หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby nanjaow » Wed Jul 27, 2011 8:21 pm

พวกเสื้อแดงเนี่ยนะชอบเห็น เห็นผิดเป็นถูก เห็นชั่วเป็นดี เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
เก่งนักเรื่องเรื่องแบบนี้นี่นะ

ตอนนี้มันถึงแค่ เกิดวิกฤติอุบาท ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ตะหากกกกกกก
User avatar
nanjaow
 
Posts: 5
Joined: Tue Jun 28, 2011 11:13 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby bird » Wed Jul 27, 2011 8:27 pm

เรียน จขกท

ประเด็นอยู่ที่ว่า " ทางวัดท่าซุงได้ออกแถลงการณ์แล้วว่านั้นมิใช่คำทำนายของหลวงพ่อ
ตามรายละเอียด

http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680

posted on 5/11/08 at 16:58

จึงขอแจ้งให้ทราบว่า คำทำนายบทกลอนทั้งหมดนี้ ไม่ใช่คำทำนายของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ทั้งสิ้น
--------------------------------------------------------------------------------
คำทำนายเรื่องภัยธรรมชาติ

นอกจากนี้ยังมี คำทำนายเรื่องภัยธรรมชาติ ที่อ้างว่าเป็นคำทำนายของ "หลวงพ่อฤาษีลิงดำ" ซึ่งไม่เป็นความจริงอีกเช่นกัน


ขออภัยด้วย


กรุณาอย่าคัดลอกหรือตัดทอนทั้งภาพและเสียง ส่วนใดส่วนหนึ่งให้เกิดความเข้าใจผิด หรือคลาดเคลื่อนไปจากคำบรรยายทั้งหมดนี้ เพื่อให้ผู้อื่นเกิดความเข้าใจผิด จะด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2537 และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550


นายศุภเดช สืบตระหง่าน
ทนายความ ผู้รับมอบอำนาจ


รักและเป็นห่วงนะ เลยต้องนำมาแจ้งให้ทราบ
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby blackdragon » Wed Jul 27, 2011 8:46 pm

ต่อมเดือดแตก wrote:ฅำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา อุเหม่ สมัยนั้นเฅ้ารู้ฅวามหมายฅำว่า คอรัปชั่นกันด้วยเนอะ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:




...ยกนิ้วให้คร๊าบท่าน...ช่างสังเกต...
...คอรัปชั่น...บนใบลาน สมัยอยุธยา...555
...เรื่องแบบนี้หลอกได้แต่ควายแดงเท่านั้นแหละคร๊าบจ้าวนาย...

...ตอนนี้มีแต่หนึ่งนารีขี่ควายแดงจ้า...
...อ้อ...รึว่าขี่กี้ร์(เควี่ย)ดำ...555

:lol: :lol: :lol: :P :P :P
User avatar
blackdragon
 
Posts: 136
Joined: Sat Mar 19, 2011 11:59 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby มะเขือเทศเน่า » Wed Jul 27, 2011 8:54 pm

อ่านมาหลายคอมเม้นท์ ฮาทุกเม็ดจริงๆ :o :lol:

โดยเฉพาะคอรัปชั่น มันเป็นไปได้ฤๅ ว่าจักมีอยู่ในสมัยนั้น แปลกจริงเชียว
อ่านได้เพียงชั่วเคี้ยวหมากแหลก ท่านก็รู้ความทันที :lol:
การเมืองทำให้ปวดหัว แต่อย่ากลัวที่จะรับฟัง อิอิ
อย่าปล่อยให้คำว่า "ประชาธิปไตย" และ "ประชาชน"
ถูกใช้เป็นเครื่องมือหากินของนักการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตน
User avatar
มะเขือเทศเน่า
 
Posts: 2525
Joined: Sat May 01, 2010 9:43 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby boss5617 » Wed Jul 27, 2011 10:20 pm

http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680
ลวงพ่อฤาษีลิงดำบรรยายเรื่อง "อนาคตของประเทศชาติ" (Update 5 พ.ย. 51)
อนาคตของประเทศชาติ
บรรยายโดย..พระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
เมื่อวันพุธที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๑๘
มัชฌิมา : ผู้คัดลอก
(อ้างอิงจาก "หนังสือธัมมวิโมกข์" ปีที่ ๒๙ ฉบับที่ ๓๒๐
ประจำเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๐ หน้า ๔๓-๕๒ "ธรรมกถา")
********************************
เรื่องมีอยู่ว่า... ท่านพลตรียุทธศิลป์ เกสรศุกร์ ผู้บัญชาการกองพลที่ ๓ (ยศและตำแหน่งสมัยนั้น) ได้นิมนต์ หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) พร้อมด้วยพระเถระรวม ๖ รูป เพื่อไปบำรุงขวัญของทหารในเขตกองทัพภาคที่ ๒ โดยนำ "ผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม" และ "เหรียญเอกราช" ไปแจกให้แก่ทหารตามฐานปฏิบัติการชายแดน ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๓ ธันวาคม ๒๕๑๘

และในวันสุดท้ายคือวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๑๘ ได้ทำการแจกให้แก่ทหาร ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา และก่อนทำการแจกได้แสดงธรรมิกถาพิเศษ เรื่อง “อนาคตของชาติ” ณ พุทธศาสนสถาน ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา

มูลเหตุที่มาแจกวัตถุมงคล

“..เจริญสุข แก่บรรดาทหารของชาติทุกท่าน อาตมาได้ไปทำการจากจ่ายผ้ายันต์และเหรียญแก่ทหารทางภาคเหนือมาแล้ว ๓ ครั้ง ต่อมาได้ทราบจากข้าหลวงของสมเด็จพระบรมราชินีนาถว่า
“...สมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงปรารภว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านไม่ห่วงทหารภาคอีสานหรืออย่างไร จึงไม่ไปแจกของแก่ทหารทางภาคอีสานบ้าง..”

ความจริงอาตมาห่วงทหารทางภาคอีสานเช่นเดียวกับทหารทางภาคเหนือ เมื่อท่านผู้บัญชาการกองพลที่ ๓ รับจะอำนวยความสะดวกในการเดินทางมาแจกจ่าย จึงได้นำสิ่งของมาแจกให้ครั้งนี้

ขั้นแรกอนุศาสนาจารย์ได้อาราธนาให้แสดงธรรม ต่อมาท่านผู้บัญชาการกองพลได้อาราธนาให้เล่าเรื่องของที่นำมาแจกจ่ายว่าทรงคุณค่าอย่างไรบ้าง ผู้ที่ได้รับแจกไปจะได้เกิดศรัทธาความเชื่อมั่น

เพื่อสนองเจตนาของอนุศาสนาจารย์และท่านผู้บังคับบัญชากองพลที่ ๓ ได้อาราธนาจึงขอพูดเรื่องธรรมะก่อนสักเล็กน้อย จากนั้นจึงจะพูดถึงเรื่องสิ่งของที่นำมาแจกจ่าย

เราทุกคนอยากมีความดีด้วยกันทั้งนั้น แม้บางคนนึกว่าตนเองอยากมั่งอยากมี อยากมียศมีอำนาจ แต่ความจริงแล้วก็คืออยากมีดีนั่นเอง

แม้เราจะมียศสูง แต่ถ้าใครมาว่าเราเป็นคนไม่ดี เราก็ไม่ชอบ เพราะฉะนั้นใครจะอยากอะไรก็ตามเถอะ แต่ที่สุดของความอยากนั้นก็คือความดีนั่นเอง

รักษาศีล 5 ให้ได้

ความดีนั้นมีกฏเกณฑ์ที่เราจะต้องทำเป็นเบื้องต้น 5 ประการ คือ
1. เราไม่อยากให้ใครมาฆ่า รังแก ข่มเหงเรา เราก็อย่าไปฆ่า ไปรังแก ไม่ข่มเหงเขา
2. เราไม่อยากให้ใครมาลักของๆ เรา เราก็อย่าไปลักของๆ เขา
3. เราไม่อยากให้ใครมาผิดลูกผิดเมียเรา เราก็อย่าไปผิดลูกผิดเมียเขา
4. เราไม่อยากให้ใครมาโกหกเรา เราก็อย่าไปโกหกเขา
5. เราไม่อยากเป็นคนบ้า ก็อย่าไปดื่มสุราเมรัย เพราะถ้าเราดื่มสุรามากๆ เราจะกลายเป็นคนบ้า

เจริญพรหมวิหาร ๔ ไว้

ความดีที่สูงขึ้นไปอีกที่เราควรประพฤติเป็นหลักในการดำรงชีวิต เพื่อความสุขความเจริญแก่ตนเองคือ พรหมวิหาร มี ๔ ประการคือ
1. เมตตา ความรัก เราต้องรักตัว รักครอบครัว รักญาติพี่น้องหมู่คณะ ตลอดจนถึงรักประเทศชาติ
2. กรุณา ความสงสาร ที่มีต่อบุคคลที่ตกทุกข์ได้ยาก อยากให้เขาพ้นจากความทุกข์ทรมานที่เขารับอยู่
3. มุทิตา ยินดีด้วยเมื่อบุคคลอื่นได้ดีมีความสุข ไม่ริษยาเขา เขาได้ดีก็ชื่นชมอนุโมทนาด้วย
4. อุเบกขา วางเฉย เช่น เมื่อลูกของเรา ญาติพี่น้อง หรือพรรคพวกของเราไม่ทำผิด เราต้องวางตัวเป็นกลาง เมื่อเขาจะได้รับโทษก็ถือเป็นกรรมของเขา ไม่ช่วยเหลือเขาในทางที่ผิด

เว้นจากความลำเอียงทั้ง ๔ ประการ

ผู้ที่จะมีคุณธรรมในข้อที่ ๔ นี้จำเป็นจะต้องมีคุณธรรมข้ออื่นสนับสนุน คือเราต้องเว้นจาก อคติ คือ
๑. ความลำเอียงเพราะความรัก
๒. ความลำเอียงเพราะความชัง
๓. ความลำเอียงเพราะความหลง
๔. ความลำเอียงเพราะความกลัว

ทหารแปลว่าคนหนุ่ม

ทหารทุกคนต้องเป็นคนหนุ่ม แม้จะแก่อายุมากแล้วก็ต้องทำตัวเป็นคนหนุ่ม เพราะคำว่า "ทหาร" แปลว่า "คนหนุ่ม"

คนหนุ่มนั้นจะต้องเป็นคนแข็งแรงว่องไวกล้าหาญบึกบึน มีไหวพริบปฏิภาณดี มีความสามัคคีรักใคร่กัน ไม่ทอดทิ้งกันเมื่อมีภัย ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท

และข้อสำคัญที่สุดนั้นต้องยอมตายเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองเมื่อถึงคราวจำเป็น นี้พูดอย่างทหาร เพราะอาตมาเคยเป็น "ทหารเรือ" มาแล้ว ย่อมรู้จักชีวิตวิญญาณของทหารดี

ทหารไปรบถือว่าทำเพื่อชาติบ้านเมือง

ทหารที่ไปราชการสงครามเพื่อป้องกันอริราชศัตรูนั้น หากไปฆ่าข้าศึกศัตรูก็ไม่ถือว่าเป็นความชั่ว แต่เป็นการทำดีต่างหาก เพราะเราทำหน้าที่ป้องกันสิ่งที่ดีงามเอาไว้
ความดีนั้นคือความอยู่รอดของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความสงบสุขของปวงชนในผืนแผ่นดินไทยทุกคน

ความสงบสุขนั้นเป็นยอดของความดีทั้งมวล การที่เรายอมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตของเราเพื่อรักษาความดีทั้งหลายดังกล่าวมาแล้วนั้นไว้ จึงได้ชื่อว่าเราทุกคนได้ทำความดี สมศักดิ์ศรีของทหารไทย จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นบาปกรรม

ภูอันธพาล (ภูพาน)

อาตมาขึ้นเครื่องบินผ่านภูอันธพาล ไม่อยากเรียกว่า "ภูพาน" ดังที่เขาเรียกกัน เพราะภูนี้มีแต่พวกอันธพาลทั้งนั้น ได้พิจารณาถึงเหตุการณ์บ้านเมืองและการสู้รบของทหารเห็นว่า

เราทุกคนจะไม่แพ้ จะไม่ต้องตกเป็นทาสของใครๆ ดังที่พวกเราพากันวิตกกังวลกันอยู่ในขณะนี้
แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงปริวิตกและทรงมีความห่วงใยประเทศชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง
ดังจะเห็นได้ว่า เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๑๘ พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชินีนาถได้เสด็จไปยังวัดของอาตมา (วัดท่าซุง) และได้ตรัสถามความเป็นไปของบ้านเมืองในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร

อนาคตของชาติ
อาตมาได้ถวายพระพรพระองค์ว่า
“ประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะไม่ตกเป็นทาสของใคร อาตมาขอถวายชีวิตเป็นประกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๒๐ เป็นต้นไป ประเทศไทยจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ความเยือกเย็นจะเริ่มปรากฏ ความมั่งคั่งสมบูรณ์จะมีขึ้นแก่ประเทศชาติและประชาชน แต่จะยังไม่ปรากฏชัดนัก แต่เราจะมองเห็นได้ชัดๆ ก็ต้องปี พ.ศ. ๒๕๒๔ เปรียบเหมือนอรุณได้ขึ้นดีแล้วและเริ่มฉายแสงให้เห็นความมืดหมดไป”

ที่อาตมากล้ายืนยันต่อพระองค์เช่นนั้น ก็เพราะเหตุผลหลายประการ คือ

คำทำนายของพระพุทธโฆษาจารย์

ในประการแรก อาตมาได้พบและได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นสมุดข่อย ซึ่งพระอรหันต์ในอดีตนามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ (ลำใย) เขียนไว้ ทำนายชะตาบ้านเมืองก่อนที่กรุงศรีอยุธยาจะแตกเสียอิสรภาพแก่พม่า ก่อนที่กรุงเทพฯ ยังไม่ปรากฏ

โดยท่านได้เขียนทำนายไว้ว่า
“กรุงศรีอยุธยาจะต้องถูกข้าศึกตีแตก แจ่จะเสียอิสรภาพไม่นานนัก จะมีคนดีของกรุงศรี
อยุธยามากู้ชาติ แต่เมื่อกู้ชาติได้แล้วจะต้องไปตั้งเมืองหลวงอยู่ใหม่”

และเหตุการณ์ต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยาก็ได้เป็นจริงตามคำทำนายทุกอย่าง

ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าทั้ง ๑๐ รัชกาล

ในสมุดข่อยเล่มเดียวกันนี้ พระพุทธโฆษาจารย์ได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแก่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงใหม่ ในวันข้างหน้า ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นแต่ละรัชกาลดังนี้

รัชกาลที่ ๑. ทำนายว่า มหากาฬผ่านมหายักษ์
รัชกาลที่ ๒. ทำนายว่า รู้จักธรรม
รัชกาลที่ ๓. ทำนายว่า จำต้องคิด
รัชกาลที่ ๔. ทำนายว่า สนิทธรรม
รัชกาลที่ ๕. ทำนายว่า จำแขนขาด
รัชกาลที่ ๖. ทำนายว่า ราษฎร์ราชาโจร
รัชกาลที่ ๗. ทำนายว่า นั่งทนทุกข์
รัชกาลที่ ๘. ทำนายว่า ยุคทมิฬ
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว
รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล

ความแม่นยำของคำทำนาย
เมื่อพิจารณาถึงคำทำนายและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละรัชกาลก็จะเห็นได้ชัดว่า คำทำนายนั้นถูกต้องเพียงใด
รัชกาลที่ ๑. ผ่าน พระเจ้าตากสิน ขึ้นครองราชย์สมบัติ
รัชกาลที่ ๒. ท่านว่างจากศึกสงครามก็หันมาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้พระสงฆ์ค้นคว้าพระธรรมวินัยรวบรวมกันเป็นการใหญ่
รัชกาลที่ ๓. ท่านมีหัวคิดริเริ่มหาเงินมาสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองปรากฏมาจนถึงทุกวันนี้
รัชกาลที่ ๔. ท่านสนิทธรรม ก็เพราะพระราชาองค์นี้ทรงผนวชถึง ๒๗ พรรษา มีความคล่องตัวในพระธรรมวินัย ทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกอย่างแตกฉาน และยังมีความสนิทสนมกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) อย่างยิ่ง เป็นคู่บารมีกัน
รัชกาลที่ ๕. จำแขนขาด เราเห็นได้ชัดมาก เพราะเราต้องเสียดินแดนไปหลายครั้งหลายหน โดยพระองค์ทรงยอมเสียแขนขาดีกว่าเสียตัวทั้งหมด คือยอมเสียผืนแผ่นดินบางส่วน เพื่อรักษาเอกราชของชาติไว้
รัชกาลที่ ๖. เป็นโจร เพราะทรงใช้จ่ายเงินในท้องพระคลังจนหมดสิ้น แต่อาตมาเห็นว่าพระองค์ทรงเป็นนักชาตินิยม มีพระปรีชาสามารถปลุกใจประชาชนให้รักชาติบ้านเมือง เช่นมีเพลงบทหนึ่งทรงพระนิพน์ไว้ว่า “ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำร่ำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย” ทรงเป็นนักประชาธิปไตย จึงได้ทำทุกอย่างให้บุคคลอื่นเห็นว่า พระองค์ไม่ทรงถือพระองค์ เช่น แสดงมหรสพ เล่นโขนกับข้าราชบริพาร
ยิ่งกว่านั้นพระองค์ยังสามารถทำให้ประเทศไทยเป็นที่ปรากฏแก่ชาวโลก โดยส่งทหารไปช่วยสงครามโลกครั้งที่ ๑. จึงจำเป็นต้องใช้เงินมาก แม้จะใช้เงินมาก แต่ประโยชน์ก็เกิดแก่ประเทศชาติอย่างหนัก
รัชกาลที่ ๗. นั่งทนทุกข์ พระองค์เสวยราชสมบัติอยู่ในเกณฑ์ตกอับพอดี เงินในท้องพระคลังก็หมดมาแต่รัชกาลก่อน พระองค์จึงทรงประทับอยู่บนกองทุกข์ต้องดุลข้าราชการออกเป็นจำนวนมาก เท่านั้นยังไม่พอ ต่อมาพระองค์ต้องจำพระทัยสละราชสมบัติ ไปนั่งทนทุกข์อยู่ต่างแดน จนสิ้นพระชนม์
รัชกาลที่ ๘. ยุคทมิฬ บ้านเมืองอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ ๒. ประชาชนตกอยู่ในสภาพบ้านแตก อดอยากยากแค้นแสนสาหัส พระมหากษัตริย์ก็ถูกลอบปลงพระชนม์จนสวรรคต
รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น

สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย

ราชวงศ์จักรีจะมีเพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้นรึ?

ปัญหาที่น่าคิดต่อไปก็คือว่า ทำไมพระพุทธโฆษาจารย์จึงทำนายเหตุการณ์บ้านเมืองไว้เพียง ๑๐ รัชกาลเท่านั้น? กรุงเทพมหานครจะมีพระมหากษัตริย์เพียง ๑๐ พระองค์เท่านั้นหรือ?

เป็นเรื่องที่อาตมาสนใจเป็นพิเศษ จึงได้สอบถามเรื่องนี้กับ หลวงพ่อปาน และพระอาจารย์ต่างๆ ซึ่งจิตของท่านเป็นสมาธิเข้าถึงขั้นอภิญญา สามารถที่จะรู้จริงในเรื่อง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ซึ่งก็ยังมีอยู่หลายๆ องค์ในขณะนี้ ทุกๆ รูปที่อาตมาสอบถามจากท่าน ต่างก็ยืนยันตรงกันว่า

พระมหากษัตริย์จะยังคงมีอยู่คู่กับชาติไทยตลอดไปอีกนาน มิใช่เพียงแค่ ๑๐ พระองค์เท่านั้น แต่ที่พยากรณ์ไว้เพียงแค่นั้นก็เพราะว่าเริ่มตั้งแต่รัชกาลที่ ๑๐. เป็นต้นไป บ้านเมืองจะมั่งคั่งสมบูรณ์ ร่มเย็นผาสุก ประชาชนในชาติจะร่ำรวย ประเทศไทยจะเป็นประเทศมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ซึ่งจะมีแต่ความเจริญตลอดไป ไม่ล้มลุกคลุกคลานดังที่แล้วมา จึงไม่จำเป็นจะต้องพยากรณ์ต่อไปอีก”
คุณอาจโกหกให้ประชาชน ทุกคนเชื่อได้บางเวลา
คุณอาจโกหกให้ประชาชน บางคนเชื่อได้ทุกเวลา
แต่คุณไม่มีทางโกหกให้ประชาชนทุกคนเชื่อได้ทุกเวลา
User avatar
boss5617
 
Posts: 1441
Joined: Fri Jan 09, 2009 8:31 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby Huligan » Wed Jul 27, 2011 10:47 pm

zeedzaad wrote:นางโพยไม่ใช่ นารีขี่ม้าขาวหรอกครับ

คำใบ้เขามีอยู่แล้วคือ คฑา

นางโพยเป็นได้แค่ ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช เท่านั้น


เหนด้วย... :(
ทฤษฎีของ เดล คาเนกี ใช้กับเหิ้ยหางแดงไม่ได้

การตัดหางลูกอ๊อด ไม่ได้ทำให้ลูกอ๊อดกลายเป็นกบได้!!!
User avatar
Huligan
 
Posts: 1203
Joined: Mon Jan 12, 2009 3:33 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby ด๋อยแทง » Wed Jul 27, 2011 11:30 pm

ถิ่นกาขาวผมมองเป็น
กลับผิดเป็นถูก ขาวเป็นดำ ชั่วเป็นดี
กามันดำ แต่กลับเห็นเป็นขาว หรือกาต้องดำแต่กลับกลายเป็นกาขาวในยุคนี้

โกงได้ แต่ต้องแบ่ง :lol:
User avatar
ด๋อยแทง
 
Posts: 510
Joined: Sat Apr 02, 2011 9:38 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby base3000 » Wed Jul 27, 2011 11:31 pm

คำทำนายนี้เริ่มปรากฏประมาณปี 2525
มีการวิเคราะห์กันไปต่าง ๆ นา ๆ
คิดว่านารีจะเป็นคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง
คำว่า "คอรัปชั่น" เขาก็หมายเหตุกันมาตั้งนานแล้ว
ไม่ใช่มีแค่คำเดียว แต่มีเป็นสิบ เช่น ตงฉิน กังฉิน จลาจล
หลายครั้งก็มีคนนำไปใช้งาน ไม่เว้นแม้แต่พันธมิตร
User avatar
base3000
 
Posts: 82
Joined: Sat Jun 25, 2011 11:38 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby thepporn_return » Thu Jul 28, 2011 10:13 am

คนตั้งกระทู้ ก็กล้าเนอะ
เอาคำทำนายที่ไหนมาอะครับ เ้จ้านาย
มั่วได้ตลอดศกเลย
กากมากครับ มีหลักฐานยืนยันไหม ถ้าเอาไปหลอกกระบือแดงทั้งหลายอาจได้ผลนะครับ
เฮ้อ ทำไปได้
Best Regards
Thepporn_return

To Thailand forever
thepporn_return
 
Posts: 1009
Joined: Wed Apr 20, 2011 12:42 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby ryukendo » Thu Jul 28, 2011 5:33 pm

ความล่มสลายกับคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

ตอนนี้มีการพูดถึงคำทำนายชุดหนึ่งซึ่งบางคนอ้างว่าเป็นของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ บางคนบอกว่าเป็นของผู้อื่น และท่านไปพบเมื่อปี 2518 แล้วถกเถียงกันว่ามันหมายถึงอะไร โดยเฉพาะในตอนสุดท้ายของคำทำนายที่ว่า จะมีสตรีขี่ม้าขาวมากวาดล้างมลทินให้สิ้นซากจากเมืองไทย จากนั้นบ้านเมืองจะกลายเป็นถิ่นอารยะ คำทำนายนี้ไม่มีการระบุเวลาว่าจะเป็นเมื่อไร จึงมีลักษณะคล้ายของชาวฝรั่งเศสชื่อนอสตราดามุสซึ่งมีชีวิตอยู่ระหว่าง พ.ศ. 2046-2109 นั่นคือ เป็นคำทำนายว่าจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่โดยไม่ให้รายละเอียดยังผลให้ตีความหมายได้หลายอย่าง บางคนอ้างถึงเหตุการณ์ต่างๆ แล้วสรุปว่าคำทำนายแสนจะแม่นยำซึ่งมักทำให้ถูกกล่าวหาว่าตีขลุม

เท่าที่ตามอ่านความเห็นในหนังสือพิมพ์นี้ และที่แพร่กระจายอยู่ในอินเทอร์เน็ต การกวาดล้างมลทินครั้งใหญ่ตามคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ซึ่งตรงกับความเชื่อของคอลัมนิสต์ชื่อดังคนหนึ่งที่เขียนบ่อยๆ ว่า ปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทำนองฝนหลายห่าตกลงมาชะล้างคนเลวทรามและความชั่วช้าให้หมดไป จากนั้นฟ้าจะสดใสส่งผลให้เมืองไทยพัฒนาเป็นอารยประเทศ ผมเคยถามคอลัมนิสต์ผู้นั้นว่าอะไรทำให้เขาเชื่อเช่นนั้น เขาไม่ยอมอธิบาย

บางคนมองว่า คำทำนายนี้เกี่ยวโยงกับปี 2555 ซึ่งอ้างกันว่าทั้งชาวมายาและนอสตราดามุสทำนายไว้ตรงกัน นั่นคือ จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ขนาดทำให้โลกเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกับที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ เมื่อกลางปี 2552 พระสงฆ์ไทยอายุกว่า 100 ปีชื่อฐิติลาโภ ภิกขุ ก็ยืนยันว่าปี 2555 จะเกิดเหตุการณ์แนวนั้นแน่ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการล่มสลายของอารยธรรมมายาเมื่อกว่าพันปีก่อนมักสรุปกันว่าชาวมายาไม่ได้ทำนายเช่นนั้น แต่เนื่องจากปฏิทินของพวกเขาสิ้นสุดแค่ปี 2555 จึงสรุปกันว่าชาวมายารู้ว่าปีนั้นจะเป็นวันสิ้นโลก

นอกจากคำทำนายซึ่งไม่มีคำอธิบายดังกล่าวแล้ว ปราชญ์ชาวฮังกาเรียนชื่อ เออร์วิน ลาสซโล วิเคราะห์ไว้เมื่อหลายปีก่อนว่าอะไรคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2555 ลาสซโลอ้างว่าโลกกำลังมีปัญหาหนักหนาสาหัสเพราะพฤติกรรมของมนุษย์เรา ปัญหาแสดงอาการออกมาในรูปต่างๆ เช่น ช่องว่างระหว่างผู้มีและไม่มีโภคทรัพย์ที่นับวันจะยิ่งกว้างขึ้น ชาวโลกใช้ความรุนแรงและการก่อการร้ายเพิ่มขึ้น การตอบโต้การก่อการร้ายจากฝ่ายรัฐนำไปสู่สงครามและความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้น การใช้จ่ายเพื่อการทหารเพิ่มขึ้น ประเทศส่วนใหญ่ผลิตอาหารได้ไม่เพียงพอแก่ความต้องการ ชาวโลกขาดน้ำสะอาดและระบบนิเวศขาดสมดุลยิ่งขึ้น

ปัญหาเหล่านี้มีโอกาสก่อให้เกิดความล่มสลายทั้งในระดับประเทศและระดับโลกโดยเริ่มจากความแตกแยกรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ปี 2555 เป็นช่วงเวลาที่จะชี้ว่าโลกจะเดินเข้าทางแห่งความล่มสลาย หรือจะวิวัฒน์ไปสู่ความยั่งยืน หากชาวโลกไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้เกิดแนวโน้มดังที่เห็นอยู่ โลกจะเดินเข้าสู่ทางแห่งความล่มสลายแบบกู่ไม่กลับ

หากนำการวิเคราะห์ของลาสซโลมาจับเมืองไทย คำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำและความเชื่อของคอลัมนิสต์ชื่อดังคงตีความหมายได้ว่า คนไทยจะเปลี่ยนพฤติกรรมจนทำให้เมืองไทยเดินเข้าสู่ทางแห่งความยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากปีนี้และจะมีความมั่นคงชัดเจนในปีหน้า เรื่องพฤติกรรมของคนไทยที่ทำให้เกิดปัญหาหนักหนาสาหัสรวมทั้งความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ความยากจนและความแตกแยกร้ายแรงคงไม่จำเป็นต้องพูดถึงเพราะเห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว

ส่วนผู้นำที่จะทำให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งจะเป็นสตรีขี่ม้าขาวอาจตีความหมายได้หลายอย่างดังความเห็นของผู้อ่านบทความของอาจารย์ปราโมทย์ นาครทรรพ ในหนังสือพิมพ์นี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผมมองว่าสตรีขี่ม้าขาวเป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการที่ผู้ทำนายเสนอให้คนไทยทำให้เกิดขึ้นมากกว่าจะเป็นบุคคล และช่วงนี้เป็นโอกาสสุดท้าย หากคนไทยไม่ร่วมกันทำความล่มสลายก็จะมาเยือน กระบวนการอาจเป็นได้ในสองแบบคือ

แบบแรกเป็นไปในแนวปัจจุบันที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปีนี้ซึ่งจะได้นักการเมืองที่ไม่ค่อยมีความฉ้อฉล อย่าเพิ่งหัวเราะเพราะนั่นจะเป็นการดูแคลนพลังของกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ รวมทั้งของเสื้อแดงและเสื้อเหลือง ตอนนี้มีฐานที่กลุ่มเคลื่อนไหวจะทำงานร่วมกันแล้ว นั่นคือ ข้อเสนอให้มีการปฏิรูปที่ดินของคณะกรรมการปฏิรูป เป็นไปได้ว่าอีกไม่ช้าผู้นำความเคลื่อนไหวจะมองเห็นว่าถ้ามีการรณรงค์อย่างเข้มข้นให้เลือกเฉพาะคนที่สนับสนุนการปฏิรูปที่ดินเข้าสภาฯ แน่นอนว่าเมืองไทยจะได้รัฐบาลที่ไม่ค่อยมีความฉ้อฉลซึ่งจะนำเมืองไทยไปสู่ความยั่งยืน

แบบที่สองเป็นข้อเสนอที่ให้มีการยุบสภาบวกการลาออกของนายกรัฐมนตรี ปัจจัยนี้จะเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลที่มาจากการร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ ที่ไม่มีนักการเมืองในปัจจุบันรวมอยู่ด้วย รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยนายกรัฐมนตรีที่มีความกล้าหาญเป็นพิเศษ

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คนไทยที่มีความสามารถและรักชาติโดยปราศจากข้อกังขาจะต้องออกมาช่วยกัน มิฉะนั้น เมืองไทยจะเริ่มเดินเข้าทางแห่งความล่มสลายภายในปี 2555


ความคิดเห็นที่ 6 +10
คุณไสว บุญมา...
กรุณาแก้ไขบทความให้ถูกต้องด้วยครับ คนไม่รู้เข้ามาอ่าน จะเข้าใจผิดนึกว่า หลวงพ่อฤาษีท่านทำนายไว้
แต่ความจริงไม่ใช่... เว็ปวัดท่าซุง ก็มีคำอธิบายไว้แล้ว คุณจะทำบาปแบบไม่รู้ตัวนะ

ตรวจสอบด้วยครับ


ความคิดเห็นที่ 10 -9

ไม่น่าเชื่อว่า ทั้งไสว ทั้งปราโมทย์ จบด็อกเต้อร์ทั้งคู่
ไม่น่าเขื่อว่า ทั้งสองคนนี้ เป็นนักเขียน นักวิชาการที่มีคนไทยให้ความนับถือมากมาย
เวลาคนไทยงมงายก็เขียนด่า แต่ตัวเองกลับเขียนเรื่องงมงายเป็นตุเป็นตะ ผูกเรื่องราวให้โยงไปถึงการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองขนานใหญ่ เพียงแค่มีอคติจงเกลียดจงชังรัฐบาลนี้

ประเทศไทยยังไม่ล่มสลาย ไม่ว่าจะในปี 2555 หรือในปีใด ๆ แต่ทั้งไสว และปราโมทย์ คงล่มสลายก่อน ผมเคยท้าไว้แล้วครั้งหนึ่งว่า ยังไงพวกคุณก็ล้มรัฐบาลนี้ไม่สำเร็จ เพราะอภิสิทธิ์ไม่ได้ชั่วแบบทักษิณ หรือบูมารัค ไม่ได้ละโมบแบบฮุนเซ็น มีข้อเสียบ้างก็เพียงแค่เขามีความสุภาพเกินไปกับพวกผีห่าซาตาน ซึ่งก็ยังไม่ถึงขั้นต้องขับไล่ ประชาชนยังไม่เล่นด้วยหรอกครับ

คุณไสวครับ อย่ามัวเพ้อฝันกับการปฏิรูปที่ดินในรูปแบบของคุณอยู่เลยครับ เพราะกฎหมายปฎิรูปฯ ที่มีอยู่น่ะ ดีอยู่แล้วครับ ยุติธรรมที่สุด และที่ดินก็ยังเป็นของรัฐตลอดไป
คุณปราโมทย์ครับ อย่ามัวเพ้อฝันอยู่กับราชประชาสมาศัยเลยครับ ดาบสองคม ไม่มีใครเอาด้วยหรอกครับ

ไม่ต้องส่งใครมาเถียงแทนนะครับว่าไม่ได้คิดไล่รัฐบาลชุดนี้ บทความคุณทั้งสองมันบ่งบอก

ใบไม้เหลือง
User avatar
ryukendo
 
Posts: 1173
Joined: Sat Feb 05, 2011 9:49 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby No689oN » Thu Jul 28, 2011 6:06 pm

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง :roll: :roll: :roll: เท่าที่จะนึกได้เป็นการบอกใบ้อะไรหรือปล่าว เพราะมีสตรีนางหนึ่งที่ถือคทา ก็คือเทพีสันติภาพของสหรัฐอเมริกา หรือถิ่นกาขาวคือสหรัฐจะเข้ามาช่วยประเทศให้พ้นวิกฤติ น่าคิดนะครับ :?: :?: :?:
ถ้าไม่สร้างสรรค์ก็อย่าทำลายสิ่งที่คนอื่นสร้างมาด้วยความลำบาก
User avatar
No689oN
 
Posts: 56
Joined: Fri Apr 30, 2010 4:05 pm
Location: เชียงใหม่-ลำปาง

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby god_of_rah » Thu Jul 28, 2011 6:12 pm

base3000 wrote:
-3- wrote:
ปล ยิ่งลักษณ์ไม่ใช่นารีขี่ม้าขาวแน่นอน เพราะมันเพิ่งถึง แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เท่านั้นเอง :lol: :lol:


แต่ผมว่า อย่างน้อยน่าจะเลยช่วงนี้ไปแล้ว "เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน"


ยังหรอกยังไม่ถึงหรอก :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: อีกอย่างนะครับ ม้าขาวครับ ไม่ใช่ม้าแดง :lol: :lol: :lol: :lol:
User avatar
god_of_rah
Moderator
 
Posts: 3101
Joined: Tue Jan 26, 2010 8:55 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby intra » Thu Jul 28, 2011 7:16 pm

รัชกาลที่ ๙. ทำนายว่า ถิ่นกาขาว เราก็เห็นแล้วว่าฝรั่งมาอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง ล้วนแต่คนผิวขาวทั้งนั้น

สำหรับรัชกาลต่อไป คือ รัชกาลที่ ๑๐. ทำนายว่า ชาววิไล หมายความว่า บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว จะได้ประสบความเจริญรุ่งเรืองกันเสียที เราจะมั่งคั่งสมบูรณ์เหมือนนานาอารยะประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย


คิดเหมือนคุณด๋อยแทง ยุคนี้น่าจะเป็นยุคของการเห็นผิดเป็นชอบ
อีการูปชั่วตัวดำนิสัยเลว คนก็ไปหลงยกย่องว่าเป็นพ่อทักแสนดี
แต่ในเวลานั้นหลวงพ่อท่านคงบอกตรงๆไม่ได้ ในเมื่อกาลเวลามันยังอยู่ในช่วงที่ไม่เหมาะ พูดแล้วอาจจะเสียมากกว่าดี ก็ต้องเลี่ยงไปเสียก่อน
แต่ที่แน่นอนคือ ท่านบอกไว้ว่า ในรัชกาลที่ ๑๐ บ้านเมืองเราได้ผ่านยุคเข็ญมาแล้ว แปลความหมายเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลยค่ะ

ที่สำคัญ หลวงพ่อท่านได้ฝากพวกเราไว้ว่า
“เมืองไทยเรานี้จะต้องเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป ไม่ตกเป็นทาสของใครๆ พวกนอกศาสนาจะไม่สามารถย่ำยีเมืองไทยได้ แต่ข้อสำคัญนั้น เราทุกคนอย่าประมาท ต้องรักกัน สามัคคีกันไว้ ไม่แตกแยกกันและไม่ลุ่มหลงไปกับคำยุแหย่ของบุคคลผู้มุ่งร้ายต่อชาติบ้านเมือง”

วัดจันทาราม (ท่าซุง) - หลวงพ่อฤาษีลิงดำบรรยายเรื่อง "อนาคตของประเทศชาติ"
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680


แสดงว่าท่านก็รู้อยู่ว่าภัยของประเทศไทยก็คือการถูกยุแหย่จากคนที่มุ่งร้ายต่อชาติบ้านเมือง และจะทำให้คนไทยแตกแยกกัน
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เมืองไทยของเราก็จะไม่ตกเป็นทาสใคร จะเป็นปึกแผ่นมั่นคงตลอดไป

Image
User avatar
intra
 
Posts: 24
Joined: Sat Jul 09, 2011 9:28 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby mabilar » Thu Jul 28, 2011 10:37 pm

ผมเห็นกลุ่มเสื้อแดงหลายคน ชอบเอากลอนนี้มาอ้าง โดยเฉพาะช่วง จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว [color=#FF4000[b]]ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ __ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา__ [/color][/b]

หลายคนพยายามอ้างว่า นี่คือ คุณยิ่งลักษณ์ ซึ่งจะใช่หรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ แต่สำหรับผม ผมตีความว่า บทกลอนไม่ได้สรรเสริญผู้ปกครองที่เป็นหญิงนะครับ ตรงข้ามกลับเตือนให้ระวังด้วยซ้ำ แถมยังทำนายว่าต่อ อาจจะเกิดเรื่องวุ่นวายในยุคสมัยของเธอดังที่ เขียนว่า สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวฯ ส่วนคำทำนายต่อที่ว่า ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา__ ก้ไม่ได้ทำนายไว้ชัดเจน จะเกิดในยุคของผู้นำหญิง แต่ผมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนกับว่า หลังจากยุคผู้นำหญิงผ่านพ้นไปแล้ว ถึงจะเกิดความศิวิไลซ์ขึ้น ผมมีความรู้สึกอย่างนั้นมากกว่า

สุดท้าย คำทำนายนี้จะแม่นหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบ แต่ถ้าผมเป็นเสื้อแดง ผมคงไม่อยากให้คุณยิ่งลักษณ์เป็นนารีคนในคำทำนายหรอกครับ เพราะผมมองว่า มันเป็นความหมายที่แย่มากกว่าดีนะครับ

ป.ล. ความจริง ผมก็มีคำทำนายส่วนตัวของเหมือนกัน เคยได้รับฟังจากอาจารย์ของผมที่เป็นพระเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนี้ก็เริ่มเห็นตามที่ท่านทำนายบ้างแล้วลางๆ จะเขียนในเว็บหลายทีแล้วแต่กลัวโดนตำหนิเลยเก็บไว้เรื่อยมา
User avatar
mabilar
 
Posts: 85
Joined: Fri May 22, 2009 10:18 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby phoosana » Fri Jul 29, 2011 1:32 am

corruption

civilize

:lol: :lol: :lol: :lol: นับถือคนไทยสมัยก่อนจริงๆ
We love fender.
User avatar
phoosana
 
Posts: 2608
Joined: Tue Jan 27, 2009 11:13 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby i-am-thai » Fri Jul 29, 2011 9:25 am

กลอนบทนี้ ถูกแต่งขึ้นในยุค

คอมมิวนิสต์

ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำนายอนาคต ประเทศไทยแต่อย่างใด

กลอนนี้ถูกใช้อ้างอิง ในขบวนการ ของ พรรคคอมมิวนิสต์ แห่งประเทศไทนเท่านั้น

เป็นการชี้นำ การสร้างความหวัง ทางจิตวิทยา


ส่วนคำทำนายจริง ๆ กล่าวถึงแต่ละรัชกาลเพียงสั้น ๆ เท่านั้น


และสิ่งที่ท่านได้กล่าวไว้คือ

แผ่นดินไทยจะเป็นดินแดนที่รองรับพระพุทธศาสนา ให้ ตั้งมั่นบนโลกนี้ จนถึง ๕,๐๐๐ ปี

ตามพุทธทำนาย

และท่านได้ทำนายไว้ว่า พระมหากษัตริย์ จะอยู่คู่กับแผ่นดินไทย และพระพุทธศาสนา

ไปจนถึง ๕,๐๐๐ ปี เช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้นสิ่งที่เจ้าของกระทู้สาธยายมา จึง เป็นเรื่องแต่ง หลอกเด็กไปวัน ๆ

เท่านั้น


คอนเฟิร์ม!!!!!
User avatar
i-am-thai
 
Posts: 185
Joined: Wed Jul 06, 2011 1:45 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby i-am-thai » Fri Jul 29, 2011 9:43 am

คำทำนาย ต่อ รัชกาลปัจจุบัน
มีเพียง 3 พยางค์ คือ "ถิ่นกาขาว"

แต่มีคนหวังผลทางการเมือง

เอาไปแต่งเป็นกลอน โยงเรื่องต่าง ๆ ไปมา ให้น่า เชื่อถือ เข้ากับประเทศไทย และแนวโน้มความเป็นไปของโลก

แต่ก็มีจุดบกพร่อง จับผิดได้หลายจุด

ยืนยันชัดแจ้งว่า ไม่ใช่คำทำนาย สมัยอยุธยา อย่างที่เข้าใจกัน เป็นแน่แท้


และคำว่าถิ่นกาขาว

ก็คงไม่ใช่แปลว่า เป็นยุคที่ฝรั่งเต็มบ้านเต็มเมือง เพียงอย่างเดียว

หากแต่อาจเป็นยุคสมัย ที่ คนดี ในแผ่นดิน เหลือ อยู่น้อยนิด เท่าหยิบมือ

เสมือนกาขาว หายากยิ่งนัก ในป่าทุ่ง จะมีเพียงแต่ฝูงกาดำ อำมหิต ที่เห็นได้ง่ายดาย จนชินตา

ยุคที่คนโฉดชั่วมีอำนาจ ล้นฟ้า

ปกครองแผ่นดิน

คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว ชวนคนอื่นทำชั่ว ชี้นำให้คนอื่นทำชั่ว

ไม่ละอายฟ้าดิน บรรพบุรุษ

ไม่สำนึกบุญคุณแผ่นดินอันศักดิ์สิทธิ์

บาปกรรมของพวกมันครั้งนี้

ใหญ่เหลือจะประมาณ

ทำชาติย่อยยับ ทำแผ่นดินอันสงบร่มเย็น ให้ กลาย เป็นทะเลเพลิง

จงเตรียมตัวลงนรกไว้ด้วยเถิด :twisted:
User avatar
i-am-thai
 
Posts: 185
Joined: Wed Jul 06, 2011 1:45 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby annykun » Fri Jul 29, 2011 1:27 pm

อาเจ๊ จะเป็นนารีขี่ม้าขาวหรือไม่ เดี๋ยวก็รู้
ตัวข้าเป็นได้ทั้งสวรรค์ และนรก
User avatar
annykun
 
Posts: 332
Joined: Thu Jul 28, 2011 3:44 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby ซุนฮิว » Fri Jul 29, 2011 1:41 pm


ชอบคำนี้

คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อทำท่าดัง
^
^
^
สงสัยจะจริง
:lol:
User avatar
ซุนฮิว
 
Posts: 14
Joined: Thu Jul 14, 2011 9:52 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby badboysiam » Fri Jul 29, 2011 2:35 pm

คำทำนายนี้เห็นมาไม่ต่ำกว่าสองปีแล้วละครับ เห็นก่อนเหตุการณ์แดงเผาเมืองแน่นอนตอนนั้นยังคิดว่าจะเป็นไปได้ไงส่วนใครจะเป็นผู้เขียนผมเองก็ไม่ทราบจริงๆ
แต่คำพยากรณ์ที่ว่า "จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง" กับ "ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ" นั้นคนละคำพยากรณ์กัน
สังเกตดูหลายๆคำพยากรณ์มักแยกเหตุกาณ์ไว้คนละท่อนเพื่อแบ่งเป็นแต่ละเหตุกันไปฉะนั้น "นารีขี่ม้าขาว" กับ "ผู้ปกครองหญิง" จึงเป็นคนละคนอย่างแท้แน่นอน
เพราะในคำพยากรณ์บอกให้ระวังผู้ปกครองที่เป็นหญิงคนนี้ไว้ในเรื่องสายน้ำที่หลาก(อาจจะเป็นเงินในคลัง)
ส่วน"นารีขี่ม้าขาว"จะเป็นใครผมเองก็ไม่ทราบแต่ในความคิดของผมท่านก็คือคนที่ไปออกรายการวู้ดดี้แล้วทำให้หลายเครือข่ายออกมาตื่นตัวแถลงการณ์ปกป้องราชบัลลังค์นั่นแหละครับ
ไม่ใช่ขี้ข้าใคร ไม่ใช่ข้างไหน
อยู่เพื่อความถูกต้องและปกป้องสถาบัน
User avatar
badboysiam
 
Posts: 165
Joined: Fri Jan 28, 2011 6:05 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby annykun » Fri Jul 29, 2011 2:48 pm

แอบคิดไกลนะครับ แต่ก็น่าคิด มีนายกหญิงคนแรกแล้วจะมี....หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ก็ไม่เลวนะ
ตัวข้าเป็นได้ทั้งสวรรค์ และนรก
User avatar
annykun
 
Posts: 332
Joined: Thu Jul 28, 2011 3:44 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby GuoJia » Fri Jul 29, 2011 5:47 pm

คำทำนาย 10 ยุค มาจากโหราศาสตร์
โดยแต่ละยุคใช้ พฤหัส กุม เสาร์ เป็นแนวทางทำนาย
แต่ละช่วงจะมีเวลา 20 ปี (ดาวพฤหัสจะกุมดาวเสาร์ทุก ๆ 20 ปี)
เพราะฉะนั้น 10 ยุค ยุคแรกตั้งแต่เริ่มตั้งกรุง 2325 มาสิ้นสุดยุค ปี 2525
รายละเอียดหาอ่านได้จากหนังสือ โหราศาสตร์ในวรรณคดี อ.เทพย์ สาริกบุตร
ไอ้จ่อย : เอแบคโพลสำรวจพบคนบ้านเรา 69.9% ตั้งใจรับเงินขายเสียง...
...ผู้ใหญ่ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยใช่ไหม?
ผู้ใหญ่มา : ใช่...แล้วไง?
ไอ้จ่อย : ในระบอบประชาธิปไตย เราต้องทำตามมติเสียงส่วนใหญ่

ผู้ใหญ่มากับทุ่งหมาเมิน ชัย ราชวัตร 21/01/2554
User avatar
GuoJia
 
Posts: 893
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:19 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby raksthaban » Mon Aug 01, 2011 2:36 pm

คำว่า "คทา" มีความหมายนะ คนที่ควงคทา ก็คือ Lead หรือ Leader ก็แปลว่า ผู้นำ แต่คุณปู ไม่รู้จะเคยเป็น ดรัมเมเยอร์ไหม คนละเรื่องเลยนะ ห่างเยอะ ชั้นวรรณะ ก็ไม่ใช่ คทา จะเป็นของคู่สถาบันฯ นะ ไม่ใช่เป็นของใครง่ายๆ
Last edited by raksthaban on Tue Aug 02, 2011 10:44 am, edited 1 time in total.
User avatar
raksthaban
 
Posts: 151
Joined: Fri Jun 24, 2011 11:49 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby Yasuhiro » Mon Aug 01, 2011 3:00 pm

ในความเห็นส่วนตัวผมคิดว่า ยิ่งลักษณ์ไม่ใช่นารีขี่ม้าขาวหรอกครับ
ส่วนคนที่เป็นนารีขี่ม้าขาว ส่วนตัวผมไม่น่าจะเดาผิดนะครับ แต่ที่แน่้ๆไม่ใช่ยิ่งลักษณ์หรอก เพราะบุญบารมีมันไม่ถึง ;)
"กา"กับ"หงส์" มันต่างกันเยอะครับ
"The future is plural" Peter Schwatz
เพิ่มเติม: ผมไม่มีนโยบายที่จะต่อความยาวสาวความยืดกับพวกเกรียนทางความคิด เพราะมันเสียทั้งเวลาและอารมณ์ ไม่มีประโยชน์ใดๆที่จะไปนั่งอธิบายให้คนที่ปิดกั้นทางความคิดพวกนี้ฟังหรืออ่าน
User avatar
Yasuhiro
 
Posts: 1109
Joined: Mon Feb 01, 2010 3:00 pm

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby aunlive » Mon Aug 01, 2011 3:13 pm

แก้ประโยคให้หนึ่งประโยคละกันครับ

"จะมีหนึ่งนารีขี่ควายแดง ที่จะแกล้งใช้นโยบายให้ความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ"

Image
Last edited by aunlive on Mon Aug 01, 2011 6:07 pm, edited 5 times in total.
อุดมการณ์อยู่กับความถูกต้อง ไม่ได้อยู่กับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ผิดก็วิจารณ์ ถูกก็ส่งเสริม
User avatar
aunlive
 
Posts: 123
Joined: Sun May 16, 2010 2:33 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby raksthaban » Mon Aug 01, 2011 3:27 pm

[quote="raksthaban"]คำว่า "คทา" มีความหมายนะ คนที่ควงคทา ก็คือ Lead หรือ Leader ก็แปลว่า ผู้นำ แต่คุณปู ไม่รู้จะเคยเป็น ดรัมเมเยอร์ไหม คนละเรื่องเลยนะ ห่างเยอะ ชั้นวรรณะ ก็ไม่ใช่ คทา จะเป็นของคู่สถาบันฯ นะ ไม่ใช่เป็นของใครง่ายๆ

ตามความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่อง "กลอนบทนี้นะ" น่าจะเป็นการแต่งขึ้นใหม่ โดยบุคคลท่านหนึ่ง ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร เป็นการเอาคำทำนายของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาตบแต่งให้ได้คำไพเราะ พยายามเชื่อมโยงให้คนรุ่นนี้ ได้เข้าใจง่าย ถ้าเป็นบทกลอนเก่าๆ จริง จะต้องแปลอีกหลายชั้น และจะต้องมีวลีโบราณติดอยู่ตลอดประโยค

อย่างเช่นตัวอย่าง แผ่นดินแยกแตกเป็นสอง คนที่แต่งต้องแต่งก่อนที่จะมี เหลือง กับ แดง หลายปีมาก คงนึกไม่ถึงว่า มันจะเป็นไง แต่ถ้ามามองกันในแง่ภูมิศาสตร์ ประชากรพลเรือน ก็จะเห็นชัดว่า มีการเลือกภาค เลือกค่าย อิสาน+เหนือ ในขณะที่ กลาง+ใต้ มันถูกแยกจริงๆ จากพิษทางการเมือง และมีแนวโน้มจะรบราฆ่าฟันกันเองด้วย แต่ดีนะ ที่ยังผ่านวิกฤตรุนแรงไปได้ เนื่องจากทหารยังคงยึดมั่นและจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์ บ้านเมืองเลยขยับไปในทางที่ดีขึ้นบ้าง ซึ่งในช่วงวิกฤตอย่างนั้น ถ้าเป็นยุโรปตะวันออก อาฟริกา หรือเอเชียบางประเทศ ก็มีลุ้นน่ากลัวเลย เช่น ลิเบีย
Last edited by raksthaban on Tue Aug 02, 2011 10:44 am, edited 1 time in total.
User avatar
raksthaban
 
Posts: 151
Joined: Fri Jun 24, 2011 11:49 am

Re: หลวงพ่อฤาษีลิงดำ_คำทำนายบนใบลาน สมัยอยุธยา_ถิ่นกาขาว และนารี

Postby birdofjc » Mon Aug 01, 2011 4:42 pm

จริงแล้วกลอนบทนี้ผมเห็นนานแล้ว แต่พวกเสื้อแดงเข้าใจว่า นารีที่ว่าคือ ปู และปูจะทำให้บ้านเมืองร่มเย็น
แต่ในความคิดผมว่า นารีมีมาแล้วครับ แต่กลอนบทนี้ได้เตือนเราว่า "ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ" ผมว่าตรงนี้ถูกต้องครับ แต่เขาให้ระวัง นารีควงคฑา จึงไม่ใช่ยิ่งลักษณ์ ส่วนจะเป็นใครนั้นผมรู้ในใจผมและ ส่วนท่านๆเดากันเอาเอง

ดังนั้นเขากำลังเตือนให้ระวัง ยิ่งลักษณ์ ส่วนนารีควงคฑา ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอนครับ
User avatar
birdofjc
 
Posts: 11
Joined: Sun Jul 31, 2011 11:06 pm

Previous

Return to สภากาแฟ



cron