ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด

เผยชื่อ 'ท่านใหม่' พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ติดต่อผ่าน 'สุดารัตน์' สนใจลงสมัคร ส.ส. กทม. ของพรรคเพื่อไทย โดยติดต่อผ่านพล.อ.ชวลิต สมัครสมาชิก จาก ที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า จะมีหม่อมเจ้า เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค และ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมากล่าวย้ำว่า เรื่องนี้เป็นความจริง โดยหลังยุบสภา พรรคเพื่อไทยจะเปิดคนดีคนเด่นที่มีภาพจงรักภักดี นั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 14 พ. ย. ว่า บุคคลที่ พล.อ.ชวลิต พูดถึงคือ พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ ได้ติดต่อผ่านคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ว่า สนใจที่จะลงสมัคร ส.ส.กทม. และได้ติดต่อผ่าน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ พล.อ.ชวลิต ห้ามไว้ก่อน โดยบอกให้รอเวลาที่เหมาะสม

พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมยุคล ยุคล หรือ พระนามลำลองว่า "ท่านใหม่" เป็นพระโอรส ลำดับพระองค์ที่ ๔ ใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ พระโอรสใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ (พระราชโอรสใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแด่ พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์) กับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมเขตร มงคล (พระธิดาใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ประสูติแด่ หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา นามสกุลเดิม สุฤทธิ์) ท่านชายใหม่ ประสูติเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2490 ทรงมีพระเชษฐา พระเชษฐภคินี และพระขนิษฐา ดังนี้

1.ท่านหญิงมาลินีมงคล อมาตยกุล พระนามเดิม หม่อมเจ้าหญิงมาลินีมงคล ยุคล หรือ ท่านหยอย (24 มิ.ย. 2483 - ) ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรส
2.ท่านหญิงปัทมรังษี เสนาณรงค์ พระนามเดิม หม่อมเจ้าหญิงปัทมรังษี ยุคล หรือ ท่านเม้า (12 ส.ค. 2484 - ) ทรงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เพื่อสมรส
3.หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือ ท่านมุ้ย (29 พ.ย. 2485 - )
4.หม่อมเจ้านภดลเฉลิมศรี ยุคล หรือ ท่านยุ้ย (23 ต.ค. 2496 - )



และที่ขงเบ้งจิ๋วพูดว่า " เป็นหม่อมเจ้ารุ่นสุดท้าย " นั้นก็เป็นเรื่องจริงครับ เพราะ ถ้านับจากราชินิกูลของมีลูกชาย 1 คน คือ ม.ร.ว.รังษิพันธุ์ ยุคล หรือคุณชายเหมา นอกนั้น ลูกสาว 3 ก็หมดแล้วครับ หากลูกชายท่าน คือ ม.ร.ว.รังษิพันธุ์ ยุคล มีหลานปู่ให้ท่าน หลานท่านก็ใช้คำนำหน้านามว่า " หม่อมหลวง " ก็เป็นอันจบ สายนี้ไม่มีใครเป็นหม่อมเจ้าอีก ก็ถือว่าเป็นรุ่นสุดท้ายแล้วจริงๆ

และทั้งนี้ พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะทาบทามให้ลงสมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ว่า ไม่เป็นความจริง ข่าวที่ลงสับสน สร้างความเสียหาย และมีผลกระทบกับผู้ที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนตัวรู้จักคุณหญิงสุดารัตน์มานาน และไปพบกับท่านจริง แต่ไปพูดคุยกรณีการทำทีมสโมสรฟุตบอลราชวิถี เพราะคุณหญิงสุดารัตน์เป็นผู้กว้างขวาง ซึ่งในปีหน้าตนจะส่งทีมลงแข่ง จึงอยากให้คุณหญิงสุดารัตน์ช่วยหาสปอนเซอร์ให้ นอกจากนี้ยังได้ปาวารนาตัวที่จะช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้า หรือเบื้องหลังงานมูลนิธิไทยพึ่งไทย และโครงการพระราชดำริ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ยืนยันว่าไม่ได้คุยเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย

“ ผมเป็นเจ้า ผมจะไปเล่นการเมืองได้อย่างไร คนทั่วไปก็น่าจะรู้ ไม่รู้ว่าข่าวออกมาได้อย่างไร เช่นเดียวกันกับพี่จิ๋ว (พล.อ.ชวลิต) ผมไปพบท่านก็เพื่อพูดคุยเรื่องการขอสปอนเซอร์ทำทีมฟุตบอล เพราะพี่จิ๋วเป็นบุคคลที่ผมเคารพรัก และรู้จักมาตั้งแต่สมัยเป็น ผบ.ทบ. และเป็นนายกฯ ที่ไปพบนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น” พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม กล่าว

เมื่อถามว่า ส่วนตัวสนใจลงเล่นการเมืองหรือไม่ พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิมตอบว่า บอกไปแล้วว่า ตนเป็นเจ้า งานทุกอย่างที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นโครงการใด ๆ ก็พร้อมที่จะทำถวาย เพราะเห็นว่า ทุกรัฐบาลมีแต่พูด ทั้งนี้ในส่วนพล.อ.ชวลิต ในฐานะคนที่เคารพนับถือ ยืนยันและไม่เคยเชื่อว่า พล.อ.ชวลิตจะคิดร้ายต่อประเทศและสถาบัน ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิตได้ทำให้เห็นแล้ว อีกทั้งตระกูล “ยงใจยุทธ” ก็ทำงานใกล้ชิด ไม่เคยด่างพร้อย ดังนั้นข้อกล่าวหาต่างๆเกี่ยวกับพล.อ.ชวลิต ตนไม่เชื่อ และพร้อมที่จะต่อสู้ หากมีใครกล่าวหา

สรุปว่า ข่าวโคมลอยสินะ...

ขอแปะหน่อยครับ ข่าวสารก็อีกเรื่องหนึ่ง

*************************************************************************
เจาะขุมข่ายถุงเงิน"ท่านใหม่"หม่อมเจ้ารุ่นสุดท้ายในเพื่อไทย? โยงใย17บ.-ทุนต่างชาติถือหุ้นไขว้นัว

ภายหลังจากพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย ประกาศว่า "ขอบอกไว้ในที่นี่เลยว่าอีกไม่นานเกินรอพรรคนี้จะมีเครื่องหมายแห่งความจงรักภักดีเข้ามาอยู่กับพวกเรา เป็นหม่อมเจ้ารุ่นสุดท้าย เพราะท่านทราบดีว่าวิธีการที่จะปกป้องสถาบันได้ดีที่สุด ไม่ใช่การร้องเพลง หรือขี่จักรยาน แต่เป็นการทำงานถวาย"


เกิดข้อสงสัยว่า "หม่อมเจ้ารุ่นสุดท้าย" ที่ว่าคือใคร?




ต่อมา หม่อมเจ้าที่ว่าถูกไขว่าน่าจะหมายถึง พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล โดยการประสานผ่านคุญหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย โดยคาดว่าจะสมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ


ทว่าวันที่ 14 พ.ย.2553 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ออกมาปฏิเสธว่ามิได้ชักชวนเจ้าจุลเจิมยุคลแต่อย่างใดโดยให้เหตุผลว่า "ไม่อยากดึงฟ้าต่ำ"


"มติชนออนไลน์"เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2553 ระบุว่า พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม เคยถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดปี 2547 และเฟื่องสุดยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์


ล่าสุด "มติชนออนไลน์"ตรวจสอบพบเครือข่ายธุรกิจของ"ท่านใหม่"ตั้งแต่มียศร้อยเอกถึงปัจจุบันพบว่าเป็นกรรมการ 11 บริษัท ในจำนวนนี้ 8 บริษัท เลิกกิจการแล้ว ได้แก่



1. บริษัท สยามริช เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด จดทะเบียนวันที่ 31 กรกฎาคม 2529 ทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ที่ตั้ง 99 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตย เขตพระโขนง กรุงเทพฯรับเหมาก่อสร้าง กรรมการ ร้อยเอก (ขณะนั้น) หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล พันโทสวัสดิ์ ศิลปาภิสันทน์ นาย อำนาจ บัวศิริ นางศิริพร ยุคล นายสุนทร โภคสวัสดิ์ นายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2543

2.บริษัท มงคลเวสน์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 12 มกราคม 2531 ทุนจดทะเบียน500,000 บาท ที่ตั้ง 758/1 ซอยสุขุมวิท 30/1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ประกอบกิจการค้าอาหารสำเร็จรูป กรรมการ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า อนุสรณ์มงคลการ หม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา (เจ้าของบริษัทละโว้ภาพยนต์) และ หม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล ต่อมนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2543

3.บริษัท อินโนเวตเต็ด เทคโนโลยี่ส์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 24 พฤศจิกายน 2538 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 4/10 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ประกอบธุรกิจ ประมูลเพื่อรับจ้างทำของตามวัตถุที่ประสงค์ให้แก่องค์กรของรัฐ กรรมการ หม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล หม่อม อัญชลี ยุคล ณ อยุธยา และนาย เมร์ดาด ฟูทูชิ เกริม ต่อมานายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2545

4.บริษัท เวสคอร์ป ฟาร์อีสต์ จำกัด จดทะเบียน 25 ตุลาคม 2539 ทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1,000,000 บาท ที่ตั้ง4/10 หมู่ที่ 7 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ประกอบกิจการรับเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำปัญหาเกี่ยวกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม กรรมการ คือ หม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล และ หม่อม อัญชลี ยุคล ณ อยุธยา
บริษัทนี้เป็นบริษัทร้างซึ่งนายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนแล้วตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2545

5.บริษัท อิเล็คโทรโฟลว์ (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนวันที่ 27 เมษายน 2536 ทุน 2 ล้านบาท ที่ตั้ง 4/10 หมู่ที่ 7 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพประกอบธุรกิจซื้อขาย ติดตั้ง และให้บริการทุกประเภทเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า กรรมการ พันตรี (ขณะนั้น) หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หม่อม อัญชลี ยุคล ณ อยุธยา
นายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2545



6.บริษัท อิเล็คซิม จำกัด จดทะเบียนวันที่ 2 ธันวาคม 2536 ทุน 5 แสนบาท ที่ตั้ง 4/10 หมู่ที่ 7 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯประกอบธุรกิจซื้อขาย ติดตั้งและให้บริการทุกประเภทเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า กรรมการ พันตรี (ขณะนั้น) หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หม่อม อัญชลี ยุคล ณ อยุธยา นายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2545

7. บริษัท อิเล็คโทรคอนซัลท์ จำกัด จดทะเบียนวันที่ 2 ธันวาคม 2536 ทุน 5 แสนบาท ที่ตั้ง 4/10 หมู่ที่ 7 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพฯประกอบธุรกิจซื้อขาย ติดตั้งและให้บริการทุกประเภทเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า กรรมการ พันตรี (ขณะนั้น) หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หม่อม อัญชลี ยุคล ณ อยุธยา นายทะเบียนได้ขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นบริษัทร้าง ตามความในมาตรา 1246 แห่งประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2545


8. บริษัท เอสแอนด์ทีเซอร์วิส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 6 ธันวาคม 2519 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ที่ตั้ง 216/39 ชั้น 11 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพประกอบกิจการบรรทุกและขนส่งถ่ายสินค้าเรือเดินทะเลต่างประเทศ กรรมการ คือ นายธวัชชัย ตั้งใจตรง พันเอก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
ร้อยเอก หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล (ขณะนั้น) ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด บริษัท เอสแอนด์ทีเซอร์วิส จำกัด ตามพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พุทธศักราช 2483 ในคดีหมายเลขแดงที่ ล.23970/2552 ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2552



ธุรกิจที่ยังดำเนินการ


1.ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปัฐพีไมนิ่ง จดทะเบียนวันที่ 25 มิถุนายน 2534 ทุน 3 ล้านบาท ที่ตั้ง 46/17 ถนนศรีธรรมโศก ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบกิจการซื้อขายแร่ทุกชนิด ร่วมหุ้นกับ นางสาวจิรนุช สิทธิฤทธิ์ นายประเสริฐ สิทธิฤทธิ์ นางสาวปรินา สิทธิฤทธิ์ นายพิชัยศักดิ์ สิทธิฤทธิ์


2.บริษัท โปโลวิว จำกัด จดทะเบียนวันที่ 31 กรกฎาคม 2544 ทุน 10 ล้านบาทที่ตั้ง51/7 ซอยโปโล ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ประกอบธุรกิจ จัดซื้อ จัดหา ถือกรรมสิทธิ์ ครอบครอง ขาย แลกเปลี่ยนฯ ทรัพย์สิน มีนายชัชวิน ตั้งใจตรง นายนินนาท ตั้งใจตรง (เจ้าของบริษัท ทีเจที ทรานสปอร์ต จำกัด) นายวัชระ วัชรนพวิภา ร่วมเป็นกรรมการ

3. บริษัท เบลล์วอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จดทะเบียนวันที่ 15 พฤษภาคม 2544 ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 6 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มเป็น 16 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ รับเหมาก่อสร้าง และบริการงานด้านวิศวกรรมที่ตั้ 183 อาคารรีเจ้นท์ เฮ้าส์ ชั้น 10 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ มี บริษัท เบลล์วอเตอร์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 49 % (สหราชอาณาจักร)
บริษัท กี เคาน์ตี้ จำกัด 17 %
บริษัท อาลิบี้ เคาน์ตี้ จำกัด 17%
บริษัท เบย์วิว เคาน์ตี้ จำกัด 16.9%
บริษัท ไกอา เคาน์ตี้ จำกัด 0.0083%
นางสาว นิตินา นันทวิญญู 0.0017%
นางสาว สุนิภา ธนาเลขะพัฒน์ 0.0017%


กรรมการ ได้แก่ นาย โจนาธาน มาร์ค พริชาร์ด นาย จอห์น อเล็กซานเดอร์ เคลลี่ นาย บรูซ ทราเวอร์ แม็คแนบ หม่อมเจ้า จุลเจิม ยุคล นายนภาจร สิริสิงห์ และนายธนัท ตาตะยานนท์


ผลประกอบการ ปี 2545 รายได้ 191.3 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4.2 ล้านบาท ปี 2546 รายได้ 87.7 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 40 ล้านบาท


หลังจากนั้นไม่มีข้อมูลการส่งงบดุลให้กรมพัฒนาธุรกิจแต่อย่างใด



ทั้งนี้ บริษัท กี เคาน์ตี้ จำกัด ,บริษัท อาลิบี้ เคาน์ตี้ จำกัด , บริษัท เบย์วิว เคาน์ตี้ จำกัด ,บริษัท ไกอา เคาน์ตี้ จำกัด เป็นบริษัทโฮลดิ้ง (ถือหุ้นในบริษัทอื่น) ก่อตั้งพร้อมกันเมื่อ 27 มกราคม 2546 ทุน 1 แสนบาท ที่ตั้ง152 อาคารชาร์เตอร์สแควร์ ชั้น 16 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ บริษัท ตั้ก วู โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 99% (บริษัท ตั้กวู โVลดิ้ง ก่อตั้งวันที่ 24 มกราคม 2546 ทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท ที่ตั้ง152 อาคารชาร์เตอร์ สแควร์ ชั้น 16 เช่นเดียวกัน -นางสาว สุนิภา ธนาเลขะพัฒน์ ถือหุ้นใหญ่ 99.8% )


กระนั้น ไม่ว่า "ท่านใหม่"เข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยหรือไม่?



แต่การถูกเปิดตัว (ก่อนเวลาอันควร?) ออกมา ทำให้ตกเป็นเป้าจับตาไปเรียบร้อยแล้ว


http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... &subcatid=

เจ้าที่ว่า เจ้ามือหรือเปล่า

ทั้งนี้ บริษัท กี เคาน์ตี้ จำกัด ,บริษัท อาลิบี้ เคาน์ตี้ จำกัด , บริษัท เบย์วิว เคาน์ตี้ จำกัด ,บริษัท ไกอา เคาน์ตี้ จำกัด เป็นบริษัทโฮลดิ้ง (ถือหุ้นในบริษัทอื่น) ก่อตั้งพร้อมกันเมื่อ 27 มกราคม 2546 ทุน 1 แสนบาท ที่ตั้ง152 อาคารชาร์เตอร์สแควร์ ชั้น 16 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ บริษัท ตั้ก วู โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 99% (บริษัท ตั้กวู โVลดิ้ง ก่อตั้งวันที่ 24 มกราคม 2546 ทุนจดทะเบียน 1 แสนบาท ที่ตั้ง152 อาคารชาร์เตอร์ สแควร์ ชั้น 16 เช่นเดียวกัน -นางสาว สุนิภา ธนาเลขะพัฒน์ ถือหุ้นใหญ่ 99.8% )


กระนั้น ไม่ว่า "ท่านใหม่"เข้ามาอยู่พรรคเพื่อไทยหรือไม่?



แต่การถูกเปิดตัว (ก่อนเวลาอันควร?) ออกมา ทำให้ตกเป็นเป้าจับตาไปเรียบร้อยแล้ว


http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... &subcatid=

จากรายชื่อบริษัทต่างๆที่เปิดและปิดไปแล้ว....
อยากเป็น"นักธุรกิจ"จริงๆ
หรือเป็นแค่"กรรมการ"ของบริษัทต่างๆเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ....?

อย่างนี้ อั้ยเฒ่า ก็หน้าแตกเลยอะดิ
แต่คงจะไม่รู้สึกอะไรหรอกมั้ง เพราะหนังหน้ายานขนาดนั้นแล้ว

อ้าวพี่จิ้ว
เสียหมาแล้ว

เออ พ่อใหญ่ลืมแล้วพูดเรื่องอะไรกัน พ่อใหญ่เป็นอัลไซเมอร์
หา หาว่าพ่อใหญ่โกหก ถ้าพ่อใหญ่โกหกจริง พ่อใหญ่จะไปโดดน้ำโขงเลย (เอาที่ดอนหน่อยลงน้ำนิดเดียวพอ โฮ่ๆๆๆๆ)

ถึงได้หม่อมเจ้ามาสักคนจริงๆ แล้วจะไปบอกให้ไพร่เค้าเลือกยังไงอ่ะ
"เลือกเจ้าไปเป็นตัวแทนของไพร่ เพราะเราไม่เอาเจ้า"...บ้าแล้ว

เดี๋ยวคงออกมาโทษนักข่าวเขียนผิด

ที่จริงจิ๋ว จะบอกว่า
"หม่องเจ๊า

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ wrote:"บิ๊กจิ๋ว"ระบุกระแสข่าวพลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล ร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทย เป็นการเข้าใจผิด

พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ระบุว่า พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ จะมาร่วมงานการเมืองกับพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากท่านไม่สามารถทำงานทางการเมืองได้ เพราะจำเป็นต้องสละฐานันดรก่อน อันเป็นสิ่งไม่เหมาะสม แต่เป็นการร่วมงานในโครงการต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมความจงรักภักดี

"ในฐานะผมเป็นผู้ที่สนิทสนม และเคยทำงานร่วมกันมานาน จึงกล่าวขออภัยไปยังท่านใหม่ ที่ทำให้ต้องกังวล"

ทั้ง นี้ พรรคเพื่อไทย มีหลายโครงการ ที่จะทำเพื่อสร้างความสามัคคี โดยเฉพาะโครงการส่งผ่านความหวังดีไปยัง 7 หมื่นหมู่บ้าน เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ รวมถึงจะจัดกิจกรรมอุปสมบทภิกษุสามเณร 99 รูป ที่จังหวัดยโสธร ในวันที่ 3 ธันวาคมนี้

ส่วนที่พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ออกมาปฏิเสธข่าว จะเกิดภาพลบต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พลเอกชวลิต กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่มีผู้ตำหนิ ซึ่งได้ชี้แจงพลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมแล้ว และท่านเข้าพระทัยแล้วว่า จะร่วมงานเฉพาะการจัดทำโครงการต่างๆ เท่านั้น

พล.อ.ชวลิต ระบุว่า การที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุว่ามีบางคนมองว่า อาจมีราชนิ กูลเข้าร่วมพรรคมากกว่า 1 คน คงเป็นเพราะยังไม่ทราบรายละเอียด

ทั้งนี้ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยแสดงความจงรักภักดีมาโดยตลอด แต่ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์มากเพียงพอ เมื่อเกิดความเข้าใจผิด พรรคจึงจำเป็นต้องชี้แจงต่อประชาชน

หมดมุก เลยรับดื้อๆ ว่าเข้าใจผิด
ฮ่าๆๆๆ
แต่ว่าผู้ว่ากทม. ไม่เห็นต้องสละเลย ก็ลงการเมืองได้ ไม่มีใครว่าไรเลย

ม.จ.จุลเจิม ปัดไม่เล่นการเมือง-ซบเพื่อแม้ว ลั่นไม่อยากให้วิญญาณปู่ร้องว่า “ไอ้ลูกหลานจัญ ไร”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 พฤศจิกายน 2553 12:29 น.
ASTVผู้จัดการ - ประธานสโมสรฟุตบอลราชวิถี “พล.ต.ม.จ.จุลเจิม ยุคล” ปฏิเสธสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยเล่นการเมือง หลัง “บิ๊กจิ๋ว” อ้างว่าจะมี ม.จ. เข้าร่วมงานกับพรรค ระบุพบ “หญิงหน่อย-บิ๊กจิ๋ว” แค่ให้ช่วยหาสปอนเซอร์-จัดงานเทิดพระเกียรติ ยอมรับเคยพูดว่าอยากเล่นการเมือง เพื่อประชด “ยี้ห้อย” ที่มีเงินทำทีมเป็นร้อยล้าน แย้มเสี่ยเจริญเคยหนุนทีมราชวิถี 3 ปีที่แล้ว ก่อนถูกยี้ห้อยคาบไปกิน โอดถูกคนด่า “จะเป็นหมาหรือเป็นคน” ยันไม่อยากให้บรรพบุรุษด่าว่า “ลูกหลานจัญไร”

วันนี้ (15 พ.ย.) พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” ประธานสโมสรฟุตบอลราชวิถี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี กรณีที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เคยกล่าวว่าจะมีหม่อมเจ้ารุ่นสุดท้ายเข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย และเป็นที่คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นพลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม กระทั่งภายหลังได้ออกมาปฏิเสธว่าจะลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย

โดยกล่าวว่าตนรู้สึกทุกข์ใจว่าทำไมข่าวถึงออกมาคนละเรื่องกับสิ่งที่ตนดำเนินการอยู่ ความจริงก็คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ตนรู้จักกันมานานและเคารพนับถือ ทราบว่าคุณหญิงสุดารัตน์จะทำโครงการถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตนก็เลยเสนอว่า ยินดีที่จะทำงานถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระราชกุศลไม่ว่าต่อหน้าหรือลับหลัง

นอกจากนี้ หลังจากที่ตนเกษียณจากราชการก็ทำทีมฟุตบอล เห็นว่าคุณหญิงสุดารัตน์รู้จักบริษัทห้างร้านเยอะ ก็เลยขอความร่วมมือช่วยติดต่อหาผู้สนับสนุน ยืนยันว่าไม่เคยคุยเรื่องการเมือง ทั้งนี้ ตนกับคุณหญิงสุดารัตน์ได้พบกันหลายครั้ง แต่คุยกันว่าคุณหญิงสุดารัตน์อยากจะเชิญตนมาเป็นกรรมการทำโครงการแก้วตาดวงใจ เทิดไท้องค์ราชา ราชินี ช่วงเวลา 3-4 เดือนมาแล้ว

ในส่วนของ พล.อ.ชวลิต พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมกล่าวว่า ตนก็มาหา พล.อ.ชวลิต ขอให้ช่วยหาบริษัทห้างร้านให้ตนเพื่อมาทำทีมฟุตบอลเช่นเดียวกัน แต่ตอนนี้ตนขอเรียนว่าในฐานะที่ตนรู้จัก พล.อ.ชวลิตตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเป็นนายกรัฐมนตรี เรียนตามตรงว่าไม่มีประสบการณ์เรื่องอะไรทั้งนั้น ตนก็พูดอย่างซื่อๆ ว่าเป็นกำลังใจให้บิ๊กจิ๋ว ที่คนเขากล่าวหาว่าจะล้มสถาบัน ขอยืนยันว่าตนไม่เชื่อ เพราะบิ๊กจิ๋วเป็นถึง ผบ.ทบ. เป็นถึงนายกฯ แต่ตอนหลังตนไม่ทราบ

“บิ๊กจิ๋วอาจจะเข้าใจผิดนิดนึงว่า ตนก็ยอมรับว่ากับคนสนิท ผมอาจจะปากพล่อยหน่อยนึงว่า ผมอิจฉาจัง ผมอยากเล่นการเมือง ผมอยากเป็นนักการเมือง เพราะว่าดูอย่างเนวิน (นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย) ซิ ผมสร้างทีมมาเนี่ยหลังจากสโมสรฟุตบอลราชวิถีก่อตั้งมาเนี่ย คุณเนวินยังเด็กๆ เลย ยังไม่ได้ตั้งทีมฟุตบอลหรืออะไรเนี่ยแหละ พอซักปีเดียวเนี่ยโอ้โห สปอนเซอร์มาเป็นร้อยล้าน ผมบอกผมอิจฉา ผมอยากเป็นนักการเมืองแบบนั้นบ้างจังเลย เอามาทำทีมฟุตบอล ผมพูดแค่นั้นเอง” พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมกล่าว

พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมกล่าวต่อว่า ตนยินดีถ้าเกิด พล.อ.ชวลิต ไม่ว่าพรรคไหนหรือใครทั้งนั้น ทำถวายพระเจ้าอยู่หัวด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ว่าดีแต่พูด ยินดีเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นพรรค ไม่ว่าเป็นใครทั้งนั้น ขอให้ทำด้วยความจริงใจถวาย เพราะประการแรกตนเป็นเจ้า จะเล่นการเมืองได้อย่างไร บรรพบุรุษตนก็สั่งสอนว่าเราต้องปกป้องสถาบัน เพราะเราเป็นทาสรับใช้ ทั้งนี้ ตนได้พบเจอ พล.อ.ชวลิตสักสองครั้งเท่านั้นเอง เพราะตอนนั้นตนยอมรับว่าจนปัญญาที่จะหาสปอนเซอร์ในการทำทีมฟุตบอล ตนไปขอใครเขาก็ไม่ให้เข้าพบ ตนก็ต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้สโมสรฟุตบอลราชวิถีอยู่ได้ เพราะเป็นทีมเก่าแก่

เมื่อถามว่าหลังจากได้ไปหาคุณหญิงสุดารัตน์และ พล.อ.ชวลิต ได้ผู้สนับสนุนบ้างหรือไม่ พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมกล่าวว่า ไม่ได้สักคนเลย เขาบอกเดี๋ยวพยายามหาให้ เมื่อถามว่าเคยได้เข้าพบมหาเศรษฐีไทยเพื่อขอรับการสนับสนุน พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมกล่าวว่า อย่างคุณเจริญ (นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าของบริษัทไทย เบฟเวอรเรจ จำกัด ผู้ผลิตเบียร์ช้าง) เคยกล่าวว่าทีมนี้ทีมเก่าแก่ พร้อมจะสนับสนุน กระทั่งได้ให้การสนับสนุนสโมสรราชวิถีเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนี้ไม่สนับสนุนเพราะนักการเมืองเอางบสนับสนุนไปหมดแล้ว

“ผมพูดมาก แล้วผมพูดเลอะเทอะไปหน่อยว่าผมอยากเป็นนักการเมืองเท่านั้นเอง เพราะว่าผมเป็นเจ้า ผมเดินไปหาใครใครเขาก็ไม่ต้อนรับ ไม่เหมือนนักการเมือง พูดยังไงก็มีงบประมาณทำทีมเป็นร้อยๆ ล้าน แต่คุณหญิงสุดารัตน์ท่านก็รับปาก” พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมกล่าว

พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมกล่าวว่า หลังจากที่เป็นข่าวตนยังไม่ได้คุยกับ พล.อ.ชวลิตเลย ตอนนี้ตนไม่อยากที่จะเป็นข่าวหรืออะไรอีกต่อไปแล้ว ตนก็จะทำทีมฟุตบอลของตนไปเรื่อยๆ หลังจากที่เป็นข่าวมีผลกระทบกับตน ผู้ใหญ่บางคนถามตนว่าอยากจะเป็นหมาหรือเป็นคน ตนก็บอกว่าไม่ใช่ ตนเป็นข้าในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตำแหน่งหน้าที่สุดท้ายคือเป็นราชองครักษ์ หน้าที่ก็คือถวายความปลอดภัย ถวายความจงรักภักดี ถวายพระเกียรติ และทำตามพระราชดำริ นอกจากนี้บรรพบุรุษตนก็สอนมาแบบนี้ตลอด ขนาดไม่ยุ่งการเมืองก็ยังโดนด่า ถ้าเกิดเป็นนักการเมืองขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร

“อย่างน้อยๆ ถ้าผมเล่นการเมืองหรืออะไรเนี่ย ฝ่ายรักผมก็มี ฝ่ายไม่รักผมก็มี ตีกระทบถึงต้นตระกูล ถึงสถาบัน ผมทำได้ที่ไหน ผมไม่อยากให้ที่เพลงบอก วิญญาณปู่จะร้องว่าลูกหลานจัญไรเนี่ย แต่สิ่งใดที่ทำถวายพระเจ้าอยู่หัวด้วยความจริงใจและจงรักภักดี ผมยินดี ไม่ว่าจะต่อหน้า หรือลับหลังหรืออย่างไร ผมถือพระเจ้าอยู่หัวที่ท่านมีพระราชดำริรับสั่งว่าการปิดทองหลังพระ แล้วพอมาหน้าพระแล้วคนเขารู้เอง เราไม่ต้องไปปิดทางหน้าพระประกาศให้คนเขารู้อะไรทั้งหมด หลังพระเนี่ย สักวันหนึ่งทองที่เราปิดหลังองค์พระปฏิมาเนี่ยมาถึงข้างหน้าแล้วคนเขาจะรู้เอง นี่คือสิ่งที่ผมจำไว้อยู่ในใจ”

เมื่อถามว่าที่ พล.อ.ชวลิตพูดถึงว่าเป็นหม่อมเจ้ารุ่นสุดท้าย ตกลงว่าพลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมเป็นรุ่นสุดท้ายหรือไม่ พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิมตอบว่าตามจริงแล้วตนเป็นรุ่นสุดท้ายของประเทศไทยในปัจจุบัน ตอนนี้รุ่นพระเจ้าบรมวงศ์เธอตอนนี้ไม่มีแล้ว ก็มีตระกูลตน (ยุคล) เท่านั้นเองที่เป็นหม่อมเจ้าที่ยังมีแรง ด้านท่านมุ้ย (หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง) ซึ่งเป็นศักดิ์พี่ชายก็ทำงานถวายพระเกียรติอยู่แล้ว เรียนตามตรงตนก็เป็นรุ่นสุดท้าย ชุดสุดท้าย อาจจะมีต่อไปสัก 20 ปีตนไม่ทราบอนาคต นอกจากตนก็ไม่มีใครทั้งนั้นที่จะเล่นการเมือง ท่านมุ้ยที่ทำหนังก็ไม่มายุ่งอยู่แล้ว

สำหรับ พลตรีหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือท่านใหม่ ประสูติเมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2490 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในจำนวน 5 พระองค์ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และหม่อมอุบล ยุคล ณ อยุธยา มีศักดิ์เป็นน้องชายหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล หรือท่านมุ้ย ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง มีชายาคนแรกคือ หม่อมศิริพร ยุคล ณ อยุธยา (เสียชีวิต) มีบุตร-ธิดา 2 คน คือ ม.ร.ว.รังษิพันธุ์ ยุคล หรือ “ชายเหมา” และ ม.ร.ว.จันทรลัดดา ยุคล หรือ “หญิงแอร์” ส่วนชายาคนที่ 2 ชื่อ หม่อมอัญชลี ยุคล ณ อยุธยา ซึ่งเคยสมรสมีธิดา 1 คน โดยมีธิดา 2 คน คือ ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล หรือ “หญิงแม้น” สาวสังคมคนดัง และ ม.ร.ว.จันทรนิภา ยุคล หรือ “หญิงไหม”

ทรงศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย และชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนสาธิตประสานมิตร ก่อนจะถูกส่งไปศึกษาต่อประเทศสหรัฐอเมริกา จนจบมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียน Kemper มลรัฐ St.Loiuse ต่อมาทรงศึกษาต่อจนจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัย Western State College นอกจากนี้ทรงจบการศึกษาที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (พิเศษ) รุ่นที่ 7 และขณะนี้กำลังทรงศึกษาหลักสูตรปริญญาโทด้านการจัดการกีฬา

การทรงงาน เริ่มรับราชการทหาร ยศร้อยตรี ศูนย์สงครามพิเศษหน่วยกองรบที่ 1 (กรพ.) ค่ายวชิราลงกรณ์ จ.ลพบุรี กระทั่ง รับราชการที่การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ต่อมาเป็นนายทหารประจำส่วนพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร กองทหารมหาดเล็กได้ 6 ปี ก่อนจะลาออกมาเป็นเซลล์แมนขายอุปกรณ์สื่อสารและอาวุธทางทหาร ให้กับบริษัท สยามเทลเทกซ์ จำกัด แล้วลาออกมารับราชการที่กรมข่าวทหารบก ช่วยราชการในกองอำนวยการรักษาความปลอดภัย (กรป.)

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 ได้รับพระราชทานยศทหารให้แก่นายทหารสัญญาบัตร สังกัดกรมราชองครักษ์ โดยพันเอก หม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล เป็น พลตรี และได้รับราชการสนองพระเดชพระคุณ เป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมราชองครักษ์ กระทั่งเกษียณเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2550 ก่อนที่พระองค์จะมาเป็นราชองครักษ์พิเศษรักษาพระองค์ ใน สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อีกบทบาทหนึ่ง พล.ต.หม่อมเจ้าจุลเจิม เป็นประธานสโมสรฟุตบอลราชวิถี ซึ่งปัจจุบันลงแข่งขันในศึกฟุตบอลไทยลีก ดิวิชั่น 2 (ลีกภูมิภาค)
http://www.manager.co.th/Politics/ViewN ... 0000161259

ถ้าพ่อใหญ่อยากแสดงความจงรักภักดีจริง ๆ

ก็รีบส่งตัว ชูพงษ์ ถี่ถ้วน สหายรัก ให้ทางการโดยเร็วดีกว่าครับ

ฟังรู้เรื่องหรือครับ เพราะปกติพ่อใหญ่จิ๋วพูดอะไรออกไปแล้วคนฟังมักจะไม่รู้เรื่อง ต้องช่วยกันตีความก็คงเหมือนกับคราวนี้แหละครับ

kuron23 wrote:ฟังรู้เรื่องหรือครับ เพราะปกติพ่อใหญ่จิ๋วพูดอะไรออกไปแล้วคนฟังมักจะไม่รู้เรื่อง ต้องช่วยกันตีความก็คงเหมือนกับคราวนี้แหละครับ

บางทีพ่อใหญ่เองก็อาจฟังตัวเองไม่รู้เรื่องนะครับ

บุญปลีก wrote:

kuron23 wrote:ฟังรู้เรื่องหรือครับ เพราะปกติพ่อใหญ่จิ๋วพูดอะไรออกไปแล้วคนฟังมักจะไม่รู้เรื่อง ต้องช่วยกันตีความก็คงเหมือนกับคราวนี้แหละครับ

บางทีพ่อใหญ่เองก็อาจฟังตัวเองไม่รู้เรื่องนะครับ

ผมว่าพี่แกเองอาจจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างก็ได้ครับตามแบบของแก ปลาไหลยังเรียกว่าปู่เลย