Jack_SAA wrote:คนเขากำลังจะเป็นจะตายกันอยู่ ก็ยังมีคนงี่เง่าบางพวกตั้งกระทู้ขึ้นมาโจมตีญี่ปุ่นเรื่องเครื่องบินลำเลียงของกองกำลังป้องกันตนเองรุ่นล่าสุด เชื่อเลย
http://www.thaifighterclub.org/webboard ... 000&topic=เครื่องบินขนส่งทหารลำใหม่ของ ญี่ปุ่น..ทดลองบินครั้งแรก&PHPSESSID=2061c208cb6fb6f5d465dcdd1cce46e5
zereza wrote:ถามอะไรหน่อยครับ ภาวะที่ญี่ปุ่นขาดแคลนพลังงานอย่างหนักตอนนี้ ในระยะสั้นเค้าจะใช้วิธีการไหนที่จะทำให้เริ่มมีพลังงานไฟฟ้ามาใช้ครับ ถ้ารอฟื้นฟูและสร้างโรงไฟฟ้าใหม่คงหลายปี ประเทศก็เป็นเกาะ จะโยงสายไฟฟ้าข้ามมาแบบไทยกับลาวคงไม่ได้ ใครมีความรู้บ้างครับ
Yasuhiro wrote:zereza wrote:ถามอะไรหน่อยครับ ภาวะที่ญี่ปุ่นขาดแคลนพลังงานอย่างหนักตอนนี้ ในระยะสั้นเค้าจะใช้วิธีการไหนที่จะทำให้เริ่มมีพลังงานไฟฟ้ามาใช้ครับ ถ้ารอฟื้นฟูและสร้างโรงไฟฟ้าใหม่คงหลายปี ประเทศก็เป็นเกาะ จะโยงสายไฟฟ้าข้ามมาแบบไทยกับลาวคงไม่ได้ ใครมีความรู้บ้างครับ
รณรงคฺ์ให้ช่วยกันประหยัดไฟ+ดับไฟ 3 ชั่วโมงในบางพื้นที่ เพื่อให้สามารถจ่ายไฟขึ้นไปทางเหนือ เพื่อที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้มีไฟใช้ กับ สามารถใช้ไฟฟ้าในการซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าได้
บริษัทรถไฟลดจำนวนที่วิ่งลง (ลดการใช้ไฟ) ห้างหลายแห่งยอมปิดชั่วคราว (ลดการใช้ไฟ) ประชาชนธรรมดารวมทั้งผม ประหยัดไฟ ใช้เท่าที่จำเป็น
ที่จริงตอนนายกรัฐมนตรีประกาศขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัดไฟ ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็เริ่มประหยัดกับทนหนาวเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่จำเป็นไม่เปิดฮีทเตอร์ ประหยัดไฟทุกทางเท่าทีทำได้ ก็เพื่อให้มีไฟฟ้าใช้กันถ้วนหน้า
สำหรับพลังงานไฟฟ้า ล่าสุดระงับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่จะก่อสร้างที่อาโอโมริแล้ว อาจจะไปพัฒนาอย่างอื่นแทน เช่นพลังลม หรือผลิตกระแสไฟฟ้าจากคลื่น มั้งครับ
ชีวิตมันไม่มีทางตัน หนักแค่ไหนเราก็จะฮึดสู้ เพราะชีวิตเรายังมีวันพรุ่งนี้เสมอ ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 2006 แต่ก่อนหน้านั้นก็ได้รับแนวคิดจากคนญี่ปุ่นในระดับหนึ่งตอนผมเรียนที่อเมริกา และไหนผมจะฝึกเคนโดมาโดยตลอดอีก
ผมอาจจะอธิบายไม่เก่ง แต่ด้วยนิสัยของคนที่นี่ เราสู้กันจนวินาทีสุดท้ายจริงๆครับ ทำเพื่อส่วนรวม ในตอนที่อาหารขาดแคลน (ตอนนี้เริ่มกลับมาปกติ แต่ยังจำกัดอยู่) ทุกคนหยิบสินค้าเท่าที่จำเป็น เพราะเข้าใจว่าคนอื่นก็ต้องการด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าล่าสุดหลายๆห้างที่ยังเปิดอยู่จะประกาศจำกัดปริมาณสินค้าต่อจำนวนคนก็ตาม ผมและหลายๆคนก็หยิบเท่าที่จำเป็น ไม่มีประเภทพ่อซื้อถุง แล้วให้แม่ไปต่อคิวแอบซื้ออีกถุง ทุกคนในโตเกียวพยายามใช้ชีวิตกันตามปกติเท่าที่จะเป็นได้ครับ เพื่อให้ประเทศชาติมันฟิ้นและก้าวต่อไปครับ
phoeniix wrote:ข่าวช่วงหนึ่งจากโพสต์ทูเดย์
นายกษิต ระบุว่า ในพื้นที่ 11 จังหวัดของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวและ คลื่อนยักษ์สึนามิมีคนไทยอาศัยอยู่ทั้งสิ้น 2 หมื่นคน และสามารถตรวจสอบยืนยันว่าปลอดภัยแล้ว 15,000 คน เหลืออีก 5,000 คน ที่อยู่ระหว่างติดต่อประสานกับเครือข่ายคนไทยในญี่ปุ่นเพื่อให้ทราบว่า บุคคลเหล่านี้อยู่ที่ไหน
"ทางการญี่ปุ่นประกาศว่า ขณะนี้ยังมีผู้สูญหาย อีก 9,000 คน โดยหวังว่า จะไม่มีคนไทยอยู่ในกลุ่มผู้สูญหาย และยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องอพยพคนไทยออกจากญี่ปุ่น"นายกษิตกล่าว
ขอเอาใจช่วยญาติผู้สูญหายค่ะ
Yasuhiro wrote:zereza wrote:ถามอะไรหน่อยครับ ภาวะที่ญี่ปุ่นขาดแคลนพลังงานอย่างหนักตอนนี้ ในระยะสั้นเค้าจะใช้วิธีการไหนที่จะทำให้เริ่มมีพลังงานไฟฟ้ามาใช้ครับ ถ้ารอฟื้นฟูและสร้างโรงไฟฟ้าใหม่คงหลายปี ประเทศก็เป็นเกาะ จะโยงสายไฟฟ้าข้ามมาแบบไทยกับลาวคงไม่ได้ ใครมีความรู้บ้างครับ
รณรงคฺ์ให้ช่วยกันประหยัดไฟ+ดับไฟ 3 ชั่วโมงในบางพื้นที่ เพื่อให้สามารถจ่ายไฟขึ้นไปทางเหนือ เพื่อที่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจะได้มีไฟใช้ กับ สามารถใช้ไฟฟ้าในการซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าได้
บริษัทรถไฟลดจำนวนที่วิ่งลง (ลดการใช้ไฟ) ห้างหลายแห่งยอมปิดชั่วคราว (ลดการใช้ไฟ) ประชาชนธรรมดารวมทั้งผม ประหยัดไฟ ใช้เท่าที่จำเป็น
ที่จริงตอนนายกรัฐมนตรีประกาศขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัดไฟ ตั้งแต่ตอนนั้นเราก็เริ่มประหยัดกับทนหนาวเท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่จำเป็นไม่เปิดฮีทเตอร์ ประหยัดไฟทุกทางเท่าทีทำได้ ก็เพื่อให้มีไฟฟ้าใช้กันถ้วนหน้า
สำหรับพลังงานไฟฟ้า ล่าสุดระงับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่จะก่อสร้างที่อาโอโมริแล้ว อาจจะไปพัฒนาอย่างอื่นแทน เช่นพลังลม หรือผลิตกระแสไฟฟ้าจากคลื่น มั้งครับ
ชีวิตมันไม่มีทางตัน หนักแค่ไหนเราก็จะฮึดสู้ เพราะชีวิตเรายังมีวันพรุ่งนี้เสมอ ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 2006 แต่ก่อนหน้านั้นก็ได้รับแนวคิดจากคนญี่ปุ่นในระดับหนึ่งตอนผมเรียนที่อเมริกา และไหนผมจะฝึกเคนโดมาโดยตลอดอีก
ผมอาจจะอธิบายไม่เก่ง แต่ด้วยนิสัยของคนที่นี่ เราสู้กันจนวินาทีสุดท้ายจริงๆครับ ทำเพื่อส่วนรวม ในตอนที่อาหารขาดแคลน (ตอนนี้เริ่มกลับมาปกติ แต่ยังจำกัดอยู่) ทุกคนหยิบสินค้าเท่าที่จำเป็น เพราะเข้าใจว่าคนอื่นก็ต้องการด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าล่าสุดหลายๆห้างที่ยังเปิดอยู่จะประกาศจำกัดปริมาณสินค้าต่อจำนวนคนก็ตาม ผมและหลายๆคนก็หยิบเท่าที่จำเป็น ไม่มีประเภทพ่อซื้อถุง แล้วให้แม่ไปต่อคิวแอบซื้ออีกถุง ทุกคนในโตเกียวพยายามใช้ชีวิตกันตามปกติเท่าที่จะเป็นได้ครับ เพื่อให้ประเทศชาติมันฟิ้นและก้าวต่อไปครับ
zereza wrote:
อืม ลำบากหน่อยแต่ก็สู้ๆนะครับ แต่จุดที่ผมสงสัยก็คือตอนนี้ต้องใช้มาตรการประหยัดไฟฟ้าไปจนกว่าจะสร้างแหล่งผลิตไฟฟ้าอันใหม่เสร็จ ผมเข้าใจถูกรึเปล่าครับ ยังงั้นแปลว่าธุรกิจใหญ่ๆเช่นโรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องหยุดการผลิตทั้งหมดสิครับ
PettyCash wrote:เมื่อคืนดูทีวีไทยไปสัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่น
ทางรัฐเขาจะแจกถุงยังชีพไว้ให้แบบพกพา
แล้วเขามีการจัดเตรียมของจำเป็นไว้เผื่อเกิดเหตุ
คือเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
เรื่องที่ญีุ่ปุ่นเขาเข้าคิวเป็นระเีบียบเพราะ
เขาถูกปลูกฝังเรื่องให้คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง
แล้วตอนเรียนเขาก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว
คุ้นๆว่าคนไทยเราก็เคยเป็นเรื่องการเอาใจเขา
มาใส่ใจเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว
เอารัดเอาเปรียบซะเป็นส่วนใหญ่
Yasuhiro wrote:PettyCash wrote:เมื่อคืนดูทีวีไทยไปสัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่น
ทางรัฐเขาจะแจกถุงยังชีพไว้ให้แบบพกพา
แล้วเขามีการจัดเตรียมของจำเป็นไว้เผื่อเกิดเหตุ
คือเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
เรื่องที่ญีุ่ปุ่นเขาเข้าคิวเป็นระเีบียบเพราะ
เขาถูกปลูกฝังเรื่องให้คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง
แล้วตอนเรียนเขาก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว
คุ้นๆว่าคนไทยเราก็เคยเป็นเรื่องการเอาใจเขา
มาใส่ใจเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว
เอารัดเอาเปรียบซะเป็นส่วนใหญ่
ถุงยังชีพนี่ มันเป็นแนวคิดที่ทุกคนต้องเตรียมเผื่อไว้กรณีฉุกเฉินอยู่แล้วน่ะครับ ผมก็เตรียมเองไว้หนึ่งใบ สามารถดำรงชีพได้ประมาณ 7 วัน (ขอบคุณ รด ที่ทำให้ผมมีวันนี้ ฮ่าๆๆ)
ที่จริง ที่ไทยก็น่าจะเตรียมเผื่อไว้น่ะครับ อย่างน้อยก็เผื่อตอนมันมาเผาเมืองอีกรอบแล้วเราออกไปซื้อของไม่ได้ หรือเจอภัยธรรมชาติน่ะครับ เตรียมไว้ไม่เสียหลายครับ
ramboboy26 wrote:ทายซิ ประเทศไหนเอ่ย
ramboboy26 wrote:ราคาไม่แพงสำหรับเค้าหรอกครับ ที่นี่จะเลี้ยงหมาแมวทีนอกจากจะเสียค่าตัวเป็นแสนๆเยนแล้ว
ยังต้องมีกฏระเบียบหยุมหยิมอีกมากมาย ต้องขึ้นทะเบียนสัตว์ ต้องมีสมุดบันทึกประจำตัว ยุ่งยากมาก
คนที่เลี้ยงสัตว์ที่ญี่ปุ่นได้ต้องรวยมากในระดับนึงเลยครับ
PettyCash wrote:เมื่อคืนดูทีวีไทยไปสัมภาษณ์ชาวญี่ปุ่น
ทางรัฐเขาจะแจกถุงยังชีพไว้ให้แบบพกพา
แล้วเขามีการจัดเตรียมของจำเป็นไว้เผื่อเกิดเหตุ
คือเตรียมพร้อมอยู่ตลอดเวลา
เรื่องที่ญีุ่ปุ่นเขาเข้าคิวเป็นระเีบียบเพราะ
เขาถูกปลูกฝังเรื่องให้คิดถึงคนอื่นก่อนตัวเอง
แล้วตอนเรียนเขาก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว
คุ้นๆว่าคนไทยเราก็เคยเป็นเรื่องการเอาใจเขา
มาใส่ใจเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว
เอารัดเอาเปรียบซะเป็นส่วนใหญ่
redfrog53 wrote:ถุงยังชีพในญี่ปุ่น เขาให้จัดเตรียมอย่างไรบ้าง เพื่อใช้เป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนชาว สรท. ที่นี้ครับ
Yasuhiro wrote:เพิ่มเติมสั้นๆครับ คนสูญหาย ที่ยังไม่เจอ ประมาณ สามหมื่นกว่าคน
สามแสนแปดหมื่นคนไร้บ้านตอนนี้ครับ
Yasuhiro wrote:redfrog53 wrote:ถุงยังชีพในญี่ปุ่น เขาให้จัดเตรียมอย่างไรบ้าง เพื่อใช้เป็นตัวอย่างให้กับเพื่อนชาว สรท. ที่นี้ครับ
ที่ผมเตรียมไว้คร่าวๆ มีประมาณนี้ครับ (หมายเหตุ ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า เกิดแผ่นดินไหวแล้วผมต้องอพยพออกจากตึกไปอยู่ในสวนที่ใกล้ที่สุด และทีมช่วยเหลือสามารถมาช่วยได้ทันภายใน 7 วันครับ)
1. หมวกกันน๊อค เอาไว้กันของตกจากตึกตกใส่หัวขณะเดินทางไปยังสวนสาธารณะที่ใกล้ที่สุดครับ
2. ไฟฉายแบบสร้างกระแสไฟด้วยการเขย่า (อันนี้แก้ปัญหาถ่านหมดก่อนเวลาอันควร ของผมอันนี้ทำในญี่ปุ่น (ของจีนทำเกือบเหมือน เพียงแต่มันแอบซุกถ่านเอาไว้อีกที่นึง)
3. ที่เปิดกระป๋อง
4. เทียนไข
5. ไฟแช๊ค เอาไว้ก่อไฟครับ
6. ผ้าขนหนู
7.พวกผ้าก๊อซ พลาสเตอร์ และอุปกรณ์ทำแผลเบื้องต้นครับ
8. เชือก
9.นกหวีด เอาไว้เป่าเผื่อทีมที่มาช่วยเหลือจะได้หาเจอครับ
10.ถุงพลาสติก เอาไว้ใส่บางอย่าง รวมทั้งสิ่งปฎิกูลครับ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อโรค และโรคระบาดครับ
11.ถุงมือ
12. หน้ากากกันมลพิษ (ที่ผมมีอยู่กรองได้ละเอียดในระดับหนึ่ง ของ 3 เอ็มครับ)
13.ชีท ที่สามารถใช้เป็นทั้งเสื่อสำหรับปูนั่ง หรือนำมาใช้เป็นผ้าห่มสำหรับกันหนาวครับ
14.อาหารกระป๋อง (ของผมจะไม่มีพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะส่วนหนึ่งต้องเสียเวลาไปต้มน้ำ ซึ่งน้ำอาจจะไม่มีพอให้ต้ม หรือไม่มีน้ำก็เป็นได้ เลยไม่จัดไว้ครับ อาหารกระป๋องที่ผมเตรียมก็เป็นพวกเปิดแล้วทานได้เลยเป็นหลัก)
15.ที่ชาร์จมือถือแบบใส่ถ่านครับ เผื่อไว้ในกรณีที่โทรศัพทฺ์ผมแบตหมด จะได้ชาร์จแล้วโทรขอความช่วยเหลือ
16. ขวดน้ำสองขวด
17. หลอดดูดที่มีตัวกรองติดอยู่ในตัว ในชุดนี้จะแถมผงสารเคมีที่ให้โรยใส่น้ำ (ผมเรียกชื่อมันไม่ถูกครับ) เพื่อที่ทำให้น้ำนั้นสามารถนำมาดื่มได้ครับ
18.ถังพลาสติคที่บรรจุน้ำได้ 10 ลิตร ปกติในกรณีไม่ได้ใส่น้ำ มันจะสามารถพับและทำให้บาง ทำให้พกพาสะดวก แต่พอดีผมสำรองน้ำกินเผื่อไว้ ตั้งแต่มีข่าวเกี่ยวกับกัมมันตภาพรังสีรั่วออกมา ก็เลยเป็นอย่างที่เห็นแหล่ะครับ
หากสังเกตจะพบว่าผมให้ความสำคัญกับเรื่องน้ำเยอะเป็นพิเศษครับ เพราะขาดอาหารในระยะเวลาสั้นๆขาดได้ แต่ถ้าขาดน้ำก็เป็นเรื่องใหญ่น่ะครับ อีกอันที่ผมว่าผมควรจะซื้อเพิ่มติดไว้ก็คือเจลที่ติดไฟง่าย ผมคิดว่าน่าจะติดไว้ สำหรับก่อกองไฟครับ (กรณีที่หาไม้แห้งไม่เจอ) ที่ผมจัดก็ประมาณนี้ครับ