คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby Prinscess » Wed Oct 22, 2008 6:10 am

คำทำนายประเทศไทย 2551 ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก
เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เคยทำนาย

เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง
น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา
เป็นประชาจนเต็มพระนคร

ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน
ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร
องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน

ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส
แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา

จะมีการต่อตีกันกลางเมือง
ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา
ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร

ข้าราชการตงฉินถูกประณาม
สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว
ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน

พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ
มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน
พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย

แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน

ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช
ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม

ความระทมจะถมทับนับเทวศ
ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากวหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ...
User avatar
Prinscess
 
Posts: 131
Joined: Wed Oct 15, 2008 4:35 am
Location: Bangkok

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby nonnun » Wed Oct 22, 2008 6:55 am

ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว
ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน



บรรทัดนี้เด่นชัดสุด
... ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดให้เรากำเนิดมา... แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น./
(กรมหลวงชุมพร เขตรอุดมศักดิ์)
User avatar
nonnun
 
Posts: 1695
Joined: Wed Oct 15, 2008 11:52 am

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby อธิฏฐาน » Wed Oct 22, 2008 8:23 am

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง

"คิดว่าเป็นน้องโบว์"

ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากวหวาดเสียวใจ

"ชื่อสมชายแต่นิสัยเป็นผู้หญิง"

จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

"เข้าสู่การเมืองใหม่"
User avatar
อธิฏฐาน
 
Posts: 3001
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:18 pm

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby อภิสิทธิ์ » Wed Oct 22, 2008 8:40 am

จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง

"คิดว่าเป็นป้าอืดเน่า"

ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากวหวาดเสียวใจ

"ป้าอืดเน่าคนเดิม"

จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

"เขยศักดินา(แป๊ะลิ้ม)ไง....ธ่อ!! :roll: "
User avatar
อภิสิทธิ์
 
Posts: 485
Joined: Tue Oct 21, 2008 8:42 am

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby รักษ์สยาม » Wed Oct 22, 2008 8:46 am

อธิฏฐาน wrote:จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง

"คิดว่าเป็นน้องโบว์"

ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากวหวาดเสียวใจ

"ชื่อสมชายแต่นิสัยเป็นผู้หญิง"

จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา

"เข้าสู่การเมืองใหม่"


ตามคำทำนายรัชกาลที่ 9 จะเป็นยุคกาขาว ส่วนรัชกาลที่ 10 จะเป็นยุคชาวศิวิไลซ์

โดยส่วนตัวผมเห็นว่า ทั้งนารีขี่ม้าขาวและผู้ปกครองจะเป็นหญิงน่าจะหมายถึงคนๆเดียวกัน ไม่ใช่ทั้งน้องโบว์และสมชายใจหญิงครับ

หวังว่าคำทำนายคงจะเป็นจริง ในที่สุดคนโกงบ้างกินเมืองจะได้หมดอำนาจ นานเท่าไรก็จะสู้ครับ

ขอโหวตให้ลิสต์คนโพสท์ข้างบนที่ชื่ออภิสิทธิ์เป็น Foe ครับ
"For form of government let fools contest, What e'er is best administered is best;" - Alexander Pope
User avatar
รักษ์สยาม
 
Posts: 92
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:49 am
Location: Bangkok, Thailand

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby รักษ์สยาม » Wed Oct 22, 2008 8:56 am

ในบทความเรื่อง 'คำทำนาย' เขียนโดยอาจารย์ ส. พลายน้อย ในวารสาร ความรู้คือประทีป ฉบับที่ 1/45 หน้า 29 ระบุไว้ว่า

มีคำทำนายที่เกี่ยวกับบ้านเมืองที่คนแต่ก่อนจำกันได้และพูดถึงอยู่เนืองๆ คือ "มหากาฬ พาลยักษ์ รักมิตร สนิทธรรม จำแขนขาด ราชโจร ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาวศรีวิไล" คำทำนายดังกล่าวมีเขียนต่างกัน 2 แห่ง คือ "จำแขนขาด" ในที่บางแห่งเขียนเป็น "พาหาขาด" และ "ชาวศรีวิไล" บางแห่งเขียนเป็น "ชาวศิวิไลซ์" อ้างว่ามาจาก civilize จึงทำให้เห็นว่าเป็นคำทำนายที่ผูกขึ้นใหม่ ในประวัติของวัดราชบุรณราชวรวิหารอ้างว่าพบคำทำนายนี้จารึกด้วยอักษรขอมว่า "พระพุทธศากราชล่วงแล้ว 2367 ข้าพเจ้าสมเดดพระศรีสมโพธิราชครูผู่มีปราดทนาจะให้ปวงสัตว์ได้รู้ปริศนา พยากรณ์ดังนี้ (คือคำทำนายข้างต้น)" ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาในโอกาสต่อไป
"For form of government let fools contest, What e'er is best administered is best;" - Alexander Pope
User avatar
รักษ์สยาม
 
Posts: 92
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:49 am
Location: Bangkok, Thailand

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby พรรณชมพู » Wed Oct 22, 2008 6:07 pm

รักษ์สยาม wrote:ในบทความเรื่อง 'คำทำนาย' เขียนโดยอาจารย์ ส. พลายน้อย ในวารสาร ความรู้คือประทีป ฉบับที่ 1/45 หน้า 29 ระบุไว้ว่า

มีคำทำนายที่เกี่ยวกับบ้านเมืองที่คนแต่ก่อนจำกันได้และพูดถึงอยู่เนืองๆ คือ "มหากาฬ พาลยักษ์ รักมิตร สนิทธรรม จำแขนขาด ราชโจร ชนร้องทุกข์ ยุคทมิฬ ถิ่นกาขาว ชาวศรีวิไล" คำทำนายดังกล่าวมีเขียนต่างกัน 2 แห่ง คือ "จำแขนขาด" ในที่บางแห่งเขียนเป็น "พาหาขาด" และ "ชาวศรีวิไล" บางแห่งเขียนเป็น "ชาวศิวิไลซ์" อ้างว่ามาจาก civilize จึงทำให้เห็นว่าเป็นคำทำนายที่ผูกขึ้นใหม่ ในประวัติของวัดราชบุรณราชวรวิหารอ้างว่าพบคำทำนายนี้จารึกด้วยอักษรขอมว่า "พระพุทธศากราชล่วงแล้ว 2367 ข้าพเจ้าสมเดดพระศรีสมโพธิราชครูผู่มีปราดทนาจะให้ปวงสัตว์ได้รู้ปริศนา พยากรณ์ดังนี้ (คือคำทำนายข้างต้น)" ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาในโอกาสต่อไป


คำทำนายชุดนี้มีกล่าวถึงมานานแล้ว ก่อนยุคหลวงพ่อฤาษีลิงดำจะมีชื่อเสียง ท่านได้นำมาขยายในยุคที่ประเทศไทยประสบภัยคอมมิวนิสต์ หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม ซึ่งในยามนั้นประเทศวิกฤติมาก หลังจากนั้นเรื่องก็ถูกต่อปีกต่อหาง ไปอีกมากมาย

เช่นเดียวกับคำทำนายว่ากรุงรัตนโกสินทร์จะอยู่ได้ 150 ปี ก่อนหน้านั้น ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็เคยทรงพระอักษรเรื่องนี้เอาไว้ว่า แต่เดิมคำพยากรณ์มีว่าจะอยู่ได้ 100 ปี ต่อมื่อเวลาผ่านไปเกินคำทำนาย ระยะเวลาก็ยืดออกไปอีก แม้ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งจะฉลองพระนคร 150 ปี ก็มีข่าวลือเรื่องนี้สะพัดอีกครั้ง และคณะราษฏร์ได้ใช้ความเชื่อนี้ ก่อเหตุในช่วงเวลาดังกล่าว

คำทำนายก็คือคำทำนาย ผิดก็เงียบไป ถูกก็ดัง ฟันธง ชี้ขาด คอนเฟิร์ม :lol:
"silent key 16/06/2009"
User avatar
พรรณชมพู
 
Posts: 1774
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:17 pm

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby see-u » Wed Oct 22, 2008 6:20 pm

* หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ... คือ ใคร ??? ไม่รู้จัก

ไม่ได้อ่านที่โพสไว้ทั้งหมด ... เห็นแค่คำว่า หลวงพ่อ

ก็รู้สึกว่า ... ไร้สาระ แล้ว ( พูดตรง ๆ คงไม่โกรธกันนะ )
* See - U Never Die *

** ข้ออ้างจากพวกหิวคะแนน..

แมงสาบ : ไม่เลือกเราเขา (แม้ว) มาแน่
ตะกวดแดง : เลือกเรา "แม้ว"จะกลับมา


ศ.ดร.จรัส สุวรรณมาลา : ถ้าไม่มีคนดีก็ไม่ต้องเลือก พรรคการเมืองอย่าดูถูกประชาชน
User avatar
see-u
 
Posts: 5073
Joined: Mon Oct 13, 2008 10:04 am

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby paper punch » Wed Oct 22, 2008 6:35 pm

Imageพระราชพรหมยาน
(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี

เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ เดิมชื่อสังเวียน เป็นบุตรคนที่ ๓ ของนายควง นางสมบุญ สังข์สุวรรณ เกิดที่ตำบลสาลี อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี มีพี่น้อง ๕ คน เมื่ออายุ ๖ ขวบ เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล วัดบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนจบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่ออายุ ๑๕ ปี เข้ามาอยู่กับท่านยายที่บ้านหน้าวัดเรไร อำเภอตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี ในสมัยนั้น และได้ศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณ อายุ ๑๙ ปี เข้าเป็นเภสัชกรทหารเรือ สังกัดกรมการแพทย์ทหารเรือ พออายุครบบวช

อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ วัดบางนมโค โดยมีพระครูรัตนาภิรมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวิหารกิจจานุการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์เล็ก เกสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ อายุ ๒๑ ปี สอบได้นักธรรมตรี อายุ ๒๒ ปี สอบได้นักธรรมโท อายุ ๒๓ ปี สอบได้ นักธรรมเอก

ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๘๐-๒๔๘๑ ได้ศึกษาพระกรรมฐาน จากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิเช่นหลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค, หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก, พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค, พระครูรัตนาภิรมย์ วัดบ้านแพน, พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า, หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ, หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน) และหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ

พ.ศ. ๒๔๘๑ เข้ามาจำพรรษาที่วัดช่างเหล็ก อำเภอตลิ่งชัน ธนบุรี เพื่อเรียนบาลี ต่อมา สอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยค ได้ย้ายมาอยู่ที่วัดอนงคาราม หลังจากนั้นได้เป็นรองเจ้าคณะ ๔ วัดประยูรวงศาวาส เป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค และย้ายไปอยู่อีกหลายวัด

พ.ศ. ๒๕๑๑ จึงมาอยู่วัดท่าซุง บูรณะซ่อมสร้างและขยายวัดท่าซุง จากเดิมมีพื้นที่ ๖ ไร่เศษ จนกระทั่งเป็นวัดที่มีบริเวณพื้นที่ประมาณ ๒๘๙ ไร่

พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ "พระสุธรรมยานเถร"

พ.ศ. ๒๕๓๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ "พระราชพรหมยาน ไพศาลภาวนานุสิฐ มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี"

มรณภาพ
ตุลาคม ๒๕๓๕ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน ได้อาพาธด้วยโรคปอดบวมอย่างแรง และติดเชื้อในกระแสโลหิต เข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช และมรณภาพที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันศุกร์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๓๕ เวลา ๑๖.๑๐ น.

ตลอดระยะเวลาที่อุปสมบทอยู่ หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้ทำหน้าที่ของพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนาอย่างสมบูรณ์ กล่าวคือ

ทางด้านชาติ ได้สร้างโรงพยาบาล , สร้างโรงเรียน , จัดตั้งธนาคารข้าว , ออกเยี่ยมเยียน ทหารหาญของชาติและตำรวจตระเวณชายแดนตามหน่วยต่างๆ เพื่อปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ และ แจกอาหาร , ยา , อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และวัตถุมงคลทั่วประเทศ

ทางด้านพระศาสนา ได้สั่งสอนพุทธบริษัทศิษยานุศิษย์ให้มุ่งพระนิพพานเป็นหลัก โดยให้ประพฤติปฏิบัติกาย , วาจา , ใจ , ในทาน , ในศีลและในกรรมฐาน ๑๐ ทัศ และมหาสติปัฏฐานสูตร ได้พิมพ์หนังสือคำสอนกว่า ๑๕ เรื่อง และบันทึกเทปคำสอนกว่า ๑,๐๐๐ เรื่อง นอกจากนี้ยังได้แสดงธรรม เทศนาทางสถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์เป็นครั้งคราว นอกจากนี้ ยังเดินทางไปสงเคราะห์คณะศิษย์ในต่างจังหวัดและต่างประเทศทุกๆ ปี

ทางด้านวัตถุ ท่านได้ช่วยสร้างพระพุทธรูปและถาวรวัตถุไว้ในพระพุทธศาสนามากกว่า ๓๐ วัด รวมทั้งการบูรณะฟื้นฟูวัดท่าซุงด้วยเงินกว่า ๖๐๐ ล้านบาท ได้สร้างพระไตรปิฎก , หนังสือมูลกัจจายน์ และถวายผ้าไตรแก่วัดต่างๆ ปีละไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ไตร

ทางด้านพระมหากษัตริย์ท่านได้สนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการจัดตั้งศูนย์สงเคราะห์ผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ศูนย์ฯ นี้ได้ดำเนินการสงเคราะห์ราษฎรในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๐ งานของศูนย์ฯ รวมทั้งการแจกเสื้อผ้า , อาหาร และยารักษาโรคแก่ราษฎรผู้ยากจน , การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ , การส่งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกรักษาพยาบาลราษฎรผู้เจ็บป่วย , การให้ทุน นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน , การบริจาคทุนทรัพย์ให้แก่มูลนิธิและโรงพยาบาลต่างๆ ฯลฯ

นับได้ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานเป็นปูชนียบุคคลผู้อยู่ด้วยความกรุณา เป็นปกติ พร่ำสอนธรรมะและสิ่งทีเป็นประโยชน์และสงเคราะห์เกื้อกูลมหาชนด้วยเมตตามหาศาลสมกับ เป็น ศากยบุตรพุทธชิโนรส แท้องค์หนึ่ง

ถ้าจำไม่ผิด ร่างของท่าน บรรจุอยู่ในโลงแก้ว ในสภาพที่ไม่เน่าเปื่อยครับ
เคารพและศรัทธาคุณ ชวน หลีกภัย

ราตรีสวัสดิ์(official version)
http://www.youtube.com/watch?v=JFCooDPQ ... re=related
User avatar
paper punch
 
Posts: 922
Joined: Mon Oct 13, 2008 9:16 am

Re: คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

Postby lab1234 » Wed Oct 22, 2008 9:26 pm

คิดยังไงกับคำทำนายประเทศ ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
อืม......ไร้สาระนะผมว่า
User avatar
lab1234
 
Posts: 26
Joined: Wed Oct 22, 2008 7:57 pm


Return to สภากาแฟ



cron