เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 8:30 pm

ผมขอพูดกับบังอย่างตรงไปตรงมาว่า บังมีสิทธิที่จะรักหรือไม่รักใคร

แต่บังไม่มีสิทธิ์ทำผิดกฏหมาย
รวมทั้งทำให้คนอื่นซวยเพราะการกระทำของบังครับ

เราสามรถถกเรื่องนี้ได้ เพียงแต่บังชี้ว่า ข้อมูลของผมมันผิดพลาดตรงใหน การที่ผมเขียนเพื่อจะปกป้องสถาบัน บังแค่ชี้ว่าผมตอแผลตรงใหนได้ ผมก็หมดทางไปแล้วละครับ

ส่วนข้อมูลของคุณkanok นั้น ทำให้เสื้อแดงมันเยาะเย้ยสนุกปากไปเท่านั้นเอง ผมพยายามเลี่ยงข้อมูลเหล่านี้ครับ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby kanok » Sat Apr 30, 2011 8:33 pm

เขาจะเยาะเย้ยเรื่องอะไรเหรอคะ เสื้อแดงเขานับถือพระเจ้าตากนิ :?:
User avatar
kanok
 
Posts: 861
Joined: Thu Jan 27, 2011 9:43 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 8:39 pm

ผมถามแทนเสื้อแดงก็ได้ว่า แล้วประหารพระยาพิชัยดาบหักทำไม ในเมื่อท่านร่วมมือกัน
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby ter162525 » Sat Apr 30, 2011 8:41 pm

amplepoor wrote:

เพิ่มเติม
ข้อความที่ผมจำได้ ต้นฉบับเป็นอย่างนี้ครับ
"ทรงพระสรวล ตบพระเพลา ว่า เอหิภิกขุลอยมาถึงแล้ว…อยู่ในราชสมบัติ ๑๔ ปี ๔
เดือน ทรงผนวช"


ผมแกล้งไม่บอกที่มา จะดูว่า ข้อความที่นักเรียนชั้นไพร่ๆ อย่างผมยังรู้จักนี่ เสื้อแดงระดับพิเศษอย่างคุณมะแอรู้จักใหม ถ้าไม่รู้จัก ผมแนะนำให้ปรับเป็นโหมดอ่านอย่างเดียวดีกว่าครับ


แปลว่ามาเถอะ ๆ ครับ

ตามที่ คุณวิชายกมาแหละครับ ท่านว่าภิกษุเหล่านั้น แท้จริงแล้วเป็นนักโทษ ทั้งสิ้น ท่านให้ห่มผ้าเหลือง
แล้วเฆี่ยน จริงแล้วคนที่เจริญสมาธิกรรมฐานถึงจะผิดเพี้ยน แต่ไม่น่ากลายเป็นคนจิตใจโหดร้ายเพราะมันตรงกันข้ามเลย แต่เพี้ยนคุยด้วยไม่รู้เรื่อง หรือคิดว่าเพี้ยน ว่ะอันนี้น่าจะจริง
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป
User avatar
ter162525
 
Posts: 3030
Joined: Tue Mar 23, 2010 3:23 pm

Re: เรื่องพระเจ้าตาก

Postby คนกวาดขยะ » Sat Apr 30, 2011 8:44 pm

กระทู้นี้อ่อนไหวและสุ่มเสี่ยง จำต้องแจ้งเตือนทุกหน้า เพื่อให้กระทู้เดินไปได้ครับ

คนกวาดขยะ wrote:
คนกวาดขยะ wrote:
คนกวาดขยะ wrote:แจ้งสมาชิกทราบ การเปลี่ยนราชวงค์เป็นเรื่องปกติในยุคโบราณ ไม่ว่าส่วนไหน อาณาจักรไหน ของโลกก็มีเช่นเดียวกัน จะเปลี่ยนด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

ที่เจ้าของกระทู้นำเสนอนั้นไม่ห้ามครับ นับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่นำข้อมูลมาแย้งพวกล้มเจ้าที่ใช้ประเด็นนี้บิดเบือนโจมตีกระทบชิ่งอยู่เนืองๆ ถือเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ได้

แต่ห้ามสมาชิกอภิปรายในเชิงลบเพื่อกระทบต่อราชวงค์ปัจจุบัน ซึ่งผิดกฏของเว็บมีโทษแบนถาวรสถานเดียวครับ
คนกวาดขยะ
Moderator
 
Posts: 878
Joined: Mon Oct 20, 2008 12:24 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby มะเขือเทศเน่า » Sat Apr 30, 2011 8:45 pm

คนที่มีมุมมองล้มเจ้าหลายคนเป็นคนที่มีมุมมองในลักษณะเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง
บอกว่าล้มแล้วประเทศจะดีขึ้น แต่กลับเอาเรื่องเจ้ามาบิดเบือนและโจมตีให้เจ้าเสียหาย

หากข้อความจากความคิดเห็นของผมนี้ไม่เหมาะสม ผู้ดูแลระงับได้เลยครับ
Last edited by มะเขือเทศเน่า on Sat Apr 30, 2011 8:46 pm, edited 1 time in total.
การเมืองทำให้ปวดหัว แต่อย่ากลัวที่จะรับฟัง อิอิ
อย่าปล่อยให้คำว่า "ประชาธิปไตย" และ "ประชาชน"
ถูกใช้เป็นเครื่องมือหากินของนักการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตน
User avatar
มะเขือเทศเน่า
 
Posts: 2525
Joined: Sat May 01, 2010 9:43 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Gop » Sat Apr 30, 2011 8:46 pm

kanok wrote:เคยอ่านจากหนังสือพิมพ์ นานมากกกกแล้วนะคะ เนื้อหาคร่าวๆ ก็คือ
- มีคนเอา วัน เดือน ปีเกิด พระเจ้าตากให้ พวกโหรทำนาย ปรากฏว่า ดูยังไงก็ไม่ใช่ดวงที่ต้องโดนประหารชีวิต
แล้วไปอ่านที่ไหนไม่รู้ จำไม่ได้อีกเล่มนึง เค้าบอกว่า
- ท่านต้องใช้เงินในการรบหรือปฏิรูปบ้านเมืองในสมัยนั้นเยอะมาก เลยไปยืมคนจีนคนนึง แล้วดอกเบี้ยมันเพิ่มเรื่อยๆ ไม่มีจ่าย เลยคิดอุบายชักดาบ ปลดหนี้ แกล้งทำเป็นโดนประหารชีวิต แล้วแอบไปบวชเงียบๆ
:roll:



รู้สึกว่าคุณ amplepoor เคยตอบไปแล้วนะครับ ว่าจีนไม่เคยให้เงินใครกู้ และราชสำนักก็มีเงินอยู่ไม่น้อย เพราะได้ปราบปรามแว่นแคว้นต่างๆมากมาย อย่าลืมว่า พระแก้วมรกตก็มาอยู่ที่กรุงธนบุรีแล้วนะครับตอนนั้น แสดงว่าเราได้ปราบปรามแว่นแคว้นต่างๆออกไปกว้างไกลแล้ว และการชนะสงครามนั้นย่อมได้ทรัพย์สมบัติมากมาย
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby kanok » Sat Apr 30, 2011 8:48 pm

Voice of taksin(สังเกตตัวสะกด) มีรูป+เรื่องพระเจ้าตากค่ะ อวยแม้วสุดฤทธิ์ ว่ากลับชาติมาเกิด ไรทำนองนี้ (คือเขาแต่งเรื่องหลอกรากหญ้า เรื่องแนวๆ ชาติภพไรเงี้ยคะ) แต่ไม่เคยพูดเรื่องพระยาพิชัยดาบหัก...เค้ารักสมเด็จพระเทพฯด้วย เพราะประโยคที่พูดถึง พธม. "They do thing for themself" ...เสื้อแดงไม่ได้เกลียดเจ้าทุกคนนะคะ...บางท่าน เขาจะไม่แตะต้องเลย
User avatar
kanok
 
Posts: 861
Joined: Thu Jan 27, 2011 9:43 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby Gop » Sat Apr 30, 2011 8:51 pm


อยากฟังความเห็นคุณ มะแอฯอีกสักครั้งครับ ขอความกรุณา mod ช่วยเซนเซอร์แค่บางคำด้วยเถิด อยากฟังความอีกด้านบ้างครับ
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby คนเล็กของเล่นใหญ่ » Sat Apr 30, 2011 9:01 pm

ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตั้งแต่ตอนกลาง ถ้าจำเรื่องสุริโยทัยกันได้ ก็จะเป็นช่วงสมเด็จหน่อพุทธางกูร ไปจนถึงสมัยที่สมเด็จพระไชยราชาธิราช ก็มีการแย่งชิงราชสมบัติกัน ไปจนถึงพระมหาธรรมราชา ผมว่าก็เป็นการแย่งชิงราชสมบัติกลายๆจากพระมหินทราริราช เพราะพระมหาธรรมราชาอยู่ข้างพระเจ้าบุเรงนองที่จะมาโจมตีกรุงศรีอยุธยา เรื่อยมาจน ไปจนถึงตอนปลาย การเปลี่ยนผ่านจากราชวงศ์สุโขทัย ไปราชวงศ์ปราสาททอง และสุดท้ายคือราชวงศ์บ้านพลูหลวง ต่างก็มีการแย่งชิงราชสมบัติกันทั้งนั้น ผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของการต้องการอำนาจ

การเปลี่ยนถ่ายไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่สำคัญอยู่ที่ผู้ที่จะขึ้นมาปกครองนั้น มีความสามารถและบุญบารมีเพียงพอหรือไม่

ผมว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ราชวงศ์จักรีก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงตรงนั้นแล้ว พระมหากษัตริย์ในราชวงศ์ทั้ง9พระองค์ ต่างก็เป็นพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ และมีพระราชจริยวัตรที่งดงาม มีความสง่างามเปี่ยมไปด้วยบุญบารมีอยู่ทุกพระองค์ เชื่อผมเถิดว่าถ้าดวงวิญญาณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้รับรู้ว่าราชอณาจักรไทยยิ่งใหญ่และเจริญรุ่งเรืองเพียงใดภายใต้การนำของพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีทั้ง 9 พระองค์จะไม่ถือโทษโกรธเคืองในการเปลี่ยนราชวงศ์ผู้ครองราชบัลลังก์ในราชอณาจักรแน่นอน

ดวงวิญญาณของพระองค์คงจะไปสู่ภพที่สงบสุขและคลายกังวลอย่างสิ้นเชิง
User avatar
คนเล็กของเล่นใหญ่
 
Posts: 2134
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 9:27 pm

Gop wrote:
kanok wrote:เคยอ่านจากหนังสือพิมพ์ นานมากกกกแล้วนะคะ เนื้อหาคร่าวๆ ก็คือ
- มีคนเอา วัน เดือน ปีเกิด พระเจ้าตากให้ พวกโหรทำนาย ปรากฏว่า ดูยังไงก็ไม่ใช่ดวงที่ต้องโดนประหารชีวิต
แล้วไปอ่านที่ไหนไม่รู้ จำไม่ได้อีกเล่มนึง เค้าบอกว่า
- ท่านต้องใช้เงินในการรบหรือปฏิรูปบ้านเมืองในสมัยนั้นเยอะมาก เลยไปยืมคนจีนคนนึง แล้วดอกเบี้ยมันเพิ่มเรื่อยๆ ไม่มีจ่าย เลยคิดอุบายชักดาบ ปลดหนี้ แกล้งทำเป็นโดนประหารชีวิต แล้วแอบไปบวชเงียบๆ
:roll:



รู้สึกว่าคุณ amplepoor เคยตอบไปแล้วนะครับ ว่าจีนไม่เคยให้เงินใครกู้ และราชสำนักก็มีเงินอยู่ไม่น้อย เพราะได้ปราบปรามแว่นแคว้นต่างๆมากมาย อย่าลืมว่า พระแก้วมรกตก็มาอยู่ที่กรุงธนบุรีแล้วนะครับตอนนั้น แสดงว่าเราได้ปราบปรามแว่นแคว้นต่างๆออกไปกว้างไกลแล้ว และการชนะสงครามนั้นย่อมได้ทรัพย์สมบัติมากมาย

---------------------------

ขอบคุณที่ช่วยตอบครับ บางทีสมาชิกก็อาจจะอ่านไม่ทั่วถ้วน ผมจะซ้ำว่าตอบไปแล้วบางทีก็เสียมารยาทครับ เว้นแต่เป็นเสื้อแดง อันนี้เก็บตำรามารยาทใส่ลิ้นชักเลย

ถ้าสนใจเรื่องการเงินในช่วงนี้ มีหนังสือของคุณชัย เรืองศิลป์ พออ่านเอาความได้อยู่ หลายประเด็นก็เฉียบแหลมกว่าเจ๊กฟันลูกศิษย์แยะ

ฐานะการคลังของเจ้าตากนั้น อธิบายไม่ยากครับ กว่าท่านจะได้รับอนุมัติให้จิ้มก้อง ก็นานอยู่เพราะจีนบอกว่าท่านล้มเจ้านายขึ้นเป็นเจ้า แปลว่าระหว่างนั้นท่านยังกู้เงินจีนไม่ได้ (เชิญอ่านประชุมพงศาวดารภาค ๕ และจดหมายเหตุจีนอีกมากมายที่มีการแปลออกมา) แล้วท่านได้เงินมาจากใหนละ

ท่านได้เงินมาจาก
๑ ปราบก๊กทั้งหลาย นี่เพิ่มความรวยหลายเท่าเลย เพราะท่านเองเป็นก๊กเล็กกว่า
๒ ปราบเมืองขึ้นเดิมของอยุธยา และยังได้มอญอพยพเข้ามาอีก
๓ ขายสัปทานขุดทรัพย์แผ่นดิน
๔ เริ่มการค้าสำเภาอีกครั้ง

อยากรู้ว่าท่านรวยหรือไม่ ก็ดูจากการรบ เพราะสงครามต้องใช้คนและเงิน ถ้าจะให้สรุปก็คือ รัชกาลท่าน ไม่ได้ยากจนข้นแค้นสักเท่าไหร่ดอกครับ แต่ที่ไม่มีสิ่งพิสูจน์พวกวัดวาอารามพระราชวัง ก็เพราะท่านต้องรบตลอด และรัชกาลก็สั้นด้วย

ถึงรัชกาลที่หนึ่ง แค่สร้างวัดโพธิ์ ก็บอกได้แล้วว่าเมืองไทยฟื้นมาแค่ใหน ต่อให้สมัยปลายอยุธยา ก็ไม่สามารถสร้างวัดอย่างนี้ขึ้นมาได้ครับ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby overtherainbow » Sat Apr 30, 2011 9:57 pm

ขอบคุณทุกคนค่ะ
โดยเฉพาะคุณแอมที่ต้องหาข้อมูลอ้างอิงมาหักล้าง
:mrgreen:
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby kanok » Sat Apr 30, 2011 10:06 pm

อ๋อ..คุณ amplepoor ตั้งใจยันข้อมูลกับ นิธิ ...แต่ว่ามันไม่ได้มีแต่นิธิ คนเดียวนะสิคะ ที่บ้านซื้อ หนังสือศิลปวัฒนธรรมในเครือมติชน เยอะมาก ค้นพบว่าเขาจะออกมาต่อเนื่องเลย เรื่องเล่าต่างๆ ของพระเจ้าตาก ...เครือมติชน ก็น่าจะทราบว่าสไตล์เป็นยังไง ยก ตย. เช่น http://same111.blogspot.com/2009/08/4.html
หยั่งงี้มันอยู่ที่ IO แล้วค่ะ Anti-royalist มัน IO มา Royalist ก็ต้อง IO สู้กันไป
:roll:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลด้วยค่ะ
User avatar
kanok
 
Posts: 861
Joined: Thu Jan 27, 2011 9:43 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby คนกวาดขยะ » Sat Apr 30, 2011 10:11 pm

Gop wrote:
อยากฟังความเห็นคุณ มะแอฯอีกสักครั้งครับ ขอความกรุณา mod ช่วยเซนเซอร์แค่บางคำด้วยเถิด อยากฟังความอีกด้านบ้างครับ


เรื่องทำนองนี้แถมยังคาบเกี่ยวกับปัจจุบัน ความอีกด้านย่อมหลีกไม่พ้นที่จะหมิ่นเหม่ ซึ่งบอร์ดนี้ไม่อาจให้มีได้

จึงเลี่ยงไม่ได้ที่เรื่องนี้จะต้องพูดกับกลุ่มเดียวกันเท่านั้นในบอร์ดเรา ถ้าปล่อยให้อีกฝ่ายหนึ่งพูด จะกระทบทางลบทันที จะเจตนาหรือไม่ก็ตาม ไม่อาจให้เกิดขึ้นได้ครับ

ดังนั้นทางเลือกมีสองทาง
1. พูดคุยกันต่อ กับคนที่เห็นทางเดียวกัน (ไม่กระทบสถาบันฯ)
2. ปิดกระทู้ ตามที่มีสมาชิกหลายท่านแสดงความกังวลว่ากระทู้นี้สุ่มเสี่ยงที่พวกแดงจะเข้ามาถือโอกาสตีกระทบชิ่ง
คนกวาดขยะ
Moderator
 
Posts: 878
Joined: Mon Oct 20, 2008 12:24 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby overtherainbow » Sat Apr 30, 2011 10:16 pm

งั้นขอข้อแรกแล้วกันค่ะ

อย่างน้อยยังได้มีโอกาสที่จะระดมความคิด หักล้างออกมาให้เป็นจริงจังมากที่สุดครั้งนึง

ที่สำคัญพวกแดงอยากจะพูดอะไรก้ได้ตามที่ได้อ่านมา

ไม่สนใจแล้วค่ะ

สับแต่ข้อมูลพวกคิดอคติอย่างเดียวก็คงพอ

ขอบคุณคุณคนกวาดขยะค่ะ
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 10:19 pm

โปรดอ่านพระราชหัตถ์เลขาที่เชิญมานี้ พิจารณาด้วยสติและมโนธรรม

เมื่อปราบดาภิเษกแล้ว รัชกาลที่หนึ่งไม่ได้ประหารเชื้อสายพระเจ้าตากอย่างถอนรากถอนโคนนะครับ แต่ทรงดำเนินการดังนี้

"เป็นการจำเป็นเพราะมีผู้แค้นเคืองเจ้ากรุงธนบุรีเป็นอันมาก และถ้าไม่ทำเช่นนั้นบ้านเมืองก็จะไม่เป็นปกติเรียบร้อยได้ เพราะผู้ที่ยังนับถือพระเจ้ากรุงธนบุรีก็ยังมีบ้าง จึงเป็นการจำเป็นต้องให้ประหารชีวิตเจ้ากรุงธนบุรีเสีย

แต่ถึงดังนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ยังไม่ได้สิ้นความนับถือ หรือยกข้อเหตุที่ทำอันตรายแก่ครอบครัวของท่านอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นที่ตั้ง แล้วทำลายวงศ์ตระกูลแห่งพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้นเสีย ตามคำขอแห่งกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาทนั้นเลย ได้ทำเฉพาะผู้เดียวแต่เจ้าจุ้ย ซึ่งเป็นกรมขุนอนุรักษ์สงคราม

การที่ทำนั้นก็ทำโดยความที่เจ้าจุ้ยนั้นเองไม่เต็มใจจะอยู่รับราชการต่อไป เพราะเห็นโทษของบิดา และเห็นตัวเป็นที่กีดขวางโอรสธิดาของเจ้ากรุงธนบุรี นอกนั้นได้ทรงชุบเลี้ยงไว้หมดทั้งสิ้น ใช่จะเป็นแต่เพราะเจ้าฟ้าเหม็น โอรสเจ้ากรุงธนบุรีอื่นๆคือพระพงศ์นรินทร์ พระอินทรอภัย อายุถึง ๑๔-๑๕ ปีแล้วทั้งสิ้น ก็ยังเอามาชุบเลี้ยงใช้สอย"

พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ถึงเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
วันที่ ๓ พฤกษภาคม ร.ศ. ๑๑๒


ผมไม่รู้ว่าไอ้เจ๊กหื่นมันได้นำพระราชหัตถ์เลขานี้มาใช้ในการเขียนหนังสือหรือไม่ ถ้าไม่ มันก็เลว ถ้าใช้แล้วยังบิดเบือน ก็ยิ่งเลวกว่า

เชื่อสายของพระเจ้าตาก ที่มีสมาชิกยกมาให้ดูในกระทู้ตอนต้นๆ นั้น จำนวนมากมายมหาศาลทีเดัยว แสดงว่าไม่ได้ไล่ฆ่ายกสกุลเลย หามิได้ องค์สำคัญที่จะต้องกำจัด ถ้าเชื่อว่าราชวงศ์จักรีเป็นผู้ทรยศก็คือเจ้าน้อยเมืองนคร เป็นโอรสติดท้องพระสนมเอก เจ้าตากไม่ทรงทราบก็พระราชทานให้เจ้าพระยานคร เจ้าพระยานครรับมาก็เชิญให้เป็นย่าเมือง(ภาษาเมืองคอนเรียกอะไร ใครรู้โปรดบอกด้วย) เป็นที่เคารพบูชาเพราะรู้ว่าเป็นพระราชมารดาของหน่อพระเจ้า

เมืองนครศรีธรรมราชนั้น เป็นหัวเมืองใหญ่ ผู้คนมากมายเข้มแข็ง คนทรยศจะทิ้งลูกเจ้าตากให้ครองเมืองเป็นเสี้ยนหนามไว้ละหรือ ตรงกันข้าม รัชกาลที่หนึ่งทรงชุบเลี้ยงคนของเจ้าตากไว้มากกว่ามาก มากจนผิดใจกับน้องชาย ที่ทรงค้านว่า ไม่ควรทิ้งเชื้อไว้รอวันประทุ

มีผู้กล่าวว่าพระพุทธยอดฟ้า เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่อาภัพ ทรงเป็นส่วนสำคัญที่กู้บ้านเมือง กลับมาเป็นปึกแผ่น ทรงวางรากฐานกรุงรัตนโกสินทร์ไว้ จนเข้มแข็งผ่านพ้นมรสุมมากมายหลายหน พวกเราอาศัยผลงานของพระองค์ ทรงสร้างกฏหมาย ทรงสร้างอาณาจักร ทรงสร้างศาสนา สร้างคน สร้างประเทศ เราจึงเป็นหนี้พระองค์กันทั้งนั้น

ผ่านไปยังไม่สองร้อยปี คนไทยเองนี่แหละ คิดจะล้มล้างประวัติศาสตร์ของพระองค์ ป้ายสีให้ทรงเป็นคนเลว ผมก็อยากจะขอร้องท่านที่มีใจเป็นธรรมว่า ความยุติธรรมเป็นศักดิ์ศรีของมนุษย์ ก่อนจะเชื่อพวกล้มเจ้า ศึกษาข้อมูลอีกสักนิดเถอะครับ

อย่าตกเป็นเครื่องมือคนอื่น พวกมันไม่ได้เห็นท่านเป็นคนเสมอมันเลย ไม่งั้นมันไม่หลอกใช้ท่านหรอก
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 10:28 pm

รับทราบนโยบายครับ เราก็คงต้องไปเก็บข้อกล่าวหาเอามาสับเอามาชำระล้างกันเอง

กรณีที่เครือมติชนเล่นเรื่องนี้เป็นระบบ ก็ต้องบอกว่า สายพันธ์ของพวกมันเป็นเช่นนี้แล ใครอยากรู้ก็ไปหาหนังสือช่วงแห่งชีวิต ที่สอศิวลึงเขียนเล่าเบื้องหลังกระบวนการซ้ายเอาไว้ มีเรื่องน่ารู้แยะครับ จะได้รู้ว่าพวกบัดซบเหล่านี้เอาเงินจากใหนมาทำโรงพิมพ์ โรงพิมพ์พวกมันพิมพ์แต่เรื่องอะไร

พวกซ้ายในเมืองนั้น ซึมลึกลงไปถึงรากเง่าของสังคม รอเวลาที่จะโผล่มาล้มสถาบัน พวกเราก็ช่วยกันสอดส่องร้องเตือนไปตามกำลังนะครับ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby zereza » Sat Apr 30, 2011 10:59 pm

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ ไม่เสียแรงที่ติดตามอ่าน อย่างที่รู้กันแหละครับฝ่ายที่จ้องทำลายสถาบันมักจะหาทางอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งนู้นแหล่งนี้เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ แต่พอมาวัดกันด้วยข้อมูลกับผู้รู้จริงแล้วล่ะก็ไปไม่เป็นซักคน แต่ก็ทำให้พวกเค้าเปลี่ยนความคิดไม่ได้หรอกครับ เพราะพวกเค้าเองก็เป็นประเภทเลือกเชื่อสิ่งที่อยากจะเชื่อเท่านั้น(ทั้งๆที่พยายามว่าคนอื่นว่ามีความคิดแบบนี้)

คนพวกนี้ถึงข้อมูลเราจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่าเพียงใดคงยากที่เค้าจะเชื่อ อคติมันบังตาไปหมดแล้ว หลายคนโดนล้างสมองกันมายาวนาน(บางคนถึงขนาดมองว่าคนอื่นถูกล้างสมองทั้งๆที่ตัวเองต่างหากที่เป็นเช่นนั้น)

ขอสนับสนุนการเอาข้อเท็จจริงออกมาสู่สังคมแบบนี้ครับ ท่ามกลางความคิดเห็นและบทความบิดเบือนทั้งหลายที่ทยอยกันตีพิมพ์ออกมาจนคนไม่รู้สับสนไปหมดแบบนี้ อย่างน้อยกระทู้นี้จะได้เป็นหลักที่สามารถใช้อ้างอิงหักล้างสิ่งที่พวกนั้นพยายามเผยแพร่ได้ไม่มากก็น้อย

ในความเป็นจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตมันยากที่จะไปรู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น รายละเอียดเป็นอย่างไร ไม่ต้องไกล แค่เขมรยิงกับไทยที่ชายแดนวันสองวันก่อนก็มีน้อยคนที่จะบอกได้ว่าเป็นมายังไง อะไรเกิดก่อนหลัง การพิจารณาหาข้อเท็จจริงจึงต้องอาศัยหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่สุดที่จะเป็นไปได้ ในบรรดาหลักฐานก็ต้องมีการชั่งน้ำหนักอีกว่าอะไรเชื่อได้มาก อะไรเชื่อได้น้อย ต้องยอมรับว่าคนไทยหลายๆคนขาดทักษะการชั่งน้ำหนักที่ว่านี่แหละครับ หลายคนจึงพร้อมจะเชื่อหากผู้ที่มาพูดน่าเชื่อหรือยอมรับบุคคลนั้น โดยไม่พยายามหาข้อเท็จจริงแล้วชั่งน้ำหนักก่อน

ความวุ่นวายในบ้านเมืองเราก็มีที่มาจากนิสัยแบบนี้เองแหละครับ หลักกาลามสูตรจึงเป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และปฏิบัติให้ได้จริงๆ เพื่อให้ตัวเราและประเทศของเราพ้นภัยจากความไม่รู้ที่ว่านี้ซะที
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby ตามนั้น » Sat Apr 30, 2011 11:24 pm

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

User avatar
ตามนั้น
 
Posts: 598
Joined: Wed Nov 25, 2009 12:46 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sat Apr 30, 2011 11:55 pm

หลักการข้อแรกที่จะดำรงความเป็นมนุษย์เอาไว้ คืออย่าถูกหลอก

เราห้ามคนอื่นหลอกเราไม่ได้ เราก็ต้องติดอาวุธตัวเองไม่ให้ถูกมันหลอก ถ้าราชวงศ์จักรีเป็นอย่างจีน รัสเซีย หรือฝรั่งเศส คิดหรือว่าจะดำรงอยู่มายาวนานอย่างนี้

เมื่อเกิดกบฏรศ ๑๓๐ รัชกาลที่ ๖ ท่านตัดสินโทษแล้วก็ปล่อยตัวไป ปฏิวัติ ๒๔๗๕ ถ้าพระปกเกล้าสู้ คณะราษฏร์จะเหลือหรือครับ มีกำลังแค่หยิบมือ ขนาดทหารที่ยกมายังนึกว่ามาสวนสนาม ในปืนมีลูกกระสุนหรือเปล่าก็ไม่รู้

ที่สำคัญนะครับ เมื่อพระปกเกล้าสละราชสมบัติ คณะราษฏร์ใช่ใหม ที่ไปเชิญรัชกาลที่ ๘ มาครองราชย์ คณะราษฏร์ใช้พระบารมีของสมเด็จพระราชบิดาเป็นเกราะเป็นเครื่องมือ ใช่หรือไม่

คณะรัฐมนตรีได้ปรึกษากันในระหว่างเวลา ๕ วันตั้งแต่วันที่ ๒ ถึงวันที่ ๗ มีนาคม เพื่อพิจารณาว่า เจ้านายในพระราชวงศ์จักรีพระองค์ใด สมควรที่รัฐบาลจะเสนอขอความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเป็นพระมหากษัตริย์องค์ต่อไป
ความเป็นไปบางประการในคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ปรีดี พนมยงค์

พวกแดงมันชอบอ้างนักว่า ระบบเจ้าแผ่นดินคือไม่ผ่านประชาชน

ระดับปลวกแดงไม่รู้เรื่องเราไม่ว่า แต่ระดับนักปราชญ์ของพวกมันย่อมจะรู้ดี ว่าพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ และ ๙ ขึ้นครองราชย์ผ่านสภาฯ คนอย่างสม สั ต ว์ ทุ่มเทศึกษาประวัติราชวงศ์อย่างหนัก ก็รู้ แต่ท่านเคยได้เห็นมันเขียนข้อเท็จจริงนี้หรือไม่ ทั้งที่โค๊ตข้างบน ผมเอามาจากบทความของมันด้วยซ้ำ

มันเขียนสอดรู้ไปเสียทุกเรื่อง แต่เรื่องที่มีหลักฐานแดงแจ๋ เป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ มันกลับข้ามไปไม่ยอมเขียน เพราะถ้าเขียนแล้ว กลับกลายเป็นว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรานี่เอง ที่เป็นประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น

ความจริงนี้ เคยมีแดงคนใหนพูดถึงใหม
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby zereza » Sun May 01, 2011 4:36 am

เค้าไม่อ่านกันหรอกครับ อ่านก็ทะลุออกจากหัวหมด ยอมให้คนอื่นจูงจมูกกันต่อไป สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในโลกนี้ก็คือความไม่รู้แล้วคิดเอาเอง เพราะมันสามารถทำลายได้ทั้งตัวเองและสังคมได้อย่างร้ายแรงเลย
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby overtherainbow » Sun May 01, 2011 9:47 am

กฏข้อที่หนึ่งของพวกพยายาม
ต้องหานิยายมาล้างสมองมวลชนให้มากที่สุด ยิ่งออกแนวดราม่าได้ยิ่งดี
ข้อที่สอง ข้อมูลอะไรที่เป็นจริง เป็นธรรม ต้องเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงหรือพยายามลืมให้ได้ เพราะคนไทยชอบฟังมากกว่าอ่าน
ข้อที่สาม ระหว่างนั้นก็สร้างข่าวลือต่างๆเข้าไว้ เพื่อกระตุ้นให้เรื่องไม่เงียบหายไป ให้อยู่ในความสนใจของคน
ถามทุกคนเถอะ แต่เล็กจนโตมาข่าวลือที่พยายามเหมือนหลุด เนี่ย ใครทำเหรอ พอเดาได้มั้ย
หลายสิ่งหลายอย่างที่พยายามกันมา ทำให้เวลานี้เราได้เห็นคนอกตัญญูหลายคน คิดว่าความคิดและการกระทำนั้นเป็นเรื่องหัวใหม่

นิสัยคนไทยที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดี
ก็มักจะเลือกไม่ตอแยกับคนพาลและถ่อย

ปล่อยให้พวกพาลและชั่วร้ายย่ามใจ

เราจะทำอย่างไรกันดี
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby ter162525 » Sun May 01, 2011 1:31 pm

amplepoor wrote:โปรดอ่านพระราชหัตถ์เลขาที่เชิญมานี้ พิจารณาด้วยสติและมโนธรรม

เมื่อปราบดาภิเษกแล้ว รัชกาลที่หนึ่งไม่ได้ประหารเชื้อสายพระเจ้าตากอย่างถอนรากถอนโคนนะครับ แต่ทรงดำเนินการดังนี้

"เป็นการจำเป็นเพราะมีผู้แค้นเคืองเจ้ากรุงธนบุรีเป็นอันมาก และถ้าไม่ทำเช่นนั้นบ้านเมืองก็จะไม่เป็นปกติเรียบร้อยได้ เพราะผู้ที่ยังนับถือพระเจ้ากรุงธนบุรีก็ยังมีบ้าง จึงเป็นการจำเป็นต้องให้ประหารชีวิตเจ้ากรุงธนบุรีเสีย

แต่ถึงดังนั้นพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ยังไม่ได้สิ้นความนับถือ หรือยกข้อเหตุที่ทำอันตรายแก่ครอบครัวของท่านอย่างหนึ่งอย่างใดเป็นที่ตั้ง แล้วทำลายวงศ์ตระกูลแห่งพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้นเสีย ตามคำขอแห่งกรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาทนั้นเลย ได้ทำเฉพาะผู้เดียวแต่เจ้าจุ้ย ซึ่งเป็นกรมขุนอนุรักษ์สงคราม

การที่ทำนั้นก็ทำโดยความที่เจ้าจุ้ยนั้นเองไม่เต็มใจจะอยู่รับราชการต่อไป เพราะเห็นโทษของบิดา และเห็นตัวเป็นที่กีดขวางโอรสธิดาของเจ้ากรุงธนบุรี นอกนั้นได้ทรงชุบเลี้ยงไว้หมดทั้งสิ้น ใช่จะเป็นแต่เพราะเจ้าฟ้าเหม็น โอรสเจ้ากรุงธนบุรีอื่นๆคือพระพงศ์นรินทร์ พระอินทรอภัย อายุถึง ๑๔-๑๕ ปีแล้วทั้งสิ้น ก็ยังเอามาชุบเลี้ยงใช้สอย"

พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ถึงเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร
วันที่ ๓ พฤกษภาคม ร.ศ. ๑๑๒


ผมไม่รู้ว่าไอ้เจ๊กหื่นมันได้นำพระราชหัตถ์เลขานี้มาใช้ในการเขียนหนังสือหรือไม่ ถ้าไม่ มันก็เลว ถ้าใช้แล้วยังบิดเบือน ก็ยิ่งเลวกว่า

เชื่อสายของพระเจ้าตาก ที่มีสมาชิกยกมาให้ดูในกระทู้ตอนต้นๆ นั้น จำนวนมากมายมหาศาลทีเดัยว แสดงว่าไม่ได้ไล่ฆ่ายกสกุลเลย หามิได้ องค์สำคัญที่จะต้องกำจัด ถ้าเชื่อว่าราชวงศ์จักรีเป็นผู้ทรยศก็คือเจ้าน้อยเมืองนคร เป็นโอรสติดท้องพระสนมเอก เจ้าตากไม่ทรงทราบก็พระราชทานให้เจ้าพระยานคร เจ้าพระยานครรับมาก็เชิญให้เป็นย่าเมือง(ภาษาเมืองคอนเรียกอะไร ใครรู้โปรดบอกด้วย) เป็นที่เคารพบูชาเพราะรู้ว่าเป็นพระราชมารดาของหน่อพระเจ้า

เมืองนครศรีธรรมราชนั้น เป็นหัวเมืองใหญ่ ผู้คนมากมายเข้มแข็ง คนทรยศจะทิ้งลูกเจ้าตากให้ครองเมืองเป็นเสี้ยนหนามไว้ละหรือ ตรงกันข้าม รัชกาลที่หนึ่งทรงชุบเลี้ยงคนของเจ้าตากไว้มากกว่ามาก มากจนผิดใจกับน้องชาย ที่ทรงค้านว่า ไม่ควรทิ้งเชื้อไว้รอวันประทุ

มีผู้กล่าวว่าพระพุทธยอดฟ้า เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่อาภัพ ทรงเป็นส่วนสำคัญที่กู้บ้านเมือง กลับมาเป็นปึกแผ่น ทรงวางรากฐานกรุงรัตนโกสินทร์ไว้ จนเข้มแข็งผ่านพ้นมรสุมมากมายหลายหน พวกเราอาศัยผลงานของพระองค์ ทรงสร้างกฏหมาย ทรงสร้างอาณาจักร ทรงสร้างศาสนา สร้างคน สร้างประเทศ เราจึงเป็นหนี้พระองค์กันทั้งนั้น

ผ่านไปยังไม่สองร้อยปี คนไทยเองนี่แหละ คิดจะล้มล้างประวัติศาสตร์ของพระองค์ ป้ายสีให้ทรงเป็นคนเลว ผมก็อยากจะขอร้องท่านที่มีใจเป็นธรรมว่า ความยุติธรรมเป็นศักดิ์ศรีของมนุษย์ ก่อนจะเชื่อพวกล้มเจ้า ศึกษาข้อมูลอีกสักนิดเถอะครับ

อย่าตกเป็นเครื่องมือคนอื่น พวกมันไม่ได้เห็นท่านเป็นคนเสมอมันเลย ไม่งั้นมันไม่หลอกใช้ท่านหรอก



อันนี้ในผมก็ทราบคล้ายกับคุณamplepoor แต่รู้สึกจะมีอยู่ชุดหนึ่งที่ท่านจะส่งไปที่นครเพื่อไปหาพระเจ้าตากแล้ว ลูกน้องท่านทำนอกสั่งเพื่อเอาใจนายโดยคิดว่าจะได้ความดีความชอบจัดการล้มเรือหรือไงนี้ล่ะครับสุดท้ายโดนร.1 ตัดหัวหมด
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป
User avatar
ter162525
 
Posts: 3030
Joined: Tue Mar 23, 2010 3:23 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sun May 01, 2011 2:01 pm

อ่านเจอการโต้ตอบเรื่องเจ้าตากในเวบบอร์ดอื่น มีท่านหนึ่งบอกว่า นิธิสรุปในหนังสือตนว่า เจ้าตากไม่ได้เสียพระสติ

รบกวนท่านที่มีหนังสือนี้อยู่ในมือ กรุณาอ่านสรุปประเด็นนี้เล่าให้ฟังด้วยเถิดครับ

หลักฐานที่บอกว่าท่านไม่ปกตินั้น ชิ้นสำคัญก็คือรายงานของบาทหลวง กับในจดหมายเหตุความทรงจำ ที่เล่าว่าท่านให้ทำประรำ บอกว่าจะเหาะและถามว่าจะมีใครตามเสด็จบ้าง ขจร สุขพานิชเคยสรุปไว้อย่างละมุนละม่อมว่า ท่านคงจะเพี้ยนไปในบางครั้ง

อย่างไรก็ดี การที่ท่านสั่งลงโทษคณะสงฆ์ที่ไม่เห็นด้วยว่า สงฆ์สมควรไหว้คฤหัสถ์ที่บันลุพระโสดาได้นี้ ถือว่าผิดปกติอย่างยิ่ง (เดี๋ยวจะมาต่อครับ)
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby คนเล็กของเล่นใหญ่ » Sun May 01, 2011 2:07 pm

amplepoor wrote:อ่านเจอการโต้ตอบเรื่องเจ้าตากในเวบบอร์ดอื่น มีท่านหนึ่งบอกว่า นิธิสรุปในหนังสือตนว่า เจ้าตากไม่ได้เสียพระสติ

รบกวนท่านที่มีหนังสือนี้อยู่ในมือ กรุณาอ่านสรุปประเด็นนี้เล่าให้ฟังด้วยเถิดครับ

หลักฐานที่บอกว่าท่านไม่ปกตินั้น ชิ้นสำคัญก็คือรายงานของบาทหลวง กับในจดหมายเหตุความทรงจำ ที่เล่าว่าท่านให้ทำประรำ บอกว่าจะเหาะและถามว่าจะมีใครตามเสด็จบ้าง ขจร สุขพานิชเคยสรุปไว้อย่างละมุนละม่อมว่า ท่านคงจะเพี้ยนไปในบางครั้ง

อย่างไรก็ดี การที่ท่านสั่งลงโทษคณะสงฆ์ที่ไม่เห็นด้วยว่า สงฆ์สมควรไหว้คฤหัสถ์ที่บันลุพระโสดาได้นี้ ถือว่าผิดปกติอย่างยิ่ง (เดี๋ยวจะมาต่อครับ)


เคยมีแต่เผาทิ้งไปแล้วครับ เสียดายตังค์ชมัด
User avatar
คนเล็กของเล่นใหญ่
 
Posts: 2134
Joined: Mon Oct 13, 2008 11:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby overtherainbow » Sun May 01, 2011 2:14 pm

คนเล็กของเล่นใหญ่ wrote:
amplepoor wrote:อ่านเจอการโต้ตอบเรื่องเจ้าตากในเวบบอร์ดอื่น มีท่านหนึ่งบอกว่า นิธิสรุปในหนังสือตนว่า เจ้าตากไม่ได้เสียพระสติ

รบกวนท่านที่มีหนังสือนี้อยู่ในมือ กรุณาอ่านสรุปประเด็นนี้เล่าให้ฟังด้วยเถิดครับ

หลักฐานที่บอกว่าท่านไม่ปกตินั้น ชิ้นสำคัญก็คือรายงานของบาทหลวง กับในจดหมายเหตุความทรงจำ ที่เล่าว่าท่านให้ทำประรำ บอกว่าจะเหาะและถามว่าจะมีใครตามเสด็จบ้าง ขจร สุขพานิชเคยสรุปไว้อย่างละมุนละม่อมว่า ท่านคงจะเพี้ยนไปในบางครั้ง

อย่างไรก็ดี การที่ท่านสั่งลงโทษคณะสงฆ์ที่ไม่เห็นด้วยว่า สงฆ์สมควรไหว้คฤหัสถ์ที่บันลุพระโสดาได้นี้ ถือว่าผิดปกติอย่างยิ่ง (เดี๋ยวจะมาต่อครับ)


เคยมีแต่เผาทิ้งไปแล้วครับ เสียดายตังค์ชมัด

เคยมีเหมือนกันค่ะ
เสียดายเหมือนกัน ที่ไม่ได้เผาทิ้งไป
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sun May 01, 2011 2:43 pm

เฮ้อ.....ผมไม่ได้ซื้อ เลยไม่ได้เผา ไม่ได้ทิ้ง ดีใจจัง
--------------------
เรื่องเจ้าตากลงโทษพระสงฆ์นี้ จะมองจากมุมใดก็ยากจะหลุดพ้นคำว่าเพี้ยน เรื่องมีอยู่ว่า ท่านมีพระรราชปุจฉาต่อคณะสงฆ์ว่า พระสงฆ์ธรรมดา ควรกราบไหว้คฤหัสถ์ที่มีภูมิธรรมสูงกว่า ได้หรือไม่ คณะสงฆ์มีความเห็นแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งนำโดยสมเด็จพระวังฆราชวัดบางหว้าใหญ่ (ต่อมาคือสัดระฆังโฆสิตาราม) เห็นว่าไม่ได้ ขอยกคำของท่านเสฐียรพงษ์มาให้อ่าน เพราะท่านเป็นพวกดงขมิ้นด้วยกัน จะเล่าได้ลึกซึ้งกว่า ดังนี้

สึกชี
วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 7001 ข่าวสดรายวัน
http://www.khaosod.co.th/view_news.php? ... RFMU13PT0=

สำหรับ เมืองไทยเรา การสึกพระที่มีผลกระทบต่อสถานการณ์บ้านเมืองเท่าที่ผมจำได้มีอยู่สองครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงปกครองกรุงธนบุรี ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า พระองค์ทรงรับสั่งถามพระราชาคณะมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธานว่า "พระสงฆ์ปุถุชนจะไหว้คฤหัสถ์ที่เป็นอริยะ ได้หรือไม่"

ผู้เขียนประวัติศาสตร์ช่วงนี้บอกว่า พระเจ้าแผ่นดิน "ทรงมีพระสติฟั่นเฟือน" ซึ่งนักประวัติศาสตร์ปัจจุบันนี้ถกเถียงกันมากว่าจริงหรือไม่จริง แต่ขอให้เราทิ้งประเด็นนี้ไปก่อน ติดตามเรื่องต่อไปดีกว่า พระสงฆ์ผู้ใหญ่มีพระพุทธโฆษาจารย์ (ทองอยู่) วัดบางหว้าใหญ่ พระโพธิวงศ์ (ชื่น) และพระรัตนมุนี (แก้ว) วัดหงส์ ถวายพระพรว่าไหว้ได้ แต่สมเด็จพระสังฆราช (สี) วัดบางหว้าใหญ่ พระพิมลธรรม วัดโพธาราม พระพุฒาจารย์ วัดบางหว้าน้อย บอกว่าไหว้ไม่ได้ ถึงคฤหัสถ?จะเป็นอริยบุคคลก็เป็นหินเพศต่ำช้า พระสงฆ์เป็นอุดมเพศสูงส่ง จะไหว้หาควรไม่

พระเจ้าอยู่หัวทรงกริ้วสมเด็จพระสังฆราชและพระผู้ใหญ่อีก ๒ องค์ ว่าถวายพระพรผิดจากบาลี จึงถอดสมเด็จพระสังฆราช พระพิมลธรรม และพระพุฒาจารย์ออกจากสมณศักดิ์ แล้วให้เฆี่ยนและเกณฑ์ให้ไปขนของโสโครกที่วัดหงส์ แล้วให้สถาปนาพระโพธิวงศ์ (ชื่น) เป็นสมเด็จพระสังฆราช และตั้งพระพุทธโฆษาจารย์ (ทองอยู่) เป็นพระพนรัตน์

เมื่อสิ้นรัชกาลพระเจ้าตากสินมหาราช มาถึงรัชกาลที่ ๑ แห่งจักรีวงศ์พระองค์ได้ทรงชำระคติใหม่ ถอดสมเด็จพระสังฆราช (ชื่น) ลงมาเป็นพระธรรมธีรราชมหามุนี "ว่าที่ตำแหน่งพระพนรัตน์" (ข้อความตรงนี้ หมายถึงว่าตำแหน่งธรรมธีรราชฯ ต่ำกว่าตำแหน่งพนรัตน์ ลดสังฆราชลงมากินตำแหน่งธรรมธีรราชฯ และให้รั้งตำแหน่งพนรัตน์ ได้ด้วยว่างั้นเถอะ) และให้สึกพระพนรัตน์ (ทองอยู่) กับพระรัตนมุนี (แก้ว) แล้วโปรดให้สมเด็จพระสังฆราช (สี) พระพุฒาจารย์และพระพิมลธรรม ที่พระเจ้าตากสินสั่งถอดให้กลับดำรงสมณศักดิ์ดังเดิม

ใครจะผิดใครจะถูกช่างเถอะ เราอย่าวิพากษ์วิจารณ์กันเลย ขอพูดถึงคนคนหนึ่งที่ถูกสึกจากพระคือ นายทองอยู่ พนรัตน์ นายทองอยู่ พนรัตน์นั้น เคยมีความผิดต่อกรมพระราชวังบวรสถานมงคลมาก่อน กรมพระราชวังบวรฯ นำนายทองอยู่ไปจะให้ประหารชีวิต พระเจ้าอยู่หัวทรงขอชีวิตไว้เพราะนอกจากทรงเห็นว่าเป็นคนมีความรู้แล้ว ยังเป็นพระอาจารย์ของพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร (รัชกาลที่ ๒) อีกด้วย นายทองอยู่ พนรัตน์ จึงรอดตัวได้รับราชการในกรมมหาดไทยเป็นหลวง อนุชิตพิทักษ์

ต่อมา นายทองอยู่ พนรัตน์ ได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณพระเจ้าแผ่นดิน มีความดีความชอบจนได้เลื่อนเป็น พระยาพจนาภิมณฑ์ แกมีลูกสาวสวยคนหนึ่งชื่อเอมใหญ่ แกนำไปถวายในหลวงรัช กาลที่ 2 หวังจะให้เป็นเจ้าจอม แต่ในหลวงท่านไม่รับ ทรงรับสั่งว่าจะเอาลูกครูเป็นเมียไม่ถูกต้อง จึงพระราชทานให้ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ต้นตระกูล "ชุมสาย" คือพระองค์เจ้าชุมสาย สืบสายโลหิตทางมารดามาจากเอมใหญ่ ลูกสาวของนายทองอยู่ พนรัตน์ คนนี้เอง


ผมมาติดใจประโยคนี้ครับ
ถอดสมเด็จพระสังฆราช พระพิมลธรรม และพระพุฒาจารย์ออกจากสมณศักดิ์ แล้วให้เฆี่ยนและเกณฑ์ให้ไปขนของโสโครกที่วัดหงส์

การที่เจ้าตากลงโทษพระมหาเถระขนาดนี้ เฆี่ยนและให้ขนอุจจาระ มันส่อว่าท่านมีวิจารณญานที่เบี่ยงเบนเป็นอย่างมาก สมเด็จพระสังฆราช ปีนั้นพระชนม์ราว ๗๐ ยังสั่งเฆี่ยนได้ ความผิดก็สั้นๆ ว่าถวายความเห็นผิดจากพระบาลี เจ้าตากปีนั้นอายุ ๔๐ กว่า ว่าถึงความรู้ทางบาลีก็คงชั้นอนุบาล ส่วนพระสังฆราชนั้น ต่อมาจะเป็นแม่กองชำระพระไตรปิฏก เปรียบว่าท่านเป็นศาสตราจารย์ก็ยังน้อยไป

เด็กอนุบาลตบสังฆราช ไม่เพี้ยนทำไม่ได้แน่นอน
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby kanok » Sun May 01, 2011 2:58 pm

แล้วสาเหตุแห่งความเพี้ยน ล่ะคะ :?:
User avatar
kanok
 
Posts: 861
Joined: Thu Jan 27, 2011 9:43 pm

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby amplepoor » Sun May 01, 2011 3:23 pm

สาเหตุแห่งความเพี้ยนของท่านนั้น คนที่ปฏิบัติธรรมอยู่ น่าจะอธิบายได้ดีกว่าผมครับ

ตามประวัติ เล่ากันว่าหลังศึกอะแซหวุ่นกี้ ท่านก็เริ่มปฏิบัติกรรมฐาน ถ้าท่านไปผิดทาง ปัญหาใหญ่ก็จะตามมาครับ
User avatar
amplepoor
 
Posts: 2363
Joined: Wed Apr 06, 2011 2:52 am

Re: เรื่องเล่าพระเจ้าตาก

Postby หนูอ้อย » Sun May 01, 2011 10:06 pm

เป็นการอ่านจากหนังสือในตู้ที่บ้านค่ะ เลยไม่กล้าเผา-ฮา

“การเมืองไทยสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี” เล่มที่ถืออยู่นี้เขียนหน้าปกว่าพิมพ์ครั้งที่ ๓ ปกอ่อนราคา ๒๘๐บาท
(คุณแม่เขียนไว้ที่ปกในว่าซื้อเมื่อ ๒๕ พ.ย.๒๕๓๖)

เคยอ่านสองครั้งค่ะโดยทำใจให้ว่างๆนั่งอ่านไป คิดว่าคนแต่งเป็นนักวิชาการ ก็ได้ความรู้พอสมควร หนูอ้อยอ่านได้ช้ามากเพราะเรียนโปรแกรมวิทย์มา ก็จะไม่แม่นเรื่องชื่อคนต้องพลิกไปพลิกมาและทำโน้ตย่อเหมือนอ่านชีวะ รอบแรกอ่านเมื่อเกือบห้าปีที่แล้วไม่ค่อยเก็ตเท่าไร แต่มาอ่านเก็บใจความอีกครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะกระแสในเน็ตพูดถึงอาจารย์นิธิกันมากขึ้น

ข้อที่ทำให้เข้าใจประวัติศาสตร์ช่วงนี้มากขึ้นจากหนังสือของแกก็คือ ได้รับคำตอบว่าทำไมสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (รัชกาลที่หนึ่งในภายหลัง) จึงได้รับการยกย่องอย่างสูงเด่นเหนือขุนนางคนอื่นทั้งๆที่แรกเริ่มท่านเป็นเพียง"พี่ชาย”(ขอใช้คำธรรมดานะคะ)ของเจ้าพระยาสุรสีห์....เจ้าพระยาสุรสีห์ผู้เป็นน้องชายนั้นติดตามช่วยรบกับพระเจ้าตากสินตั้งแต่เสียกรุงครั้งที่สอง แต่รัชกาลที่หนึ่งเพิ่งมาช่วยทำศึกกับพม่าในภายหลังและทำความดีความชอบได้รับพระราชทานยศสูงขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือท่านต้องมีผลงานจากปรีชาสามารถ

โน้ตย่อที่หนูอ้อยทำไว้หลังการอ่านหนังสือเล่มนี้ของอาจารย์นิธิก็คือ ในปลายรัชสมัยพระเจ้าตากมีความอ่อนแอของสถาบันเกิดขึ้นเพราะ
๑ เริ่มมีสองขั้วอำนาจเกิดขึ้นในแผ่นดิน นั่นเพราะพื้นเพชาติกำเนิดของสองขั้วต่างกัน
พระเจ้าตากมาจากสามัญชน ความประณีตต่อระเบียบราชประเพณีเฉกเช่นในราชอาณาจักรอยุธยา ดูเหมือนจะ popular ต่อข้าราชสำนักน้อยกว่าที่มีต่อสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกที่แม้พระองค์ท่านจะเป็นเพียงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กล่าวคือยังไม่ได้ครองราชย์ แต่ก็สามารถตอบสนองต่ออารมณ์ความรู้สึกขุนนางที่คุ้นเคยกับระเบียบแบบแผนเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาได้มากกว่า ท่านทั้งสองจึงดูเหมือนจะเป็นสองขั้วอำนาจที่แข่งกันอยู่ในที
๒ หลังการรบเกือบตลอดรัชสมัยพระเจ้าตากมีการกวาดต้อนครัวของเชลยมาที่กรุงธนบุรีเป็นจำนวนมากทำให้เป็นภาระต่อการเงินการคลัง
๓ เมื่อรบมากๆเข้า ขุนศึกเกิดการอิ่มตัวต่อการรบ กองทัพย่อหย่อนอ่อนแอไม่ฮึกเหิมเช่นขุนศึกเมื่อเสียกรุง
๔ นอกจากผู้ใต้บารมีที่พระเจ้าตากต้องทรงเป็น"ผู้ให้”แล้ว พระองค์ทรงอยู่ในตำแหน่งสูงสุดที่ไม่มีญาติสนิท จึงไร้ฐานอำนาจทางสายพระโลหิตที่จะไว้วางพระราชหฤทัยใครได้
๕ พื้นฐานเฉพาะของพระองค์เองที่สนใจทางกรรมฐาน และทรงมีบางความเห็นที่แตกต่างจากสงฆ์บางองค์จึงทำให้เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงในเวลาต่อมา

ที่เล่าลือกันว่าอาจารย์นิธิกล่าวว่า วิปลาสหรือไม่ ในหนังสือเวอร์ชั่นนี้บันทึกตั้งแต่หน้า ๔๒๒ เป็นต้นไป
หัวข้อเรื่องคือ "สัญญาวิปลาส” หรือการเมืองไทย
สรุปจากข้อเขียนอาจารย์นิธิได้ความว่า การสนใจและปฏิบัติกรรมฐานของพระเจ้าตากนั้น น่าจะมีฐานความคิดลึกๆมาจากการที่พระองค์ทรงใช้การปฏิบัติทางศาสนามาเสริมพระบารมีของพระองค์ ยิ่งในปลายรัชกาลนั้นแรงเสียดทานยิ่งมากขึ้น มีการปันใจไปขึ้นกับอำนาจใหม่อยู่ในที การที่เป็นพระมหากษัตริย์ที่รอบรู้เรื่องธรรมจะทำให้สถานะของพระองค์แข็งแกร่งขึ้น

ในยุคต้นรัชกาลนั้นการเมืองธนบุรีเติบโตมาจากการเมืองแบบ"ชุมนุม” อาณาบารมีของพระเจ้าตากในตอนต้นรัชกาลเทียบเท่ากับเจ้าพระฝางหัวหน้าชุมนุมหนึ่ง แต่เมื่อปราบชุมนุมทั้งหลายลงได้ พระเจ้าตากก็ทรงใช้รูปแบบของสถาบันกษัตริย์สมัยราชอาณาจักรอยุธยาในการปกครอง ผสมผสานคุณสมบัติพระกรรมฐานไว้ด้วยกัน เพราะการเมืองหลังอยุธยาล่มนั้น ผู้นำต้องการความแข็งแกร่งกว่าการเมืองในยามบ้านเมืองปรกติ

อาจารย์นิธิให้ความสำคัญที่พระเจ้าตากสนใจกรรมฐานมากนั้นก็เป็นกุศโลบายทางการเมืองของพระองค์ที่จะทำให้สถาบันกษัตริย์แข็งแกร่ง คือสร้างความ "เหนือกว่า” ในการรู้โลกุตตรธรรม

แกเขียนข้อความหนึ่งดังนี้ “บันทึกที่เขียนขึ้นในสมัยหลังรัชกาล มักจะโน้มเอียงไปในทางที่จะแสดงให้เห็นว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีมีพระสติฟั่นเฟือนด้วยเหตุที่ใฝ่พระทัยในทางกรรมฐานจนเกินไป แม้กระนั้น หากอ่านโดยสลัดอคติของผู้เขียนออกเสียก็จะเห็นได้ว่า การกระทำหลายต่อหลายประการนี้ล้วนมีความหมายทางการเมืองทั้งสิ้น เช่นการเสด็จไปเจริญพระกรรมฐานที่วัดบางยี่เรืออยู่เป็นประจำ (ซึ่งจะทำในพระราชวังก็ได้แต่เสด็จมากระทำนอกวังให้เป็นที่รู้กันแพร่หลาย) "

ก็สรุปว่าพระเจ้าตากในสายตาอาจารย์นิธิใช้กรรมฐานเป็นเครื่องมือเสริมพลังทางการเมือง

ในทัศนะอาจารย์นิธินั้น เมื่อพระเจ้าตากนั่งกรรมฐานจนทรงคิดว่าบรรลุโสดาบันแล้วไปถกเถียงกับสงฆ์จนเกิดการลงโทษโบยตีและถอดยศพระ เรื่องนี้แกก็ยังไม่เชื่อว่าเกิดขึ้นจริง (บันทึกในหน้า ๔๓๒)
“ หากกรณี(การลงโทษโบยตี)นี้เกิดขึ้นจริง (ซึ่งยังไม่มีทางตรวจสอบได้)ก็เป็นการกระทำอีกอย่างหนึ่งในปลายรัชกาลที่จะเน้นอาณาบารมีส่วนพระองค์..........”

คำว่าซึ่งยังไม่มีทางตรวจสอบได้ นั้นก็เป็นการตั้งป้อมอย่างแข็งขันว่า การกระทำที่แรงๆต่อสงฆ์นั้น...เขียนขึ้นเอง คิดเองกันรึเปล่า

คือแกไม่อยากให้ปักใจเชื่อว่าพระเจ้าตากได้ทำอะไรเช่นนั้น แต่แกก็ยอมรับว่าพระเจ้าตากสนใจกรรมฐานจริงและอาจใช้อาณาบารมีส่วนนี้เสริมความแข็งแกร่งให้สถานะของพระองค์ที่กำลังถูกท้าทายจากกลุ่มจารีตแนวราชอาณาจักรอยุธยา

************************************************************************************************************************************************

หนูอ้อยคงจะโง่หนะ ยอมรับว่าตอนอ่านก็ไม่ได้คิดอะไรลึกเพราะแนวสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกับพระเจ้าตากก็คนละแนวกันอยู่แล้ว และทั้งสองพระองค์ก็ทรงคุณงามความดีต่อบ้านเมืองเราอย่างอเนกอนันต์ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพอคน(เสื้อแดง)ไปตีความแล้วมาบวกนิยายชิงรักหักสวาทแบบในทีวี ดันเกิดเป็นเรื่องพระเจ้าตักขี้ขึ้นมาได้ไง หรือว่าอาจารย์นิธิแกมีพล็อตเรื่องไว้ในใจตั้งแต่ 1st edition พ.ศ. ๒๕๒๙ ก็ไม่อาจทราบได้ค่ะ

ร้ายจริงๆ
สู้ถวายหัว
User avatar
หนูอ้อย
 
Posts: 2095
Joined: Sat Mar 21, 2009 10:40 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron