ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด

อะจัดให้เลย เห็นบ่นเหย็ง ๆ ตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่คืบหน้าไปไหนจากกระทู้นี้ viewtopic.php?f=2&t=36728&start=30

เริ่มจากนายเวรเป็นคนท้าก่อน

นายเวร wrote:

eAT wrote:ผมเป็นคนฉลาด (กว่าเสื้อแดง)
และก็ดี (กว่าเสื้อแดง)
ยืนยันได้

ถ้านับในเว็บนี้ น่าจะเกือบทั้งเว็บเลย

ถกดวลกับผมไหม ตั้งกระทู้ดวลกัน ตัวต่อต่อ เดิมพันล็อกอินกันไปเลย

กล้าไหม กล้าไหม กล้าไหม

eAT ...........

มีผู้ชมอยากจะเห็น

jaw wrote:

นายเวร wrote:

eAT wrote:ผมเป็นคนฉลาด (กว่าเสื้อแดง)
และก็ดี (กว่าเสื้อแดง)
ยืนยันได้

ถ้านับในเว็บนี้ น่าจะเกือบทั้งเว็บเลย

ถกดวลกับผมไหม ตั้งกระทู้ดวลกัน ตัวต่อต่อ เดิมพันล็อกอินกันไปเลย

กล้าไหม กล้าไหม กล้าไหม

eAT ...........

นายเวร ไปตั้งกระมู้เลย เดี๋ยวตามไปดู

นายเวรต้องการคำยืนยันจาก eAT เท่านั้น

นายเวร wrote:ให้ eAT รับปากมาก่อน ตั้งแน่นอน ชอบนัก คนอวดฉลาด หามานานแล้ว

มีคนห่วงใยนายเวร

เพื่อนร่วมชาติ wrote:

นายเวร wrote:

eAT wrote:ผมเป็นคนฉลาด (กว่าเสื้อแดง)
และก็ดี (กว่าเสื้อแดง)
ยืนยันได้

ถ้านับในเว็บนี้ น่าจะเกือบทั้งเว็บเลย

ถกดวลกับผมไหม ตั้งกระทู้ดวลกัน ตัวต่อต่อ เดิมพันล็อกอินกันไปเลย

กล้าไหม กล้าไหม กล้าไหม

eAT ...........

แพ้แล้วอย่าแต๋วแตกอีกล่ะ ไอ้เสื้อแดง

เห็นอ้าปากท้าเหย็ง ๆ แต่ไม่ยอมบอกว่าจะคุยเรื่องอะไร สุดท้ายคุณ eAT เลยมาท้าด้วยเรื่อง IMF

eAT wrote:ถกอะไรกันจ๊ะ ถกเรื่อง ใครเป็นคนกู้ imf หรือ?
เสียเวลาเปล่า

นายเวรเสือกไม่เคลียร์เรื่อง IMF ดันแถไปเรื่อง กว.กศ. ซึ่งจริง ๆ ควรจะตอบรับเรื่อง IMF ก่อนว่าจะสู้หรือจะถอย

นายเวร wrote:ผมได้ใบ กว. คุณน่าจะได้ใบ กศ. มามั้ง

เป็นต้นเหตุให้ผมต้องมาเสือกเขียนกระทู้นี้เพราะอยากให้คุณ eAT เอา log in นายเวรมาปู้ยี่ปู้ยำให้คนทั้งบอร์ดได้สะใจ
ด้วยหัวข้อที่ว่าใครเป็นคนกู้ IMF ซึ่งแน่นอน ฝ่ายปชป.ก็ต้องบอกว่า ไม่ใช่ ปชป.เป็นคนกู้แน่นอน และ นายเวรซึ่งเป็นฝั่งเสื้อแดงก็ต้องยืนยันว่า ปชป.กู้
ฉะนั้นแล้วอย่าเสียเวลาเลย เอาหลักฐานเข้ามาแฉกันให้เห็นจะจะเลยดีกว่า
ขอเรียกร้องให้นายเวรผู้ยังไม่กล้ารับปากเข้ามาตอบรับภายในเวลา 14:00 น.ในวันนี้ มิฉะนั้นแล้วจะถือว่านายเวรขี้ขลาด ป๊อด ดีแต่ปาก

แต้มต่อเท่าไหร่ครับ

แพ้ตั้งแต่ในมุ้ง เลยสิแบบนี้

ว่าแต่เดิมพัน log in มันน้อยไปหน่อยนะ
เดี๋ยวพี่แกก็อวตารกลับมาในร่างใหม่อยู่ดี

ทำไมต้องถามว่าใครกู้ รู้ๆกันอยู่ทุกคน

ถ้าเถียงเรื่องใครใช่หนี้พอว่า

เข้ามาเป็นสักขี

ว่าแต่ชื่อใหม่นายเวร ใช้อะไรดีครับ นายกรรม ดีมั๊ย ?

sigree wrote:ทำไมต้องถามว่าใครกู้ รู้ๆกันอยู่ทุกคน

ถ้าเถียงเรื่องใครใช่หนี้พอว่า

นายเวร อาจจะไม่รู้ก็ได้ครับ

ตามดู ปักธงข้างคุณ eAT ไว้ก่อนเลย

นายเวร คนเดียวผมว่าสู้คุณ eAT ไม่ได้หรอกครับ ผมว่าต่อให้ นายเวร ไปเรียกพวกมาช่วยกันแถอีกซัก 4-5 log-in ดีกว่าครับ อีกอย่าง log-in นายเวร อันเดียว ไร้ราคาครับ ไม่คุ้มเท่าไหร่ ถ้า log-in eAT แลกครับฝั่ง นายเวร ซัก 6-7 log-in ผมว่าน่าสนใจครับ

ดราม่าเอย จงซับซ้อนยิ่งขึ้น...

รอชมครับ

เปลี่ยนล็อกอินเป็น "ลูก e เวร" ก็ได้

เวรมีล็อก อิน เดียวที่ไหน ไร้ราคา

เลิกคิดเสียทีว่า ประชาธิปัตย์ เป็นผู้เริ่มกู้ IMF



พอดีผมได้อ่าน entry ของนายหมอดีแท้ วันอังคารที่ ๑๕ ก.ค. ๕๑ เรื่อง การเมือง:รัฐบาล โต๊ด 6 ต่ำ "เพื่อไทย" http://www.oknation.net/blog/NARKA/2008/07/15/entry-1 ด้วยความเคารพ ขออนุญาตที่อ้างถึง

ผมไม่ได้ติดใจอะไรมากไปกว่าข้อความที่ว่า "แต่เราจะไปหยี่หระอะไร ตอน ปชป.กู้IMF ไทยเราก็ต้องปรับแก้กฏหมาย 11 ฉบับขายชาติมาแล้ว"

------------------------------------------------------

ผมคิดว่ายังมีคนไทยเข้าใจผิดอยู่มาก...ผมไม่ได้ต้องการหาความใด เพียงแค่นำข้อมูลมาเผยแพร่ให้ทราบครับ

ในสมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต ประเทศไทยประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้าต่อเนื่องจากรัฐบาลบรรหาร ไทยถูกโจมตีค่าเงินบาท และทางการไทยเลือกที่จะปกป้องค่าเงินบาท จนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศแทบหมดสิ้น...สุดท้ายรัฐบาลพลเอกชวลิตประกาศ "ลอยตัวค่าเงินบาท" เมื่อวันที่ ๒ ก.ค. ๔๐

หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยความวุ่นวายต่างๆ การปิดกิจการของบริษัทเงินทุนต่างๆ การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก จนในที่สุดประเทศไทยต้องขอความช่วยเหลือจาก IMF (เป็นการกู้ครั้งที่ ๕ นับตั้งแต่ไทยเป็นสมาชิกเมื่อ ๓ พ.ค. ๒๔๙๒) โดย IMF ให้ความช่วยเหลือด้าน "การเงิน" และด้าน "วิชาการ"

หนังสือแสดงเจตจำนง หรือ Letter of Intent (LOI) ฉบับที่ ๑ ทำขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ ส.ค. ๔๐ เป็นสมัยของรัฐบาลพลเอกชวลิต โดยมี ดร.ทนง พิทยะ เป็นรมว.คลัง ต่อมาพลเอกชวลิตประกาศลาออกเมื่อเดือน พฤศจิกายน ๒๕๔๐

เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่ารัฐบาลที่มารับช่วงต่อคือรัฐบาลชวน ภาระต่างๆ ที่ต้องจัดการก็ยังมีอยู่มาก รวมถึงพันธะที่ได้ทำไว้กับ IMF ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต

ผมยืนยันไว้ตรงนี้ว่า ผมไม่ขอกล่าวโทษแก่รัฐบาลพลเอกชวลิต เพราะผมเห็นว่าในสถานการณ์ขณะนั้น ทางเลือกของประเทศไทยมีอยู่ไม่มากครับ



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

เป็นที่แน่นอนว่ารัฐบาลชวน หลีกภัย หรือพรรคประชาธิปัตย์เองไม่ได้เป็นที่มาของ IMF โปรดทำความเข้าใจเสียใหม่ด้วย

ประเด็นต่อมาก็คือใน LOI ฉบับที่ ๑ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า "ประเทศไทยมีพันธะจะต้องปฏิบัติตามแนวทางและเงื่อนไขต่างๆ..." ทั้งนี้ก็เพราะในขณะนั้นไทยต้องใช้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ที่มาพร้อมกับความช่วยเหลือด้าน "วิชาการ"

เรื่องของ "ด้านวิชาการ" ที่ IMF จะให้ความช่วยเหลือก็เพื่อให้ไทยได้ปรับโครงสร้างต่างๆ เพื่อก้าวให้พ้นวิกฤตเศรษฐกิจ (การช่วยเหลือไทยนี้จะด้วยความจริงใจหรือต้องการให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์...ผมมิอาจกล่าวในที่นี้ได้ ท่านผู้อ่านโปรดพิจารณาแล้วกัน) เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะด้านพลังงาน ที่ IMF อ้างข้อดีมากมายว่าจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพ หรือลดภาระภาครัฐในสถานการณ์การคลังย่ำแย่ก็ตาม



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

จุดนี้ใช่หรือไม่ครับที่เป็นที่มาของกฎหมาย ๑๑ ฉบับ หรือกฎหมายขายชาติ ที่ผมเองก็ต่อต้าน แต่จะให้ทำยังไงครับในเมื่อ ณ ขณะนั้น ไทยยังอยู่ในพันธะของ IMF จะให้มีนายกชื่อพลเอกชวลิต, ชวน, บรรหาร หรือแม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องทำตามพันธะนี้



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้พันธะของ IMF (ที่ไม่ได้มาจาก ปชป. อย่างที่หลายคนเข้าใจ) ก็ยังกำหนดให้ "เข้มงวดในการปรับเงินเดือนภาครัฐ..." จุดหมายก็เพื่อไม่ให้กระทบกับฐานะการคลังมากนัก

ฉะนั้นแล้วการบริหารงานของสมัยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ, นายชวน หลีกภัย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงแต่ต่างกันราวฟ้ากับดิน

ในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น แท้จริงปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้าได้แก้ไขไปมากแล้ว อีกทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศก็ได้เอื้ออำนวยกับการบริหารงานของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

คุณอาจจะกล่าวอย่างใดก็ได้ตามต้องการ แต่หลักฐานมันชัดครับ

คุณอาจกล่าวโดยไม่ทราบข้อมูล

ไม่เป็นไรครับ แค่อ่านและทำความเข้าใจก็พอ

ที่มา: กฤษณกมล จาก OKNATION
ที่มา: http://www.oknation.net/blog/benz/2008/07/16/entry-2

หนังสือแสดงเจตจำนง ฉบับที่ ๑ ทำขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ ส.ค. ๔๐

พลเอกชวลิต ยงใจยุทธเป็นนายกรัฐมนตรี

สมัยนายชวน ทำไปได้พักหนึ่งก็เลิกกู้ เริ่มใช้หนี้

การชำระหนี้ไม่ว่าใครเข้ามาก็ต้องใช้ เข้าใจว่ามีกำหนดชัดเจนประมาณปี 2547

แต่ทักษิณอยากเท่ ก็โยกเงินไปใช้หนี้ให้หมด ในปี 2546 ทั้งๆ ที่เค้าไม่ได้ทวงเพราะมีสัญญาใช้หนี้ปกติ

เรื่องมันมีแค่นี้เอง

ตั้งกระทู้เอาความสะใจเท่านั้นเอง เดี๋ยวมันก็เข้ามาแถว่า แกล้งพิมพ์เป็นกับดัก บลาๆๆๆ
แล้วก็จบ

คนบาป wrote:หนังสือแสดงเจตจำนง ฉบับที่ ๑ ทำขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ ส.ค. ๔๐

พลเอกชวลิต ยงใจยุทธเป็นนายกรัฐมนตรี

อืมลุงแคนครับ สมัยนั้น ใครเป็นรองนายกฝ่ายเศรษฐกิจ นะครับ ที่มีส่วนออกนโยบายโง่ๆ ทำให้เมืองไทยแทบล่ม
แต่มาคุยโม้คุยโต ว่าตัวเอง เก๋งขั้นเมฟ ทำตัว ดีแต่พูดไปวันๆ

ใครทราบช่วยบอกผมทีครับจำได้ไหมว่าใครเอ่ย

ธ่อออออ .... เสียดาย จริง ...

กะลัง อยากินข้าวฟรี ด้วยคน ..................

draupnirand wrote:เลิกคิดเสียทีว่า ประชาธิปัตย์ เป็นผู้เริ่มกู้ IMF



พอดีผมได้อ่าน entry ของนายหมอดีแท้ วันอังคารที่ ๑๕ ก.ค. ๕๑ เรื่อง การเมือง:รัฐบาล โต๊ด 6 ต่ำ "เพื่อไทย" http://www.oknation.net/blog/NARKA/2008/07/15/entry-1 ด้วยความเคารพ ขออนุญาตที่อ้างถึง

ผมไม่ได้ติดใจอะไรมากไปกว่าข้อความที่ว่า "แต่เราจะไปหยี่หระอะไร ตอน ปชป.กู้IMF ไทยเราก็ต้องปรับแก้กฏหมาย 11 ฉบับขายชาติมาแล้ว"

------------------------------------------------------

ผมคิดว่ายังมีคนไทยเข้าใจผิดอยู่มาก...ผมไม่ได้ต้องการหาความใด เพียงแค่นำข้อมูลมาเผยแพร่ให้ทราบครับ

ในสมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต ประเทศไทยประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้าต่อเนื่องจากรัฐบาลบรรหาร ไทยถูกโจมตีค่าเงินบาท และทางการไทยเลือกที่จะปกป้องค่าเงินบาท จนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศแทบหมดสิ้น...สุดท้ายรัฐบาลพลเอกชวลิตประกาศ "ลอยตัวค่าเงินบาท" เมื่อวันที่ ๒ ก.ค. ๔๐

หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยความวุ่นวายต่างๆ การปิดกิจการของบริษัทเงินทุนต่างๆ การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก จนในที่สุดประเทศไทยต้องขอความช่วยเหลือจาก IMF (เป็นการกู้ครั้งที่ ๕ นับตั้งแต่ไทยเป็นสมาชิกเมื่อ ๓ พ.ค. ๒๔๙๒) โดย IMF ให้ความช่วยเหลือด้าน "การเงิน" และด้าน "วิชาการ"

หนังสือแสดงเจตจำนง หรือ Letter of Intent (LOI) ฉบับที่ ๑ ทำขึ้นเมื่อวันที่ ๑๔ ส.ค. ๔๐ เป็นสมัยของรัฐบาลพลเอกชวลิต โดยมี ดร.ทนง พิทยะ เป็นรมว.คลัง ต่อมาพลเอกชวลิตประกาศลาออกเมื่อเดือน พฤศจิกายน ๒๕๔๐

เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่ารัฐบาลที่มารับช่วงต่อคือรัฐบาลชวน ภาระต่างๆ ที่ต้องจัดการก็ยังมีอยู่มาก รวมถึงพันธะที่ได้ทำไว้กับ IMF ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกชวลิต

ผมยืนยันไว้ตรงนี้ว่า ผมไม่ขอกล่าวโทษแก่รัฐบาลพลเอกชวลิต เพราะผมเห็นว่าในสถานการณ์ขณะนั้น ทางเลือกของประเทศไทยมีอยู่ไม่มากครับ



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

เป็นที่แน่นอนว่ารัฐบาลชวน หลีกภัย หรือพรรคประชาธิปัตย์เองไม่ได้เป็นที่มาของ IMF โปรดทำความเข้าใจเสียใหม่ด้วย

ประเด็นต่อมาก็คือใน LOI ฉบับที่ ๑ ได้ระบุไว้ชัดเจนว่า "ประเทศไทยมีพันธะจะต้องปฏิบัติตามแนวทางและเงื่อนไขต่างๆ..." ทั้งนี้ก็เพราะในขณะนั้นไทยต้องใช้ความช่วยเหลือด้านการเงิน ที่มาพร้อมกับความช่วยเหลือด้าน "วิชาการ"

เรื่องของ "ด้านวิชาการ" ที่ IMF จะให้ความช่วยเหลือก็เพื่อให้ไทยได้ปรับโครงสร้างต่างๆ เพื่อก้าวให้พ้นวิกฤตเศรษฐกิจ (การช่วยเหลือไทยนี้จะด้วยความจริงใจหรือต้องการให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์...ผมมิอาจกล่าวในที่นี้ได้ ท่านผู้อ่านโปรดพิจารณาแล้วกัน) เช่น การแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะด้านพลังงาน ที่ IMF อ้างข้อดีมากมายว่าจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพ หรือลดภาระภาครัฐในสถานการณ์การคลังย่ำแย่ก็ตาม



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

จุดนี้ใช่หรือไม่ครับที่เป็นที่มาของกฎหมาย ๑๑ ฉบับ หรือกฎหมายขายชาติ ที่ผมเองก็ต่อต้าน แต่จะให้ทำยังไงครับในเมื่อ ณ ขณะนั้น ไทยยังอยู่ในพันธะของ IMF จะให้มีนายกชื่อพลเอกชวลิต, ชวน, บรรหาร หรือแม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็หนีไม่พ้นที่จะต้องทำตามพันธะนี้



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้พันธะของ IMF (ที่ไม่ได้มาจาก ปชป. อย่างที่หลายคนเข้าใจ) ก็ยังกำหนดให้ "เข้มงวดในการปรับเงินเดือนภาครัฐ..." จุดหมายก็เพื่อไม่ให้กระทบกับฐานะการคลังมากนัก

ฉะนั้นแล้วการบริหารงานของสมัยพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ, นายชวน หลีกภัย และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงแต่ต่างกันราวฟ้ากับดิน

ในสมัยที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น แท้จริงปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุมเร้าได้แก้ไขไปมากแล้ว อีกทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศก็ได้เอื้ออำนวยกับการบริหารงานของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

คุณอาจจะกล่าวอย่างใดก็ได้ตามต้องการ แต่หลักฐานมันชัดครับ

คุณอาจกล่าวโดยไม่ทราบข้อมูล

ไม่เป็นไรครับ แค่อ่านและทำความเข้าใจก็พอ

ที่มา: กฤษณกมล จาก OKNATION
ที่มา: http://www.oknation.net/blog/benz/2008/07/16/entry-2

รายละเอียด การ กู้ และ การใช้หนี้ เงินกู้ IMF ทั้งหมด ..... http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=5982&start=90

ปิดท้าย ด้วย วลีคำพูดบุคคล สำคัญ ในสมัยนั้น พาดหัวข่าว ........http://onopen.dreamhosters.com/wp-print.php?p=98

สรุปให้ง่าย ๆ ครับ

ชวลิตทำเจ๊ง ต้องกู้

ชวนผ่อน ทุกงวด จนเกือบครบ ก็หมดวาระไปก่อน

ทักษิณเข้ามาโปะ ปิดไฟแนนซ์ แต่คุยราวกับเป็นผลงานตนเอง ไม่รู้จบ

Limmy wrote:สรุปให้ง่าย ๆ ครับ

ชวลิตทำเจ๊ง ต้องกู้

ชวนผ่อน ทุกงวด จนเกือบครบ ก็หมดวาระไปก่อน

ทักษิณเข้ามาโปะ ปิดไฟแนนซ์ แต่คุยราวกับเป็นผลงานตนเอง ไม่รู้จบ

แล้วมาใส่ไคร่ว่าประเทศแย่เพราะกฏหมายขายชาติที่ชวนออกตามพันธะ IMF
ว่ามากมาย แต่ทักษิณไม่เคนแก้กฏหมายดั่งกล่าว

หาเสียงไว้ด้วยว่าจะล้มกฎหมายขายชาติ แต่ล้ม แถมไปแก้กฎหมายที่แปรญัติว่าให้ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 25 % เป็น 49% เฉย มีใครทำได้แบบนี้อีกมั้ย

เด็กอมมือ wrote:...

อืมลุงแคนครับ สมัยนั้น ใครเป็นรองนายกฝ่ายเศรษฐกิจ นะครับ ที่มีส่วนออกนโยบายโง่ๆ ทำให้เมืองไทยแทบล่ม
แต่มาคุยโม้คุยโต ว่าตัวเอง เก๋งขั้นเมฟ ทำตัว ดีแต่พูดไปวันๆ

ใครทราบช่วยบอกผมทีครับจำได้ไหมว่าใครเอ่ย

รองนายกสมัยจิ๋วที่ดูแลเศรษฐกิจคือคุณอำนวย วีรวรรณครับ

พอแกลาออกไป เฒ่าจิ๋วก็ไปเอาไอ้โกร่งมานั่งเป็นจำอวดต่ออีกพัก
พอเน่าจลากต่อไปไม่ไหว เฒ่าจิ๋วก็ลาออกจนปชป.มาตั้งรัฐบาล

ไอ้โกร่งมันเสียหมาจนหมดราคา เลยแค้นฝังหุ่นไล่ตามกัดปชป.มาจนทุกวันนี้

jaw wrote:หาเสียงไว้ด้วยว่าจะล้มกฎหมายขายชาติ แต่ล้ม แถมไปแก้กฎหมายที่แปรญัติว่าให้ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 25 % เป็น 49% เฉย มีใครทำได้แบบนี้อีกมั้ย

ต้องให้นายเวร ไปถาม เหวง ดู ... ตอนนั้น เหวง ด่า กระจาย ....

แม้ว" ดีแต่พูด "..

ถามเรื่องนี้ เวรมันจะเข้ามาเหรอครับ เพราะเวรมันถนัดกระทู้ประเภทบิดมุมกล้องให้ดูเป็นทหารยิงประชาชนนะครับ

เล่นเรื่องนี้ก็ตายสิครับ

นักเรียนตลอดชีพ wrote:

jaw wrote:หาเสียงไว้ด้วยว่าจะล้มกฎหมายขายชาติ แต่ล้ม แถมไปแก้กฎหมายที่แปรญัติว่าให้ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 25 % เป็น 49% เฉย มีใครทำได้แบบนี้อีกมั้ย

ต้องให้นายเวร ไปถาม เหวง ดู ... ตอนนั้น เหวง ด่า กระจาย ....

แม้ว" ดีแต่พูด "..

ทั้งภาพทั้งเสียงของเหวง บนเวทีพันธมิตร 'ทักษิณขายชาติ'

ยังติดตราตรึงใจผมอยู่จนถึงวันนี้

มารอชมด้วยคนอ่ะ

Limmy wrote:

นักเรียนตลอดชีพ wrote:

jaw wrote:หาเสียงไว้ด้วยว่าจะล้มกฎหมายขายชาติ แต่ไม่ล้ม แถมไปแก้กฎหมายที่แปรญัติว่าให้ต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 25 % เป็น 49% เฉย มีใครทำได้แบบนี้อีกมั้ย

ต้องให้นายเวร ไปถาม เหวง ดู ... ตอนนั้น เหวง ด่า กระจาย ....

แม้ว" ดีแต่พูด "..

ทั้งภาพทั้งเสียงของเหวง บนเวทีพันธมิตร 'ทักษิณขายชาติ'

ยังติดตราตรึงใจผมอยู่จนถึงวันนี้

ตำนาน เหวงรักทักษิณ เพราะทักษิณขายชาติ

เปิดตูดไปแล้ว .. ไล่ตัวเองทางอ้อม

กลยุทธ์นายเวร ดีจริงๆ น่านับถือ

ตาย ๆ ๆ ๆ ๆ ....

มีวาทะกรรม "อย่ารังแกผู้หญิง" แล้ว
ต่อไปคงมี "อย่ารังแกเสื้อแดง(รู้น้อย)" อีกแน่ ๆ ...

ผมไม่เกี่ยวนะ ผมแค่จะมาดูคนแถ...
http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/2009/03/P7657486/P7657486.html

สงสัยจะออกเวรไปแล้วแน่ๆเลย