รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby andoe » Tue Dec 21, 2010 12:39 am

saopao wrote:
andoe wrote:
3.ทางไทยเลิกยึดถือ สนธิสัญญา 1904-1907และทางกัมพูชาเลิกยึดถือ แผนที่ 1:200,000....ผลก็ทางไทย-กัมพูชาจัดการพื้นที่ร่วมกัน



ผมชอบข้อนี้ เพราะไทยแทบจะได้เขมรคืนมาทั้งประเทศเลย


แหม่รู้ทัน....... :lol:
ถ้าเลือกแนวทางที่ 3 อาจจะได้พื้นที่ที่เคยสูญเสียไปดังนี้
1279100475.gif
...................จะต้องมีข้อมูลมากมายไปทำไม.
ถ้าสุดท้ายแล้ว เราก็ตัดสินใจด้วย.......ความเชื่อ
User avatar
andoe
 
Posts: 290
Joined: Thu Dec 16, 2010 4:48 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 12:59 am

asd wrote:รัฐใช้ MOU 2543 เป็นเครื่องมือในการเจรจาปักปันเขตแดนของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อยุติ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญจะมีหรือไม่มีก็ได้ เพราะประเด็นจริงๆ อยู่ที่ข้อสรุปในการปักปันเขตแดน หากไม่เป็นไปตามหลักสันปันน้ำก็คงมีการโต้เถียงกันไปเรื่อยๆ คณะกรรมการมรดกโลกอาจจะตัดสินไปในทางหนึ่งทางใดที่ทำให้ประเทศเสียเปรียบ แต่ว่าที่สุดแล้วก็ต้องปักปันเขตแดนเกิดชึ้นไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นพื้นที่กรณีพิพาทกันต่อไป เพราะไม่มีการถอนกำลังของทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว
พื้นที่ชายแดน มีทหารประจำการทั้งนั้นครับ ไม่ว่าภาคใด ส่วนพื้นที่พิพาทคุณคงไม่ได้อ่าน เขมรเริ่มเดินหน้ามา5-6ปีมานี้ หลังมีMOU43,44,และTOR46

ไม่มีใครจะไปขายชาติอะไรหรอก ไม่ใช่ว่าดู ASTV แล้วออกมาบอกว่าเนี่ยเดี๋ยวไทยจะเสียดินแดน ไม่เห็นสื่ออื่นออกมาพูด
แล้วสื่ออื่นอยู่ในสัมปทานของใครครับ สมัยที่ไล่ทักษิณก็มีแต่ASTVนะครับที่พูดก่อน หรือว่าไม่จริง

แต่ตอนนี้ที่รัฐใช้หลักการทูตโดยเจรจาระหว่างประเทศพยายามหลีกเลี่ยงการสู้รบเพราะไม่ส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศทั้งในเรื่องเศรษฐกิจการค้าตามแนวพรมแดน ปัญหาสังคมชาวบ้านต้องอพยพหนีตาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แย่ลงเวลาเจอหน้ากันในเวทีอาเซียนก็จะมองหน้ากันไม่ติด
หลักการฑูตของนายกฯได้ผลไหมครับ และจะมีขีดจำกัดไหมครับว่า ไทยควรยอมได้แค่ไหน ถ้ามี มีแค่ไหน ตอบด้วย

ในกลุ่มพันธมิตรฯ เช่น อาจารย์ปานเทพอาจไม่เป็นไรเพราะไม่ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ถามว่าพรรคการเมืองใหม่จะทำอย่างไรถ้ากัมพูชาประกาศตัดความสัมพันธ์ไม่คบหาด้วยในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นพรรคการเมืองอย่างมาก ซึ่งถ้ามองในแง่นี้แม้ว่าจะคิดดีต้องการปกป้องอธิปไตยแต่ทว่าการเป็นศัตรูกับกัมพูชาก็จะทำให้คนไทยที่มีผลประโยชน์กับกัมพูชาไม่เลือกพรรคการเมืองใหม่
ถ้าเลือกระหว่างผลประโยชน์ของประเทศไทยที่พธม.ออกมาสู้(กรุณาอย่าใช้ พรรคกมม. เรื่องนี้พธม.ครับ)กับเขมรตัวร้ายที่นำโดยฮุนเซ็น คนไทยที่เสียผลประโยชน์จะเลือกเขมรก็เชิญครับ คนพวกนี้ไม่ควรเรียกตัวเองว่าคนไทยนะครับ และควรไปอยู่เขมรนะครับ อย่ากลับเข้ามา รกแผ่นดินครับ

คิดว่าคนในรัฐบาลคงมองจุดนี้ว่าอยากแก้ไขโดยการเจรจามากกว่า ถ้าใช้กำลังทหารเลยคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในกระทรวงการต่างประเทศก็หมดหน้าที่แล้ว รบกันในตอนนี้มีคนตายไปสุดท้ายก็ต้องมีการเปิดโต๊ะเจรจาหาทางออกขึ้นมาอีก
สันติวิธีก็ต้องมีขีดจำกัดครับ ไม่เช่นนั้น อังกฤษไม่ยกกองทัพข้ามไปอเมริกาใต้เพื่อรบกับอาร์เจนติน่าเพื่อชิงหมู่เกาะฟอล์กแลนด์หรอก

การที่ไปบอกว่าเลวเพียงเพราะรัฐพยายามหาแนวทางเจรจาปักปันเขตแดนอย่างจริงจังคงไปว่าเลวไม่ได้หรอก
ปักปันไม่มีใครว่าหรอก ถ้ามองแล้วไม่มีเค้าว่าจะเสียดินแดน

ที่สำคัญการทำสงครามก็ต้องประกาศในรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ ดูอย่างประเทศสหรัฐฯ ที่ประกาศสงครามต่ออิรัก พรรครีพับลิกันไม่อยากถูกโดนโจมตีฝ่ายเดียวจึงต้องลากพรรคเดโมแครตมาร่วมด้วย
ไปไกลเลยพี่ ผมว่าพี่ชักเละแล้วนะ ไม่รู้จะหาเหตุผลมาสนับสนุนคำพูดตัวเองอย่างไร ถึงเอามาอย่างนี้หรือ

ถามว่าถ้ารัฐประกาศสงครามสู้กันตามแนวพรมแดนแล้วเนี่ยจะมีใครในกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าไปในกลุ่มแนวหน้าคอยรับกระสุนปืนใหญ่ จรวดอาร์พีจี กระสุนรถถังบ้าง จะใช้ตัวอักษรไม่กี่ข้อความว่า ผลักดันกัมพูชาออกไปโดยใช้กำลังทหาร ยกเลิก MOU 2543 ไม่เข้าร่วมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งมันเป็นประโยคที่ง่ายแต่ว่าการปฏิบัติจริงมันมีอะไรที่มากกว่านั้น การยกเลิก MOU 2543 ไม่เข้าร่วมคณะกรรมการมรดกโลก นั้นไทยทำได้อยู่แล้ว เพราะมีไม่มีก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัดสินอะไรได้ เพียงแต่ฝ่ายที่ให้ใช้หลัก MOU 2543 ก็เพราะต้องการให้มีการเจรจาแล้วทำการปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จ พยายามหลีกเลี่ยงการรบของทั้งสองประเทศ ถ้าสมมติว่ารัฐเลิก MOU 2543 ไม่เข้าร่วมคณะกรรมการมรดกโลกแล้ว แต่ทว่ายังไม่มีการผลักดันกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ทับซ้อนเพราะกัมพูชาก็อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตนเองมันก็ยังมีปัญหาอยู่ดี
เขมรอ้างว่าเป็นของมัน มีMOU43แล้วไล่มันได้ไหมครับ ถ้าได้ ช่วยทำให้ดูหน่อย Please

ปัญหาหลักคือ การผลักดันกัมพูชาออกไปโดยใช้กำลังทหาร เนี่ยสิที่เรียกว่าปัญหา เพราะต้องเรียกกำลังพล ต้องประกาศสงคราม ฯลฯ ซึ่งมันมีอะไรที่มากกว่าการใช้ประโยคที่กล่าวออกมา
ตอนไทยรบกับลาวที่บ้านร่มเกล้า ไม่เห็นไทยทำอย่างคุณว่าเลย เคยรู้เรื่องนี้ไหมครับ กับเขมร แค่เอาเครื่องบินโฉบเข้าไปหน่อย มันก็ถอยไปแล้ว คุณคิดว่าเขมรมีทหารที่เก่งกว่าทหารไทย1:3อย่างที่เขมรคุญหรือไง

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:


แต่ไม่ช้าก็เร็วถ้าไม่ได้ข้อยุติในการเจรจาปักปันเขตแดนอย่างแท้จริง รัฐก็ประกาศสงครามเองหละ ไม่อยากเห็นไทยต้องไปขึ้นศาลโลกอีก
อ้าว,ไม่เอาสันติวิธีอย่างเดียวหรือ อย่างนี้ก็บ้าสงครามสิ

ไม่ใช่ว่าไม่ชอบทนาย แต่ว่าการเมืองระหว่างประเทศ ข้อกฎหมายระหว่างประเทศมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านักกฎหมายเก่งๆ จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะมันมีเรื่องของผลประโยชน์ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวช้อง ใครให้ผลประโยชน์กับชาติที่ไปเกี่ยวข้องมากกว่าก็จะได้แรงสนับสนุนไป ซึ่งไทยพลาดมาแล้วในอดีตหากไม่ไปขึ้นศาลโลกแม้ว่าจะมีแรงบีบต่างๆ เข้ามาก็คงไม่ต้องเสียปราสาทพระวิหารให้กับกัมพูชาหรอก เคยฟังอาจารย์เล่าว่าไทยคงไม่เสียเขาพระวิหารให้กับกัมพูชาเพราะถ้ากัมพูชาอยากได้ก็ให้ปืนเขาขึ้นมาเอาไปเอง ซึ่งมันก็จริง เพราะเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับกัมพูชาที่จะได้ปราสาทพระวิหารไปเนื่องจากมีกำลังพลและอาวุธที่น้อยกว่า สู้ไม่ได้แน่ กัมพูชาเลยต้องอาศัยเวทีระหว่างประเทศที่ได้แรงสนับสนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝรั่งเศสเข้ามาช่วยเหลือแล้วก็ให้ศาลตัดสิน

ลองคิดดูว่าทำสงครามในตอนนี้ แม้ไทยจะมีข้อได้เปรียบในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ กำลังทหารที่มากกว่า แต่ว่าไทยก็ยังมีปัญหาแตกแยกกันในเรื่องความคิด โดยเฉพาะปัญหาทางการเมือง ที่มีม็อบออกมาอ้างว่ายังไม่มีเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ซึ่งส่งผลต่อการประกาศทำสงครามในขณะนี้เป็นอย่างมาก
เละแล้วพี่ ทหารเขาแตกแยกหรือครับ ใช้ทหารรบครับพี่ ไม่ใช่นักการเมืองไปรบ

ไม่อย่างนั้นกัมพูชาคงไม่ตัดถนน ขนคนเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนหรอก เพราะกัมพูชาเห็นว่าคนไทยกำลังสู้รบกันเองเพราะมีปัญหาแตกแยกกันในเรื่องการเมืองที่ไม่ตรงกันจึงอาศัยช่องว่างนี้ทำการรุกกินพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ
มันเข้ามาตอนทักษิณเป็นนายกฯแล้ว ข้อมูลของพี่มันเละมาก ผมหยุดแค่นี้ดีกว่า

แต่ถ้ารัฐต้องเรียกกำลังพลสำรองแล้วใครเป็นตัวตั้งตัวตีก็ช่วยไปเป็นแนวหน้าด้วยก็แล้วกัน อย่าให้คนที่เป็นทหารต้องตายฝ่ายเดียวเพราะหน้าที่หลักของพวกเขาก็ต้องปกป้องผืนแผ่นดินรักษาอำนาจอธิปไตยอยู่แล้ว คนที่ออกมาพูดว่าชายชาติเนี่ยถ้าต้องการออกรบปกป้องอธิปไตยตายไปเดี๋ยวรัฐก็ประกาศชื่อแล้วสร้างอนุสาวรีย์ให้เอง นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการต่างๆ ให้ทายาท ครอบตรัวผู้เสียชีวิตอีก

ถ้ามีสงครามจำกัดขอบเขตเกิดขึ้นไม่อยากเห็นอาจารย์ปานเทพออกมาพูดให้กำลังใจหน้าจอ ASTV คอยพูดปลุกกำลังใจอย่างเดียว เพราะอาจารย์แกอ้างว่าเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พอเห็นทหารตายไปก็ยกย่องเป็นวีรบุรุษออกหน้าจอทีวี แต่อยากเห็นอาจารย์ปานเทพออกไปเป็นแนวหน้าจับปืน ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร เพราะเคยเรียน ร.ด. จับปืนมาแล้วก็ไปรบได้เหมือนกัน ;)
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 1:02 am

saopao wrote:
asd wrote:รัฐใช้ MOU 2543 เป็นเครื่องมือในการเจรจาปักปันเขตแดนของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ข้อยุติ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญจะมีหรือไม่มีก็ได้ เพราะประเด็นจริงๆ อยู่ที่ข้อสรุปในการปักปันเขตแดน หากไม่เป็นไปตามหลักสันปันน้ำก็คงมีการโต้เถียงกันไปเรื่อยๆ คณะกรรมการมรดกโลกอาจจะตัดสินไปในทางหนึ่งทางใดที่ทำให้ประเทศเสียเปรียบ แต่ว่าที่สุดแล้วก็ต้องปักปันเขตแดนเกิดชึ้นไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นพื้นที่กรณีพิพาทกันต่อไป เพราะไม่มีการถอนกำลังของทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าว

ไม่มีใครจะไปขายชาติอะไรหรอก ไม่ใช่ว่าดู ASTV แล้วออกมาบอกว่าเนี่ยเดี๋ยวไทยจะเสียดินแดน ไม่เห็นสื่ออื่นออกมาพูด แต่ตอนนี้ที่รัฐใช้หลักการทูตโดยเจรจาระหว่างประเทศพยายามหลีกเลี่ยงการสู้รบเพราะไม่ส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศทั้งในเรื่องเศรษฐกิจการค้าตามแนวพรมแดน ปัญหาสังคมชาวบ้านต้องอพยพหนีตาย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่แย่ลงเวลาเจอหน้ากันในเวทีอาเซียนก็จะมองหน้ากันไม่ติด ในกลุ่มพันธมิตรฯ เช่น อาจารย์ปานเทพอาจไม่เป็นไรเพราะไม่ได้เข้ามาเป็นรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ถามว่าพรรคการเมืองใหม่จะทำอย่างไรถ้ากัมพูชาประกาศตัดความสัมพันธ์ไม่คบหาด้วยในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นพรรคการเมืองอย่างมาก ซึ่งถ้ามองในแง่นี้แม้ว่าจะคิดดีต้องการปกป้องอธิปไตยแต่ทว่าการเป็นศัตรูกับกัมพูชาก็จะทำให้คนไทยที่มีผลประโยชน์กับกัมพูชาไม่เลือกพรรคการเมืองใหม่

คิดว่าคนในรัฐบาลคงมองจุดนี้ว่าอยากแก้ไขโดยการเจรจามากกว่า ถ้าใช้กำลังทหารเลยคนที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในกระทรวงการต่างประเทศก็หมดหน้าที่แล้ว รบกันในตอนนี้มีคนตายไปสุดท้ายก็ต้องมีการเปิดโต๊ะเจรจาหาทางออกขึ้นมาอีก

การที่ไปบอกว่าเลวเพียงเพราะรัฐพยายามหาแนวทางเจรจาปักปันเขตแดนอย่างจริงจังคงไปว่าเลวไม่ได้หรอก ที่สำคัญการทำสงครามก็ต้องประกาศในรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ ดูอย่างประเทศสหรัฐฯ ที่ประกาศสงครามต่ออิรัก พรรครีพับลิกันไม่อยากถูกโดนโจมตีฝ่ายเดียวจึงต้องลากพรรคเดโมแครตมาร่วมด้วย

ถามว่าถ้ารัฐประกาศสงครามสู้กันตามแนวพรมแดนแล้วเนี่ยจะมีใครในกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าไปในกลุ่มแนวหน้าคอยรับกระสุนปืนใหญ่ จรวดอาร์พีจี กระสุนรถถังบ้าง จะใช้ตัวอักษรไม่กี่ข้อความว่า ผลักดันกัมพูชาออกไปโดยใช้กำลังทหาร ยกเลิก MOU 2543 ไม่เข้าร่วมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งมันเป็นประโยคที่ง่ายแต่ว่าการปฏิบัติจริงมันมีอะไรที่มากกว่านั้น การยกเลิก MOU 2543 ไม่เข้าร่วมคณะกรรมการมรดกโลก นั้นไทยทำได้อยู่แล้ว เพราะมีไม่มีก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัดสินอะไรได้ เพียงแต่ฝ่ายที่ให้ใช้หลัก MOU 2543 ก็เพราะต้องการให้มีการเจรจาแล้วทำการปักปันเขตแดนให้แล้วเสร็จ พยายามหลีกเลี่ยงการรบของทั้งสองประเทศ ถ้าสมมติว่ารัฐเลิก MOU 2543 ไม่เข้าร่วมคณะกรรมการมรดกโลกแล้ว แต่ทว่ายังไม่มีการผลักดันกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ทับซ้อนเพราะกัมพูชาก็อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตนเองมันก็ยังมีปัญหาอยู่ดี

ปัญหาหลักคือ การผลักดันกัมพูชาออกไปโดยใช้กำลังทหาร เนี่ยสิที่เรียกว่าปัญหา เพราะต้องเรียกกำลังพล ต้องประกาศสงคราม ฯลฯ ซึ่งมันมีอะไรที่มากกว่าการใช้ประโยคที่กล่าวออกมา

แต่ไม่ช้าก็เร็วถ้าไม่ได้ข้อยุติในการเจรจาปักปันเขตแดนอย่างแท้จริง รัฐก็ประกาศสงครามเองหละ ไม่อยากเห็นไทยต้องไปขึ้นศาลโลกอีก ไม่ใช่ว่าไม่ชอบทนาย แต่ว่าการเมืองระหว่างประเทศ ข้อกฎหมายระหว่างประเทศมีอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านักกฎหมายเก่งๆ จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะมันมีเรื่องของผลประโยชน์ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวช้อง ใครให้ผลประโยชน์กับชาติที่ไปเกี่ยวข้องมากกว่าก็จะได้แรงสนับสนุนไป ซึ่งไทยพลาดมาแล้วในอดีตหากไม่ไปขึ้นศาลโลกแม้ว่าจะมีแรงบีบต่างๆ เข้ามาก็คงไม่ต้องเสียปราสาทพระวิหารให้กับกัมพูชาหรอก เคยฟังอาจารย์เล่าว่าไทยคงไม่เสียเขาพระวิหารให้กับกัมพูชาเพราะถ้ากัมพูชาอยากได้ก็ให้ปืนเขาขึ้นมาเอาไปเอง ซึ่งมันก็จริง เพราะเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับกัมพูชาที่จะได้ปราสาทพระวิหารไปเนื่องจากมีกำลังพลและอาวุธที่น้อยกว่า สู้ไม่ได้แน่ กัมพูชาเลยต้องอาศัยเวทีระหว่างประเทศที่ได้แรงสนับสนุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝรั่งเศสเข้ามาช่วยเหลือแล้วก็ให้ศาลตัดสิน

ลองคิดดูว่าทำสงครามในตอนนี้ แม้ไทยจะมีข้อได้เปรียบในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ กำลังทหารที่มากกว่า แต่ว่าไทยก็ยังมีปัญหาแตกแยกกันในเรื่องความคิด โดยเฉพาะปัญหาทางการเมือง ที่มีม็อบออกมาอ้างว่ายังไม่มีเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ซึ่งส่งผลต่อการประกาศทำสงครามในขณะนี้เป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นกัมพูชาคงไม่ตัดถนน ขนคนเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนหรอก เพราะกัมพูชาเห็นว่าคนไทยกำลังสู้รบกันเองเพราะมีปัญหาแตกแยกกันในเรื่องการเมืองที่ไม่ตรงกันจึงอาศัยช่องว่างนี้ทำการรุกกินพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ

แต่ถ้ารัฐต้องเรียกกำลังพลสำรองแล้วใครเป็นตัวตั้งตัวตีก็ช่วยไปเป็นแนวหน้าด้วยก็แล้วกัน อย่าให้คนที่เป็นทหารต้องตายฝ่ายเดียวเพราะหน้าที่หลักของพวกเขาก็ต้องปกป้องผืนแผ่นดินรักษาอำนาจอธิปไตยอยู่แล้ว เพราะตายไปเดี๋ยวรัฐก็ประกาศชื่อแล้วสร้างอนุสาวรีย์ให้เอง นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการต่างๆ ให้ทายาท ครอบตรัวผู้เสียชีวิตอีก

ถ้ามีสงครามจำกัดขอบเขตเกิดขึ้นไม่อยากเห็นอาจารย์ปานเทพออกมาพูดให้กำลังใจหน้าจอ ASTV คอยพูดปลุกกำลังใจอย่างเดียว เพราะอาจารย์แกอ้างว่าเชี่ยวชาญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก พอเห็นทหารตายไปก็ยกย่องเป็นวีรบุรุษออกหน้าจอทีวี แต่อยากเห็นอาจารย์ปานเทพออกไปเป็นแนวหน้าจับปืน ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร เพราะเคยเรียน ร.ด. จับปืนมาแล้วก็ไปรบได้เหมือนกัน ;)


อืม.... คิดเหมือนกัน

เห็นคุณยกเอาข้อความจากกระทรวงการต่างประเทศมาคิดว่าความคิดจะดีกว่า ที่ไหนได้ ความคิดเละเทะแบบนี้คุณดันยอมรับ :lol: :lol: :lol:
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby saopao » Tue Dec 21, 2010 1:12 am

ถ้า finder ไม่อยากคุยกับผม
หรือว่าความคิดตัวเองดีเลิศคนเดียวแล้ว ก็ไม่ต้องคุยครับ
กระทู้นี้ผมคุยกับท่านอื่นได้

ไม่ต้องอ้าง คห.ผมแล้วนะครับ
Last edited by saopao on Tue Dec 21, 2010 1:14 am, edited 1 time in total.
Image
User avatar
saopao
Moderator
 
Posts: 2593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:21 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby saopao » Tue Dec 21, 2010 1:13 am

andoe wrote:
saopao wrote:
andoe wrote:
3.ทางไทยเลิกยึดถือ สนธิสัญญา 1904-1907และทางกัมพูชาเลิกยึดถือ แผนที่ 1:200,000....ผลก็ทางไทย-กัมพูชาจัดการพื้นที่ร่วมกัน



ผมชอบข้อนี้ เพราะไทยแทบจะได้เขมรคืนมาทั้งประเทศเลย


แหม่รู้ทัน....... :lol:
ถ้าเลือกแนวทางที่ 3 อาจจะได้พื้นที่ที่เคยสูญเสียไปดังนี้
1279100475.gif


แทบเป็นไปไม่ได้ครับ อย่าคิดมาก :lol: :lol:
Image
User avatar
saopao
Moderator
 
Posts: 2593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:21 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 1:15 am

andoe wrote:ความคิดเห็นคับ....
เรื่องปัญหา MOU 2543 ผมว่าแนวคิดเรื่องสร้างข้อตกลงเพื่อเจรจาเรื่องเส้นเขตแดนเป็นแนวคิดที่ดีครับ
...เพราะจะได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเพื่อหาข้อสรุปของปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา และไม่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดสงครามซึ่งผมยังไม่แน่ใจว่าการมีหรือไม่มีMOU 2543 จะก่อให้เกิดสงครามเพียงเท่านั้น...
แล้วตั้งแต่ศาลโลกตัดสินมาเมื่อ2505 มีอะไรไหมเล่าครับ สาเหตุมาจากเขมรอยากได้ปราสาทและพื้นที่ตลอดแนวชายแดนตามแผนที่ ทางไทยก็มีควายในกระทรวงไปยอมให้มันใช้แผนที่ ถ้าเป็นอดีตยุคอยุธยา ถ้าเขมรอยู่ในสถานภาพที่ดีกว่า มันมาตีชิงไปแล้วครับ ไม่ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมหรอก

...ซึ่งทางไทยยึดถือ สนธิสัญญา 1904-1907 ในการเจรจาปักปันเขตแดนซึ่งรวมถึงการยึด..สันปันน้ำ
...แต่ทางกัมพูชายึดถือ แผนที่ 1:200,000 เป็นหลักดันลากเส้นเกินไป...ซึ่งก็เป็นเหตุให้เกิดสงคราม พร้อมสูญเสียดินแดนได้เช่นกัน...
...และอย่าลืม TOR 2546 ด้วยนะคับ
MOUเป็นแม่ของTORครับ จึงไม่ต่างกัน

...แล้วจะแก้ปํญหายังไงกันดี
1.ทางไทยยึดถือ สนธิสัญญา 1904-1907...สำเร็จ โดยกัมพูชายอมรับ....ผลก็คือแผ่นดินเป็นของไทย...ปราสาทเป็นของกัมพูชา
2.ทางกัมพูชายึดถือ แผนที่ 1:200,000...สำเร็จ โดยไทยยอมรับ....ผลก็คือแผ่นดินเป็นของกัมพูชา...ปราสาทเป็นของกัมพูชา
3.ทางไทยเลิกยึดถือ สนธิสัญญา 1904-1907และทางกัมพูชาเลิกยึดถือ แผนที่ 1:200,000....ผลก็ทางไทย-กัมพูชาจัดการพื้นที่ร่วมกัน
4.ทางไทยยึดถือ สนธิสัญญา 1904-1907และทางกัมพูชายึดถือ แผนที่ 1:200,000....ผลอาจก่อให้เกิดสงครามหรือการใช้กำลังทหารหรือไปศาลโลกที่เคยตัดสินเบี้ยวๆกันใหม่

...ผมสรุปเองได้ว่า....สงครามน่าจะเกิดจากแนวทางที่ 4 คับ...ซึ่งไม่จำกัดว่าจะมี MOU 2543 หรือไม่

ขอสรุปบ้าง
เมื่อเลิกMOUแล้ว สถานะต่างๆก็กลับอยู่ที่เดิม ตอนหลัง2505ที่ศาลโลกตัดสิน คือเขมรจะขึ้น ต้องขออนุญาติไทย เพราะต้องผ่านแดนไทย ถ้ามันปีนหน้าผาได้ ให้มันทำ แต่อย่าล้ำออกมาจากแนวรั้วที่เราล้อมไว้เมื่อ2505นะ และถ้ามรดกโลกไม่หยุดช่วยเขมร เราก็ถอนตัว เรื่องพวกนี้มีสรุปไว้แล้ว
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 1:22 am

ppneer wrote:
finder wrote:เกริ่น
สิ้นสุดการรอคอยครับ กระทู้

[color=#0000FF]จบตอนที่3

มีตอนที่4 แต่ต้องขึ้นหน้าใหม่ เวบเพจรับตัวหนังสือไม่ไหว



เอาแบบนี้ดีกว่าครับ

อยากจะทราบว่าทำไม

2475 คณะราษณ์ถึงไม่ยอมตีขแมร์เป็นเมืองขึ้น
ก่อนหน้านั้นเราก็เคยรบกับฝรั่งเศสนะ
อนุสาวรีชัยสมรภูมิเป็นหลักฐานว่าไทยเคยเอาชนะมาแล้ว
และตอนสงครามโลกครั้งที่2 ไทยก็รุกเข้าไปเอาดินแดนที่เสีย
ให้ฝรั่งเศสคืนมาทั้งหมด แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้ เราก็ต้องถอยกลับมา
แสดงว่าไม่เคยสนใจประวัติศาสตร์ แย่จริงๆ คนไทยยุคนี้


และผมอยากจะทราบทำไมถึงมาเสียดินแดนตอนยกเลิกการปกครอง

อยากจะทราบเสียเหลือเกินงตอบได้ไม่

เซ็งมิงมาก รู้อะไรกับเขาบ้าง
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby pong_pratum » Tue Dec 21, 2010 1:50 am

finder wrote:
...ผมสรุปเองได้ว่า....สงครามน่าจะเกิดจากแนวทางที่ 4 คับ...ซึ่งไม่จำกัดว่าจะมี MOU 2543 หรือไม่
ขอสรุปบ้าง
เมื่อเลิกMOUแล้ว สถานะต่างๆก็กลับอยู่ที่เดิม ตอนหลัง2505ที่ศาลโลกตัดสิน คือเขมรจะขึ้น ต้องขออนุญาติไทย เพราะต้องผ่านแดนไทย ถ้ามันปีนหน้าผาได้ ให้มันทำ แต่อย่าล้ำออกมาจากแนวรั้วที่เราล้อมไว้เมื่อ2505นะ และถ้ามรดกโลกไม่หยุดช่วยเขมร เราก็ถอนตัว เรื่องพวกนี้มีสรุปไว้แล้ว


...ผมก็เชื่อว่า ถ้ามาร์คปุ๊คคุ้งรักชาติรักแผ่นดินจริง ก็คงหลีกเลี่ยงแนวทางทางนี้ไม่ได้ ลองมาตั้งสมมุติฐานว่า ถ้ามาร์คปุ๊คคุ้งรักชาติจริง(และใจถึงเหมือนตอนจัดการพวกเสื้อแดง) ประกาศยกเลิกMOU และเอาทุกอย่างคืนเหมือนก่อนปี2505 ทั้งพื้นที่ 4.6ตร.กม.และตัวปรามาทเขาพระวิหาร แล้ว ฮุนเซ็น จะมีปฎิกริยาอย่างไร....
ก็ยกคืนให้ไทยโดยดีสิครับ จะมีปัญญาปีนหน้าผามารบกับไทยได้ไง? ถือว่าเขมรไม่เสียอะไร เพราะเขาพระวิหารอยู่ในพื้นที่ของไทยอยู่แล้ว แลกกับรายได้ที่นักพนันไทยเอาเงินไปประเคนให้เขมรปีหนึ่งๆเป็นแสนล้าน....ก็หลายสิบปีแล้ว น่าจะคิดถึงบุญคุณกันบ้าง....
...ถ้าฮุนเซ็นงี่เง่าพูดไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องรบหรอกครับ....แค่ปิดด่านทุกด่าน ตั้งคาสิโนในฝั่งไทยให้ใหญ่กว่าฝั่งเขมร...เงินไทยไม่ไหลเข้าเขมร....ฮุนเซ็นก็ตายห้าแล้ว...(ตามด้วยอดีตนักการเมืองไทยต้นฉบับงูเห่าเจ้าของคาสิโน ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แหล่ว...) :lol: :lol: :lol: :lol:
“.....เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่ ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่ เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน...มันผู้ใดดูถูกปวงประชา มันผู้ใดไล่ล่าล้างอย่างโหดหิน เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องทั่วธรณินทร์ ทั้งแผ่นดินก็สอนสั่ง...พังบรรลัย....."
User avatar
pong_pratum
 
Posts: 929
Joined: Fri Sep 17, 2010 7:54 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby Aha » Tue Dec 21, 2010 1:55 am

โอ้...มายก๊อด
อ่านทั้งหมดแล้ว หูตาผมส่างขึ้นมากเลยครับ
ดีมากเลยครับ ผมจะใช้ความรู้นี้ ไปอธิบายต่อ
เพื่อนๆและญาติพี่น้องให้เข้าใจ เพราะสื่อทางรัฐบาล
ไม่เคยอธิบายเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้งเลยครับ....ขอบพระคูณหลายๆ ครับท่าน ฟินเดอร์
User avatar
Aha
 
Posts: 93
Joined: Tue Dec 21, 2010 1:35 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby andoe » Tue Dec 21, 2010 2:05 am

.....ถ้ายกเลิก MOU 2543 แล้วกลับไปสู่ช่วงหลังตัดสินศาลโลกแล้ว.....

และฮุนเซนหรือซกอานก็รู้ว่า
....ถ้ายกเลิก MOU 2543 แล้วแผนที่1:200,000 ยกเลิกกลับไปหาแนวเดิมตามสนธิสัญญา....
....ฮุนเซนรู้ว่าเมื่อเปรียบเทียบกำลังทหารแล้วน่าจะสู้ไม่ได้แน่นอน..............................

แล้วท่านว่าทางฮุนเซนจะใช้วิธีใดอีกคับ........
...................จะต้องมีข้อมูลมากมายไปทำไม.
ถ้าสุดท้ายแล้ว เราก็ตัดสินใจด้วย.......ความเชื่อ
User avatar
andoe
 
Posts: 290
Joined: Thu Dec 16, 2010 4:48 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby google » Tue Dec 21, 2010 9:00 am

กลับว่าวังวนเดิมๆ
ไอแผนที่ 1:200000 มันไปโผล่อยู่ตรงไหนของMOU2543หรือ??
เทียบกับTOR2546ที่เนื้อหาทั้งหมดเหมือนMOU2543แบบCtrl+Cแล้วCtrl+Pเอา
แต่มีเพิ่มไอแผนที่เจ้าปัญหานี้มาเนี่ย
แล้วจะไปยกเลิกมันทำไม เมื่อMOU2543ก็ยึดสนธิสัญญาเดิมอยู่แล้ว
ถ้าจะบอกว่ามันต้องใช้เพราะระวางดงรัก แล้วจะใช้ทำไมในเมื่อมันมีสันปันน้ำอยู่แล้ว
จะบอกว่าตัวปัญหาคือTOR2546ก็ไม่ได้ เพราะมีคนในนี้เค้าบอกมาแล้วว่ามันเน่าไปแล้ว
ไม่ต้องเอามันมาพูดถึงอีกอีก...
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby google » Tue Dec 21, 2010 9:02 am

ซ้ำอภัย
Last edited by google on Tue Dec 21, 2010 10:57 am, edited 1 time in total.
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby lynnicky » Tue Dec 21, 2010 9:46 am

มีคนชง คนรับ พร้อม
User avatar
lynnicky
 
Posts: 1086
Joined: Wed Oct 15, 2008 1:03 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby pochi » Tue Dec 21, 2010 11:50 am

Aha wrote:โอ้...มายก๊อด
อ่านทั้งหมดแล้ว หูตาผมส่างขึ้นมากเลยครับ
ดีมากเลยครับ ผมจะใช้ความรู้นี้ ไปอธิบายต่อ
เพื่อนๆและญาติพี่น้องให้เข้าใจ เพราะสื่อทางรัฐบาล
ไม่เคยอธิบายเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้งเลยครับ....ขอบพระคูณหลายๆ ครับท่าน ฟินเดอร์


ชื่อเค้าอ่านว่าฟายเด้อ ตะหาก :lol:
RT @Cake_NBC: นายกฯแจงเรื่องที่เอาหมวกถุงยางมาสวมหัว อะไรที่ทำแล้วลดปัญหาได้ ก็พร้อมทำ "เป็นศีรษะผม ไม่ใช่ศีรษะของคนอื่น" #NBT
User avatar
pochi
 
Posts: 5035
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:24 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby google » Tue Dec 21, 2010 12:02 pm

ความจริงน่ามีข้อความแบบเรื่องผีๆนะ

เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby andoe » Tue Dec 21, 2010 1:20 pm

google wrote:กลับว่าวังวนเดิมๆ
ไอแผนที่ 1:200000 มันไปโผล่อยู่ตรงไหนของMOU2543หรือ??
เทียบกับTOR2546ที่เนื้อหาทั้งหมดเหมือนMOU2543แบบCtrl+Cแล้วCtrl+Pเอา
แต่มีเพิ่มไอแผนที่เจ้าปัญหานี้มาเนี่ย
แล้วจะไปยกเลิกมันทำไม เมื่อMOU2543ก็ยึดสนธิสัญญาเดิมอยู่แล้ว
ถ้าจะบอกว่ามันต้องใช้เพราะระวางดงรัก แล้วจะใช้ทำไมในเมื่อมันมีสันปันน้ำอยู่แล้ว
จะบอกว่าตัวปัญหาคือTOR2546ก็ไม่ได้ เพราะมีคนในนี้เค้าบอกมาแล้วว่ามันเน่าไปแล้ว
ไม่ต้องเอามันมาพูดถึงอีกอีก...


ความเห็น.....
.....สนธิสัญญา 1904-1907 ผมเห็นว่าได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่ายเสร็จสินแล้ว โดยยึดสันปันน้ำกับหลักเขตทั้งหมด 73 หลักเขต...
.....ต่อมาไทยร้องขอให้ฝรั่งเศสจัดทำและพิมพ์แผนที่ทั้งหมด(แผนที่ 1:200,000) ผมยังไม่แน่ใจว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมกันเสร็จสินแล้ว จึงเป็นได้ทั้งแผนที่จริง หรือเก๊...
.....MOU 2543 ข้อ 1(ค.) เป็นการเปิดช่องทางการใช้แผนที่ไม่ว่าแผนที่นั้นจะเป็นของฝ่ายใด ตกลงกัน
.....TOR 2546 ข้อ 1.1.3 ในวงเล็บมีการระบุถึงแผนที่ 1:200,000 ซึ่งผมว่าเริ่มส่อเค้าว่ามีแนวโน้มจะใช้แผนที่ในการเจรจาแน่
.....เมื่อเร็วนี้มีการให้สภารับรองการประชุม JBC จำนวน 3 ฉบับ โดยบันทึกคำกล่าวอ้างว่า "ฝ่ายไทยรุกล้ำดินแดน" โดยเราไม่มีการโต้แย้ง จึงควรไม่รับเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน จากการอ้างกฎหมายปิดปากที่เคยเกิดมาในอดีต.....และส่อเค้าไปทางเสียเปรียบยิ่งขึ้น
......ผมว่าทีเด็ดคือการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แต่แบ่งวรรคผิดซะงั้น จึงส่งผลให้รํฐบาลขาดการเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
รวมกับการเข้ามาใช้พื้นที่ของทางกัมพูชาจริง ในพื้นที่ด้วยครับ .......ผมจึงคิดว่าถ้ารัฐบาลมีแนวโน้มว่าจะแก้ปัญหาไม่ทันการ แต่ก็ยังไม่ถึงกับการขายชาติครับ......ขอบคุณ

(30 ก.ค. 53) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
dsc00047.jpg



โฆษก พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าสำหรับกรณีเรื่องนี้ก็มีความเข้าใจผิดของบางฝ่าย ที่เข้าใจคลาดเคลื่อนว่าปัญหาส่วนหนึ่งนั้นเกิดขึ้นจากข้อผูกพันจากบันทึก ความเข้าใจสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย เมื่อปี 2543 โดยเข้าใจว่ามีความพยายามโยงว่าส่งผลต่อการยอมรับแผนที่ที่ทางกัมพูชาใช้ใน การต่อสู้คดีที่ศาลโลกเมื่อปี 2505 ซึ่งเป็นแผนที่ที่ทำโดยประเทศฝรั่งเศสคือแผนที่ 1: 200,000

“ขอยืนยันว่า MOU ปี 2543 นั้นไม่มีส่วนอื่นใดเลยที่ยืนยันการยอมรับแผนที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด ในทางกลับกัน MOU นั้น เป็นการทำให้ทางประเทศกัมพูชานั้นจำเป็นต้องยอมรับว่ากรณีรายละเอียดและการ ปักปันเขตแดนทั้งหมดนั้นจะต้องดำเนินการภายใต้คณะกรรมาธิการร่วม ภายใต้ความเห็นชอบของทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องมีการสำรวจปักปันและรับรองก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย"



...ที่ทางนักวิชาการได้มาแสดงความคิดเห็นว่ามีการอ้างถึงแผนที่ 1: 200,000 ทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์นั้น ยืนยันว่าผลผูกพันจาก MOU ปี 43 นั้นทำให้สิ่งดำเนินการทุกอย่างที่ตามมาจะต้องเป็นไปตามความเห็นพ้องต้องกัน ของคณะทำงานทั้ง 2 ฝ่าย แต่ผลหนึ่งที่มีการระบุรายละเอียดของแผนที่ 1:200,000 นั้น...

...เกิดขึ้นในการจัดทำแผนแม่บทและข้อกำหนดอำนาจหน้าที่ในการสำรวจเขตแดนร่วมเมื่อปี 2546 (TOR 2546) ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าถ้อยความเกือบทั้งหมดนั้นได้คัดลอกมาจาก MOU ปี 2543 ของรัฐบาลชวนเกือบครบถ้วนทั้งสิ้น ยกเว้นย่อหน้าเดียวคือในข้อ 1 C เดิมที่ทางรัฐบาลในขณะนั้นได้ระบุชัดเจนว่าให้อ้างอิงถึงบรรดาแผนที่ระวาง ต่างๆที่เคยมีการสำรวจ เพื่อที่จะทำให้ทางกัมพูชานั้นจำเป็นที่จะต้องถอยจากการยึดแผนที่ระวางเดียว คือระวาง 1:200,000 นั้น เมื่อมีการจัดทำแผน TOR 2546 ในรัฐบาลต่อมาในข้อเดียวกันซึ่งในบันทึกทั้งหมดนั้นก็มีการจำลองและคัดลอก ถ้อยความมาจากเอ็มโอยูปี 43 โดยสมบูรณ์ ยกเว้นข้อ1.1.3ที่มีการเพิ่มวงเล็บและมีการระบุแผนที่ระวาง 1:200,000 เป็นครั้งแรกซึ่งข้อผูกพันกับกรณีดังกล่าวนั้นแม้ ว่าจะยืนยันว่าไม่ได้มีผลเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นทั้งต่ออธิปไตยของชาติและต่อ การขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น ผมคิดว่าประเด็นที่จะต้องศึกษาผลกระทบต่อไปนั้นก็คือหากข้ออ้างหรือเหตุผล ของทางนักวิชาการหรือฝ่ายพรรคการเมืองใหม่ที่พูดถึงผลผูกพันจากการอ้างอิง ถึงแผนที่ 1:200,000 ก็อยากที่จะให้มีความชัดเจนว่าการอ้างอิงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นในปี 2543 ในสัญญาระหว่างประเทศ แต่เกิดขึ้นในปี 2546 เป็นรัฐบาลคนละชุดกันกับรัฐบาลชวน หลีกภัยในขณะนั้น”

อ้างอิง>>>http://www.democrat.or.th/th/news-activity/news/detail.php?ELEMENT_ID=5579&SECTION_ID=29
Last edited by andoe on Tue Dec 21, 2010 2:04 pm, edited 1 time in total.
...................จะต้องมีข้อมูลมากมายไปทำไม.
ถ้าสุดท้ายแล้ว เราก็ตัดสินใจด้วย.......ความเชื่อ
User avatar
andoe
 
Posts: 290
Joined: Thu Dec 16, 2010 4:48 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby google » Tue Dec 21, 2010 1:46 pm

เดิม ที่ทางรัฐบาลในขณะนั้นได้ระบุชัดเจนว่าให้อ้างอิงถึงบรรดาแผนที่ระวาง ต่างๆที่เคยมีการสำรวจ เพื่อที่จะทำให้ทางกัมพูชานั้นจำเป็นที่จะต้องถอยจากการยึดแผนที่ระวางเดียว คือระวาง 1:200,000 นั้น


เอ่อ...ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกรึเปล่า
ที่ผมQuoteใช่ประโยชน์ของMOU2543รึเปล่าเอ่ย
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby kritz » Tue Dec 21, 2010 2:05 pm

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 หลังจากศาลโลกตัดสินแล้ว 20 กว่าวัน รัฐบาลไทยโดย ถนัด คอมันตร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีหนังสือไปยัง นายอูถั่น เลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อประท้วงคำพิพากษาของศาลโลกโดยอ้างว่าคำพิพากษานั้นขัดต่อกฎหมายและความ ยุติธรรม นอกจากนี้ ยังสงวนสิทธิที่ประเทศไทยจะเรียกร้องปราสาทพระวิหารกลับคืนในอนาคตด้วย

โดยมีคำประท้วงดังนี้
ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติที่จะอ้างถึงคดีเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้นำขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยคำร้องเริ่มคดีฝ่ายเดียวของกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1959 (พ.ศ. 2502) และซึ่งศาลได้พิพากษา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) ยอมรับนับถืออธิปไตยของกัมพูชาเหนือซากของปราสาทพระวิหาร

ในแถลงการณ์เป็นทางการลงวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ. 1962 (พ.ศ. 2505) รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ประกาศต่อประชาชนแสดงความไม่เห็น พ้องด้วยกับคำพิพากษาของศาลที่กล่าวข้างต้น โดยมีเหตุผลว่า ตามความเห็นของรัฐบาล คำพิพากษาขัดต่อข้อกำหนดอันชัดแจ้งของบทที่เกี่ยวเนื่องของสนธิสัญญา ค.ศ. 1904 (พ.ศ. 2447) และ ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) และขัดต่อหลักกฎหมาย และความยุติธรรม แต่อย่างไรก็ดีรัฐบาลก็ยังแถลงว่าในฐานะที่เป็นสมาชิกสหประชาชาติรัฐบาลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะปฏิบัติตามพันธกรณีที่ตนมีอยู่ตามคำพิพากษาดังกล่าว เพื่อปฏิบัติหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ตามข้อ 94 ของกฎบัตร

ข้าพเจ้าใคร่จะแจ้งให้ท่านทราบว่า ในการตัดสินใจที่จะปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในคดี เกี่ยวกับปราสาทพระวิหารนั้น รัฐบาล ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปรารถนาที่จะตั้งข้อสงวนอันชัดแจ้งเกี่ยวกับสิทธิใด ๆ ที่ประเทศไทยมีหรืออาจมีในอนาคต เพื่อเอาปราสาทพระวิหารกลับคืนมา โดยอาศัยกระบวนการกฎหมายที่มีอยู่หรือที่จะพึงนำมาใช้ได้ในภายหลัง และตั้งข้อประท้วงต่อคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ที่ตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา”

ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงรู้สึกเป็นเกียรติที่จะแจ้งข้อความข้างต้นให้ท่านทราบ พร้อมกับขอให้ท่านแจ้งข้อความในหนังสือฉบับนี้ให้สมาชิกทั้งปวงขององค์การ นี้ทราบทั่วกันด้วย

:idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea: :idea:
I'm a PAD, not a Democrat!

Honestly is the best policy!
ประชาทนธิปไตย คลิกเบาๆ
User avatar
kritz
 
Posts: 2276
Joined: Fri Nov 07, 2008 12:52 pm
Location: ภูเก็ต

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby andoe » Tue Dec 21, 2010 2:13 pm

google wrote:
เดิม ที่ทางรัฐบาลในขณะนั้นได้ระบุชัดเจนว่าให้อ้างอิงถึงบรรดาแผนที่ระวาง ต่างๆที่เคยมีการสำรวจ เพื่อที่จะทำให้ทางกัมพูชานั้นจำเป็นที่จะต้องถอยจากการยึดแผนที่ระวางเดียว คือระวาง 1:200,000 นั้น


เอ่อ...ไม่รู้ว่าผมเข้าใจถูกรึเปล่า
ที่ผมQuoteใช่ประโยชน์ของMOU2543รึเปล่าเอ่ย


ความเห็น.....
.....สนธิสัญญา 1904-1907 ผมเห็นว่าได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่ายเสร็จสินแล้ว โดยยึดสันปันน้ำกับหลักเขตทั้งหมด 73 หลักเขต...
.....ต่อมาไทยร้องขอให้ฝรั่งเศสจัดทำและพิมพ์แผนที่ทั้งหมด(แผนที่ 1:200,000) ผมยังไม่แน่ใจว่าทั้งสองฝ่ายยินยอมกันเสร็จสินแล้ว จึงเป็นได้ทั้งแผนที่จริง หรือเก๊...
.....MOU 2543 ข้อ 1(ค.) เป็นการเปิดช่องทางการใช้แผนที่ไม่ว่าแผนที่นั้นจะเป็นของฝ่ายใด ตกลงกัน ผมว่าจะไม่ยกเลิกก็ได้ แต่ควรเพิ่มข้อความว่าจะไม่ใช้พื้นที่ 1:200,000 และการยกเลิกคงเป็นแค่ป้องกันไว้ก่อนมิได้บอกว่่า MOU 2543 มีประโยชน์หรือไม่
.....TOR 2546 ข้อ 1.1.3 ในวงเล็บมีการระบุถึงแผนที่ 1:200,000 ซึ่งผมว่าเริ่มส่อเค้าว่ามีแนวโน้มจะใช้แผนที่ในการเจรจาแน่
.....เมื่อ เร็วนี้มีการให้สภารับรองการประชุม JBC จำนวน 3 ฉบับ โดยบันทึกคำกล่าวอ้างว่า "ฝ่ายไทยรุกล้ำดินแดน" โดยเราไม่มีการโต้แย้ง จึงควรไม่รับเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน จากการอ้างกฎหมายปิดปากที่เคยเกิดมาในอดีต.....และส่อเค้าไปทางเสียเปรียบยิ่งขึ้น
......ผมว่าทีเด็ดคือการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 190 แต่แบ่งวรรคผิดซะงั้น จึงส่งผลให้รํฐบาลขาดการเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
รวม กับการเข้ามาใช้พื้นที่ของทางกัมพูชาจริง ในพื้นที่ด้วยครับ .......ผมจึงคิดว่าถ้ารัฐบาลมีแนวโน้มว่าจะแก้ปัญหาไม่ทันการ แต่ก็ยังไม่ถึงกับการขายชาติครับ......ขอบคุณสำหรับความเห็นอีกด้านคับ
Last edited by andoe on Tue Dec 21, 2010 2:29 pm, edited 1 time in total.
...................จะต้องมีข้อมูลมากมายไปทำไม.
ถ้าสุดท้ายแล้ว เราก็ตัดสินใจด้วย.......ความเชื่อ
User avatar
andoe
 
Posts: 290
Joined: Thu Dec 16, 2010 4:48 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby google » Tue Dec 21, 2010 2:28 pm

.....MOU 2543 ข้อ 1(ค.) เป็นการเปิดช่องทางการใช้แผนที่ไม่ว่าแผนที่นั้นจะเป็นของฝ่ายใด ตกลงกัน ผมว่าจะไม่ยกเลิกก็ได้ แต่ควรเพิ่มข้อความว่าจะไม่ใช้พื้นที่ 1:200,000 และการยกเลิกคงเป็นแค่ป้องกันไว้ก่อนมิได้บอกว่่า MOU 2543 มีประโยชน์หรือไม่


คือมีคนบอกมาอีกแหละ ลองไปหาๆกระทู้เก่าๆดู
เค้าบอกมาว่าไอแผนที่ 1:200000 เนี่ยศาลโลกเค้าไม่รับรอง และเป็นแผนที่ที่ไม่ได้เกิดมาจาก
คณะกรรมการปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับอินโดจีน มันไม่เข้าเงื่อนไขข้อ ค.อยู่แล้ว
ลองเอาMOU2543ไปอ่านดู viewtopic.php?f=2&t=26937
เมื่อไม่เข้าเงื่อนไขและศาลโลกไม่รับรองแสดงว่าแผนที่เน๊ยมันไม่มีค่าอะไรทำไมต้องไปใส่ไว้ในMOU2543ด้วยหละ
แต่รัฐบาลทักกี้ดันไปทำTOR2546แล้วยัดไอแผนที่นี้เข้าไปทำให้ไอแผนที่เน๊ยมันมีค่าขึ้นมา
งานเข้าเลยทีนี้
User avatar
google
 
Posts: 1339
Joined: Sat Apr 03, 2010 11:36 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby andoe » Tue Dec 21, 2010 2:41 pm

.........ครับคำตัดสินศาลโลกไม่ได้รับรองใดๆกับแผนที่ 1:200,000 ก็ไม่วินิจฉัยยกเลิกเช่นกัน
ผม....จึงตั้งคำถามว่าแผนที่ 1:200,000 จริงหรือแก๊กันแน่? จึงพยายามหาว่าแผนที่จะสมบูรณ์นั้นควรมีองค์ประกอบจากอะไร ?
โดยลองค้นหาดู...ได้ว่า
เก๊ชัวร์ 100% เพราะหลังจากฝรั่งเศสส่งแผนที่มาไทยยังไม่มีการเซ็นชื่อรับรอง และกรรมการร่วมสูญสลายไปแล้ว
อาจจะเป็นแผ่นที่จริง เพราะสยามเป็นผู้ขอให้จัดทำขึ้นมาเอง และรัฐบาลสยามได้รับเอาแผนที่นั้นมาใช้ โดยมิได้โต้แย้งเรื่องนี้เลย ก็ถือว่ายอมรับไปแล้ว

.....ไม่แน่ใจว่าแผนที่นั้นจะตัดสินกันด้วยอะไรคับ ระหว่างลายเซ็น หรือ พฤติกรรมของสยามกันแน่
...................จะต้องมีข้อมูลมากมายไปทำไม.
ถ้าสุดท้ายแล้ว เราก็ตัดสินใจด้วย.......ความเชื่อ
User avatar
andoe
 
Posts: 290
Joined: Thu Dec 16, 2010 4:48 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby andoe » Tue Dec 21, 2010 6:36 pm

....ขอความเห็นจากทุกท่านครับ.....

สมมุติฐาน: แนวทางการแก้ไขของรัฐบาล"กรณีปราสาทพระวิหารและพื้นที่ 4.6 ตร.กม."เป็นดังนี้

...1.ยึด ถือ MOU 2543 ตามเดิมโดยทางฝ่ายไทยยังยึด สนธิสัญญาไทย-ฝรั่งเศส 1904-1907 โดยยึดถืออย่างมุ่งมั่น(ปัญหาน่าจะคือการแสดงออกถึง"อย่างมุ่งมั่น"ของ รัฐบาลในปัจจุบัน)
...2.เจรจาเรื่องนี้กับฝ่ายกัมพูชาที่ยืนยันแผนที่ 1:200,000 ตามเดิมอย่างมุ่งมั่น(อันนี้คงไม่มีปัญหาเรื่องความมุ่งมั่นของกัมพูชา)
...3.ฝ่ายไทยไม่ยินยอม และเขมรก็ไม่ยินยอมเช่นกัน จึงนำเรื่องนี้สู่ศาลโลกอีกครั้ง

....ถ้ากระบวนการแก้ปัญหาเป็นอย่างที่กล่าวมา ทุกคนคิดว่ามีข้อดี ข้อเสีย ได้เปรียบหรือเสืยเปรียบ อย่างไรครับ
...................จะต้องมีข้อมูลมากมายไปทำไม.
ถ้าสุดท้ายแล้ว เราก็ตัดสินใจด้วย.......ความเชื่อ
User avatar
andoe
 
Posts: 290
Joined: Thu Dec 16, 2010 4:48 am

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 9:22 pm

antiseptic wrote:ขนาดนายกฯบอกเหตุผลแล้วว่าไม่มีการยอมรับระวางดงรักใน mou 43
ก็ยังมีคนไม่เข้าใจ


แล้วคุณไม่อ่านที่ผมโพสท์ไว้ละ่ว่า

นายกฯยอมรับว่ามีพิ้นที่ทับซ้อน

ชอบฟังนายกฯ แต่ทำไมไม่ได้ยินนายกฯพูดประโยคนี้ครับ
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 10:49 pm

saopao wrote:
ขอบคุณครับที่เอาข้อมูลมาแย้ง เอาเป็นว่า ผมอ่านแล้วยอมรับว่ามีเหตุผล
ตามที่อ้างมา แต่ปัญหาคือ คำอธิบายนี้ไม่มีอยู่ในหนังสือเล่มที่ว่า แต่ผมก็ไม่ติดใจ
แต่ข้อความของคุณก็ไม่ได้ยืนยันว่า จะไม่ใช้กับกรณีไทย-กัมพูชานะครับ


ตอบ
- ข้อนี้นะครับ ผมเห็นว่าเป็นเอกสารเก่าในช่วงรัฐบาลเก่า ที่มีนโยบายคนละแบบกับรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งปัจจุบันน่าจะไม่มีเอกสารแบบเดียวกันนี้กับเขมร
- มันเป็นเอกสารในกรณีไทยกับ-ลาว ซึ่งถ้าตามแผนที่ 1:200000 ไทยได้ประโยชน์ในจุดนี้ (จริงๆข้อพิพาท เรื่องนี้ ไทยยึด 1:200000 กับ L7017 แต่ลาว ยึด L708 ซึ่งก็เป็นแผนที่ของไทยแต่ยกเลิกไปแล้ว )
- มันเป็นเอกสารภายในไม่ได้ผูกพันกับประเทศคู่กรณี และเอามาเผยแพร่ได้มั๊ยผมว่าไมควร ถ้าทางเขมรมีข้อมูลนี้มันจะเอามาอ้างได้มั๊ย...ไม่รู้ แต่มันคนละประเทศ
- เอกสาร น่าจะเป็นเป็นร้อยหน้า แต่เอามาอ่านแค่ 2 วรรค ผมก็แน่ใจว่าคุณไม่รู้ว่ามีอะไรในนั้นบ้าง และ มีข้อมูลที่ผมเอามาแย้งรึเปล่า

เมื่อวานผมลืมไป เห็นว่าดึกแล้ว จึงรีบโพสท์ เพื่อไปนอน ทำให้ลืมรายละเอียดในเอกสารไทย-ลาว ข้างล่าง

(1)เนื่องจากแผนที่ชุดนี้เป็นผล งานของคณะกรรมการปักปันเขตแดนฯ ชุดที่ 1 ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามสนธิสัญญาปี ค.ศ. 1904 ดังนั้นส่วนใหญ่ของแผนที่ชุดนี้ (จำนวน 9 ระวาง) จึงแสดงเส้นเขตแดนตามสนธิสัญญาและความตกลงฉบับปี ค.ศ. 1904 ซึ่งยังมีผลใช้บังคับอยู่จนถึงปัจจุบัน เพียง 6 ระวาง (ระวางเมืองคอบและเชียงล้อม / ระวางลำน้ำต่างๆ ทางภาคเหนือ/ ระวางเมืองน่าน/ ระวางจำปาสัก/ ระวางโขง/ และ “ระวางดงรัก”)

คุณจะตอบในส่วนนี้อย่างไรครับ


เพราะมันยืนยันว่ากระทรวงการต่างประเทศเห็นว่าแผนที่เป็นผลจากการปักปันเขตแดนและรวมถึงระวางดงรักด้วย
ผมจะขอถามดังนี้
1.แผนที่ระวางดงรักที่ผิดสนธิสัญญาที่ไทยหรือแม้แต่ศาลโลกก็ไม่รับรอง ดังคุณว่ามา
การที่เราเอามาไว้ในMOU43 เท่ากับยอมรับให้เขมรเอามาอ้างในการจัดทำหลักเขตได้ใช่หรือไม่
-ถ้าตอบว่า"ใช่ แต่ไทยไม่ยอมรับ"
ก็ถามกลับว่า ถ้าไม่ยอมรับจริง ก็ควรไม่ยอมให้มีอยู่ในMOU43ตั้งแต่ต้นแล้ว ถูกต้องไหมครับ
ถ้าผมเป็นเขมร ผมก็ต้องใช้อ้างแน่นอน ผมมีคนของผมอยู่ในพื้นที่,มีวัด,มีกำลังทหาร,
มีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่ิพาท เพราะผมสามารถใช้อำนาจสั่งขับไล่ให้คนไทยออกจากพื้นที่ได้
หรือจับมาพิพากษาได้ตามกฎหมายเขมร แม้แต่ญี่ปุ่นยังให้ทุนสร้างสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่นี้
เท่ากับมีต่างชาติรับรู้อำนาจอธิปไตยของผม และเขาก็ยอมรับด้วย จึงให้เงินมาสร้างสิ่งปลูกสร้าง
ทั้งหมดนี้ชี้ว่าเขมรมีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่นี้แล้วโดยพฤตินัย รอเพียงให้ขึ้นมรดกโลกได้
ก็จะได้โดยนิตินัย เพราะมีองค์กรระหว่างประเทศรับรู้



- MOU43 ของไทย-กัมพูชา เนื้อหาใกล้เคียงกันกับ MOU39 ของไทย-ลาว มากกว่า เพราะใช้สนธิสัญญา และแผนที่ชุดเดียวกัน (ที่คุณว่าลอกมาจาก MOU ของมาเลเซียผมว่าไม่ใช่)
- http://www.mfa.go.th/190/laos/laos.php แปะลิ้งค์คณะ JBC ไทย-ลาว มีข้อมูลเรื่องนี้
คุณเข้าใจผิด ที่ผมจะสื่อคือ ไทย-มาเลย์ถูกใช้เป็นรูปแบบในการโกงกิน ด้วยการปิดช่องไม่ให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการเจรจาต่างๆที่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ได้ต้องการบอกว่า เป็นต้นแบบในการทำMOU43

- ที่มี แผนที่ 1:200000 ทั้งหลาย (เน้นว่าทั้งหลาย เติม S )ใน MOU 43 เหตุผลนึงคิดว่าทำเหมือนกับที่ทำ MOU39 กับลาวตามที่บอกไว้ข้างต้น
- และอีกอย่างคือ MOU43 ไม่ได้ทำแค่เขตเขาพระวิหาร แต่ หมายถึงตลอดแนวพรมแดน ในภาพรวมจึงอ้างสนธิสัญญา และ แผนที่ทั้งหลาย(น่าจะ 5 ระวางครึ่ง)ไว้ก่อนคร่าวๆ
ตรงเขาพระวิหารเขาใช้สันปันน้ำเป็นเส้นเขตแดนมาตั้งแต่1904 ถ้าจะปักปันใหม่ ควรไปทำที่อื่น ที่ไม่มีเส้นแบ่งเขตชัดเจนทางธรรมชาติ ตรงบริเวณนี้ควรข้ามไปครับ แต่นี่กลับต้องมาหาใหม่ พร้อมๆกับ
-การขึ้นทะเบียนมรดกโลก
-แก้มาตรา190เข้าสภา
-กรอบJBCเข้าสภา
มันไม่บังเอิญจนน่าเกลียดไปหน่อยหรือครับ


- อีกอย่างนึงที่อยากจะบอกคือ เขมร ก็ไม่ได้อ้างแค่แผนที่ 1:200000 หรอก แต่อ้างแผนที่ 1:50,000 ด้วย (L7016) และมีปัญหาเพราะ เส้นเขตแดนทับซ้อน กับแผนที่ L7017 ของไทย
แผนที่ฉบับอื่น เขายอมรับ (ตามที่คุณโพสท์มา) ก็เพราะมันไม่มีอะไรมาเถียง
แต่1:200,000ไทยรับรองไว้ในMOU43
คุณเคยเห็นเขมรลดลาวาศอกให้ไทยไหมครับ


- ลิ้งค์ตัวอย่างแผนที่ L7016 ของเขมร http://cambodiamaps.blogspot.com/2010/12/l7016-150000-us-military-maps.html (ไม่ต้องหาระวางเขาพระวิหารเพราะมันไม่มีข้อมูลในนั้น อีกอย่างกรมแผนที่ทหารมีขาย)
- แผนที่ทางการของเขมรคือ L7016 1:50,000 และแผนที่ทางการของเขมรคือ L7017 1:50,000 เส้นเขตแดนสองฉบับเนี้ยมันไม่ตรงกัน เพราะมันทำคนละที มันเลยมีปัญหาการลุกล้ำพื้นที่ตามาภายหลัง ถึงต้องทำ MOU43 ขึ้นมาเพื่อสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนใหม่ ให้เข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหากันต่อไป (ไม่งั้นถ้าอ้างเฉพาะสันปันน้ำๆๆๆ ก็ไม่รู้พิกัดอยู่ดีอ่ะว่า เส้นรุ้งเส้นแวงไหน)
ทำใหม่ไม่มีใครว่าครับ ผมพูดหลายครั้งแล้วว่า
ถ้าจะทำใหม่ให้เหมือนเมื่อ1904และ1907 ก็ควรใช้สนธิสัญญา2ฉบับนี้เท่านั้น
ไม่ควรเอาแผนที่เข้ามาด้วย
เพราะมันไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องตั้งแต่คราวนั้น แล้วจะให้เข้ามาเกี่ยวในคราวนี้ได้ไงครับ
แค่เอาแผนที่ออกไป และทำให้สภาพบนปราสาทเหมือนตอนหลังศาลโลกตัดสินตอน2505
พธม.เขาก็โอเคแล้ว แค่นี้รัฐบาลทำไมไม่ยอมทำ
เกรงใจเขมร แต่ไม่เกรงใจคนไทยที่เดือดร้อนที่อยู่ในพื้นที่หรือครับ
อย่าอ้างว่าแค่เอามาใช้เหมือนแผนที่ทั่วๆไป ถ้าอย่างนั้นก็ควรเอาแผนที่ของไทยใส่ลงไปแล้วอ้างต่อว่าเป็นแผนที่ที่เกิดจากการปักปันเมื่อ1904และ1907เหมือนกับที่อ้างให้แผนที่1:200,000อย่างนี้ค่อยยุติธรรม :mrgreen:


- เพื่อสำรวจเขตแดน จึงต้องย้อนไป ร้อยปีก่อนที่เราจัดการแบ่งประเทศกับฝรั่งเศสมีสนธิสัญญาขึ้นมาที่ทำร่วมกันแค่นั้น
นั่นสิ อย่างที่บอกไว้ข้างต้น แล้วเอาแผนที่มาทำไม

- การเสียดินแดนโดยพฤตินัยอะไรก็ตามนั้น ก็สามารถแก้ได้โดยการสำรวจเขตแดนที่แน่นอน ตามหลักสนธิสัญญาที่มีหลักฐานว่ายอมรับทั้งสองฝ่าย
คุณไม่เห็นข้อความที่ผมโพสท์หรือครับ
เขมรจะเอาปราสาทตามแนวชายแดนไทยทั้งหมด
ถ้ามันเชื่อสนธิสัญญา แล้วทำไมตอนนี้ ไทยประท้วงไป10กว่าครั้ง
ทำไมมันไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในMOU43


- MOu43 ไม่ใช่ยาวิเศษมาจากไหน มันก็แค่กระบวนการปกติที่ต้องทำอยู่แล้วเพื่อให้ได้มาซึ่งแนวเขตแดนที่แน่นอน
หลังจากที่เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกสำเร็จ ถ้ามันอ้างว่า" นี่ไง นานาชาติยอมรับแล้วว่าพื้นที่รอบปราสาทเป็นของมัน" อย่างที่มันพูดให้คนทั้งโลกแม้แต่คนไทยก็ได้ยินเป็นประจำ อภิสิทธิ์จะทำอย่างไรครับ อย่าลืมว่ามีอีก6ชาติเข้าร่วมบริหารนะครับ
ปัญหาจะยิ่งแก้ยากใช่ไหมครับ ถ้าคุณต้องทำสงครามตอนนั้น คุณสู้ไหวไหมครับ
การหาเขตแดนที่แน่นอน ก็ควรใช้อุปกรณ์ในการปักปันชุดเดิม คือสนธิสัญญาทั้1904และ1907 เท่านั้น
อย่าดูถูกMOU43นะครับ ก็MOU22ไทย-มาเลย์ ก็ทำให้การผลประโยชน์ทางทะเลลงตัวมาแล้ว
เห็นไหมครับ มีคำว่า ผลประโยชน์ เข้ามาเกี่ยวข้อง


- การนำ แผนที่ 1:200000 เข้ามา ก็เพียงนำมาพิจาณา ร่วมกับสมธิสัญญา ครับ เพราะสิ่งที่อยู่ในแผนที่ นอกจาก เส้นเขตแดนแล้วยังมี ชื่อทางภูมิศาสตร์ ถนน ทางระบายน้ำ ระดับความสูง ภูเขา และรายละเอียดภูมิศาสตร์อื่นๆด้วย
อย่าอ้างว่าแค่เอามาใช้เหมือนแผนที่ทั่วๆไป ถ้าอย่างนั้นก็ควรเอาแผนที่ของไทยใส่ลงไปแล้วอ้างต่อว่าเป็นแผนที่ที่เกิดจากการปักปันเมื่อ1904และ1907เหมือนกับที่อ้างให้แผนที่1:200,000อย่างนี้ค่อยยุติธรรม :mrgreen:
ชื่อทางภูมิศาสตร์ต่างๆ ต้องถามคนในพิ้นที่ครับ เขาถึงให้ทำประชาพิจารณ์ อ่านที่อ.ศรีศักรพูดสิครับ
"แล้วไม่ใช่มองเฉพาะแผนที่ ต้องเดินดู แล้วต้องมีประชาพิจารณ์ทุกขั้นตอน โดยเฉพาะคนที่เป็น local stake holder(ผู้มีส่วนได้-เสียในพื้นที่) ต้องรับรู้ แต่ที่ทำขณะนี้ เจบีซีที่ทำ ประชาชนไม่รับรู้เลย แล้วก็จัดฉาก ใครจัดฉาก กระทรวงต่างประเทศ พวกผมยังไม่รู้เขาทำเจบีซีไปถึงไหนแล้ว คนท้องถิ่นก็ไม่รู้ นี่คือความผิด ผิดเจตนารมณ์ คุณกำลังงุบงิบทำกัน ไม่ต่างอะไรที่ว่าทำกันไม่กี่คน
เห็นไหมครับ นักวิชาการยังไม่รู้เรื่องเลย มันงุบงิบเหมือนMOU22 ไทย-มาเลย์อย่างผมว่าไหมล่ะ :mrgreen: :mrgreen: :mrgreen:


- ส่วนเส้นเขตแดนในแผนที่นั้น ในการสำรวจไม่เอามาพิจารณาครับ ตามที่กระทรวงต่างประเทศได้แถลง http://www.ryt9.com/s/mfa/481023
งั้นรับรองว่าเป็นแผนที่ที่เกิดจากสนธิสัญญาและใส่รับรองไว้ในMOU43ทำไม
กระทรวงต่างประเทศพูดกับทำเหมือนกันไหมล่ะ นายกฯยังเปลี่ยนคำพูด
(ตอนนี้บอกว่า มีทื้นที่ทับซ้อนแล้ว)และตระบัดสัตย์เลยครับ



-ถ้าตอบว่า "ไม่ใช่" แล้วนายกฯทำไมเปลี่ยนตรรกะจากMAPมีS มาเป็นยอมรับว่า
มีพื้นที่ทับซ้อน ตามผลของสนธิสัญญาและแผนที่ทัซ้อนกัน


- ตอบง่ายๆเลยว่าผมไม่มีข้อมูลเรื่องนายกเปลียนตรรกะจากMAPมีS มาเป็นยอมรับว่ามีพื้นที่ทับซ้อน ตามผลของสนธิสัญญาและแผนที่ทับซ้อนกัน
แต่ผมมี ตัดมาให้ดูเฉพาะที่เกี่ยวข้อง
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000104035
ความแตกต่างในเรื่องบันทึกความ เข้าใจว่าด้วยการสำรวจและปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา ในปี พ.ศ. 2542 หรือ MOU 2543 นั้นภาคประชาชนเห็นว่าควรยกเลิกเพราะเป็นการอ้างอิงแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ทำให้ไทยเสียเปรียบเพราะทำให้พื้นที่ดินแดนไทยหลังขอบสันปันน้ำกลายเป็น พื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชา จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งในอนาคตโดยเฉพาะเมื่อตกอยู่ในมือรัฐบาล นักการเมือง และข้าราชการชั่ว

ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเห็นว่า MOU 2543 คือการนำแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ซึ่งฝรั่งเศสจัดทำขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียวและกัมพูชายึดถือมาโดยตลอดนั้น ได้กลายเป็นพื้นที่ทับซ้อน จึง ถือว่าเป็นผลสำเร็จของรัฐบาลในยุคนั้นเพราะได้ทำให้ฝ่ายกัมพูชาไม่ยึดถือ เขตแดนตามแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 แต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

ถือเป็นเหตุผลใหม่หลังกรณี ตรรกะ Maps มี S ของนายอภิสิทธิ์นั้นหมายถึงแผนที่มีหลายฉบับและหลายระวาง บางระวางได้เปรียบก็ยอมรับ บางระวางเสียเปรียบก็ไม่ยอมรับ ซึ่งตรงกันข้ามกับเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศซึ่งระบุอย่างชัดเจน ว่า แผนที่ซึ่งจัดทำโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียวนั้นไม่ได้ยกเว้นในระวางไหนเลย ไม่เว้นแม้แต่ระวางดงรักรอบปราสาทพระวิหาร


- คำำพูดของคุณที่ว่า พื้นที่ทับซ้อนตามผลของสนธิสัญญาคืออะไร ???
ระหว่างสนธสัญญาและแผนที่ไงครับ

- ส่วนเส้นเขตแดนในแผนที่ทับซ้อนกันอยู่แล้วเพราะใช้คนละฉบับ ทำคนละที ไม่งั้นจะมีปัญหาการลุกล้ำหรือ (ตามที่บอกไว้ข้างต้น)
เขมรแถลงข่าวทีไร ก็อ้างอิงแนวทางของแผนที่1:200,000ทุกครั้งนะครับ โดยอ้างว่าศาลโลกรับรองด้วย คุณไม่ได้อ่านหรือ

2.ถ้าเขมรไม่ยอมออกไปตามที่ไทยประท้วง ถึงขั้นไหนครับ ที่นายกฯจะบอกว่าอย่างนี้เราต้องใช้กำลังทหารแล้ว

-ผมคิดว่าจะใช้กำลังทหารเมื่อใช้การเจรจาทางการทูตแล้วไม่ได้ผลครับ แต่ตอนนี้เรื่องการเจรจายังแค่เริ่มเท่านั้น เอกสารยังกองอยุ่บนโต๊ะเจรจาครับ

การรุกเข้ามาของเขมร เป็นการรุกทางอธิปไตย ไม่ใช่การปรับสภาพภูมิประเทศ ตามข้อ5.ในMOU จึงอาศัยการประท้วงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ถ้าไม่อยากใช้ทหาร ก็สามารถหยุดการเจรจา และล้มเลิกMOU43ไปเลย เพื่อจะไทยก็จะได้ไม่ต้องติดอยู่กับกับดักข้อ5.
เมื่อเขมรไม่ยอมทำตามข้อตกลง จะมีประโยชน์อะไรที่ไทยจะปฏิบัติอยู่ข้างเดียว เพียงเพื่อให้เขมรได้เปรียบและไทยเสียเปรียบอยู่ตลอดเวลา
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 10:58 pm

saopao wrote:
finder wrote:แผนที่ที่คุณอ้างมา มีฉบับใดถูกใส่เข้ามาในMOU43ไหมครับ ถ้าไม่มี ก็ไม่ควรใช้กำหนดเส้นเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว

แต่1:200,000ถูกกำหนดอยู่ในMOU43นะครับ เงื่อนไขไม่เหมือนกัน เอามาอ้างเปรียบเทียบไม่ได้ครับ



นี่คือขั้นตอนการทำงานในการหาแนวเขตแดนครับ
การสำรวจคือการหาแนวเขตแดนจากพื้นที่จริงครับไม่ใช่หาเขตแดนตามแผนที่

จึงไม่มีการอ้างแนวเขตแดนในแผนที่อยู่แล้วไม่ว่าจะแผนที่ใดก็ตาม

ถ้าเป็นอย่างคุณว่า

ใส่แผนที่1:200,000เข้าไปทำไมครับ
เขาคงไม่ใส่เข้าไปโก้ๆหรอกนะครับ
และยังอ้างว่าเกิดจากการปักปันเมื่อ1904และ1907
อย่างนี้ยังจะมาอ้างว่าเหมือนแผนที่ธรรมดาทั่วไปได้หรือครับ
อย่างนั้นแล้ว ทำไมแผนที่ฉบับอื่นที่คุณอ้างว่าก็มีใช้อยู่ด้วย
ทำไมไม่ได้รับการรับรองอย่างนี้ครับ
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 11:06 pm

saopao wrote:ถ้า finder ไม่อยากคุยกับผม
หรือว่าความคิดตัวเองดีเลิศคนเดียวแล้ว ก็ไม่ต้องคุยครับ
กระทู้นี้ผมคุยกับท่านอื่นได้

ไม่ต้องอ้าง คห.ผมแล้วนะครับ

อ้าว,อย่าเพิ่งน้อยใจครับ ผมแค่แซวเล่น :mrgreen:
ถ้าคุณตามการโพสท์ของผม ผมจะไม่เชียร์ความเห็นลักษณะพูดวนเวียน
เดี๋ยวว่าอย่างนี้ดี เดี๋ยวก็ว่าไม่ดีละ โดยไม่มีเหตุผลประกอบ
แต่เอาความคิดของตนเองในขณะนั้นมาตัดสิน ดังที่คุณเชียร์
จุดยืนผมในเรื่องใดเป็นอย่างไร ผมก็โพสท์เช่นนั้นตลอด
ถ้ามีเหตุผล ผมก็ยอมรับได้เป็นกรณีไป
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 11:19 pm

pong_pratum wrote:
finder wrote:
...ผมสรุปเองได้ว่า....สงครามน่าจะเกิดจากแนวทางที่ 4 คับ...ซึ่งไม่จำกัดว่าจะมี MOU 2543 หรือไม่
ขอสรุปบ้าง
เมื่อเลิกMOUแล้ว สถานะต่างๆก็กลับอยู่ที่เดิม ตอนหลัง2505ที่ศาลโลกตัดสิน คือเขมรจะขึ้น ต้องขออนุญาติไทย เพราะต้องผ่านแดนไทย ถ้ามันปีนหน้าผาได้ ให้มันทำ แต่อย่าล้ำออกมาจากแนวรั้วที่เราล้อมไว้เมื่อ2505นะ และถ้ามรดกโลกไม่หยุดช่วยเขมร เราก็ถอนตัว เรื่องพวกนี้มีสรุปไว้แล้ว


...ผมก็เชื่อว่า ถ้ามาร์คปุ๊คคุ้งรักชาติรักแผ่นดินจริง ก็คงหลีกเลี่ยงแนวทางทางนี้ไม่ได้ ลองมาตั้งสมมุติฐานว่า ถ้ามาร์คปุ๊คคุ้งรักชาติจริง(และใจถึงเหมือนตอนจัดการพวกเสื้อแดง) ประกาศยกเลิกMOU และเอาทุกอย่างคืนเหมือนก่อนปี2505 ทั้งพื้นที่ 4.6ตร.กม.และตัวปรามาทเขาพระวิหาร แล้ว ฮุนเซ็น จะมีปฎิกริยาอย่างไร....
ก็ยกคืนให้ไทยโดยดีสิครับ จะมีปัญญาปีนหน้าผามารบกับไทยได้ไง? ถือว่าเขมรไม่เสียอะไร เพราะเขาพระวิหารอยู่ในพื้นที่ของไทยอยู่แล้ว แลกกับรายได้ที่นักพนันไทยเอาเงินไปประเคนให้เขมรปีหนึ่งๆเป็นแสนล้าน....ก็หลายสิบปีแล้ว น่าจะคิดถึงบุญคุณกันบ้าง....
...ถ้าฮุนเซ็นงี่เง่าพูดไม่รู้เรื่อง ไม่ต้องรบหรอกครับ....แค่ปิดด่านทุกด่าน ตั้งคาสิโนในฝั่งไทยให้ใหญ่กว่าฝั่งเขมร...เงินไทยไม่ไหลเข้าเขมร....ฮุนเซ็นก็ตายห้าแล้ว...(ตามด้วยอดีตนักการเมืองไทยต้นฉบับงูเห่าเจ้าของคาสิโน ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แหล่ว...) :lol: :lol: :lol: :lol:


ก็เพราะไอ้พวกนักธุรกิจทั้งไทยและเทศที่มีประโยชน์อยู่หรือหวังประโยชน์จากไทยและเขมรนี่แหละที่อยู่เบื้องหลังในการใช้MOUเพื่อให้ไทยเสียดินแดนให้ได้ เพื่อหวังไปคุยกับเขมร(ฮูนเซ็น) เพราะคุยง่ายกว่า

ใช่ครับ ถ้าเขมรซ่ามากๆก็ปิดด่านชายแดนเสียอย่างที่ผมโพสท์ไว้ในกระทู้ที่มาแปะให้อ่านกัน พอคนเขมรเดือดร้อน ทหารในกองทัพที่เปราะบางของมันก็อาจจับฮุนเซ็นไปยิงทิ้งเอง เพราะความซ่าของมันทำให้คนเขมรลำบาก

วิธีนี้ โจโฉใช้จับตัวลิโป้มาแล้ว

อ่าน สามก๊ก แล้ว รู้จักเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์สิครับ

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby phat » Tue Dec 21, 2010 11:25 pm

Image
ไอ้พรรค ปชป พท ภท พถ ชทพ ปชรและพวกในสภามันเลวหมด ถึงเวลาปฏิรูปนักการเมืองไทย!!!
ace combat +sky crawler
http://www.acecombat.jp
http://www.bandainamcogames.co.jp/cs/list/sky_crawlers/
http://www.amy.hi-ho.ne.jp/tommy-ohtsuka/jpg/rescue03.jpg
User avatar
phat
 
Posts: 3070
Joined: Fri Dec 17, 2010 12:35 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby finder » Tue Dec 21, 2010 11:35 pm

Aha wrote:โอ้...มายก๊อด
อ่านทั้งหมดแล้ว หูตาผมส่างขึ้นมากเลยครับ
ดีมากเลยครับ ผมจะใช้ความรู้นี้ ไปอธิบายต่อ
เพื่อนๆและญาติพี่น้องให้เข้าใจ เพราะสื่อทางรัฐบาล
ไม่เคยอธิบายเรื่องนี้อย่างแจ่มแจ้งเลยครับ....ขอบพระคูณหลายๆ ครับท่าน ฟินเดอร์


ด้วยความยินดีครับ ผมทำขึ้นมาอย่างยากลำบากก็เพื่อให้คนอย่างคุณ"Aha"และอีกหลายๆท่านที่ดูแต่สื่อทั่วไปได้เห็นความจริงอีกด้านแล้วเปรียบเทียบกับข้อมุลของรัฐบาล

ถ้าท่านเห็นว่ามีหลายอย่างที่ท่านไม่เคยทราบจากรัฐบาล แสดงว่ารัฐบาลกำลังปกปิดท่านอยู่ เพราะเรื่องนี้พธม.ได้พูดมานานพอสมควรแล้ว ถ้ารัฐบาลเห็นว่าตนเองมีข้อมูลถูกต้อง ก็ควรเอามาแสดงให้ประชาชนได้รู้เห็นความจริงทั้งหมดและตอบข้อข้องใจของพธม.ให้เคลียร์ เพื่อปิดกั้นการหาแนวร่วมของพธม.

แต่กลับเป็นว่า รัฐบาลมีข้อสงสัยที่ตอบไม่ได้มากมาย ข้อเท็จจริงต่างๆก็ล้วนผลุดออกมาจากฝ่ายพธม.ตลอดเวลา ทำให้ผมคิดถึงสมัยทักษิณ มันก็ใช้วิธีคุมสื่ออย่างนี้ เพื่อให้ประชาชนรับข้อมูลจากมันเพียงด้านเดียว มีแต่ASTVเท่านั้นที่ยืนหยัดสู้กับมัน และในตอนนี้ก็เช่นกัน ASTVก็ยังยืนหยัดทำอย่างเดียวกัน

คิดเองก็แล้วกันว่า จุดยืนของASTVและพธม.เปลี่ยนไปจริงหรือไม่
ดังที่คนเชียร์ปชป.ในเวบนี้ใส่ร้าย

หรือคนที่บอกว่าเคยเป็นพธม.แต่ตอนนี้เชียร์ปชป.อยู่ในเวบนี้
มีจุดยืนเปลี่ยนไปกันแน่
User avatar
finder
 
Posts: 3547
Joined: Fri Jun 11, 2010 8:26 pm

Re: รัฐบาลอภิสิทธิ์เลว2(ภาคขายแผ่นดิน)

Postby ppneer » Tue Dec 21, 2010 11:44 pm

finder wrote:
ppneer wrote:
finder wrote:เกริ่น
สิ้นสุดการรอคอยครับ กระทู้

[color=#0000FF]จบตอนที่3

มีตอนที่4 แต่ต้องขึ้นหน้าใหม่ เวบเพจรับตัวหนังสือไม่ไหว



เอาแบบนี้ดีกว่าครับ

อยากจะทราบว่าทำไม

2475 คณะราษณ์ถึงไม่ยอมตีขแมร์เป็นเมืองขึ้น
ก่อนหน้านั้นเราก็เคยรบกับฝรั่งเศสนะ
อนุสาวรีชัยสมรภูมิเป็นหลักฐานว่าไทยเคยเอาชนะมาแล้ว
และตอนสงครามโลกครั้งที่2 ไทยก็รุกเข้าไปเอาดินแดนที่เสีย
ให้ฝรั่งเศสคืนมาทั้งหมด แต่เมื่อญี่ปุ่นแพ้ เราก็ต้องถอยกลับมา
แสดงว่าไม่เคยสนใจประวัติศาสตร์ แย่จริงๆ คนไทยยุคนี้


และผมอยากจะทราบทำไมถึงมาเสียดินแดนตอนยกเลิกการปกครอง

อยากจะทราบเสียเหลือเกินตอบได้ไม่

เซ็งมากะ รู้อะไรกับเขาบ้าง


:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

อยากจะหัวเราะเป็นเศษฝรั่ง

อนุสาวรีย์ชัย คือ หลักฐาน จากการรบชนะเศษฝรั่ง

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

ถามตรงๆ ทำไม จิตร ภูมิศักดิ์ ถึงกับแค้นในอก
ขวานทอง บรรพบุรุษ เป็นคนสร้างให้เราทุกวันนี้ ตัวกูจะปกปักรักษาเท่าชีวิตเพื่อ พ่อหลวง กูถวายชีวิต

ใอ้แม้ว ออกไปๆๆๆ กูเกลียดใอ้แม้ว
User avatar
ppneer
 
Posts: 3382
Joined: Mon Jan 19, 2009 2:59 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron