Page 1 of 2

ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 2:14 pm
by Thaksinocide
ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเป็นที่ทราบ
กันดีว่าสถาบันฯจะต้องดํารงตนเป็นกลางทางการเมืองและอยู่เหนือการเมืองโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในภาวะที่เกิดความขัดแย้งกันทางความคิด
หากแต่สิ่งที่กล่าวข้างต้นไม่ได้ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ให้ทุกคนเข้าใจโดยปริยาย
ตามหลักการการปกครอง จึงไม่มีบทข้อบังคับรวมถึงบทลงโทษเป็นลายลักษณ์อักษร

เราจะเห็นได้ว่าพระราชดํารัสของในหลวงหลายๆครั้งที่ผ่านมาที่มีต่อสถานการณ์ในบ้านเมือง
ได้ดํารงอยู่ในหลักการข้างต้นมาโดยตลอด หากแต่กลุ่มทางการเมืองมักหยิบยกไปใช้แสวงหา
ความชอบธรรมเพื่อกลุ่มตนเองอย่างไม่ละอายใจ สร้างความแตกแยกให้สังคมเพิ่มขึ้น ไม่ฉุกคิด
ถึงการหันหน้าเข้าหากัน ล่าสุดบทสัมภาษณ์ของพระเทพซึ่งถ้าอ่านแบบอังกฤษและเข้าใจแบบ
อังกฤษย่อมไม่ปรากฏการแสดงความคิดทางการเมืองแม้แต่น้อย

แต่ถ้าวันหนึ่งสถาบันฯเกิดออกมาแสดงการชี้นําทางการเมืองอย่างชัดเจนประชาชนควรทําเช่นไร
เนื่องจากเป็นการผิดหลักการการปกครอง ทั้งนี้การแสดงความเห็นค้านในที่สาธารณะเองก็ถูกจํากัดโดย
กฏหมาย หรือประชาชนต้องจําใจยอมรับถ้าเป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นนั้นการยอมรับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่
จะมีประโยชน์อะไรในกรณีสมมติถ้าสถาบันฯออกมาบอกว่าคนส่วนน้อยสิถูกต้อง

ผมแค่อยากแสดงให้เห็นความขัดแย้งในหลักการเท่านั้นและอยากรู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรในกรณี
สมมติข้างต้น

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 2:21 pm
by samepong
ถูกครับ การเมืองส่วนการเมือง สถาบันส่วนสถาบัน

แต่มีคนใช้การเมืองจ้องล้มสถาบัน ถ้าไม่เอาการเมืองต่อสู้จะใช้วิธีไหนครับ

คนที่จะล้มหรือหมิ่นใช้การเมืองบังหน้าเพื่อล้ม เราจึงต้องใช้การเมืองเพื่อปกป้องเช่นกัน

ถ้าคุณยังมองไม่ออก หรือคนในนี้ตอบแล้วไม่ได้ดั่งใจ เชิญไปราชดำเนิน กับประชาไท ได้เลยครับ ผมไม่รั้ง

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 2:54 pm
by Cherub Rock
ในทางปฏิบัติมันเป็นไปได้ยากนะ

คล้ายๆ กับศาสนากับการเมืองนั่นแหละ
จะให้ไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิงก็เป็นไปไม่ได้ :roll:

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 3:00 pm
by loginofu
แนะๆๆๆ ไม่เนียนอีกละ

พระองค์ก็ทรงเป็นกลางอยู่เสมอ
พระราชดำรัสของพระองค์ก็ทรงเป็นไปด้วยความเป็นธรรม
หากสวะการเมืองบางจำพวกเป็นเดือดเป็นร้อนเพราะพระราชดำรัสของพระองค์
ก็หาใช่พระองค์มิได้เป็นกลาง แต่เป็นเพราะสวะพวกนั้นมันเลวเอง

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 3:13 pm
by ล้างโคตรทักษิณ
สถาบันฯอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีสิทธิ์ล่วงละเมิดได้ หากคิดจะเป็นพลเมืองประเทศไทย

ท่านสร้างบ้านสร้างเมืองด้วยเลือดด้วยเนื้อ หยาดเหงื่อ
พัฒนาประเทศชาติ บำบักทุกข์บำรุงสุขราษฎร ปกปักรักษาบ้านเมือง เพื่อเราคนไทยทุกคน ไม่เห้นแก่เหน็ดมานานกว่า 50 ปี

บุญคุณล้นเกล้าต่อประเทศมากมายล้นพ้นไม่อาจนับ เหนือว่า รัฐบาลโกงชาติ ขยันหาประโยชน์ใส่กระเป๋าที่จขกท.บูชามากมายนัก ให้โคตะระตัวแทนประชาโจรที่คุณเลือกมาก็ไม่มีสิทธฺมาแย้งย้อนพระองค์ท่าน

ลืมความรัก ความเมตตาของพระองค์ ลืมความอุตสาหะของพระองค์
ลืมบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ลืมความทุกข์ของพระองค์ที่เห็นความเดือดร้อน
ของอาณาประชาราษฎร์แล้วยื่นพระหัตถ์เข้าแก้ไขปัดเป่า

..คุณต่างหาก เป็นใคร วิเศษมากจากไหน ที่จะมาแย้งกับพระองค์ท่าน โดยอ้างเสียงส่วนมาก ทั้งๆที่ เป็นแค่คะแนนเสียงไร้คุณภาพจ้างให้เลือกตัวแทนชั้นเลวเข้ามาทั้งนั้น?

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 3:47 pm
by GURU01
ล้างโคตรทักษิณ wrote:สถาบันฯอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีสิทธิ์ล่วงละเมิดได้ หากคิดจะเป็นพลเมืองประเทศไทย

ท่านสร้างบ้านสร้างเมืองด้วยเลือดด้วยเนื้อ หยาดเหงื่อ
พัฒนาประเทศชาติ บำบักทุกข์บำรุงสุขราษฎร ปกปักรักษาบ้านเมือง เพื่อเราคนไทยทุกคน ไม่เห้นแก่เหน็ดมานานกว่า 50 ปี

บุญคุณล้นเกล้าต่อประเทศมากมายล้นพ้นไม่อาจนับ เหนือว่า รัฐบาลโกงชาติ ขยันหาประโยชน์ใส่กระเป๋าที่จขกท.บูชามากมายนัก ให้โคตะระตัวแทนประชาโจรที่คุณเลือกมาก็ไม่มีสิทธฺมาแย้งย้อนพระองค์ท่าน

ลืมความรัก ความเมตตาของพระองค์ ลืมความอุตสาหะของพระองค์
ลืมบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ลืมความทุกข์ของพระองค์ที่เห็นความเดือดร้อน
ของอาณาประชาราษฎร์แล้วยื่นพระหัตถ์เข้าแก้ไขปัดเป่า

..คุณต่างหาก เป็นใคร วิเศษมากจากไหน ที่จะมาแย้งกับพระองค์ท่าน โดยอ้างเสียงส่วนมาก ทั้งๆที่ เป็นแค่คะแนนเสียงไร้คุณภาพจ้างให้เลือกตัวแทนชั้นเลวเข้ามาทั้งนั้น?



ถามคุณล้างโคตรทักษิณ ทำไมสถาบันต้องอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เป็นความเชื่อ เป็นกฎหมาย หรือเป็นแนวคิดดักดานตามวิสัยของไพร่ทาส ถามต่ออีกหน่อย ในความหมายที่คุณว่ามาผมสงสัยว่าทำไมประชาชนไม่ใช่เจ้าของแผ่นดิน ทำไมประชาชนจึงไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะปกครองตัวเอง ด้วยตัวของเขาเอง

คำถามสุดท้าย ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบอกว่าระบอบการปกครองแบบนี้ แบบที่เป็นอยู่นี้ใช้ไม่ได้ ไม่ดี ไม่เหมาะสม เขาอยากเปลี่ยนเป็นระบอบอื่น คุณว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะทำไหม แบบว่า ปฏิวัติน่ะ ปฏิวัติโดยประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 3:50 pm
by Cherub Rock
GURU01 wrote:
ล้างโคตรทักษิณ wrote:สถาบันฯอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีสิทธิ์ล่วงละเมิดได้ หากคิดจะเป็นพลเมืองประเทศไทย

ท่านสร้างบ้านสร้างเมืองด้วยเลือดด้วยเนื้อ หยาดเหงื่อ
พัฒนาประเทศชาติ บำบักทุกข์บำรุงสุขราษฎร ปกปักรักษาบ้านเมือง เพื่อเราคนไทยทุกคน ไม่เห้นแก่เหน็ดมานานกว่า 50 ปี

บุญคุณล้นเกล้าต่อประเทศมากมายล้นพ้นไม่อาจนับ เหนือว่า รัฐบาลโกงชาติ ขยันหาประโยชน์ใส่กระเป๋าที่จขกท.บูชามากมายนัก ให้โคตะระตัวแทนประชาโจรที่คุณเลือกมาก็ไม่มีสิทธฺมาแย้งย้อนพระองค์ท่าน

ลืมความรัก ความเมตตาของพระองค์ ลืมความอุตสาหะของพระองค์
ลืมบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ลืมความทุกข์ของพระองค์ที่เห็นความเดือดร้อน
ของอาณาประชาราษฎร์แล้วยื่นพระหัตถ์เข้าแก้ไขปัดเป่า

..คุณต่างหาก เป็นใคร วิเศษมากจากไหน ที่จะมาแย้งกับพระองค์ท่าน โดยอ้างเสียงส่วนมาก ทั้งๆที่ เป็นแค่คะแนนเสียงไร้คุณภาพจ้างให้เลือกตัวแทนชั้นเลวเข้ามาทั้งนั้น?



ถามคุณล้างโคตรทักษิณ ทำไมสถาบันต้องอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เป็นความเชื่อ เป็นกฎหมาย หรือเป็นแนวคิดดักดานตามวิสัยของไพร่ทาส ถามต่ออีกหน่อย ในความหมายที่คุณว่ามาผมสงสัยว่าทำไมประชาชนไม่ใช่เจ้าของแผ่นดิน ทำไมประชาชนจึงไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะปกครองตัวเอง ด้วยตัวของเขาเอง

คำถามสุดท้าย ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบอกว่าระบอบการปกครองแบบนี้ แบบที่เป็นอยู่นี้ใช้ไม่ได้ ไม่ดี ไม่เหมาะสม เขาอยากเปลี่ยนเป็นระบอบอื่น คุณว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะทำไหม แบบว่า ปฏิวัติน่ะ ปฏิวัติโดยประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง


เวอร์ชั่นไทยแดง มาแล้ว :lol:

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 3:57 pm
by OMEGA
Thaksinocide wrote:แต่ถ้าวันหนึ่งสถาบันฯเกิดออกมาแสดงการชี้นําทางการเมืองอย่างชัดเจนประชาชนควรทําเช่นไร
เนื่องจากเป็นการผิดหลักการการปกครอง ทั้งนี้การแสดงความเห็นค้านในที่สาธารณะเองก็ถูกจํากัดโดย
กฏหมาย หรือประชาชนต้องจําใจยอมรับถ้าเป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นนั้นการยอมรับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่
จะมีประโยชน์อะไรในกรณีสมมติถ้าสถาบันฯออกมาบอกว่าคนส่วนน้อยสิถูกต้อง


พระองค์ท่านอยู่เหนือความขัดแย้ง และทรงมีพระราชดำริตามครรลองแห่งรัฐธรรมนูญอยู่เสมอมา
ตามประเด็นนี้ ตามความคิดของผมพระองค์ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงการปกครองในราชอาณาจักร
ดังเช่นเมื่อครั้งมีการต้องการรัฐบาลแห่งชาตินายกพระราขทานตามความคิดของผู้อาวุโส นักวิชาการ
นักการเมือง ประชาชนบางกลุ่ม (อาจจะตีความว่าเป็นคนส่วนน้อยตาม จขกท.กล่าวอ้าง)
พระองค์ก็มิได้เห็นคล้อยตามแนวความคิดนั้นเนื่องเพราะพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสว่าผิดรัฐธรรมนูญ
ทำไม่ได้ ทุกอย่างก็สงบลง (มีบางกลุ่มหยิบยก ม.7มาโจมตีกลับอย่างสนุกปาก ตามวรรคที่สองของจขกท.)
..ทุกคนยอมรับในพระราชดำรัสโดยมิได้โต้แย้ง และโดยมิได้จำใจ กับพวกเราคนไทยสิ่งที่พระองค์
พระราชทานให้มาเป็นสิ่งที่ต้องรับไว้เหนือเกล้า เพราะตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์
พระราชทานมาให้ล้วนเป็นสิ่งประเสริฐทั้งสิ้น ... อย่าเพิ่งสมมติเลยครับ

ปล. สำหรับคุณGURU01 ผมรู้สึกคันไม้คันมือจริงๆ แต่ให้คุณล้างโคตรทักษิณมาตอบเองนะครับ :lol:

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:05 pm
by GURU01
OMEGA wrote:
Thaksinocide wrote:แต่ถ้าวันหนึ่งสถาบันฯเกิดออกมาแสดงการชี้นําทางการเมืองอย่างชัดเจนประชาชนควรทําเช่นไร
เนื่องจากเป็นการผิดหลักการการปกครอง ทั้งนี้การแสดงความเห็นค้านในที่สาธารณะเองก็ถูกจํากัดโดย
กฏหมาย หรือประชาชนต้องจําใจยอมรับถ้าเป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นนั้นการยอมรับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่
จะมีประโยชน์อะไรในกรณีสมมติถ้าสถาบันฯออกมาบอกว่าคนส่วนน้อยสิถูกต้อง


พระองค์ท่านอยู่เหนือความขัดแย้ง และทรงมีพระราชดำริตามครรลองแห่งรัฐธรรมนูญอยู่เสมอมา
ตามประเด็นนี้ ตามความคิดของผมพระองค์ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงการปกครองในราชอาณาจักร
ดังเช่นเมื่อครั้งมีการต้องการรัฐบาลแห่งชาตินายกพระราขทานตามความคิดของผู้อาวุโส นักวิชาการ
นักการเมือง ประชาชนบางกลุ่ม (อาจจะตีความว่าเป็นคนส่วนน้อยตาม จขกท.กล่าวอ้าง)
พระองค์ก็มิได้เห็นคล้อยตามแนวความคิดนั้นเนื่องเพราะพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสว่าผิดรัฐธรรมนูญ
ทำไม่ได้ ทุกอย่างก็สงบลง (มีบางกลุ่มหยิบยก ม.7มาโจมตีกลับอย่างสนุกปาก ตามวรรคที่สองของจขกท.)
..ทุกคนยอมรับในพระราชดำรัสโดยมิได้โต้แย้ง และโดยมิได้จำใจ กับพวกเราคนไทยสิ่งที่พระองค์
พระราชทานให้มาเป็นสิ่งที่ต้องรับไว้เหนือเกล้า เพราะตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมาทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์
พระราชทานมาให้ล้วนเป็นสิ่งประเสริฐทั้งสิ้น ... อย่าเพิ่งสมมติเลยครับ

ปล. สำหรับคุณGURU01 ผมรู้สึกคันไม้คันมือจริงๆ แต่ให้คุณล้างโคตรทักษิณมาตอบเองนะครับ :lol:


เอาสิครับ คันไม้คันมือ ก็ลองฟาดมาสักเพียะสองเพียะเผื่อหายคัน

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:12 pm
by เพื่อนร่วมชาติ
GURU01 wrote:
ล้างโคตรทักษิณ wrote:สถาบันฯอยู่เหนือทุกสิ่ง ไม่มีสิทธิ์ล่วงละเมิดได้ หากคิดจะเป็นพลเมืองประเทศไทย

ท่านสร้างบ้านสร้างเมืองด้วยเลือดด้วยเนื้อ หยาดเหงื่อ
พัฒนาประเทศชาติ บำบักทุกข์บำรุงสุขราษฎร ปกปักรักษาบ้านเมือง เพื่อเราคนไทยทุกคน ไม่เห้นแก่เหน็ดมานานกว่า 50 ปี

บุญคุณล้นเกล้าต่อประเทศมากมายล้นพ้นไม่อาจนับ เหนือว่า รัฐบาลโกงชาติ ขยันหาประโยชน์ใส่กระเป๋าที่จขกท.บูชามากมายนัก ให้โคตะระตัวแทนประชาโจรที่คุณเลือกมาก็ไม่มีสิทธฺมาแย้งย้อนพระองค์ท่าน

ลืมความรัก ความเมตตาของพระองค์ ลืมความอุตสาหะของพระองค์
ลืมบุญคุณอันยิ่งใหญ่ ลืมความทุกข์ของพระองค์ที่เห็นความเดือดร้อน
ของอาณาประชาราษฎร์แล้วยื่นพระหัตถ์เข้าแก้ไขปัดเป่า

..คุณต่างหาก เป็นใคร วิเศษมากจากไหน ที่จะมาแย้งกับพระองค์ท่าน โดยอ้างเสียงส่วนมาก ทั้งๆที่ เป็นแค่คะแนนเสียงไร้คุณภาพจ้างให้เลือกตัวแทนชั้นเลวเข้ามาทั้งนั้น?



ถามคุณล้างโคตรทักษิณ ทำไมสถาบันต้องอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เป็นความเชื่อ เป็นกฎหมาย หรือเป็นแนวคิดดักดานตามวิสัยของไพร่ทาส ถามต่ออีกหน่อย ในความหมายที่คุณว่ามาผมสงสัยว่าทำไมประชาชนไม่ใช่เจ้าของแผ่นดิน ทำไมประชาชนจึงไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะปกครองตัวเอง ด้วยตัวของเขาเอง

คำถามสุดท้าย ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบอกว่าระบอบการปกครองแบบนี้ แบบที่เป็นอยู่นี้ใช้ไม่ได้ ไม่ดี ไม่เหมาะสม เขาอยากเปลี่ยนเป็นระบอบอื่น คุณว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะทำไหม แบบว่า ปฏิวัติน่ะ ปฏิวัติโดยประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง


55555 ขอหัวเราะกับคำว่า "ไพร่ทาส" หน่อยเหอะ

คุณเคยเห็นระบอบของที่ไหนเหรอครับที่ทำให้ประชาชนเป็นใหญ่จริง ๆ น่ะ ผมยังไม่เคยเห็นซักที่ ไม่ว่าจะอเมริกาที่บางคนยกให้เป็นพ่อของค่ายประชาธิปไตย หรือรัสเซียกับจีนที่เป็นขั้วตรงข้าม

มันน่าขำนะที่เห็นคนกระสันอยากปลดแอกตัวเอง เพียงเพื่อจะไปเป็นขี้ข้าของนักการเมืองเลว ๆ

ผมถามจริง ๆ เหอะว่าถ้าฝันเปียก ๆ ของพวกคุณเป็นจริงขึ้นมา คุณคิดเหรอว่าเราจะได้ผู้นำประเทศที่ดีกว่า สตาลิน ฮิตเลอร์ เหมา บุช แบร์ลุสโคนี่ หรือมาร์กอส

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:22 pm
by OMEGA
GURU01 wrote:ถามคุณล้างโคตรทักษิณ ทำไมสถาบันต้องอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นี่เป็นความเชื่อ เป็นกฎหมาย หรือเป็นแนวคิดดักดานตามวิสัยของไพร่ทาส ถามต่ออีกหน่อย ในความหมายที่คุณว่ามาผมสงสัยว่าทำไมประชาชนไม่ใช่เจ้าของแผ่นดิน ทำไมประชาชนจึงไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะปกครองตัวเอง ด้วยตัวของเขาเอง

คำถามสุดท้าย ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศบอกว่าระบอบการปกครองแบบนี้ แบบที่เป็นอยู่นี้ใช้ไม่ได้ ไม่ดี ไม่เหมาะสม เขาอยากเปลี่ยนเป็นระบอบอื่น คุณว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะทำไหม แบบว่า ปฏิวัติน่ะ ปฏิวัติโดยประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง


วรรคแรก สถาบันกษัตริย์เป็นสถาบันที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดเพราะเป็นความเชื่อ
ถ้าคุณเป็นคนไทยจริงลองไปถามโคตรเหง้าของคุณดูได้ ย้อนกลับไป7ชั่วคน
ว่ามีความเชื่อว่าสถาบันกษัตริย์เป็นที่เคารพเพียงใด เป็นกฎหมายให้คุณลอง
กลับไปอ่านรัฐธรรมนูญในหลายมาตราของหมวดต่างๆ และกฏหมายอาญาดู

ต่อมาคุณสามารถระดมพลมาได้ครับถ้าคุณไม่ชอบระบอบนี้และขอให้ทำสำเร็จ
มิฉะนั้นพลเมืองไทยอื่นๆจะเหยียบคุณจมธรณี ข้อหากบฎต่อราชอาณาจักร

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:26 pm
by loginofu
คำถามแรก ประชาชนที่ไหน ใคร ในแง่ไหน

คำถามที่สอง ทำยังไง เพื่อใคร เพื่อความถูกต้องหรือเปล่า
ถ้าแค่ความชอบ มันงี่เง่าสิ้นดี


สุดท้ายก็ไม่พ้น กรูอยาก ต้องเท่ากัน ต้องเป็นอยากที่กรูคิด
แล้วก็ไม่พ้นเรื่องโง่ๆ ของคนโง่ๆ ที่ขายฝันให้กับคนเพ้อเจ้อ :lol:

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:33 pm
by pochi
ออกมาเล๊ยยยยย ไม่ต้องแอ๊บ มีเท่าไหร่ โชว์ออกมาให้หมด :lol:

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:45 pm
by Iona
พระองค์ทรงทำให้สิ่งที่ถูกต้องแล้ว พระองค์ทรงสอนให้คนทำดี

เมื่อพวกคุณ ทำในสิ่งที่ไม่ดีตรงข้ามกับคำสอน แล้วมาโวยวายว่าไม่เป็นกลาง มันตลกนะ

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:45 pm
by himitsu
หรือเป็นแนวคิดดักดานตามวิสัยของไพร่ทาส ..................

******************************************

เข้ามาขำ คำนี้อ่ะ "ไพร่ทาส"

อ่านแล้วนึกว่าตัวเองเป็นอีเย็น :lol: :lol: :lol:

เออ จะบอกว่าทักษิณดี จะเลือกทักษิณ มันโกงกี่หมายจับก็จะให้มันกลับมาใช่มั้ย เอาเหอะ ตามสบายเจ้าค่ะ ท่านเจ้าคุณ

พูดเอง เออเอง หมด ว่าใครๆก็เห็นด้วยกับเจ้าคุณท่าน

หากจะเป็นไพร่ทาสก็ขอเป็นด้วยความเต็มใจค่ะ เพราะซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง

จะให้เราเลือกไปเป็นไพร่ทาสของคนที่บอกว่า ถ้าจังหวัดไหนเลือกมัน มันจะให้งบประมาณก่อน

เราไม่เอาอ่ะ ให้เจ้าคุณท่านเจ้าของกระทู้ไปอยู่เถอะนะคะ ชอบแนวทางนั้น อยากเป็นไพร่ทาสแบบนั้นก็ได้นะคะ

:lol: :lol: :lol:

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:47 pm
by samepong
สุดท้ายก็ทนไม่ได้ อย่าคิดมาเล่นแง่ที่นี่ครับ wm ที่นี่เค้าเคารพสถาบันอย่าหวังมายึด

คุณเข้าใจคำว่า สิทธิตามธรรมชาติ กับสิทธิทางสังคมหรือเปล่า

ถ้าคุณอยากเท่าเทียมกัน แล้วไปนิยมทักษินผมถามว่า ทักษินมีอะไรเท่าเทียมกับคุณหรือคุณมีอะไรเท่าเทียมมันมั้ง

คิดเปลี่ยนเพื่อฝันจะเท่าเทียมแต่สุดท้ายอย่าลืมนะครับ ทุกสังคม ทุกประเทศ ทุกระบอบ ทุกลัทธิ มีชนชั้นปกครองแลบะชนชั้นผู้ถูกปกครองทั้งนั้น อย่าฝันหวานว่าความเท่าเทียมกันมันมีจริง ถ้ามีจริงบอกทักษินเอาสมบัติมันมาเฉลีย63ล้านแล้วแบ่งให้คนทั้งชาติซิครับ


ไปอ่านปรัชญาของรุซโซ ให้มากกครับๆๆ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิ จะได้มองเห้นว่าตัวเองโง่แค่ไหนที่เรีกร้องความเท่าเทียมกันตามพวกเสื้อแดง งี่เง่า

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:51 pm
by ridkun
เมื่อมีคนพยายามทำลายสถาบัน ก็ต้องมีคนลุกขึ้นมาปกป้องสถาบัน
การปกป้องสถาบัน คือ reaction คือปฏิกิริยาตอบโต้
ไม่ใช่อยู่ดีๆ เขาก็ลุกขึ้นมาบอกว่า ทำเพื่อสถาบัน ไม่ใช่แบบนั้น
แต่เขารู้ว่ามีพวกบ่อนทำลายสถาบัน อยู่ในฝ่ายรัฐบาล
เมื่อก่อนพวกนี้อาจจะเก็บหางไว้ดี คนที่รับรู้ก็มีแต่วงในหรือคนที่ติดตามใกล้ชิด
แต่ทุกวันนี้หางโผล่ชัดเจน จะเห็นได้ว่าฝ่ายรัฐบาล มีแต่แก๊งหมิ่นเบื้องสูง
ไม่ว่าจะเจ๊เพ็ญ ดาตอร์ปิโด สุชาติ นาคบางไทร ฯลฯ

ผมคิดว่า คนบางคน ก็อาจจะเป็นเหยื่อของการปลุกปั่นของคนพวกนี้ไปแล้ว
จึงเริ่มมีความคิดว่าสถาบันไม่เป็นกลางเกิดขึ้น

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:51 pm
by arch_freeman
ผมคิดว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงเป็นกลาง และ อยู่ข้างความถูกต้องในสังคม

ทรงแสดงให้ประชาชนชาวไทยเห็นว่า การใช้ความรุนแรงกับประชาชนเป็นสิ่งไม่ถูกต้องและยอมรับไม่ได้ นี่คือประการที่หนึ่ง

นอกจากนี้ ทรงยังแสดงให้ประชาชนชาวไทยได้ตระหนักถึงสิทธิหน้าที่พลเมืองของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมาใช้สิทธิของตนตามกฎหมายแต่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต การใช้สิทธิพลเมืองตามกฎหมายจนถึงแก่ชีวิตของน้องโบว์เป็นสิ่งที่มีคุณค่าสังคมไทยควรตระหนักและยกย่อง นี่คือประการที่สอง

ทรงแสดงให้เห็นถึงน้ำพระทัยที่จะดูแลคนบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรประชาชน หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพราะทุกคนคือลูกของพระองค์ หากมีตำรวจเสียชีวิตผมก็เชื่อว่าพระองค์ก็จะเสด็จ หรือ โปรดให้มีผู้แทนพระองค์ไปพระราชทานเพลิงศพแทน แน่นอน

เพียงแต่ว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่เลย ดังนั้น จะมาอ้างว่าพระองค์ไม่เป็นกลางไม่ได้นะครับ พระองค์ทรงทำหน้าที่แม่ของแผ่นดินได้อย่างสมบูรณ์ และ ทรงก็ไม่ได้แสดงทัศนะทางการเมืองใดๆ นอกจากประทานพระเมตตาแก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายอย่างไม่เป็นธรรมเท่านั้น

ผมคิดว่า นปช แบบเจ้าของกระทู้ ควรสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ควรไปบอกพวกที่อยู่สนามหลวงบอกให้มันเลิกด่า เลิกจาบจ้วงพระองค์ท่านต่อหน้า พระเมรุของสมเด็จพระพี่นางฯ เถอะ หากพวกมันเหล่านั้นยังเป็นคนไทยอยู่

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 4:59 pm
by samepong
ถ้าคุณคิดว่ามันไม่ถุก ไม่ชอบใจ ก็ออกไปซิครับ สิทธิการย้ายถิ่น ยังมีครับ ใช้สิทธิการย้ายถิ่นไปอยู่ประเทศที่คุณคิดว่าดีกว่า ประเทศไทยได้เลยครับ

ไม่ชอบนั่งเครื่องบินก็ไปนั่งเรือ ไม่ชอบเรือ ก็ไปนั่งรถยนต์ครับ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบเครื่องบินแต่จะทำเรือให้บินเหมือนเครื่องบิน บ้าไปแล้ว

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 5:00 pm
by arch_freeman
มีข้าราชการตำรวจ บางคนน้อยใจสมเด็จพระนางเจ้าฯ

ผมอยากบอกให้ข้าราชการตำรวจเหล่านั้นได้ตระหนักว่า พวกคุณ ไม่เคยดูแลใส่ใจที่จะปกป้องสถาบันและพระบรมวงศานุวงศ์เลย
ปล่อยให้มีเว็บไซต์จาบจ้วงพระบรมวงศานุวงศ์แบบ บอร์ดราชดำเนินใน pantip.com เว็บฟ้าเดียวกัน เว็บประชาไทย โดยไม่ block ไม่จัดการใดๆ

แล้วนี่ล่าสุด ก็ปล่อยให้ นปช กลุ่มคนรักเชียงใหม่ แสดงทัศนะที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพอย่างรุนแรง โดยที่พวกคุณก็ไม่ได้จัดการอะไร บ้านเมืองมีกฎหมาย แต่พวกคุณเลือกใช้บังคับกฎหมายแบบสองมาตราฐาน

พวกคุณไม่เคยคิดปกป้อง ดูแลสถาบันพระมหากษัตริย์ จนทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จนพระองค์ท่านต้องส่งสัญญาณบางอย่างไปถึงพวกท่าน

แต่พวกท่านก็ยังไม่ยอมหันกลับไปมองตัวของพวกท่านเองในฐานะที่พวกท่านเป็นตำรวจ ว่า พวกท่านได้ทำหน้าปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ได้สมบูรณ์ดีหรือยัง หรือ มีส่วนร่วมและสนับสนุนการทำลายพระบรมวงศานุวงศ์ และ สถาบัน

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 5:08 pm
by samepong
เมื่อตำรวจไม่ตรวจสอบ เมื่อทหารไม่ปกป้อง มันก็เหลือพลเมืองที่จะปกป้อง

ย้ำตรงนี้อีกทีชัดๆๆ ขอโทษที่หยาบ

[size=200]กูนี่และขวาตกขอบ แต่ขอตกขอบเพราะยอมเป็นไพร่ฟ้าของในหลวง แต่ไม่ยอมตกเป็นไพร่ของนายทุนนักการเมืองที่โกงกินชาติ[/size]

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 5:44 pm
by Cylonn
เรื่องความเท่าเทียมเนี้ย ขอให้ไอ้พ่อทักษิณของคุณยอมเสียภาษีอย่างเท่าเทียมเหมือนคนอื่น ยอมถูกดำเนินการด้วยกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมเหมือนคนอื่น ไม่ใช้อำนาจทางการเงิน ทางการเมือง และอำนาจในการโน้มน้าวประชากรควายๆกลุ่มหนึ่ง เพื่อหลบเลี่ยง หลบหลีกเพื่อประโยชน์แห่งตน แค่นี้ทำให้ได้สะก่อนค่อยมาคุยรื่องความเท่าเทียม

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 5:49 pm
by Solidus
คนที่ไม่ชอบระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขล่ะก็ ควรไปหาประเทศอื่นอยู่ได้แล้ว เอาประเทศที่ปกครองระบบอื่น ไม่มีสัญลักษณ์กษัตริย์อยู่บนธงชาติ

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 5:55 pm
by มารุจัง
ประเทศไทยนี้ ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขมานานแล้ว
ไม่เคยมีปัญหาอะไร พระองค์ท่านก็รักประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน
มีความเมตตาให้กับประชาชนทุกคน

แต่อยู่ ๆ เกิดมีคนบางกลุ่มเกิดอยากเป็นใหญ่ มาร้องเย้ว ๆ ต้องการเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง
ไม่ได้สำนึกในตัวเองเลย ว่ามาทีหลัง แต่มาถึงจะมาโวยวายให้ได้ดังใจตัวเอง
ทำตัวน่ารังเกียจมาก ๆ
เรื่องมากนัก ก็ไปหาประเทศใหม่อยู่ซะไป
ไปอยู่ในประเทศที่คิดว่า เหมาะสมกับพวกคุณ รีบ ๆ ไปเลย
แล้วไม่ต้องกลับมาอีกนะ.. ไปตามไอ้เหลี่ยมเลยก็ได้.. รีบไปเลย

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 5:58 pm
by พรรณชมพู
Thaksinocide wrote:ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเป็นที่ทราบ
กันดีว่าสถาบันฯจะต้องดํารงตนเป็นกลางทางการเมืองและอยู่เหนือการเมืองโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในภาวะที่เกิดความขัดแย้งกันทางความคิด
หากแต่สิ่งที่กล่าวข้างต้นไม่ได้ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ให้ทุกคนเข้าใจโดยปริยาย
ตามหลักการการปกครอง จึงไม่มีบทข้อบังคับรวมถึงบทลงโทษเป็นลายลักษณ์อักษร

เราจะเห็นได้ว่าพระราชดํารัสของในหลวงหลายๆครั้งที่ผ่านมาที่มีต่อสถานการณ์ในบ้านเมือง
ได้ดํารงอยู่ในหลักการข้างต้นมาโดยตลอด หากแต่กลุ่มทางการเมืองมักหยิบยกไปใช้แสวงหา
ความชอบธรรมเพื่อกลุ่มตนเองอย่างไม่ละอายใจ สร้างความแตกแยกให้สังคมเพิ่มขึ้น ไม่ฉุกคิด
ถึงการหันหน้าเข้าหากัน ล่าสุดบทสัมภาษณ์ของพระเทพซึ่งถ้าอ่านแบบอังกฤษและเข้าใจแบบ
อังกฤษย่อมไม่ปรากฏการแสดงความคิดทางการเมืองแม้แต่น้อย

แต่ถ้าวันหนึ่งสถาบันฯเกิดออกมาแสดงการชี้นําทางการเมืองอย่างชัดเจนประชาชนควรทําเช่นไร
เนื่องจากเป็นการผิดหลักการการปกครอง ทั้งนี้การแสดงความเห็นค้านในที่สาธารณะเองก็ถูกจํากัดโดย
กฏหมาย หรือประชาชนต้องจําใจยอมรับถ้าเป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นนั้นการยอมรับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่
จะมีประโยชน์อะไรในกรณีสมมติถ้าสถาบันฯออกมาบอกว่าคนส่วนน้อยสิถูกต้อง

ผมแค่อยากแสดงให้เห็นความขัดแย้งในหลักการเท่านั้นและอยากรู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรในกรณี
สมมติข้างต้น


1. ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเป็นที่ทราบ
กันดีว่าสถาบันฯจะต้องดํารงตนเป็นกลางทางการเมืองและอยู่เหนือการเมืองโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในภาวะที่เกิดความขัดแย้งกันทางความคิด
หากแต่สิ่งที่กล่าวข้างต้นไม่ได้ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ให้ทุกคนเข้าใจโดยปริยาย
ตามหลักการการปกครอง จึงไม่มีบทข้อบังคับรวมถึงบทลงโทษเป็นลายลักษณ์อักษร


ตอบ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น เป็นความคิดส่วนตัวของคุณ เข้าลักษณะพูดเองเออเอง คุณกล่าวว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ และอ้างว่าไม่ได้ถูกระบุไว้ แต่ก็ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ทุกคนต้องเข้าใจอย่างนั้นอย่างนี้

ไร้เหตุผลสิ้นดี

2. เราจะเห็นได้ว่าพระราชดํารัสของในหลวงหลายๆครั้งที่ผ่านมาที่มีต่อสถานการณ์ในบ้านเมือง
ได้ดํารงอยู่ในหลักการข้างต้นมาโดยตลอด หากแต่กลุ่มทางการเมืองมักหยิบยกไปใช้แสวงหา
ความชอบธรรมเพื่อกลุ่มตนเองอย่างไม่ละอายใจ สร้างความแตกแยกให้สังคมเพิ่มขึ้น ไม่ฉุกคิด
ถึงการหันหน้าเข้าหากัน ล่าสุดบทสัมภาษณ์ของพระเทพซึ่งถ้าอ่านแบบอังกฤษและเข้าใจแบบ
อังกฤษย่อมไม่ปรากฏการแสดงความคิดทางการเมืองแม้แต่น้อย


ตอบ การกล่าวอ้างถึงพระราชดำรัส มีในหลายกลุ่มหลายเหล่า ต่างก็มีจุดประสงค์แตกต่างกันไป และการนำพระราชดำรัสปอ้างเพื่อประโยชน์ส่วนตนก็เห็นได้บ่อยครั้ง อย่าว่าแต่พระราชดำรัสเลย การสร้างสถานการณ์ ใช้อำนาจหน้าที่ที่ตนมีขอเข้าเฝ้า เพื่อสร้างความชอบธณรมให้กับตนนั้นก็มีให้เห็นหลายครั้ง

3.แต่ถ้าวันหนึ่งสถาบันฯเกิดออกมาแสดงการชี้นําทางการเมืองอย่างชัดเจนประชาชนควรทําเช่นไร
เนื่องจากเป็นการผิดหลักการการปกครอง ทั้งนี้การแสดงความเห็นค้านในที่สาธารณะเองก็ถูกจํากัดโดย
กฏหมาย หรือประชาชนต้องจําใจยอมรับถ้าเป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นนั้นการยอมรับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่
จะมีประโยชน์อะไรในกรณีสมมติถ้าสถาบันฯออกมาบอกว่าคนส่วนน้อยสิถูกต้อง


ตอบ จากที่คุณพยายามตั้งประเด็นที่แยกไว้ในหัวข้อที่ 1. ก็เพื่อจุดหมายในประเด็นที่แยกไว้ในหัวข้อที่ 3. นี่เอง

คุณกล่าวว่า หากมีการชี้นำทางการเมือง โดยสรุปเอาเองว่าผิดหลักการปกครอง ชี้ให้เห้นเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ และยังกล่าวอีกว่าประชาชนต้องจำใจยอมรับ ซึ่งเป็นการพูดเองเออเอง คุณนั้นอาจจะจำใจยอมรับ นั่นเป็นเรื่องของคุณ แต่ประชาชนอีกส่วนหนึ่ง ถ้าเขาเต็มใจยอมรับ คุณจะว่าอย่างไร และคุณพยายามเบี่ยงเบนความจริงว่า คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แต่ถูกชี้ไปว่าคนส่วนน้อยนั้นถูก

4.ผมแค่อยากแสดงให้เห็นความขัดแย้งในหลักการเท่านั้นและอยากรู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรในกรณีสมมติข้างต้น

ตอบ ที่คุณนำเสนอมา ไม่ใช่หลักการ แต่เป็นความคิดส่วนตนของคุณทั้งสิ้น และความคิดนั้นพยายามกล่าวพาดพิงถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ (สำหรับคนอื่น ไม่ได้หมายถึงคุณ)

จึงไม่น่าแปลก ที่คุณจะได้รับคำตอบที่ค่อนข้างจะรุนแรง

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 8:25 pm
by Moon
[b]ลบ[/b]

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 8:38 pm
by จะบ้าตาย
:lol: กูรู :oops:

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 9:04 pm
by ramboboy26
Cylonn wrote:เรื่องความเท่าเทียมเนี้ย ขอให้ไอ้พ่อทักษิณของคุณยอมเสียภาษีอย่างเท่าเทียมเหมือนคนอื่น ยอมถูกดำเนินการด้วยกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมเหมือนคนอื่น ไม่ใช้อำนาจทางการเงิน ทางการเมือง และอำนาจในการโน้มน้าวประชากรควายๆกลุ่มหนึ่ง เพื่อหลบเลี่ยง หลบหลีกเพื่อประโยชน์แห่งตน แค่นี้ทำให้ได้สะก่อนค่อยมาคุยรื่องความเท่าเทียม



โอ้ย ถูกใจๆ

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 9:13 pm
by 55555
ถ้าคิดว่า กล้าเสียดสี สถาบัน จะเปลี่ยน ชื่อล็อคอิน ทำไม....

ถ้าคิด ว่า การมีสถาบันเป็นสิ่งไม่ดี....ไม่มีความน่านับถือ...

ถ้ามั่นใจ ว่าประชาชนส่วนใหญ่ ยอมรับระบอบทักษิณ มากกว่าสถาบัน ....

บอกไอ้พวกพลังชั่วเลยครับ...มาจะทำประชาธิปไตยใหม่ ไม่ต้อง มี คำว่า "อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข"

ก็ไปบอกไอ้ทักษิณ เลยครับ...บอกว่า มันไม่นับถือ...พูดออกมาตรง ๆ ...

อย่าเป็นอีแอบ แบบปาก พล่าม ว่า เคารพสถาบัน แล้วใจคิดอีกอย่าง...

แล้ว แอบไปพูดในที่ลับ...กล้า ๆ ไป เลย..ไหน ก็ส่งลิ่วล้อ เห่ย ๆ ออกมา

พ่นตามบอร์ดแล้ว...

Re: ว่าด้วยความเป็นกลางและอยู่เหนือการเมืองของสถาบันฯ

PostPosted: Sat Oct 18, 2008 9:20 pm
by รักษ์สยาม
Thaksinocide wrote:ตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเป็นที่ทราบ
กันดีว่าสถาบันฯจะต้องดํารงตนเป็นกลางทางการเมืองและอยู่เหนือการเมืองโดยเฉพาะ
อย่างยิ่งในภาวะที่เกิดความขัดแย้งกันทางความคิด
หากแต่สิ่งที่กล่าวข้างต้นไม่ได้ถูกระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่ให้ทุกคนเข้าใจโดยปริยาย
ตามหลักการการปกครอง จึงไม่มีบทข้อบังคับรวมถึงบทลงโทษเป็นลายลักษณ์อักษร

เราจะเห็นได้ว่าพระราชดํารัสของในหลวงหลายๆครั้งที่ผ่านมาที่มีต่อสถานการณ์ในบ้านเมือง
ได้ดํารงอยู่ในหลักการข้างต้นมาโดยตลอด หากแต่กลุ่มทางการเมืองมักหยิบยกไปใช้แสวงหา
ความชอบธรรมเพื่อกลุ่มตนเองอย่างไม่ละอายใจ สร้างความแตกแยกให้สังคมเพิ่มขึ้น ไม่ฉุกคิด
ถึงการหันหน้าเข้าหากัน ล่าสุดบทสัมภาษณ์ของพระเทพซึ่งถ้าอ่านแบบอังกฤษและเข้าใจแบบ
อังกฤษย่อมไม่ปรากฏการแสดงความคิดทางการเมืองแม้แต่น้อย

แต่ถ้าวันหนึ่งสถาบันฯเกิดออกมาแสดงการชี้นําทางการเมืองอย่างชัดเจนประชาชนควรทําเช่นไร
เนื่องจากเป็นการผิดหลักการการปกครอง ทั้งนี้การแสดงความเห็นค้านในที่สาธารณะเองก็ถูกจํากัดโดย
กฏหมาย หรือประชาชนต้องจําใจยอมรับถ้าเป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นนั้นการยอมรับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่
จะมีประโยชน์อะไรในกรณีสมมติถ้าสถาบันฯออกมาบอกว่าคนส่วนน้อยสิถูกต้อง

ผมแค่อยากแสดงให้เห็นความขัดแย้งในหลักการเท่านั้นและอยากรู้ว่าเพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรในกรณี
สมมติข้างต้น


จริงๆแล้ว ไม่เคยเห็นว่าวาทกรรม "พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง" จะเป็นจริงได้อย่างไร ในเมื่อสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประกอบหนึ่งของระบบการเมืองไทยตามรัฐธรรมนูญ ถ้าจะเอากันให้ลึกกว่านั้น ยังไม่ค่อยแน่ใจด้วยซ้ำว่าไอ้คำว่าเหนือการเมืองเนี่ย หมายความว่าอย่างไร
ส่วนพระมหากษัตริย์ทรงเป็นกลางทางการเมืองนั้นเห็นด้วยในสภาวะการณ์ปกติ แต่ในกรณีที่ต้องเลือกระหว่างความเป็นกลาง กับ ความเป็นธรรม ผมดีใจที่ท่านเลือกความเป็นธรรม