Strangerman wrote:เห็นความตั้งใจจริง ของ คุณ จขกท. ล่ะครับ
เป็นกำลังใจให้ล่ะกันครับ
ส่วนไอ้พวกล้มเจ้า นี่ขอให้เจริญลงๆ ไปไวๆ และตายอย่างทรมานล่ะกัน
มีในหลวงประเสริฐ ขนาดนี้ ยังไม่วายจริงๆ ไม่รู้จะสรรหา คำไหน มาด่าพวกมันจริงๆ![]()
![]()
boonnum wrote:Strangerman wrote:เห็นความตั้งใจจริง ของ คุณ จขกท. ล่ะครับ
เป็นกำลังใจให้ล่ะกันครับ
ส่วนไอ้พวกล้มเจ้า นี่ขอให้เจริญลงๆ ไปไวๆ และตายอย่างทรมานล่ะกัน
มีในหลวงประเสริฐ ขนาดนี้ ยังไม่วายจริงๆ ไม่รู้จะสรรหา คำไหน มาด่าพวกมันจริงๆ![]()
![]()
เห็นด้วยอย่างแรงครับ LIKE![]()
คนกวาดขยะ wrote:แจ้งสมาชิกทราบ การเปลี่ยนราชวงค์เป็นเรื่องปกติในยุคโบราณ ไม่ว่าส่วนไหน อาณาจักรไหน ของโลกก็มีเช่นเดียวกัน จะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
ที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นไม่ห้ามครับ นับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่นำข้อมูลมาแย้งพวกล้มเจ้าที่ใช้ประเด็นนี้บิดเบือนโจมตีกระทบชิ่งอยู่เนืองๆ ถือเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้
แต่ห้ามสมาชิกอภิปรายในเชิงลบเพื่อกระทบต่อราชวงค์ปัจจุบัน ซึ่งผิดกฏของเว็บมีโทษแบนถาวรสถานเดียวครับ
baezae wrote:อีกประการหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ การเห็นพ้องต้องกันของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ และการขึ้นครองราชย์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ ครับ
อันนี้มีพื้นฐานจากการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ท่านไม่ได้ทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าทางใด กำเนิดเป็นเพียงสามัญชน ไม่ใช่ว่าท่านไม่ทรงปรีชาสามารถนะครับ ท่านทรงปรีชามาก แต่ในสมัยโบราณคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้นำคือ ชาติกำเนิด น้อยนักที่เก่งเพียงอย่างเดียวแล้วจะเป็นผู้นำได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะก็จะมีการกระด้างกระเดื่องของผู้ที่เคยมีศักดิ์สูงกว่าอยู่เสมอ ๆ และถ้ามองในระยะยาว กลุ่มที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์บ้านพลูหลวงก็น่าจะยังมี และอาจจะกลับมาใช้ข้ออ้างนี้เมื่อไรก็ได้
ในขณะที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๑ ท่านทรงสืบสายราชวงศ์พระร่วง ทั้งความปรีชาสามารถก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า หากได้ขึ้นครองราชย์เป็นผู้นำ ก็น่าจะช่วยให้ตัดเรื่องการแย่งชิงและความร้าวฉานภายในได้ในระดับหนึ่ง ทั้งยังทรงมีกองหนุนที่เข้มแข็งมาก ๆ อย่างกรมพระราชวังบวรฯ เป็นหลักให้พิงด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าทรง"สมยอม" ในเรื่องการผลัดแผ่นดินกัน แต่ถ้าจะยกให้เฉย ๆ เลย ก็ไม่พ้นข้อครหาเรื่องการสืบราชสมบัติอีก เพราะตามมณเฑียรบาลก็ต้องต่อให้ลูกหรือไม่ก็คนในสายโลหิตเดียวกัน จะข้ามมาแบบนี้ก็ต้องใช้วิธีปราบดาภิเษกเพียงอย่างเดียว
"ผู้ชนะเป็นผู้เขียนประวัติศาสตร์" มีคนกล่าวไว้
ส่วนที่ว่าถ้าเป็นการสมยอม ทำไมต้องสำเร็จโทษ และประหารเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ และผู้จงรักภักดี ต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลชั้นทุติยภูมิทั้งสิ้น กล่าวคือไม่มีใครรู้เรื่องแท้จริง ณ ที่เกิดเหตุมาบอกให้เราทราบ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเพียงแค่การบันทึกเรื่องราวเพื่อบังหน้า สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ อาจจะทรงเพียงแค่ออกผนวช กลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์อาจจะได้รับการชุบเลี้ยงแบบเงียบ ๆ และกลุ่มข้าราชบริพารก็แยกย้ายกัน ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะไม่มีใครรู้จัก เพราะในสมัยก่อน ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์มองพระพักตร์ท่านโดยตรงอยู่แล้ว การจะไม่รู้จักหน้าต่อให้เดินผ่านสวนกันก็ย่อมเป็นไปได้ และหลักฐานอีกอย่างคือ การที่มีผู้สืบเชื้อสายต่อมา ทั้งในส่วนของพระเจ้าตากสินฯ และข้าราชบริพาร (เช่น พระยาพิชัยฯ) ที่มีลูกหลานสืบมาถึงปัจจุบัน ถ้าจะตัดรากถอนโคนกันจริง ๆ ต้องประหารกันไม่ให้เหลือสืบทอดแบบของจีนไปแล้ว
อันนี้สันนิษฐานของผมล้วน ๆ เลย
bonnerr wrote:baezae wrote:อีกประการหนึ่งที่ผมเชื่อก็คือ การเห็นพ้องต้องกันของสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ และการขึ้นครองราชย์ของล้นเกล้ารัชกาลที่ ๑ ครับ
อันนี้มีพื้นฐานจากการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ท่านไม่ได้ทรงสืบเชื้อสายมาจากเจ้าทางใด กำเนิดเป็นเพียงสามัญชน ไม่ใช่ว่าท่านไม่ทรงปรีชาสามารถนะครับ ท่านทรงปรีชามาก แต่ในสมัยโบราณคุณสมบัติที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้นำคือ ชาติกำเนิด น้อยนักที่เก่งเพียงอย่างเดียวแล้วจะเป็นผู้นำได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะก็จะมีการกระด้างกระเดื่องของผู้ที่เคยมีศักดิ์สูงกว่าอยู่เสมอ ๆ และถ้ามองในระยะยาว กลุ่มที่สืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์บ้านพลูหลวงก็น่าจะยังมี และอาจจะกลับมาใช้ข้ออ้างนี้เมื่อไรก็ได้
ในขณะที่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๑ ท่านทรงสืบสายราชวงศ์พระร่วง ทั้งความปรีชาสามารถก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่า หากได้ขึ้นครองราชย์เป็นผู้นำ ก็น่าจะช่วยให้ตัดเรื่องการแย่งชิงและความร้าวฉานภายในได้ในระดับหนึ่ง ทั้งยังทรงมีกองหนุนที่เข้มแข็งมาก ๆ อย่างกรมพระราชวังบวรฯ เป็นหลักให้พิงด้วย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าทรง"สมยอม" ในเรื่องการผลัดแผ่นดินกัน แต่ถ้าจะยกให้เฉย ๆ เลย ก็ไม่พ้นข้อครหาเรื่องการสืบราชสมบัติอีก เพราะตามมณเฑียรบาลก็ต้องต่อให้ลูกหรือไม่ก็คนในสายโลหิตเดียวกัน จะข้ามมาแบบนี้ก็ต้องใช้วิธีปราบดาภิเษกเพียงอย่างเดียว
ส่วนที่ว่าถ้าเป็นการสมยอม ทำไมต้องสำเร็จโทษ และประหารเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ และผู้จงรักภักดี ต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลชั้นทุติยภูมิทั้งสิ้น กล่าวคือไม่มีใครรู้เรื่องแท้จริง ณ ที่เกิดเหตุมาบอกให้เราทราบ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเพียงแค่การบันทึกเรื่องราวเพื่อบังหน้า สมเด็จพระเจ้าตากสินฯ อาจจะทรงเพียงแค่ออกผนวช กลุ่มพระบรมวงศานุวงศ์อาจจะได้รับการชุบเลี้ยงแบบเงียบ ๆ และกลุ่มข้าราชบริพารก็แยกย้ายกัน ซึ่งก็เป็นไปได้ที่จะไม่มีใครรู้จัก เพราะในสมัยก่อน ประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิ์มองพระพักตร์ท่านโดยตรงอยู่แล้ว การจะไม่รู้จักหน้าต่อให้เดินผ่านสวนกันก็ย่อมเป็นไปได้ และหลักฐานอีกอย่างคือ การที่มีผู้สืบเชื้อสายต่อมา ทั้งในส่วนของพระเจ้าตากสินฯ และข้าราชบริพาร (เช่น พระยาพิชัยฯ) ที่มีลูกหลานสืบมาถึงปัจจุบัน ถ้าจะตัดรากถอนโคนกันจริง ๆ ต้องประหารกันไม่ให้เหลือสืบทอดแบบของจีนไปแล้ว
อันนี้สันนิษฐานของผมล้วน ๆ เลย
capricorns wrote:เรื่องพระเจ้าตากนี่มีหลายที่มาเหมือนกันแฮะ
ที่นครศรีธรรมราชบ้านเกิดผมยังมี วลี หนึ่งนะครับ "หกว่าเป็นกระดูกเจ้าเมืองนคร"ซึ่งแปลได้ 2 ความหมาย ตามนี้
- บริเวณหกต้นหว้านั้นเป็นที่ตั้งของกระดูกเจ้าเมืองนคร
- บริเวณนั้นโดนโกหกว่าเป็นกระดูกเจ้าเมืองนคร ซึ่งอาจเป็นกระดูกของพระเจ้าตาก
และยังมีเรื่องเล่าเก่า ๆ ว่าพระเจ้าตากผนวชและมรณภาพที่วัดในอำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยครับ ส่วนสาเหตูก็มีการเล่าว่ามาจากเรื่องเงินกู้ของจีนนี่หละครับ
** ปล.เรื่องที่ผมเล่าไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรให้พิสูจน์นะครับ แต่เป็นเรื่องที่คนเฒ่าคนแก่ เล่าให้ผมฟังมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ จนเดี๋ยวนี้ถ้าลองไปถามคนแก่ที่นครศรีธรรมราชก็จะได้รับคำตอบประมาณนี้ครับ
บางกอกคือที่ตั้งทั้งเมืองกรุงธนบุรีและกรุงเทพฯ ครับ เดิมเป็นแผ่นเดียวกัน แต่ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราชมีการขุดคลองลัดบางกอกขึ้น ต่อมาคลองลัดนี้ได้กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาปัจจุบัน จึงต่างกันบ้างแต่ปกติจะเรียกเมืองราชธานีว่าพระนครซะมากกว่านี่ ส่วนของเดิมตื้นและแคบลงกลายเป็นคลองบางกอกน้อย คลองบางกอกใหญ่ คลองชักพระphoosana wrote:อ่านแล้ว มึนๆ คนแปลผิด หรือแปลถูก
เดี๋ยว บางกอก เดี๋ยว กรุงเทพ
สยาม ก็มี
เมืองไทย ก็มี
คนไทย ก็มี
คำพวกนี้เขาใช้กันสมัยนั้นแล้วหรือ
ผมว่าหัวเมืองล้านนาไม่ใช่ขอบขัณฑสีมานะครับ แต่เป็นเมืองประเทศราช ขอบขัณฑสีมาต้นรัชกาลที่หนึ่งด้านเหนือน่าอยู่แค่พิษณุโลกเองนะครับ ด้านใต้อยู่แค่ไชยาเพราะนครศรีธรรมราชมีฐานะเป็นเมืองประเทศราชGop wrote:
ผมอ่านเรื่องการสงครามในสมัยรัชกาลที่๑ ก็ได้ข้อสรุปพอสมควร
โดยเฉพาะสงครามเก้าทัพ เห็นได้ชัดว่าการรบของไทยมีเอกภาพมาก ทำการรบได้ตามแผนเกือบทั้งหมดโดยไม่มีความวุ่นวายภายในเกิดขึ้นเลย สำหรับผมนี่เป็นหลักฐานถึงความเป็นปึกแผ่น และแสดงถึงพระราชอำนาจอันเข้มแข็งของพระองค์ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่จะสร้างกันได้เพียงแค่ปีสองปีที่เปลี่ยนแผ่นดิน เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกต้องสั่งสมอำนาจบารมีมานานแล้ว และเมื่อถึงคราวเปลี่ยนแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะได้ครองแผ่นดิน ผมยอมรับว่าเรื่องรายละเอียดการเปลี่ยนแผ่นดิน ผมไม่ทราบสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมสนใจคือ ผลประโยชน์ที่ตกกับคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นเห็นได้ชัด เพราะในรัชสมัยของพระองค์ต้องรับศึก และปราบกบฎหลายครั้งมาก การศึกใหญ่กับพม่าก็ทำหลายครั้ง บริเวณหัวเมืองล้านนานั้น มาอยู่ในขอบขัณฑสีมาอย่างมั่นคง ก็ในรัชสมัยของพระองค์นี่เอง การรับมือกับสงครามที่ไม่หยุดหย่อนนี้ ถือว่าเป็นสิ่งพิสูจน์ความสามารถของในหลวงรัชกาลที่ ๑ ได้เป็นอย่างดีว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี เรามีแผ่นดินอยู่ได้ก็ เพราะท่านและบรรพชนที่ช่วยกันกอบกู้และปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ ผมอ่านแล้วก็สำนึกถึงบุญคุณของทุกท่าน ยอมรับว่าอ่านเรื่องราวการสงครามแล้ว ทำให้รักชาติและมีความรู็สึกชาตินิยมขึ้นเยอะ
ผมไม่เข้าใจพวกที่บ้าลัทธิเท่าเทียม มันรู้รากเหง้าของคนไทยมั้ยว่า เรามีแผ่นดินอยู่กันถึงทุกวันนี้น่ะ เพราะใคร??
Solidus wrote:ผมว่าหัวเมืองล้านนาไม่ใช่ขอบขัณฑสีมานะครับ แต่เป็นเมืองประเทศราช ขอบขัณฑสีมาต้นรัชกาลที่หนึ่งด้านเหนือน่าอยู่แค่พิษณุโลกเองนะครับ ด้านใต้อยู่แค่ไชยาเพราะนครศรีธรรมราชมีฐานะเป็นเมืองประเทศราชGop wrote:
ผมอ่านเรื่องการสงครามในสมัยรัชกาลที่๑ ก็ได้ข้อสรุปพอสมควร
โดยเฉพาะสงครามเก้าทัพ เห็นได้ชัดว่าการรบของไทยมีเอกภาพมาก ทำการรบได้ตามแผนเกือบทั้งหมดโดยไม่มีความวุ่นวายภายในเกิดขึ้นเลย สำหรับผมนี่เป็นหลักฐานถึงความเป็นปึกแผ่น และแสดงถึงพระราชอำนาจอันเข้มแข็งของพระองค์ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่จะสร้างกันได้เพียงแค่ปีสองปีที่เปลี่ยนแผ่นดิน เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกต้องสั่งสมอำนาจบารมีมานานแล้ว และเมื่อถึงคราวเปลี่ยนแผ่นดิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะได้ครองแผ่นดิน ผมยอมรับว่าเรื่องรายละเอียดการเปลี่ยนแผ่นดิน ผมไม่ทราบสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ผมสนใจคือ ผลประโยชน์ที่ตกกับคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้นเห็นได้ชัด เพราะในรัชสมัยของพระองค์ต้องรับศึก และปราบกบฎหลายครั้งมาก การศึกใหญ่กับพม่าก็ทำหลายครั้ง บริเวณหัวเมืองล้านนานั้น มาอยู่ในขอบขัณฑสีมาอย่างมั่นคง ก็ในรัชสมัยของพระองค์นี่เอง การรับมือกับสงครามที่ไม่หยุดหย่อนนี้ ถือว่าเป็นสิ่งพิสูจน์ความสามารถของในหลวงรัชกาลที่ ๑ ได้เป็นอย่างดีว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ดี เรามีแผ่นดินอยู่ได้ก็ เพราะท่านและบรรพชนที่ช่วยกันกอบกู้และปกป้องบ้านเมืองเอาไว้ ผมอ่านแล้วก็สำนึกถึงบุญคุณของทุกท่าน ยอมรับว่าอ่านเรื่องราวการสงครามแล้ว ทำให้รักชาติและมีความรู็สึกชาตินิยมขึ้นเยอะ
ผมไม่เข้าใจพวกที่บ้าลัทธิเท่าเทียม มันรู้รากเหง้าของคนไทยมั้ยว่า เรามีแผ่นดินอยู่กันถึงทุกวันนี้น่ะ เพราะใคร??
คนกวาดขยะ wrote:คนกวาดขยะ wrote:แจ้งสมาชิกทราบ การเปลี่ยนราชวงค์เป็นเรื่องปกติในยุคโบราณ ไม่ว่าส่วนไหน อาณาจักรไหน ของโลกก็มีเช่นเดียวกัน จะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
ที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นไม่ห้ามครับ นับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่นำข้อมูลมาแย้งพวกล้มเจ้าที่ใช้ประเด็นนี้บิดเบือนโจมตีกระทบชิ่งอยู่เนืองๆ ถือเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้
แต่ห้ามสมาชิกอภิปรายในเชิงลบเพื่อกระทบต่อราชวงค์ปัจจุบัน ซึ่งผิดกฏของเว็บมีโทษแบนถาวรสถานเดียวครับ
นายเวร wrote:คนกวาดขยะ wrote:คนกวาดขยะ wrote:แจ้งสมาชิกทราบ การเปลี่ยนราชวงค์เป็นเรื่องปกติในยุคโบราณ ไม่ว่าส่วนไหน อาณาจักรไหน ของโลกก็มีเช่นเดียวกัน จะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้
ที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นไม่ห้ามครับ นับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่นำข้อมูลมาแย้งพวกล้มเจ้าที่ใช้ประเด็นนี้บิดเบือนโจมตีกระทบชิ่งอยู่เนืองๆ ถือเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้
แต่ห้ามสมาชิกอภิปรายในเชิงลบเพื่อกระทบต่อราชวงค์ปัจจุบัน ซึ่งผิดกฏของเว็บมีโทษแบนถาวรสถานเดียวครับ
ใจเย็นๆท่าน ไม่เข้ามาเมนต์อีกเหรก กระทู้นี่ เดี๋ยวไม่มีที่โพสต์อ่ะ![]()
นายเวร wrote:โปรดใช้ วิจารณญาณ ในการอ่านกระทู้นี้
ควรใช้สติปัญญาตรึงตรอง รอบครอบให้มากเข้าไว้กันนะฮ้า![]()
![]()
amplepoor wrote:นักวิชาการก็คน เราก็คน นักวิชาการจะต่างอะไรกับเรา เราเสียอีกที่รู้จักกตัญญ ู รู้จักดีชั่ว รู้จักคุณค่า
เป็นนักวิชาการแล้วรับใช้ทักษิณ เป็นศาสตราจารย์แล้วสนับสนุนพวกโกงชาติ เป็นดอกเตอร์แต่มั่วสุมกับโจร มอมเมาคนที่โง่กว่า หลอกใช้คนที่ด้อยกว่า เอาเปรียบคนที่หวังพึ่ง
เป็นนักวิชาการอย่างนี้ เป็นเดียรัจฉานยังจะดีเสียกว่า
ที่เราคุยกันในกระทู้นี้ ก็เพียงแค่แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ระดมข้อมูลหลักฐานมาช่วยกันพิจารณา เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า พวกเศษเดนที่อ้างวิชาการ มันสร้างการตอแหลไว้หนักหนาสาหัสอย่างไร มันเอาประวัติศาสตร์ไทยซึ่งเป็นของคนไทยทุกคน มาบิดเบือนเพื่อทำลายสังคมไทย ทำไปทั้งๆที่รู้ว่ากำลังบิดเบือน นี่หรือคือนักวิชาการ
พวกเราเป็นแค่คนไทยรักชาติ แค่นี้ก็พอเพียงแล้วละครับ