เพิ่งจะได้ เฮ!หลังได้ไปโหวดเสียงเทคะแนนจนได้
รัฐบาลเสนียดจัญ-ไรเข้ามาครองประเทศเพียงไม่กี่วัน
จากเสียง เฮ!กลับกลายเป็นเสียงโอดครวญในโชคชะตา
แทนที่เพราะพิษคนอัป-รีย์จัญ-ไรเลยทำให้เกิดอาเพศ
พายุถล่ม แผ่นดินแยก น้ำท่วมเมืองทั้งภาคจนแทบกลาย
เป็นเมืองบาดาลชนิดที่ในรอบหนึ่งร้อยปีแทบจะไม่เคยเจอ
ล่าสุด!! หลัง รมว.เกษตร "รุด" ไปดูสถานการณ์กับตาแทบ
ช็อค!!เพราะน้ำเหนือผสมกับน้ำจากพายุฝนเกินกว่าจุดวิกฤต
36 ซม.ที่น่าเป็นห่วงคือเขื่อนสิริกิติ์ขณะนี้มีปริมาณน้ำมากถึง
88%ของความจุเขื่อนสิริกิติ์และจะรับน้ำได้อีกแค่พันกว่าล้าน
ลูกบาศก์เมตรเท่านั้น น้ำก็จะเต็มล้นเขื่อน แล้วถ้าหากมีพายุ
เข้ามาผสมโรงอีกสักลูกสองลูก(ซึ่งกรมอุตุฯก็คาดเดาว่ามาแน่)
ตอนนั้นถ้าไม่ระบายน้ำออกสู่แม่น้ำน่านเขื่อนก็มีสิทธิจะแตกได้
น่าอนาถใจแทนคนภาคเหนือ-อีสานที่เทคะแนนเสียงจนได้คน
บาปหนาใจคต เสนียดจัญ-ไรเกาะท่วมตัวมาครองประเทศจน
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านเมืองลงโทษให้หราบจำเช่นนี้ อามิตาพุทธ.

รมต.เกษตรดูน้ำท่วมน่าน-ยมแจกถุงยังชีพ
ชี้เขื่อนสิริกิติ์น้ำมากหวั่นแตกสั่งระบาย.

วันนี้ 18 ส.ค. 2554
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ ที่วัดบางลายเหนือ ต.บางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ภายหลังลงพื้นที่ร่วมกับ นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายกอบจ.พิจิตร เพื่อดูสภาพน้ำท่วมในเขตลุ่มน้ำน่านและลุ่มน้ำยมของจังหวัดพิจิตรที่พบว่าขณะนี้ น้ำได้ท่วมแผ่ขยายเป็นวงกว้างท่วมแล้ว 8 อำเภอ โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมที่จุดวัดระดับน้ำ อ.สามง่าม เอ่อล้นสูงกว่าตลิ่ง 84 ซม. และที่จุดวัดน้ำแม่น้ำยม อ.โพทะเล ระดับน้ำสูงเกินจุดวิกฤต 68 ม. และน้ำในแม่น้ำน่าน ที่สถานีวัดน้ำบ้านราชช้างขวัญ อ.เมือง จ.พิจิตร ปริมาณน้ำสูงเอ่อล้นตลิ่ง 67 ซม. และที่ อ.บางมูลนาก น้ำสูงเกินกว่าจุดวิกฤต 36 ซม. จึงทำให้น้ำล้นตลิ่งและราษฎรเดือดร้อนมนครั้งนี้ จึงทำให้ รมต.เกษตรและคณะได้นำถุงยังชีพมามอบให้กับราษฎรที่บ้านเรือนและไร่-นาถูกน้ำท่วมดังกล่าว

จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในเขตภาคเหนือและภาคกลางยังคงจะต้องวิกฤตเช่นนี้ไปอีกหลายวัน อีกทั้งระดับน้ำทั้งแม่น้ำน่านและแม่น้ำยมยังจะคงมีปริมาณน้ำมากขึ้น เนื่องจากยังมีพายุฝนอีกหลายลูก ซึ่งตอนนี้ได้ใช้วิธีบริหารจัดการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล แต่ช่วงนี้ก็มีน้ำทะเลหนุนจึงทำได้ลำบาก แต่ถ้าทันทีที่ระดับน้ำทะเลลดลงก็จะเร่งระบายน้ำทันทีเช่นกัน ซึ่งก็จะทำให้ปริมาณน้ำในภาคกลางและภาคเหนือลดลงได้ระดับหนึ่ง

แต่ในสิ่งทีน่าเป็นห่วงขณะนี้ รมต.เกษตร กล่าวว่า... เป็นห่วงเขื่อนสิริกิติ์ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำมากถึง 88%ของความจุของเขื่อนสิริกิติ์และจะรับน้ำได้อีกพันกว่าล้านลูกบาศก์เมตร น้ำก็จะเต็มล้นเขื่อน ซึ่งถ้าไม่ระบายน้ำออกสู่แม่น้ำน่านเขื่อนก็มีสิทธิจะแตกได้ ดังนั้นพื้นที่ลุ่มน้ำน่านอาจต้องทนรับกับสภาพน้ำท่วมซึ่งอาจเสียหายเล็กน้อยแต่ถ้าเขื่อนสิริกิติ์แตกจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นจึงขอให้ยอมรับความจริงกับน้ำจากแม่น้ำน่านที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครในช่วงนี้ด้วย

ที่มา.http://www.phichittoday.com/news/08.54/news18085402.html