Bug_HAM wrote:phoeniix wrote:pompoko wrote:ไร้สีไร้กลิ่น wrote:10% นี่เอามาจากเวบ pantip ป่าวคับ
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/t ... 52569.html1.1 กุมภาพันธ์ 2544 (เริ่มต้นรัฐบาลทักษิณ 1)
หนี้สาธารณะ 2,804,279 ล้านบาท (ข้อมูลเมื่อสิ้นสุด ปี 2543)
GDP 4,922,731 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ/GDP 57.8 %
V
V
1.2 กันยายน 2549 (สิ้นสุดรัฐบาลทักษิณ)
หนี้สาธารณะ 3,233,120 ล้านบาท
GDP 7,844,939 ล้านบาท
หนี้สาธารณะ/GDP 41.39 %
สรุป-ผลการบริหารของนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร. ทักษิณ ชินวัตร บริหาร 5 ปี 7 เดือน =5.58 ปี
หนี้สาธารณะ - เพิ่มขึ้น 428,841 ล้านบาท
เพิ่ม - เฉลี่ย 76,853 ล้านบาท/ปี
GDP - เพิ่มขึ้น 2,922,208 ล้านบาท
เพิ่ม - เฉลี่ย 542,287 ล้านบาท/ปี
เพิ่ม - เฉลี่ย 10.63 %/ปี ( คิดจากฐานGDPปี2543=2,922,208*100/4,922,731*5.58)
หนี้สาธารณะ/GDP - ลดลง 16.41 %
ลด - เฉลี่ย 2.94 %/ปี
โครตจะมั่วเลย เอาเวลาที่บริหารทั้งหมดมาคิด
แต่ไงสรุปเป็นต่อปีได้หว่า
เห็นแล้วก็เลยหยุด เหมือนคุยกับคนไม่เต็ม เสียเวลาเปล่า
ผมบอกแล้ว คนส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่เข้าใจ ไอ้ที่พวกคุณเถียงกันหรอกครับ เปล่าประโยชน์
สวัสดีครับคุณ Bug_HAM
ผมลงทุนสมัครสมาชิกใหม่เพื่อเข้ามาคุยกับคุณหลังจากที่อ่านอย่างเดียวมานาน
จากมุมมองของคุณที่โพสต์มา ก็พอเข้าใจได้ว่า คนที่เลือกพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่
ซึ่งเป็นคนชนบท ไม่สนเรื่องตัวเลขต่างๆ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัด เพราะไม่เข้าใจ แต่สนใจว่าได้อะไร
จากรัฐบาลไหนมากกว่า
ผมอยากบอกว่า ที่คุณพูดนั้น ถูกครับ ในความเห็นผมว่ามันคือสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังเกิดขึ้นอยู่
แต่ผมขอยกเรื่องเหตุการณ์สมมติซักอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ
มีกลุ่มคนคณะหนึ่งไม่ใช่คนดีสักเท่าไหร่ ต้องการตำแหน่งเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัวเองมากกว่า เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบันดีว่า
คนส่วนใหญ่ที่มีสิทธิออกเสียง คือคนมุมมองเดียวแบบคุณ Bug_HAM คณะกลุ่มคนที่ว่าเลยจัดการทำอิมเมจเอาใจคนกลุ่มเดียว
ซึ่งใหญ่ที่สุด ทั้งลดแลกแจกแถม ทำดีสารพัด เพื่อซื้อใจคนกลุ่มนั้น เพื่อให้ได้เสียงเยอะที่สุด พอได้เข้าไปมีอำนาจก็ใช้เงินของคนทั้งประเทศ
ส่วนหนึ่งลดแลกแจกแถม ให้คนกลุ่มใหญ่ที่ว่าต่อ เพื่อจะได้เสียงส่วนใหญ่ของประเทศไปตลอด
และในขณะเดียวกันก็กอบโกยผลประโยชน์ของชาติ ทำแบบนี้กันไปเรื่อยๆ ประเทศก็แย่ลงเรื่อยๆ แต่คณะกลุ่มนี้ฉลาดพอที่จะบังความทรุดโทรมของ
ประเทศไว้จากคนกลุ่มใหญ่ เมื่อรู้ตัวอีกทีประเทศก็แย่จนยากจะเยียวยา ส่วนพวกคณะคนที่ว่าก็ไปเสวยสุขอยู่ต่างประเทศ
นี่คือความอันตรายของระบอบประชาธิปไตยของประเทศที่คนส่วนใหญ่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นในต่างประเทศมานักต่อนักแล้ว
ไม่ใช่ว่ามานั่งนึกเองเออเอง คนที่รู้เขาถึงได้ตื่นตัวและแสดงการต่อต้าน
ตัวอย่างที่ว่าอยากให้คุณ Bug_HAM ลองนึกดูว่า คนในสังคมมีทั้งดีและเลว คนที่เลวระดับต้องการผลประโยชน์ระดับชาติก็น่าจะทำแบบที่ผมว่าหรือปล่าว
ถ้าทำแล้วจะเป็นแนวทางอย่างที่ผมว่าหรือปล่าว
คุณ Bug_HAM อาจจะมองว่า อย่าคิดว่าคนส่วนใหญ่มองคนไม่เป็น ผมก็อยากจะบอกว่า ถ้าคุณไม่รู้แม้กระทั่งตัวเลข ดัชนีชี้วัด
ก็ตามคณะคนกลุ่มนั้นไม่ทันหรอกครับ
ด้วยความเคารพ อยากใ้ห้อ่านและคิดตาม มีความเห็นต่างตรงไหน ยินดีรับฟัง