http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=14&t=41048&p=767786#p767786
http://forum.serithai.net/viewtopic.php?f=2&t=41396
ผมว่าพอแล้วละมั้งเรื่องนำเสนอข่าวสิ่งของพระราชทานของพระบรมราชวงศ์แด่นักการเมือง ผมคงไม่บังอาจไปวิพากษ์ในพระราชวินิจฉัย พระวินิจฉัย ของพระองค์ท่าน แต่ถ้าในมุมมองของผม ผมว่า ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณกับทุกๆคนเท่าเทียมกันนั้นละ ไม่ว่าจะสีไหน พรรคไหน ดังนั้นการที่พระองค์ท่านจะพระราชทานสิ่งใดให้กับใคร ก็น่าจะเป็นการพระราชทานขวัญและกำลัใจให้ผู้รับน้อมนำไปเป็นเครื่องยึดเหนียวมากกว่า ยกตัวอย่าง นายกอภิสิทธิ์ พระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานของพระราชทานก็มี แต่ทีมงานหรือผู้ชื่นชอบนายกฯก็ไม่ได้เอามาเป็นเรื่องราวใหญ่โต เพราะตั้งใจจะทำหน้าที่ให้สมดั่งถวายสัตยปฏิญาณมากกว่า


28 ธันวาคม 2552 ผู้แทนพระองค์ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เข้ามอบแจกันดอกไม้ปีใหม่ 2553 แก่นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล


24 ธันวาคม 2553 ผู้แทนพระองค์ใน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีพระราชทานของขวัญปีใหม่ 2554 ให้แก่นายกรัฐมนตรี ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ผมว่าเอาเรื่องปากท้องการเมืองเศรษฐกิจดีกว่าไหม เที่ยวเอามาสื่อ องค์นั้นพระราชทานสิ่งนี้ให้คนนั้น องค์นี้พระราชทานสิ่งนั้นให้คนนี้ จะสื่ออะไรครับ จะสื่อว่าฝั่งตัวได้รับการยอมรับสนันสนุนจากเบื้องบนงั้นหรือ ผมว่าถ้ามีแนวคิดแบบนี้ลองอ่านนี้หน่อยไหมครับ
หากใครยังจำได้ที่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช. เสื้อแดง กล่าวกับกลุ่มนปช.บนเวทีว่า... " แหงนคอตั้งบ่า แล้วจะรู้ว่าฟ้านั้นอยู่ไกล (พวกเราเป็นแค่ไพร่) เหมือนจะบอกอย่าไปสนใจฟ้าเลยเพราะฟ้าอยู่ไกล "
พวกคุณรู้อะไรไหม? ถึงฟ้าจะอยู่ไกล แต่ฟ้านี่แหละ ยอมกลั่นตัวเองเป็นหยดน้ำ ลงมาหาพื้นดินทุกหย่อมหญ้า ทุกพื้นที่ แม้จะอยู่ไกลจากวามเจริญเพียงใด แม้จะอยู่นอกสายตา ผู้นำประเทศ รัฐบาลไหนๆก็ตาม จะเหนือใต้ออกตก ฟ้าก็ไปถึง กลั่นตัวเองเป็นหยดน้ำ ตกลงบนพื้นที่ ที่แห้งแล้ง ทุรกันดาล ยากแค้น ให้ชุ่มเย็น ชุ่มฉ่ำ จากหยาดเหงื่อของพระองค์
ฟ้า ได้กลายลงมาเป็นน้ำไหลลงมาบนดิน เคียงข้างกับดิน ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับดิน ลำบากยากแค้นไปกับดิน ไม่ว่าจะแห้งแล้วกันดาลมาก ฟ้าก็ยิ่งต้องกลั่นตัวเองเป็นหยดน้ำให้ให้ขึ้นเท่านั้น เพียงหวังแค่ให้ดินนั้นชุ่มเย็น มีกินมีใช้ มีน้ำเอาไว้สำหรับดื่มกิน ฟ้าได้กลั่นตัวครั้งแล้วครั้งเล่า มาอยู่เคียงข้างดินเสมอ แม้ไม่เคยร้องขอ มาบรรเทาความทุกข์ร้อนให้ดินไม่เคยรังเกียจดิน แต่กลับดีใจและสุขใจอย่างล้นเหลือ เมื่อดินกลับมาชุ่มเย็น เป็นสุขเช่นเดิม ไม่เลือกว่าดินที่นั้น จะรักฟ้า หรือเกลียดฟ้าก็ตาม จะขับไล่ฟ้า หรือต้อนรับฟ้าก็ตาม ขอแค่ดินนั้นอยู่ในประเทศไทย แม้ฟ้าจะต้องแลกกับความสุขและสุขภาพของฟ้าเองที่ถดถอย และอายุของผ้าที่ลดน้อยลง บางครั้ง ฟ้าก็มืดมนลงเรื่อยๆ และบางครั้งเหมือนว่าฟ้าจะมืดไป ฟ้าก็ไม่เคยบ่น
แต่ดินรู้ไหม ถึงฟ้าจะมืดดับไปและเหลือน้ำน้อยแล้ว ฟ้าก็ยังพยายามกลั่นตัวเองให้เป็นหยดน้ำ เพื่อหลั่งให้ดินชุ่มเย็นเสมอไม่เคยบ่น ไม่ว่ายังไงก็จะพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะทำทุกวิถีทาง เพื่อหาทางที่จะดูแลดินให้ดีที่สุด ฟ้ารักดินเหมือนลูก อย่างไม่ต้องสงสัย ในยามที่ดินมืนหม่น เหน็บหนาว ต้องการแสงสว่าง แม้ฟ้าก็อาจจะเหน็บหนาวไปด้วย แต่ฟ้าก็พยายามอย่างสุดกำลัง เพื่อที่จะให้แสงแดด ส่องผ่านฟ้าไปยังดิน เพื่อให้ผืนดินได้สว่างไสว และกลับมาอบอุ่น ร่มเย็นเป็นสุข เหมือนเดิม โชคดีแค่ไหน? ที่เกิดในผืนแผ่นดินนี้ อยู่ใต้ฟ้าเมืองไทยนี้ อยู่ใต้ร่มพระบารมี อยู่ในอ้อมอกของพ่อและแม่
ดินก้อนนี้ ขอถามดินก้อนอื่นๆว่า ดินเคยคิดถึงฟ้า เคยรักฟ้าและเห็นใจฟ้าบ้างไหม? แม้ฟ้าจะไม่เคยเรียกร้องความเห็นใจ จากดินก็ตาม แต่ดินก้อนนี้เห็นว่า ฟ้านั้น ควรได้รับความเห็นใจและความรักจากดินบ้าง เพื่อบำรุงให้ฟ้านั้นได้อยู่ต่อไปได้นานขึ้นหรืออย่างน้อย ฟ้าก็อยู่อย่างโล่งใจ สบายใจ ว่าดินข้างล่างชุ่มเย็นและอบอุ่นดี
ถึงฟ้าและดินจะอยู่ไกลกันก็ตาม แต่ฟ้าก็ไม่เคยทิ้งดิน และฟ้าได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ฟ้าจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำหยาดเหงื่อ ลงมาเคียงข้างดิน อยู่ข้างๆดินเสมอ เมื่อดินทุกข์ร้อนไม่ว่าดินจะเรียกร้องหรือไม่ก็ตาม และผมเชื่อว่า ฟ้าจะอยู่คู่กับดินตลอดไป ตราบชั่วฟ้าดินสลาย สิ้นภัทรกัปนี้ไป และฟ้ากับดิน ก็จะได้กลับมาคู่กัน ในกัปใหม่แน่นอน "
ผมว่าต่อไปหากจะตั้งกระทู้แนวนี้อีก อยากให้ผู้ดูแลล็อคกระทู้ไปเลย เอาแค่ข้อความต้นกระทู้ก็พอ เดี๋ยวจะไปตีกันแย่งฟ้าแย่งดินกันปล่าว