Page 1 of 1

พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 10:42 am
by chanbaan
พักการเมือง น่าจะทำให้ชาติเจริญกว่า
.
เมื่อพูดถึงการพูดคุยกันยาวๆ แบบไม่ใช่การต่อปากต่อคำแล้ว การพูดถึงพรรคการเมืองในวลีที่ว่า "พักการเมือง" น่าจะดีกว่าเป็นไหนๆ แม้ว่าผมจะมีอาการไม่สู้ดีในเรื่องมือไม้สั่นเพราะเส้นเลือดในสมองตีบ แต่ก็ยังอยากบอกว่า การพักการเมืองน่าจะดีกว่าการยุบพรรคการเมืองเป็นไหนๆ เพราะหากพูดถึงการพักการเมืองของมหาชนชาวสยามแล้ว จะทำให้เราเห็นกันเป็นพี่เป็นน้องเป็นญาติเป็นสายเลือดเดียวกันมากขึ้น แม้เราจะมีเชื้อชาติที่แตกต่าง แต่เชื้อชาติที่ฝั่งรากลึกให้เราเป็นชาติพันธุ์ได้ก็คือชาติไทย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดมากกว่าสายเลือดก็คือ สายใจของความเป็นชาติพันธุ์อันยิ่งใหญ่ไม่แพ้ชาติใดในโลก นั้นก็คือการแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเอง
---------------------------------------
ผมเองไม่รู้ว่าจะบ่นในเรื่องนี้เพื่อบ่อนทำลายบรรยากาศทางการเมืองที่กำลังร้อนระอุไปทำไม แต่รู้ดีกว่าอาการเส้นเลือดในสมองตีบนั้นอาจทำให้ตีบตันจนแขนขาไม่มีแรงและก็คงไม่มีเวลามาบ่นให้ฟังว่า การเมืองที่ผมเจอนั้นมันมีทั้งเรื่องเลวร้ายและน่ากลัวแค่ไหน เช่น การเทียบตนเองกับเจ้าของบรรดานักการเมืองเมื่อได้อำนาจฉันทามติจากประชาชนเป็นต้น และหลายๆ เรื่องที่นักการเมืองมักคิดว่าตนเองเป็นขุนนางใหญ่เป็นเจ้าครองนครบ้าง จนไม่สนใจข้าราชการเวลาให้คำแนะนำเป็นต้น หลายต่อหลายสิ่งที่เิกิดขึ้นก็อาจเพราะเรามีอคติต่อระบบข้าราชการ พาลไปมีอคติต่อระบบกษัตริย์ และทำให้ชาติบ้านเมืองใกล้ถึงกาลอวสาน
------------------------------------
ผมเองอยากให้ท่านคิดให้ดีว่าจะเล่นการเมืองหรือพักการเมืองกัน เพราะการเล่นการเมืองนั้นมันขึ้นอยู่กับการประชาชนทั้งสิ้น หากประชาชนไม่สนใจเล่นการเมืองแต่สนใจพักการเมือง หันหน้ามาทำดีต่อกัน ลืมเรื่องร้ายๆ ที่ต่างทะเลาะกัน กลับมามีชีวิตที่ปกติสุข เลือกสรรค์คนดีๆ มาปะชันกันในเวทีการเลือกตั้ง และร่วมกันตั้งคำถาม พร้อมแนวทางปฏิบัติให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งต่างได้พูดคุยและแสดงวิสัยทัศน์พร้อมกับมองดูความเป็นไปว่าหากคนเหล่านั้น หรือบุคคลนั้นได้รับเลือกตั้งเข้ามาทำหน้าที่ในระบบรัฐสภา หรือสภาท้องถิ่นแล้ว จะทำงานร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั้งของภาครัฐ และภาคประชาชนอย่างไร ที่สำคัญ จะทำงานร่วมกับองค์กรข้าราชการที่ทำงานร่วมกันกับนักการเมืองโดยตรงอย่างมีประสิทธิภาพได้หรือไม่ หรือต้องจำทนฝืนกินกับพฤติกรรมที่ไม่ดีของนักการเมืองเช่น "อัฐยายซื้อขนมยาย" "เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น" "ดีแต่พูด" "มือไม่พายเอาเท้าลาน้ำ" "ยกตนข่มท่าน" "ยกแม่น้ำทั้งห้า" "รำไม่ดีโทษปีโทษกลอง" และสารพัดที่นักการเมืองมักนำมาเล่นการเมืองเพื่อแหกตาประชาชน ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้แหละคือละครทางการเมืองที่น้ำเน่าที่สุด ที่เกิดจากรากฐานของประชาชนที่มักนิยมชมชอบกับบทละครทางการเมืองเช่นนี้ จึงร่วมเล่นและผสมโรงให้เกิดวาทะกรรมทางการเมืองที่สุดแสนจะรันทดเช่นในปัจจุบัน
------------------------------------------------------------
"พักการเมืองกันเถอะ หันหน้ามาเป็นญาติพี่น้องกัน และมุ่งคัดสรรค์คนดี มาเป็นตัวเลือกที่ดี แทนการคัดสรรค์คนที่เลวน้อยที่สุด ซึ่งมันก็จะกลายเป็นเลวได้แนบเนียนที่สุดเมื่อมันมีอำนาจ หยุดสะทีเถอะกับการปัดความรับผิดชอบด้วยการปล่อยให้การเมืองเล่นงานประชาชน โดยไม่สนใจชะตากรรมของเพื่อนร่วมชาติ หยุดสะทีเถอะพ่อคุณแม่คุณ อย่าได้เอาตำแหน่งหน้าที่ทางการเมืองของท่านมาทำลายฝั่งตรงข้ามจนลืมความถูกต้องชอบธรรมของขื่อแปร หยุดสะทีเถอะกับการเอาสถาบันพระมหากษัตริย์มากล่าวอ้างในเชิงหาเสียง จนการเมืองเลอะเทอะ ไม่มีดีให้เหลือให้เราเลือก"
.
"พักการเมือง แล้วหยุดพฤติกรรมทำลายชาติ ด้วยการเลือกตั้งคนดีให้มีอำนาจ ไม่ใช่คนเลวน้อยที่สุดจนกลายเป็นคนเลวที่มีอำนาจ"

Re: พักการเมือง น่าจะทำให้ชาติเจริญกว่า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 10:45 am
by phat1
อย่าไปหวังไอ้ ปชป พท ชทพ ภท อีกเลยพวกนี้วันๆเอาแต่กินเมือง

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 11:50 am
by SpeedDeVa
มันเป็นเช่นนั้นเอง

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 12:32 pm
by คลำปม
"พักการเมือง แล้วหยุดพฤติกรรมทำลายชาติ ด้วยการเลือกตั้งคนดีให้มีอำนาจ ไม่ใช่คนเลวน้อยที่สุดจนกลายเป็นคนเลวที่มีอำนาจ"

คำพูดแบบนี้มันเลื่อนลอยครับ มันพูดได้แต่ไม่ได้มีเหตุมีผลในโลกของความเป็นจริง

การเมืองเป็นเรื่องที่พักไม่ได้

อย่างไรมันก็ต้องมีคนที่ใช้อำนาจบริหารประเทศมันจะไปพักได้อย่างไร

การโหวตโนมันจะไปมีผลอะไรในทางปฎิบัติ?

ต่อให้มีคนโหวต 10 ล้านคน(ตามที่ พธม.ต้องการเลยนะ) แต่มันจะไปเกิดอะไร
(ก็ผู้มีสิทธิกว่า 40 ล้าน)

การโหวตโนคือการสละสิทธิที่จะเลือก เมื่อไม่เลือกแล้วจะมาเอาอะไร?

ต่อให้โหวตโน 10 ล้าน เพื่อไทย 8 ล้าน ปชป.7 ล้าน ก็ต้องให้เพื่อไทยบริหารประเทศ
(นี่ผมสมมุติเว่อร์ๆเลยนะ ในความเป็นจริงโหวตโนยังไงก็ไม่เกิน 3 ล้าน)

ถึงตอนนั้นโหวตโนจะมาบอกว่าไม่ได้ไม่ยอมมันก็ไม่มีสิทธิครับ คุณมีพรรคคุณไม่ส่งแล้วจะมาโวยวายอะไร

ยิ่งมาอ้างว่า ด้วยการเลือกตั้งคนดีให้มีอำนาจ ไม่ใช่คนเลวน้อยที่สุด แต่กลับจะให้โหวตโน/พักการเลือกหรือการเมืองอะไรก็ตาม

มันไม่เห็นมีเหตุผลเลยครับ

คนดีคือพวกคุณเท่านั้นหรือ? ผมเห็นว่าบนเวที พธม. นี่แหละหาคนดีไม่ได้เลย

ยังไม่ได้เล่นการเมืองยังเลวซะขนาดนี้ ถ้าเข้าสภาจริงๆผมว่าดูไม่จืด


และผมว่าเลือกคุณอภิสิทธิ์นี่แหละ คือการเลือกคนดีให้มีอำนาจ

ถ้าผมไม่เลือกคุณอภิสิทธิ์ ต่างหากถึงจะเท่ากับผมปล่อยให้แม้วหรือคนเลวกลับมามีอำนาจ



อย่ามาอ้างครับว่าการเมืองทำให้ชาติบ้านเมืองใกล้ถึงกาลอวสาน

มันไม่ใช่เลย คุณขยับตัวเองออกมาจากจุดที่คุณมองบ้าง

อย่ามองเห็นแต่ภาพสกปรกที่มีคนชี้ให้ดู คุณลองมองใหม่ว่าคุณภาพชีวิตประชาชนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบดีขึ้นเพียงไร


คนไทยมีสวัสดิการเรื่องสุขภาพทุกคน ตัวเลขว่างงานของคนไทยปัจจุบันนี้น้อยมาก

การศึกษาได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา

เศรษฐกิจกำลังเติบโต รถไฟฟ้าสารพัดสายกำลังจะเสร็จเรียบร้อยในอีกไม่กี่ปี ตลาดหุ้นพุ่งสูงทำลายสถิติในรอบหลายปี

คุณหันไปมองเพื่อนบ้านรอบตัวเราดู มีประเทศไหนดีกว่าเราครับ?


อย่ามองแต่การด่าทอสาดโคลนใส่กันแล้วคิดว่าประเทศไทยกำลังจะพัง กำลังล่มสลาย

ผมว่านั่นเลอะเทอะมากครับ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอนาคตมั่นคงยาวไกลมาก

ต่างชาติเขาถึงเข้ามาลงทุนกันขนิดต่อคิวขอ BOI กันเลย

ขอให้รู้จักปรับตัวเท่านั้นแหละครับ คนไทยไม่สิ้นหนทางหรอก

ผมก็ไม่อยากต่อปากต่อคำแต่อยู่ดีๆจะมาบอกว่าประเทศไทยกำลังจะพัง กำลังล่มสลาย นี่ผมรับไม่ได้ครับ

มันไปดูยังไง อ้างบ้าๆบอๆแล้วก็เชื่อกันไปอย่างนั้นโดยไม่ได้ดูโลกความเป็นจริงกันเลย


ไปตั้งสติก่อนครับแล้วค่อยมาเรียบเรียงความคิดเพื่อแลกเปลี่ยนกัน

ถ้ามาถึงก็ "ชาติบ้านเมืองใกล้ถึงกาลอวสาน" นี่คงต้องหักล้างกันอย่างเดียวว่ามันมาจากไหน

อะไรทำให้เพี้ยนไปได้ถึงขนาดนั้น

ส่วนเรื่องสุขภาพผมขอเอาใจช่วยให้ดีขึ้นครับ หมั่นออกกำลังกาย/คุมอาหาร/เชื่อคำแนะนำของแพทย์ น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสุดครับ

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 3:15 pm
by chanbaan
ปฏิวัติ อาจเป็นคำตอบที่นักการเมืองไม่อยากเจอ แต่หากถึงจุดจบทางการเมือง การปฏิวัติรัฐประหาร ก็คือคำตอบของการพักการเมืองในแบบฉบับฉับพลันได้เหมือนกัน
จะให้นักการเมืองมีสำนึก หรือประชาชนมีสำเหนียก คัดค้านคนชั่วไม่ให้มันลงสมัครรับเลือกตั้ง แล้วสนับสนุนคนดี เสนอชื่อคนดี ให้แต่ละพรรคได้ชิงตัวคนดีเหล่านั้น เพื่อให้ประชาชนตัดสินอุดมการณ์คนดี ที่ประชาชนเห็นควรเลือกตั้งว่า มันมีความคิดเห็นต่อพรรคการเมืองที่มีอยู่อย่างไร และก็ลองเลือกกันว่า พรรคการเมืองไหนที่คนดีๆ ที่ประชาชนคิดเห็นนั้น เขามีความคิดเห็นอย่างไรกับพรรคการเมืองที่เขาไปสังกัด แค่นี้ก็น่าจะหยุดวงจรอุบาท ไม่ต้องพักการเมืองไปโนโหวต หรือพักการเมืองไปปฏิวัติ เพียงแต่พักการเมือง หันหน้ามาเลือกคนดี เสนอชื่อคนดี เพื่อให้พรรคการเมืองในแต่ละพรรคได้วิ่งไล่ล่าเด็ดหัว หรือไม่ก็นำตัวมาเป็นสมาชิกพรรคเสียก็จบเรื่อง
--------------------
ซึ่งการเมืองไทยรับรองได้ว่า ยังไม่เหมาะหรอกกับคำว่าประชาธิปไตย เพราะคำว่าเด็ดหัวมันมาแรงกว่าเสมอๆ

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 3:37 pm
by juneyeb
เอาพรรคลิ้มดิเธอว์ No Vote แต่งตั้งกันเอง

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 3:52 pm
by chanbaan
juneyeb wrote:เอาพรรคลิ้มดิเธอว์ No Vote แต่งตั้งกันเอง

พรรคลิ้มอีลวง ผมว่าพักยาวเถอะ อย่างน้อยไปฟอร์มพรรคมาใหม่น่าจะดีกว่า

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 8:05 pm
by กุสลาธัมมา
การโหวตโนมันจะไปมีผลอะไรในทางปฎิบัติ?

ต่อให้มีคนโหวต 10 ล้านคน(ตามที่ พธม.ต้องการเลยนะ) แต่มันจะไปเกิดอะไร
(ก็ผู้มีสิทธิกว่า 40 ล้าน)
:) จริงอยู่การโหวดโน..ไม่มีผลในทางกฏหมาย..แต่มีพลังอำนาจในทางจิตวิทยา..เป็นการบอกกับนักโกงเมืองว่า ประชาชนไม่ยอมรับพวกคุณ..ไม่ต้องการพวกคุณ..ไม่ยอมรับระบบการเลือกตั้งแบบเก่าที่ใช้อยู่นี้
การโหวตโนคือการสละสิทธิที่จะเลือก เมื่อไม่เลือกแล้วจะมาเอาอะไร?
การโหวดโน..ไม่ใช่การสละสิทธิที่จะเลือก..แต่เขาใช้สิทธิเลือกที่จะไม่ลงคะแนนให้ใคร..พรรคหนึ่งพรรคใด..เหตุผลคือ..เลือกไปก็ไม่ได้อะไร..แล้วกลับเอาคะแนนเสียงของเราไปทำปู้ยี่ปู้ยำกับประเทศซะอีก
ต่อให้โหวตโน 10 ล้าน เพื่อไทย 8 ล้าน ปชป.7 ล้าน ก็ต้องให้เพื่อไทยบริหารประเทศ
(นี่ผมสมมุติเว่อร์ๆเลยนะ ในความเป็นจริงโหวตโนยังไงก็ไม่เกิน 3 ล้าน)
หากเป็นจริงตามตัวเลขที่คุณยกตัวอย่างนะ..นั่นย่อมแสดงว่า..เพื่อไทยไม่มีความละอายไง..ก็ประชาชนส่วนมากเขาไม่เอาคุณแล้ว..คุณยังจะดื้อบริหารประเทศอีกหรือ?..การโหวดโนจะได้เท่าใดก็ไม่เป็นไร..มันเป็นการต่อสู้อย่างสันติตามระบอบประชาธิปไตย
ถึงตอนนั้นโหวตโนจะมาบอกว่าไม่ได้ไม่ยอมมันก็ไม่มีสิทธิครับ คุณมีพรรคคุณไม่ส่งแล้วจะมาโวยวายอะไร
คงไม่เป็นเช่นนั้น..แต่เมื่อพรรคที่ชนะจัดตั้งรัฐบาลแล้วบริหารประเทศอย่างไม่ถูกต้อง ทุจริต คอรับชั่น นั่นหละคือยอมไม่ได้..พธม.มีมติโหวตโน ส่วนพรรคยังไม่มีมติ นะคุณ..ต้องรอ 24 เม.ย.54 นี้ จ้ะ ;)
ยิ่งมาอ้างว่า ด้วยการเลือกตั้งคนดีให้มีอำนาจ ไม่ใช่คนเลวน้อยที่สุด แต่กลับจะให้โหวตโน/พักการเลือกหรือการเมืองอะไรก็ตาม
มันไม่เห็นมีเหตุผลเลยครับเหตุผลมันบอกอยู่แล้วว่า...ไม่เอาไม่ต้องการ
คนดีคือพวกคุณเท่านั้นหรือ? ผมเห็นว่าบนเวที พธม. นี่แหละหาคนดีไม่ได้เลย
ยังไม่ได้เล่นการเมืองยังเลวซะขนาดนี้ ถ้าเข้าสภาจริงๆผมว่าดูไม่จืด
คุณยอมรับแล้วใช่ไหมว่า..เมื่อเล่นการเมืองแล้วได้เข้าสภาจะเลวมากขึ้นกว่าเดิม :)
และผมว่าเลือกคุณอภิสิทธิ์นี่แหละ คือการเลือกคนดีให้มีอำนาจ
ถ้าผมไม่เลือกคุณอภิสิทธิ์ ต่างหากถึงจะเท่ากับผมปล่อยให้แม้วหรือคนเลวกลับมามีอำนาจ

การเลือกตั้งปี 50 พธม.เห็นว่า ปชป..เป็นความหวังสุดท้าย สำหรับพรรคการเมืองที่พวกเราคิดว่า..เลวน้อยที่สุด..ที่เหลืออยู่..จึงเทคะแนนให้ ปชป....แต่ก็ยังแพ้..(ดังนั้นอย่าเดือดร้อนทุลนทุลายกับการ โหวตโนของ คนกลุ่มเล็กๆ เลยคุณ) พลังประชาชนจึง ได้เป็นรัฐบาล แล้วก็ทุจริตคอรับชั่นทำร้ายประเทศ.ปล่อยให้มีการจ้วงจาบสถาบันอย่างมากมาย...คนที่ออกมาต่อสู้ขับไล่ก็คือ พธม. แล้วใครล่ะสนับสนุน?..พอ พลังประชาชน โดนยุบพรรค ตั้งพรรคใหม่ชื่อ เพื่อไทย.. ปชป.ก็ได้เป็นรัฐบาล..ตอนแรกพวกเราดีใจว่า..เอาละต่อนี้ไป..ประเทศจะต้องดีขึ้น..2 ปีผ่านไป ไม่จัดการกับคนเลวอย่างเด็ดขาด เรื่องใดที่บอกว่าไม่ดีไม่ถูกตอนเป็นฝ่ายค้าน..พอเป็นรัฐบาลทำเองเกือบทุกเรื่อง..จนถึงเรื่องการเสียอธิปไตยเหนือดินแดน..ประชาชนออกมาเตือนก็ไม่ฟัง..ก็ได้คำตอบว่า....นักเลือกตั้งนี่เลวววว..เหมือนกัน. : :( :(

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 8:40 pm
by กุสลาธัมมา
[quote="กุสลาธัมมา"]

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 8:45 pm
by กุสลาธัมมา
[quote="กุสลาธัมมา"]

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 8:48 pm
by กุสลาธัมมา
[quote="กุสลาธัมมา"]

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 9:14 pm
by ตะนิ่นตาญี
ตะนิ่นตาญี ไม่คิดว่าการเมืองจะมีการหยุดพัก ปิดเทอม หรือว่างเว้นไป

เพราะโดยเนื้อแท้แล้วที่เราคิดกันว่า หยุดพัก นั้น…..

เป็นเพียงการเปลี่ยนผู้ถือครองอำนาจ อธิปไตย จากเดิมที่เป็นปวงชนชาวไทย

ไปเป็นอะไร หรือไปเป็นใครก็ไม่รู้ การหยุดพักการเมือง จึงเป็นเพียงวาทะกรรม

ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อในกลุ่มผู้ที่แสวงหาอำนาจนอกระบบเพื่อให้เกิดความชอบธรรม

แก่ตัวเองและพวกพ้อง ในการเข้ามาครอบครอง และเป็นผู้ใช้ อำนาจอธิปไตย

ที่ตัวเองได้เข้ามาแย่งไปจาก ปวงชนชาวไทย เท่านั้นเอง.....

มีบ้างบางคนพูดถึงความละอายของนักการเมือง ตรงนี้ ตะนิ่นตาญี สงสัย

หากกลุ่มคนที่เรียกกันว่า นักการเมือง รู้จักละอายแล้วก็คงไม่ใช่นักการเมืองกระมัง

การ vote no จะเพื่ออะไรก็แล้วแต่นั้น ไม่มีผลในทั้งทางปฏิบัติ และทั้งในทางกฎหมาย

อันเป็นรูปธรรมและนามธรรม การที่ไปคิดกันว่าถ้า vote no กันแล้วเยอะๆ

แล้วจะก่อให้เกิดความละอายจึงไม่มีทางเป็นความจริงได้

ผู้ที่คิดว่าจะทำให้พวกเขาเกิด ความละอาย โดยประการเช่นนี้

ก็เห็นทีจะกลายเป็น A midsummer night’s dream ฝันค้างกลางฤดูร้อน กระมัง

เมื่อเรารู้เสียแล้วว่าพวกนักการเมืองไม่มีวันละอาย แล้วจะไปปล่อยพรรคการเมือง

และ/หรือนักการเมือง ในกลุ่มผู้ที่ให้การสนับสนุนให้มีการเผาบ้านเผาเมือง

ผู้ที่มีการสนับสนุนให้ล้มล้างสถาบันสูงสุด หลุดรอดไปอาศัยตำแหน่งหน้าที่ในทางฝ่ายบริหาร

เพื่อตัวเองจะได้ไม่ต้องรับโทษในทางอาญา เพื่อตัวเองจะได้อาศัยเป็นฐานสนับสนุน

การล้มล้างสถาบันสูงสุด เช่นนั้นหรือ? ตะนิ่นตาญี คงยอมไม่ได้หรอกครับ

ตะนิ่นตาญี ไม่ยอมให้คนกลุ่มนั้นอาศัยอำนาจในฝ่ายบริหารเข้ามาทำการ

อันเป็นการหมิ่นพระเกียรติของล้นเกล้าล้นกระหม่อมฯ เหมือนอย่างที่ จักรภพ เพ็ญแข เคยได้

กระทำมาแล้ว และจะไม่มีวันยอมเป็นอันขาด ใครก็ตามที่กระทำเช่นนี้โดยที่ปากบอกว่า จงรักภักดี

จึงเป็นการจงรักภักดีด้วยปาก วาทะกรรมที่ว่า “รักที่สุดคือในหลวง หวงที่สุดคือแผ่นดิน”

จึงเป็นเพียงแค่วาทะกรรมที่ต้องการให้ตนเองได้ผลประโยชน์จากการนี้เท่านั้น

ตะนิ่นตาญี

วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔

เวลา ๒๑.๑๒ นาฬิกา

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 9:30 pm
by คลำปม
กุสลาธัมมา wrote:
คลำปม wrote:
การโหวตโนมันจะไปมีผลอะไรในทางปฎิบัติ?

ต่อให้มีคนโหวต 10 ล้านคน(ตามที่ พธม.ต้องการเลยนะ) แต่มันจะไปเกิดอะไร
(ก็ผู้มีสิทธิกว่า 40 ล้าน)
:) จริงอยู่การโหวดโน..ไม่มีผลในทางกฏหมาย..แต่มีพลังอำนาจในทางจิตวิทยา..เป็นการบอกกับนักโกงเมืองว่า ประชาชนไม่ยอมรับพวกคุณ..ไม่ต้องการพวกคุณ..ไม่ยอมรับระบบการเลือกตั้งแบบเก่าที่ใช้อยู่นี้

ประชาชนไม่ยอมรับการเลือกตั้ง ก็ต้องเปลี่ยนแปลงการปกครองสิครับ

ต้องลุกขึ้นมาชุมนุมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองกันเลย

ตอนนี้ พธม. ชุมนุมอยู่ ต้องออกไปแสดงพลังรวมกันเลยครับว่า "เราไม่เอาระบอบนี้ เราไม่ต้องการเลือกตั้ง"

จะไม่เอาการปกครองมันต้องมีมวลชนครับ ไม่ใช่มาชุมนุมกันแค่กระหยิบมือแล้วไปโหวตโนสละสิทธิ์กัน

ทำแบบนั้นชาตินึงก็ไม่ได้อะไร


การโหวตโนคือการสละสิทธิที่จะเลือก เมื่อไม่เลือกแล้วจะมาเอาอะไร?
การโหวดโน..ไม่ใช่การสละสิทธิที่จะเลือก..แต่เขาใช้สิทธิเลือกที่จะไม่ลงคะแนนให้ใคร..พรรคหนึ่งพรรคใด..เหตุผลคือ..เลือกไปก็ไม่ได้อะไร..แล้วกลับเอาคะแนนเสียงของเราไปทำปู้ยี่ปู้ยำกับประเทศซะอีก

คุณจะมาเถียงทำไมว่าไม่ได้เป็นการสละสิทธิ์

ก็ในเมื่อโหวตโนเขาไม่นับคะแนนว่าเลือกใคร ..

จะมาอ้างว่าเอาคะแนนไปปู้ยี่ปู้ยำบ้าบออะไรกันครับ เลือกคือเลือก ถ้าไม่ใช้สิทธิเลือกก็อด

ไม่มีช่องให้กา "เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง" นี่ครับ คะแนนถึงจะมีความหมาย


ต่อให้โหวตโน 10 ล้าน เพื่อไทย 8 ล้าน ปชป.7 ล้าน ก็ต้องให้เพื่อไทยบริหารประเทศ
(นี่ผมสมมุติเว่อร์ๆเลยนะ ในความเป็นจริงโหวตโนยังไงก็ไม่เกิน 3 ล้าน)
หากเป็นจริงตามตัวเลขที่คุณยกตัวอย่างนะ..นั่นย่อมแสดงว่า..เพื่อไทยไม่มีความละอายไง..ก็ประชาชนส่วนมากเขาไม่เอาคุณแล้ว..คุณยังจะดื้อบริหารประเทศอีกหรือ?..การโหวดโนจะได้เท่าใดก็ไม่เป็นไร..มันเป็นการต่อสู้อย่างสันติตามระบอบประชาธิปไตย

มันจะไม่มีความละอายได้ไง ก็เขาชนะ

พธม. ไม่ได้ส่งคนลงนี่ ใครชนะก็ต้องให้เขาได้อำนาจบริหารไป กติกามันเป็นแบบนั้น

จะไปว่าเขาดื้อไม่ได้ด้วย เพราะใครรวมตัวแทนของประชาชนหรือ สส. ได้มากกว่าก็ได้เป็นรัฐบาล

นานาประเทศเขาก็ยอมรับกติกานี้

หากจะมีคนดื้อผมว่า พธม. มากกว่านะที่ดื้อ ที่พูดไม่รู้เรื่อง

ถ้าเขารวมได้ สส. มากสุดจะไม่ให้เขาเป็นรัฐบาลแล้วจะให้ใครเป็น..

เออหนอคนเรา ประหลาดแท้


ถึงตอนนั้นโหวตโนจะมาบอกว่าไม่ได้ไม่ยอมมันก็ไม่มีสิทธิครับ คุณมีพรรคคุณไม่ส่งแล้วจะมาโวยวายอะไร
คงไม่เป็นเช่นนั้น..แต่เมื่อพรรคที่ชนะจัดตั้งรัฐบาลแล้วบริหารประเทศอย่างไม่ถูกต้อง ทุจริต คอรับชั่น นั่นหละคือยอมไม่ได้..พธม.มีมติโหวตโน ส่วนพรรคยังไม่มีมติ นะคุณ..ต้องรอ 24 เม.ย.54 นี้ จ้ะ ;)

ใครคอรัปชั่นก็ยื่น ปปช. ตรวจสอบไปตามกระบวนการสิครับ

มาตัดสินเอาเองตามใจชอบได้อย่างไร

ส่วนเรื่องพรรคส่ง สส. หรือไม่ ยิ่งถ้า กมม. ส่ง สส.แล้ว พธม. รณรงค์โหวตโนยิ่งน่ารังเกียจหนักเลย

ตัวเองด่าการเมืองระบอบนี้ซะไม่มีดี แต่พอมีเลือกตั้งดันส่งคนมาให้เลือก


ยิ่งมาอ้างว่า ด้วยการเลือกตั้งคนดีให้มีอำนาจ ไม่ใช่คนเลวน้อยที่สุด แต่กลับจะให้โหวตโน/พักการเลือกหรือการเมืองอะไรก็ตาม
มันไม่เห็นมีเหตุผลเลยครับเหตุผลมันบอกอยู่แล้วว่า...ไม่เอาไม่ต้องการ

ไม่ต้องการได้หรือ?

มันไม่ใช่อาหารนะครับที่จะเลือกกินหรือไม่กิน หรือเป็นเรื่องเล่นๆตุ๊กตุ่นตุ๊กตา เดี๋ยวเล่นเดี๋ยวเลิกได้

มันเป็นเรื่องของวาระของการเลือกตั้ง ที่ต้องคัดสรร คนมาทำหน้าที่

คุณไม่ต้องการ เขาก็ไปใช้คะแนนคนอื่นมาตัดสินอยู่ดี

ด้วยระบบของมัน อย่างไรก็ต้องมีคนเข้ามาทำงานบริหารประเทศ

ซึ่งคุณจะมีส่วนตัดสินใจหรือไม่มันอยู่ที่ตัวคุณเอง

ไม่ใช้สิทธิ์แล้วอย่ามาบ่นทีหลัง


คนดีคือพวกคุณเท่านั้นหรือ? ผมเห็นว่าบนเวที พธม. นี่แหละหาคนดีไม่ได้เลย
ยังไม่ได้เล่นการเมืองยังเลวซะขนาดนี้ ถ้าเข้าสภาจริงๆผมว่าดูไม่จืด
คุณยอมรับแล้วใช่ไหมว่า..เมื่อเล่นการเมืองแล้วได้เข้าสภาจะเลวมากขึ้นกว่าเดิม :)

แน่นอน.. คนดีๆเข้าสภาแล้วกลายเป็นเลวทั้งนั้นแหละครับ

เพราะการเมืองไม่ว่าจะระบอบใดคือการใช้อำนาจบริหาร

คุณต้องต่อรองแลกเปลี่ยน ทำทุกอย่างเพื่อให้ยังประโยชน์กับเป้าหมายที่คุณต้องการ

ถ้าเป้าหมายนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัวคุณก็เลวมาก

ถ้าเป้าหมายนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของชาติคุณก็เลวน้อยหน่อย

แต่อย่างไรก็โดนด่าว่าเลวอยู่ดีครับ เพราะการตัดสินใจใดๆมันเกิดผลกระทบกับคนอีกกลุ่มทั้งนั้น

ใครมาเป็นนักการเมืองแล้วจะหวังให้ตนเองยังคงภาพความดีบริสุทธิ์ผุดผ่องมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วครับ

ใครคิดว่าการเมืองบริสุทธิ์ได้ขนาดนั้นก็คงสติไม่สมประกอบ

เพราะคุณลองยกตัวอย่างการเมืองของประเทศที่บริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นมาสักประเทศสิครับ.. ไม่มีเลย

การเมืองมันทำลายและบั่นทอนคนดีๆทั้งนั้น

ดูคุณอภิทธิ์สิครับทั้งดีและอดทนขนาดไหน

พอมาเป็นนายกฯเป็นไงล่ะ โดนด่าเสียผู้เสียคน

เป็นเพราะอะไรครับ เพราะการเมืองมันคืออำนาจไง

ใครอยากเข้าสู่อำนาจก็ต้องทำลายคนอื่น เช่น คนมีจุดบอดอย่างทักษิณก็โดนขยายผลหนัก
(ทั้งจาด ปชป. และ พธม.)

คนที่แทบไม่มีจุดบอดอย่างมาร์ค คนอย่างแป๊ะ หรือตู่ อยากเข้าสู่วงจรอำนาจบ้างก็ต้องป้ายสีเข้าไป

มันจะไปเหลือใครดีล่ะครับ ผมถึงบอกว่าต้องเลือกคนเลวน้อยสุด

เพราะคนที่เลวน้อยที่สุดในเวทีการเมืองนั้น

เมื่อเอามาเทียบกับเราๆท่านๆ ต้องขอบอกว่าเขาดีกว่าเราหลายขุมเลยครับ

เพราะถ้าคุณหรือผมเข้าไปในสนามการเมืองจับพลัดจับผลูมีอำนาจขึ้นมา

รับรองคุณจะถูกด่าชนิดที่งงว่าทำไมตัวเองเลวได้ขนาดนี้เลยเชียว


และผมว่าเลือกคุณอภิสิทธิ์นี่แหละ คือการเลือกคนดีให้มีอำนาจ
ถ้าผมไม่เลือกคุณอภิสิทธิ์ ต่างหากถึงจะเท่ากับผมปล่อยให้แม้วหรือคนเลวกลับมามีอำนาจ

การเลือกตั้งปี 50 พธม.เห็นว่า ปชป.เป็นความหวังสุดท้าย สำหรับพรรคการเมืองที่พวกเราคิดว่า..เลวน้อยที่สุด..ที่เหลืออยู่..จึงเทคะแนนให้ ปชป....ก็ยังไม่ชนะ..พลังประชาชน ได้เป็นรัฐบาล แล้วก็ทุจริตคอรับชั่นทำร้ายประเทศ.ปล่อยให้มีการจ้วงจาบสถาบันอย่างมากมาย...คนที่ออกมาต่อสู้ขับไล่ก็คือ พธม. แล้วใครล่ะสนับสนุน?..พอ พลังประชาชน โดนยุบพรรค ปชป.ก็ได้เป็นรัฐบาล..ตอนแรกพวกเราดีใจว่า..เอาละต่อนี้ไป..ประเทศจะต้องดีขึ้น..2 ปีผ่านไป ก็ได้คำตอบว่า....นักเลือกตั้งนี่เลวววว..เหมือนกัน. : :( :(


นั่นมันมุมมองของคุณ

ผมว่าคุณอภิสิทธิ์ทำงานได้อย่างน่าพอใจยิ่งบนเงื่อนไขที่จำกัด

ผมภูมิใจในตัวนายกฯคนนี้ด้วยซ้ำ

ผมเห็นภาพคุณอภิสิทธิ์ในตำแหน่งนายกฯแล้วมีความสุขครับ

เรื่องคอรัปชั่นในตัวท่านนายกฯบอกได้ว่าไม่มีเลย ทำงานหนักอย่างมาก

พาประเทศผ่านพ้นวิกฤตในทุกเรื่อง (ทั้งเศรษฐกิจและการเมือง)

ใจกว้าง สุภาพ อดทนสูง รับฟังผู้อื่น มีระเบียบวินัย ไม่มีประโยชน์ทับซ้อน

ท่ามกลางปัญหาที่หนักหนาของโลกทั้งค่าครองชีพสูงขึ้น(การจราจลในอียิปต์ และลิเบีย มีพื้นฐานมาจากเรื่องนี้) น้ำมันแพง

ภัยธรรมชาติรุนแรง คนไทยแตกแยกทางความคิด

ผมไม่เห็นว่าจะมีบุคคลไหนในประเทศไทยทำหน้าที่นายกฯได้เหมาะกว่าคุณอภิสิทธิ์

วันใดที่คุณอภิสิทธิ์วางมือทางการเมืองไปผมคิดว่าจะเป็นการสูญเสียอันน่าเสียดายยิ่ง

และมัน่าเศร้าไม่น้อยที่คนไทยจำนวนมากไม่รับรู้ถึงคุณค่าที่ตัวเองมี

อยากโหวตโนก็โหวตไปเถอะครับมันสิทธิของท่าน

แต่ถ้าไอ้แม้วกลับมาผมขออย่างเดียว คุณอย่ามาเสนอหน้าให้ผมเห็นอีกเลยได้ไหม?

ขอแค่นี้แหละ

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 9:32 pm
by กุสลาธัมมา
[quote="ตะนิ่นตาญี"]

อันเป็นการหมิ่นพระเกียรติของล้นเกล้าล้นกระหม่อมฯ เหมือนอย่างที่ จักรภพ เพ็ญแข เคยได้

กระทำมาแล้ว และจะไม่มีวันยอมเป็นอันขาด ใครก็ตามที่กระทำเช่นนี้โดยที่ปากบอกว่า จงรักภักดี

จึงเป็นการจงรักภักดีด้วยปาก วาทะกรรมที่ว่า “รักที่สุดคือในหลวง หวงที่สุดคือแผ่นดิน”

จึงเป็นเพียงแค่วาทะกรรมที่ต้องการให้ตนเองได้ผลประโยชน์จากการนี้เท่านั้น

ตะนิ่นตาญี

วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔

เวลา ๒๑.๑๒ นาฬิกา :) คุณกำลังเอา 2 เรื่อง มารวมเป็นเรื่องเดียวกันนะ..คุณ ;)

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 9:40 pm
by ตะนิ่นตาญี
กุสลาธัมมา wrote:
ตะนิ่นตาญี wrote:
อันเป็นการหมิ่นพระเกียรติของล้นเกล้าล้นกระหม่อมฯ เหมือนอย่างที่ จักรภพ เพ็ญแข เคยได้

กระทำมาแล้ว และจะไม่มีวันยอมเป็นอันขาด ใครก็ตามที่กระทำเช่นนี้โดยที่ปากบอกว่า จงรักภักดี

จึงเป็นการจงรักภักดีด้วยปาก วาทะกรรมที่ว่า “รักที่สุดคือในหลวง หวงที่สุดคือแผ่นดิน”

จึงเป็นเพียงแค่วาทะกรรมที่ต้องการให้ตนเองได้ผลประโยชน์จากการนี้เท่านั้น

ตะนิ่นตาญี

วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔

เวลา ๒๑.๑๒ นาฬิกา :) คุณกำลังเอา 2 เรื่อง มารวมเป็นเรื่องเดียวกันนะ..คุณ ;)



คุณกุสลาธัมมา กรุณาทบทวนอีกสักครั้งถ้าคุณไม่มี ธง อยู่ในใจ


ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่ได้ "โฆษณาชวนเชื่อ" ให้กับกลุ่มของคุณ


ตะนิ่นตาญี ขอร้องให้อ่านและทบทวน "ด้วยใจอันเป็นกุศล" อีกสักครั้งเถอะครับ


ตะนิ่นตาญี

วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๕๔

เวลา ๒๑.๔๐ นาฬิกา

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 9:53 pm
by กุสลาธัมมา
คลำปม wrote:

อยากโหวตโนก็โหวตไปเถอะครับมันสิทธิของท่าน

แต่ถ้าไอ้แม้วกลับมาผมขออย่างเดียว คุณอย่ามาเสนอหน้าให้ผมเห็นอีกเลยได้ไหม?

ขอแค่นี้แหละ[/color][/b]

:) ขอบคุณจ้า..ที่เคารพสิทธิกัน..คำขอของคุณ..ฉันเองก็จะพิจารณาอีกทีนึง..ว่าจะออกมาอีกหรือไม่..พูดตามตรงมันทั้งเหนื่อย ทั้งลำบาก ...ฉันว่า อ้ายแม้ว จะกลับมาได้หรือไม่นั้น...มันน่าจะเป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ :)

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 9:57 pm
by dtonNA
กุสลาธัมมา wrote:
คลำปม wrote:

อยากโหวตโนก็โหวตไปเถอะครับมันสิทธิของท่าน

แต่ถ้าไอ้แม้วกลับมาผมขออย่างเดียว คุณอย่ามาเสนอหน้าให้ผมเห็นอีกเลยได้ไหม?

ขอแค่นี้แหละ[/color][/b]

:) ขอบคุณจ้า..ที่เคารพสิทธิกัน..คำขอของคุณ..ฉันเองก็จะพิจารณาอีกทีนึง..ว่าจะออกมาอีกหรือไม่..พูดตามตรงมันทั้งเหนื่อย ทั้งลำบาก ...ฉันว่า อ้ายแม้ว จะกลับมาได้หรือไม่นั้น...มันน่าจะเป็นความรับผิดชอบของทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ :)


อะไรๆก็โยนไป ตัวเองเคยคิดอะไรมากกว่าที่แกนนำพ่นใส่กะโหลกไว้ไหม

ถ้าอ้ายแม้วกลับมาได้พวกคุณนั่นแหละอย่าโทษคนอื่น

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 10:13 pm
by กุสลาธัมมา
[quote="ตะนิ่นตาญี"]พธม.มีความจงรักภักดี..และก็อยากเห็นชาติบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี..ไม่มีใครอยากจะออกมาชุมนุม..แต่มีความจำเป็นเพราะ..คนมีหน้าที่ไม่ยอมทำหน้าที่..การโหวตโน ก็เช่นเดียวกันเป็นแนวทางเดียว..ที่ประชาชนสามารถจะทำได้ด้วยตนเอง เป็นการต่อสู้อย่างสันติ เหมาะสมที่สุดแล้วในเวลานี้...คุณเองก็เป็นคนรักชาติบ้านเมือง..ฉันก็รักชาติบ้านเมือง..คงจะคุยกันได้นะจ๊ะ :)

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 10:16 pm
by กุสลาธัมมา
[quote="dtonNA"]

อะไรๆก็โยนไป ตัวเองเคยคิดอะไรมากกว่าที่แกนนำพ่นใส่กะโหลกไว้ไหม

ถ้าอ้ายแม้วกลับมาได้พวกคุณนั่นแหละอย่าโทษคนอื่น 8-) อย่างนั้นหรือจ๊ะ 8-)

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 10:23 pm
by เด็กอมมือ
ผมก็ยังมองไม่ออกว่าอะไรคือประเด็นของการชุมนุมตอนนี้ครับ

ส่วนประเด็น โหวตโน มันก็เหมือนการพายเรือในอ่างครับ ยังไงก็ไม่มีวันยุติ เพราะไม่มีในรัฐธรรมนูณที่การโหวตโนจะมีผล
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเหมือนที่พี่ใฝ่ฝันหาครับ ถกเถียงพูดคุยกันไปเยอะแล้ว

การใช้พื้นที่ๆเป็นของสาธารณะมาครอบครองโดยกลุ่มบุคคลที่ความเห็นทางการเมืองแตกต่างจากรัฐ แต่กลับปฏิเสธกติกาบ้านเมือง
อย่างนี้แล้วถือว่าเบียดบังสิทธิ์ของประชาชนผู้อื่นรึเปล่าครับ :?:

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 10:55 pm
by ตะนิ่นตาญี
กุสลาธัมมา wrote:
ตะนิ่นตาญี wrote:พธม.มีความจงรักภักดี..และก็อยากเห็นชาติบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี..ไม่มีใครอยากจะออกมาชุมนุม..แต่มีความจำเป็นเพราะ..คนมีหน้าที่ไม่ยอมทำหน้าที่..การโหวตโน ก็เช่นเดียวกันเป็นแนวทางเดียว..ที่ประชาชนสามารถจะทำได้ด้วยตนเอง เป็นการต่อสู้อย่างสันติ เหมาะสมที่สุดแล้วในเวลานี้...คุณเองก็เป็นคนรักชาติบ้านเมือง..ฉันก็รักชาติบ้านเมือง..คงจะคุยกันได้นะจ๊ะ :)



คุยกันได้ครับ คุณกุสลาธัมมา และโดยเนื้อแท้แล้วเราเห็นตรงกันประการหนึ่ง

นั่นก็คือความเลวร้ายของนักการเมือง และเมื่อเรารู้ว่าพวกเขาเหล่านั้น เลวร้าย

คิดหรือครับว่าเขาจะมีความละอาย เมื่อเราเห็นตรงกันแล้วว่าพวกเขาไม่ละอาย

การ vote no จะมีความหมายอย่างไร? และหากเป็นไปตามที่ คุณกุสลาธัมมา คาดไว้

ซึ่งนั่นก็คือ พรรคเพื่อไทย จะได้เสียงข้างมากกลับเข้ามาในสภา เมื่อพวกเขารวบรวมเสียงได้มากพอ

ตาม รัฐธรรมนูญ นั่นก็คือเขาจะได้จัดตั้ง รัฐบาล นาทีนั้นเราจะได้ เห็นคนที่หมิ่นพระเกียรติฯ

อย่าง จตุพร พรหมพันธ์ เป็น รัฐมนตรี คุณกุสลาธัมมา ทนได้หรือครับ? ตะนิ่นตาญี ทนไม่ได้ครับ

คุณกุสลาธัมมา จะได้เห็นกระบวนการขั้นตอนกระบวนการในทางกฎหมาย เพื่อดำเนินการ

ลดทอนพระราชอำนาจ ของในหลวง คุณกุสลาธัมมา ทนได้หรือครับ? ตะนิ่นตาญี ทนไม่ได้ครับ

ตะนิ่นตาญี จะไม่อดทนต่อการดำเนินการใดๆอันอาจก่อให้เกิดการหมิ่นพระเกียรติฯได้เป็นอันขาด

คุณกุสลาธัมมา เชื่อในเรื่อง vote no ตะนิ่นตาญี ไม่เชื่อเช่นนั้น หากแต่ ตะนิ่นตาญี ขอเพียงอีก ๔ ปี

๔ ปี ที่พรรคเพื่อไทย ถูกจำกัดอำนาจในทางการบริหาร ให้ได้แต่อำนาจในทางนิติบัญญัติ

หรือเป็นเพียงแค่ฝ่ายค้านเท่านั้น เพียง ๔ ปี เท่านั้นที่ปล่อยให้ภาคการเมืองได้ดำเนินไปตามวิถี

แห่ง ประชาธิปไตย “อันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข” ตะนิ่นตาญี เชื่อโดยบริสุทธิ์ใจ

กระบวนการอันเลวร้าย กระบวนการที่จ้องจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ จะถูกทำลายล้างลงไป

แม้จะไม่ทั้งหมดแต่ก็เป็นส่วนใหญ่...ตะนิ่นตาญี เชื่อเช่นนั้นครับ คุณกุสลาธัมมา

ตะนิ่นตาญี ไม่ได้คิดชักจูง หรือฉุดรั้งให้ คุณกุสลาธัมมา ออกไปจากความเชื่อของ คุณ

วิถีแห่งความคิดของมนุษย์นั้นแตกต่างกัน โดยสิ้นเชิง แต่ทุกคนมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะเลือก

คุณกุสลาธัมมา เลือกแล้ว ตะนิ่นตาญี ก็ได้เลือกแล้วเช่นกันครับ

ตะนิ่นตาญี

วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔

เวลา ๒๒.๕๕ นาฬิกา

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 10:59 pm
by กุสลาธัมมา
เด็กอมมือ wrote:ผมก็ยังมองไม่ออกว่าอะไรคือประเด็นของการชุมนุมตอนนี้ครับ

ส่วนประเด็น โหวตโน มันก็เหมือนการพายเรือในอ่างครับ ยังไงก็ไม่มีวันยุติ เพราะไม่มีในรัฐธรรมนูณที่การโหวตโนจะมีผล
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเหมือนที่พี่ใฝ่ฝันหาครับ ถกเถียงพูดคุยกันไปเยอะแล้ว

การใช้พื้นที่ๆเป็นของสาธารณะมาครอบครองโดยกลุ่มบุคคลที่ความเห็นทางการเมืองแตกต่างจากรัฐ แต่กลับปฏิเสธกติกาบ้านเมือง
อย่างนี้แล้วถือว่าเบียดบังสิทธิ์ของประชาชนผู้อื่นรึเปล่าครับ :?:

:) ประเด็น ข้อเรียกร้องในตอนแรกมี 3 ข้อ คือ 1. ให้ยกเลิก mou43 2. ลาออกจากมรดกโลก 3. ผลักดันเขมรออกจากเขาพระวิหาร...ส่วนการโหวตโน พึ่งเกิดขึ้นหลังจาก รัฐบาลบอกว่าจะยุบสภาเพื่อเลือกตั้งกันใหม่..ซึ่งปัญหาขอเรียกร้องก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข..จากรัฐบาลโดยตรง....การโหวตโน..เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น..แนวทางการปฏิบัติต่อไปยังมีอีกมากในรายละเอียด...แต่ขอบอกอีกครั้งนึงว่า....เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติบ้านเมืองทั้งสิ้น...ชาติบ้านเมืองจะต้องเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น..และก็ไม่ได้ไปเบียดบังสิทธิของใคร...ฉันมีหน้าที่บอกให้ทราบ...ประชาชนมีสิทธิเสรีที่จะพิจารณาด้วยตนเอง 8-)

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Thu Apr 21, 2011 11:20 pm
by กุสลาธัมมา
[quote="ตะนิ่นตาญี"] :) เรามีความคิดเห็นต่างกัน...แต่ก็ไม่เป็นไรนะ..ฉันก็จะทำหน้าที่ของฉันต่อไป ตามแนวทางนี้..แนวทางที่คุณเชื่อว่าดี หรือ แนวทางที่ฉันเชื่อว่าดี อยู่บนพื้นฐานของความรักชาติเหมือนกัน.....แนวทางไหนสำเร็จก่อน..ก็เป็นผลดีกับประเทศชาติเช่นกัน... :) :)

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Fri Apr 22, 2011 8:56 am
by chanbaan
คำว่าพักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า
ไม่ได้หมายถึงสิ่งที่พวกคุณพูดถึงเลยด้วยซ้ำ
แต่กลับยิ่งต้องทำหน้าที่โดยไม่ยึดติดผลทางการเมืองต่างหาก
นั้นก็คือ
Image
หากพูดถึงต้นข้าว เรามักคิดว่ามีอยู่แต่ในท้องนา แต่ใครจะรู้ว่า ต้นข้าวก็สามารถปลูกงอกงามดีในกระถางต้นไม้ได้ด้วย หลายคนเองก็อาจเคยพบเห็น แต่หลายคนอาจยังไม่เคยพบเห็น ก็เลยเอามาฝากกัน ข้าวที่ฉันเห็น พ่อของฉันปลูก มันทำให้ฉันสบายใจมาก เพราะรู้ว่าอนาคตของฉัน ฉันเองก็สามารถปลูกข้าวเอาไว้กินเองได้


Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Fri Apr 22, 2011 9:35 am
by คลำปม
ข้าวก็เป็นพืช

มีดินมีน้ำ แร่ธาตุเหมาะสม ที่ไหนก็ปลูกได้ครับ

ปลูกในกระบะหรือในกระถางต้นไม้ก็ได้ไม่แปลก

แต่ถ้าคิดจะปลูกเป็นอาชีพหรือปลูกให้ได้ประสิทธิภาพ ปลูกในกระถางต้นไม้ก็เจ๊งครับ

ปลูกยังไงก็ไม่พอกิน



เรื่องตื้นเขินอย่าเอามาขยายความให้มันลึกซึ้งเลยครับ

ความเรียบง่ายมันก็มีความงดงามของมัน

แต่ความไม่รู้ ความเข้าใจผิดๆ มันไม่งดงามไปได้หรอกครับต่อให้สร้างภาพอธิบายอย่างไรมันก็ไม่ใช่

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Fri Apr 22, 2011 11:30 am
by chanbaan
คลำปม wrote:ข้าวก็เป็นพืช

มีดินมีน้ำ แร่ธาตุเหมาะสม ที่ไหนก็ปลูกได้ครับ

ปลูกในกระบะหรือในกระถางต้นไม้ก็ได้ไม่แปลก

แต่ถ้าคิดจะปลูกเป็นอาชีพหรือปลูกให้ได้ประสิทธิภาพ ปลูกในกระถางต้นไม้ก็เจ๊งครับ

ปลูกยังไงก็ไม่พอกิน



เรื่องตื้นเขินอย่าเอามาขยายความให้มันลึกซึ้งเลยครับ

ความเรียบง่ายมันก็มีความงดงามของมัน

แต่ความไม่รู้ ความเข้าใจผิดๆ มันไม่งดงามไปได้หรอกครับต่อให้สร้างภาพอธิบายอย่างไรมันก็ไม่ใช่

.
ไม่รู้อะไรก็ให้ถาม ไม่ใช่ดีแต่ยกตนข่มท่าน

Re: พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า

PostPosted: Fri Apr 22, 2011 11:49 am
by chanbaan
พักการเมือง ในสายตาข้าพเจ้า
ไม่ได้หมายถึงการ โนโหวต หรือไม่สนใจการเมือง
แต่หากเราโนโหวต เพราะเราเสนอคนดี แล้วคนดีนั้นไม่มีพรรคการเมืองไหนให้การสนับสนุน ซึ่งในต่างประเทศบางประเทศ เขามีการลงคะแนน และก็ร่วมกันแสดงความคิดเห็นทั้งจากประชาชนและนักการเมืองก่อนที่จะลงชิงชัยเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองด้วยซ้ำ ซึ่งก็ถือเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางการเมืองการปกครอง แทนการถูกไล่ล่าเด็ดหัว ซึ่งสังคมไทยยังนิยมการใช้ความรุนแรงทั้งต่อหน้าและรับหลังอยู่ การพัฒนาประชาธิปไตยที่เน้นการเมืองต้องมาก่อนนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง เพราะความจริงความพร้อมเพียงของประชาชน และการคัดสรรคนที่เหมาะสมให้แต่ละพรรคได้สนับสนุนส่งลงชิงชัยในเวทีการเลือกตั้งนั้นเป็นเรื่องแรกๆ ที่ประชาชนในแต่ละพรรคการเมือง หรือต่างพรรคการเมืองก็สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อทัศนคติและวิสัยทัศน์ทางการเมืองการปกครองของบุคคลที่ต้องการได้รับการสนับสนุน เพื่อให้เสียงสนับสนุนเหล่านั้นพลักดันตนเองเข้าสู่การได้รับโอกาสให้พรรคการเมืองใดๆ ที่มีแนวทางประชาธิปไตยตามแบบฉบับของตนได้สนับสนุนเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ในที่สุด
---------------------------------------------------------
ซึ่งการโนโหวต ไม่ควรถูกชี้นำด้วยกลไกพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง รวมถึงการไม่ชิงชัยลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองในกรณีที่การเลือกตั้งไม่มีการแทรกแซง ซึ่งอันนี้ก็เคยมีข้อสักถามว่า หากรัฐบาลแทรกแซงการเลือกตั้ง จัดการเลือกตั้งเร็วเกินไปจนขัดต่อกฏหมาย หรือจัดการเลือกตั้งด้วยการไม่ปกปิดให้เป็นความลับ กลับเปิดเผยการเลือกตั้งทำให้ประชาชนที่ลงคะแนนเสียงขาดอิสระภาพ หรือไม่ได้รับความปลอดภัยในการลงคะแนน กลายเป็นการกดดันให้เสียงของประชาชนนั้นเป็นเสียงที่ต้องเลือกเพราะการตอบแทนบุญคุณ แทนการพิจารณาด้วยความรอบคอบก่อนตัดสินใจให้คะแนนผู้สมัครคนไหน การเลือกตั้งแบบนั้น ก็น่าจะมีการโนโหวต และการไม่ส่งพรรคการเมืองมาลงชิงชัยในสนามเลือกตั้งในที่สุด และอาจร้ายแรงจนกลายเป็นการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจจากฝ่ายทหารได้ในที่สุดเช่นกัน
-------------------------------------------------------
หากเรายังมาคิดว่าพักการเมือง คือไม่ไปเลือกตั้ง อันนี้ก็ถูกส่วนหนึ่ง หากตรงกับเงื่อนไขที่เหมาะสมในการไม่ไปเลือกตั้งใคร นั้นก็คือ โนโหวต
แต่หากเราทำความเข้าใจให้ท่องแท้ การเสนอชื่อบุคคลที่น่าเป็นนายกรัฐมนตรีให้กับทางการเมืองได้รับทราบ และอาจเอาบุคคลคนนั้นมาเป็นต้นแบบของนักการเมืองที่จะชิงชัยเป็นนายกรัฐมนตรี หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อันนี้น่าจะทำให้การเมืองพักเรื่องโกหก เรื่องผลประโยชน์ของตนเอง มาสนใจการพัฒนาการเมือง พัฒนาคนที่จะลงชิงชัยในสนามเลือกตั้ง แล้วการเมืองมันก็ไม่มีผลอะไร เพราะมันจะกลายเป็นความรับผิดชอบของคนทั้งชาติ เป็นเรื่องของบ้านเมืองไปในทันที