จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby หงส์แดง » Thu Aug 04, 2011 6:33 am

ผมว่าศาลดูที่เจตนามากกว่า บางครั้งกฎหมายก็เอื้อให้ทำผิด แต่คราวนี้ดูซิว่าเมียอยากได้ของชิ้นนึง(ทั้งที่จริงไม่เอาจะตายมั้ย)ผัวก็ลังเลให้ดีไหม คิดไปคิดมากลัวเมียโกรธก็ยอมทั้งที่รู้ว่าเสี่ยง คนอยู่ด้วยกันจะไม่รู้เลยเหรอว่าจะเอาเงินไปทำอะไร ไม่ใช่หลักพันนะครับ ทีนี้พอยุ่งขึ้นมาก็ต้องหาทางออก ก็ไอกฎหมายที่มีช่องพอจะออกได้นี่แหละ ก็มุดกันเข้าไป แต่ทีนี้ไปไม่หมด ได้แค่ 4 เสียง แพ้ จริงๆก็ควรยอมรับ พอไม่ยอมก็ยิ่งยุ่งเพราะบอกโดนแกล้งอีก เฮ้อ เวลาคดีที่ชนะบอกยุติธรรม สรุปประเทศไทยจะจบที่ไหนครับ เบื่อจริงๆ :lol: :lol: :lol:
พ่อ: ลูกจ๊ะกีฬาทุกชนิดจะมี ผู้ชนะแค่ 10% และผู้แพ้ 90% ลูกอยากอยู่ฝั่งไหน
ลูก: อยากอยู่ฝั่งผู้แพ้ครับ
พ่อ: อ้าวทำไมล่ะลูก
ลูก: ก็ฝั่งผู้แพ้มีเยอะกว่านิครับ
พ่อ: !!!!
ใช่สิ! ผมข้างน้อย..อิอิ!
User avatar
หงส์แดง
 
Posts: 138
Joined: Tue Jul 26, 2011 3:25 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Thu Aug 04, 2011 11:16 am

ก่อนอื่นต้องขอบอกว่ารู้สึกยินดีนะครับที่เราเริ่มที่จะพูดคุยกันด้วยเหตุและผล เพราะผลสุดท้ายไม่ว่าใครจะคิดผิดหรือคิดถูก
ผมก็คิดว่าคนอ่านน่าจะได้ความรู้เพิ่มเติมดีครับ ทีนี้ขอตอบคุณ Bookmarks ทีละประเด็นนะครับ

ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนที่ผมอาจทำให้คุณเข้าใจผิดในข้อความครับ คือที่ผมบอกว่า " ถึงรัฐมนตรีมหาดไทยจะลงนาม แต่ไม่ได้ออก(หรือที่เรียกว่าร่าง)โดยรัฐบาลครับ แต่มีแม่-งาน(พิมพ์ติดกันโดนดูด) คือกรุงเทพมหานคร(ซึ่งขณะนั้นคุณอภิรักษ์เป็นผู้ว่าอยู่)" หมายความว่ารัฐมนตรีมหาดไทยลงนามครับ แต่ก็ลงนามตามที่คณะกรรมการผังเมือง
ได้ร่างมาครับ

ประเด็นคณะกรรมการ คุณเอามาจากพระราชบัญญัติผิดอันครับ ต้องเป้นพระราชบัญญัติการผังเมือง ไม่ใช่พระราชบัญัติควบคุมอาคาร
http://www.bma-cpd.go.th/default.asp?ID=005
(ต้องขออภัยเนื่องจากผมไม่สามารถก๊อปข้อความจาก pdf มาวางเป็นภาษาไทยได้เลยขอให้ไปอ่านเอานะครับ)
พระราชบัญญัติปี 18 กำหนดคณะกรรมการตามนั้น สังเกตุตรงกำหนดให้มีผู้แทนจากองค์กรอิสระและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการวางผังเมือง (ถ้าวางผังเมืองกรุงเทพฯ ใครเกี่ยวครับ) จำนวน 7 คน
พระราชบัญญัติเพิ่มเติมปี 35 มาตรา 19 กำหนดให้มีการฟังความเห็นประชาชนเพิ่มเติม

ทีนี้ที่ผมบอกว่า กทม. เป็นแม่งาน (ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ในการชี้ขาดนะครับ) เพราะเป็นการวางผังเมืองของกทม. ทำให้ต้องใช้คนของ กทม. มาร่วมในการวางผังเมืองด้วยครับ

คราวนี้จากพระราชบัญญัติ ทำให้ต้องมีการวางผังเมืองดังกล่าว และออกเป็นกฏกระทรวงซึ่งก็ต้องเซ็นต์โดยรัฐมนตรีมหาดไทย พลอากาศเอก คงศักดิ์ วันทนา ตอนปี 49 นั่นแหละครับ ทีนี้มาดูที่ตัวกฏกระทรวงตามนี้ http://www.bma-cpd.go.th/files/001/DOC_01.pdf
และดูว่าที่ดินรัชดาอยู่ใน ย.6 ตามนี้ [urlhttp://www.asa.or.th/?q=node/312[/url]
คราวนี้ย้อนกลับมาดูกฏกระทรวงหน้า 26 ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำหรับที่ดิน ย.6 นี่แหละครับคือข้อจำกัดของการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษที่คุณคิดว่าพจมานจะสร้าง (ตกลงเขาจะเอาไปทำธุรกิจหรือเอาไปสร้างบ้านครับ) จากข้อห้ามที่ 10 และ 11 จะสร้างได้ต้องอยู่ติดถนนขนาด 30 เมตรขึ้นไป ทำให้ไม่สามารถสร้างได้ครับ
และเงื่อนไขอีกข้อที่กฏกระทรวงปี 49 ที่คุณคิดว่าเอื้อให้ทำธุรกิจมากขึ้น แต่กลับจำกัดพื้นที่การใช้ประโยชน์มาขึ้น จากหน้า 29 เรื่องการใช้ประโยชน์ข้อ 1
ที่จำกัดพื้นที่อาคารรวมต่อพื้้นที่ดินไม่เกิน 4.5 ต่อ 1 ซึ่งลดลงจากเดิม 10 ต่อ 1

และอีกประเด็นเรื่องห้ามสร้างอาคารสูง จาก "ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท"
ซึ่งบริเวณโดยรอบศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ก็ถูกกำหนดเอาไว้ใน "ข้อ 2 เพื่อรักษาความปลอดภัยของสถาบันระดับสูงและบริเวณที่สมควรรักษาเป็นพิเศษเฉพาะแห่ง"
จาก http://download.asa.or.th/03media/04law/cba/bb/bb32-03.pdf (จริงๆ ของสำนักผังเมืองก็มีแต่เป็น zip ผมเลยเอาของสมาคมสถาปนิกให้ดูแทนครับ) ซึ่งกำหนดไว้ในหน้า 115 ข้อ 5(2) ห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 เมตร และ 5(3) พื้นที่รวมทุกชั้นในหลังเดียกันห้ามเกิน 1000 ตารางเมตร
ซึ่งข้อบัญญัตินี้ยังมีผลบังคับใช้อยู่ โดยดูได้จากข่าวการก่อสร้างศูนย์วัฒนธรรมจีนซึ่งอยู่ข้างศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องขอให้ ครม. เห็นชอบให้ยกเว้น
ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ในปี 52 จากข่าว http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000058850
หรือ http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=265027&ch=gn2

ดังนั้นโดยสรุปจากหลักฐานเหล่านี้ คุณคิดว่าคำกล่าวหาที่ว่าทักษิณสั่งให้มีการแก้กฏหมายหลังจากซื้อที่ดินเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์เป็นความจริงหรือไม่ครับ

และจากมูลเหตุนี้ ผมถามคุณต่อว่า คุณคิดว่าทักษิณประมูลซื้อที่ดินรัชดาโดยละโมบหรือไม่ละครับ

คราวนี้อีกประเด็นคือ "ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดแต่ยังทำ" ผมคิดว่าคุณยกตัวอย่างไม่ตรงครับ เพราะทักษิณผิดเพราะคิดว่าตนเองไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจบังคับกองทุนฟื้นฟู
ซึ่งนายกรัฐมนตรีท่านก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็นคุณชวนหรือคุณบรรหารก็ไม่รู้ (ดูได้จากคำให้การครับ) และประกอบกับสอบถามไปที่กองทุน (โทษทีครับไม่ใช่กฤษฏีกา)
ก็บอกว่าประมูลได้ก็เลยประมูล อย่างนี้นับว่าเป็นการ รู้ว่าผิดแต่ยังทำ หรือ ทำโดยไม่รู้ว่าผิดครับ ซึ่งแตกต่างจากตัวอย่างของคุณที่เป็นกรณีรู้ว่าผิดแต่ยังทำครับ

ปล. ตอบคุณหงส์แดง ถ้าคิดจะวิเคราะห์คำตัดสินเชิงวิชาการเรื่อง 5 ต่อ 4 เสียง รบกวนไปค้นหาจากกูเกิลและอ่านพิจารณาเองครับ
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Thu Aug 04, 2011 11:18 am

เพิ่มเติมประเด็นที่ดินโดยรอบศูนย์วัฒนธรรม ระหว่างที่หาข้อมูลมาวิเคราะห์กับคุณบุ้คมาร์ค เจอข่าวนี้เข้า ลองอ่านดูครับว่า
ตกลงให้สร้างอาคารสูงได้หรือยัง
http://www.thairath.co.th/content/region/129940
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bugmao » Thu Aug 04, 2011 12:44 pm

ตามหัวข้อกระทู้เลย
ไม่มีทางหรอก บัวใต้น้ำใต้ตมไม่สามารถสอนหรือเข้าใจได้
User avatar
Bugmao
 
Posts: 21
Joined: Sat Oct 18, 2008 8:40 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Thu Aug 04, 2011 3:18 pm

nopantaman wrote:ประเด็นคณะกรรมการ คุณเอามาจากพระราชบัญญัติผิดอันครับ ต้องเป้นพระราชบัญญัติการผังเมือง ไม่ใช่พระราชบัญัติควบคุมอาคาร
http://www.bma-cpd.go.th/default.asp?ID=005
(ต้องขออภัยเนื่องจากผมไม่สามารถก๊อปข้อความจาก pdf มาวางเป็นภาษาไทยได้เลยขอให้ไปอ่านเอานะครับ)
พระราชบัญญัติปี 18 กำหนดคณะกรรมการตามนั้น สังเกตุตรงกำหนดให้มีผู้แทนจากองค์กรอิสระและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการวางผังเมือง (ถ้าวางผังเมืองกรุงเทพฯ ใครเกี่ยวครับ) จำนวน 7 คน
พระราชบัญญัติเพิ่มเติมปี 35 มาตรา 19 กำหนดให้มีการฟังความเห็นประชาชนเพิ่มเติม

ทีนี้ที่ผมบอกว่า กทม. เป็น***าน (ไม่ใช่ผู้มีสิทธิ์ในการชี้ขาดนะครับ) เพราะเป็นการวางผังเมืองของกทม. ทำให้ต้องใช้คนของ กทม. มาร่วมในการวางผังเมืองด้วยครับ

คราวนี้จากพระราชบัญญัติ ทำให้ต้องมีการวางผังเมืองดังกล่าว และออกเป็นกฏกระทรวงซึ่งก็ต้องเซ็นต์โดยรัฐมนตรีมหาดไทย พลอากาศเอก คงศักดิ์ วันทนา ตอนปี 49 นั่นแหละครับ ทีนี้มาดูที่ตัวกฏกระทรวงตามนี้ http://www.bma-cpd.go.th/files/001/DOC_01.pdf
และดูว่าที่ดินรัชดาอยู่ใน ย.6 ตามนี้ [urlhttp://www.asa.or.th/?q=node/312[/url]
คราวนี้ย้อนกลับมาดูกฏกระทรวงหน้า 26 ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำหรับที่ดิน ย.6 นี่แหละครับคือข้อจำกัดของการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษที่คุณคิดว่าพจมานจะสร้าง (ตกลงเขาจะเอาไปทำธุรกิจหรือเอาไปสร้างบ้านครับ) จากข้อห้ามที่ 10 และ 11 จะสร้างได้ต้องอยู่ติดถนนขนาด 30 เมตรขึ้นไป ทำให้ไม่สามารถสร้างได้ครับ
และเงื่อนไขอีกข้อที่กฏกระทรวงปี 49 ที่คุณคิดว่าเอื้อให้ทำธุรกิจมากขึ้น แต่กลับจำกัดพื้นที่การใช้ประโยชน์มาขึ้น จากหน้า 29 เรื่องการใช้ประโยชน์ข้อ 1
ที่จำกัดพื้นที่อาคารรวมต่อพื้้นที่ดินไม่เกิน 4.5 ต่อ 1 ซึ่งลดลงจากเดิม 10 ต่อ 1

และอีกประเด็นเรื่องห้ามสร้างอาคารสูง จาก "ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท"
ซึ่งบริเวณโดยรอบศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ก็ถูกกำหนดเอาไว้ใน "ข้อ 2 เพื่อรักษาความปลอดภัยของสถาบันระดับสูงและบริเวณที่สมควรรักษาเป็นพิเศษเฉพาะแห่ง"
จาก http://download.asa.or.th/03media/04law/cba/bb/bb32-03.pdf (จริงๆ ของสำนักผังเมืองก็มีแต่เป็น zip ผมเลยเอาของสมาคมสถาปนิกให้ดูแทนครับ) ซึ่งกำหนดไว้ในหน้า 115 ข้อ 5(2) ห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 เมตร และ 5(3) พื้นที่รวมทุกชั้นในหลังเดียกันห้ามเกิน 1000 ตารางเมตร
ซึ่งข้อบัญญัตินี้ยังมีผลบังคับใช้อยู่ โดยดูได้จากข่าวการก่อสร้างศูนย์วัฒนธรรมจีนซึ่งอยู่ข้างศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งต้องขอให้ ครม. เห็นชอบให้ยกเว้น
ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัตินี้ในปี 52 จากข่าว http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000058850
หรือ http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=265027&ch=gn2

ดังนั้นโดยสรุปจากหลักฐานเหล่านี้ คุณคิดว่าคำกล่าวหาที่ว่าทักษิณสั่งให้มีการแก้กฏหมายหลังจากซื้อที่ดินเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์เป็นความจริงหรือไม่ครับ

และจากมูลเหตุนี้ ผมถามคุณต่อว่า คุณคิดว่าทักษิณประมูลซื้อที่ดินรัชดาโดยละโมบหรือไม่ละครับ

คราวนี้อีกประเด็นคือ "ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดแต่ยังทำ" ผมคิดว่าคุณยกตัวอย่างไม่ตรงครับ เพราะทักษิณผิดเพราะคิดว่าตนเองไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจบังคับกองทุนฟื้นฟู
ซึ่งนายกรัฐมนตรีท่านก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็นคุณชวนหรือคุณบรรหารก็ไม่รู้ (ดูได้จากคำให้การครับ) และประกอบกับสอบถามไปที่กองทุน (โทษทีครับไม่ใช่กฤษฏีกา)
ก็บอกว่าประมูลได้ก็เลยประมูล อย่างนี้นับว่าเป็นการ รู้ว่าผิดแต่ยังทำ หรือ ทำโดยไม่รู้ว่าผิดครับ ซึ่งแตกต่างจากตัวอย่างของคุณที่เป็นกรณีรู้ว่าผิดแต่ยังทำครับ

ปล. ตอบคุณหงส์แดง ถ้าคิดจะวิเคราะห์คำตัดสินเชิงวิชาการเรื่อง 5 ต่อ 4 เสียง รบกวนไปค้นหาจากกูเกิลและอ่านพิจารณาเองครับ

เริ่มจาก อภิรักษ์มาเป็นผู้ว่า ในปี 47 ปลายปี ซึ่งผังเมืองได้มีการทำมาตั้งแต่สมัยสมัครแล้ว เพราะจะจัดทำทุกๆ 5 ปี การทำผังเมืองคงเริ่มทำกันไปแล้ว คงไม่มาเริ่มทำตอนปี 47 หรอกนะครับ ส่วนที่ผมยกและการซื้อที่ดินของพจมานปี 46 ซึ่งอันนี้ผมว่า อภิรักษ์มาเริ่มทำงานหลังการมีการซื้อที่ดินไปแล้ว

กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๖๐ (พ.ศ. ๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ (๓) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
และมาตรา ๘ (๒) และ (๓) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการ
เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕
มาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้
โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยคำแนะนำของ
คณะกรรมการควบคุมอาคารออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๔ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๒๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๘ (พ.ศ. ๒๕๔๐)

ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๒๔ โครงสร้างหลักของอาคาร ดังต่อไปนี้

(๑) อาคารสำหรับใช้เป็นคลังสินค้า โรงมหรสพ โรงแรม อาคารชุด หรือสถานพยาบาล
(๒) อาคารสำหรับใช้เพื่อกิจการพาณิชยกรรม การอุตสาหกรรม การศึกษา การสาธารณสุข
หรือสำนักงานหรือที่ทำการที่มีความสูงตั้งแต่สามชั้นขึ้นไป และมีพื้นที่รวมกันทุกชั้นหรือชั้นหนึ่งชั้นใด
ในหลังเดียวกันเกิน ๑,๐๐๐ ตารางเมตร
(แก้ไขจากเดิมห้ามเกิน 1000 ตรม เป็น เกินได้นะครับ)

(๓) อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารขนาดใหญ่ หรืออาคารหรือส่วนหนึ่งส่วนใด
ผมไปดูแผนผังกทม กลุ่ม ย.6 ถ้าเป็นการสร้าง สำนักงานประเภทอาคารขนาดใหญ่ (1b,2) จะอยู่ในกลุ่ม ถนนกว้าง 16 เมตร ผมว่ามันไม่ติดข้อจำกัดถนนกว้าง 30 เมตร นะ
ตามกฎกระทรวง (ข) สำนักงานประเภทอาคารขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
----------------------------------------------------------------
ที่จำกัดพื้นที่อาคารรวมต่อพื้้นที่ดินไม่เกิน 4.5 ต่อ 1 ซึ่งลดลงจากเดิม 10 ต่อ 1 ถ้าดูจาก กฎกระทรวง ในข้อ 21 มันเป็น
(๒๑) การซื้อขายหรือเก็บเศษวัสดุ
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทนี้ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
ให้เป็นไปดังต่อไปนี้ (๑) มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน ๔.๕ : ๑

จากข้อ 21 มันเป็นการซื้อขายและเก็บเศษวัสดุ ไม่ใช่การสร้างตึกสูงนะครับ มันคนละประเภทกันกับอาคารพาณิชย์นะครับ

----------------------------------------------------------------
ส่วนกรณี ที่อ้างคุณชวน และคุณบรรหารมา ลองไปอ่านคำให้การของหม่อมอุ๋ย ที่ให้การต่อศาล ดูสิครับ
ส่วนเรื่องที่อ้างว่า แม้วไปถาม กองทุนฟื้นฟูแล้ว บอกว่าซื้อได้ แม้วมันต้องรู้ว่า มันขัดกับกฎหมาย ม.100 มันถึงไปถาม กองทุนฟื้นฟู อย่างนี้จะมาปฎิเสธไม่ได้ว่า ไม่รู้กฎหมายข้อนี้ คนเป็นนายก จะไปโทษคนอื่นไม่ได้ครับ เพราะกองทุนฟื้นฟู ไม่ได้มีความรู้ทางด้านกฎหมาย คนจะเชลียร์นาย บอกว่า ซื้อได้หมด แต่คนรับผิดชอบ คือตัว ไอ้แม้ว เอง อันนี้แม้วน่าจะรู้ดี
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Thu Aug 04, 2011 4:23 pm

ในเรื่องพื้นที่ห้ามเกิน 1000 ตรม. ผมไม่ได้อ้างจากพระราชบัญญัติควบคุมอาคารนะครับ เนื่องจากที่ดินอยู่ในเขตใกล้ศูนย์วัฒนธรรม
ดังนั้นนอกจาก พรบ.อาคาร, พรบ.ผังเมือง แล้ว ยังต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติ กทม. เนื่องจากเป็นพื้นที่สมควรรักษาเป็นพิเศษด้วยครับ
ซึ่ง ในข้อบัญญัติ กทม. ตามที่ยกให้ดูหน้า 115 ข้อ 5(2) ห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 เมตร และ 5(3) พื้นที่รวมทุกชั้นในหลังเดียกัน
ห้ามเกิน 1000 ตารางเมตร

ในส่วนของสำนักงานอาคารขนาดใหญ่ผมก็ว่าน่าจะสร้างได้ครับ แต่แบบใหญ่พิเศษนี่ไม่ได้แน่ๆ แต่ขนาดใหญ่ถึงสร้างได้
ก็ต้องไม่ขัดกับข้อจำกัดเรื่องพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินซึ่งไม่เกิน 4.5 ต่อ 1 ด้วยครับ
(ในที่นี้ขออธิบายเรื่องข้อจำกัดพื้นที่เพิ่มเติมนิดนึง คือ (21) การซื้อขายหรือเก็บเศษวัสดุ นั่นเป็นรายการอาคารที่ห้ามสร้างลำดับที่ 21
ซึ่งเป็นหัวข้อย่อยของย่อหน้าด้านบน คืออาคารที่ห้ามสร้าง 21 รูปแบบครับ
และในย่อหน้าถัดมาก็สำทับอีกว่าถ้าใช้ที่ดิน ย.6 โดยไม่ได้ใช้เพื่ออยู่อาศัยต้องมีอัตราส่วน 4.5 ต่อ 1
ไม่เกี่ยวกับการซื้อขายหรือเก็บเศษวัสดุ พอจะเข้าใจไหมครับ )

ส่วนเรื่องคุณชวน คุณบรรหาร ขอโทษด้วยที่จำผิด ไปอ่านข่าวนี้ http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000089225 เหมือน คตส. เป็นคนเรียกสอบ จำไม่ได้จริงๆ ว่าศาลเรียกสอบหรือไม่แล้วคุณที่คุณให้ผมไปอ่านคำให้การของหม่อมอุ๋ย ต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถหาบันทึกคำให้การได้
เจอแต่ข่าวสรุปข้างบน ซึ่งอ่านแล้วมันยังไงเหรอครับ งงว่าคุณต้องการสื่ออะไร เพราะข่าวก็บอกหม่อมอุ๋ยให้การช่วยจำเลยนี่นา
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Thu Aug 04, 2011 4:44 pm

ข้อ ๑๗ ที่ดินประเภท ย. ๖ ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยซึ่งไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่พิเศษ
สถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการเป็นส่วนใหญ่ สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน
เพื่อกิจการอื่น ให้ใช้ได้ไม่เกินร้อยละสิบของที่ดินประเภทนี้ในแต่ละบริเวณ
ที่ดินประเภทนี้ ห้ามใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการตามที่กำหนดดังต่อไปนี้
(๑) โรงงานทุกจำพวกตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เว้นแต่โรงงานตามประเภท ชนิด และจำพวก
ที่กำหนดให้ดำเนินการได้ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงนี้ ที่ไม่ก่อเหตุรำคาญตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
หรือไม่เป็นมลพิษต่อชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
แห่งชาติ และมีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน ๕๐๐ ตารางเมตร
(๒) การทำผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมที่ไม่เข้าข่ายโรงงาน เว้นแต่กรณีที่เป็นหน่วยงานคอนกรีต
ผสมเสร็จในลักษณะชั่วคราวที่ตั้งอยู่ในหน่วยงานก่อสร้างหรือบริเวณใกล้เคียงเพื่อประโยชน์แก่
โครงการก่อสร้างนั้น
(๓) สถานที่บรรจุก๊าซ สถานที่เก็บก๊าซ และห้องบรรจุก๊าซตามกฎหมายว่าด้วยการบรรจุ
ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ เว้นแต่สถานีบริการก๊าซที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะ
ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่น
ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ร้านจำหน่ายก๊าซ สถานที่ใช้ก๊าซ และสถานที่จำหน่ายอาหาร
ที่ใช้ก๊าซ
(๔) สถานที่ที่ใช้ในการเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อจำหน่ายที่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วย
การควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง เว้นแต่สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร
(๕) การเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดเพื่อการค้าที่อาจก่อเหตุรำคาญตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
(๖) การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเค็มหรือน้ำกร่อย
(๗) โรงมหรสพตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร เว้นแต่ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มี
ขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่น
ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้า
ขนส่งมวลชน
หน้า ๒๘
เล่ม ๑๒๓ ตอนที่ ๔๘ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙
(๘) สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ เว้นแต่สถานบริการในเขตพื้นที่ตามพระราชกฤษฎีกา
กำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร
(๙) การอยู่อาศัยประเภทอาคารขนาดใหญ่พิเศษ เว้นแต่
(ก) การอยู่อาศัยประเภทอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
(ข) กรณีที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของกรุงเทพมหานคร การเคหะแห่งชาติหรือ
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย
(๑๐) การประกอบพาณิชยกรรมประเภทอาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ เว้นแต่
การประกอบพาณิชยกรรมประเภทอาคารสูง ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร
ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร
หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
(๑๑) สำนักงานที่มีพื้นที่ประกอบการเกิน ๓๐๐ ตารางเมตร เว้นแต่
(ก) สำนักงานที่มีพื้นที่ประกอบการเกิน ๓๐๐ ตารางเมตร ซึ่งไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่
อาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๐ เมตร
ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๐ เมตร
หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
(ข) สำนักงานประเภทอาคารขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
(ค) สำนักงานประเภทอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะ
ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่น
ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้า
ขนส่งมวลชน
(ง) สำนักงานที่ใช้ประโยชน์เป็นสโมสรของโครงการจัดสรรที่ดินด้วยซึ่งไม่ใช่อาคาร
ขนาดใหญ่ อาคารสูง หรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ
(๑๒) การติด ตั้ง หรือก่อสร้างป้ายที่มีขนาดเกิน ๑ ตารางเมตร หรือมีน้ำหนักรวมทั้งโครงสร้างเกิน
๑๐ กิโลกรัม ในบริเวณที่มีระยะห่างจากวัด โบราณสถาน ทางพิเศษ หรือถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ตั้งแต่ ๔๐ เมตร ถึงจุดติด ตั้ง หรือก่อสร้างป้ายน้อยกว่า ๕๐ เมตร เว้นแต่ป้ายชื่ออาคารหรือสถานประกอบการ
และป้ายสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือสถานีบริการก๊าซ
(๑๓) สถานที่เก็บสินค้า สถานีรับส่งสินค้าหรือการประกอบกิจการรับส่งสินค้า เว้นแต่ที่ตั้งอยู่
ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับ
ถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร
(๑๔) ศูนย์ประชุมหรืออาคารแสดงสินค้า เว้นแต่ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร หรือตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตร จากจุดศูนย์กลางสถานีรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน
(๑๕) โรงฆ่าสัตว์หรือโรงพักสัตว์ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์
(๑๖) ไซโลเก็บผลิตผลทางการเกษตร
(๑๗) สวนสนุกหรือสวนสัตว์ เว้นแต่สวนสนุกหรือสวนสัตว์ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะ
ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่น
ที่มีขนาดเขตทางไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร และมีที่ว่างโดยรอบจากแนวเขตที่ดินไม่น้อยกว่า ๑๐ เมตร
เพื่อปลูกต้นไม้ หรือที่ดำเนินการอยู่ในอาคารพาณิชยกรรม
(๑๘) การกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย
(๑๙) การกำจัดวัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย
(๒๐) การซื้อขายหรือเก็บชิ้นส่วนเครื่องจักรกลเก่า เว้นแต่ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร
(๒๑) การซื้อขายหรือเก็บเศษวัสดุ
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทนี้ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
ให้เป็นไปดังต่อไปนี้
(๑) มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน ๔.๕ : ๑ ทั้งนี้ ที่ดินแปลงใดที่ได้ใช้
ประโยชน์แล้ว หากมีการแบ่งแยกหรือแบ่งโอนไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน
ของที่ดินแปลงที่เกิดจากการแบ่งแยกหรือแบ่งโอนทั้งหมดรวมกันต้องไม่เกิน ๔.๕ : ๑ แต่ในกรณีที่เป็น
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอาคารสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

เค้าแยกเป็นการใช้ประโยชน์ของที่ดิน ว่าจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง เป็นข้อๆ ครับ ถ้าคุณ nopantaman ลองอ่านข้อ 21 เค้าเขียนว่า การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทนี้ ซึ่งความหมายมันก็คือ การเอาที่ดินมาซื้อขายหรือเก็บเศษวัสดุใช่หรือไม่ครับ
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Thu Aug 04, 2011 4:57 pm

แยกผิดครับ ต้องแยกอย่างนี้
ข้อ ๑๗ ที่ดินประเภท ย. ๖ ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยซึ่งไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่พิเศษ
สถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการเป็นส่วนใหญ่ สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน
เพื่อกิจการอื่น ให้ใช้ได้ไม่เกินร้อยละสิบของที่ดินประเภทนี้ในแต่ละบริเวณ

นี่คือย่อหน้าที่ 1 กำหนดข้อห้ามใช้ประโยชน์ 21 รูปแบบ
ที่ดินประเภทนี้ ห้ามใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการตามที่กำหนดดังต่อไปนี้
(๑) โรงงานทุกจำพวกตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เว้นแต่โรงงานตามประเภท ชนิด และจำพวก
ที่กำหนดให้ดำเนินการได้ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงนี้ ที่ไม่ก่อเหตุรำคาญตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
หรือไม่เป็นมลพิษต่อชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
แห่งชาติ และมีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน ๕๐๐ ตารางเมตร
...
(๒๐) การซื้อขายหรือเก็บชิ้นส่วนเครื่องจักรกลเก่า เว้นแต่ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร
(๒๑) การซื้อขายหรือเก็บเศษวัสดุ <- จบ 21 รูปแบบที่ห้ามสร้าง

นี่คือย่อหน้าที่ 2 คือถ้าไม่ได้เอา ย.6 ไปสร้างบ้าน ต้องทำตามข้อกำหนด มี 2 ข้อ
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทนี้ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
ให้เป็นไปดังต่อไปนี้

(๑) มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน ๔.๕ : ๑ ทั้งนี้ ที่ดินแปลงใดที่ได้ใช้
ประโยชน์แล้ว หากมีการแบ่งแยกหรือแบ่งโอนไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน
ของที่ดินแปลงที่เกิดจากการแบ่งแยกหรือแบ่งโอนทั้งหมดรวมกันต้องไม่เกิน ๔.๕ : ๑ แต่ในกรณีที่เป็น
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอาคารสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
...

และนี่คือย่อหน้าที่ 3 ย่อหน้าสุดท้ายของข้อ 17 กำหนดกรณีสร้างที่จอดรถครับ
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอาคารสาธารณะที่จัดให้มีที่จอดรถยนต์เพิ่มขึ้นตามวรรคสาม (๑)
พื้นที่จอดรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำมาพิจารณาอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน
และอัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม


คุณลองอ่านดูทุกข้อสิครับ จะมีสองหรือสามย่อหน้าอย่างนี้เสมอ โดยย่อหน้าที่ 1 กำหนดข้อห้าม
ย่อหน้าที่ 2 กำหนดพื้นที่ที่ใช้ได้
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Thu Aug 04, 2011 5:05 pm

คำพิพากษาของศาล เรื่องกองทุนฟื้นฟู อยู่ในอำนาจของกระทรวงการคลัง

ในการบริหารราชการแผ่นดิน มีพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 จัดระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การบริหารราชการส่วนกลาง การบริหารราชการส่วนภูมิภาค และการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น โดยความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล มีอำนาจกำกับโดยทั่วไปซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน มีอำนาจสั่งให้ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และส่วนราชการซึ่งมีหน้าที่ควบคุมราชการส่วนท้องถิ่น ชี้แจงแสดงความคิดเห็น ทำรายงานเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ ในกรณีจำเป็น จะยับยั้งการปฏิบัติราชการใดๆ ที่ขัดต่อนโยบาย หรือมติคณะรัฐมนตรี ก็ได้
มีอำนาจสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค และราชการส่วนท้องถิ่น มีอำนาจบังคับบัญชาราชการฝ่ายบริหารทุกตำแหน่ง ในสังกัดกระทวง ทบวง กรม และส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเป็นกรม รวมทั้งมีอำนาจดำเนินการอื่นๆ ในการปฏิบัติตามนโยบาย
ส่วนการจัดระเบียบราชการในกระทรวงต่างๆ มาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว กำหนดให้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเป็นผู้บังคับบัญชา และรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานในกระทรวง ให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา หรือที่คณะรัฐมนตรีกำหนด หรืออนุมัติ แต่มีข้อจำกัดว่า อำนาจดังกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต้องอยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติมาตรา 11 กล่าวคือต้องไม่เป็นการขัด หรือแย้ง หรือลดทอนอำนาจที่มีอยู่ของนายกรัฐมนตรี

กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จึงเป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งอยู่ในสังกัดฝ่ายบริหารเช่นเดียวกัน แม้ตามมาตรา 29 เตรส จะบัญญัติให้การวางนโยบายและควบคุมดูแลโดยทั่วไป เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดการกองทุน แต่เมื่อพิจารณาถึงองค์ประกอบของคณะกรรมการจัดการกองทุน ตามมาตรา 29 นว ที่ประกอบด้วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง อีกไม่น้อยกว่า 5 คน แต่ไม่เกิน 9 คน แล้ว เห็นว่าล้วนมีความเกี่ยวข้องและอยู่ในสถานะที่อาจถูกพิจารณาในทางให้คุณให้โทษโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ทั้งสิ้น
โดยคณะกรรมการซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังแต่งตั้ง อาจพ้นจากตำแหน่งได้หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ออก ตามมาตรา 29 เอกาทศ ส่วนปลัดกระทรวงการคลัง เป็นข้าราชการประจำ อยู่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 ทั้งได้ความจาก
คำเบิกความของนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เป็นหน่วยงานสังกัดธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ในกำกับของกระทรวงการคลัง นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล เป็นผู้กำกับดูแลกระทรวงการคลัง กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ต้องอาศัยรัฐบาลในการสนับสนุนทางด้านการเงิน โดยผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ
โดยปกตินายกรัฐมนตรีจะไม่เข้าไปสั่งการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยลำพัง เว้นแต่มีเรื่องเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีสามารถให้ความเห็นหรือสั่งการได้ ซึ่งสอดคล้องกับคำเบิกความของพยานที่เคยทำงานเกี่ยวข้องโดยตรงกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หลายปาก
ได้แก่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เบิกความว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มีหนี้จำนวนมาก สมัยรัฐบาลที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกพันธบัตรประมาณ 5 แสนล้านบาท เพื่อหาเงินมาล้างหนี้ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พยานเองก็เคยเสนอรัฐบาลให้ออกพันธบัตรประมาณ 870,000 ล้านบาท เพื่อล้างหนี้ให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ด้วยเช่นกัน
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เบิกความว่า ลักษณะของกรรมการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธาน เพื่อให้สืบความกับกระทรวงการคลัง เงินที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ใช้ในการบริหารจัดการ กระทรวงการคลังต้องออกพันธบัตรประมาณล้านกว่าล้านบาท เพื่อเอาเงินใส่เข้าไปในสถาบันการเงิน เมื่อขายไม่ได้ก็ต้องออกพันธบัตรระยะยาว แล้วตั้งงบประมาณชำระ และอีกส่วนหนึ่งเอากำไรของธนาคารแห่งประเทศไทย มา โดยนายกรัฐมนตรีมีอำนาจที่จะเข้าไปกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เบิกความว่า รัฐบาลออกพันธบัตรมาสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
นายไพโรจน์ เฮงสกุล อดีตผู้จัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เบิกความว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน อยู่ในธนาคารแห่งประเทศไทย โครงสร้างการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เป็นไปตามพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธาน
คณะกรรมการ และคณะกรรมการอื่น เช่น ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง รัฐมนตรีจะขอหรือสั่งการให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ดำเนินการในเรื่องใดเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีได้ ภายหลังเกิดวิกฤตปี 2540 กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มีหนี้มาก หนี้เหล่านี้มาจากการขายพันธบัตรเพื่อเอาเงินมาช่วยกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน และมีดอกเบี้ยซึ่งเป็นภาระรัฐบาลต้องจัดสรรงบประมาณมาจ่าย
การจัดการของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน คณะกรรมการจัดการกองทุนทำได้เอง แต่บางเรื่อง เช่น การเพิ่มทุน หรือลดทุน ต้องได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรี
และนายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เบิกความว่า ขณะเกิดวิกฤตทางการเงินเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2527 รัฐบาลหรือธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่มีเครื่องมือช่วยสภาพคล่องสถาบันการเงิน ดังนั้นจึงตั้งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินขึ้นมา โดยมีฐานะเป็นนิติบุคคล และเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารแห่งประเทศไทย การที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จ่ายเงินไปเพื่อช่วยสถาบันการเงินที่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง หรือเรื่องความอยู่รอด หรือล้มละลายของสถาบันการเงิน หากสถาบันการเงินมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องและล้มละลาย ก็จะจ่ายเงินให้ไม่ได้ เพราะจะไม่ได้เงินกลับคืน ถ้าไม่ได้กลับคืนมาก็จะต้องหาเงินมาใส่ การเอาเงินมาใส่ก็เอามาจากภาษีอากร คือโยกเงินมาจากรัฐบาลมาใส่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ฉะนั้น การจะให้สภาพคล่องต่อสถาบันการเงินจึงต้องมีการตัดสินใจโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงการคลัง
คำเบิกความของพยานดังกล่าวข้างต้น แสดงให้เห็นว่า นอกจากนายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ในทางปฏิบัติของการบริหารราชการแผ่นดินที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เคยใช้อำนาจดังกล่าวกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน โดยผ่านทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังตามลำดับชั้น

แม้วเคยกู้ เงิน 7 แสนล้าน มาจ่ายหนี้กองทุนฟื้นฟู จะบอกว่าไม่มีอำนาจในการสั่งการได้อย่างไร
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Thu Aug 04, 2011 5:11 pm

nopantaman wrote:แยกผิดครับ ต้องแยกอย่างนี้
ข้อ ๑๗ ที่ดินประเภท ย. ๖ ให้ใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยซึ่งไม่ใช่อาคารขนาดใหญ่พิเศษ
สถาบันราชการ การสาธารณูปโภคและสาธารณูปการเป็นส่วนใหญ่ สำหรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน
เพื่อกิจการอื่น ให้ใช้ได้ไม่เกินร้อยละสิบของที่ดินประเภทนี้ในแต่ละบริเวณ

นี่คือย่อหน้าที่ 1 กำหนดข้อห้ามใช้ประโยชน์ 21 รูปแบบ
ที่ดินประเภทนี้ ห้ามใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการตามที่กำหนดดังต่อไปนี้
(๑) โรงงานทุกจำพวกตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เว้นแต่โรงงานตามประเภท ชนิด และจำพวก
ที่กำหนดให้ดำเนินการได้ตามบัญชีท้ายกฎกระทรวงนี้ ที่ไม่ก่อเหตุรำคาญตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข
หรือไม่เป็นมลพิษต่อชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
แห่งชาติ และมีพื้นที่ประกอบการไม่เกิน ๕๐๐ ตารางเมตร
...
(๒๐) การซื้อขายหรือเก็บชิ้นส่วนเครื่องจักรกลเก่า เว้นแต่ที่ตั้งอยู่ริมถนนสาธารณะที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมต่อกับถนนสาธารณะอื่นที่มีขนาดเขตทาง
ไม่น้อยกว่า ๑๖ เมตร
(๒๑) การซื้อขายหรือเก็บเศษวัสดุ <- จบ 21 รูปแบบที่ห้ามสร้าง

นี่คือย่อหน้าที่ 2 คือถ้าไม่ได้เอา ย.6 ไปสร้างบ้าน ต้องทำตามข้อกำหนด มี 2 ข้อ
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทนี้ที่ไม่ใช่เพื่อการอยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด
ให้เป็นไปดังต่อไปนี้

(๑) มีอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน ๔.๕ : ๑ ทั้งนี้ ที่ดินแปลงใดที่ได้ใช้
ประโยชน์แล้ว หากมีการแบ่งแยกหรือแบ่งโอนไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม อัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน
ของที่ดินแปลงที่เกิดจากการแบ่งแยกหรือแบ่งโอนทั้งหมดรวมกันต้องไม่เกิน ๔.๕ : ๑ แต่ในกรณีที่เป็น
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอาคารสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
...

และนี่คือย่อหน้าที่ 3 ย่อหน้าสุดท้ายของข้อ 17 กำหนดกรณีสร้างที่จอดรถครับ
การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทอาคารสาธารณะที่จัดให้มีที่จอดรถยนต์เพิ่มขึ้นตามวรรคสาม (๑)
พื้นที่จอดรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำมาพิจารณาอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน
และอัตราส่วนของที่ว่างต่อพื้นที่อาคารรวม


คุณลองอ่านดูทุกข้อสิครับ จะมีสองหรือสามย่อหน้าอย่างนี้เสมอ โดยย่อหน้าที่ 1 กำหนดข้อห้าม
ย่อหน้าที่ 2 กำหนดพื้นที่ที่ใช้ได้

พื้นที่ ย.6 ไม่ได้หมายความว่า ต้องสร้างเฉพาะที่อยู่อาศัยนะคุณ กลับไปอ่านใหม่ครับ ไปทำความเข้าใจก่อนครับ ไปดูเวปไซด์ที่คุณเอามาให้ก็ได้ มีตารางเอ็กเซลให้เช็ค ว่า พื้นที่ ย.6 สร้างอาคารพาณิชย์ได้ มีข้อจำกัดว่า ถนนต้องกว้าง 16 ตรม
ไปอ่านใหม่ดีๆ ครับ
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Thu Aug 04, 2011 6:46 pm

Bookmarks wrote:พื้นที่ ย.6 ไม่ได้หมายความว่า ต้องสร้างเฉพาะที่อยู่อาศัยนะคุณ กลับไปอ่านใหม่ครับ ไปทำความเข้าใจก่อนครับ ไปดูเวปไซด์ที่คุณเอามาให้ก็ได้ มีตารางเอ็กเซลให้เช็ค ว่า พื้นที่ ย.6 สร้างอาคารพาณิชย์ได้ มีข้อจำกัดว่า ถนนต้องกว้าง 16 ตรม
ไปอ่านใหม่ดีๆ ครับ


เอ ผมก็ไม่เคยบอกนี่ครับว่า ย.6 ต้องสร้างเฉพาะที่อยู่อาศัย ไอ้ 21 แบบที่ห้าม ก็มีข้อยกเว้นครับ อ่านดูก็ทราบ แต่ที่กำลังพยายามอธิบายคือ กฏกระทรวงนี้
ไม่ได้ถูกออกโดยทักษิณสั่ง แถมยังไม่ได้ทำให้ที่ดินรัชดาสามารถสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้ที่ดินมีค่าสูงขึ้นจากตอนประมูลเลย
นี่ต่างหากครับคือประเด็นที่ผมพยายามหาหลักฐานซึ่งก็คือตัวกฏหมาย(ขอใช้คำรวมนะครับ) มาอธิบายให้คุณเข้าใจ
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Thu Aug 04, 2011 7:30 pm

nopantaman wrote:
Bookmarks wrote:พื้นที่ ย.6 ไม่ได้หมายความว่า ต้องสร้างเฉพาะที่อยู่อาศัยนะคุณ กลับไปอ่านใหม่ครับ ไปทำความเข้าใจก่อนครับ ไปดูเวปไซด์ที่คุณเอามาให้ก็ได้ มีตารางเอ็กเซลให้เช็ค ว่า พื้นที่ ย.6 สร้างอาคารพาณิชย์ได้ มีข้อจำกัดว่า ถนนต้องกว้าง 16 ตรม
ไปอ่านใหม่ดีๆ ครับ


เอ ผมก็ไม่เคยบอกนี่ครับว่า ย.6 ต้องสร้างเฉพาะที่อยู่อาศัย ไอ้ 21 แบบที่ห้าม ก็มีข้อยกเว้นครับ อ่านดูก็ทราบ แต่ที่กำลังพยายามอธิบายคือ กฏกระทรวงนี้
ไม่ได้ถูกออกโดยทักษิณสั่ง แถมยังไม่ได้ทำให้ที่ดินรัชดาสามารถสร้างอสังหาริมทรัพย์ที่ทำให้ที่ดินมีค่าสูงขึ้นจากตอนประมูลเลย
นี่ต่างหากครับคือประเด็นที่ผมพยายามหาหลักฐานซึ่งก็คือตัวกฏหมาย(ขอใช้คำรวมนะครับ) มาอธิบายให้คุณเข้าใจ

ที่ผมเอามาแย้ง คุณ nopantaman ไม่เข้าใจเลยหรือครับ คุณเถียงกับผมเรื่อง ขนาดของการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ที่ถูกแก้ไขในข้อ 21 ซึ่งผมบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับการสร้างอาคารสูง อันนี้คุณทำความเข้าใจกับมันว่าไง ข้อมูลที่คุณได้มาจาก ลากดำนา มันเป็นข้อมูลบิดเบือน ใช่หรือไม่ เพราะมันคนละประเภทของการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ส่วนเรื่องบอกว่า การแก้ไขให้สร้างตึกสูงได้ ไม่ทำให้ราคาที่ดินเพิ่ม เอาหลักคิดง่ายๆ คุณคิดว่า ถ้าสามารถสร้างตึกสูงได้ กับสร้างตึกสูงไม่ได้ คุณว่า ถ้าขายที่ดิน คุณว่า ที่ดินตรงไหนจะขายได้ราคาดีกว่า

แล้วกฎกระทรวง คุณบอกว่า ไม่เกี่ยวข้องกับแม้วสั่ง ผมก็เอากฎกระทรวงที่เซ็นต์โดยกระทรวงมหาดไทย มาให้คุณดู ถ้าคุณอ่านกฎกระทรวง 2549 โดยละเอียด คุณจะเห็นว่า รมต กระทรวงมหาดไทยมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการแก้กฎกระทรวง ตั้งแต่เริ่มแก้ไขผัง เลยด้วยซ้ำไป โดยการส่งตัวแทนไปร่วมพิจารณา และในสมัยที่มีการแก้ผัง ก็ควรจะเกิดขึ้นในสมัยสมัคร ที่เป็นผู้ว่า ซึ่งก็เป็นคนของแม้วด้วย

กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๖๐ (พ.ศ. ๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ (๓) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒
และมาตรา ๘ (๒) และ (๓) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดย
พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการ
เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๓๕
มาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้
โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยคำแนะนำของ
คณะกรรมการควบคุมอาคาร
ออกกฎกระทรวงไว้


ถ้าคุณดูจากไฮไลท์สีแดง คุณจะเห็นว่า รมต มหาดไทย ได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการควบคุมอาคาร ซึ่งคณะกรรมการควบคุมอาคาร ทาง รมต มหาดไทย แต่งตั้งตัวแทนไปถึง 4 คน
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Fri Aug 05, 2011 12:11 am

ไม่ต้องไปดูอะไรมาก แค่หาคนมาเขียนแก้ต่าง เรื่องสร้างตึกสูง ไม่ได้เอื้อประโยชน์แม้ว พวกเสื้อแดงมันก็เชื่อ โดยไม่ต้องตรวจสอบข้อมูล แล้วจะทำให้พวกเสื้อแดงมันเข้าใจได้ไงล่ะครับ ยิ่งพวกนี้ ชอบอะไรง่ายๆ แบบปลอกกล้วยเข้าปาก ก็จะมีแต่พวกโง่ๆ หลงเชื่อข้อมูล ที่พวกไอ้แม้ว มันยัดใส่ ผมว่าคงไม่มีวันล่ะครับ
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby someone » Fri Aug 05, 2011 12:25 am

ตามหัวข้อกระทู้เช่นกัน....ว่ายากครับ
ตราบใดที่เขาฟังแต่คำโฆษณาชวนเชื่อของทีมแม้วแมงดาแดง
User avatar
someone
 
Posts: 752
Joined: Thu Feb 19, 2009 6:27 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby aut911 » Fri Aug 05, 2011 7:24 am

จะโดนหลอกใช้ หรือไม่อย่างไร อย่าไปเสือกจะดีกว่านะปล่อยเข้าไป ประเด้นคือติดเสือกเนี่ยเเหละ
คนมันชอบเสือก เเม้เเต่กระทั้งคนโฟตส์ เเต่ผมพยายามเสือกให้น้อยที่สุด ส่วนกระทู้ข้างบนที่บอกฟังเเต่โฆษณา
ชวนเชื่ออะไรนั้น ก็อย่าไปเสือกรู้ดี ให้มากอีกเเหละ 555+
User avatar
aut911
 
Posts: 3
Joined: Tue Jul 05, 2011 7:58 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby ridkun_user » Fri Aug 05, 2011 8:25 am

ต้องให้เขาเจอกับตัวเองครับ ไม่งั้นก็ไม่มีวันเข้าใจ
ปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปให้เต็มที่อย่าไปขวาง
300 บาท 15,000 บาท รีบทำทันที
ผมรับประกัน ความ ship หายรออยู่ไม่ไกลครับ :lol:
"...โลกนี้ไม่สมประกอบ เพราะบางคนชอบเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน"

อำนาจเป็นของปวงชน คือ ประชาธิปไตย
อำนาจเป็นของคนส่วนใหญ่ คือ กฎหมู่
User avatar
ridkun_user
 
Posts: 5458
Joined: Mon Nov 02, 2009 10:59 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Fri Aug 05, 2011 9:45 am

aut911 wrote:จะโดนหลอกใช้ หรือไม่อย่างไร อย่าไป***จะดีกว่านะปล่อยเข้าไป ประเด้นคือติด***เนี่ยเเหละ
คนมันชอบ*** เเม้เเต่กระทั้งคนโฟตส์ เเต่ผมพยายาม***ให้น้อยที่สุด ส่วนกระทู้ข้างบนที่บอกฟังเเต่โฆษณา
ชวนเชื่ออะไรนั้น ก็อย่าไป***รู้ดี ให้มากอีกเเหละ 555+

จะ pm มาหาผมทำไม คุณมีข้อมูลอะไร ก็เอามาโพสต์ในนี้ครับ ผมไม่เล่นหรอก camforg ส่องหญิงน่ะ
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Fri Aug 05, 2011 10:10 am

โอย คุยกันมาตั้งนาน ใครไม่เข้าใจกันแน่ครับเนี่ย ข้อมูลไม่ได้มาจากราชดำเนินเลย ผมหาเองเรียบเรียงเอง
โดยยกจากตัวบทกฏหมายเลยครับ ถ้าไม่เข้าใจ งั้นจะไล่เรียงใหม่เป็นข้อๆ นะครับ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจมากขึ้นนะ

1. ในการสร้างสิ่งก่อสร้างใน กทม. มีกฏหมาย(ขอใช้คำรวมนะครับ) อยู่อย่างน้อย 3 ฉบับที่ต้องใช้ร่วมกันในกรณ๊ที่ดินรัชดา
และการก่อสร้างต้องไม่อ้างอิงจากฉบับใดฉบับเดียวแล้วไปค้านกับฉบับอื่นๆ เข้าใจไหมครับ
2. กฏหมายที่เกี่ยวข้องสามฉบับคือ
2.1 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยมีกฏกระทรวงฉบับที่ 60 พ.ศ. 2549 เป็นตัวล่าสุด
2.2 พระราชบัญญัติพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 โดยมีกฏกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2549 เป็นตัวล่าสุด
2.3 ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง ใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท
บริเวณโดยรอบศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในท้องที่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๓๒

ซึ่ง 2.1 ก็อยู่ในลิงค์ที่คุณเอามายกตัวอย่างและพยายามเถียงไปเรื่องว่ามันเอื้อประโยชน์ แต่ผมบอกคุณว่าจะอ้างแต่ 2.1 ไม่ได้
เพราะ 2.2 ซึ่งก็ออกไล่กันเลยต้องนำมาใช้ด้วย และไอ้ข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ถูกระบุไว้ใน 2.2 นอกจากนั้น 2.3 ซึ่งออกมาตั้งแต่
ปี 32 และยังไม่ได้ยกเลิก ก็เป็นตัวจำกัดเรื่องความสูง เข้าใจบ้างไหมครับ อย่ามัวแต่อ่าน 2.1 แล้วมาพร่ำพรรณาว่านี่ไงสร้างตึกสูงได้
พื้นที่มากขึั้น โดยไม่ได้ดูข้อจำกัดใน 2.2 และ 2.3 มันดูเป็นไร้เหตุผลไปนะครับ

ส่วนประเด็นที่ไม่เกี่ยวกับทักษิณสั่ง ที่ผมเชื่อเช่นนั้นเพราะมีหลักฐานสนับสนุนสำคัญ 3 ข้อ คือ
1. ไปดูคณะกรรมการใน 2.2 (ไม่ต้องดู 2.1 เพราะข้อจำกัดมันอยู่ใน 2.2) ถึงแม้จะมีคนของรัฐมนตรีไปเกี่ยวกับการร่าง(ไม่ถึง 4 คน)
แต่มันก็ต้องมีคนของ กทม. รวมถึงองค์กรอิสระไปเกี่ยวด้วย นอกจากนั้นใน 2.2 ฉบับเพิ่มเติมปี 35 กำหนดให้ต้องมีการรับฟัง
ความคิดเห็นประชาชนด้วย จึงทำให้เป็นการยากที่ทักษิณจะสั่งแก้ให้ ตนเองได้ประโยชน์
2. ถ้ายังจะอคติไม่เชื่อข้อ 1. (จินตนาการว่าทักษิณคุมได้ทุกส่วนในประเทศรวมทั้ง กทม.) ก็ยังมีข้อแย้งข้อที่ 2
คือ 2.2 ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ทักษิณเลย (จากข้อจำกัดการใช้ประโยชน์ซึ่งเปลี่ยนเป็ 4.5 ต่อ 1 ซึ่งลดลง)
แล้วมันมีใครไหมครับที่อุตส่าห์ไปสั่งให้แก้กฏหมาย แต่แก้ให้ตนเองเสียประโยชน์เนี่ย
3. ถ้าทักษิณคิดจะแก้ให้ตนเองได้ประโยชน์ ต้องไปยกเลิก 2.3 ด้วย ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้ยกเลิกเลย

ปล. ถ้าจะแถว่ามันต้องแก้ทุก 5 ปี ซึ่งถ้าออกปี 49 แสดงว่าเริ่มปี 44 สมัยสมัคร ระวังสีข้างถลอกนะครับ เพราะไม่มีแผนพัฒนาระดับองค์กร
แผนไหนหรอก ที่ประกาศปุ้บ ร่างแผนใหม่ทันที เพราะกระบวนการมันต้อง PDCA ดังนั้นจะเริ่มร่างอย่างเร็วก็ปี 46 (ซึ่งโดยปกติของราชการ
มักจะเริ่มช้ากว่าเสมอ) และร่างเสร็จอย่างช้าในปี 49(ซึ่งโดยปกติของราชการเช่นกันมักจะร่างเสร็จช้าเสมอ)
ดังนั้นเกินกว่าครึ่งของกระบวนการร่างเกิดขึ้นในยุคคุณอภิรักษ์ครับ
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Fri Aug 05, 2011 10:12 am

Bookmarks wrote:ไม่ต้องไปดูอะไรมาก แค่หาคนมาเขียนแก้ต่าง เรื่องสร้างตึกสูง ไม่ได้เอื้อประโยชน์แม้ว พวกเสื้อแดงมันก็เชื่อ โดยไม่ต้องตรวจสอบข้อมูล แล้วจะทำให้พวกเสื้อแดงมันเข้าใจได้ไงล่ะครับ ยิ่งพวกนี้ ชอบอะไรง่ายๆ แบบปลอกกล้วยเข้าปาก ก็จะมีแต่พวกโง่ๆ หลงเชื่อข้อมูล ที่พวกไอ้แม้ว มันยัดใส่ ผมว่าคงไม่มีวันล่ะครับ


โอย อ่านแล้วจี้ดแทน เสื้อแดงหลายคนมันก็ไม่รุ้จักตรวจสอบข้อมูลจริง แต่ตอนนี้ในกระทู้นี้ ใครกันครับที่ไม่รู้จักตรวจสอบข้อมูล มัวแต่เชื่อที่ไอ้ฝั่งเกลียดทักษิณมันยัดใส่อยู่เนี่ย
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby phoeniix » Fri Aug 05, 2011 10:19 am

ridkun_user wrote:ต้องให้เขาเจอกับตัวเองครับ ไม่งั้นก็ไม่มีวันเข้าใจ
ปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปให้เต็มที่อย่าไปขวาง
300 บาท 15,000 บาท รีบทำทันที
ผมรับประกัน ความ ship หายรออยู่ไม่ไกลครับ :lol:

ชิส์ แดงอย่ามาเนียน
User avatar
phoeniix
 
Posts: 5104
Joined: Thu Apr 23, 2009 3:59 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby god_of_rah » Fri Aug 05, 2011 10:35 am

หนี้สินหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นระหว่างสมรส เป็นของคนทั้งคุ่หรือของคนที่ไปซื้อหรือหามาได้ครับ


มีใครไปจับมือให้แม้วมันเซ็นให้อดีตเมียมันหรือเปล่า หรือมีใครเอาปืนไปจ่อหัวหรือเปล่า แล้วทำไมเค้าถึงเลื่อนวันหยุดปีใหม่ล่ะปีนั้นอ่ะ แล้วพจมานมีอำนาจในการประกาศวันหยุดไหมอ่ะ 8-)
User avatar
god_of_rah
Moderator
 
Posts: 3101
Joined: Tue Jan 26, 2010 8:55 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby 99 ราตรี » Fri Aug 05, 2011 10:55 am

ทำที่ผมเจอมาไม่มีแดงคนไหนเปลี่ยนนะ ถึงจะแดงที่ไม่ล้มเจ้ารู้ว่ามีพรรคพวกล้มเจ้าก้ยังนิ่งๆเฉยๆแถมบางทียังออกหน้าปกป้องเสียอีก :evil:
User avatar
99 ราตรี
 
Posts: 127
Joined: Fri Mar 11, 2011 5:18 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Fri Aug 05, 2011 11:32 am

god_of_rah wrote:หนี้สินหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นระหว่างสมรส เป็นของคนทั้งคุ่หรือของคนที่ไปซื้อหรือหามาได้ครับ


มีใครไปจับมือให้แม้วมันเซ็นให้อดีตเมียมันหรือเปล่า หรือมีใครเอาปืนไปจ่อหัวหรือเปล่า แล้วทำไมเค้าถึงเลื่อนวันหยุดปีใหม่ล่ะปีนั้นอ่ะ แล้วพจมานมีอำนาจในการประกาศวันหยุดไหมอ่ะ 8-)


จริงๆ ต้องออกตัวอีกเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ ว่าผมไม่ได้มาแก้ตัวแทนทักษิณ เพียงแต่ผมชอบที่จะค้นหาความจริง และนำความจริง
มาแบ่งปันให้คนที่อาจไม่รู้ได้รับทราบ ดังจะเห็นได้ว่าหลายๆ ผมไม่เข้าไปตอบ เพราะมันเป็นความจริง

แต่เนื่องจากคดีที่ดินรัชดานี้เป็นคดีที่น่าสนใจ และมีข่าว(โดยเฉพาะจากฝั่งเกลียดทักษิณ) ที่ออกมาโดยไม่มีมูลความจริงอยู่หลายข่าว
ทำให้ผมคิดว่าควรเข้ามาอธิบายในกระทู้นี้ครับ

ตัวอย่างอีกอันที่ออกมาเพื่อดิสเครดิตโดยมีหลักฐานชัดเจนคือการเลื่อนวันหยุดปีใหม่ที่คุณพึงโพสต์ไปนี่แหละครับ
ความจริง : ปี 46 มีการเลื่อนวันหยุดปีใหม่ โดยรัฐบาลทักสิน -> จริง
ความเท็จ : เลื่อนเพื่อให้โอนที่ทันเสียภาษีราคาถูก -> เท็จ

โดยหลักฐายประกอบคือ
1. ลองไปเปิดปฏิทินดูครับ ในปี 46 วันที่ 31 ธ.ค. 46 คือวันพุธ และ 1 มกราคือวันพฤหัส ทำให้ถ้าหยุดตามปกติ
วันศุกร์จะเป็นวันทำงาน ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็คงจะลา ดังนั้น จึงมีมติคณะรัฐมนตรีให้เลื่อนวันหยุดเป็น 2 ม.ค. 47
http://www.eppo.go.th/admin/cab/cab-2546-11-25.html#31
เพื่อให้มีวันหยุดติดต่อกัน 4 วันแทน ซึ่งเป็นไปตามปีก่อนหน้าที่มีการเลื่อนวันหยุดเพื่อให้เหมาะสมที่สุด

2. มติตามข้อ 1 ออกวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 เปิดประมูล(ครั้งที่ 2 ที่พจมานเข้าร่วม) วันที่ 16 ธันวาคม 2546
มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้หรือครับว่าตัวเองจะประมูลชนะและจะต้องโอนวันที่ 31 ธันวาคม 2546

3. วันที่โอนที่ดินจริงคือ 30 ธันวาคม 2546 ไม่ใช่ 31 ธันวาคม 2546
(ไปลองหาข้อมูลยืนยันเองบ้างนะครับ)

4. การลดหย่อยค่าธรรมเนียมที่ดิน กรมที่ดินทำเป็นประจำเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพทย์ และในรอบดังกล่าว
ซึ่งหมดเขตวันที่ 31 ธันวาคม 46 นั้น ในวันที่ 2 มกราคม 2547 ก็ได้ขยายระยะเวลาต่ออีก 1 ปี

ดังนั้นถ้าจะโอนเพื่อให้ได้ราคาถูก จึงไม่ต้องรีบจนกระทั่งเลื่อนวันหยุดสิ้นปีเพื่อโอนที่ครับ

เป็นอย่างไร พอจะตาสว่างบ้างไหม หรือว่ายังอยากเป็นบัวใต้น้ำ ท่องเป็นแต่คำว่าเกลียดๆๆ อยู่ครับ
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby kwun » Fri Aug 05, 2011 11:46 am

99 ราตรี wrote:ทำที่ผมเจอมาไม่มีแดงคนไหนเปลี่ยนนะ ถึงจะแดงที่ไม่ล้มเจ้ารู้ว่ามีพรรคพวกล้มเจ้าก้ยังนิ่งๆเฉยๆแถมบางทียังออกหน้าปกป้องเสียอีก :evil:



แดงถึงยังจะเป็นแดงไม่เปลี่ยน แต่จะไม่ใช่แดงแบบเดิมๆอีกแล้ว แดงแบบเดิมๆที่คิดล้มล้างการปกครองเหลือน้อยลงๆ
และกำลังจะหมดไป สบายใจและใจเย็นๆ ไงๆช่วงนี้ก็กำลังดีขึ้นไปตามยุทธศษสตร์ที่ต้องถอยให้เพื่อไทยกลับมา
และจะต้องบันทึกไว้ว่า อภิสิทธิ์ ก็นับเป็นคุณูประการช่วงหนึ่งทางประวัติศาสตร์ที่รู้จักอดกลั้นรอคอย


แกนนำแดงได้ปลุกผีมวลชนขึ้นมาให้กลายเป็นพวกประชานิยมเห็นแก่ได้ แล้วขายให้กับทักษิณ นั่นคือตัดกำลังตัวเอง
มวลชนแดงจะไม่มีทางกลับไปเป็นมวลชนเดิม ที่ถูล่อหลอกด้วยอุดมการณ์ทางชนชั้นได้อีก
ต่อไปนโยบายทุกอย่างของรัฐบาลใคๆก็ตามต้องเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ที่จับต้องได้ กินได้
จะล้มเจ้าไม่ล้มเจ้า จะประชาธิปไตย เผด็จการ คดโกง ขอให้ได้เงิน
ถ้าเป็นแบบนั้นก็เข้าทางนักการเมืองมากกว่าจะเป็นผลดีต่อแดงล้มล้างการปกครอง
การเมืองแบบรัฐสภาปัจจุบันยังจะคงใช้ได้ไปอีกนานพอ สำหรับการปรับตัว คงอยู่
บ้านเมืองยังบริหารไปได้ราบรื่นบ้าง ยุ่งเหยิงบ้าง โดยที่ แดงนปช.จะลดน้อยลงและหมดบทบาทไป
ขอเป็นเสื้อแดงด้วยคนน๊า
User avatar
kwun
 
Posts: 403
Joined: Sat May 14, 2011 4:33 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Fri Aug 05, 2011 5:47 pm

ส่วนเรื่องที่ คุณ nopantaman บอกว่า อภิรักษ์ จะต้องรับรู้ด้วย ผมว่า เค้าก็น่าจะรู้บ้างหรอกครับ เพราะเป็นคนเซ็นต์ แต่ขั้นตอนต่างๆ มันน่าจะเกือบ 60-70% ได้แล้วมั๊งครับ การประชุมอะไร มันน่าจะเริ่มไปแล้วนะ ในสมัยสมัคร เพราะ อภิรักษ์ มาเป็น ผู้ว่า วัน 29 ส.ค. 2547 กฎกระทรวงออกวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ในช่วงเวลาปีกว่าๆ ที่เป็นผู้ว่า ทางกรรมการผังเมือง กทม เค้าคงไม่มาเริ่มทำตอนใกล้ๆ หมดเวลาหรอกครับ
เอาเป็นว่า เรื่องการลดขนาดลง จาก 10:1 เป็น 4.5:1 ผมดูผิดไป

ส่วนเรื่องที่คุณว่า คนเค้าตั้งแง่จะเอาผิดแม้ว ถ้าคุณจะหาความจริง คุณหาจากไหนล่ะครับ ถ้าไม่ตั้งแง่จากการหาข้อผิดพลาดของเค้าก่อน อย่างที่คุณ หาข้อผิดพลาดของแป๊ะลิ้ม เพื่อช่วยแม้ว มันก็คงทำนองเดียวกันล่ะครับ
และเวลาคุณจะดูว่าคนนี้มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ก็ต้องดูจากอดีตครับ ว่า แม้วเคยทำผิดอะไรไว้บ้าง และพจมาร เคยทำผิดอะไรไว้บ้าง ถ้าเคยโกงมาก่อน มันก็เป็นมูลเหตุที่คนจะไม่เชื่อใจนะครับ
Last edited by Bookmarks on Fri Aug 05, 2011 8:50 pm, edited 3 times in total.
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby สยาม » Fri Aug 05, 2011 6:07 pm

2 112 ใครรณรงค์ให้แก้ ไปแหกตาดูนะ นักเขียน สามร้อยกว่าคน ออกหน้าออกตาอยู่ไม่น่าจะใช่เสื้อแดงนะ อย่างน้อยก็มีปราบดา หยุ่น อยู่ด้วย
เขาให้เหตุผลอะไร ก็ลองไปฟังเขาดู


ภาพหลักฐานเหตุการณ์และข้อเท็จจริงมากมายที่เสื้อแดงเรียกร้องให้แก้ ม 112 มานาน ที่สังคมคนทั่วไปรับรู้ได้
ว่ามีเสื้อแดงเรียกร้องเรื่องนี้ ทั้งใจ ทั้ง จักรภพขึ้นเวที ชูป้าย สุรชัย ล่ารายชื่อแก้กฏหมาย ม112 มาหลายปี ก่อนนักเขียนกลุ่มที่ว่านี้ กลับบอกว่าคนเรียกร้องเรื่องนี้คือนักเขียน ไม่น่าใช่เสื้อแดง
ถ้าพูดก็ขอให้พูดความจริงยอมรับความจริงเถอะครับ เพราะเรื่องพวกนี้ไม่ใช่ความลับอะไรเลย ทราบกันทั่วอยู่แล้ว ว่าใครกลุ่มไหนเคยทำเคยพูดอะไรไว้
สื่อเดี๋ยวนี้ก็ดูย้อนหลังได้มีทั้งภาพและเสียงมากมาย ไม่ใช่จะมีใครมากล่าวหาใส่ร้ายในสิ่งที่ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ
เหมือนกับกระทู้ที่แล้วบอกว่า
รับประกันเราชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธแน่นอน จนถึง 10 เมษา ทั้งๆที่มีภาพเหตุการณ์เห็นไปทั้งโลก ว่ารุนแรงก่อนมานานขับรถไล่ชนทหาร ปาระเบิดขวด ไล่ฆ่านายกที่มหาดไทย และอื่นๆอีกมากมาย http://www.serithai.net/phpbb3/viewtopic.php?f=2&t=39129&start=30

(ไม่ทราบไม่เคยรู้เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ เป็นไปได้หรือ ? )

ทีแรกคุณ dowloi พูดไม่ยอมรับ บอกว่าไม่น่าใช่เสื้อแดง
แต่หลังจากมีภาพหลักฐานยืนยันก็บอกว่า


คุณต้องดูประเด็นเหตุผลที่แก้ เขามีเหตุผลอะไร
สาเหตุคืออะไร มาตรานี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือเพื่อทำร้ายฝ่านตรงข้ามทางการเมืองหรือเปล่า


โดยไม่ได้บอกเลยว่า ตกลงแล้ว คำพูดที่ตนเองบอกว่า คนที่ทำไม่น่าใช่เสื้อแดงนั้น ยังยืนยันเช่นเดิมหรือไม่

อีกอย่างครับ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดหลายคนก็ทำผิดจริงๆ เช่นกรณี เจ๋งดอกจิก มีการทำจริงมากมายหลายคน ที่ทำผิดจริง ไม่ใช่จะอ้างรวมๆว่าคนกลั่นแกล้งใช้เป็นเครื่องมือ แต่ควรแย้งเป็นเรื่องๆเลยครับ ว่าที่เขากล่าวหา เรื่องที่หนึ่ง สอง สาม สี่ และอื่นๆจำนวนมากว่าจาบจ้วงพาดพิงสถาบันนั้น นั้นถูกใส่ร้ายอย่างไรไม่จริงอย่างไร

ส่วนอะไรที่เคยพูดเคยทำปลุกมวลชนบอกว่าเป็นเป้าหมายไว้ เช่น สร้างรัฐไทยใหม่มีอุดร มีเชียงใหม่เป็นเมืองหลวงต่างๆนาๆ สถาปนารัฐไทยใหม่ ก็พูดว่า เก่าแล้ว out แล้ว บอกว่า เรียกร้องความเท่าเทียมกัน ทั้งที่การตั้งรัฐไทยใหม่ที่ว่านี้ก็เคยเป็นข้อ้างในเรื่องความเท่าเทียมเหมือนกันแท้ๆ ทั้งที่ความเท่าเทียมของชาวบ้านที่ถูกเสื้อแดงปิดถนน ทำร้าย ข่มขู่ ทำธุรกิจขาดทุน เสียหาย ตกงาน ต่างๆนาๆ จำนวนมหาศาลความเท่าเทียมของคนเหล่านั้นไม่เคยนำมาคิดรวมถึงแต่อย่างใด
Last edited by สยาม on Fri Aug 05, 2011 6:34 pm, edited 1 time in total.
User avatar
สยาม
 
Posts: 89
Joined: Mon Jun 27, 2011 4:53 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Fri Aug 05, 2011 6:31 pm

....
Last edited by Bookmarks on Fri Aug 05, 2011 8:12 pm, edited 2 times in total.
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Fri Aug 05, 2011 6:38 pm

nopantaman wrote:
god_of_rah wrote:หนี้สินหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นระหว่างสมรส เป็นของคนทั้งคุ่หรือของคนที่ไปซื้อหรือหามาได้ครับ


มีใครไปจับมือให้แม้วมันเซ็นให้อดีตเมียมันหรือเปล่า หรือมีใครเอาปืนไปจ่อหัวหรือเปล่า แล้วทำไมเค้าถึงเลื่อนวันหยุดปีใหม่ล่ะปีนั้นอ่ะ แล้วพจมานมีอำนาจในการประกาศวันหยุดไหมอ่ะ 8-)


จริงๆ ต้องออกตัวอีกเป็นรอบที่เท่าไรไม่รู้ ว่าผมไม่ได้มาแก้ตัวแทนทักษิณ เพียงแต่ผมชอบที่จะค้นหาความจริง และนำความจริง
มาแบ่งปันให้คนที่อาจไม่รู้ได้รับทราบ ดังจะเห็นได้ว่าหลายๆ ผมไม่เข้าไปตอบ เพราะมันเป็นความจริง

แต่เนื่องจากคดีที่ดินรัชดานี้เป็นคดีที่น่าสนใจ และมีข่าว(โดยเฉพาะจากฝั่งเกลียดทักษิณ) ที่ออกมาโดยไม่มีมูลความจริงอยู่หลายข่าว
ทำให้ผมคิดว่าควรเข้ามาอธิบายในกระทู้นี้ครับ

ตัวอย่างอีกอันที่ออกมาเพื่อดิสเครดิตโดยมีหลักฐานชัดเจนคือการเลื่อนวันหยุดปีใหม่ที่คุณพึงโพสต์ไปนี่แหละครับ
ความจริง : ปี 46 มีการเลื่อนวันหยุดปีใหม่ โดยรัฐบาลทักสิน -> จริง
ความเท็จ : เลื่อนเพื่อให้โอนที่ทันเสียภาษีราคาถูก -> เท็จ

โดยหลักฐายประกอบคือ
1. ลองไปเปิดปฏิทินดูครับ ในปี 46 วันที่ 31 ธ.ค. 46 คือวันพุธ และ 1 มกราคือวันพฤหัส ทำให้ถ้าหยุดตามปกติ
วันศุกร์จะเป็นวันทำงาน ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็คงจะลา ดังนั้น จึงมีมติคณะรัฐมนตรีให้เลื่อนวันหยุดเป็น 2 ม.ค. 47
http://www.eppo.go.th/admin/cab/cab-2546-11-25.html#31
เพื่อให้มีวันหยุดติดต่อกัน 4 วันแทน ซึ่งเป็นไปตามปีก่อนหน้าที่มีการเลื่อนวันหยุดเพื่อให้เหมาะสมที่สุด

2. มติตามข้อ 1 ออกวันที่ 25 พฤศจิกายน 2546 เปิดประมูล(ครั้งที่ 2 ที่พจมานเข้าร่วม) วันที่ 16 ธันวาคม 2546
มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้หรือครับว่าตัวเองจะประมูลชนะและจะต้องโอนวันที่ 31 ธันวาคม 2546

3. วันที่โอนที่ดินจริงคือ 30 ธันวาคม 2546 ไม่ใช่ 31 ธันวาคม 2546
(ไปลองหาข้อมูลยืนยันเองบ้างนะครับ)

4. การลดหย่อยค่าธรรมเนียมที่ดิน กรมที่ดินทำเป็นประจำเพื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพทย์ และในรอบดังกล่าว
ซึ่งหมดเขตวันที่ 31 ธันวาคม 46 นั้น ในวันที่ 2 มกราคม 2547 ก็ได้ขยายระยะเวลาต่ออีก 1 ปี

ดังนั้นถ้าจะโอนเพื่อให้ได้ราคาถูก จึงไม่ต้องรีบจนกระทั่งเลื่อนวันหยุดสิ้นปีเพื่อโอนที่ครับ

เป็นอย่างไร พอจะตาสว่างบ้างไหม หรือว่ายังอยากเป็นบัวใต้น้ำ ท่องเป็นแต่คำว่าเกลียดๆๆ อยู่ครับ

ทำไมคุณถึงคิดว่า พจมาร จะไม่รู้ว่า ตัวเองจะได้ ถ้าคุณไปสืบคอนเนคชั่น ของแม้ว กับ แลนด์แอนด์เฮ้า และอีกเจ้า จะเห็นว่าเค้ารู้จักกัน และเรื่องการกำหนดวงเงินมัดจำของผู้เข้าประกวดราคาสูงถึง 100 ล้านบาท ไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ ถ้าจำกัดคนเข้าประมูลได้มาก พจมาจ ก็ต้องรู้ว่าตัวเองจะได้ที่ดินแน่ครับ

คุณลองตอบมาสิครับว่า แม้ว ทำผิดกฎหมาย ปปช มาตรา 100 จริงหรือไม่ และคุณบอกว่า แม้วรับรู้การซื้อขายนี้มาก่อนล่วงหน้าแล้ว คุณว่าแม้ว สมควรได้รับโทษมั๊ย
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Fri Aug 05, 2011 7:02 pm

nopantaman wrote:
Bookmarks wrote:ไม่ต้องไปดูอะไรมาก แค่หาคนมาเขียนแก้ต่าง เรื่องสร้างตึกสูง ไม่ได้เอื้อประโยชน์แม้ว พวกเสื้อแดงมันก็เชื่อ โดยไม่ต้องตรวจสอบข้อมูล แล้วจะทำให้พวกเสื้อแดงมันเข้าใจได้ไงล่ะครับ ยิ่งพวกนี้ ชอบอะไรง่ายๆ แบบปลอกกล้วยเข้าปาก ก็จะมีแต่พวกโง่ๆ หลงเชื่อข้อมูล ที่พวกไอ้แม้ว มันยัดใส่ ผมว่าคงไม่มีวันล่ะครับ


โอย อ่านแล้วจี้ดแทน เสื้อแดงหลายคนมันก็ไม่รุ้จักตรวจสอบข้อมูลจริง แต่ตอนนี้ในกระทู้นี้ ใครกันครับที่ไม่รู้จักตรวจสอบข้อมูล มัวแต่เชื่อที่ไอ้ฝั่งเกลียดทักษิณมันยัดใส่อยู่เนี่ย

คุณให้ผมไปอ่านคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดา ฉบับเต็ม ผมถามว่า คุณน่ะอ่านแล้วหรือยังครับ
แม้วมันรู้นะครับ ว่าซื้อที่ดินนั้นผิด เหตุใดถึงซื้อ ถ้าคุณอ่านคำพิพากษา แม้วมันแก้ต่างให้ตัวเองไม่ได้เลย อย่างที่บอกว่า มันไม่ได้กำกับดูแล กองทุนเพื่อการฟื้นฟู แล้วใครกู้เงิน 7 แสนล้านมาจ่าย หนี้กองทุนฟื้นฟูล่ะครับ
แล้วข้อแก้ตัวอีกข้อ ที่แม้วมันแก้ตัว คือมันไม่ได้รู้ว่า เมียมันไปซื้อที่ดิน มันให้บัตรข้าราชการกับเมียมันไป แต่ไม่รู้ว่าเอาไปเพื่อเป็นการโอนที่ดินรัชดา ถามว่า ที่คุณบอกว่า มันไปสอบถาม กองทุนฟื้นฟูแล้ว เค้าบอกว่า มันซื้อได้ มันขัดแย้งกับคำให้การมั๊ยครับ
เมื่อซื้อไปแล้ว ฝ่าฝืนไปแล้ว จะมาบอกว่า มันไม่ผิด มันคงแก้ตัวไม่ได้หรอกครับ
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman » Fri Aug 05, 2011 11:23 pm

Bookmarks wrote:ส่วนเรื่องที่ คุณ nopantaman บอกว่า อภิรักษ์ จะต้องรับรู้ด้วย ผมว่า เค้าก็น่าจะรู้บ้างหรอกครับ เพราะเป็นคนเซ็นต์ แต่ขั้นตอนต่างๆ มันน่าจะเกือบ 60-70% ได้แล้วมั๊งครับ การประชุมอะไร มันน่าจะเริ่มไปแล้วนะ ในสมัยสมัคร เพราะ อภิรักษ์ มาเป็น ผู้ว่า วัน 29 ส.ค. 2547 กฎกระทรวงออกวันที่ 31 พฤษภาคม 2549 ในช่วงเวลาปีกว่าๆ ที่เป็นผู้ว่า ทางกรรมการผังเมือง กทม เค้าคงไม่มาเริ่มทำตอนใกล้ๆ หมดเวลาหรอกครับ
เอาเป็นว่า เรื่องการลดขนาดลง จาก 10:1 เป็น 4.5:1 ผมดูผิดไป

ส่วนเรื่องที่คุณว่า คนเค้าตั้งแง่จะเอาผิดแม้ว ถ้าคุณจะหาความจริง คุณหาจากไหนล่ะครับ ถ้าไม่ตั้งแง่จากการหาข้อผิดพลาดของเค้าก่อน อย่างที่คุณ หาข้อผิดพลาดของแป๊ะลิ้ม เพื่อช่วยแม้ว มันก็คงทำนองเดียวกันล่ะครับ
และเวลาคุณจะดูว่าคนนี้มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ก็ต้องดูจากอดีตครับ ว่า แม้วเคยทำผิดอะไรไว้บ้าง และพจมาร เคยทำผิดอะไรไว้บ้าง ถ้าเคยโกงมาก่อน มันก็เป็นมูลเหตุที่คนจะไม่เชื่อใจนะครับ


555 คุณกำลังเข้าใจผมผิดอย่างยิ่งเลยครับ ผมไม่ได้มาเพื่อมาแก้ต่างให้ทักษิณครับ แต่วัตถุประสงค์คือผมต้องการเอาความจริงที่คนส่วนใหญ่ในบอร์ดนี้ไม่รู้มาบอก
เนื่องจากในความคิดเห็นของผม ไม่ว่าฝั่งทักษิณหรือประชาธิปัตย์ต่างก็มีทั้งดีและเลวผสมกันไป แต่คนส่วนใหญ่ในบอร์ดนี้ถูกกรอกหูด้วยความจริงบ้างความเท็จบ้าง
เพื่อหวังให้เกิดความเกลียดชังในทักษิณ และผลประโยชน์ที่ได้มันก็กลับไปหาคนกรอกหูโดยไม่ได้มีประโยชน์ต่อประเทศเลย

ดังนั้น ผมจึงพยายามหาเหตุผล หลักฐาน ต่างๆ เพื่อมาแสดงให้เห็นว่าไอ้สิ่งที่คุณได้รับรู้มาจากกลุ่มนี้หลายๆ ส่วน มันไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ซึ่งสุดท้ายผมก็หวังว่า
จะมีบางคนเกิดปัญญาอย่างที่คุณบอกว่า "คนนี้มีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ ก็ต้องดูจากอดีต" เพื่อที่จะได้เริ่มตระหนักว่า ไอ้ที่ด่าๆ ทักษิณไปนะ มันไม่ได้หวังดีกับประเทศหรอก
แต่แค่พยายามดึงมวลชนคนไทยให้คิด แสดงออก ตามที่พวกเขาต้องการ โดยพฤติกรรมหลายๆ อย่างก็แสดงให้เห็นว่าสุดท้ายสิ่งที่กลุ่มนี้ทำก็เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศ

ผมรักประเทศไทยครับ รักแบบต่างจากคนในนี้หลายๆ คนที่รักประเทศไทยแบบไม่เอาทักษิณอย่างเดียว(โดยเฉพาะถ้าเป็นใครก็ตามถ้าอยู่ฝั่งไม่เอาทักษิณกลายเป็นถูกไปหมด)
ดังนั้น ผมเลยคิดว่าควรจะมาดึงคนไทยที่ตกเป็นเหยื่อความเกลียดชัง(และสุดท้ายนำมาซึ่งการทำลายประเทศไทยของเราเองด้วย) ให้มีสติขึ้น ก็แค่นั้นครับ

อย่างยกตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นหลักฐานชัดเจนคือกรณีที่ดินรัชดา ซึ่งฝั่งเกลียดทักษิณประโคมประเด็นต่างๆ ที่ผมกำลังถกกับคุณอยู่นี่กรอกหูประชาชนทุกวัน
คุณลองคิดดูสิครับ ว่าไอ้กลุ่มคนที่พูดสิ่งที่ตัวเองย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง(เช่นการเลื่อนวันหยุดประจำปี เป็นต้น) เพียงเพื่อเป้าหมายได้ทำลาย
กลุ่มการเมืองที่อยู่ตรงข้ามตนเองได้เนี่ย มันจะเป็นคนที่หวังดีต่อประเทศจริงๆ ได้อย่างไร ในเมื่อตัวเองกล้าที่จะโกหก ใส่ร้าย ใครก็ได้เพื่อให้ตนเองบรรลุวัตถุประสงค์

พอจะเข้าใจสิ่งที่ผมต้องการสื่อมากขึ้นบ้างไหมครับ

ปล. ลืมเรื่องที่คุณคุยเรื่องคุณอภิรักษ์รับรู้หรือไม่ ประเด็นนี้ขอสารภาพตามตรงว่าผมไม่มีหลักฐานมายืนยันความคิดของผมอย่างชัดเจนเหมือนประเด็นข้างบน
แต่ผมใช้การสนับสนุนจากหลักการโดยทั่วๆ ไป ทั้งเรื่องช่วงเวลาปกติของการออกผังเมือง เรื่องคนซึ่งคุมเสียงใน กทม. มาตลอดช่วงหลายปีนี้
ซึ่งคุณสามารถรับฟังแล้วจะโอนเอียงมาตามผมหรือไม่ก็แล้วแต่คุณครับ เพราะมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า "ผลของกฎหมายฉบับนี้
ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ทักษิณอย่างที่คุณได้ฟังเขากล่าวหา"
ไปได้ครับ
Last edited by nopantaman on Fri Aug 05, 2011 11:45 pm, edited 1 time in total.
User avatar
nopantaman
 
Posts: 125
Joined: Mon Oct 27, 2008 5:44 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron