธีปราบดาภิเษกเพียงอย่างเดียว



ส่วนที่ว่าถ้าเป็นการสมยอม ทำไมต้องสำเร็จโทษ และประหารเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ และผู้จงรักภักดี ต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลชั้นทุติยภูมิทั้งสิ้น กล่าวคือไม่มีใครรู้เรื่องแท้จริง ณ ที่เกิดเหตุมาบอกให้เราทราบ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเพียงแค่การบันทึกเรื่องราวเพื่อบังหน้า สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ อาจจะทรงเพียงแค่ออกผนวช กลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์อาจจะได้รับการชุบเลี้ยงแบบเงียบ ๆ และกลุ่มข้าราชบริพารก็แยกย้ายกัน ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะไม่มีใครรู้จัก เพราะในสมัยก่อน ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์มองพระพักตร์ท่านโดยตรงอยู่แล้ว การจะไม่รู้จักหน้าต่อให้เดินผ่านสวนกันก็ย่อมเป็นไปได้ และหลักฐานอีกอย่างคือ การที่มีผู้สืบเชื้อสายต่อมา ทั้งในส่วนของพระเจ้าตากสินฯ และข้าราชบริพาร (เช่น พระยาพิชัยฯ) ที่มีลูกหลานสืบมาถึงปัจจุบัน ถ้าจะตัดรากถอนโคนกันจริง ๆ ต้องประหารกันไม่ให้เหลือสืบทอดแบบของจีนไปแล้ว

อันนี้สันนิษฐานของผมล้วน ๆ เลย

มีคนกล่าวไว้ว่า ๐ผ้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์๐
User avatar
bonnerr
 
Posts: 811
Joined: Thu Jan 27, 2011 2:08 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Frank » Fri Apr 29, 2011 2:05 pm

สำหรับผมพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นวีรบุรุษ จนถึงวาระสุดท้ายสติท่านไม่ฟั่นเฟือนแน่
ผมเชื่อเรื่องเล่าของเพื่อนร่วมงานในอดีต ที่อยู่ในวงส์ ณ นคร มากกว่าหนังสือประวัติศาสตร์
ผมเชื่อครูบาอาจารย์ท่านมีสัมผัสดี ไม่เคยรู้เรื่องที่หลวงพ่อจรัญฯ หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำเล่า
ไว้แต่ก็สัมผัสได้ถึงบุญบารมีของพระเจ้าตากฯ ถ้าฟั่นเฟือนคงไม่สร้างบารมีในทางธรรมได้ขนาดนั้นแน่ๆ
ครับ เหมือนในหลวงของเราไงขนาดปัจจุปันยังมีบารมีทางธรรมให้ผู้ปฏิบัติถึงได้สัมผัส ความดี
ของท่านประชาชนที่ใจไม่มืดย่อมรู้ได้ด้วยตัวเอง ๖๐ ปีที่ทรงงานหนักมา สมควรที่คนดีต้องช่วย
กันปกป้องพระองค์และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์
Last edited by Frank on Fri Apr 29, 2011 3:03 pm, edited 1 time in total.
User avatar
Frank
 
Posts: 9
Joined: Mon Apr 26, 2010 1:50 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Gop » Fri Apr 29, 2011 2:08 pm


ผมอ่านเรื่องการสงครามในสมัยรัชกาลที่๑ ก็ได้ข้อสรุปพอสมควร

โดยเฉพาะสงครามเก้าทัพ เห็นได้ชัดว่าการรบของไทยมีเอกภาพมาก ทำการรบได้ตามแผนเกือบทั้งหมดโดยไม่มีความวุ่นวายภายในเกิดขึ้นเลย สำหรับผมนี่เป็นหลักฐานถึงความเป็นปึกแผ่น และแสดงถึงพระราชอำนาจอันเข้มแข็งของพระองค์ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่จะสร้างกันได้เพียงแค่ปีสองปีที่เปลี่ยนแผ่นดิน เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกต้องสั่งสมอำนาจบารมีมานานแล้ว และเมื่อถึงคราวเปลี่ยนแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะได้ครองแผ่นดิน ผมยอมรับว่าเรื่องรายละเอียดการเปลี่ยนแผ่นดิน ผมไม่ทราบสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมสนใจคือ ผลประโยชน์ที่ตกกับคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นเห็นได้ชัด เพราะในรัชสมัยของพระองค์ต้องรับศึก และปราบกบฎหลายครั้งมาก การศึกใหญ่กับพม่าก็ทำหลายครั้ง บริเวณหัวเมืองล้านนานั้น มาอยู่ในขอบขัณฑสีมาอย่างมั่นคง ก็ในรัชสมัยของพระองค์นี่เอง การรับมือกับสงครามที่ไม่หยุดหย่อนนี้ ถือว่าเป็นสิ่งพิสูจน์ความสามารถของในหลวงรัชกาลที่ ๑ ได้เป็นอย่างดีว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี เรามีแผ่นดินอยู่ได้ก็ เพราะท่านและบรรพชนที่ช่วยกันกอบกู้และปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ ผมอ่านแล้วก็สำนึกถึงบุญคุณของทุกท่าน ยอมรับว่าอ่านเรื่องราวการสงครามแล้ว ทำให้รักชาติและมีความรู็สึกชาตินิยมขึ้นเยอะ

ผมไม่เข้าใจพวกที่บ้าลัทธิเท่าเทียม มันรู้รากเหง้าของคนไทยมั้ยว่า เรามีแผ่นดินอยู่กันถึงทุกวันนี้น่ะ เพราะใคร??

User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby badboysiam » Fri Apr 29, 2011 2:09 pm

capricorns wrote:เรื่องพระเจ้าตากนี่มีหลายที่มาเหมือนกันแฮะ
ที่นครศรีธรรมราชบ้านเกิดผมยังมี วลี หนึ่งนะครับ "หกว่าเป็นกระดูกเจ้าเมืองนคร"ซึ่งแปลได้ 2 ความหมาย ตามนี้
- บริเวณหกต้นหว้านั้นเป็นที่ตั้งของกระดูกเจ้าเมืองนคร
- บริเวณนั้นโดนโกหกว่าเป็นกระดูกเจ้าเมืองนคร ซึ่งอาจเป็นกระดูกของพระเจ้าตาก
และยังมีเรื่องเล่าเก่า ๆ ว่าพระเจ้าตากผนวชและมรณภาพที่วัดในอำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยครับ ส่วนสาเหตูก็มีการเล่าว่ามาจากเรื่องเงินกู้ของจีนนี่หละครับ


** ปล.เรื่องที่ผมเล่าไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้พิสูจน์นะครับ แต่เป็นเรื่องที่คนเฒ่าคนแก่ เล่าให้ผมฟังมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ จนเดี๋ยวนี้ถ้าลองไปถามคนแก่ที่นครศรีธรรมราชก็จะได้รับคำตอบประมาณนี้ครับ


เรื่องนี้คุณพ่อผมซึ่งเขียนพวกเรื่องในประวัติศาสตร์เอามาเล่าใหม่ก็ไปทำเรื่องนี้ที่วัดครับยังถ่ายรูปมาให้ดูที่กำแพงวัดมีพวกถ้วยชามที่ดูน่าจะเป็นของที่ชาวบ้านธรรมดาไม่น่าจะมีไว้ครอบครองได้ติดไว้ด้วย ชาวบ้านคนแก่คนเฒ่าเค้าก็เล่าให้ฟังว่าได้ยินมาจากรุ่นสู่รุ่นแบบที่ท่านบอกและบอกด้วยว่าเชื่อสายของพระเจ้าตากก็คือ ณ นคร

ปล.ไม่ว่าเรื่องไหนจะจริงหรือไม่จริงแต่สิ่งหนึ่งที่ผมสำนึกในพระมหากรุณาทิคุณของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ก็คือท่านปกปักรักษาบ้านเมืองมาจนเราเป็นไทยทุกวันนี้และจะไม่ยอมให้ใครมาล้มสถาบันกษัตริย์อย่างแน่นอน
ไม่ใช่ขี้ข้าใคร ไม่ใช่ข้างไหน
อยู่เพื่อความถูกต้องและปกป้องสถาบัน
User avatar
badboysiam
 
Posts: 165
Joined: Fri Jan 28, 2011 6:05 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Solidus » Fri Apr 29, 2011 2:29 pm

phoosana wrote:อ่านแล้ว มึนๆ คนแปลผิด หรือแปลถูก
เดี๋ยว บางกอก เดี๋ยว กรุงเทพ

สยาม ก็มี
เมืองไทย ก็มี
คนไทย ก็มี

คำพวกนี้เขาใช้กันสมัยนั้นแล้วหรือ
บางกอกคือที่ตั้งทั้งเมืองกรุงธนบุรีและกรุงเทพฯ ครับ เดิมเป็นแผ่นเดียวกัน แต่ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราชมีการขุดคลองลัดบางกอกขึ้น ต่อมาคลองลัดนี้ได้กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาปัจจุบัน จึงต่างกันบ้างแต่ปกติจะเรียกเมืองราชธานีว่าพระนครซะมากกว่านี่ ส่วนของเดิมตื้นและแคบลงกลายเป็นคลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ คลองชักพระ
ส่วนสยามนั้นเป็นชื่อที่ต่างชาติเรียก เมืองไทยคนไทยนี่เพิ่งใช้ในช่วงรัตนโกสินทร์ตอนกลางไม่ใช่หรือครับ แต่ก่อนมาจากเมืองไหนก็เรียกเมืองนั้นเลยนี่ ตามความคิดผมคือคำพวกนี้มีใช้กันสมัยนั้น แต่ไม่นิยมใช้กัน ยกเว้นบางกอกที่ใช้กันมานาน
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Solidus » Fri Apr 29, 2011 2:38 pm

Gop wrote:
ผมอ่านเรื่องการสงครามในสมัยรัชกาลที่๑ ก็ได้ข้อสรุปพอสมควร

โดยเฉพาะสงครามเก้าทัพ เห็นได้ชัดว่าการรบของไทยมีเอกภาพมาก ทำการรบได้ตามแผนเกือบทั้งหมดโดยไม่มีความวุ่นวายภายในเกิดขึ้นเลย สำหรับผมนี่เป็นหลักฐานถึงความเป็นปึกแผ่น และแสดงถึงพระราชอำนาจอันเข้มแข็งของพระองค์ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่จะสร้างกันได้เพียงแค่ปีสองปีที่เปลี่ยนแผ่นดิน เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกต้องสั่งสมอำนาจบารมีมานานแล้ว และเมื่อถึงคราวเปลี่ยนแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะได้ครองแผ่นดิน ผมยอมรับว่าเรื่องรายละเอียดการเปลี่ยนแผ่นดิน ผมไม่ทราบสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมสนใจคือ ผลประโยชน์ที่ตกกับคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นเห็นได้ชัด เพราะในรัชสมัยของพระองค์ต้องรับศึก และปราบกบฎหลายครั้งมาก การศึกใหญ่กับพม่าก็ทำหลายครั้ง บริเวณหัวเมืองล้านนานั้น มาอยู่ในขอบขัณฑสีมาอย่างมั่นคง ก็ในรัชสมัยของพระองค์นี่เอง การรับมือกับสงครามที่ไม่หยุดหย่อนนี้ ถือว่าเป็นสิ่งพิสูจน์ความสามารถของในหลวงรัชกาลที่ ๑ ได้เป็นอย่างดีว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี เรามีแผ่นดินอยู่ได้ก็ เพราะท่านและบรรพชนที่ช่วยกันกอบกู้และปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ ผมอ่านแล้วก็สำนึกถึงบุญคุณของทุกท่าน ยอมรับว่าอ่านเรื่องราวการสงครามแล้ว ทำให้รักชาติและมีความรู็สึกชาตินิยมขึ้นเยอะ

ผมไม่เข้าใจพวกที่บ้าลัทธิเท่าเทียม มันรู้รากเหง้าของคนไทยมั้ยว่า เรามีแผ่นดินอยู่กันถึงทุกวันนี้น่ะ เพราะใคร??

ผมว่าหัวเมืองล้านนาไม่ใช่ขอบขัณฑสีมานะครับ แต่เป็นเมืองประเทศราช ขอบขัณฑสีมาต้นรัชกาลที่หนึ่งด้านเหนือน่าอยู่แค่พิษณุโลกเองนะครับ ด้านใต้อยู่แค่ไชยาเพราะนครศรีธรรมราชมีฐานะเป็นเมืองประเทศราช
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Fri Apr 29, 2011 3:29 pm

ประวัติศาสตร์นั้น ก็คล้ายการสืบคดี คือต้องอาศัยหลักฐาน นักสืบประวัติศาสตร์ที่ดีจึงต้องมีความสามารถในทางแยกแยะหลักฐานและประเมินค่ามันได้
หลักฐานที่ใช้นั้นว่าไปแล้วก็ไม่มากนัก มันก็เลยกลายเป็นปัญหา เพราะทำให้ไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้สมบูรณ์ แล้วถ้าใช้หลักฐานผิด ยิ่งจะทำให้ภาพรวมที่สร้างขึ้นได้ยากนั้น ยิ่งบิดเบี้ยวไปอีก

เครื่องมือสำคัญเกี่ยวกับการประเมินค่าหลักฐาน คือการตรวจสอบ ก่อนที่จะยอมรับข้อมูลชิ้นใหนว่าน่าใช้ นักสืบประวัติศาสตร์ต้องทดสอบความเท็จของมันเสียก่อน การทดสอบความเท็จนี้เป็นคุณสมบัติที่นักศึกษาทุกคนจะต้องมี คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ขาดคุณสมบัติข้อนี้ พวกเขาจึงมีพฤติกรรมอย่างที่เห็น

ตอนนี้ขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบางท่านก่อนครับ

คุณwincha เสนอเรื่องจากหนังสือความหลงในสงสาร,(สุทัสสา อ่อนค้อม),๒๕๔๙
ผมต้องขอเรียนถามว่า หนังสือนี้ใช้ระเบียบวิธีทางประวัติศาสตร์ที่สมบูรณ์แบบหรือไม่ครับ อย่างเรื่องนายสินเป็นลูกพระเจ้าแผ่นดินนี่ เพิ่งได้ยินวันนี้เอง เขาได้ข้อมูลมาจากใหนหรือ ส่วนการใช้ข้อมูลจากการเจริญกรรมฐานนั้น วิชาประวัติศาสตร์ยังไม่พัฒนาไปถึงจุดนั้นครับ ก็เลยยังต้องใช้วิธีการแบบปุถุชนไปก่อน

คุณมะแอศิษย์บังโม สงสัยว่า " ทำไมต้องปิดบัง ต้องปกปิดประวัติศาสตร์กันก็ไม่รู้" เกี่ยวกับการเปลี่ยนราชวงศ์
ขอบอกว่า ไม่ได้มีการปิดบังอะไรนี่ครับ เพียงแต่ว่า มีคำอธิบายหลายสำนวนมันก็เลยสับสน เรื่องพระเจ้าตากนี่ มีคนเขียนถึงมาตั้งร้อยปีแล้วละ สมเด็จกรมพระยาดำรงเคยอธิบายในหนังสือไทยรบพม่าว่า ทรงเขียนยกย่องพระเจ้าตากในทุกแง่ทุกมุมแล้ว นั่นแสดงว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณีนี้มาตั้งแต่สมัยนู้นแล้ว การที่คนไทยสนใจประวัติศาสตร์นั้นเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเอาประวัติศาสตร์มาบิดเบือนเพื่อทำลายล้างกัน อันนี้เลวชาติครับ

คุณovertherainbow สงสัยว่า "คุณนิธิเป็นแบบนี้ บังเอิญ หรือถูกซื้อตัว หรือเป็นการวางหมากมาแต่ต้นคะ"
ขอตอบว่า เขาเขียนเรื่องนี้ไว้นานก่อนมีเสื้อแดงเป็นหนังสือขายดีที่สุดแต่ก็ไม่ได้สร้างกระแสอะไรสักเท่าไหร่ ผมเชื่อว่าการที่เสื้อแดงเอางานของเขามาใช้นั้น ไม่ใช่เหตุบังเอิญ ผมเชื่อต่อไปว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่สร้างเสื้อแดงขึ้นมาครับ
พิจารณาจากการใช้หลักฐานของเขา เขาไม่มีคุณธรรมของครูเอาเสียเลย หนังสือจำนวนมากที่เขาเขียนก็หละหลวมเรื่องการประเมินค่าเอกสาร ทั้งนี้เพราะเขาสร้างพล๊อตขึ้นมาก่อน แล้วจึงเอาหลักฐานมาจับยัด โดยไม่สนใจว่านั่นเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือหรือไม่

คุรlionidas เห็นว่า "เรื่องบางเรื่อง ไม่สมควรจะรู้...." ข้อนี้ผมเห็นด้วย แต่เรื่องนี้มันกลายเป็นอาวุธมาทิ่มแทงสถาบัน จะวางเฉยโดยใช้หลักของคุณ น่าจะเสียเปรียบครับ

คุณthanong ขอ "กาแฟสองช้อน น้ำตางสอง ครีมไม่ต้อง..." แหะๆ กระทู้นี้มีแต่ไฟให้อะครับ อย่างอื่นคงต้องนำมาเอง

คุณcapricorns เสนอมุขปาฐะจากนครศรีธรรมราช นักประวัติศาสตร์ให้ความสำคัญกับหลักฐานประเภทนี้มากเหมือนกันครับ แต่จะใช้เพื่อเสริมบางประเด็น และใช้เมื่อสามารถพิสูจน์ความจริงเท็จได้แล้วเท่านั้น เป็นธรรมดาที่เรื่องเล่านั้น ถ่ายทอดจากท่านหนึ่งสู่อีกท่านหนึ่งแล้ว มักจะเพี้ยน เรื่องพระเจ้าตากนี้ อย่างน้อยต้องถ่ายทอดผ่านกันมาไม่ต่ำกว่า ๕-๖ ชั่วคน จึงต้องประเมินกันอย่างระมัดระวัง จริงอยู่ว่า การสรุปเรื่องลงมาเป็นคำพังเพยนั้น เป็นหนึ่งในกลวิธีทรงจำเรื่องราว แต่ข้อความสั้นๆ บางทีก็สร้างความเพี้ยนขนาดยาวได้ครับ

คุณphoosana สงสัยว่า บางกอก กรุงเทพ สยาม เมืองไทย คนไทย คำพวกนี้เก่าแค่ใหน
เท่าที่ทราบ คำว่าเมืองไทยมีแล้วในจารึกจากกรุงสุโขทัย คำว่าสยามและบางกอก ลาลูแบร์เขียนบันทึกว่าสมัยนั้น(สมัยพระนารายณ์) ใช้กันอยู่ มีเพียงคำว่ากรุงเทพเท่านั้น ที่ใช้กันสมัยรัชกาลที่ ๔ ลงมา ผิดถูกคงต้องสอบสวนอีกที ผมไม่ใช่นักประว้ติศาสตร์ภาษาเสียด้วยซี

คุณbonnerr เสนอข้อความที่เป็นความเห็นของตนเองล้วนๆ ขอขอบคุณที่บอกให้ทราบอย่างชัดเจนอย่างนี้ครับ นี่คือจรรยาของการแสดงความคิดเห็น คนที่มาอ่านจะได้ตั้งรับได้ถูกต้องครับ

คุณGop เสนอสิ่งที่เรียกว่าการตีความ นักประวัติศาสตร์จะใช้กลไกนี้ เมื่อได้รับข้อมูลที่มั่นคง เราไม่สามารถตีความจากหลักฐานเลอะเทอะอย่างที่นิธิกระทำ เรื่องการสงครามสมัยต้นรัชกาลที่ ๑ นั้น ผลสำเร็จของมันทำให้การตีความของคุณGop มีน้ำหนักน่าเชื่อถือครับ

คุณSolidus มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ที่หนักแน่น ขอคารวะครับ

-------------------
ปล ผมกลับไปแก้ตัวสะกดอีกครั้ง อ่านแล้วเจอที่ผิดกรุณาบอกด้วย จะเป็นพระคุณ แหะๆ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Gop » Fri Apr 29, 2011 4:09 pm

Solidus wrote:
Gop wrote:
ผมอ่านเรื่องการสงครามในสมัยรัชกาลที่๑ ก็ได้ข้อสรุปพอสมควร

โดยเฉพาะสงครามเก้าทัพ เห็นได้ชัดว่าการรบของไทยมีเอกภาพมาก ทำการรบได้ตามแผนเกือบทั้งหมดโดยไม่มีความวุ่นวายภายในเกิดขึ้นเลย สำหรับผมนี่เป็นหลักฐานถึงความเป็นปึกแผ่น และแสดงถึงพระราชอำนาจอันเข้มแข็งของพระองค์ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่จะสร้างกันได้เพียงแค่ปีสองปีที่เปลี่ยนแผ่นดิน เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกต้องสั่งสมอำนาจบารมีมานานแล้ว และเมื่อถึงคราวเปลี่ยนแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะได้ครองแผ่นดิน ผมยอมรับว่าเรื่องรายละเอียดการเปลี่ยนแผ่นดิน ผมไม่ทราบสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมสนใจคือ ผลประโยชน์ที่ตกกับคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นเห็นได้ชัด เพราะในรัชสมัยของพระองค์ต้องรับศึก และปราบกบฎหลายครั้งมาก การศึกใหญ่กับพม่าก็ทำหลายครั้ง บริเวณหัวเมืองล้านนานั้น มาอยู่ในขอบขัณฑสีมาอย่างมั่นคง ก็ในรัชสมัยของพระองค์นี่เอง การรับมือกับสงครามที่ไม่หยุดหย่อนนี้ ถือว่าเป็นสิ่งพิสูจน์ความสามารถของในหลวงรัชกาลที่ ๑ ได้เป็นอย่างดีว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี เรามีแผ่นดินอยู่ได้ก็ เพราะท่านและบรรพชนที่ช่วยกันกอบกู้และปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ ผมอ่านแล้วก็สำนึกถึงบุญคุณของทุกท่าน ยอมรับว่าอ่านเรื่องราวการสงครามแล้ว ทำให้รักชาติและมีความรู็สึกชาตินิยมขึ้นเยอะ

ผมไม่เข้าใจพวกที่บ้าลัทธิเท่าเทียม มันรู้รากเหง้าของคนไทยมั้ยว่า เรามีแผ่นดินอยู่กันถึงทุกวันนี้น่ะ เพราะใคร??

ผมว่าหัวเมืองล้านนาไม่ใช่ขอบขัณฑสีมานะครับ แต่เป็นเมืองประเทศราช ขอบขัณฑสีมาต้นรัชกาลที่หนึ่งด้านเหนือน่าอยู่แค่พิษณุโลกเองนะครับ ด้านใต้อยู่แค่ไชยาเพราะนครศรีธรรมราชมีฐานะเป็นเมืองประเทศราช


ขอบคุณครับ ผมเข้าใจคำว่าขอบขัณฑสีมาผิดไป ถ้าเป็นภาษาอังกฤษ น่าจะแปลว่า boundary แต่ล้านนานั้น น่าจะจัดอยู่ในประเภท Sphere of influence มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ขอแถมหน่อยครับ หัวเมืองล้านนานั้น มาอยู่ใต้อำนาจเราอย่างมั่นคงในสมัยรัชกาลที่ ๑ นี่เอง เวลาเรารับศึกพม่าทางเหนือ ในอดีตมักจะเริ่มที่พิษณุโลกหรือกำแพงเพชร แต่สมัยของพระเจ้าตากสิน และรัชการลที่ ๑ เราให้ความสำคัญกับล้านนามาก เพราะถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ ถ้ายึดไว้ได้ พม่าก็ไม่สามารถเอามาใช้เป็นฐานส่งกำลังบำรุงได้ อย่างสงครามเก้าทัพ ทัพเหนือของพม่าก็มาติดอยู่ที่ลำปาง ส่วนครั้งหลังๆ อย่างมากก็ได้แค่ล้อมเชียงใหม่ ไม่นานก็จอดแล้ว นี่เป็นถือเป็นการวางยุทธศาสตร์ที่สำคัญมาก เพราะเรามีหัวเมืองใหญ่ ที่มีไพร่พลมากพอที่จะต้านพม่าตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้ศึกด้านใกล้กรุงนั้นเบาลง (แต่ตอนเก้าทัพก็ยังหนักอยู่ดี) และนีคืออีกหนึ่งในผลงานของในหลวงรัชกาลที่ ๑ ที่ผมภูมิใจมากครับ
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby นายเวร » Fri Apr 29, 2011 4:11 pm

โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการอ่านกระทู้นี้

ควรใช้สติปัญญาตรึงตรอง รอบครอบให้มากเข้าไว้กันนะฮ้า :lol: :lol:


คุกกักขังได้แค่กายหยาบ ... คุกมิอาจกำหราบใจกล้าแกร่ง

จิตวิญญาณ เสรีชน มิโรยแรง ... จักตอบโต้ ทุกตะแบง แห่งอธรรม


ว.แหวนลงยา
เย้ยฟ้า ท้านรก
User avatar
นายเวร
 
Posts: 3515
Joined: Tue Jun 01, 2010 3:36 am

Re: เรื่องพระเจ้าตาก

Postby นายเวร » Fri Apr 29, 2011 4:14 pm

คนกวาดขยะ wrote:
คนกวาดขยะ wrote:แจ้งสมาชิกทราบ การเปลี่ยนราชวงค์เป็นเรื่องปกติในยุคโบราณ ไม่ว่าส่วนไหน อาณาจักรไหน ของโลกก็มีเช่นเดียวกัน จะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

ที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นไม่ห้ามครับ นับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่นำข้อมูลมาแย้งพวกล้มเจ้าที่ใช้ประเด็นนี้บิดเบือนโจมตีกระทบชิ่งอยู่เนืองๆ ถือเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้

แต่ห้ามสมาชิกอภิปรายในเชิงลบเพื่อกระทบต่อราชวงค์ปัจจุบัน ซึ่งผิดกฏของเว็บมีโทษแบนถาวรสถานเดียวครับ


ใจเย็นๆท่าน ไม่เข้ามาเมนต์อีกเหรก กระทู้นี่ เดี๋ยวไม่มีที่โพสต์อ่ะ :cry:


คุกกักขังได้แค่กายหยาบ ... คุกมิอาจกำหราบใจกล้าแกร่ง

จิตวิญญาณ เสรีชน มิโรยแรง ... จักตอบโต้ ทุกตะแบง แห่งอธรรม


ว.แหวนลงยา
เย้ยฟ้า ท้านรก
User avatar
นายเวร
 
Posts: 3515
Joined: Tue Jun 01, 2010 3:36 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby unook » Fri Apr 29, 2011 7:30 pm

ขอบคุณทุกๆความเห็นที่เทิดทูนเหล่าบูรพกษัตริย์ของเราชาวไทยนะครับ
ได้ความรู้ในมุมมองต่างๆที่เป็นประโยชน์มากทีเดียว
User avatar
unook
 
Posts: 31
Joined: Thu Feb 17, 2011 12:37 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby yoshikiryuichiro » Sat Apr 30, 2011 12:41 am

นายเวร wrote:
คนกวาดขยะ wrote:
คนกวาดขยะ wrote:แจ้งสมาชิกทราบ การเปลี่ยนราชวงค์เป็นเรื่องปกติในยุคโบราณ ไม่ว่าส่วนไหน อาณาจักรไหน ของโลกก็มีเช่นเดียวกัน จะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

ที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นไม่ห้ามครับ นับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่นำข้อมูลมาแย้งพวกล้มเจ้าที่ใช้ประเด็นนี้บิดเบือนโจมตีกระทบชิ่งอยู่เนืองๆ ถือเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้

แต่ห้ามสมาชิกอภิปรายในเชิงลบเพื่อกระทบต่อราชวงค์ปัจจุบัน ซึ่งผิดกฏของเว็บมีโทษแบนถาวรสถานเดียวครับ


ใจเย็นๆท่าน ไม่เข้ามาเมนต์อีกเหรก กระทู้นี่ เดี๋ยวไม่มีที่โพสต์อ่ะ :cry:
นายเวร wrote:โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการอ่านกระทู้นี้

ควรใช้สติปัญญาตรึงตรอง รอบครอบให้มากเข้าไว้กันนะฮ้า :lol: :lol:


นี่นายเวรกรุณาอย่ามาก่อก่วนกระทู้คนอื่น

ถึงนายไม่พูดก็ไม่มีใครเขาหาว่าเป็นใบ้หรอกนะ ถ้าไม่่เข้าใจภาษาคนพูดก็ออกไปเลย มาทางใหนไปทางนั้นเลย
大一大万大吉

一人が皆のため 皆が一人のために尽くせば 天下は幸せになれる...
これが私の正義!!

เมื่อคนๆหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อทุกๆคน และทุกๆคนจะทำทุกอย่างเพื่อคนๆนั้นเมื่อใด เมื่อนั้นแผ่นดินจะร่มเย็นเป็นสุข
นี่คือคุณธรรมของชั้น!!
User avatar
yoshikiryuichiro
 
Posts: 574
Joined: Sat May 15, 2010 10:34 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby bonnerr » Sat Apr 30, 2011 2:12 am

ขอกราบเรียนท่านเจ้าของกระทู้และทุกท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นและเข้ามาอ่านว่า ตัวเองไม่ได้เป็นนักวิชาการ หรือนักประวัติศาสตร์ เป็นเด็กเกิดใกล้วัดอินทาราม (วัดบางยี่เรือ) ตลาดพลู เรียนหนังสือที่โรงเรียนนี้ เข้าไปวิ่งเล่นกับเพื่อนในโบสถ์ ยามเดือนสิบสอง น้ำนองตลิ่ง ตามเพื่อนไปเล่นน้ำที่คลองบางหลวงที่ไหลผ่านหน้าวัด ตอนนั้นได้ยินแต่ว่า ที่วัดนี้มีวิหารพระเจ้าตาก เมื่อโตขึ้น มีงานมีการทำ เห็นมีหนังสือ การเมืองสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน วางขาย ด้วยความสนใจอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพระเจ้าตาก จึงซื้อหนังสือมาอ่าน ตั้งใจว่า หากมีโอกาสกลับไปบ้านเกิด พบเพื่อนเก่า จะถือโอกาสไปสักการะพระรูปพระเจ้าตากใน วิหารพระเจ้าตาก ที่วัดอินทาราม ตลาดพลู ธนบุรี
User avatar
bonnerr
 
Posts: 811
Joined: Thu Jan 27, 2011 2:08 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 4:11 am

นักวิชาการก็คน เราก็คน นักวิชาการจะต่างอะไรกับเรา เราเสียอีกที่รู้จักกตัญญ ู รู้จักดีชั่ว รู้จักคุณค่า

เป็นนักวิชาการแล้วรับใช้ทักษิณ เป็นศาสตราจารย์แล้วสนับสนุนพวกโกงชาติ เป็นดอกเตอร์แต่มั่วสุมกับโจร มอมเมาคนที่โง่กว่า หลอกใช้คนที่ด้อยกว่า เอาเปรียบคนที่หวังพึ่ง

เป็นนักวิชาการอย่างนี้ เป็นเดียรัจฉานยังจะดีเสียกว่า

ที่เราคุยกันในกระทู้นี้ ก็เพียงแค่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระดมข้อมูลหลักฐานมาช่วยกันพิจารณา เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า พวกเศษเดนที่อ้างวิชาการ มันสร้างการตอแหลไว้หนักหนาสาหัสอย่างไร มันเอาประวัติศาสตร์ไทยซึ่งเป็นของคนไทยทุกคน มาบิดเบือนเพื่อทำลายสังคมไทย ทำไปทั้งๆที่รู้ว่ากำลังบิดเบือน นี่หรือคือนักวิชาการ

วาระสุดท้ายของพระเจ้าตากนั้น ผ่านมาแล้วตั้งสองร้อยกว่าปี แทบจะไม่มีผลต่อชีวิตปัจจุบัน มันยังเอามาใช้ หวังจะสร้างความปั่นป่วนแก่สังคม ต้องยืมคำของหมอนั่นที่ว่า สั ต ว์ นรก มาใช้เรียกพวกมัน จึงจะสาสม

พระเจ้าตากนั้น ท่านกู้ชาติขึ้นมาจากความล่มสลาย ขับไล่กองกำลังต่างชาติออกจากผืนแผ่นดินไทย แต่พวกมันทำตรงกันข้าม มันรับใช้พลเมืองมอนเตรเนโกร มันพึ่งทนายต่างชาติ มันสมคบเขมร มันเผาบ้านเผาเมืองหวังจะได้อำนาจรัฐ สารเลวอย่างนี้ยังกล้าใช้พระราชประวัติของวีรกษัตริย์พระองค์นี้ มาทำลายประเทศไทย



พวกเราเป็นแค่คนไทยรักชาติ แค่นี้ก็พอเพียงแล้วละครับ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby E29QMJ » Sat Apr 30, 2011 9:44 am

amplepoor wrote:นักวิชาการก็คน เราก็คน นักวิชาการจะต่างอะไรกับเรา เราเสียอีกที่รู้จักกตัญญ ู รู้จักดีชั่ว รู้จักคุณค่า

เป็นนักวิชาการแล้วรับใช้ทักษิณ เป็นศาสตราจารย์แล้วสนับสนุนพวกโกงชาติ เป็นดอกเตอร์แต่มั่วสุมกับโจร มอมเมาคนที่โง่กว่า หลอกใช้คนที่ด้อยกว่า เอาเปรียบคนที่หวังพึ่ง

เป็นนักวิชาการอย่างนี้ เป็นเดียรัจฉานยังจะดีเสียกว่า

ที่เราคุยกันในกระทู้นี้ ก็เพียงแค่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระดมข้อมูลหลักฐานมาช่วยกันพิจารณา เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า พวกเศษเดนที่อ้างวิชาการ มันสร้างการตอแหลไว้หนักหนาสาหัสอย่างไร มันเอาประวัติศาสตร์ไทยซึ่งเป็นของคนไทยทุกคน มาบิดเบือนเพื่อทำลายสังคมไทย ทำไปทั้งๆที่รู้ว่ากำลังบิดเบือน นี่หรือคือนักวิชาการ

พวกเราเป็นแค่คนไทยรักชาติ แค่นี้ก็พอเพียงแล้วละครับ


เห็นด้วยเต็มร้อยครับ
ส่วนตัวผม เวลามองตัวเองและโลก(หมายถึงผู้อื่น) ผมชอบนึกถึงวลีหนึ่งที่กล่าวไว้โดย
องค์กรรมาปะที่ 17 ผู้นำจิตวิญญาณธิเบต ท่านกล่าวว่า
"ขอให้แน่ใจว่าท่านมีเจตนาที่เป็นกุศล"
นี่อาจเป็นกุสโลบายให้ผมไม่เชื่อหรือเชื่ออะไร โดยที่ยังไม่ได้ไตร่ตรอง
และในสังคมเสรีไทยของเรานี้ ผมเชื่อว่าเป็นสังคมอุดมปัญญา ที่ควรค่าเข้ามาเป็นสมาชิกครับ
ต่อต้านคนเนรคุณต่อแผ่นดินเกิดให้ถึงที่สุด
User avatar
E29QMJ
 
Posts: 231
Joined: Thu Apr 07, 2011 9:08 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby overtherainbow » Sat Apr 30, 2011 9:48 am

คุณแอมเขียนมาตอนเช้ามืดนี่
จะปิดกระทู้หรือว่า
จะสรุปวัตถุประสงค์เป็นระยะๆคะ :mrgreen:
คราบนักวิชาการ และด้อกเตอร์ หรือเป็นศจ มันสามารถหลอกและทำให้คนที่สนใจเปลือก ฉาบฉวยเอาไปทำมาหากินรับใช้คนทุจริตได้เพียงเท่านั้น
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 1:30 pm

ผมนอนดึก....เอ้ย นอนเช้าครับเจ๊รุ้ง

กระทู้นี้คงปิดไม่ได้หรอก แต่ละท่านมีความตั้งใจจะเสนอความเห็น แม้แต่ตัวแสบอย่างน้องเดสฯ ก็ยังระวังถ้อยคำ

ขอลงรายงานของบาทหลวงต่ออีกหน่อยก่อนนะครับ
-----------------------

ต่อมาข้าพเจ้าได้รับจดหมายมาอีกฉบับ ๑ บอกข่าวมาโดยเฉพาะว่า มีเสียงกล่าวกันว่าพระเจ้าตากต้องสวรรคตลงนั้น เปนเพราะราษฎรมีความโกรธแค้นนัก จึงได้จับพระเจ้าตากฆ่าเสีย แต่พระเจ้าตากจะสวรรคตด้วยประการใดก็ตาม ก็เปนอันแน่นอนว่าพระเจ้าตากได้ถูกปลงพระชนม์สวรรคต เมื่อวันที่ ๗ เดือนเมษายน ค.ศ. ๑๗๘๒ (พ.ศ. ๒๓๒๕)

เมื่อก่อนพระเจ้าตากสวรรคต และก่อนพระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ได้เสด็จมาถึงนั้น พวกข้าราชการซึ่งได้ก่อการจลาจลพาราษฎรไปล้อมพระราชวังนั้น มีความขัดเคืองพวกเข้ารีดซึ่งได้รักษาพระราชวังไว้ได้ จึงได้จับพวกทหารเข้ารีดขังคุกเสียหลายคน

แต่พระเจ้าตากซึ่งเวลานั้น ทรงผนวชอยู่ได้ขอร้องให้พวกทหารเสีย พวกทหารเข้ารีดติดคุกอยู่ไม่กี่วันก็ออกได้ แต่ถึงดังนั้นพวกราษฎรก็ได้ไปปล้นค่ายพวกเข้ารีด และได้ไปปล้นวัดเข้ารีดเก็บเข้าของต่าง ๆ ที่ยังเหลืออยู่จนหมดสิ้น คงเหลือแต่รูปสองสามรูปกับตัวโบสถ์อยู่เท่านั้น นี่แหละการที่พวกเข้ารีดได้มีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน กลับได้รับผลร้ายเช่นนี้และถ้าจะว่าไปแล้ว พวกเข้ารีดมีข้อที่จะไม่พอใจพระเจ้าแผ่นดินยิ่งกว่าคนอื่นเสียอีก

การเปนไปของการสาสนา ได้มีคนเขียนจดหมายจากบางกอก ถึงมองเซนเยอร์คูเด ที่เมืองภูเก็จ บอกข่าวว่า ในวันแรกที่พระเจ้าแผ่นดินองค์ใหม่ได้เสด็จออกให้พวกเข้ารีดเฝ้า ได้มีพระราชโองการดำรัสว่า มีพระราชประสงค์ จะให้พวกเข้ารีดเรียกสังฆราช และบาดหลวงซึ่งพระเจ้าตากได้ไล่ไปนั้น ให้กลับเข้ามาอยู่ในเมืองไทยอีก และต่อ ๆ มาก็ได้รับสั่ง เช่นนี้อีกหลายครั้ง

แล้วพระเจ้ากรุงสยามจึงจัดให้ข้าราชการที่เข้ารีดผู้หนึ่ง ลงเรือสำเภาหลวง (คือเปนเรือของหลวงต่ออย่างแบบเรือของจีน) ไปยังเมืองมาเก๊า ให้ถือจดหมายเจ้าพระยาพระคลัง ไปส่งยังเจ้าเมืองมาเก๊าฉบับ ๑ ในจดหมายฉบับนี้มีใจความบอกให้ เจ้าเมืองมาเก๊าทราบว่า พระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงค์จะให้มิชชันนารีมายังเมืองไทย และให้บอกพวกปอตุเกตให้ทราบว่า พระเจ้ากรุงสยามมีพระราชประสงค์ จะเปนไมตรีกับนานาประเทศ และมีพระ-ราชประสงค์ จะบำรุงการค้าขายในประเทศสยามให้เจริญดังแต่ก่อน จดหมายเจ้าพระยาพระคลังฉบับนี้ เจ้าเมืองมาเก๊าได้รับไว้ด้วยความยินดี จึงได้ส่งจดหมายไปยังเมืองโกอาต่อไป และที่ปรึกษา ราชการเมืองมาเก๊า ก็มีความยินดีที่ได้ทราบความตามจดหมายนั้นเหมือนกัน จึงได้รับรองว่าจะช่วยให้การได้เปนไปตามพระราชประสงค์ของพระเจ้ากรุงสยาม เท่าที่จะทำได้ เพื่อพระมหากรุณาให้ทรงบำรุงและปล่อยให้พวกเข้ารีดในประเทศสยามได้ทำการในหน้าที่สาสนาได้โดยสดวก แต่ก็ดูพวกเจ้าพนักงารเมืองมาเก๊า มิได้ รีบร้อนที่จะส่งเรือไปค้าขายในเมืองไทยเท่าไรนัก

แต่การที่พวก มาเก๊าไม่รีบร้อนเช่นนี้ ก็คงจะไม่ทำให้การของสาสนาเสียหายไปได้ พระเจ้ากรุงสยามพระองค์ใหม่ได้โปรดยกเว้นพวกทหารเข้ารีดไม่ต้องไปเข้าพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา ซึ่งเปนต้นเหตุที่กระทำให้เกิดวุ่นขึ้นในคราวหลังนี้ แต่ส่วนพวกขุนนางที่เข้ารีดนั้นหาได้ทรงยกเว้นให้ไม่ ขุนนางที่เข้ารีดคน ๑ จึงได้มีจดหมายมายังข้าพเจ้าว่า คิดจะลาออกจากราชการ เพราะเหตุที่ไม่ได้รับความยกเว้นในการถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา พระเจ้ากรุงสยามก็ได้โปรดปล่อยให้พวกหญิงเข้ารีดได้กลับไปอยู่กับบิดามารดายังบ้าน เพราะหญิงเหล่านี้เปนคนที่ พระเจ้าตากให้ไปจับมาและเอาไปขังไว้ในพระราชวัง
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron