ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby wincha » Sun Jan 11, 2009 10:01 pm

ความจริงของการบริหารงานแบบทักษิณ
ไม่ได้ทําให้ประเทศเจริญขึ้นเลย ทุกอย่างเป็นเพียงการสร้างภาพแบบมโหฬาร ?
http://www.oknation.net/blog/indexthai/ ... 01/entry-1

ทักษิณโกงอย่างไง ? โกงอย่างเซียน ?
http://www.pramool.com:443/webboard/vie ... too=K32274

Image
ฝากเวปผมด้วยนะครับ
https://sites.google.com/site/phraaja/
User avatar
wincha
 
Posts: 229
Joined: Thu Oct 16, 2008 1:15 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby wincha » Sun Jan 11, 2009 10:07 pm

Image

ตลาดหุ้นประเทศใดพังทลายแรง จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นพังทลายตามมาด้วย ทำให้ไม่ได้รับความเชื่อมั่น และไหลออกจากประเทศ

ตลาดหุ้นไทยพังทลายเมื่อปี 1994 (2537) เงินก็ไหลออกจากประเทศไทยแทบเกลี้บง ต้องลอยค่าเงินบาทในปี 1997 (2540)

เมื่อตลาดหุ้น NASDAQ พังทลายในปี 2000 ค่าเงินเหรียญสหรัฐก็พังทลาย (ชาร์ต 1) เงินก็ไหลออกจากอเมริกา ระบบเศรษฐกิจอเมริกามีขนาดใหญ่ เงินมีปริมาณมาก เมื่อเงินไหลออก ทำให้เงินท่วมประเทศต่างๆ รวมทั้งท่วมประเทศไทย

ทำให้ค่าเงินสกุลต่างๆสูงขึ้น (ชาร์ต 2)
ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกสูงขึ้น (ชาร์ต 3)
ทำให้ราคาทองคำและน้ำมันสูงขึ้น (ชาร์ต 4)
ทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น (ชาร์ต 5)
ทำให้ทุนสำรองการเงินระหว่างประเทศ ของประเทศต่างๆสูงขึ้น (ชาร์ต 6)

ชาร์ต 1 การพังทลายของตลาด NASDAQ และค่าเงินเหรียญสหรัฐ

Image

ชาร์ต NASDAQ Index และ EURO/USD แสดงให้เห็นถึงการพังทลายของตลาดหุ้นแนสแดกซ์ และ ตกลงของค่าเงินเหรียญสหรัฐ จุดเริ่มต้นอยู่ที่การพังทลายของตลาด NASDAQ ในปี 2000 NASDAQ Index ตก 78 เปอร์เซนต์ ค่าเงินเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบ EURO ตก 46 เปอร์เซนต์ เพราะตลาดหุ้นตกแรง จึงทำให้ค่าเงินตกแรงด้วย

มีการปั่นหุ้น มีการปั่นเงิน

.

ชาร์ต 2 Baht / USD และ ASEAN Dollar / USD

Image

ค่าเงินบาทแข็งขึ้น 45 เปอร์เซนต์ ค่าเงินอาเซียนดอลลาร์ 6 ประเทศเฉลี่ยแข็ง 24 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ

เงินยูโร เงินเยน รวมทั้งสกุลเงินต่างๆ ก็แข็งขึ้นทั่วหน้าเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐ (หรือคือค่าเงินเหรียญสหรัฐพังทลายนั่นเอง) (ไม่ได้นำเสนอข้อมูลไว้ที่นี่)

สกุลเงินต่างๆสูงขึ้น หลังการพังทลายของตลาดแนสแดกซ์ และการพังทลายของค่าเงินเหรียญสหรัฐในปี 2000

.

ชาร์ต 3 G81 ดัชนีตลาดหุ้นรวมโลก 81 ประเทศ

Image

ตลาดหุ้นโลกสูงขึ้น 463 เปอร์เซนต์ หลังการพังทลายของตลาดแนสแดกซ์และค่าเงินเหรียญสหรัฐในปี 2000

ช่วงรัฐบาลทักษิณอยู่ระหว่าง ต้นปี 2001 - ปลายปี 2006 อยู่ในช่วงสภาพคล่องท่วมโลก อยู่ในช่วงเศรษฐกิจโลกขาขึ้น

.

ขาร์ต 4 ราคาทองคำ และราคาน้ำมัน

Image

ราคาทองคำสูงขึ้น 287 เปอร์เซนต์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์สูงขึ้น 685 เปอร์เซนต์ หลังการพังทลายของตลาดแนสแดกซ์และค่าเงินเหรียญสหรัฐในปี 2000

.

ชาร์ต 5 ราคายางพารา ประเทศไทย

Image


http://www.thailandrubber.thaigov.net/menu5.php

ยางแผ่นดิบตลาดกลางหาดใหญ่ และราคา FOB ที่กรุงเทพ สูงจากระดับ 20 บาทต่อก.ก. มาเป็น 80-100 บาทต่อก.ก. หลังการพังทลายของตลาดแนสแดกซ์และค่าเงินเหรียญสหรัฐในปี 2000

.

ชาร์ต 6 ทุนสำรองการเงินระหว่างประเทศ

ช่วงท้ายรัฐบาล
ทุนสำรองฯสุทธิ(ล้านเหรียญสหรัฐ)

พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
8,962

นายชวน หลีกภัย
30,526

พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
73,926

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์
106,541



ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย

.
เดือนกรกฎาคม 1997 (2540) เดือนที่มีการลอยค่าเงินบาท ไทยเหลือทุนสำรองการเงินระหว่างประเทศประมาณ 1,440 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังการลอยค่าเงินบาท ทุนสำรองฯ ดีขึ้นโดยตลอด


ทุนสำรองของประเทศไทย และประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นหลังการพังทลายของตลาดแนสแดกซ์และค่าเงินเหรียญสหรัฐในปี 2000 เป็นไปตามกลไกที่นำเสนอข้างต้น


ทุนสำรองการเงินระหว่างประเทศของรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ที่มาจากคมช.สูงถึง 106,541 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าของรัฐบาลทักษิณ 73,926 ล้านเหรียญสหรัฐ แสดงว่ารัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ ไม่ได้ทำความเชื่อมั่นของต่างชาติลดลงอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด


การเพิ่มขึ้นของทุนสำรองการเงินระหว่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ง่าย ประเทศไทยเริ่มใช้หนี้ไอเอ็มเอฟตั้งแต่รัฐบาลชวน และมาใช้หนี้หมด ในรัฐบาลทักษิณในปี 2003 (2546)


ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศเกาหลีใต้ ที่เข้าโครงการณ์ไอเอ็มเอฟช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ก็สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟหมดในเวลาอันรวดเร็วเช่นเดียวกัน

การสูงขึ้นของค่าเงินสกุลต่างๆ ตลาดหุ้นโลก ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน ราคายางพารา เป็นไปกลความผิดปกติจากตลาดทุน และตลาดเงินของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดขึ้นในปี 2000

ช่วงของรัฐบาลทักษิณ คือ 19 กุมภาพันธ์ 2001 - 19 กันยายน 2006 ตรงกับช่วงหลังการพังทลายของตลาดแนสแดกซ์และค่าเงินเหรียญสหรัฐในปี 2000 นั่นเอง

เศรษฐกิจไทยยุคทักษิณ อยู่ในช่วงขาขึ้น ..เช่นเดียวกับทั่วโลก

เป็นช่วงที่เงินทุนไหลเข้า ทำให้สภาพคล่องในประเทศสูงขึ้น ทำให้ค่าเงินบาทสูงขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าเกษตร รวมทั้งราคายางพาราสูงขึ้น และสามารถมีเงินใช้หนี้ไอเอ็มเอฟหมด

สิ่งที่เป็นบวกดังกล่าว จึงไม่ใช่ความสามารถของนายกทักษิณ

ทักษิณเพียง แอบอ้าง ว่าเป็นฝีมือตน




ตลาดหุ้นเปรียบเทียบ


ชาร์ต 7 G81 ASEAN6 JKSE & SET (Index)
Image

G81 Index (สีเหลือง) คือดัชนีตลาดหุ้นเฉลี่ย 81 ประเทศ ASEAN6 Index (สีแดง) ดัชนีตลาดหุ้นอาเซียนเฉลี่ย 6 ประเทศ JKSE Index (สีน้ำเงิน) ดัชนีตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และ SET Index (สีฟ้า) ดัชนีตลาดหุ้นไทย

ช่วงเวลาของกราฟ 19 กุมภาพันธ์ 2001 (เริ่มต้นรัฐบาลทักษิณ) – 31 ธันวาคม 2007

ดัชนีทั้ง 4 เส้น ถูกปรับฐานให้เท่ากับ 100 เท่ากันในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2001 (วันที่เริ่มต้นรัฐบาลทักษิณ) ดัชนีถูกปรับให้เป็นฐานเดียวกัน จึงสามารถเปรียบเทียบกันจากภาพได้

ตลาดหุ้นอาเซียนขึ้นได้ต่ำกว่าตลาดหุ้นโลก เนื่องจากมีตลาดหุ้นไทยเป็นตัวฉุด


SET Index ในรัฐบาลทักษิณขึ้นสูงสุด 3 ปีแรกเท่านั้น

SET Index 3 ปีแรกของทักษิณ สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรง ผิดปกติไปจากโลก เร็วกว่าโลก เร็วกว่าภูมิภาค (กราฟสีฟ้า) (มีการหาประโยชน์จากตลาดหุ้น) โดยขึ้นได้สูงสุดประมาณ 145 เปอร์เซนต์ (ในภาพประมาณ 245 – 100 = 145)

จากนั้นตลาดหุ้นไทยไม่เคยมีจุดสูงสุดใหม่อีกเลย และเคลื่อนไหวในแนวทางต่ำกว่าโลก และต่ำกว่าภูมิภาคอาเซียนด้วย

แม้ว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาขึ้น ตลาดหุ้นไทยยุคทักษิณ แพ้ตลาดหุ้นอินโดนีเซียหลุดลุ่ย แพ้โลก แพ้อาเซียน

โดยดัชนีตลาดหุ้นอินโดนีเซียสูงสุดถึง 500 เปอร์เซนต์ ตลาดหุ้นโลกขึ้นสูงสุดประมาณ 300 เปอร์เซนต์

ตลาดหุ้นไทยขึ้นได้ต่ำกว่าตลาดอื่นๆ เพราะนักการเมืองเข้ามาหาประโยชน์จากกตลาดหุ้นอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจากการแปรรูปรัฐวิสาหกิจเข้าตลาดหุ้น การนำหุ้นเข้าตลาดหุ้น ปั่นหุ้นขึ้นมาขาย ปั่นหุ้นขึ้นมาขายชาติ รวมทั้งการปั่นหุ้นที่มีอยู่แล้วในตลาด ไม่ว่า บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน (PTT) บริษัท อสมท.จำกัด มหาชน (MCOT) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด มหาชน (TOP) บริษัท ปตท.เคมิคอล จำกัด มหาชน (PTTCH) บริษัท ไอทีวี จำกัด (ITV) บริษัท ไดดดมอนด์ จำกัด มหาชน (DIADO) บริษัท แอดวานซ์ จำกัด มหาชน (ADVANC) บริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น จำกัด มหาชน (SHIN) ฯลฯ
ฝากเวปผมด้วยนะครับ
https://sites.google.com/site/phraaja/
User avatar
wincha
 
Posts: 229
Joined: Thu Oct 16, 2008 1:15 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby wincha » Sun Jan 11, 2009 10:10 pm

Image
Image

มติของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ

มติคณะกรรมการตรวจสอบ เรื่อง ให้อายัดทรัพย์ของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร กับพวก ด้วยผลจากการตรวจสอบและไต่สวนในคดีต่างๆ ของ คณะกรรมการตรวจสอบ (คตส.) ได้ลุล่วงถึงขั้นมีพยานหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับพวก ได้ทุจริตประพฤติมิชอบ และร่ำรวยผิดปกติได้ทรัพย์สินโดยมิสมควร จากการใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อกิจการของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นเหตุให้ได้ประโยชน์ หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐโดยรวม ดังนี้

พฤติการณ์ทุจริตประพฤติมิชอบ

มีพยานหลักฐานจนถึงขั้นถูกกล่าวหา ๕ คดี และ เกิดความเสียหายแก่รัฐดังนี้

๑. การทุจริตโครงการจัดซื้อที่ดินมูลค่าตามสัญญา ๗๗๒.๐๐ ล้านบาท จากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ที่ดินรัชดา - ศาลสั่งจำคุก ๒ ปี)

๒. การจัดซื้อกล้ายางมูลค่าตามสัญญา ๑,๔๔๐.๐๐ ล้านบาท ของกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

๓. การทุจริตโครงการจัดซื้อจัดจ้างปรับเปลี่ยนสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX ๙๐๐๐ รัฐเสียหายประมาณ ๑,๕๐๐.๐๐ ล้านบาท

๔. โครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย ๓ ตัว และ ๒ ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รัฐเสียหาย ประมาณ ๓๗,๗๙๐.๐๐ ล้านบาท

๕. การให้เงินกู้โดยทุจริตของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย รัฐเสียหายประมาณ ๕,๑๘๕.๐๐ ล้านบาท

พฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ

มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยา ยังคงถือไว้ซึ่งหุ้นธุรกิจสัมปทานของ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นต้นมา แต่ได้ให้บุตร ญาติ หรือบุคคลผู้ใกล้ชิดเป็นผู้ถือหุ้นเอาไว้แทน และยังได้ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อกิจการชินคอร์ปหลายประการ ดังนี้


๑. แก้ไขสัญญาข้อตกลงลดส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้า (Prepaid) เพื่อประโยชน์แก่บริษัท แอดวานส์ อินโฟเซอร์วิซ จำกัด (AIS) ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์ ตลอดอายุสัมปทานเป็นเงิน ประมาณ ๗๑,๖๖๗.๐๐ ล้านบาท


๒. แก้ไขสัญญาข้อตกลงปรับเกณฑ์การตัดส่วนแบ่งรายได้ให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัท แอดวานส์ อินโฟเซอร์วิซ จำกัด (AIS) ทำให้รัฐเสียหายประมาณ ๗๐๐.๐๐ ล้านบาท


๓. ตราพระราชกำหนดภาษีสรรพสามิตในกิจการโทรคมนาคม และได้มีมติคณะรัฐมนตรีแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อประโยชน์แก่บริษัท แอดวานส์ อินโฟเซอร์วิซ จำกัด (AIS) ทำให้วิสาหกิจของรัฐเสียหายประมาณ ๓๐,๖๖๗.๐๐ ล้านบาท


๔. ให้บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เช่าและลงทุนระบบคลื่นความถี่ดาวเทียมของบริษัท ชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) โดยไม่จำเป็น เป็นเหตุให้ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)รัฐเสียหาย เป็นจำนวนเงินประมาณ ๗๐๐.๐๐ ล้านบาท


๕. สั่งการให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ให้รัฐบาลสหภาพพม่ากู้เงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการของบริษัทชิน แซทเทลไลท์ จำกัด (มหาชน) ในจำนวนเงินกู้ประมาณ ๑,๐๐๐.๐๐ ล้านบาท


๖. อาศัยการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ นำผลประโยชน์ของชาติแลกเปลี่ยนบุกเบิกตลาดธุรกิจดาวเทียมให้แก่สายธุรกิจดาวเทียมในเครือบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพิ่มมูลค่าธุรกิจดาวเทียมของบริษัทชิน แซทเทิลไลท์ เป็นอันมาก


การใช้อำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตนเองดังกล่าว มีทั้งที่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เกี่ยวข้องสั่งการโดยตรง หรือละเว้นไม่กำกับสั่งการดูแลมีความพยายามหลีกเลี่ยงขั้นตอนตรวจสอบตามกฎหมายทุกครั้ง ยังผลเป็นประโยชน์อันมิควรได้ตกเป็นมูลค่าแฝงฝังอยู่ในหุ้นของตน จนมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างผิดปกติตลอดเวลา

ตลอดระยะเวลา 4-5 ปีของการอยู่เป็นรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณไม่ได้บริหารประเทศ แต่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ทางราชการ เวลาราชการ เครื่องอำนวยความสะดวกของทางการ ค่าใช้จ่ายของราชการ ไปเพื่อธุรกิจส่วนตน

ไม่รับผิดชอบ ไม่ห่วงใย กับสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย

การบริหารประเทศ ใช้เพียงวาจา และการแสดงละคร “ผ่านสื่อ” เป็นเคราะห์กรรมประเทศไทยที่ไม่เคยพบมาก่อน

แม้บางคนไม่ชอบทักษิณ ก็ยังบอกว่าทักษิณมีฝีมือในการบริหารประเทศ เขาไม่มีข้อมูล ความรู้ ความเข้าใจมากกว่า จากข้อมูลที่นำเสนอช่วงต้น นำเสนอให้ทราบว่า สิ่งที่เป็นบวกทางเศรษฐกิจ ไม่ได้เกิดจากความสามารถการบริหารงานของทักษิณ แต่เป็นไปตามกลไกความผิดปกติจากระบบเศรษฐกิจของอเมริกา ทักษิณเป็นเพียงใช้สื่อแอบอ้างว่าเป็นฝีมือตน เป็นการมุสา เป็นมิจฉาวาจา

ทักษิณไม่ได้มีฝีมือในการบริหารประเทศแต่อย่างใด

รายการนายกพบประชาชนทางสื่อโทรทัศน์และวิทยุทุกเช้าวันเสาร์ คนฟังทั่วประเทศ มีมุสาเป็นส่วนประกอบ คนส่วนหนึ่งมีข้อมูล มีความรู้ มีความเข้าใจ ไม่เชื่อ ทำให้เพิ่มความชิงชัง แต่คนส่วนใหญ่ไม่มีข้อมูล ไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจ จึงหลงไหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

ปาฐกถา รวมทั้ง Work shop (ประชุมเชิงปฏิบัติการ) ก็เบี่ยงเบน

ให้หลงเชื่อ และหลงผิดในทิศทาง

ไม่ว่า มงฟอร์ดโมเดล หรือ อาจสามารถโมเดล เป็นเพียงละครลวงตา

ในช่วงทักษิณ บริหารประเทศ ประเทศไทยไม่เคยสงบสุขแม้สัปดาห์เดียว การพูดวันเสาร์ 1 ครั้ง หรือการปาฐกถาแต่ละครั้ง ทำให้สังคมเกิดวิวาทะต่อเนื่องติดต่อกัน 2-3 วัน 1 ปีมี 52 เสาร์ ทำให้เกิดวิวาทะ 52 – 104 วัน ประเทศไทยไม่ต้องทำอะไรแล้ว เสียเวลากับอวิชชาจากทักษิณ ตลอด 4-5 ปี

และแม้ทักษิณไม่มีอำนาจในการบริหารประเทศโดยตรง ยังมีตัวแทนบริหารประเทศ ยังคงสร้างความสับสนวุ่นวายให้สงคมไทย ไม่รู้จบ

แม้เขาไม่อยู่ในตำแหน่ง คนไทยกับประเทศก็ยัง “เสียเวลา“ กับคำพูด การแสดงออก และการกระทำของเขาทุกวัน

ราคาน้ำมันโลกสูงขึ้นก็จริง แต่การแปรรูปสาธารณูปโภคด้านพลังงานเข้าตลาดหุ้น ทำให้มีการเอากำไรหน้าปั๊มสูงเกินจริง ผู้บริหารรับเงินเดือนและโบนัสกันอย่างมีความสุข เฉพาะโบนัสและเบี้ยประชุมตกคนละ 3 ล้านบาท รวมเงินเดือนด้วย ตกคนละ 10 – 15 ล้านบาทต่อปี แต่ชาวบ้านเดือดร้อนจากราคาสินค้าและบริการสูงขึ้นกันทั่วประเทศ ราคาปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช สูงขึ้นจนหนาว ต้นทุนความเป็นอยู่สูงขึ้น ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง ค่าการเดินทางสูงขึ้นอย่างเด่นชัด ค่ารถเมล์ในกรุงเทพเพิ่มจาก 3.50 บาท เป็น 7-8 บาทในรัฐบาลทักษิณ

หลงไหลคำลวง จนลืมความเดือดร้อน ส่วนตน

ประเทศไทยหวังพึ่งใครได้ยาก รวมทั้ง “นักวิชาการ” และ “สื่อมวลชน” ขาดข้อมูล ความรู้ ความเข้าใจ มักง่าย ต่างหลงไหลในวาจาทักษิณ นอกจากไม่ช่วยป้องกันทักษิณทำร้ายประเทศไทย และคนไทยแล้ว ยังเชื่อและเห็นดีเห็นงามกับทักษิณ

แท้จริง ความแตกแยกของคนในชาติ เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคทักษิณบริหารประเทศแล้ว แม้หลังการถูกไล่ลงจากอำนาจแล้ว ก็ยังก่อกวน ปั่นป่วน ให้เกิดการแตกแยกเหมือนเดิม หรือแตกแยกมากกว่าเดิม

คำว่าปฏิวัติ ถูกทักษิณใช้วิธีการทางตลาด โฆษณาผ่านสื่อ สร้างเป็นกระแส ว่าทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ต่างชาติไม่เชื่อมั่น ดูข้อมูลตามที่นำเสนอข้างต้น จะเห็นว่าไม่ได้เป็นจริงอย่างที่ทักษิณกล่าวหาแต่อย่างใด

ค่าเงินบาท ตลาดหุ้น ทุนสำรองการเงินระหว่างประเทศ ในรัฐบาลพล อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ สูงกว่าในรัฐบาลทักษิณอย่างมีนัยสำคัญ กล่าวได้ว่าต่างชาติมีความเชื่อมั่นในรัฐบาลสุรยุท์มากกว่ารัฐบาลทักษิณ

เรื่องการปฏิวัติ จึงทำให้ผู้คนตำหนิคนทำการปฏิวัติ(ปลายเหตุ) ทำให้คนมองข้ามคนที่เป็น "ต้นเหตุ" ของการปฏิวัติ

พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร คือคนต้นเหตุที่ทำให้เกิดการปฏิวัต เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549

และหากจะเกิดการปฏิวัติครั้งต่อไปอีก คนต้นเหตุให้เกิดการปฏิวัติ ก็จะไม่ใช่ใครที่ไหน ก็จะเป็น พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร คนเดิมเท่านั้น

คนที่เป็นต้นเหตุปฏิวัติต่างหาก สมควรถูกประนาม

รัฐบาลที่มาการปฏิวัติล้มเหลว เพราะไม่ทราบว่าปัญหาของประเทศอยู่ที่ไหนและอย่างไร

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ทราบว่าปัญหาของประเทศอยู่ที่ตรงไหน อย่างไรเช่นกัน

ดูแล้วไม่แตกต่างกัน มาแบบไหนก็เหมือนกัน ต่างนำความล้มเหลวมาสู่ประเทศชาติเช่นเดียวกัน

การแก้ปัญหาของชาติ ไม่ใช่เรื่องง่าย "คู่มือปฏิวัติ คู่มือประเทศไทยใหม่" จะช่วยได้
http://www.oknation.net/blog/indexthai/ ... 27/entry-2

เพราะคนส่วนใหญ่ไม่มีข้อมูล ไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจ คนที่กล้ามุสา ไม่มีความละอายแก่ใจ ไม่มีความเกรงกลัวต่อบาป ทำให้คนหลงเชื่อในทางที่ผิด เป็นคนไม่มีจริยธรรมและคุณธรรม

กลยุทธในการใช้วาจาบริหารประเทศผ่านสื่อเป็นเรื่องอันตราย

ก่อนการมาของรัฐบาลทักษิณ ประเทศไทยก็เสียหายมากอยู่แล้ว ทักษิณไม่ได้ทำให้ประเทศไทยดีขึ้น แต่ซ้ำเติมให้ประเทศไทยเสื่อมทรุดลงตลอดเวลา

ผลงานความเลวร้ายการบริหารประเทศของทักษิณ จะปรากฎให้เห็นหลังปี 2550 ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดเข้ามาบริหารประเทศก็ตาม

มุสาว่า แก้ปัญหาความยากจนได้ แสดงความห่วงใยคนยากคนจน

"ประเทศไทยยุคทักษิณเจริญเพียงวาจา"



ไม่มีใครสมบูรณ์ถูกต้อง 100 เปอร์เซนต์ ..แม้จะเป็นผู้มีบารมีนอกหรือในรัฐธรรมนูญ

ตามเรื่องราวที่นำเสนอในบทความนี้ นายกทักษิณ ไม่ได้ทำความเจริญอะไรให้ประเทศไทย แต่ซ้ำเติมให้ประเทศไทยเสื่อมลง

"ที่บอกว่าเป็นคนทำให้ประเทศไทยเจริญ เป็นคำพูดที่ไม่จริง" พูดเองเออเอง ทำเองพูดเอง เหมือนยกหางตัวเอง ดี-เลว ต้องให้คนอื่นพูด ไม่ใช่ตนเองพูด

ทำเหมือนว่า พูดเหมือนว่า เขาเก่ง เขาดี ที่ 1 ในโลก ไม่มีใครเทียบ ..และเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย (จริงหรือ ?)

คนจะพูดดีใส่ตัวไม่ได้ เขาไม่มีสิทธิที่จะตำหนิคนอื่น หรือโยนความผิดให้คนอื่น แต่ทักษิณตำหนิคนอื่น และโยนความผิดให้คนอื่น แบบพล่อยๆ เช่น กล่าวถึง “ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ"

หรือ บอกว่าจะเปิดเผย “รายชื่อ" คนที่คิดล้มล้างเขา

ทำให้คนหลงผิดตามเขา หลงเชื่อตามเขา พลอยชิงชัง "คนที่เขากล่าวถึง" ..กระทั่งสถาบัน

ทำให้ปั่นป่วน และเกิดความแตกแยกของคนในชาติอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

หากว่าเก่งจริง ดีจริงจะไม่ว่าอะไร แต่นี่ไม่ได้เก่งจริง ไม่ได้ดีจริง

ความมั่งคั่งส่วนตน เกิดจากทิฏฐิที่เบี่บงเบน หรือมิจฉาทิฏฐิ

ถ้ามีใครคิดล้มล้างเขา จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่เห็นว่าผิด เป็นเรื่องชอบแล้ว ถูกต้องแล้ว สมควรแล้ว

คนชั่วร้าย นำมาซึ่งสิ่งชั่วร้าย จะรัฐประหารหรือไม่รัฐประหาร ทำอย่างไรก็ได้ ที่จะควบคุม กำจัดคนชั่วร้าย ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ว่ารัฐประหารเผยรูป หรือรัฐประหารซ่อนรูป ก็ย่อมทำได้

อย่างที่พระเจ้าตากสินมหาราช ทรงได้ฉีกกฎมนเทียรบาล แหกกฎของระบบมาแล้ว

ก็.. ทักษิณ ..

ไม่ได้ดีจริง และ ..ไม่ได้เก่งจริงนั่นเอง

! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! ! !

http://www.oknation.net/blog/indexthai/ ... 01/entry-1
ฝากเวปผมด้วยนะครับ
https://sites.google.com/site/phraaja/
User avatar
wincha
 
Posts: 229
Joined: Thu Oct 16, 2008 1:15 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby ริวเซย์ » Sun Jan 11, 2009 10:15 pm

ผมว่าทักษิณเก่งจริงนะ

ปลิ้นปล้อน ตลบตะแลง ตะแหล เก่งที่สุดเลยล่ะ :lol:

ทุกวันนี้มีคนกว่าครึ่งประเทศยังเชื่อถือน้ำคำทักษิณเหมือนต้องมนตรา

:?
หากดอกไม้แย้มบานในใจแห่งผู้คนที่ทุกข์ทน
ความสว่างส่องทางสับสนด้วยความรักที่มอบแก่กัน
ให้ดอกไม้นั้นแทนความงามแห่งน้ำใจ ยิ่งใหญ่
เมฆหมอกก็คงสลาย ด้วยดอกไม้คือความสดใสในแสงตะวัน
คือดอกไม้อันดีงาม คงอยู่ด้วยความสดใส
คือดอกไม้ของน้ำใจ งดงามเพียงใดให้แก่กัน
User avatar
ริวเซย์
Site Admin
 
Posts: 3386
Joined: Fri Oct 17, 2008 12:34 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby คนกวาดขยะ » Sun Jan 11, 2009 11:59 pm

ข้อมุลดีเยี่ยม แต่.... ผมว่ามันเก่งน่ะ

ตั้งแต่จำความได้ผมไม่เคยเห็นใครเก่งเท่าทักษิน

มันสร้างความฉิบหายให้ประเทศได้ทุกๆด้าน อย่างที่ไม่มีเใครเทียบ

มันเก่งในทางคิดชั่ว ทำชั่ว
คนกวาดขยะ
Moderator
 
Posts: 878
Joined: Mon Oct 20, 2008 12:24 am

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby halfmoon » Mon Jan 12, 2009 12:05 am

ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน แต่เอ๊ะ เขาว่าจ๊อดชอบของชาวบ้านนี่หว่า :lol: :lol: :lol:

แม้วไม่เก่งหรอก แต่อาจใช้เมียเป็น :lol: :lol: :lol:
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby savor » Mon Jan 12, 2009 12:23 am

ต่อให้ตัดเรื่องเศรษฐกิจออกไปให้หมดนะครับ...

แต่ชุดนโยบายของทักษิณอย่าง

- 30 บาท
- กองทุนหมู่บ้าน
- OTOP
- หวยบนดิน ล็อตโต้
- พักชำระหนี้เกษตรกร
- สนามบินสุวรรณภูมิ
ฯลฯ

มันเป็นชุดนโยบายที่เยอะมากจริงๆครับ และผมคิดว่าไม่ว่าประชาธิปัตย์หรือพรรคไหนๆได้เป็นรัฐบาลก็ยากที่จะทำตามชุดนโยบายนี้ได้จริงๆ :shock:
ปราสาทเขาพระวิหารมันก็เหมือนบ้านทรายทอง
เจ้าคุณปู่ เจ้าคุณตาตกลงไว้ว่ามันเป็นของสายพินิจนันท์ แต่สาย สว่างวงศ์ ณ อยุธยา เข้าไปอยู่นานมากจนคิดว่าเป็นของตัวเอง
มันไม่ใช่ มันเป็นของพจมานเขา
เรื่องนี้คนเข้าใจได้ง่ายๆ มีแต่คนโง่ๆ เท่านั้นที่จะไม่เข้าใจ
User avatar
savor
 
Posts: 540
Joined: Wed Jan 07, 2009 1:15 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby Shart » Mon Jan 12, 2009 12:39 am

ขอบคุณสำหรับข้อมูล
ง่วง งัวเงีย นอนดีกว่า
User avatar
Shart
 
Posts: 183
Joined: Sun Dec 21, 2008 10:50 am

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby ฉิกตี๋ » Mon Jan 12, 2009 12:51 am

...โอ้ว สุดยอด ข้อมูลครับ เก็บเป็น Refference ได้เลยนะครับ นี่


...ส่วนหนึ่ง ผมมองว่าทักษิณ โกงชาติมโหฬาร เป็นประวัติศาสตร์ ได้เพราะ จังหวะ และโอกาส จริง ๆ

...กุญแจสำคัญ มีอยู่ 3 ประการใหญ่ ๆ คือ

1. การลดค่าเงินบาท

2. กฏหมายขายชาติ 11 ฉบับ ซึ่งจะว่าไป รัฐบาลท่านนายกชวน พลาดที่ออกกฎหมายตัวนี้ออกมา

จริงอญู่ แม้จะแก้โจทย์เศรษฐกิจที่เงินหายไปจากชาติ และเป็นเงื่อนไขตามใบสั่งยาของ IMF แต่ไม่ควรเป็นเด็กดีของ IMF ขนาดนี้
เลยกลายเป็นเหตุให้ทักษิณโจมตี ปชป. จนชนะการเลือกตั้ง และอาศัยกฎหมายขายชาตินี้ นำมาสู่กระบวนการโคตรโกง

3. การได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และหลุด คดีซุกหุ้น ด้วยคำพิพากษาพิศดาร "บกพร่องโดยสุจริต"


ที่นี้ ไล่ทีละเรื่อง (หวังว่าคุณ wincha คงให้อภัย อย่างไรก็ตาม ถ้าเรื่องมันรกไป บอกผมได้นะครับ ผมจะได้หยุด เพราะดูแล้ว ถ้าจะเป็นหนังยาว)


"ลับ (ไม่) ที่สุด" วันลอยค่าเงิน (ตอนที่ 1)
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มกราคม 2548 06:46 น.
" บันทึกลับ 2540 ความจริงที่ถูกปกปิดมาเป็นเวลานาน" ซึ่งเขียนโดย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เป็นหนังสือที่ต้องการนำเสนอข้อมูลเหตุการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทยนั่นคือ การลดค่าเงินบาท เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 ว่า ใครคือต้นเหตุ และใครบ้างที่มีส่วนรับรู้ล่วงหน้าว่า จะมีการลดค่าเงินบาท


บทที่ 13
"ลับ (ไม่) ที่สุด" วันลอยค่าเงิน (ตอนที่ 1)
สำหรับการลงทุนและการเก็งกำไรแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ตลาดเงิน หากใครก็ตามได้มีโอกาสรู้ข่าวสารก่อนเพราะเป็นคนรู้ไส้ (Inside) แล้ว หากคนผู้นั้นขาดจรรยาบรรณในวิชาชีพก็สามารถที่จะนำข่าวสารที่รู้ก่อนคนอื่นไปแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองหรือพวกพ้อง และทำกำไรได้อย่างมหาศาล สามารถทำให้เศรษฐีกลายเป็นมหาเศรษฐี และมหาเศรษฐีก็กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีได้เพียงชั่วข้ามคืน
ว่ากันว่าเรื่องที่ว่าลับที่สุดในวงราชการ บ่อยครั้งก็สามารถที่จะรั่วไหลออกมาสู่สื่อสารมวลชนได้อย่างไม่ยากเย็น บางครั้งข่าวสารมาจากคนส่งหนังสือ คนพิมพ์เอกสาร ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง หรือแม้กระทั่งการถูกดักฟังการสนทนาทางโทรศัพท์ข่าวสารลับ จึงมีโอกาสรั่วได้เสมอ หากไม่มีความระมัดระวังพูดเรื่องสำคัญๆ ว่า "หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง"
เพราะโดยธรรมชาติหากมีคนวงในที่รู้ข่าวสาร (Inside) ไปทำให้คนนอกวงกลายเป็นคนรู้ไส้เพิ่มขึ้นไปอีก คนนอกวงที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับข่าวสารนั้น ก็ย่อมต้องรักษาผลประโยชน์ส่วนตนหรือแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน ให้ได้มากที่สุดตามสัญชาตญาณของปุถุชน และนักธุรกิจทั่วไป


รวมเวลานับแต่วันที่ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ลงนามให้ลอยค่าเงินบาทจนถึงวันประกาศจริงใช้เวลาประมาณ 2 วันหรือ 48 ชั่วโมง แต่หากนับเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายทนง พิทยะ ได้ประชุมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และเห็นว่าต้องเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 26 มิถุนายน 2540 จนถึงวันลอยค่าเงินบาทรวม 6 วัน หรือประมาณ 144 ชั่วโมง และหากนับวันที่ผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าต้องลอยค่าเงินบาทตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2540 จนถึงวันที่ลอยค่าเงินบาทจริงใช้เวลารวม 11 วัน หรือ 264 ชั่วโมง
ถ้าใครอยากรู้ว่าอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคิดอย่างไรกับเรื่องของเวลากับอัตราแลกเปลี่ยน ต้องมาดูคำสัมภาษณ์ของนายเริงชัย มะระกานนท์ ในหนังสือโลกสีขาว ของ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ในหน้าที่ 313 ว่า
"การทำงานในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนต้องเป็นความลับสุดยอด เพราะหากใครรู้เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพียง 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถหาผลประโยชน์ได้แล้ว เพราะซื้อขายผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งนั้น ในเรื่องนี้เราได้ศึกษาและกำหนดเลยว่าเจ้าหน้าที่ที่จะศึกษาวางระบบนี้ต้องเป็นความลับสุดยอด ต้องรู้เลยว่ามีใครบ้างและหากรั่วไหลมีกี่คนที่จะต้องรับผิดชอบ"
นายเริงชัย มะระกานนท์ มีความเข้าใจในเรื่องเวลากับการประกาศการลอยค่าเงิน และการเก็บรักษาความลับเป็นอย่างดีว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร!!?


(มีต่อ)
Attachments
Clip.jpg
(92.76 KiB) Downloaded 842 times
Last edited by ฉิกตี๋ on Mon Jan 12, 2009 1:23 am, edited 1 time in total.
“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือ สร้างอนาคตขึ้นมาเอง”
User avatar
ฉิกตี๋
 
Posts: 712
Joined: Wed Dec 03, 2008 6:52 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby ฉิกตี๋ » Mon Jan 12, 2009 1:19 am

"ลับ (ไม่) ที่สุด" วันลอยค่าเงิน (ตอนที่ 2)
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 27 มกราคม 2548 23:56 น.

บทที่ 14
"ลับ (ไม่) ที่สุด" วันลอยค่าเงิน (ตอนที่ 2)
หลังจากวันที่ 30 มิถุนายน 2540 ที่พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ลงนามให้ประกาศลอยค่าเงินบาท ก็ได้ตัดสินใจคิดที่จะต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะได้ถูกเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยหลอกให้ทำงานให้กับประเทศชาติ โดยการโกหกออกอากาศทางโทรทัศน์ว่า จะไม่ลดค่าเงินตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2540 แต่ต้องมาเป็นผู้ลงนามให้ลอยค่าเงินบาทเสียเองในเวลาเพียง 11 วันต่อมา
ยังมีคำถามค้างคาใจอีกหลายคนว่า เหตุใดธนาคารแห่งประเทศไทย ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าสุดท้าย (ในอีก 2 วันข้างหน้า) จะต้องประกาศลอยตัวค่าเงินจึงไม่ให้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ประกาศลอยตัวค่าเงินเสียตั้งแต่คืนวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2540? ซึ่งอยู่ในวิสัยที่น่าจะทำได้หรือไม่?
จะยิ่งผิดสังเกตมากกว่านี้ หากย้อนเวลาดูเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน 2540 ผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้เข้าพบ นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ผู้ซึ่งได้เห็นสถานภาพของเงินทุนสำรองสุทธิที่เหลือน้อยมาก และไม่มีความสามารถจะปกป้องค่าเงินได้ต่อไปแล้ว จึงได้ให้นโยบายกับผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทยไปเปลี่ยนแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเหตุใดจึงไม่ตอบสนองโดยทันที? ทั้งๆ ที่ผู้บริหารของธนาคารแห่งประเทศไทย 7 คน ได้มีมติเอกฉันท์แล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน 2540 ว่า ต้องลอยค่าเงินบาทเท่านั้นและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ดัง นั้นถ้าได้มีโอกาสเห็นแผนภูมิว่า เกิดอะไรขึ้น ก็คงจะทำให้เกิดความเข้าใจขึ้นว่า เงินตราต่างประเทศเข้าออกอย่างไรในช่วงสุดท้ายของเดือนมิถุนายน 2540 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน 2540 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2540 จึงขอนำแผนภูมิที่ได้มาจากรายงานของ ศปร.มาเพ่งรายละเอียดกันดูบ้างว่าเป็นอย่างไร?
เหตุใดหลังจากวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน 2540 ในเมื่อตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลังได้เข้าพบกับ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เพื่อแจ้งว่าจะต้องเปลี่ยนระบบอัตราแลกเปลี่ยนเป็นแบบลอยตัวแล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยกลับยังไปทำสัญญา SWAP ผูกพันภาระล่วงหน้าที่จะส่งมอบเงินเหรียญสหรัฐ ในอนาคตเพิ่มเติมมากขึ้นไปอีก ในวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2540 ถึงประมาณเกือบ 3,400 ล้านเหรียญสหรัฐ หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้นประมาณ 25 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก็คิดเป็นเงิน 85,000 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น

ตัวเลขเงินสำรองสุทธิที่ลดลงไม่ได้เป็นตัวเลขสุดท้ายที่พิสูจน์ได้ว่ามีเงินไหลออกผิดปกติเท่าไรหรือไม่? (เพราะเงินสำรองสุทธิที่ลดลงก็เพียงแค่บอกว่าส่วนต่างที่เงินไหลออกมากกว่าเงินไหลเข้านั้นเป็นจำนวนเงินเท่าไร) โดยเฉพาะช่วงสุดท้ายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตัดสินใจแล้วว่า จะลอยค่าเงินบาท ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยก็น่าจะสืบค้นหาต่อกันไปว่า ใครซื้อเงินเหรียญสหรัฐ กันมากๆ ในช่วงเวลานั้นบ้าง? บางทีอาจจะทำให้ต่อภาพทั้งหมดชัดเจนได้มากขึ้นว่า เกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา
และที่สำคัญยังมีระบบการเงินนอกระบบโอนเงินใต้ดินอีกต่างหากที่ยังมีอยู่ในนาม "โพยก๊วน" ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะไม่สามารถรับรู้ได้เลยด้วยซ้ำไป
ไม่มีใครรู้ได้ว่ามีใครได้ประโยชน์จากสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่? และคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพิสูจน์ได้ว่ามีใครได้ประโยชน์จากการรั่วไหลของข้อมูลจริงๆ หรือไม่ ซึ่งหวังไว้ว่าจะไม่มี แต่หากสมมติว่ามีใครได้ประโยชน์จากตรงนี้ด้วยการทำงานร่วมกับคนรู้ไส้แล้ว ขออนุญาตฝากความระลึกตามประสาคนขี้สงสัยว่า

คนรู้ไส้ อยู่ที่ใด? ใครรู้บ้าง?
อยู่ว่างว่าง ก็รู้ไส้ ได้จากไหน?
กำไรมั้ย? มากมั้ย? ใครได้ไป?
อยู่ที่ไหน? ใครตอบได้? ช่วยตอบที

ใครหนอใคร ใช้บิ๊กจิ๋ว ไปพูดปด?
บาทไม่ลด หนึ่งสัปดาห์ หมดศักดิ์ศรี
สะสมมา คุณความดี ถูกย่ำยี
ใครได้ดี จากตรงนี้ มีไหมเอย?


www.nidambe11.net/ekonomiz/2005q1/artic ... an28p2.htm - 35k -


...โอ้ย มันยาวจริง ๆ นี่ตัดต่อแล้ว นะนี่...

...สรุปง่าย ๆ ก็คือมีคนได้กำไรจากห้วงเวลาลดค่าเงินบาท ซึ่งก็คือทักษิณนั่นแหละ(แล้วตรูจะเอาเรื่องยาว ๆ มาลงทำไมนี่)

...เดี๋ยววันหลัง ค่อยเอาเรื่อง กฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ มาต่อ...


.................................................................................................
“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือ สร้างอนาคตขึ้นมาเอง”
User avatar
ฉิกตี๋
 
Posts: 712
Joined: Wed Dec 03, 2008 6:52 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby Rarm41 » Mon Jan 12, 2009 1:47 am

เก่งอะไรครับ? ถ้าเก่งโกงนี่ สุดยอดเลยครับ :lol:

โดยเฉพาะการซุกเงินไว้ที่เมืองนอกนี่ ยิ่งตอกย้ำการโกง การมาเพื่อโกงๆๆๆๆลูกเดียว :twisted:
User avatar
Rarm41
 
Posts: 887
Joined: Mon Oct 27, 2008 1:46 pm


Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby pojjaman » Tue Jun 23, 2009 9:03 pm

ไอ้ทักษิณ มันเ่ก่งเรื่อง เจ้าเล่ห์ เพทุบาย หลอกใช้คนจน
ผม VOTE NO นะค้าบบบ แต่อย่าเคืองกันนะคับ สหายร่วมรบ ผมไม่ตัดมิตรเหมือนแป๊ะลิ้มคับ สุดโต่งไป อิอิ
User avatar
pojjaman
 
Posts: 2194
Joined: Sun Mar 08, 2009 5:19 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby ล้างโคตรทักษิณ » Wed Jun 24, 2009 1:13 pm

ตาม rep บนๆ
เสียใจ เกลียดแด.กสิ้น เอ๊ย ทักษิณ มากกว่า รัฐประหาร มีอะไรมั้ย?

รักประชาธิปไตย น้อยกว่า การล้างตระกูลชิงหมาเกิด เอ๊ย ชินวัตร จะทำไม

ล้างโคตรทักษิณ ก่อนค่อย มาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างบริสุทธิ
User avatar
ล้างโคตรทักษิณ
Moderator
 
Posts: 2027
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:20 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby บ้านชายคลอง » Wed Jun 24, 2009 3:07 pm

ทักษิณมันก็เก่งแต่ปาก เหมือน คนเล้กของเล่นใหญ่ กับ ล้างโคตรทักษิณ
เก่งไม่จริงนี่หว่า
User avatar
บ้านชายคลอง
 
Posts: 80
Joined: Wed Jun 03, 2009 11:55 am

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby juemmy » Wed Jun 24, 2009 5:15 pm

บ้านชายคลอง wrote:ทักษิณมันก็เก่งแต่ปาก เหมือน คนเล้กของเล่นใหญ่ กับ ล้างโคตรทักษิณ
เก่งไม่จริงนี่หว่า

ตามล่าทุกแทบกระทู้เลย จริงๆถ้าเค้าไม่มีปฏิกริยาโต้ตอบคุณก็ควรจะหยุดได้แล้วบอกตามตรงว่าเบื่อ ทำอย่างนี้เหมือนเข้ามาป่วนบอร์ดนะคะ
User avatar
juemmy
 
Posts: 1356
Joined: Fri Feb 20, 2009 12:41 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby zigaratte » Wed Jun 24, 2009 5:37 pm

้ถ้ามันเก่งจริง ธุรกิจมันคงไม่เจ๊งหมดหรอก

มีธุรกิจอยู่แบบเดียวที่มันทำแล้วรุ่ง

ธุรกิจที่ต้องใช้เส้นสาย

ถ้าจะบอกว่ามันเก่ง คงต้องบอกว่า มันเก่งเฉพาะเรื่องการใช้เส้นสายมากกว่า
User avatar
zigaratte
 
Posts: 819
Joined: Mon Oct 13, 2008 9:08 am

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby overtherainbow » Wed Jun 24, 2009 5:45 pm

:shock: คนที่เข้ามาใหม่จะได้เห็นว่าในนี้เค้าคุยอะไรกันบ้าง
ที่นี่เคยเป็นที่ที่มีข้อมูลดีดี
และยังคงมีข้อมูลดีดีที่น่าสนใจอ่าน
ขออนุญาตทำเป็นกระทู้แนะนำแล้วกันค่ะ
คือได้กลิ่นจากโฟนอินมา เหมือนจะคิดว่าตัวเองบริสุทธ์ผุดผ่อง
ก็กลัวว่าจะเคลิ้มกันไป ก็เลยเอานี่มาให้อ่านเผื่อจะสนใจบ้าง ไม่มากก็น้อย
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby ทักสิน กินชะมัด » Thu Jun 25, 2009 3:43 am

เก่งสิ

ไม่งั้นมันจะ "แดก" มาได้จนทุกวันนี้เหรอครับ

มันหนีไป ตปท อย่างสบายใจเพราะมันมีเงินมหาศาล ที่โดนยึดน่ะ มันแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
ไอ้หมอนี่มันเก่งในเรื่องชั่วๆนะแหละ พวกนโยบายก็แค่หวังซื้อศรัทธาคนจนโง่ๆเท่านั้นแหละ
มันรู้ว่าคนจนมีจำนวนมากกว่าคนปานกลางมหาศาลนัก มันก็คิดแบบนักลงทุนนะแหละ
พอซื้อใจคนจนได้ ฐานเสียงมั่นคงทันที เพราะพวกนี้มันไม่มีความรู้ มันขอแค่เงิน

มันวางแผนการทุกอย่างฉลาดมาก ไม่เรียกเก่ง(แบบเหิ้ยๆ) จะให้เรียกอะไรละเนี่ย :evil:
โกงกันจนชิน กินกันเป็นกิจวัตร
User avatar
ทักสิน กินชะมัด
 
Posts: 122
Joined: Sun Oct 19, 2008 8:02 am
Location: ร่อนเร่หนีคดีไปทั่วโลก

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby EXPERTLY_7 » Sun Jun 28, 2009 7:26 pm

ที่บอกว่าสมัยทักษิณอยู่นั้น จีดีพีโตเท่านั้นเท่านี้ มันแค่สร้างภาพหลอกรากหญ้า เพราะประเทศไหนก็โตทั้งนั้นเนื่องจากเป็นขาขึ้น

ดูกันเอาเอง เปรียบเทียบกับ ลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย เขาโตมากกว่าเราอีก
Attachments
เปรียบเทียบ ต่างประเทศ.jpg
(125.42 KiB) Downloaded 308 times
User avatar
EXPERTLY_7
 
Posts: 664
Joined: Mon Mar 16, 2009 9:36 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby Mr.Best » Sun Jun 28, 2009 9:50 pm

เก่งแต่ในการสร้างความชิบหายให้กับประเทศชาติ
User avatar
Mr.Best
 
Posts: 706
Joined: Sun Apr 05, 2009 12:52 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby 8omuj » Mon Jun 29, 2009 12:38 am

มีข้อสงสัยอยุ่อย่างเดียว คือ ถ้าสมัยนั้นเป็น รบ ปชป หรืออื่นๆ ศก ไทยจะดีเท่าหรือดีกว่าทักษินรึเปล่าแค่นั้นแหละครับ เพราะชอบมีคนยกมาโจมตีเรื่อยๆว่า ปชป ตั้งพรรคมา 60 ปี บริหารมาเกือบ 10 ปี และรบ พรรคอื่นๆ อีกหลายปี ไม่เห็นพรรคไหนมีความหวังว่าเราจะเจริญขึ้นแบบประเทศอื่นๆเลย
User avatar
8omuj
 
Posts: 249
Joined: Tue Nov 25, 2008 2:39 am

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby halfmoon » Mon Jun 29, 2009 4:01 am

8omuj wrote:มีข้อสงสัยอยุ่อย่างเดียว คือ ถ้าสมัยนั้นเป็น รบ ปชป หรืออื่นๆ ศก ไทยจะดีเท่าหรือดีกว่าทักษินรึเปล่าแค่นั้นแหละครับ เพราะชอบมีคนยกมาโจมตีเรื่อยๆว่า ปชป ตั้งพรรคมา 60 ปี บริหารมาเกือบ 10 ปี และรบ พรรคอื่นๆ อีกหลายปี ไม่เห็นพรรคไหนมีความหวังว่าเราจะเจริญขึ้นแบบประเทศอื่นๆเลย


โผล่มาจากไหนครับ ผลพวงที่ประชาธิปัตย์ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟและสร้างฐานไว้ทำให้เศรษฐกิจมันดีขึ้น แล้วทักษิณก็เข้ามาทำลายโครงสร้าง ส่งผลมาวันนี้ :lol:
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby 8omuj » Mon Jun 29, 2009 11:38 pm

halfmoon wrote:
8omuj wrote:มีข้อสงสัยอยุ่อย่างเดียว คือ ถ้าสมัยนั้นเป็น รบ ปชป หรืออื่นๆ ศก ไทยจะดีเท่าหรือดีกว่าทักษินรึเปล่าแค่นั้นแหละครับ เพราะชอบมีคนยกมาโจมตีเรื่อยๆว่า ปชป ตั้งพรรคมา 60 ปี บริหารมาเกือบ 10 ปี และรบ พรรคอื่นๆ อีกหลายปี ไม่เห็นพรรคไหนมีความหวังว่าเราจะเจริญขึ้นแบบประเทศอื่นๆเลย


โผล่มาจากไหนครับ ผลพวงที่ประชาธิปัตย์ใช้หนี้ไอเอ็มเอฟและสร้างฐานไว้ทำให้เศรษฐกิจมันดีขึ้น แล้วทักษิณก็เข้ามาทำลายโครงสร้าง ส่งผลมาวันนี้ :lol:


ไม่ได้โผล่มาจากไหนหรอกครับ พอดีผมไปมาหลายเวปบอร์ด นี่เป็นเรื่องที่พวกเสื้อแดงชอบยกมาพูดบ่อยมากๆ และซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า "ถ้าในยุคทักษิน...เปลี่ยนไปให้ ปชป บริหารจะดีกว่าจริงหรือ? " ซึ่งผมเชื่อว่าคนไทยส่วนมากก็ยังไม่เชื่อมือ ปชป ในเรื่อง ศก เลย

หากคำถามทำให้ขัดเคืองใจก็ขออภัยยิ่งครับ เพราะผมเข้าใจว่าที่นี้มีสาย ปชป เยอะ น่าจะให้คำตอบผมได้ :|
User avatar
8omuj
 
Posts: 249
Joined: Tue Nov 25, 2008 2:39 am

Re: ทักษิณ เก่งจริงอ่ะเปล่า..

Postby Kamo » Tue Jun 30, 2009 12:00 am

คิดแบบพ่อค้า ใช้การตลาดในการเมือง โฆษณาชวนเชื่อ

นโยบาย คำนึงแต่ด้านเศรษฐกิจและคะแนนนิยม ไม่สนใจผลกระทบทางด้านสังคม สิทธิมนุษยชน

คนอย่างนี้ เป็นผู้นำองค์กรเอกชนได้ แต่ เป็นผู้นำประเทศไม่ได้ครับ
User avatar
Kamo
 
Posts: 245
Joined: Mon Apr 20, 2009 3:38 pm


Return to สภากาแฟ