Page 1 of 6

รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 3:33 am
by baezae
ขออนุญาตคุณพิงก์เดวิล และคุณมหาอุสรา นำข้อมูลที่ได้ค้นหา มาประกอบกับข้อมูลที่ผมมีอยู่ จัดทำเป็นรูปแบบตารางโดยอาศัยจากที่คุณมหาอสุราได้ทำไว้เป็นพื้นฐาน

อนึ่ง ผมได้ทำการเพิ่มข้อมูลในส่วนปี ๒๕๕๓ เข้าไปเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ ส่วนของปี ๒๕๕๔ นั้นเนื่องจากเพิ่งเป็นช่วงกลางปี โดยรัฐเองก็บริหารประเทศได้ไม่ถึง ๖ เดือนในปีนี้ จึงยังไม่นำมาคิดรวม

นอกจากนี้ ผมยังตัดสินใจใช้ Gross National Income (GNI) per Capita มาเป็นตัวชี้วัดอัตรารายได้ต่อหัวประชากรโดยเฉลี่ย แทนที่ GDP ในตารางเดิม

Image

รบกวนสมาชิกช่วยกันเผยแพร่และอธิบายความเป็นจริงที่ไม่ใช่การโม้ของทักษิณ ใ้ห้บุคคลทั่วไปโดยเฉพาะคนที่ยังอยู่ตรงกลางได้เข้าใจด้วยครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 3:35 am
by คนบาป
ได้เลยครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 12:07 pm
by PinkDevil

เข้ามาอ่านข้อมูลตัวเลขที่คุณ baezae ได้ช่วยรวบรวมให้ ขอตั้งขอสังเกตเรื่องหนึ้สาธารณะ

สาวกทักษิณชอบอ้างว่าเป็นเพราะหนี้ IMF ของรัฐบาลชวนทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วกู้มาตั้งแต่สมัยชวลิตที่มีทักษิณเป็นรองนายก ไม่ว่ากัน เอาเป็นว่ามีหนี้ IMF ก็มีหนี้ IMF แต่ถ้าไปพิจารณาตัวเลขแล้วจะเห็นว่าหหลังจากการใช้หนี้ IMF ที่เหลือทั้งหมดตามมติ ครม มกราคม 2546 ยอดหนี้โดยรวมหลังจากการใช้หนี้ไปแล้วไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลยเลย เพราะในเดือน ตุลาคม 2545 ยอดหนี้อยู่ที่ 2.94 ล้านล้านบาทหลังจากใช้หนี้ไปแล้วในเดือนมกราคม 2546 ยอดหนี้ในเดือนตุลาคม 2546 2547 อยู่ที่ 2.93 3.13 ล้านล้านบาท คือลดลงมาแค่ประมาณ 10,000 ล้านบาทในปลายปี แล้วตีกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.13 ล้านล้านบาทในปีถัดมา

มองง่ายๆตรงไปตรงมาเลย คือ ทักษิณก็แค่กู้หนี้ใหม่ไปใช้หนี้ IMF แล้วแหกตาคนไทยเท่านั้นเอง แล้วการกู้ของทักษิณไม่ได้น้อยไปกว่าอภิสิทธิ์เลยเพราะดูจากตัวเลขสัดส่วนต่อ GDP ดังนั้น วาทกรรมดีแต่กู้ กู้มากที่สุดนั้น เป็นเพียงวาทกรรมที่มุ่งทำลายคู่แข่งทางการเมือง โดยปราศจากข้อมูลข้อเท็จจริงสนับสนุนอย่างที่สุด

Image

กราฟ จัดทำโดย คุณ Mahasura

ที่จริงการการก่อหนี้สาธารณะไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะทำก็ทำไปเถอะ ตราบใดที่สัดส่วนหนี้ต่อ GDP อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกตอนนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยที่อยู่ระดับ 45% ถือว่า อยู่ในระดับที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลในอนาคต และเมื่องลองเปรียบเทียบกับหลายๆประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ (68%) ฝรั่งเศส (78%) เยอรมัน (73%) หรือประเทศในทวีปอเมริกาอย่างอเมริกา (84%) แคนาดา (81%) ส่วนมาเลเซียทีมีระดับเศรษฐกิจใกล้เคียงกับไทย(55%) –ข้อมูลสัดส่วนหนี้ต่อ GDP ปี 2010 จาก IMF- สัดส่วหนี้สาธารณะของไทยก็ไม่ได้สูงไปกว่าประเทศเหล่านั้นเลย

สิ่งที่คนไทยควรจะมองน่าจะเป็นว่าเมื่อกู้มาแล้ว เงินกู้นั้นนำไปใช้ในโครงการอะไร เป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวมหรือไม่ เป็นโครงการที่มุ่งสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศหรือไม่ ประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นที่คนที่ไม่ชอบอภิสิทธิ์ควรยกขึ้นมาถกเถียงมากกว่าจะมานั่งพูดๆๆ ว่าดีแต่กู้ แล้วไม่มีอะไรต่อ สังคมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการวิพากษ์วิจารณ์เลยด้วยซ้ำ

แต่สิ่งเดียวที่คนเหล่านั้นจะได้ก็คือความจริงที่ทิ่มแทงกลับไปว่า ทักษิณ ที่บูชาว่าเก่งนักเก่งหนานั้น เป็นเพียงคนไร้ฝีมือ ที่ไม่มีความสามารถอะไร นอกจากการโกหกแหกตาคนไทยด้วยความหน้าด้านปลิ้นปล้อนเท่านั้นเอง

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 12:28 pm
by halfmoon
ผมทดลอง copy แล้วอัพใหม่ขนาดมันยังเท่าเดิม รบกวนคุณ baezae อัพภาพด้วยวิธีนี้ครับ ตารางจะได้ชัดขึ้น ขอบคุณครับ
:arrow: http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=3&t=36055

Image

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 12:51 pm
by baezae
แก้แล้วครับ แต่รูปมันใหญ่ไปนิด เลยเห็นไม่หมดทั้งรูป ตอนท้ายเลยขาดไปหน่อยครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 12:58 pm
by MahaAsura
มาช่วยแปะเพิ่มให้นะครับ
( ขอแก้ไขเพิ่มแหล่งข้อมูลนะครับ )
ธนาคารแห่งประเทศไทย :http://www.bot.or.th/Thai/Statistics/EconomicAndFinancial/EconomicIndices/Pages/menu.aspx
IMF : http://www.imf.org/external/pubs/ft/weo ... index.aspx
ยินดีให้เพื่อนๆนำไปเผยแพร่ได้ตามสะดวกไม่มีสงวยลิขสิทธิ์ ครับ ส่วนความหมายคงไม่ต้องอธิบายมากนะครับ
เพราะกราฟทุกตัว ตอบทุกอย่างในตัวมันเองอยู่แล้ว


Image

Image

Image
หมายเหตุ : แก้ไขปีที่คุณทักษิณเข้ารับตำแหน่งจาก กพ45 -> กพ44 นะครับส่วนข้อมูล ตัวเลขอื่นๆเหมือนเดิมนะครับ

Image

Image

Image

Image

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 1:26 pm
by dutchout
PinkDevil wrote:
เข้ามาอ่านข้อมูลตัวเลขที่คุณ baezae ได้ช่วยรวบรวมให้ ขอตั้งขอสังเกตเรื่องหนึ้สาธารณะ

สาวกทักษิณชอบอ้างว่าเป็นเพราะหนี้ IMF ของรัฐบาลชวนทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้วกู้มาตั้งแต่สมัยชวลิตที่มีทักษิณเป็นรองนายก ไม่ว่ากัน เอาเป็นว่ามีหนี้ IMF ก็มีหนี้ IMF แต่ถ้าไปพิจารณาตัวเลขแล้วจะเห็นว่าหหลังจากการใช้หนี้ IMF ที่เหลือทั้งหมดตามมติ ครม มกราคม 2546 ยอดหนี้โดยรวมหลังจากการใช้หนี้ไปแล้วไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลยเลย เพราะในเดือน ตุลาคม 2545 ยอดหนี้อยู่ที่ 2.94 ล้านล้านบาทหลังจากใช้หนี้ไปแล้วในเดือนมกราคม 2546 ยอดหนี้ในเดือนตุลาคม 2546 2547 อยู่ที่ 2.93 3.13 ล้านล้านบาท คือลดลงมาแค่ประมาณ 10,000 ล้านบาทในปลายปี แล้วตีกลับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3.13 ล้านล้านบาทในปีถัดมา

มองง่ายๆตรงไปตรงมาเลย คือ ทักษิณก็แค่กู้หนี้ใหม่ไปใช้หนี้ IMF แล้วแหกตาคนไทยเท่านั้นเอง แล้วการกู้ของทักษิณไม่ได้น้อยไปกว่าอภิสิทธิ์เลยเพราะดูจากตัวเลขสัดส่วนต่อ GDP ดังนั้น วาทกรรมดีแต่กู้ กู้มากที่สุดนั้น เป็นเพียงวาทกรรมที่มุ่งทำลายคู่แข่งทางการเมือง โดยปราศจากข้อมูลข้อเท็จจริงสนับสนุนอย่างที่สุด

ที่จริงการการก่อหนี้สาธารณะไม่ใช่เรื่องที่ผิด ไม่ว่ารัฐบาลไหนจะทำก็ทำไปเถอะ ตราบใดที่สัดส่วนหนี้ต่อ GDP อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆทั่วโลกตอนนี้ สัดส่วนหนี้สาธารณะของไทยที่อยู่ระดับ 45% ถือว่า อยู่ในระดับที่ไม่น่าจะก่อให้เกิดปัญหาความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาลในอนาคต และเมื่องลองเปรียบเทียบกับหลายๆประเทศในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ (68%) ฝรั่งเศส (78%) เยอรมัน (73%) หรือประเทศในทวีปอเมริกาอย่างอเมริกา (84%) แคนาดา (81%) ส่วนมาเลเซียทีมีระดับเศรษฐกิจใกล้เคียงกับไทย(55%) –ข้อมูลสัดส่วนหนี้ต่อ GDP ปี 2010 จาก IMF- สัดส่วหนี้สาธารณะของไทยก็ไม่ได้สูงไปกว่าประเทศเหล่านั้นเลย

สิ่งที่คนไทยควรจะมองน่าจะเป็นว่าเมื่อกู้มาแล้ว เงินกู้นั้นนำไปใช้ในโครงการอะไร เป็นโครงการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวมหรือไม่ เป็นโครงการที่มุ่งสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศหรือไม่ ประเด็นนี้น่าจะเป็นประเด็นที่คนที่ไม่ชอบอภิสิทธิ์ควรยกขึ้นมาถกเถียงมากกว่าจะมานั่งพูดๆๆ ว่าดีแต่กู้ แล้วไม่มีอะไรต่อ สังคมไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการวิพากษ์วิจารณ์เลยด้วยซ้ำ

แต่สิ่งเดียวที่คนเหล่านั้นจะได้ก็คือความจริงที่ทิ่มแทงกลับไปว่า ทักษิณ ที่บูชาว่าเก่งนักเก่งหนานั้น เป็นเพียงคนไร้ฝีมือ ที่ไม่มีความสามารถอะไร นอกจากการโกหกแหกตาคนไทยด้วยความหน้าด้านปลิ้นปล้อนเท่านั้นเอง



เพิ่มเติมครับ เด๊วจะหาว่าสมัยคุณชวนไม่ทำอะไร

ตั้งแต่ประเทศไทยเกิดต้มยำกุ้งแล้ว รัฐบาลชวลิตกู้เงินจากแหล่งทุนต่างประเทศนั้น ไม่ได้เฉพาะมี IMF ผมจำชื่อไม่ได้แต่มีแหล่งเงินกู้อยู่อีก 2-3 แหล่ง ซึ่งในสมัยชวนนั้น ก็ใช้หนี้เงินกู้เหล่านี้ไปหมดแล้ว เนื่องจาก เงินกู้แหล่งอื่นมีดอกเบี้ยค่อนข้างแพงกว่า IMF และคิดว่าเป็นเพราะการวางแผนของรัฐบาลควรจะใช้หนี้เงินกู้แห่ลงไหนไปก่อน

ถ้าเทียบแล้ว ถ้าสมัยชวลิตกู้เงินกู้จากแหล่งอื่นๆ รวม 100% สมัยชวนก็ใช้หนี้เงินกู้ทั้งหมดไปถึง 50-60% ขาดแต่หนี้ IMF ถ้าจำตัวเลขไม่ผิดสมัยชวนใช้หนี้เฉพาะแหล่งนี้นี้ไป 20% พอ แม้วมาบริหารประเทศ ก็เอาเงินภาษีประชาชนเช่นเดียวกันใช้หนี้ IMF เช่นเดียวกับสมัยชวน คนก็เลยจำได้แต่หนี้ IMF คิดว่าเป็นผลงานของแม้ว ทั้งที่จริง มีอีกแหล่งเงินกู้ 2-3 แหล่ง ก็เป็นผลงานของรัฐบาลชวนเหมือนกันที่ใช้หนี้หมด ถ้าจะคิดตรรกะแบบนั้น

ปล เรื่องเปอร์เซ็นต์ไม่แน่ใจนัก อาจคลาดเคลื่อน ลองไปหาข้อมูลเพิ่มได้ เพราะพิมพ์เท่าที่จำเรื่องราวคราวๆได้ แต่ก็จำได้แม่นยำว่า สมัยชวนก็ใช้หนี้แหล่งเงินกู้อื่น ไม่น้อยกว่าสมัยแม้วที่ใช้หนี้ IMF

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 1:34 pm
by halfmoon
กระทู้นี้ เพื่อนๆช่วยหาข้อมูลแล้วมารวบรวมไว้ที่นี่ก็ดีนะครับ เวลาจะอ้างอิงจะได้หาที่ก๊อป link ง่ายๆหน่อย ส่งต่อ link ก็ง่ายขอบคุณครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 1:42 pm
by MahaAsura
หนีเสาธารณะที่เสื้อแดงบอกเยอะๆ ลองดูเปรียบเทียบ % of GDP กับประเทศอื่นๆที่สำคัญดูนะครับ
ข้อมูลปี 2010 ที่แน่ๆสมัยคุณทักษิณ %of GDP มากกว่า คุณมาร์คนั่นหมายถึงคุณทักษิณสร้างหนี้เยอะกว่าเห็นๆ

Image

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 3:43 pm
by Torres_No9
ขอโทษครับ ทำให้กราฟ แผนภูมิ และข้อมูลทั้งหมด
ไม่เกิน 3 บรรทัดได้ไม๊ครับ จะเป็นพระคุณยิ่ง ++

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 4:47 pm
by ID007
บริหารประเทศ มันง่ายๆ ไม่ได้ยากเย็นอะไร
ไม่เหมือนวิ่งเต้นขอสัมปทานดาวเทียม มือถือ นะคุณๆทั้งหลาย
คิดดูสิ แค่ได้สัมปทานมา จากคนวิ่งแลกเช็ค พริบตาเดียวก็รวยเป็นมหาเศรษฐีแล้ว
เนี่ยถ้าปล่อยไว้จนถึงป่านนี้ ประเทศเราคงมีมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก แซงบิวเกตไปแล้ว
มีชาวนาเป็นเศรษฐีแขกซาอุ โก้จะตายไป
ประเทศก็เงินเหลือเยอะแยะ เพราะขายรัฐวิสหากิจดีดีออกไป
การจ้างงานก็ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพราะชาวนา ชาวไร่ คนเลี้ยงไก่ หมู ถูกแปรรูปไปเป็นลูกจ้าง มีสวัสดิการ มีวันหยุด มีโอที
คนจนที่มีมากมายก็จะหมดไปจากประเทศ เพราะกลายเป็นลูกหนี้ ถูกยึดทรัพย์ เป็นบุคคล ล้มละลายกัน พอสามปี ก็เป็นคนใหม่แระ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 10:53 pm
by PinkDevil

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ

หลายๆคนคงคุ้นกับศัพท์คำนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงปี วิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 ที่มีข่าวออกมาว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยเหลือน้อยมากจากที่รัฐบาลในยุคนั้นนำไปสู้ค่าเงินบาทกับนักเก็งกำไร จนในที่สุดรัฐบาลชวลิตต้องประกาศลอยตัวค่าเงินบาทและขอกู้เงินจาก IMF

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ คือ สินทรัพย์ของประเทศในรูปทองคำ เงินตราต่างประเทศ และสิทธิในการเบิกเงิน IMF (บัญชีเงินฝากที่ IMF) ดังนั้นถ้าในแต่ละปีประเทศไทยมีกระแสเงินเข้าประเทศมากกว่ากระแสเงินไหลออกนอกประเทศ ปีนั้นๆ จะมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น ในทางตรงกันข้ามถ้ากระแสเงินไหลเข้าประเทศน้อยกว่ากระแสเงินไหลออก เงินทุนสำรองระหว่างประเทศก็จะลดน้อยลงไป

เนื่องจากข้อมูลของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศจะมีลักษณะเป็น stock ดังนั้นถ้าจะพิจารณาว่าในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศในแต่รัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นแค่ไหน ก็ให้พิจารณาโดย

การเพิ่มขึ้นของทุนสำรองระหว่างประเทศ = เงินทุนสำรอง ณ วันที่ออกจากตำแหน่ง – เงินทุนสำรอง ณ วันที่เข้ารับตำแหน่ง

ซึ่งจากข้อมูลที่ คุณ Mahasura นำเสนอ จะเห็นว่า

Image

ซึ่งจะเห็นได้ว่าถ้าเปรียบเทียบกันแบบง่ายๆ ทักษิณมีความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจให้ประเทศไทยหารายได้จากต่างประเทศได้ต่ำที่สุดทั้งๆที่ในช่วงนั้นเป็นช่วงเศรษฐกิจขาขึ้น ขนาดเปรียบเทียบกับรัฐบาลสุรยุทธ์ ที่บริหารงานเพียงปีกว่าๆ ยังสามารถบริหารงานจนประเทศสามารถเพิ่มเงินทุนสำรองระหว่างประเทศได้มากกว่าทักษิณที่บริหารงานมาเกือบหกปี และเมื่อทีมเศรษฐกิจของทักษิณได้รับโอกาสจากประชาชนอีกครั้งในการบริหารงานในปี 2551 พบว่าทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเพียง 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่เมื่ออภิสิทธิ์เข้ามาบริหารงาน 2 ปี กว่าๆ ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นมา 78,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ตัวเลขเหล่านี้บอกอะไร บอกว่าจริงๆแล้วทีมเศรษฐกิจของทักษิณด้อยประสิทธิภาพเอามากๆ (ซึ่งเชื่อได้ว่าทีมเศรษฐกิจของเพื่อไทยตอนนี้อาจจะคุณภาพเดียวกันหรือต่ำกว่า) ทั้งๆที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการหารายได้รวมทั้งภาวะการณ์เศรษฐกิจโลกโดยรวมในตอนนั้นอยู่ในภาวะขาขึ้น โอกาสในการหารายได้เข้าประเทศมีมากมายแต่ทำไมการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองระหว่างประเทศในช่วงเวลาเกือบ 6 ปี กลับน้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลสุรยุทธ์ ซึ่งบริหารงานเพียง 16 เดือนเท่านั้น

นอกจากนี้ถ้ายังจำได้ สมัยรัฐบาลสมัคร หมอเลี้ยบ รมวคลังในตอนนั้น มีความคิดที่จะตั้ง Sovereign Wealth Fund โดยใช้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศโดยมีจุดประสงค์เพื่อไปลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุนต่างประเทศเพื่อหากำไร (http://www.ryt9.com/s/prg/404498) แต่โชคดีที่ทางธนาคารแห่งประเทศได้คัดค้านอย่างถึงที่สุดทำให้โครงการนี้ต้องพับไป

ลองนึกดูว่าถ้าตอนนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยไม่สามารถคัดค้านเอาไว้ได้ มีการเอาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไปลงทุน แน่นอนตลาดทุนหลักๆก็ต้องเป็นอเมริกา ยุโรป ซึ่งแน่นอนกองทุนนี้คงได้รับอานิสงค์จากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ รับรองได้กินแฮมเบอร์เกอร์ไครซิส กันจนจุกแน่ๆ ไม่รู้ว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศจะถูกละลายหายไปเท่าไหร่ ถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยในตอนนั้นไม่คัดค้านเสียงแข็งยอมทำตามนโยบาย รมว คลัง สมัยสมัคร

ก็ลองพิจารณากันดูว่าจะฝากผีฝากไข้ไว้กับทีมเศรษฐกิจที่เคยพิสูจน์ฝีมือมาแล้วสองครั้ง ซึ่งตัวเลขก็แสดงให้เห็นแล้วว่าห่วย แถมยังมีความคิดที่จะเอาเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ควรจะเก็บไว้ใช้รักษาเสถียรภาพของค่าเงินไปเพื่อการเก็งกำไรในตลาดทุนและตลาดหุ้นซึ่งมีความเสี่ยง??????

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 10:57 pm
by baezae
พักจากเศรษฐกิจ มาเจอเรื่องสภาพสังคม(แบบหนัก ๆ)กันมั่งครับ


สถิติอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่ 2544-2553

Image

ที่มา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รวบรวมโดย สำนักงานสถิติแห่งชาติ

จากสถิติข้างต้นจะเห็นว่า สถิติการเกิดอาชญากรรมเพิ่มขึ้นสูงสุดในสมัยทักษิณตลอดเลย ไม่ว่าจะอุกฉกรรจ์ ประทุษร้าย อาญา่ หรือคดีที่รัฐเป็นผู้เสียหาย ไม่เฉพาะอัตราการเพิ่มที่เป็นแชมป์ กระทั่งจำนวนคดีที่เกิดก็ยังเป็นแชมป์ ทั้งที่เมื่อเทียบแล้วจำนวนประชากรน้อยกว่าในรัฐบาลหลัง ๆ เป็นหลักล้านคน นี่ขนาดว่าช่วง ๒ ปีหลังมีเรื่องการเผาบ้านเผาเมืองอะไรพวกนี้ด้วยนะ

ไหนคุยว่าประชาชนมีความสุข บ้านเมืองสงบสุข?

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 11:36 pm
by pochi
ปักหมุดได้ไม๊คะ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Sun Jun 05, 2011 11:38 pm
by Torres_No9
pochi wrote:ปักหมุดได้ไม๊คะ


โปจิก็มาดันทุกวันดิครับ ;) ;) ;)

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 1:40 am
by คนบาป
เพราะผลงานแบบนี้แหละ ที่พรรคเพื่อไทยกลัวการดีเบต

ไม่ใช่เรื่องพูดเก่ง แต่ผลงานมันขี่กันทุกตัว เถียงไม่ออก

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 1:52 am
by halfmoon
แค่ตารางสามสี่บรรทัดก็กินขาด มันชัดขนาดนี้ แล้วพวกเสื้อแดงจะเอาหน้าไปไว้ไหน

Image

ทักษิณใช้เวลา 67 เดือนมีเงินเหลือเพียง 28,399 ล้านเหรียญสหรัฐ
มาร์คใช้เวลาแค่ 28 เดือนมีเงินเหลือตั้ง 78,876 ล้านเหรียญสหรัฐ
หากมาร์คมีเวลา 67 เดือนจะมีเงินเหลือ 188,739 ล้านเหรียญสหรัฐ

มาร์คหาเงินและบริหารเงินเก่งกว่าทักษิณ 6.65 เท่า มันขนาดนั้นรึ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 2:05 am
by nosta
ขอบคุณมากครับ รบกวนทุกคนถ้าเป้นไปได้ช่วยโพสลิ้งค์ที่มาของข้อมูลด้วยครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 2:20 am
by Moon

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 4:00 am
by zereza
รวบรวมให้เป็นเรื่องเป็นราวแล้วส่งโรงพิมพ์หนังสือพิมพ์มันไปเลยครับ อิอิ เจ้าของข้อมูลทุกคนอย่าลืมห้อยประโยคที่ว่ายินดีให้นำไปเผยแพร่ต่อด้วยนะครับ ;) ;)

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 4:32 am
by คนบาป
เผยแพร่ไปแล้วครับ

http://www.oknation.net/blog/canthai/2011/06/06/entry-2

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 5:09 am
by zereza
Image

หนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้นได้ยังไงครับ ถ้ารัฐบาลไม่ได้กู้ วานพลพรรคเสื้อแดงมาตอบ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 5:18 am
by b...
...

กระทู้นี้ควรได้รับการเผยแพร่จริงๆ

...

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 5:24 am
by zereza
มีเสื้อแดงบางคนบอกว่าถึงแม้วมันจะโกง มันก็ไม่ได้มายุ่งกับภาษีประชาชน แล้วคุณคิดว่ามันไปยุ่งกับเงินส่วนไหนครับ อีกข้อที่เสื้อแดงควรตอบ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 12:10 pm
by someone
ข้อมูลตารางเปรียบเทียบเห็นกันชัดๆ ว่า ยุคอภิสิทธิ์เป็นนายก กรณ์เป็นรัฐมนตรีคลัง บริหารงานเก่งกว่าทักษิณ

วาทะกรรมที่ว่า ทักษิณเก่ง หารายได้เก่ง ทักษิณไม่กู้ จึงเป็นการแหกตา โกหก ประชาชน มานานหลายปี

ทั้งๆ ที่ความจริง ทักษิณมันกู้มากกว่าอภิสิทธิ์อีก รายได้เข้าประเทศก็ทำได้น้อยกว่าอภิสิทธิ์อีก

ข้อมูลจริง อภิสิทธิ์ เก่งกว่าทักษิณเป็นไหนๆ อันนี้พลพรรคเสื้อแดงจะแย้งยังไงก็ไม่ขึ้น เพราะข้อมูลมันคือความจริง ไม่ใช่การโษฆณาชวนเชื่อที่ทักษิณถนัดนำมาใช้หลอกประชาชนจนถึงทุกวันนี้

ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าทำไม คุณกรณ์ ถึงกลายเป็นรัฐมนตรีคลังเบอร์ 1 ของโลกไปแล้ว

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 12:41 pm
by chaturant
wiki เงินสำรองระหว่างประเทศ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 12:55 pm
by มารุจัง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
:mrgreen:

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 3:01 pm
by pepream
pochi wrote:ปักหมุดได้ไม๊คะ


อีก 1 เสียงสนับสนุนให้ปักหมุด ขอบคุณข้อมูลทั่น จขกท. และทั่นสมาชิกอื่นๆที่เพิ่มเติมข้อมูลมากมายยิ่งครับ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 3:13 pm
by dutchout
ปักหมุด สำหรับข้อมูลดีๆ

Re: รวบรวมข้อมูลชี้วัดทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบ

PostPosted: Mon Jun 06, 2011 4:02 pm
by nithiphat
นักท่องเที่ยวก็เพิ่มขึ้นดีครับ
จาก http://www.tourism.go.th/2010/th/statistic/tourism.php

Image