คมชัดลึก : เศรษฐกิจไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวเกินคาด สศช.เปิดตัวเลขโตถึง 3% คาดทั้งปีขยายตัว 3.5-4.5% มองเลือกตั้งมีเงินสะพัด 2-3 หมื่นล้าน เป็นปัจจัยหนุนกำลังซื้อในประเทศ ธปท.รับเงินเฟ้อเป็นแรงกดดัน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกปี 2554 ขยายตัว 3% โดยการส่งออก การลงทุน การบริโภคและการท่องเที่ยวยังขยายตัวในอัตราสูง จากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีขึ้น ส่วนเศรษฐกิจทั้ง ปีน่าจะขยายตัว 3.5-4.5% ซึ่งมีการส่งออกเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อน มีตลาดเอเชียเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ก็เป็นแรงส่งให้ภาคการผลิตและบริการต่อเนื่องขยายตัวได้ดี รวมทั้งราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม จะสนับสนุนการบริโภคภาคครัวเรือน
"การเลือกตั้งก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อในประเทศอีกทางหนึ่ง โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัด 2-3 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าหลังเลือกตั้งจะไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ" นายอาคมกล่าว
สำหรับปัจจัยเสี่ยงในปี 2554 นั้น ยังคงเป็นเศรษฐกิจโลก ที่ผันผวน ขณะที่ราคาน้ำมัน สศช.ประเมินว่าทรงตัวในระดับสูงจากปัจจัยเหตุการณ์ความไม่สงบในลิเบียและ ประเทศแถบตะวันออกกลาง และความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจโลก ที่ขยายตัวได้ดี นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในวัฏจักรขาขึ้น สศช.คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะตัดสินใจปรับอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่ระดับ 3.5% ภายในปีนี้ เพื่อทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงไม่ติดลบ
ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจไตร มาสแรกปี 2554 ที่ขยายตัว 3.0% ถือว่าอยู่ในระดับที่เกินคาด โดย ธปท. ประเมินตัวเลขการเติบโตไว้ที่ระดับกว่า 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสแรกปีที่แล้ว ถือว่าอยู่ในระดับที่สูง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ ธปท.ยังประเมินการเติบโตภายรวมโดยเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 4.1% และคงยังไม่มีการปรับประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจใหม่ เพราะเกรงว่าผู้ประกอบการที่นำตัวเลขของธปท.ไปใช้ในการวางแผนการลงทุน จะเกิดการสับสนได้
"ตัวเลขเงินเฟ้อที่สศช.ปรับประมาณการใหม่เป็น 3-3.8% จากเดิมที่ 2.8-3.8% เป็นอัตราที่ใกล้เคียงกับ ธปท.ประเมิน แต่ยอมรับว่าเงินเฟ้อช่วงนี้มีแรงกดดันที่มากขึ้นจากปัจจัยรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นอุปสงค์และอุปทานที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เริ่มสูงขึ้น" นายประสารกล่าว
ด้านนายเวลเลียน วิรานโต นักเศรษฐศาสตร์ ประจำภูมิภาคเอเชีย ธนาคารเอชเอสบีซี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2554 เติบโตที่ระดับ 3% ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทย ในช่วงปีที่เหลือ ถึงแม้ว่าการส่งออกในไตรมาส 2 จะลดลง เนื่องจากเครือข่ายการค้าในภูมิภาคต้องหยุดชะงักจากการแพร่กระจายของ กัมมันตภาพรังสีหลังเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น
ขอบคุณคมชัดลึกครับ จะเลือกใคร พรรคไหน ตัดสินใจเอาเอง