55555 wrote:
" I ' ll be back................
with the new id.
55555 wrote:
" I ' ll be back................
with the new id.
–stormtrooper– wrote:อุตส่าห์ทนอ่านมาตั้ง 17 หน้า เสียเวลาไปเยอะ ไม่โทษใครหรอก
เท่าที่อ่านมา no pants ไม่ได้เป็นเสื้อแดงพื้น ๆ นะครับ แถมยังด่าคนที่ว่าทักษิณเลวว่าเป็นควายอีก คงจะมี ego อะไรพอสมควรอยู่ และคงจะหยอดอารมณ์อะไรซักอย่าง เพราะธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน แต่พวกนี้ดันมาด่าประชาชน เลยด่าให้ซะ
สรุปนะครับ การถกเถียงเรื่องกฏหมายเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง (แต่เล่นไปซะ 17 หน้า) no pants เค้ามี agenda ที่ใหญ่กว่านั้นครับ ที่เค้าบอกทักษิณจะติดคุก หรือผิดแค่ไหนก็เรื่องของทักษิณโว้ย อันนี้น่าจะจริง ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเลิกถกเรื่องทักษิณได้แล้ว ส่วน agenda ของ no pants คืออะไร เค้าก็เปรย ๆ ออกมาบ้างแล้วนะ อ่านดูก็พอรู้ว่าเป็นเรื่อง Mein Kampf อุดมการณ์ของฮิตเล่อร์นั่นเอง
หลาย ๆ เรื่องฮิตเล่อร์ก็ตัดสินใจถูกนะ อย่างเช่นรถ volkswagen รุ่น beetle นั่นไง เป็นรถราคาประหยัด สินค้า mass product เพื่อคนเยอรมันทั่ว ๆ ไปพอจะซื้อหามาใช้ได้ แต่ไอ้เรื่องฆ่าตัดตอนนี่ เป็นตราบาปเลยทีเดียว
–stormtrooper– wrote:อุตส่าห์ทนอ่านมาตั้ง 17 หน้า เสียเวลาไปเยอะ ไม่โทษใครหรอก
เท่าที่อ่านมา no pants ไม่ได้เป็นเสื้อแดงพื้น ๆ นะครับ แถมยังด่าคนที่ว่าทักษิณเลวว่าเป็นควายอีก คงจะมี ego อะไรพอสมควรอยู่ และคงจะหยอดอารมณ์อะไรซักอย่าง เพราะธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน แต่พวกนี้ดันมาด่าประชาชน เลยด่าให้ซะ
สรุปนะครับ การถกเถียงเรื่องกฏหมายเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง (แต่เล่นไปซะ 17 หน้า) no pants เค้ามี agenda ที่ใหญ่กว่านั้นครับ ที่เค้าบอกทักษิณจะติดคุก หรือผิดแค่ไหนก็เรื่องของทักษิณโว้ย อันนี้น่าจะจริง ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเลิกถกเรื่องทักษิณได้แล้ว ส่วน agenda ของ no pants คืออะไร เค้าก็เปรย ๆ ออกมาบ้างแล้วนะ อ่านดูก็พอรู้ว่าเป็นเรื่อง Mein Kampf อุดมการณ์ของฮิตเล่อร์นั่นเอง
หลาย ๆ เรื่องฮิตเล่อร์ก็ตัดสินใจถูกนะ อย่างเช่นรถ volkswagen รุ่น beetle นั่นไง เป็นรถราคาประหยัด สินค้า mass product เพื่อคนเยอรมันทั่ว ๆ ไปพอจะซื้อหามาใช้ได้ แต่ไอ้เรื่องฆ่าตัดตอนนี่ เป็นตราบาปเลยทีเดียว
yoshikiryuichiro wrote:
อย่าไปสนใจอะไรกับ***ชั้นต่ำที่ชอบกลับกลอกเลย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรก็ตาม เขาจะบิดให้เป็นผิดให้ได้
ในทางกลับกัน หากทักษิณทำอะไรผิด เขาก็จะหาช่องบิดให้ความผิดกลายเป็นถูก
***แบบนี้พบได้ทั่วไป เพราะไม่มีคำว่าความถูกต้องในสมอง มีแต่คำว่ากูต้องถูก คุณต้องผิดเท่านั้น
และเพราะมีคนแบบนี้นั่นแหละ ความขัดแย้งในประเทศนี้จึงไม่มีทางมอดดับได้ เพราะความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มนี้
nopantaman_agian wrote:. . .
- แต่จาก ก.3 เทียบกับ ข.3 ตรงนี้เป็นประเด็นที่ไม่ยอมพูดถึงกัน และถือเป็นประเด็นสำคัญ เพราะไม่ว่าจะห้ามสร้างหรือไม่ห้ามสร้าง
อาคารประเภทใดก็ตาม แต่ข้อจำกัดตรงนี้หมายถึงการกำหนดพื้นที่อาคารที่สามารถสร้างได้มากที่สุด (ต้องไม่ลืมว่ามูลค่าที่ดิน ไม่ได้
ขึ้นอยู่กับว่าสร้างตึกได้สูงหรือไม่ แต่ขึ้นกับ พ.ท. ใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด) ซึ่งจะเห็นได้ว่า กฎหมายใหม่นั้นอนุญาติให้สร้าง
อาคารซึ่งมีพื้นที่รวมน้อยลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ที่ดินแต่อย่างใด
. . .
Gop wrote:nopantaman_agian wrote:. . .
- แต่จาก ก.3 เทียบกับ ข.3 ตรงนี้เป็นประเด็นที่ไม่ยอมพูดถึงกัน และถือเป็นประเด็นสำคัญ เพราะไม่ว่าจะห้ามสร้างหรือไม่ห้ามสร้าง
อาคารประเภทใดก็ตาม แต่ข้อจำกัดตรงนี้หมายถึงการกำหนดพื้นที่อาคารที่สามารถสร้างได้มากที่สุด (ต้องไม่ลืมว่ามูลค่าที่ดิน ไม่ได้
ขึ้นอยู่กับว่าสร้างตึกได้สูงหรือไม่ แต่ขึ้นกับ พ.ท. ใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด) ซึ่งจะเห็นได้ว่า กฎหมายใหม่นั้นอนุญาติให้สร้าง
อาคารซึ่งมีพื้นที่รวมน้อยลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ที่ดินแต่อย่างใด
. . .
มีสองประเด็นที่ผมสงสัยครับ
๑ หลักฐานก่อนประมูลที่คุณให้มานั้น เป็นระเบียบสำหรับอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งตามกฎกระทรวงปี ๒๕๔๒ นั้นห้ามสร้าง
ผมอยากรู้ว่าตอนปี ๔๒ นั้น อนุญาต ให้สร้างอะไรได้บ้าง พอจะมีข้อมูลมั้ยครับ
๒ ผมประมาณคร่าวๆเปรียบเทียบของเก่ากับของใหม่ ของเก่านั้น ยังไงก็สร้างตึกสูงได้ไม่เกิน ๙ ชั้นแน่ๆ เพราะกฏหมายจำกัดความสูงไว้ชัดเจน คุณ
แน่ใจได้อย่างไรว่า พื้นที่ใช้สอยเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดราคาที่ดิน อย่าลืมว่า ถ้าสร้างตึกสูงได้ รูปแบบของอาคารก็จะเปลี่ยนไปอย่างมาก
คุณสามารถออกแบบอาคารได้ง่ายขึ้น ถึงแม้พื้นที่จะจำกัดลงก็ตาม (ผมลองคิดคร่าวๆแล้ว เหลือประมาณ ๘๐ เปอร์เซนต์ ของกฏหมายเดิม ไม่ใช่ครึ่ง
อย่างที่คุณบอก โดยคิดพื้นที่ของอาคารสูงแปดชั้น ชั้นละสามเมตร และพื้นที่สร้างอาคารต้องมีที่ว่างร้อยละ ๓๐ โดยสมมุติว่าระเบียบที่อ้างมานั้นใช้ได้)
nopantaman_agian wrote:
1. เท่าที่อ่านและตีความตามความเข้าใจของผมเองนะครับ ที่ดินสีส้มคือให้สร้างที่อยู่อาศัยครับ แต่จริงๆ แล้วทั้งกฎทั้ง 2 ฉบับ(42,49) จะมีช่องเปิดไว้ทั้งคู่คือ
ใช้เพื่อการอื่นได้ 10% อย่างที่ดราม่าเคยเอามาตีขลุมนั่นแหละครับ http://www.reic.or.th/home_eng/news/news_detail.asp?nID=15862&p=40&s=15&t=13
เพียงแต่ประเด็นนี้ผมยังไม่เล่น เพราะมันจะแค่สรุปได้ว่ากฎหมายไม่ได้เอื้อมากขึ้น ซึ่งคนบางจำพวกชอบจินตนาการว่า ไม่ได้เอื้อก็คือโกง เหมือนหลายล็อคอินในกระทู้นี้
ดังนั้นผมเลยชี้ประเด็นสำคัญโดยสมมุติว่า 10% นั้นเต็มไปนานแล้ว แล้วมาดูประเด็น FAR ที่เห็นชัดเจนกว่าแทน
2. ที่ผมบอกว่า พ.ท. ใช้สอยเป็นตัวกำหนดราคา เพราะถ้าคุณจะสร้างตึกเพื่อขาย เขาคิดราคาขายตาม ตร.ม. ครับ ส่วนการออกแบบอาคาร เป็นต้นทุนที่ฟิกเอาไว้
ไม่ว่าออกแบบง่ายหรือยาก ก็ไม่ทำให้กำไรสูงขึ้นเท่าไรครับ (ถ้ายังไงช่วยอธิบายว่าเหลือประมาณ 80% ให้ชัดๆ ได้ไหมครับ เผื่อจะเจอประเด็นที่น่าสนใจ)
ผอ.สำนักผังเมือง กทม. เบิกความ มัด"พจมาน" เผยหลังซื้อที่ดินรัชดาแล้ว อนุญาตให้สร้างตึกสูงได้
พยานเบิกความชี้หลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้
สำหรับพยานที่เข้าเบิกความประกอบด้วย นายทร ชาวพิจิตร เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม เบิกความในประเด็นการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด นางวิบูลย์เพ็ญ หิตะพันธ์ เจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน 9 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าเบิกความในประเด็นการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย น.ส.มาลี แม้นมินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ขึ้นเบิกความในประเด็นการควบคุมการก่อสร้างอาคารสูงในที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ก่อนการซื้อขายห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 ชั้น แต่ภายหลังจำเลยซื้อที่ดินแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอนุญาตให้สร้างตึกสูงได้ จากนั้นนางพวงทิพย์ ปรมาพจน์ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าเบิกความการปรับลดราคาที่ดินพิพาท และการเปลี่ยนแปลงการลงบันทึกในระบบบัญชี ต่อมานางวิไลวรรณ ศศานนท์ เจ้าหน้าที่ สตง. เข้าเบิกความจนเสร็จสิ้นแล้ว
ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อประชุมองค์คณะและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องที่ทนายจำเลยยื่นวันนี้ และให้คู่ความรอฟังคำสั่งในรายงานกระบวนการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ถอนทนายแล้ว และเมื่อศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนพยานที่เตรียมมาวันนี้ให้เสร็จสิ้น ระหว่างที่ไต่สวนศาลเปิดโอกาสให้ทนายความจำเลยซักถามพยาน ซึ่งฝ่ายจำเลยเป็นผู้จัดเตรียมมาตามบัญชีนัดพยาน แต่นายเอนกไม่ใช้โอกาสซักถามพยาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่เหมือนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาช่วงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานจะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ ศาลจึงเป็นผู้ซักถามพยานแทน ขณะที่อัยการโจทก์กลับใช้โอกาสซักค้านพยานจำเลยอย่างเต็มที่
http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1218811535