เหตุใด? พรรคเพื่อทุยถึงไม่นำกรณีพิพาทเขาพระวิหารมาหาเสียงเลย

หลังนายสุวิทย์แจ้งต่อนายมูเนีย บุชนากี ตัวแทนผู้อำนวยการใหญ่ยูเนสโก
จะไม่ร่วมสังฆกรรมในอนุสัญญามรดกโลก รวมถึงจะถอนตัวจากการเป็น..
กรรมการมรดกโลก นายนพเหล่ ปัทมะ ทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทวงถามผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว
Noppadon Pattama ในหัวข้อ "สุวิทย์ ทำอะไรลงไปที่ปารีส" ว่า..
"เมื่อปีที่แล้ว 2553 สุวิทย์(สุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าทีมเจรจามรดกโลก)
คุยนักคุยหนาว่า เลื่อนวาระแผนบริหารและจัดการปราสาทพระวิหาร มาปี 54
ผมพูดในตอนนั้นว่า อยากให้ รัฐบาล ปชป.(พรรคประชาธิปัตย์) อยู่ถึงการ
ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปีนี้ และเป็นไปตามคาด คุณสุวิทย์ไม่สามารถ
เลื่อนวาระการพิจารณาแผนบริหารพื้นที่รอบปราสาทออกไปได้อีก เพราะรัฐบาลนี้
ไม่สามารถลอบบี้ประเทศอื่นที่เป็นกรรมการมรดกโลกให้ช่วยประเทศไทยได้..
เพราะคุณมีเพื่อนน้อยในเวทีโลก"

เรื่องนี้คิดง่ายๆไม่ซับซ้อนอะไรเหตุใดนายนพเหล่ ทนายหน้าห้องทักษิณถึงต้องร้อนตัวขนาดนี้
ก็เพราะนายคนนี้มิใช่หรือที่เจ้ากี้เจ้าการไปเซ็นชื่อรับรองให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกจนเขมรมัน
นำมาอ้างในเวทีโลกได้อย่างทุกวันนี้ นั่นยังนับรวมถึงผลประโยชน์ของเจ้านายตัวเองที่หนีคุกไป
ลงทุนเอาไว้มากมายในเขมร หากข้อพิพามระหว่างไทยและเขมรประทุขึ้น มีหรือจะไม่กระเทือน
ถึงธุระกิจที่ลงทุนไปนั้นจะไม่ได้รับผลกรรมนี้ไปด้วย ก็ด้วยเหตุนี้ไงทนายหน้าหอตาเหล่ผิดมนุษย์
ถึงได้มองในมุมกลับ เห็นผลประโยชน์ของชาติขะแมร์มันสำมะคัญกว่าผลประโยชน์ของชาติตัวเอง
ผ่านมาหลายร้อยปีกรณีคนไทยเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาปล้นฆ่าเผากรุงศรีอยุทยาจนราบไม่
เหลือหรอ ก้อเคยอ่านผ่านตาจากตำราที่พร่ำสอนมาเมื่อครั้งอดีต คิดยังไงก็จินตนาการไม่ออก พอ
ได้มาเห็นทนายหน้าหอทักษิทนายนพเหล่ออกมาโวยวายด่ากราดคนทำคุณแก่ชาติบ้านเมืองเช่นนี้
ก็ถึงบางอ้อ อ๋อ..มันเป็นเช่นนี้นั่นเองไอ้คนเปิดประตูเมือง...

จะไม่ร่วมสังฆกรรมในอนุสัญญามรดกโลก รวมถึงจะถอนตัวจากการเป็น..
กรรมการมรดกโลก นายนพเหล่ ปัทมะ ทนายความพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทวงถามผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว
Noppadon Pattama ในหัวข้อ "สุวิทย์ ทำอะไรลงไปที่ปารีส" ว่า..
"เมื่อปีที่แล้ว 2553 สุวิทย์(สุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าทีมเจรจามรดกโลก)
คุยนักคุยหนาว่า เลื่อนวาระแผนบริหารและจัดการปราสาทพระวิหาร มาปี 54
ผมพูดในตอนนั้นว่า อยากให้ รัฐบาล ปชป.(พรรคประชาธิปัตย์) อยู่ถึงการ
ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในปีนี้ และเป็นไปตามคาด คุณสุวิทย์ไม่สามารถ
เลื่อนวาระการพิจารณาแผนบริหารพื้นที่รอบปราสาทออกไปได้อีก เพราะรัฐบาลนี้
ไม่สามารถลอบบี้ประเทศอื่นที่เป็นกรรมการมรดกโลกให้ช่วยประเทศไทยได้..
เพราะคุณมีเพื่อนน้อยในเวทีโลก"

เรื่องนี้คิดง่ายๆไม่ซับซ้อนอะไรเหตุใดนายนพเหล่ ทนายหน้าห้องทักษิณถึงต้องร้อนตัวขนาดนี้
ก็เพราะนายคนนี้มิใช่หรือที่เจ้ากี้เจ้าการไปเซ็นชื่อรับรองให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลกจนเขมรมัน
นำมาอ้างในเวทีโลกได้อย่างทุกวันนี้ นั่นยังนับรวมถึงผลประโยชน์ของเจ้านายตัวเองที่หนีคุกไป
ลงทุนเอาไว้มากมายในเขมร หากข้อพิพามระหว่างไทยและเขมรประทุขึ้น มีหรือจะไม่กระเทือน
ถึงธุระกิจที่ลงทุนไปนั้นจะไม่ได้รับผลกรรมนี้ไปด้วย ก็ด้วยเหตุนี้ไงทนายหน้าหอตาเหล่ผิดมนุษย์
ถึงได้มองในมุมกลับ เห็นผลประโยชน์ของชาติขะแมร์มันสำมะคัญกว่าผลประโยชน์ของชาติตัวเอง
ผ่านมาหลายร้อยปีกรณีคนไทยเปิดประตูเมืองให้พม่าบุกเข้ามาปล้นฆ่าเผากรุงศรีอยุทยาจนราบไม่
เหลือหรอ ก้อเคยอ่านผ่านตาจากตำราที่พร่ำสอนมาเมื่อครั้งอดีต คิดยังไงก็จินตนาการไม่ออก พอ
ได้มาเห็นทนายหน้าหอทักษิทนายนพเหล่ออกมาโวยวายด่ากราดคนทำคุณแก่ชาติบ้านเมืองเช่นนี้
ก็ถึงบางอ้อ อ๋อ..มันเป็นเช่นนี้นั่นเองไอ้คนเปิดประตูเมือง...

