protecter wrote:2 คนนี้ จีนถือว่าเป็นผู้ก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน เพราะมีส่วนวางแผนก่อการร้าย ทำลายทรัพย์สิน และ ทำร้ายประชาชน
2 คนนี้ ประเทศตะวันตกถือว่าเป็นแขกคนสำคัญของพวกเขา เพราะเป็นความหวังที่ตะวันตกจะใช้เป็นเครื่องมือบ่อนทำลายประเทศจีน
protecter wrote:พระ ในภาพคือ ผู้นำแบ่งแยกดินแดน มลฑลธิเบต จากจีน ได้รับรางวัลโนเบิลสันติภาพจากค่ายตะวันตก
ผู้หญิงในภาพ คือ ผู้นำแบ่งแยกดินแดน มลฑลซินเกียง คาดว่าอีกไม่นาน ก็จะได้รับรางวัลโนเบิลสันติภาพจากค่ายตะวันตกเช่นกัน
2 คนนี้ จีนถือว่าเป็นผู้ก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน เพราะมีส่วนวางแผนก่อการร้าย ทำลายทรัพย์สิน และ ทำร้ายประชาชน
2 คนนี้ ประเทศตะวันตกถือว่าเป็นแขกคนสำคัญของพวกเขา เพราะเป็นความหวังที่ตะวันตกจะใช้เป็นเครื่องมือบ่อนทำลายประเทศจีน
มารุจัง wrote:รู้สึกจะคนละนิกายหรือเปล่าคะ คุณริวเซย์
เท่าที่ทราบ พระจีน สามารถจับมือถือแขนผู้หญิงได้ค่ะ
คนละนิกายกับพุทธที่เมืองไทย
![]()
protecter wrote:ผมเคยอ่านเจอแต่หลักฐานแสดงว่า ธิเบต เป็นส่วนหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ
aoporadio wrote:ถ้าprotecter wrote:ผมเคยอ่านเจอแต่หลักฐานแสดงว่า ธิเบต เป็นส่วนหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ
ทำไมถึงมี
การทำลายล้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และศาสนา
อำนาจการยึดครองธิเบตโดยจีน ได้พยายามทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบต อย่างเป็นระบบ โดยการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างต่อเนื่อง การทำลายล้างอาคารบ้านเรือน ทางศาสนา และประวัติศาสตร์ วัตถุทางศาสนาถูกทำลายและผู้นำท้องถิ่นต่าง ๆ ได้ถูกทรมานและฆ่าฟัน วัดวาอารามของชาวพุทธมากว่า 6,000 แห่งได้ถูกทำลาย รูปปั้นและวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาทั้งหมด ถ้าไม่ถูกทำลายก็จะถูกขโมยไปขายทอดตลาด นโยบายของรัฐบาลจีนในลักษณะนี้มีจุดมุ่งหมายไปที่การค่อย ๆ นำมาซึ่งความตายทางวัฒนธรรมและศาสนาของชาวธิเบต แบบค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ทุกวันนี้ธิเบตกำลังอยู่ในภาวะอันตราย วัฒนธรรมและความเป็นหนึ่งของชาติธิเบต กำลังถูกทำลายอย่างเป็นระบบ และถูกแทนที่โดยความเป็นจีน อาทิเช่น
ตั้งแต่ปีค.ศ. 1949 ชาวธิเบตมากกว่า 1.2 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 6 ของประชากรทั้งหมดเสียชีวิต เนื่องจากการฆ่าด้วยเหตุผลทางการเมือง การถูกจองจำ การถูกทรมานและความอดอยาก
ศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของธิเบตมากกว่า 6,000 แห่ง ได้ถูกทำลายลง
องค์ทะไล ลามะ ซึ่งเป็นผู้นำทั้งทางการเมือง ทางปัญญาและทางจิตใจของชาวธิเบตกว่า 6 ล้านคนถูกบังคับให้ลี้ภัยจากธิเบตในปี ค.ศ. 1959 สู่ประเทศอินเดีย ชาวธิเบตประมาณ 85,000 คน ได้อพยพติดตามองค์ทะไล ลามะไปในขณะนั้นเข้าสู่อินเดีย เนปาล และภูฐาน
และ
การโยกย้ายประชากร
สิ่งน่ากลัวที่ชาวธิเบตเผชิญ ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ การไหลบ่าของพลเมืองจีนอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อนเข้าไปในธิเบต การไหลบ่าของประชากรซึ่งมีรากฐานความเป็นคอมมิวนิสต์โดยตรงนี้ กำลังค่อย ๆซึมซับเข้าไปในประเทศธิเบต และประชนชาวธิเบตได้เอาอย่างจีน ในขณะนี้เริ่มเห็นความแตกต่างของความเป็นชาวธิเบตในปัจจุบัน และอารยธรรมของชาวธิเบตสมัยโบราณ ซึ่งกำลังถูกครอบงำ และยังแสดงถึงจุดอันตรายของความเป็นอยู่ ที่แบ่งแยกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทุกวันนี้ประชากรชาวธิเบต 6 ล้านคน ถูกข่มโดยจำนวนชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ใหม่ 7.5 ล้านคน
ในเมืองลาซา ก่อนปี ค.ศ. 1950 แทบจะไม่มีชาวจีนอาศัยอยู่เลย แต่ทุกวันนี้สัดส่วนอย่างคร่าว ๆ ระหว่างชาวจีนและชาวธิเบตจะเป็น 3:1 ในห้างร้านจำนวน 12,827 แห่งรวมถึงร้านอาหาร มีน้อยกว่า 300 ร้านที่มีเจ้าของเป็นชาวธิเบต ในจังหวัดอัมโด ภาคตะวันออกของธิเบต ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นจังหวัดของจีนชื่อ Qinghai นั้น มีประชากรทั้งหมด 4.45 ล้านคนในปี ค.ศ. 1990 แต่มีเพียงยี่สิบเปอร์เซนต์ ที่เป็นชาวธิเบต ประชากรที่เหลือเป็นชาวจีน (ตามข้อมูลทางสถิติของจีน)
ผลจาการโยกย้ายประชากรโดยทั่วไปแล้ว แทบจะเรียกได้ว่า ชาวธิเบตสูญเสีย ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การปกครองรวมทั้งวงจรของสังคม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่รุนแรงที่สุด น่าจะเป็นความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบตในระยะยาว ที่กำลังสูญไป ซึ่งหมายถึงได้เกิดความแตกต่างของประชาชน และวัฒนธรรมขึ้นแล้ว นอกจากนี้นโยบายของจีน เกี่ยวกับการบังคับให้คุมกำเนิดของชาวธิเบต เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากเช่นกัน จนถึงขณะนี้ผู้หญิงชาวธิเบตหลายพันคน ถูกบังคับให้ทำแท้งและทำหมัน ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ด้านความสมดุลของประชากร ทำให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างรุนแรง ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในภูมิภาคนี้
เพื่อ?
จากวิกิ
protecter wrote:aoporadio wrote:ถ้าprotecter wrote:ผมเคยอ่านเจอแต่หลักฐานแสดงว่า ธิเบต เป็นส่วนหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ
อ้างอิงด้วยครับ โบราณยุคใหน ถือว่า เป็นวิทยาทานแล้วกันนะครับ![]()
ทำไมถึงมี
การทำลายล้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และศาสนา
อำนาจการยึดครองธิเบตโดยจีน ได้พยายามทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบต อย่างเป็นระบบ โดยการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างต่อเนื่อง การทำลายล้างอาคารบ้านเรือน ทางศาสนา และประวัติศาสตร์ วัตถุทางศาสนาถูกทำลายและผู้นำท้องถิ่นต่าง ๆ ได้ถูกทรมานและฆ่าฟัน วัดวาอารามของชาวพุทธมากว่า 6,000 แห่งได้ถูกทำลาย รูปปั้นและวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาทั้งหมด ถ้าไม่ถูกทำลายก็จะถูกขโมยไปขายทอดตลาด นโยบายของรัฐบาลจีนในลักษณะนี้มีจุดมุ่งหมายไปที่การค่อย ๆ นำมาซึ่งความตายทางวัฒนธรรมและศาสนาของชาวธิเบต แบบค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ทุกวันนี้ธิเบตกำลังอยู่ในภาวะอันตราย วัฒนธรรมและความเป็นหนึ่งของชาติธิเบต กำลังถูกทำลายอย่างเป็นระบบ และถูกแทนที่โดยความเป็นจีน อาทิเช่น
ตั้งแต่ปีค.ศ. 1949 ชาวธิเบตมากกว่า 1.2 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 6 ของประชากรทั้งหมดเสียชีวิต เนื่องจากการฆ่าด้วยเหตุผลทางการเมือง การถูกจองจำ การถูกทรมานและความอดอยาก
ศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของธิเบตมากกว่า 6,000 แห่ง ได้ถูกทำลายลง
องค์ทะไล ลามะ ซึ่งเป็นผู้นำทั้งทางการเมือง ทางปัญญาและทางจิตใจของชาวธิเบตกว่า 6 ล้านคนถูกบังคับให้ลี้ภัยจากธิเบตในปี ค.ศ. 1959 สู่ประเทศอินเดีย ชาวธิเบตประมาณ 85,000 คน ได้อพยพติดตามองค์ทะไล ลามะไปในขณะนั้นเข้าสู่อินเดีย เนปาล และภูฐาน
และ
การโยกย้ายประชากร
สิ่งน่ากลัวที่ชาวธิเบตเผชิญ ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ การไหลบ่าของพลเมืองจีนอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อนเข้าไปในธิเบต การไหลบ่าของประชากรซึ่งมีรากฐานความเป็นคอมมิวนิสต์โดยตรงนี้ กำลังค่อย ๆซึมซับเข้าไปในประเทศธิเบต และประชนชาวธิเบตได้เอาอย่างจีน ในขณะนี้เริ่มเห็นความแตกต่างของความเป็นชาวธิเบตในปัจจุบัน และอารยธรรมของชาวธิเบตสมัยโบราณ ซึ่งกำลังถูกครอบงำ และยังแสดงถึงจุดอันตรายของความเป็นอยู่ ที่แบ่งแยกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทุกวันนี้ประชากรชาวธิเบต 6 ล้านคน ถูกข่มโดยจำนวนชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ใหม่ 7.5 ล้านคน
ในเมืองลาซา ก่อนปี ค.ศ. 1950 แทบจะไม่มีชาวจีนอาศัยอยู่เลย แต่ทุกวันนี้สัดส่วนอย่างคร่าว ๆ ระหว่างชาวจีนและชาวธิเบตจะเป็น 3:1 ในห้างร้านจำนวน 12,827 แห่งรวมถึงร้านอาหาร มีน้อยกว่า 300 ร้านที่มีเจ้าของเป็นชาวธิเบต ในจังหวัดอัมโด ภาคตะวันออกของธิเบต ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นจังหวัดของจีนชื่อ Qinghai นั้น มีประชากรทั้งหมด 4.45 ล้านคนในปี ค.ศ. 1990 แต่มีเพียงยี่สิบเปอร์เซนต์ ที่เป็นชาวธิเบต ประชากรที่เหลือเป็นชาวจีน (ตามข้อมูลทางสถิติของจีน)
ผลจาการโยกย้ายประชากรโดยทั่วไปแล้ว แทบจะเรียกได้ว่า ชาวธิเบตสูญเสีย ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การปกครองรวมทั้งวงจรของสังคม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่รุนแรงที่สุด น่าจะเป็นความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบตในระยะยาว ที่กำลังสูญไป ซึ่งหมายถึงได้เกิดความแตกต่างของประชาชน และวัฒนธรรมขึ้นแล้ว นอกจากนี้นโยบายของจีน เกี่ยวกับการบังคับให้คุมกำเนิดของชาวธิเบต เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากเช่นกัน จนถึงขณะนี้ผู้หญิงชาวธิเบตหลายพันคน ถูกบังคับให้ทำแท้งและทำหมัน ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ด้านความสมดุลของประชากร ทำให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างรุนแรง ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในภูมิภาคนี้
เพื่อ?
จากวิกิ
ข้างบนมีจริงแค่บางส่วน...........คนเขียนมีอคติต่อจีนโดยแท้
หัดใช้สมองคิดซะบ้าง อย่าได้โง่งมเหมือนพวกหางแดงลิ่วล้อแม้วก็แล้วกัน
บางส่วนนี่ ส่วนใหนบ้างครับ?
คุยเรื่องธิเบต ก็ชี้แจงเรื่องธิเบตครับ อย่าหลอกด่า โดยอ้างเสื้อแดงครับ
ช่วงคอมมิวนิสจีนได้ปกครองประเทศจีนใหม่ๆ เป็นเรื่องจริงที่คอมมิวนิสจีนทำลายวัตถุทางศาสนาต่างๆ เพราะคอมมิวนิสไม่เชื่อเรื่องศาสนา คอมมิวนิสถือว่าเป็นสิ่งงมงาย หลอกลวง ........แต่การทำลายวัตถุ และ สถาน ทางศาสนาของคอมมิวนิสจีน ไม่ได้เจาะจงทำลายที่มลฑลธิเบต และ ศาสนาพุทธเท่านั้น แต่เป็นการปฏิวัติวัฒนธรรมทั่วประเทศ ทำลายวัตถุ สัญลักษณ์สถานของทุกศาสนา ทุกความเชื่อ และ ทั่วประเทศ (เช่น ศาลเจ้าที่คนจีนตั้งไว้เพื่อเคารพบรรพบุรุษ)..........
aoporadio wrote:protecter wrote:aoporadio wrote:ถ้าprotecter wrote:ผมเคยอ่านเจอแต่หลักฐานแสดงว่า ธิเบต เป็นส่วนหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ
อ้างอิงด้วยครับ โบราณยุคใหน ถือว่า เป็นวิทยาทานแล้วกันนะครับ![]()
ทำไมถึงมี
การทำลายล้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และศาสนา
อำนาจการยึดครองธิเบตโดยจีน ได้พยายามทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบต อย่างเป็นระบบ โดยการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างต่อเนื่อง การทำลายล้างอาคารบ้านเรือน ทางศาสนา และประวัติศาสตร์ วัตถุทางศาสนาถูกทำลายและผู้นำท้องถิ่นต่าง ๆ ได้ถูกทรมานและฆ่าฟัน วัดวาอารามของชาวพุทธมากว่า 6,000 แห่งได้ถูกทำลาย รูปปั้นและวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาทั้งหมด ถ้าไม่ถูกทำลายก็จะถูกขโมยไปขายทอดตลาด นโยบายของรัฐบาลจีนในลักษณะนี้มีจุดมุ่งหมายไปที่การค่อย ๆ นำมาซึ่งความตายทางวัฒนธรรมและศาสนาของชาวธิเบต แบบค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ทุกวันนี้ธิเบตกำลังอยู่ในภาวะอันตราย วัฒนธรรมและความเป็นหนึ่งของชาติธิเบต กำลังถูกทำลายอย่างเป็นระบบ และถูกแทนที่โดยความเป็นจีน อาทิเช่น
ตั้งแต่ปีค.ศ. 1949 ชาวธิเบตมากกว่า 1.2 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 6 ของประชากรทั้งหมดเสียชีวิต เนื่องจากการฆ่าด้วยเหตุผลทางการเมือง การถูกจองจำ การถูกทรมานและความอดอยาก
ศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของธิเบตมากกว่า 6,000 แห่ง ได้ถูกทำลายลง
องค์ทะไล ลามะ ซึ่งเป็นผู้นำทั้งทางการเมือง ทางปัญญาและทางจิตใจของชาวธิเบตกว่า 6 ล้านคนถูกบังคับให้ลี้ภัยจากธิเบตในปี ค.ศ. 1959 สู่ประเทศอินเดีย ชาวธิเบตประมาณ 85,000 คน ได้อพยพติดตามองค์ทะไล ลามะไปในขณะนั้นเข้าสู่อินเดีย เนปาล และภูฐาน
และ
การโยกย้ายประชากร
สิ่งน่ากลัวที่ชาวธิเบตเผชิญ ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ การไหลบ่าของพลเมืองจีนอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อนเข้าไปในธิเบต การไหลบ่าของประชากรซึ่งมีรากฐานความเป็นคอมมิวนิสต์โดยตรงนี้ กำลังค่อย ๆซึมซับเข้าไปในประเทศธิเบต และประชนชาวธิเบตได้เอาอย่างจีน ในขณะนี้เริ่มเห็นความแตกต่างของความเป็นชาวธิเบตในปัจจุบัน และอารยธรรมของชาวธิเบตสมัยโบราณ ซึ่งกำลังถูกครอบงำ และยังแสดงถึงจุดอันตรายของความเป็นอยู่ ที่แบ่งแยกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทุกวันนี้ประชากรชาวธิเบต 6 ล้านคน ถูกข่มโดยจำนวนชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ใหม่ 7.5 ล้านคน
ในเมืองลาซา ก่อนปี ค.ศ. 1950 แทบจะไม่มีชาวจีนอาศัยอยู่เลย แต่ทุกวันนี้สัดส่วนอย่างคร่าว ๆ ระหว่างชาวจีนและชาวธิเบตจะเป็น 3:1 ในห้างร้านจำนวน 12,827 แห่งรวมถึงร้านอาหาร มีน้อยกว่า 300 ร้านที่มีเจ้าของเป็นชาวธิเบต ในจังหวัดอัมโด ภาคตะวันออกของธิเบต ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นจังหวัดของจีนชื่อ Qinghai นั้น มีประชากรทั้งหมด 4.45 ล้านคนในปี ค.ศ. 1990 แต่มีเพียงยี่สิบเปอร์เซนต์ ที่เป็นชาวธิเบต ประชากรที่เหลือเป็นชาวจีน (ตามข้อมูลทางสถิติของจีน)
ผลจาการโยกย้ายประชากรโดยทั่วไปแล้ว แทบจะเรียกได้ว่า ชาวธิเบตสูญเสีย ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การปกครองรวมทั้งวงจรของสังคม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่รุนแรงที่สุด น่าจะเป็นความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบตในระยะยาว ที่กำลังสูญไป ซึ่งหมายถึงได้เกิดความแตกต่างของประชาชน และวัฒนธรรมขึ้นแล้ว นอกจากนี้นโยบายของจีน เกี่ยวกับการบังคับให้คุมกำเนิดของชาวธิเบต เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากเช่นกัน จนถึงขณะนี้ผู้หญิงชาวธิเบตหลายพันคน ถูกบังคับให้ทำแท้งและทำหมัน ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ด้านความสมดุลของประชากร ทำให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างรุนแรง ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในภูมิภาคนี้
เพื่อ?
จากวิกิ
ข้างบนมีจริงแค่บางส่วน...........คนเขียนมีอคติต่อจีนโดยแท้
หัดใช้สมองคิดซะบ้าง อย่าได้โง่งมเหมือนพวกหางแดงลิ่วล้อแม้วก็แล้วกัน
บางส่วนนี่ ส่วนใหนบ้างครับ?
คุยเรื่องธิเบต ก็ชี้แจงเรื่องธิเบตครับ อย่าหลอกด่า โดยอ้างเสื้อแดงครับ
ช่วงคอมมิวนิสจีนได้ปกครองประเทศจีนใหม่ๆ เป็นเรื่องจริงที่คอมมิวนิสจีนทำลายวัตถุทางศาสนาต่างๆ เพราะคอมมิวนิสไม่เชื่อเรื่องศาสนา คอมมิวนิสถือว่าเป็นสิ่งงมงาย หลอกลวง ........แต่การทำลายวัตถุ และ สถาน ทางศาสนาของคอมมิวนิสจีน ไม่ได้เจาะจงทำลายที่มลฑลธิเบต และ ศาสนาพุทธเท่านั้น แต่เป็นการปฏิวัติวัฒนธรรมทั่วประเทศ ทำลายวัตถุ สัญลักษณ์สถานของทุกศาสนา ทุกความเชื่อ และ ทั่วประเทศ (เช่น ศาลเจ้าที่คนจีนตั้งไว้เพื่อเคารพบรรพบุรุษ)..........
พอจะเข้าใจแล้วว่าต้องการอะไร
เหมาดี?
คอมมิวนิสท์มันดีใช่ใหมครับ?
พรรคคอมมิวนิสท์ที่อยู่บนยอดปิรามิด มันต่างอะไรกับศักดินา ครับ?
คำพูดหลอกเด็กครับ ขอฮา![]()
![]()
![]()
เอ คอมมิวนิสท์นี่มันสีอะไรน้า..........
อีกอย่าง สมัยโบราณ ธิเบต นับถือ ผี นะครับ
ไม่เคยนับถือ ขงจื้อ เล่าจื้อนะครับ![]()
![]()
![]()
protecter wrote:aoporadio wrote:protecter wrote:aoporadio wrote:ถ้าprotecter wrote:ผมเคยอ่านเจอแต่หลักฐานแสดงว่า ธิเบต เป็นส่วนหนึ่งของจีนมาแต่โบราณ
อ้างอิงด้วยครับ โบราณยุคใหน ถือว่า เป็นวิทยาทานแล้วกันนะครับ![]()
ทำไมถึงมี
การทำลายล้างเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม และศาสนา
อำนาจการยึดครองธิเบตโดยจีน ได้พยายามทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบต อย่างเป็นระบบ โดยการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างต่อเนื่อง การทำลายล้างอาคารบ้านเรือน ทางศาสนา และประวัติศาสตร์ วัตถุทางศาสนาถูกทำลายและผู้นำท้องถิ่นต่าง ๆ ได้ถูกทรมานและฆ่าฟัน วัดวาอารามของชาวพุทธมากว่า 6,000 แห่งได้ถูกทำลาย รูปปั้นและวัตถุศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาทั้งหมด ถ้าไม่ถูกทำลายก็จะถูกขโมยไปขายทอดตลาด นโยบายของรัฐบาลจีนในลักษณะนี้มีจุดมุ่งหมายไปที่การค่อย ๆ นำมาซึ่งความตายทางวัฒนธรรมและศาสนาของชาวธิเบต แบบค่อยเป็นค่อยไปและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ทุกวันนี้ธิเบตกำลังอยู่ในภาวะอันตราย วัฒนธรรมและความเป็นหนึ่งของชาติธิเบต กำลังถูกทำลายอย่างเป็นระบบ และถูกแทนที่โดยความเป็นจีน อาทิเช่น
ตั้งแต่ปีค.ศ. 1949 ชาวธิเบตมากกว่า 1.2 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 6 ของประชากรทั้งหมดเสียชีวิต เนื่องจากการฆ่าด้วยเหตุผลทางการเมือง การถูกจองจำ การถูกทรมานและความอดอยาก
ศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของธิเบตมากกว่า 6,000 แห่ง ได้ถูกทำลายลง
องค์ทะไล ลามะ ซึ่งเป็นผู้นำทั้งทางการเมือง ทางปัญญาและทางจิตใจของชาวธิเบตกว่า 6 ล้านคนถูกบังคับให้ลี้ภัยจากธิเบตในปี ค.ศ. 1959 สู่ประเทศอินเดีย ชาวธิเบตประมาณ 85,000 คน ได้อพยพติดตามองค์ทะไล ลามะไปในขณะนั้นเข้าสู่อินเดีย เนปาล และภูฐาน
และ
การโยกย้ายประชากร
สิ่งน่ากลัวที่ชาวธิเบตเผชิญ ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ การไหลบ่าของพลเมืองจีนอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อนเข้าไปในธิเบต การไหลบ่าของประชากรซึ่งมีรากฐานความเป็นคอมมิวนิสต์โดยตรงนี้ กำลังค่อย ๆซึมซับเข้าไปในประเทศธิเบต และประชนชาวธิเบตได้เอาอย่างจีน ในขณะนี้เริ่มเห็นความแตกต่างของความเป็นชาวธิเบตในปัจจุบัน และอารยธรรมของชาวธิเบตสมัยโบราณ ซึ่งกำลังถูกครอบงำ และยังแสดงถึงจุดอันตรายของความเป็นอยู่ ที่แบ่งแยกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ทุกวันนี้ประชากรชาวธิเบต 6 ล้านคน ถูกข่มโดยจำนวนชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ใหม่ 7.5 ล้านคน
ในเมืองลาซา ก่อนปี ค.ศ. 1950 แทบจะไม่มีชาวจีนอาศัยอยู่เลย แต่ทุกวันนี้สัดส่วนอย่างคร่าว ๆ ระหว่างชาวจีนและชาวธิเบตจะเป็น 3:1 ในห้างร้านจำนวน 12,827 แห่งรวมถึงร้านอาหาร มีน้อยกว่า 300 ร้านที่มีเจ้าของเป็นชาวธิเบต ในจังหวัดอัมโด ภาคตะวันออกของธิเบต ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นจังหวัดของจีนชื่อ Qinghai นั้น มีประชากรทั้งหมด 4.45 ล้านคนในปี ค.ศ. 1990 แต่มีเพียงยี่สิบเปอร์เซนต์ ที่เป็นชาวธิเบต ประชากรที่เหลือเป็นชาวจีน (ตามข้อมูลทางสถิติของจีน)
ผลจาการโยกย้ายประชากรโดยทั่วไปแล้ว แทบจะเรียกได้ว่า ชาวธิเบตสูญเสีย ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง การปกครองรวมทั้งวงจรของสังคม อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่รุนแรงที่สุด น่าจะเป็นความเป็นหนึ่งเดียวของชาวธิเบตในระยะยาว ที่กำลังสูญไป ซึ่งหมายถึงได้เกิดความแตกต่างของประชาชน และวัฒนธรรมขึ้นแล้ว นอกจากนี้นโยบายของจีน เกี่ยวกับการบังคับให้คุมกำเนิดของชาวธิเบต เป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวมากเช่นกัน จนถึงขณะนี้ผู้หญิงชาวธิเบตหลายพันคน ถูกบังคับให้ทำแท้งและทำหมัน ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ด้านความสมดุลของประชากร ทำให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างรุนแรง ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในภูมิภาคนี้
เพื่อ?
จากวิกิ
ข้างบนมีจริงแค่บางส่วน...........คนเขียนมีอคติต่อจีนโดยแท้
หัดใช้สมองคิดซะบ้าง อย่าได้โง่งมเหมือนพวกหางแดงลิ่วล้อแม้วก็แล้วกัน
บางส่วนนี่ ส่วนใหนบ้างครับ?
คุยเรื่องธิเบต ก็ชี้แจงเรื่องธิเบตครับ อย่าหลอกด่า โดยอ้างเสื้อแดงครับ
ช่วงคอมมิวนิสจีนได้ปกครองประเทศจีนใหม่ๆ เป็นเรื่องจริงที่คอมมิวนิสจีนทำลายวัตถุทางศาสนาต่างๆ เพราะคอมมิวนิสไม่เชื่อเรื่องศาสนา คอมมิวนิสถือว่าเป็นสิ่งงมงาย หลอกลวง ........แต่การทำลายวัตถุ และ สถาน ทางศาสนาของคอมมิวนิสจีน ไม่ได้เจาะจงทำลายที่มลฑลธิเบต และ ศาสนาพุทธเท่านั้น แต่เป็นการปฏิวัติวัฒนธรรมทั่วประเทศ ทำลายวัตถุ สัญลักษณ์สถานของทุกศาสนา ทุกความเชื่อ และ ทั่วประเทศ (เช่น ศาลเจ้าที่คนจีนตั้งไว้เพื่อเคารพบรรพบุรุษ)..........
พอจะเข้าใจแล้วว่าต้องการอะไร
เหมาดี?
คอมมิวนิสท์มันดีใช่ใหมครับ?
พรรคคอมมิวนิสท์ที่อยู่บนยอดปิรามิด มันต่างอะไรกับศักดินา ครับ?
คำพูดหลอกเด็กครับ ขอฮา![]()
![]()
![]()
เอ คอมมิวนิสท์นี่มันสีอะไรน้า..........
อีกอย่าง สมัยโบราณ ธิเบต นับถือ ผี นะครับ
ไม่เคยนับถือ ขงจื้อ เล่าจื้อนะครับ![]()
![]()
![]()