ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby Bookmarks » Thu Oct 06, 2011 7:01 pm

nopantaman_agian wrote:
Bookmarks wrote:ใครเขียนหว่า หรือความจำสั้น
v
v
v
Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ
by nopantaman » Sat Aug 06, 2011 2:41 am

4. ส่วนที่ทักษิณ ถ้ารู้ว่าผิดกฎหมาย ยังกล้าทำผิด ประเด็นนี้ก็ได้อธิบายไปแล้วอย่างไรครับ คือทั้งคุณและผมไม่รู้หรอกว่าทักษิณรู้หรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องคาดเดาจากเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ผมเชื่อว่าทักษิณไม่รู้คือ นายกคนอื่นๆ เช่นคุณชวนหรือคุณบรรหารก็ไม่รู้(ไม่แน่ใจ) ว่าตนเองในฐานะนายกควบคุมกองทุนได้ ดังจะเห็นได้จากคำให้การว่าไม่เคยสั่งการ
กองทุนเลย (ไปค้นหาเจอ ตกลงคุณชวนกับคุณบรรหารไปให้การในศาลจริงๆ - จากข่าวนะครับ) รวมถึงหม่อมเต่า หรือผู้จัดการกองทุนคนอื่นๆ ก็ให้การตรงกันว่าไม่เคยมีการสั่งการจากนายก
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ทักษิณก็จะไม่รู้เช่นเดียวกัน นี่คือคำให้การบางส่วนครับ http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=30145.0;


อ้าววววว อ่านหนังสือไม่เป็นจริงๆ เหรอเนี่ย ผมตกใจมากเลย ตอนแรกผมนึกว่าคุณแถไปมาเฉยๆ นะ!!!!

เอา ถือว่าสอนภาษาไทยเบื้องต้นแบบง่ายๆ ให้ก็แล้วกัน จาก ข้อความของผมเองที่คุณยกมาโดยเฉพาะที่คุณไฮไลท์ไว้
เป็นประโยคแบบอ้างผลก่อน แล้วจึงค่อยยกเหตุมาอธิบายเพิ่มเติม (ผล->เหตุ) คือ

ข้อความที่เป็นผล -> ซึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ผมเชื่อว่าทักษิณไม่รู้
ความหมายของประโยคนี้ เป็นการยกผลมาอธิบายก่อนว่าผมมีความเชื่อว่าทักษิณไม่รู้ โดยยก "เหตุ" ที่ทำให้เชื่อ ไว้ในประโยคถัดไป

ข้อความที่เป็นเหตุ -> คือ นายกคนอื่นๆ เช่นคุณชวนหรือคุณบรรหารก็ไม่รู้(ไม่แน่ใจ) ว่าตนเองในฐานะนายกควบคุมกองทุนได้ ดังจะเห็นได้จากคำให้การว่าไม่เคยสั่งการ
กองทุนเลย (ไปค้นหาเจอ ตกลงคุณชวนกับคุณบรรหารไปให้การในศาลจริงๆ - จากข่าวนะครับ) รวมถึงหม่อมเต่า หรือผู้จัดการกองทุนคนอื่นๆ ก็ให้การตรงกันว่าไม่เคยมีการสั่งการจากนายก
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ทักษิณก็จะไม่รู้เช่นเดียวกัน


ซึ่งจากข้อความที่เป็นเหตุ ไม่มีส่วนใดเลยที่กล่าวอ้างถึงคำพูดของทักษิณ อันจะทำให้เกิดผลว่าผมเชื่อว่าทักษิณไม่รู้ได้
แปลไทยเป็นไทย ก็คือเหตุเกิดจากคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้การว่าไม่รู้ ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ทักษิณจะไม่รู้
ไม่ได้เหตุเกิดจากทักษิณบอกว่าไม่รู้ จึงเชื่อว่าทักษิณไม่รู้
คนละเรื่องกันเลย!!!

เห้อ เหนื่อย พอเข้าใจบ้างไหมเนี่ย ถ้าไม่เข้าใจคงต้องไปเรียนภาษาไทยใหม่ก่อนเลยนะ ไม่งั้นจะคุยกับใครได้รู้เรื่องละเนี่ย!!!


ตกลงการเชื่อว่าแม้วไม่รู้เนี่ย ไม่เหมือนการแก้ต่างให้แม้วหรือ ไม่เคยบอกว่า ศาลตัดสินผิด แต่ดันบอกว่า เชื่อว่าไอ้แม้วไม่รู้ :?: :?: แล้วตกลงว่าคุณ เชื่อว่า แม้วไม่รู้เนี่ย เพราะคำให้การของชวน บรรหาร และหม่อมอุ๋ย ว่าแม้วไม่เคยสั่งการในกองทุนฟื้นฟู มารอะเกนเลยเชื่อได้ว่า แม้วไม่รู้ตามนั้น อย่างนี้เรียกว่า เชื่อคำตัดสินของศาลหรือเปล่า เพราะที่แม้วโดนตัดสินให้ผิด ก็มาจากการรู้หรือไม่รู้ ว่ามีอำนาจสั่งการในกองทุนฟื้นฟู คำให้การของหม่อมอุ๋ยที่ไปให้การต่อศาล ก็บอกอยู่ท่นโท่ว่า แม้วเคยสั่งการจ่ายหนี้ให้กองทุนฟื้นฟู 870,000 ล้านบาท ทำไมอย่างนี้ไม่เอามาคิด
ส่วนข้อความที่คุณเขียนผมก๊อปปี้มา ให้เอาไปคิดว่า ถ้าไม่รู้ว่า เมียตัวเองไปซื้อที่ดิน ตัวเองจะทำผิดกฎหมายหรือเปล่า จะไปสอบถามกองทุนฟื้นฟูทำไม

(ปล) ไม่ต้องมาทำตัวยกตน ข่มท่านหรอก เพราะผมก็เห็นคุณไม่ได้ฉลาดอย่างที่คุณคิดหรอก จำผิดจำถูก เรื่อง แม้วไปสอบถามกองทุนฟื้นฟู เป็นสอบถามกฤษฏีกา หรือไม่ก็จงใจจะเขียนเป็นกฤษฎีกา เพื่อให้คนเค้าเชื่อว่าได้สอบถามทางฝ่ายกฎหมายแล้ว ทำให้ดูมีภาษีดีกว่า
v
v
v
Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ
by nopantaman » Thu Aug 04, 2011 12:57 am

ก่อนอื่นต้องย้ำอีกครั้งว่าผมเคารพคำตัดสินของศาล แต่ที่มาร่วมพูดคุยก็เพื่อประโยชน์ทางวิชาการเท่านั้นนะครับ

ทักษิณต้องรู้อยู่แล้วครับว่าภรรยาไปซื้อที่ดิน แถมยังได้สอบถามไปยังกฤษฏีกาว่าคุณพจมานเข้าประมูลได้หรือไม่ด้วยซ้ำและในการประมูลก็ไม่ได้ "เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น" ตามที่ศาลท่านได้ตัดสินว่าไม่มีความผิด
ตามกฏหมายอาญามาตรา 152 และ 157

ทีนี้ลองสมมุติเป็นคุณเองนะครับ คุณได้สอบถามว่าภรรยาเข้าประมูลได้ไหม, ภรรยาเข้าประมูล, ประมูลชนะ, ตรวจสอบรับรอง, ทำสัญญา,
เหลือแค่กระบวนการโอนประกอบสัญญาซึ่งต้องใช้บัตรคุณยินยอม (จริงๆ ไม่ใช้ก็ได้ แต่มันมีขั้นตอนเพิ่มให้ยุ่งยาก -> ซึ่งถ้าทักษิณทำแบบนี้
ก็ไม่รู้ว่าคำพิพากษาจะออกมาเช่นใด) แล้วคุณจะคิดว่าตัวคุณเองเป็นคนเข้าประมูลไหมละครับ
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby 55555 » Thu Oct 06, 2011 7:29 pm

http://www.oknation.net/blog/starbiogra ... 09/entry-2


เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ร่วมประมูลราคาและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาท และซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน นั้น หาได้เป็นความผิดในตัวเองไม่ เหตุที่เป็นความผิดสืบเนื่องจากสถานภาพของจำเลยที่ 1 ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กฎหมายห้ามมิให้ทำสัญญา หรือมีส่วนได้เสียกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 มีความผิดและต้องรับโทษตามมาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิดแต่อย่างใด และมีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ว่า เงินที่จำเลยที่ 2 ชำระราคาที่ดินพิพาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ที่ดินพิพาทและเงินดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินอันพึงริบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) และ (2)

เมื่อพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดดังที่วินิจฉัยมาดังกล่าวข้างต้น ซึ่งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมาย ไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน แต่จำเลยที่ 1 กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย ทั้งที่จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมืองให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ จึงไม่สมควรรอการลงโทษ



คำพิพากษา อยู่ใน ลิ้งค์ทั้งหมด...

เวลายกอย่าตัดตอนแล้วตีความซี้ซั้ว...
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby Solidus » Thu Oct 06, 2011 8:07 pm

55555 wrote:http://www.oknation.net/blog/starbiography/2011/09/09/entry-2


เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ร่วมประมูลราคาและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาท และซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน นั้น หาได้เป็นความผิดในตัวเองไม่ เหตุที่เป็นความผิดสืบเนื่องจากสถานภาพของจำเลยที่ 1 ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กฎหมายห้ามมิให้ทำสัญญา หรือมีส่วนได้เสียกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 มีความผิดและต้องรับโทษตามมาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิดแต่อย่างใด และมีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ว่า เงินที่จำเลยที่ 2 ชำระราคาที่ดินพิพาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ที่ดินพิพาทและเงินดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินอันพึงริบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) และ (2)

เมื่อพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดดังที่วินิจฉัยมาดังกล่าวข้างต้น ซึ่งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมาย ไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน แต่จำเลยที่ 1 กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย ทั้งที่จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมืองให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ จึงไม่สมควรรอการลงโทษ



คำพิพากษา อยู่ใน ลิ้งค์ทั้งหมด...

เวลายกอย่าตัดตอนแล้วตีความซี้ซั้ว...
ดันเซ็นยินยอมแถมให้บัตรนายก จะบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างไร

มาตรา 122 เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 100 มาตรา 101 หรือ มาตรา 103 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีความผิดตามมาตรา 100 วรรคสาม หากเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าตนมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย ในการที่คู่สมรสของตนดำเนินกิจการตามมาตรา 100 วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้นั้นไม่มีความผิด
User avatar
Solidus
 
Posts: 8593
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:47 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Thu Oct 06, 2011 8:39 pm

Bookmarks wrote:ตกลงการเชื่อว่าแม้วไม่รู้เนี่ย ไม่เหมือนการแก้ต่างให้แม้วหรือ ไม่เคยบอกว่า ศาลตัดสินผิด แต่ดันบอกว่า เชื่อว่าไอ้แม้วไม่รู้ :?: :?: แล้วตกลงว่าคุณ เชื่อว่า แม้วไม่รู้เนี่ย เพราะคำให้การของชวน บรรหาร และหม่อมอุ๋ย ว่าแม้วไม่เคยสั่งการในกองทุนฟื้นฟู มารอะเกนเลยเชื่อได้ว่า แม้วไม่รู้ตามนั้น อย่างนี้เรียกว่า เชื่อคำตัดสินของศาลหรือเปล่า เพราะที่แม้วโดนตัดสินให้ผิด ก็มาจากการรู้หรือไม่รู้ ว่ามีอำนาจสั่งการในกองทุนฟื้นฟู คำให้การของหม่อมอุ๋ยที่ไปให้การต่อศาล ก็บอกอยู่ท่นโท่ว่า แม้วเคยสั่งการจ่ายหนี้ให้กองทุนฟื้นฟู 870,000 ล้านบาท ทำไมอย่างนี้ไม่เอามาคิด
ส่วนข้อความที่คุณเขียนผมก๊อป***มา ให้เอาไปคิดว่า ถ้าไม่รู้ว่า เมียตัวเองไปซื้อที่ดิน ตัวเองจะทำผิดกฎหมายหรือเปล่า จะไปสอบถามกองทุนฟื้นฟูทำไม

(ปล) ไม่ต้องมาทำตัวยกตน ข่มท่านหรอก เพราะผมก็เห็นคุณไม่ได้ฉลาดอย่างที่คุณคิดหรอก จำผิดจำถูก เรื่อง แม้วไปสอบถามกองทุนฟื้นฟู เป็นสอบถามกฤษฏีกา หรือไม่ก็จงใจจะเขียนเป็นกฤษฎีกา เพื่อให้คนเค้าเชื่อว่าได้สอบถามทางฝ่ายกฎหมายแล้ว ทำให้ดูมีภาษีดีกว่า
v
v
v
Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ
by nopantaman » Thu Aug 04, 2011 12:57 am

ก่อนอื่นต้องย้ำอีกครั้งว่าผมเคารพคำตัดสินของศาล แต่ที่มาร่วมพูดคุยก็เพื่อประโยชน์ทางวิชาการเท่านั้นนะครับ

ทักษิณต้องรู้อยู่แล้วครับว่าภรรยาไปซื้อที่ดิน แถมยังได้สอบถามไปยังกฤษฏีกาว่าคุณพจมานเข้าประมูลได้หรือไม่ด้วยซ้ำและในการประมูลก็ไม่ได้ "เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น" ตามที่ศาลท่านได้ตัดสินว่าไม่มีความผิด
ตามกฏหมายอาญามาตรา 152 และ 157

ทีนี้ลองสมมุติเป็นคุณเองนะครับ คุณได้สอบถามว่าภรรยาเข้าประมูลได้ไหม, ภรรยาเข้าประมูล, ประมูลชนะ, ตรวจสอบรับรอง, ทำสัญญา,
เหลือแค่กระบวนการโอนประกอบสัญญาซึ่งต้องใช้บัตรคุณยินยอม (จริงๆ ไม่ใช้ก็ได้ แต่มันมีขั้นตอนเพิ่มให้ยุ่งยาก -> ซึ่งถ้าทักษิณทำแบบนี้
ก็ไม่รู้ว่าคำพิพากษาจะออกมาเช่นใด) แล้วคุณจะคิดว่าตัวคุณเองเป็นคนเข้าประมูลไหมละครับ


มาแถต่ออีก ไม่อับอายบ้างเหรอ กล่าวหาผมว่าเชื่อคำพูดทักษิณ -> พอบอกให้ไปยกมาว่าตรงไหน -> ยกอันที่ไม่ใช่ ->
พอสอนภาษาไทยให้ชัดๆ -> ก็แถไปเรื่องแก้ต่างให้ทักษิณ

สีข้างแดงไปหมดแล้วมั้งเนี่ย จะแถเปลี่ยนประเด็นไปเรื่อย แล้วก็วนเวียนกลับมาเรื่องกล่าวหาว่าแก้ต่างให้ทักษิณอีก
ทั้งๆ ที่เพิ่งอธิบายไปในกระทู้หน้าที่แล้วเอง เห้อ จะว่าโง่ก็คงโง่มาก แถมยังเกรียนติ่งหูอีกด้วย :lol: :lol: :lol:

เอ้า ท้าอีก จะได้ไปหามาโชว์ความโง่อีก ตรงไหนของคำพิพากษาที่ศาลบอกว่าทักษิณผิดเพราะทักษิณรู้ว่าตนเองมีอำนาจ
โง่ถาวรจริงๆ กฏหมายนะ ไม่ใช่กฏหมู่ ถ้ารู้ผิด ถ้าไม่รู้ไม่ผิด มันไม่มีหรอก
เขามีแต่ตัดสินว่า มีอำนาจ หรือ ไม่มีอำนาจ โดยไม่ต้องสนใจเลยว่ารู้หรือไม่
มีแต่เกรียนบางคนเท่านั้นแหละที่มัวแต่ท่องว่า ศาลตัดสินว่าทักษิณผิด เพราะรู้ว่าทักษิณมีอำนาจ

ปล. ไอ้ที่ยกมา ไม่ยกคำขอโทษของผมที่กระทู้ถัดไปมาด้วยละครับ ผมจำผิด ผมขอโทษ ผมยอมรับ
แต่บางคน ไม่รู้กฏหมายหรืออะไรเลย ไม่ขอโทษ ไม่ยอมรับ :lol: :lol: :lol:
ไม่ว่าจะเรื่องประเด็นแก้กฏหมายให้ที่ดินราคาสูงขึ้น , ประเด็นทำงานสิ้นปี ประเด็น "รู้หรือไม่รู้ไม่เกี่ยวกับคำตัดสิน"

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ
by nopantaman » Thu Aug 04, 2011 11:16 am

คราวนี้อีกประเด็นคือ "ทั้งๆ ที่รู้ว่าผิดแต่ยังทำ" ผมคิดว่าคุณยกตัวอย่างไม่ตรงครับ เพราะทักษิณผิดเพราะคิดว่าตนเองไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจบังคับกองทุนฟื้นฟู
ซึ่งนายกรัฐมนตรีท่านก่อนหน้าไม่ว่าจะเป็นคุณชวนหรือคุณบรรหารก็ไม่รู้ (ดูได้จากคำให้การครับ) และประกอบกับสอบถามไปที่กองทุน (โทษทีครับไม่ใช่กฤษฏีกา)
ก็บอกว่าประมูลได้ก็เลยประมูล อย่างนี้นับว่าเป็นการ รู้ว่าผิดแต่ยังทำ หรือ ทำโดยไม่รู้ว่าผิดครับ ซึ่งแตกต่างจากตัวอย่างของคุณที่เป็นกรณีรู้ว่าผิดแต่ยังทำครับ
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby 55555 » Thu Oct 06, 2011 8:48 pm

nopantaman_agian wrote:.
[color=#0000FF]อันนี้คุณออกนอกประเด็น "รู้" กับ "ไม่รู้" แล้วครับ ไม่ว่าทักษิณจะเซ็นชื่อหรือไม่
ไม่เกี่ยวกับรู้หรือไม่รู้เลย เพราะไม่ได้ส่งผลให้การขายที่ดินครั้งนี้รัฐเสียประโยชน์อันใด
(อันนี้ลองดูได้จากคำตัดสินศาลครับ)

การดำเนินการตั้งแต่ร่วมเสนอราคา ทำสัญญาจะซื้อจะขายจนกระทั่งทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนฟื้นฟูฯ นั้น เป็นการดำเนินการของจำเลยที่ 2 เพียงคนเดียว โดยไม่ได้ความว่า จำเลยที่ 1 มีการกระทำการอย่างใดที่แสดงให้เห็นว่าร่วมกระทำการดังกล่าวกับจำเลยที่ 2 ด้วย จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนกระทำหรือเกี่ยวข้องในอันที่จะแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ 1 ว่าประสงค์จะมีเจตนาร่วมซื้อที่ดินพิพาทกับจำเลยที่ 2 ลำพังการที่จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อให้ความยินยอมในสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอถึงขนาดให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนากระทำการร่วมกับจำเลยที่ 2 แล้ววินิจฉัยเฉพาะจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำผิดเพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ จึงให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2



ไปยกคำพิพากษาที่ไหนมาอ่ะ...ถามจริง ๆ มั่วป่าว ไปอ่านอีกรอบกีม่ะ..
http://www.oknation.net/blog/starbiogra ... 09/entry-2
:lol:
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Thu Oct 06, 2011 9:18 pm

55555 wrote:http://www.oknation.net/blog/starbiography/2011/09/09/entry-2


เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ร่วมประมูลราคาและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาท และซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน นั้น หาได้เป็นความผิดในตัวเองไม่ เหตุที่เป็นความผิดสืบเนื่องจากสถานภาพของจำเลยที่ 1 ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กฎหมายห้ามมิให้ทำสัญญา หรือมีส่วนได้เสียกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 มีความผิดและต้องรับโทษตามมาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิดแต่อย่างใด และมีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ว่า เงินที่จำเลยที่ 2 ชำระราคาที่ดินพิพาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ที่ดินพิพาทและเงินดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินอันพึงริบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) และ (2)

เมื่อพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนรับฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดดังที่วินิจฉัยมาดังกล่าวข้างต้น ซึ่งขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมาย ไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน แต่จำเลยที่ 1 กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมาย ทั้งที่จำเลยที่ 1 เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมืองให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ จึงไม่สมควรรอการลงโทษ



คำพิพากษา อยู่ใน ลิ้งค์ทั้งหมด...

เวลายกอย่าตัดตอนแล้วตีความซี้ซั้ว...


'งง หมายถึงผมเหรอครับ ช่วยชี้หน่อยได้ไหมว่าผมตีความซี้ซั้วอย่างไร กลับไปอ่านกระทู้เก่าก่อนไหมครับ ว่าทำไมผมถึงยกมา แล้วตัดมาแค่นั้น
อ่ะ เดี๋ยวก๊อปให้ไหม่เลย แล้วช่วยชี้ทีครับว่าไอ้ที่คุณทำตัวแดงนั้น ทำให้เหตุผลว่าการขายที่ดินครั้งนี้รัฐเสียประโยชน์อันใดครับ
อย่ากล่าวหากันลอยๆ สิ มันไม่เกิดปัญญานะ

คือเข้าใจไหมครับ ผมคุยกับคุณคลำปมเรื่องประเด็นทักษิณรู้หรือไม่รู้ว่าตนเองมีอำนาจ แล้วคุณคลำปมก็ยกว่า
จะเอาหลักฐานว่านายกฯคนอื่นไม่เคยสั่งการกองทุนฯมาหักล้าง มันคนละเรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย
เพราะนายกฯคนอื่นเขาไม่ได้เซ็นชื่อให้ภรรยาไปซื้อที่ดินของกองทุนเหมือนทักษิณนี่ครับ

เลยเป็นที่มาที่ผมยกให้ดูตามข้างล่างนี้ ว่ามันคนละประเด็น

อันนี้คุณออกนอกประเด็น "รู้" กับ "ไม่รู้" แล้วครับ ไม่ว่าทักษิณจะเซ็นชื่อหรือไม่
ไม่เกี่ยวกับรู้หรือไม่รู้เลย เพราะไม่ได้ส่งผลให้การขายที่ดินครั้งนี้รัฐเสียประโยชน์อันใด
(อันนี้ลองดูได้จากคำตัดสินศาลครับ)

การดำเนินการตั้งแต่ร่วมเสนอราคา ทำสัญญาจะซื้อจะขายจนกระทั่งทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนฟื้นฟูฯ นั้น เป็นการดำเนินการของจำเลยที่ 2 เพียงคนเดียว โดยไม่ได้ความว่า จำเลยที่ 1 มีการกระทำการอย่างใดที่แสดงให้เห็นว่าร่วมกระทำการดังกล่าวกับจำเลยที่ 2 ด้วย จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนกระทำหรือเกี่ยวข้องในอันที่จะแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ 1 ว่าประสงค์จะมีเจตนาร่วมซื้อที่ดินพิพาทกับจำเลยที่ 2 ลำพังการที่จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อให้ความยินยอมในสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอถึงขนาดให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนากระทำการร่วมกับจำเลยที่ 2 แล้ววินิจฉัยเฉพาะจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำผิดเพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ จึงให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2


แล้วสรุปแล้วที่คุณขีดตัวแดง เพื่ออะไรครับ ??? เพราะก็ไม่มีตรงไหนในตัวแดงของคุณที่ระบุว่ารัฐเสียประโยชน์นี่นา :?: :?: :?:
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Thu Oct 06, 2011 9:22 pm

55555 wrote:
nopantaman_agian wrote:.
อันนี้คุณออกนอกประเด็น "รู้" กับ "ไม่รู้" แล้วครับ ไม่ว่าทักษิณจะเซ็นชื่อหรือไม่
ไม่เกี่ยวกับรู้หรือไม่รู้เลย เพราะไม่ได้ส่งผลให้การขายที่ดินครั้งนี้รัฐเสียประโยชน์อันใด
(อันนี้ลองดูได้จากคำตัดสินศาลครับ)

การดำเนินการตั้งแต่ร่วมเสนอราคา ทำสัญญาจะซื้อจะขายจนกระทั่งทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนฟื้นฟูฯ นั้น เป็นการดำเนินการของจำเลยที่ 2 เพียงคนเดียว โดยไม่ได้ความว่า จำเลยที่ 1 มีการกระทำการอย่างใดที่แสดงให้เห็นว่าร่วมกระทำการดังกล่าวกับจำเลยที่ 2 ด้วย จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนกระทำหรือเกี่ยวข้องในอันที่จะแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ 1 ว่าประสงค์จะมีเจตนาร่วมซื้อที่ดินพิพาทกับจำเลยที่ 2 ลำพังการที่จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อให้ความยินยอมในสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอถึงขนาดให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนากระทำการร่วมกับจำเลยที่ 2 แล้ววินิจฉัยเฉพาะจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำผิดเพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ จึงให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2




ไปยกคำพิพากษาที่ไหนมาอ่ะ...ถามจริง ๆ มั่วป่าว ไปอ่านอีกรอบกีม่ะ..
http://www.oknation.net/blog/starbiogra ... 09/entry-2
:lol:


ออกตัวแรง ระวังดริฟชนหน้าผาหน้าแตกยับนะครับ ;) ;) ;)

จากลิงค์ของคุณเอง อ่านดูย่อหน้าที่ 2 นะครับ เห็นข้อความอะไรไหม อ่านนะ

สรุปคำพิพากษา

ไม่ใช่คำพิพากษาเต็มครับ :lol: :lol: :lol:

อันนี้ตัวอย่าง คำพิพากษา นะ ไม่ใช่ สรุปคำพิพากษา

http://www.scribd.com/doc/23757960/%E0% ... A3#archive
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby คลำปม » Thu Oct 06, 2011 9:42 pm

nopantaman_agian wrote:ตอบคุณคลำปมนะครับ

จริงๆ คุณก็ต้องยอมรับความจริงด้วยนะครับว่า ไม่เคยสั่ง ไม่ได้แปลว่าต้องรู้ เช่นกัน


ยอมรับครับ
ผมถึงบอกไงว่าเรื่องนี้มันเถียงกันได้ไม่จบ ผมจึงละประเด็นที่ว่ารู้หรือไม่รู้ออกไป
มีคุณนั่นแหละครับที่พยายามจะอธิบายว่าทักษิณไม่รู้
จริงไหมครับ? ถ้ายอมรับความจริงเราก็คุยกันต่อได้

ถ้าคุณไม่ยอมรับว่าคุณพยายามแก้ให้ทักษิณในเรื่องรู้/ไม่รู้ นี่ก็คงไม่ต้องแลกเปลี่ยนอะไรกันต่อแล้วกระมังครับ?

และคุณก็บอกเองว่าเรื่องปกติคือนายกให้นโยบาย(โดยการเสนอจากรัฐมนตรีคลัง)
อย่าลืมข้อความในวงเล็บด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้บอกได้อย่างชัดแจ้งว่า ถ้าไม่มีเรื่องเสนอ ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว
แล้วถามคุณเองเถอะ ถ้าคุณเป็นนายก ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวโดยตรงกับกองทุนเลย (ต้องผ่านคณะกรรมการหลายทอดด้วย)
คุณจะ "รู้" หรือครับว่าคุณมีอำนาจ


คุณจะเอาเหตุผลอะไรมาโต้แย้งน่ะครับ ผมว่ามันไม่เข้าท่าเลย
ความรู้หรือไม่ของมนุษย์มันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
การไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกองทุนมันไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่รู้เสียหน่อย
(ยิ่งคุณมาสมมุติถามผมว่าถ้าเป็นนายกฯจะรู้ไหม มันยิ่งตลกครับ ถ้าผมว่าว่าต้องรู้สิ คุณจะไปยังไงต่อ)

การ"รู้"ว่ามีอำนาจ กับการ"ใช้"อำนาจ มันคนละเรื่องกันนะครับ
คนเรารู้ตั้งหลายอย่างที่ตัวเองไม่ได้มีอำนาจ
ศาลท่านยังทราบเลยว่าทักษิณมีอำนาจ (จึงตัดสินให้ผิด)
ทั้งที่ศาลท่านก็ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับกองทุนเสียหน่อย ถึงต้องรู้


"เมื่อทนายจำเลยถามว่าในการบริหารกองทุนฯมีคณะกรรมการดูแลอิสระ นายกฯไม่มีอำนาจสั่งการใช่หรือไม่
นายชวน ตอบว่า กองทุนฯอยู่ภายใต้กำกับของ ธปท.มีผู้ว่า ธปท.เป็นผู้ดูแล และมี รมว.คลัง กำกับดูแล ธปท.อีกชั้น

เมื่อถามว่าขณะที่เป็นนายกฯ เคยสั่งการในการบริหารงานกองทุนฯหรือไม่
นายชวนตอบว่า ไม่มี ซึ่งนายกฯจะไม่ได้เป็นผู้สั่งการ ถ้าเรื่องนั้นไม่ได้ถูกเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม.

จากคำให้การเหล่านี้ ถามคนทั่วไป มีใครจะคิดว่าคุณชวนและคุณบรรหาร "รู้" บ้างครับ


อีกแล้วครับ คุณแกล้งไม่ทราบหรือว่าทนายจำเลยเขาถามอะไร
ทักษิณถูกกล่าวหาว่ามีความผิดฐานทุจริตซื้อขายที่ดินย่านรัชดาฯ
ทนายเขาก็ต้องซักพยานให้เห็นว่าทักษิณไม่ผิด

เขาก็ถามจี้อดีตนายกฯว่าเคยใช้อำนาจแทรกแซงหรือเปล่าฯ (ใครจะไปบ้าตอบว่าเคย)
ทนายทักษิณเขาคงไม่โง่ถามว่า
"ท่านอดีตนายกฯท่านมีอำนาจสั่งการรัฐมนตรีคลังของท่าน หรือเปล่า?" หรอกนะครับ
ที่คุณชวนตอบน่ะชัดที่สุดแล้วครับว่านายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจถ้าเรื่องเข้า ครม.

ถามคนทั่วไปใครเขาก็รู้ครับว่าหัวหน้า ครม.ที่จะตัดสินใจนั้นเป็นใคร หรือจะไม่รู้อีก?

แล้วก็พยานในศาลไม่ใช่มีแต่ 2 คนนี้นะครับ
อดีตผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ทั้ง มรว.ปรีดียาธร , หม่อมเต่า) อีกทั้งอดีตปลัดกระทรวงการคลัง(คุณสมใจนึก)
รวมทั้งคุณไพโรจน์ (อดีตผู้จัดการกองทุน) และอีกหลายท่าน ก็เบิกความในทางเดียวกันว่า
"นายกรัฐมนตรีมีอำนาจที่จะเข้าไปกำกับดูแลกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน"

ถ้านายกฯยังจะไม่รู้ก็น่าประหลาดใจเพราะผู้ใต้บังคับบัญชายังรู้

แล้วทำไมคุณถึงอนุมานว่าทักษิณต้องรู้ละครับ มันก็ไม่ง่ายไปหรือครับ


จริงๆผมอยากจบเรื่องรู้หรือไม่นะเพราะมันโต้แย้งกันด้วยการอนุมานซึ่งจบยาก

แต่ที่ผมอนุมานว่าทักษิณควรต้องรู้เพราะพฤติกรรมส่วนตัวของทักษิณในอดีตครับ
เป็นอคติโดยส่วนตัวของผมที่เห็นลักษณะนิสัยของทักษิณในการฉ้อฉลหลายเรื่อง ทั้งการซุกหุ้นให้คนสวน คนใช้เพื่อเลี่ยงกฎหมาย
การถ่ายเทหุ้นไปที่บริติชเวอร์ยิ่นทำให้ไม่สามารถตรวจสอบผู้ถือหุ้นที่แท้จริงได้
ทักษิณมีที่ปรึกษากฎหมายคณะใหญ่คอยดูแลให้ตลอด
การที่เขาก้าวเข้ามาในการเมืองทั้งทีมีผลประโยชน์จากสัมปทานติดพันมาด้วย
เขาก็ต้องยอมรับว่ามันจะไปกระทบกับข้อห้าม/ข้อบังคับทางกฎหมายหลายประการ
ผลประโยชน์ของประเทศไทยต้องไปแขวนอยู่กับการตัดสินใจของเขา ทั้งที่มีผลประโยชน์ส่วนตัวของเขาด้วยในเวลาเดียวกัน

ผมไม่มีทางไว้ใจคนชนิดนี้ครับ

ดังนั้นใครมาชักชวนให้ผมไว้ใจคนชนิดนี้ผมถือว่าคุณนำประเทศไปเสี่ยงกับทักษิณ
ซึ่งผมทำไม่ได้ และไม่เคยคิดจะทำ
ผมรักประเทศมากกว่าที่จะเชื่อถือใครด้วยการจินตนาการไปถึงใจทักษิณว่าเขาคิดอะไรไปในทางดี
ประเทศไทยไม่มีทักษิณก็อยู่ได้ คนที่จะมาเป็นนายกฯไม่ควรมีข้อกังขา


"ศาลท่านก็คงพิจารณาแล้วว่าแก้ตัวแค่นี้มันไม่มีน้ำหนัก
จะเอาหลักฐานว่านายกฯคนอื่นไม่เคยสั่งการกองทุนฯมาหักล้าง มันคนละเรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย"

ศาลท่านไม่ได้พิจารณาตรงนี้เลยครับ ต้องเข้าใจเรื่องข้อกฏหมายนะครับ
ว่า รู้ หรือ ไม่รู้ ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่มีน้ำหนักเลย แต่เมื่อศาลท่านตัดสินว่ามีอำนาจ
ก็แสดงว่าต้องมี และต้องมีความผิดครับ


ครับไม่พิจารณาก็ได้ครับ
และศาลท่านก็ตัดสินแล้วว่ามีอำนาจ มีความผิด ก็ต้องจบ
ไม่เห็นต้องมาโต้แย้งเรื่องรู้หรือไม่รู้เลยจริงไหมครับ?

โต้ไปทำไมเสียเวลาเปล่า? ไร้สาระด้วยครับ

"เพราะนายกฯคนอื่นเขาไม่ได้เซ็นชื่อให้ภรรยาไปซื้อที่ดินของกองทุนเหมือนทักษิณนี่ครับ"

อันนี้คุณออกนอกประเด็น "รู้" กับ "ไม่รู้" แล้วครับ ไม่ว่าทักษิณจะเซ็นชื่อหรือไม่
ไม่เกี่ยวกับรู้หรือไม่รู้เลย เพราะไม่ได้ส่งผลให้การขายที่ดินครั้งนี้รัฐเสียประโยชน์อันใด
(อันนี้ลองดูได้จากคำตัดสินศาลครับ)


ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนักกับเรื่อง "รู้" "ไม่รู้" เท่าไหร่อยู่แล้วครับ
และผมไม่เคยบอกเสียหน่อยว่าผมจะคุยแค่ประเด็นนี้

ผมพูดว่านายกฯคนอื่นไม่ได้เซ็นชื่อให้ภรรยาไปซื้อที่ดินของกองทุนฯไม่ได้หรือครับ?
ผมงง?

แล้วศาลตัดสินด้วยหรือครับว่า"การขายที่ดินครั้งนี้รัฐไม่ได้เสียประโยชน์อันใด"


จริงหรือครับ? ผมอ่านเจอแต่...

- ที่จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า จำเลยที่ ๑ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับดูแล ควบคุม ตรวจสอบกองทุน...
ข้อต่อสู้ของจำเลยทั้งสองในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

- มีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า การที่จำเลยที่ ๒ เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายและสัญญาซื้อขายที่ดินตามฟ้องจากกองทุน...
การกำหนดวงเงินมัดจำของผู้เข้าประกวดราคาสูงถึงหนึ่งร้อยล้านบาท ไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ การกำหนดเงินมัดจำสูงถึงหนึ่งร้อยล้านบาท
เป็นที่เห็นได้ว่า การกำหนดวงเงินมัดจำสูงมากเพียงใด สามารถกีดกันผู้เข้าประมูลให้น้อยลงตามไปด้วย การที่มีผู้เข้าเสนอราคาประมูลเพียงสามราย
คือ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท โนเบิลดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และจำเลยที่ ๒ ...

เห็นได้ว่า จำเลยที่ ๒ ซึ่งเสนอราคาสูงสุดก็ตาม ก็ยังต่ำกว่าราคาขั้นต่ำแปดร้อยเจ็ดสิบล้านบาทที่ตั้งไว้ในการประมูลครั้งแรก...
แม้คณะกรรมการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินจะเห็นว่า ราคาที่จำเลยที่ ๒ ประมูลได้ว่าเป็นราคาที่เหมาะสมก็ตาม แต่ยังอาจไม่ใช่ราคาสูงสุดที่ควรจะขายก็ได้
ทั้งเมื่อพิเคราะห์ถึงว่า ผู้เข้าประมูลซื้อที่ดินแข่งกับจำเลยที่ ๒ ทั้งสองรายเป็นบริษัทประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่
ต่างก็รู้ว่ากำลังเสนอราคาประมูลแข่งกับภริยาของนายกรัฐมนตรี
น่าเชื่อว่า ผู้เข้าประมูลซื้อทั้งสองรายย่อมต้องรู้ว่าไม่สมควรที่จะชนะการประมูลในครั้งนี้ ผลการประมูลจึงออกมาว่า จำเลยที่ ๒ เป็นผู้เสนอราคาสูงสุด

ดังนั้น จึงเป็นที่เห็นได้ว่า กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่สามารถขายที่ดินตามฟ้องทั้งสี่แปลงโดยการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
ทำให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่ได้รับประโยชน์จากการขายที่ดินตามฟ้องทั้งสี่แปลงได้เท่าที่ควร


"การขายที่ดินครั้งนี้รัฐไม่ได้เสียประโยชน์อันใด" นี่มาจากศาลไหนครับ?

ที่ผมเห็นส่วนที่ทักษิณไม่ผิดก็คือ

- ปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า จำเลยที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๐๐ (๑) ร่วมกับจำเลยที่ ๑ หรือไม่ เพียงใด ...
การไม่กำหนดราคาขั้นต่ำของที่ดินพิพาทในการประกวดราคา หนังสือชี้ชวนให้ผู้เข้าร่วมประกวดราคามีรายละเอียดไม่ครบถ้วน มีการเพิ่มเงินมัดจำในการยื่นซองประกวดราคาเป็นหนึ่งร้อยล้านบาท และมีการยกเลิกข้อจำกัดเรื่องความสูงในการก่อสร้างอาคารบริเวณที่ดินที่ขายแก่จำเลยที่ ๒ ทำให้ที่ดินพิพาทมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิมนั้น
ก็เป็นเพียงการส่อถึงข้อพิรุธในการซื้อขายที่ดินพิพาทระหว่างกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินกับจำเลยที่ ๒ เท่านั้น
แต่ไม่พอที่จะรับฟังว่า เป็นการกระทำหรือจำเลยที่ ๑ มีส่วนกระทำหรือเกี่ยวข้อง ในอันที่จะแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ ๑ ว่า ประสงค์จะมีเจตนาร่วมซื้อที่ดินพิพาทอย่างเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ ๒ ลำพังการที่จำเลยที่ ๑ ลงลายมือชื่อให้ความยินยอมในสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอถึงขนาดให้รับฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ มีเจตนากระทำการในลักษณะเป็นตัวการร่วมกับจำเลยที่ ๒ ได้...

พูดง่ายๆคือหลักฐานยังไม่บ่งชี้เพียงพอครับ ไม่เช่นนั้นคงติดคุกมากกว่า 2 ปีแน่นอน
ถ้าอยากให้คนยอมรับเสียงส่วนใหญ่ เสียงส่วนใหญ่ก็ต้องรู้จักมารยาท รู้จักแสดงออกอย่างมีคุณภาพครับ...
User avatar
คลำปม
 
Posts: 1791
Joined: Sat Jan 08, 2011 6:58 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby Novice » Thu Oct 06, 2011 9:51 pm

nopantaman_agian wrote:
55555 wrote:
nopantaman_agian wrote:.
อันนี้คุณออกนอกประเด็น "รู้" กับ "ไม่รู้" แล้วครับ ไม่ว่าทักษิณจะเซ็นชื่อหรือไม่
ไม่เกี่ยวกับรู้หรือไม่รู้เลย เพราะไม่ได้ส่งผลให้การขายที่ดินครั้งนี้รัฐเสียประโยชน์อันใด
(อันนี้ลองดูได้จากคำตัดสินศาลครับ)

การดำเนินการตั้งแต่ร่วมเสนอราคา ทำสัญญาจะซื้อจะขายจนกระทั่งทำสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนฟื้นฟูฯ นั้น เป็นการดำเนินการของจำเลยที่ 2 เพียงคนเดียว โดยไม่ได้ความว่า จำเลยที่ 1 มีการกระทำการอย่างใดที่แสดงให้เห็นว่าร่วมกระทำการดังกล่าวกับจำเลยที่ 2 ด้วย จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยที่ 1 มีส่วนกระทำหรือเกี่ยวข้องในอันที่จะแสดงให้เห็นถึงเจตนาของจำเลยที่ 1 ว่าประสงค์จะมีเจตนาร่วมซื้อที่ดินพิพาทกับจำเลยที่ 2 ลำพังการที่จำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อให้ความยินยอมในสัญญาซื้อขายที่ดินพิพาท ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอถึงขนาดให้รับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 มีเจตนากระทำการร่วมกับจำเลยที่ 2 แล้ววินิจฉัยเฉพาะจำเลยที่ 2 ว่าจำเลยที่ 2 ไม่ได้กระทำผิดเพราะไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวของจำเลยที่ 2 เป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ จึงให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2




ไปยกคำพิพากษาที่ไหนมาอ่ะ...ถามจริง ๆ มั่วป่าว ไปอ่านอีกรอบกีม่ะ..
http://www.oknation.net/blog/starbiogra ... 09/entry-2
:lol:


ออกตัวแรง ระวังดริฟชนหน้าผาหน้าแตกยับนะครับ ;) ;) ;)

จากลิงค์ของคุณเอง อ่านดูย่อหน้าที่ 2 นะครับ เห็นข้อความอะไรไหม อ่านนะ

สรุปคำพิพากษา

ไม่ใช่คำพิพากษาเต็มครับ :lol: :lol: :lol:

อันนี้ตัวอย่าง คำพิพากษา นะ ไม่ใช่ สรุปคำพิพากษา

http://www.scribd.com/doc/23757960/%E0% ... A3#archive


ผมอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่เช้า ไล่จนหมดจนได้ สรุปว่า คุณไม่เอาพันธมารบอกว่ามีการกล่าวหาว่าการซื้อที่ดินรัชดาทำให้ประเทศเสียหาย

แต่คำพิพากษาคดีดังกล่าวไม่มีการกล่าวถึงประเด็นนี้ เพราะความผิดไอ้แม้วคือการเซ็นให้เมียไปซื้อที่ ซึ่งศาลก็พิพากษาไปแล้วว่ามันผิดจริง

แต่เมื่อกี้ผมอ่านคำพิพากษาหน้า 32 คำพิพากษาใช้คำว่าแม้ว่ากรรมการกองทุน....เห็นว่าราคาของจำเลยที่สอง เหมาะสม... แต่อาจไม่ใช่ราคาสูงสุดที่ควรจะขายก็ได้

ผมว่าศาลก็วินิจฉัยไปแล้วนี่ครับว่าถ้าได้ราคานี้รัฐอาจเสียประโยชน์
User avatar
Novice
 
Posts: 643
Joined: Thu May 20, 2010 8:22 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby คลำปม » Thu Oct 06, 2011 10:10 pm

อย่างไรผมก็ขอขอบคุณที่คุณ nopantaman_agian มาตอบคำถามผมนะครับ

แต่ผมไม่อยากใช้คำว่าคุณตอบเลย เพราะถ้าเป็นคำตอบผมอยากให้มันเป็นอะไรที่เชื่อถือได้มากกว่านี้
ผมไม่แน่ใจว่าคุณเจตนาบิดเบือนคำพิพากษาหรือคุณตัดทอนเนื้อหาจนเป็นความเข้าใจของคุณไปเอง

แต่ผมรู้สึกจริงๆครับว่าคุณเถียงแทนทักษิณมากมาย
ทั้งที่เรื่องรู้ หรือไม่รู้ สำหรับผมไม่เป็นประเด็นนักด้วยซ้ำ
ลองกลับมาอ่านที่ผมแลกเปลี่ยนความเห็น (ใช้คำนี้ดีกว่า) ทีแรกเลยนะ

ตั้งคนไปดูแลได้แต่จะมาบอกว่าตัวเองไม่รู้ว่ามีอำนาจมันก็จะปัญญาอ่อนเกินไปกระมังครับ?
กระทั่งคุณชวนกับคุณบรรหารก็ไม่เคยบอกว่าไม่รู้ว่าตัวเองมีอำนาจแต่งตั้งผู้ใดไปดูแลกองทุนฯ
แต่คุณพยายามบอกว่าไม่รู้
ซึ่งที่จริง ไม่เคยสั่ง ไม่ได้แปลว่าไม่รู้
(ความจริงอาจเคยสั่งกว้างๆแบบนโยบายผ่านรัฐมนตรีคลัง ซึ่งก็เป็นเรื่องปรกติ)

ดังนั้นเรื่องแบบนี้มันโต้กันไม่จบหรอกครับว่ารู้หรือไม่ ถ้าใจไม่ยอมรับเหตุผลของอีกฝ่าย


ผมบอกไม่เคยสั่ง ไม่ได้แปลว่าไม่รู้
คุณกลับมาแย้งว่าก็ไม่ได้แปลว่ารู้

ซึ่งไม่เห็นต้องบอกเลยเพราะลงมาอีกไม่กี่บรรทัดผมก็บอกว่าเรื่องแบบนี้โต้กันไม่จบ
มีแต่คุณนั่นแหละครับที่พยายามบอกว่าทักษิณไม่รู้ตั้งแต่ทีแรก
(เพื่ออะไร? เพื่อให้ทักษิณดูดีขึ้นหรือ?)


nopantaman_agian wrote:เหมือนผมเอาปืนยิงคนตายแล้วผมบอกว่านึกว่าปืนไม่มีลูกน่ะครับ
ศาลไม่เชื่อ
ผมก็เบิกพยานบอกศาลว่าตอนเขาเป็นเจ้าของปืนกระบอกนี้เขาไม่เคยเช็คปืนเลยว่ามีลูกหรือไม่?

ผมแก้ตัวแบบนี้ได้หรือไม่ครับ? มีน้ำหนักเพียงพอไหม?

คนอื่นไม่แทรกแซง ไม่ทำเรื่องชั่ว แปลว่าผมต้องไม่ทำเหมือนกันกระนั้นหรือ?
เอาแค่จุดนี้จุดเดียวก่อนครับที่ผมรู้สึกว่าคุณแก้ตัวให้ทักษิณอย่างน่าเกลียด

ว่ากันต่อก็ยืดยาวครับ เราอยู่กันคนละฝั่งของเหตุและผลอย่างไม่น่าเชื่อ
ตอบไปแล้วข้างบนครับ ยกตัวอย่างไม่ตรงกับประเด็นนี้ครับ


งั้นผมขอยกตัวอย่างให้ตรงประเด็นขึ้นนะครับ

มีบริษัทนึงชื่อประเทศไทย
ได้คัดเลือกว่างจ้างนายทักษิณมาเป็นผู้จัดการ ต่อจากนายชวน
นายทักษิณมาเป็นผู้จัดการแล้ว เมียนายทักษิณก็เข้ามาซื้อเศษกระดาษจากแผนกขายเศษวัสดุของบริษัท

บริษัทเขามีระเบียบห้ามเมียของพนักงานเข้ามาหาประโยชน์กับบริษัทอยู่นะครับ

นายทักษิณบอกว่าไม่เกี่ยว เขาไม่ได้เป็นพนักงานแผนกขายเศษวัสดุ เขาไม่มีอำนาจและไม่เคยสั่งการใดๆ
เมียเขามาประมูลซื้อของเอง เขาเซ็นชื่อให้ซื้อได้ก็จริง แต่เขาไม่ได้เอื้อประโยชน์

กรรมการบริษัทตัดสินว่าผิดครับ

แต่มีคนนึงมาบอกว่า เฮ่ย.. ทักษิณเขาไม่รู้ว่าเขามีอำนาจสั่งแผนกขายวัสดุได้นี่หว่า
พอถามต่อว่ากรรมการเขาตัดสินผิดเหรอ? หมอนี่ก็ตอบกลับมาว่า "เปล่า.. ไม่ได้พูดอย่างนั้น"

แต่บอกวกไปวนมาว่า "ทักษิณไม่รู้ว่ามีอำนาจ ผู้จัดการคนก่อนก็ไม่เคยสั่งงานอะไรแผนกนี้.. บลาๆๆ ฯลฯ"

คุณว่าหมอนี่ (คนที่เถียงแทนทักษิณ) เขาเป็นคนอย่างไรครับ ?
ถ้าอยากให้คนยอมรับเสียงส่วนใหญ่ เสียงส่วนใหญ่ก็ต้องรู้จักมารยาท รู้จักแสดงออกอย่างมีคุณภาพครับ...
User avatar
คลำปม
 
Posts: 1791
Joined: Sat Jan 08, 2011 6:58 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Thu Oct 06, 2011 11:33 pm

quote ไม่ไหว เดี๋ยวจะยาวไป ขอตอบทีละประเด็นนะครับ

1. อันนี้คือข้อเท็จจริง ซึ่งทั้งคุณและผมต้องยอมรับก่อน เพราะเป็นหลักปกติในการตัดสินคดีความ
คือ การตัดสินคดีจะตัดสินเฉพาะสิ่งที่กฎหมายระบุไว้เท่านั้น ซึ่งในที่นี้คือ ตัดสินว่าจำเลยมีอำนาจ
ในการกำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูหรือไม่ โดยไม่จำเป็น(และก็ไม่มีศาลที่ไหนทำ) คือไปตัดสินว่าจำเลย
"รู้" หรือ "ไม่รู้" ว่าตนเองมีอำนาจหรือไม่ ที่ทำเช่นนี้ก็เข้าใจได้ง่ายๆ เพราะการจะพิสูจน์ว่ารู้หรือไม่รู้
นั้นทำได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น มีคนหลายคนไปแต่งรถโดยติดป้ายทะเบียนเอียงลงเพื่อความสวยงาม
เขาอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ว่าการทำเช่นนั้นผิดกฏหมาย ดังนั้น ศาลจึงไม่ต้องตัดสินว่าเขารู้หรือไม่
เพียงแต่ตัดสินว่าป้ายทะเบียนที่เอียงนั้น เอียงมากจนทำให้ไม่สามารถเห็นเลขทะเบียนได้อย่างชัดเจน
หรือไม่ ซึ่งก็เป็นการผิดกฏหมาย จบข้อเท็จจริงนะครับ

2. คราวนี้ทำไมผมมาเถียงประเด็นรู้-ไม่รู้
อยากให้คุณย้อนกลับไปอ่านกระทู้ต้นเรื่องอีกทีครับ ผมเคยเขียนไว้แล้วหลายครั้งทั้งกระทู้นี้และกระทู้โน้น
ว่าผมไม่ได้มาแก้ต่างให้ทักษิณ เช่นในกระทู้นี้ความเห็นแรกที่ผมคุยกับคุณ
2 ถ้าคุณอ่านกระทู้เก่าผม คุณจะพบว่าผมไม่ได้มาแก้ตัวให้ทักษิณเลย เพียงแต่ผมมีมุมมองค่อนข้างจะคนละด้าน
กับฝั่งที่เกลียดทักษิณในหลายๆ เรื่อง (แต่บางเรื่องผมก็เห็นด้วยนะ) และผมเลือกที่จะเข้าไปในกระทู้เฉพาะประเด็น
ที่ผมสนใจเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากประวัติกระทู้ว่า ผมเข้าอยู่เฉพาะเรื่องบางเรื่อง โดยไม่เคยเข้ากระทู้ hot ในหลายประเด็น

2.1 อันนี้ขออธิบายเพิ่มในมุมมองที่คุณกล่าว คือส่วนที่พิสูจน์ได้ไม่ชัดว่าทักษิณผิดคุณก็แก้ให้เขา
แต่ส่วนที่ทักษิณผิดจริงๆคุณจะเลี่ยงไม่แตะในประเด็นนั้น
เข้าใจว่าคุณสรุปจากกระทู้ที่ดินรัชดา เพราะเท่าที่ผมจำได้ลางๆ กระทู้ที่ผมเข้าไปตอบแล้วเกี่ยวพันกับความผิดทักษิณ
จะมีแค่กระทู้นั้น (กระทู้ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นมุมมองที่แตกต่างในแง่มุมของการบริหารงานรัฐบาลเกือบทั้งสิ้นนะ ถ้าผมจำไม่ผิด)
ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ใช่นักกฏหมาย และไม่ได้เข้าข้างทักษิณ แต่ผมเลือกที่จะตัดสินใจตามหลักฐานและข้อเท็จจริง
ซึ่งหลักฐานต่างๆ ที่ใช้ในการกล่าวหาในคดีนี้ (ไปลองอ่านได้ที่กระทู้นู้นนะครับ)
เกือบทั้งหมดสามารถพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นความจริง ดังนั้น จึงไม่ได้เป็นการแก้ใน "ส่วนที่พิสูจน์ได้ไม่ชัด"
ซึ่งแน่นอนว่ามันไปขัดกับความเชื่อของคนที่เกลียดทักษิณ และพลอยทำให้ผมถูกมองว่ามาแก้ต่างให้ทักษิณไปด้วย

ซึ่งอันนี้ถ้าคุณไม่เชื่อและยังจะกล่าวหาว่าผมมาแก้ต่างให้ทักษิณ ก็จนใจจะคุยต่อเหมือนกันครับ
ผมบอกคนเกือบทุกคนที่ได้คุยกับผมและบอกมาตลอดว่าผมไม่ได้เห็นว่าทักษิณเป็นศาสดา
เพียงแต่ผมเห็นว่ากลุ่มที่แก่งแย่งอำนาจกับทักษิณนั้นใช้จุดอ่อนของประชาชนด้วยโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ
เพื่อให้คนเกลียดทักษิณมากๆ และออกมาขับไล่ทักษิณ สุดท้ายผลลับที่ได้คือกลุ่มนี้ก็ได้อำนาจ
ไปโกงกินประเทศเหมือนที่ทักษิณเคยทำ และก็จะมีประชาชนอีกหลายคนคอยเป็นเกราะกำบังให้
กลุ่มนี้โกงกินประเทศได้สะดวก โดยอาศัยจิตวิทยามวลชนหลอกลวงไปเรื่อยๆ

ซึ่งตรงนี้แหละ ตอนนี้ กลุ่มทักษิณก็ใช้หนามยอกเอาหนามบ่งด้วยการใช้จิตวิทยามวลชนสร้างคนเสื้อแดง
เป็นเกราะกำบังให้ตัวเอง และเอามาสู้กับมวลชนฝั่งตรงข้าม

คราวนี้ใครที่ซวยละครับ ถ้าไม่ใช่ประเทศไทย คนบริสุทธิ์ที่ไม่ใช่มวลชนของทั้งคู่
นั่นเป็นสาเหตุทีผมเข้ามาในประเด็นนี้ครับ

3. คำให้การของคุณชวนและบรรหาร เป็นพยานฝ่ายโจทย์ครับ ไม่ใช่ฝ่ายจำเลย

4. ตรง ทำให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่ได้รับประโยชน์จากการขายที่ดินตามฟ้องทั้งสี่แปลงได้เท่าที่ควร
ผมก็งงครับ เพราะคำพิพากษาเขียนเช่นนี้ ทำให้หลายคน(เช่นคุณคลำปม) ตีความว่าศาลหมายถึงรัฐเสียผลประโยชน์ แต่ในข้อเท็จจริงไม่เป็นเช่นนั้น
เพราะถ้าศาลเห็นว่ารัฐเสียผลประโยชน์ ศาลต้องตัดสินให้การประมูลผิดครับ และคุณพจมานต้องติดคุกครับ ซึ่งศาลก็เขียนในคำพิพากษาส่วนต้นไปแล้วว่า
การประมูลไม่ผิด อันนี้ผมงงกับข้อความประโยคนี้มากๆ เลยครับ

5. สำหรับ คคห. ถัดมาที่คุณอุปมาอุปไมย ผมขอเสริมนิดนึงให้เห็นภาพนะครับ
สมมุติว่าเหตุการณ์มันเป็นมากกว่านั้น โดยมีหัวหน้าแผนกอีกคนซึ่งอยากได้อำนาจแทนผู้จัดการที่ชื่อทักษิณ
ต้องการกำจัดผู้จัดการและรองผู้จัดการทั้งหลายออกไปให้หมด จึงได้ประโคมข่าวขึ้นมาว่า
1.เมียผู้จัดการโกง ซื้อกระดาษราคาถูกกว่าราคาจริง โรงงานเสียหายหลายล้าน 2.แถมพอซื้อไปแล้ว
ก็ออกระเบียบเลื่อนวันหยุดเพื่อให้ซื้อได้ทันก่อนกระดาษขึ้นราคา 3.นอกจากนั้นยังออกประกาศ
ปรับราคาขายต่อกระดาษให้กระดาษที่เมียซื้อไปราคาแพงขึ้น และทั้งหมดนี้ 4.ผู้จัดการ
มีเป็นคนวางแผนทั้งสิ้น แต่มีอีกคนที่เกิดความสงสัย เนื่องจากหัวหน้าแผนกคนนี้ประวัติก็ไม่ได้ดีเลย
มีคำครหาโกงกินบริษัทเยอะแยะ เลยเอาหลักฐานออกมาให้เห็นว่าคำกล่าวหาต่างๆ เหล่านั้น
ไม่ได้เป็นความจริง ที่เป็นความจริงคือระเบียบที่ค่อนข้างคลุมเครือนั้นห้ามภรรยาผู้จัดการจริง
และเมื่อมีคนถามถึงข้อ 4 เขาก็เลยอธิบายว่า ก็ข้อ 1-3 มันไม่จริง และข้อ 4 มันพิสูจน์ยาก
ทำไม คุณถึงยังจะเชื่อนายเออีกครับ ตกลงคุณตัดสินคนจากเหตุและผลหรือจากความเกลียดชัง
ไม่ไว้วางใจครับ
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Thu Oct 06, 2011 11:51 pm

Novice wrote:
ผมอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่เช้า ไล่จนหมดจนได้ สรุปว่า คุณไม่เอาพันธมารบอกว่ามีการกล่าวหาว่าการซื้อที่ดินรัชดาทำให้ประเทศเสียหาย

แต่คำพิพากษาคดีดังกล่าวไม่มีการกล่าวถึงประเด็นนี้ เพราะความผิดไอ้แม้วคือการเซ็นให้เมียไปซื้อที่ ซึ่งศาลก็พิพากษาไปแล้วว่ามันผิดจริง

แต่เมื่อกี้ผมอ่านคำพิพากษาหน้า 32 คำพิพากษาใช้คำว่าแม้ว่ากรรมการกองทุน....เห็นว่าราคาของจำเลยที่สอง เหมาะสม... แต่อาจไม่ใช่ราคาสูงสุดที่ควรจะขายก็ได้

ผมว่าศาลก็วินิจฉัยไปแล้วนี่ครับว่าถ้าได้ราคานี้รัฐอาจเสียประโยชน์


ขอบคุณนะครับที่ทนอ่านมาทั้งวันเลย หวังว่าคงมีบางส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อคุณบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ :D

คราวนี้มาถกในประเด็นคำพิพากษาหน้า 32 จริงๆ ผมไม่อยากคุยประเด็นนี้เลย เพราะมันสุ่มเสี่ยงต่อการที่บางคนจะอคติตีความว่าผมไม่เคารพคำพิพากษา

ก็ต้องออกตัวเป็นหลักฐานก่อนเลยว่าผมเคารพคำพิพากษา แต่การวิเคราะห์ในคำพิพากษาต่างๆ นั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางวิชาการเท่านั้นครับ

ในความคิดเห็นของผม ผมว่าศาลท่านเขียนเช่นนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับข้อวินิจฉัยตัวเองครับ เพราะในหน้า 37 ข้อวินิจฉัยสุดท้ายเขียนว่า
"ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิดแต่อย่างใด" ซึ่งหมายความว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ แสดงให้เห็นว่า
รัฐเสียประโยชน์จากการประมูลครั้งนี้ (ศาลต้องตัดสินจากหลักฐานครับ ถ้าไม่มีหลักฐานแต่ใช้ความเชื่อตัดสินผิดหลักยุติธรรมอย่างแรงครับ)
ดังนั้นข้อความที่คุณยกมา ผมงงมากๆ เช่นกันว่าศาลท่านเขียนลงไปทำไม

ปล. ถ้าศาลพิจารณาและพิพากษาว่ารัฐเสียประโยชน์จริง คุณพจมานต้องติดคุก ที่ดินต้องโดนยึดโดยไม่คืนเงินครับ
ไม่งั้นอาจจะเข้าข่ายเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ครับ เพราะกฏหมายบัญญัติไว้อยู่แล้ว
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 12:11 am

มารอะเก็น นี่อ่านหนังสือไม่แตก อ่านไม่รู้เรื่อง
เห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ร่วมประมูลราคาและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาท และซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน นั้น หาได้เป็นความผิดในตัวเองไม่ เหตุที่เป็นความผิดสืบเนื่องจากสถานภาพของจำเลยที่ 1 ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่กฎหมายห้ามมิให้ทำสัญญา หรือมีส่วนได้เสียกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ เป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 มีความผิดและต้องรับโทษตามมาตรา 100 (1) วรรค 3 และมาตรา 122 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์สินที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิดแต่อย่างใด และมีมติด้วยคะแนนเสียง 7 ต่อ 2 ว่า เงินที่จำเลยที่ 2 ชำระราคาที่ดินพิพาท ไม่ใช่ทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง ที่ดินพิพาทและเงินดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินอันพึงริบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) และ (2)


ผมยกเฉพาะคำพิพากษาที่คุณข้องใจมา จะเห็นว่า การซื้อขายที่ดินไม่ใช้ความผิด แต่ผิดที่ทักษิณในฐานะนายกที่มีส่วนได้เสียโดยตรง มีกฎหมายห้ามไม่ให้ทำสัญญาซื้อขายกับรัฐ

สรุปซื้อขายที่ดินไม่ผิด แต่ผิดที่เจ้าพนักงานและคู่สมรสมาทำสัญญากับรัฐ

ป.ล. ถึงตอนนี้ผมไม่รู้สึกแปลกใจแล้วว่าทำไมเสื้อแดงถึงโดนทักษิณหลอกใช้
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 12:25 am

หมวด 9 การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม
100 ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
(1) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจ กำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี


ตามมาตรานี้ทักษิณผิดชัดเจน มีไอ้บ้าที่อ้างตัวเป็นนักกฎหมายพ่นมาว่า "ถ้าอย่างนั้นนายกก็ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไม่ได้สิ" ผมก็อยากอมขี้หมาไปพ่นใส่หน้ามันให้หายมึน แล้วให้มันไปอ่านหัวข้อกฎหมายอีกครั้ง (ซื้อขายไฟฟ้ามันไม่ได้ขัดทางผลประโยชน์)

ให้นำบทบัญญัติในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับคู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามวรรคสอง โดยให้ถือว่าการดำเนินกิจการของคู่สมรสดังกล่าว เป็นการ ดำเนินกิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

อันนี้ศาลทางตีความว่าเพื่อให้การบังคับมีผลไปถึงคู่สมรส เมียทำก็เหมือนผัวทำเอง แต่ศาลตีความว่าเมียทำไม่ต้องรับผิด ผู้ที่รับผิดคือผัว!

โดยบทบัญญัติดังกล่าวให้ถือว่าการกระทำของคู่สมรสเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบัญญัติมาตรา 122 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืนมาตรา 100 ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ลงโทษแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ฝ่าฝืนมาตรา 100 แต่ไม่ได้ระบุให้ลงโทษรวมไปถึงคู่สมรสด้วย



มาตรา 102 บทบัญญัติ มาตรา 100 มกให้นำมาใช้บังคับกับการดำเนิน กิจการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม หรือตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน จำกัดมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ หน่วยงานของรัฐถือหุ้นหรือเข้าร่วมทุน

อันนี้ก็ยิ่งชัดเจน ตอกตะปูฝาโลก เพราะกองทุนฟื้นฟูขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลัง...รัฐบาลดูแล ควบคุม มีอำนาจ กำกับ
Last edited by ดราม่า on Fri Oct 07, 2011 12:43 am, edited 1 time in total.
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 12:32 am

http://www.kodmhai.com/m4/m4-10/H14/m100-103.html
เอา พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตราที่ 100-103 มาให้อ่าน

ถ้า มารอะเก็น ยังมึน ก็ให้ศิษย์น้องคลำรับหน้าที่อมน้ำมนต์พ่นใส่ซะจะได้หายมึน ส่วนศิษย์พี่ไปก่อน :lol:

ป.ล.เรื่องง่ายๆทำเป็นเรื่องยาก ถ้ายังมึนคำพิพากษาอีกนี่ก็เกินคนแล้ว
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby bloglink2011 » Fri Oct 07, 2011 12:39 am

orogaros wrote:หน้าที่พลเมืองที่ดีคือตรวจสอบนักการเมืองมันไม่ผิดครับ แต่ในเมื่อผลการตรวจสอบออกมาแล้วก็น่าจะมาขอโทษ

แต่ด้วยนิสัยถือดีหรือไงมิทราบ กลับมาถากถางต่ออีก แต่จริงๆ คนเว็บนั้นน่ะถึงมันบอกว่าครั้งหน้าจะไม่ใส่คะแนน ปชป

แต่ความจริงผมว่าเดิมทีมันก็ไม่เคยใส่ให้ ปชป อยู่แล้วนั่นหละ :lol: :lol: :lol:
User avatar
bloglink2011
 
Posts: 5
Joined: Thu Oct 06, 2011 11:53 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby Novice » Fri Oct 07, 2011 12:48 am

nopantaman_agian wrote:
Novice wrote:
ผมอ่านเรื่องนี้มาตั้งแต่เช้า ไล่จนหมดจนได้ สรุปว่า คุณไม่เอาพันธมารบอกว่ามีการกล่าวหาว่าการซื้อที่ดินรัชดาทำให้ประเทศเสียหาย

แต่คำพิพากษาคดีดังกล่าวไม่มีการกล่าวถึงประเด็นนี้ เพราะความผิดไอ้แม้วคือการเซ็นให้เมียไปซื้อที่ ซึ่งศาลก็พิพากษาไปแล้วว่ามันผิดจริง

แต่เมื่อกี้ผมอ่านคำพิพากษาหน้า 32 คำพิพากษาใช้คำว่าแม้ว่ากรรมการกองทุน....เห็นว่าราคาของจำเลยที่สอง เหมาะสม... แต่อาจไม่ใช่ราคาสูงสุดที่ควรจะขายก็ได้

ผมว่าศาลก็วินิจฉัยไปแล้วนี่ครับว่าถ้าได้ราคานี้รัฐอาจเสียประโยชน์


ขอบคุณนะครับที่ทนอ่านมาทั้งวันเลย หวังว่าคงมีบางส่วนที่เป็นประโยชน์ต่อคุณบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ :D

คราวนี้มาถกในประเด็นคำพิพากษาหน้า 32 จริงๆ ผมไม่อยากคุยประเด็นนี้เลย เพราะมันสุ่มเสี่ยงต่อการที่บางคนจะอคติตีความว่าผมไม่เคารพคำพิพากษา

ก็ต้องออกตัวเป็นหลักฐานก่อนเลยว่าผมเคารพคำพิพากษา แต่การวิเคราะห์ในคำพิพากษาต่างๆ นั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ทางวิชาการเท่านั้นครับ

ในความคิดเห็นของผม ผมว่าศาลท่านเขียนเช่นนี้ค่อนข้างขัดแย้งกับข้อวินิจฉัยตัวเองครับ เพราะในหน้า 37 ข้อวินิจฉัยสุดท้ายเขียนว่า
"ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิดแต่อย่างใด" ซึ่งหมายความว่า ไม่มีหลักฐานใดๆ แสดงให้เห็นว่า
รัฐเสียประโยชน์จากการประมูลครั้งนี้ (ศาลต้องตัดสินจากหลักฐานครับ ถ้าไม่มีหลักฐานแต่ใช้ความเชื่อตัดสินผิดหลักยุติธรรมอย่างแรงครับ)
ดังนั้นข้อความที่คุณยกมา ผมงงมากๆ เช่นกันว่าศาลท่านเขียนลงไปทำไม

ปล. ถ้าศาลพิจารณาและพิพากษาว่ารัฐเสียประโยชน์จริง คุณพจมานต้องติดคุก ที่ดินต้องโดนยึดโดยไม่คืนเงินครับ
ไม่งั้นอาจจะเข้าข่ายเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ครับ เพราะกฏหมายบัญญัติไว้อยู่แล้ว


คืองี้ครับ คำวินิจฉัยในหน้า 32 เป็นการวินิจฉัยในกรณีของการยื่นประมูลที่มีการประมูลในรูปแบบที่ผิดปกติตามที่ศาลวินิจฉัย กรณีนี้คือศาลชี้ว่าที่เป็นแบบนี้เพราะทักษิณได้มีส่วนในการประมูลด้วย ซึ่งเท่ากับผิดตามมาตรา 100 ดังที่กล่าวมา

แต่ในข้อวินิจฉัยสุดท้ายเป็นการวินิจฉัยในกรณีของการทำสัญญาซื้อขาย เมื่อการประมูลจบลง มันก็ต้องชำระราคาครับ การชำระราคาครั้งนี้ไม่ผิดกฎหมายครับ เพราะการประมูลจบลงไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่ากระบวนการประมูลมันถูกต้อง ซึ่งต้องแยกกันนะครับ ระหว่างการประมูลกับการทำสัญญาซื้อขาย

เอาข้อวินิจฉัยสองประเด็นมาปนกันมันก็เข้าใจคลาดเคลื่อนกันแบบนี้แหละ
Last edited by Novice on Fri Oct 07, 2011 12:55 am, edited 1 time in total.
User avatar
Novice
 
Posts: 643
Joined: Thu May 20, 2010 8:22 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 12:51 am

รัฐเสียหายแน่นอนจากคำพิพากษาศาล

เพราะการจะรับฟังตามคำอ้างของจำเลยทั้งสองได้ ต้องได้ความว่าสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเท่านั้น แต่กรณีนี้ก็ต้องห้ามในคุณสมบัติของจำเลยทั้งสองในการเป็นคู่สัญญา อาจเป็นผลให้สัญญาซื้อขายที่ดินพิพาทเป็นโมฆะได้ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของสัญญาเป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย และต้องมีการคืนทรัพย์สินแก่กันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 และมาตรา 172 ซึ่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ย่อมได้รับความเสียหาย เพราะต้องนำที่ดินพิพาทออกจำหน่ายใหม่ และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนี้เพิ่มขึ้น กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จึงเป็นผู้เสียหายโดยตรง



ซื้อของยังมีวางมัดจำ เพราะผู้ขายกลัวว่าผู้ที่จะซื้อเกิดเบี้ยวไม่ซื้อก็ทำให้เสียโอกาสการขาย
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby คลำปม » Fri Oct 07, 2011 12:54 am

nopantaman_agian wrote:3. คำให้การของคุณชวนและบรรหาร เป็นพยานฝ่ายโจทย์ครับ ไม่ใช่ฝ่ายจำเลย


ผมก็ไม่ได้บอกนี่ครับว่าพยานฝ่านไหน
พยานฝ่ายโจทย์ทนายจำเลยก็ซักได้นี่ครับ

4. ตรง ทำให้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินไม่ได้รับประโยชน์จากการขายที่ดินตามฟ้องทั้งสี่แปลงได้เท่าที่ควร
ผมก็งงครับ เพราะคำพิพากษาเขียนเช่นนี้ ทำให้หลายคน(เช่นคุณคลำปม) ตีความว่าศาลหมายถึงรัฐเสียผลประโยชน์ แต่ในข้อเท็จจริงไม่เป็นเช่นนั้น
เพราะถ้าศาลเห็นว่ารัฐเสียผลประโยชน์ ศาลต้องตัดสินให้การประมูลผิดครับ และคุณพจมานต้องติดคุกครับ ซึ่งศาลก็เขียนในคำพิพากษาส่วนต้นไปแล้วว่า
การประมูลไม่ผิด อันนี้ผมงงกับข้อความประโยคนี้มากๆ เลยครับ


ผมไม่งงครับ ก็หมายตามที่ศาลท่านพิพากษา
ข้อเท็จจริงก็ปรากฎตามที่พิพากษาอีกนั่นแหละครับ

- ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยประการสุดท้ายมีว่า ที่ดินพิพาทและเงินที่จำเลยที่ ๒ ชำระค่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์อันพึงริบหรือไม่
เห็นว่า การที่จำเลยที่ ๒ ร่วมประมูลราคาและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทและซื้อขายที่ดินพิพาทกับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินนั้น หาได้เป็นความผิดในตัวเองไม่
เหตุที่เป็นความผิด สืบเนื่องจากสถานภาพของจำเลยที่ ๑ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี...

องค์คณะผู้พิพากษาจึงมีมติ ด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ ว่า ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิดแต่อย่างใด
และมีมติ ด้วยคะแนนเสียงเจ็ดต่อสอง ว่า เงินที่จำเลยที่ ๒ ชำระราคาที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรง
ที่ดินพิพาทและเงินดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์อันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ (๑) และ (๒)


- ตามที่ขีดเส้นใต้ไว้คือ หัวข้อนี้ศาลท่านวินิจฉัยว่าที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์อันพึงริบหรือไม่?
แม้นการวินิจฉัยก่อนหน้านี้ว่าการซื้อขายนี้ทำให้กองทุนฯไม่ได้รับประโยชน์จากการขายที่ดินตามฟ้องทั้งสี่แปลงได้เท่าที่ควร
แต่ก็ระบุด้วยครับว่าเป็นการดำเนินการของจำเลยที่ ๒ โดยไม่ได้ความว่า จำเลยที่ ๑ มีการกระทำการอย่างใดที่แสดงให้เห็นว่าร่วมกระทำการดังกล่าว...

พูดง่ายๆว่าทักษิณหลุดตรงนี้เพราะหลักฐานยังไม่พอเพียงที่จะวินิจฉัยได้ว่าทักษิณร่วมมือกับภรรยาในการประมูลที่ดินแปลงนี้
คุณก็มาสรุปอยู่นั่นว่ารัฐไม่เสียประโยชน์ คนละเรื่องเลยครับ
ส่วนเรื่องที่คุณหญิงทำไมไม่ติดคุก ไม่มีความผิด ศาลท่านก็ระบุชัด


บทบัญญัติห้ามเด็ดขาดมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๑๐๐ (๑) ถึง (๔)
โดยบทบัญญัติดังกล่าวให้ถือว่า การกระทำของคู่สมรสเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐเอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบัญญัติมาตรา ๑๒๒ ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษของผู้ฝ่าฝืนมาตรา ๑๐๐ ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้ลงโทษแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ฝ่าฝืนมาตรา ๑๐๐
แต่ไม่ได้ระบุให้ลงโทษรวมไปถึงคู่สมรสด้วย
ซึ่งแตกต่างจากบทบัญญัติกำหนดโทษในมาตราอื่น ๆ ที่ใช้คำว่า ให้ลงโทษแก่ผู้ใดที่ฝ่าฝืน โดยไม่ระบุว่า ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ข้อกำหนดห้ามมิให้คู่สมรสของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นดำเนินกิจการอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าว ก็เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่มีช่องว่างให้เจ้าหน้าที่ของรัฐใช้เป็นข้ออ้างเพื่อหลบเลี่ยงได้...


ไม่เห็นน่างงตรงไหนเลยครับ การประมูลที่ดินไม่ใช่ความผิด ใครก็ประมูลได้ครับถ้าเข้าเงื่อนไขและไม่ใช่คู่สมรสของเจ้าหน้าที่รัฐฯ
และกฎหมายระบุความผิดแต่ตัวเจ้าหน้าที่รัฐฯ ไม่ได้ระบุไปถึงคู่สมรสครับ คุณหญิงจึงไม่ต้องรับโทษ

พูดง่ายๆคือเขาไม่ให้ภรรยาเจ้าพนักงานมาหาประโยชน์กับรัฐ
เขาก็อธิบายความชัดว่าภรรยานายกฯลงมาประมูล จึงน่าเชื่อว่าบริษัทอื่นย่อมต้องรู้ว่าไม่สมควรที่จะชนะการประมูล
(ศาลท่านใช้คำว่า "อาจไม่ใช่ราคาสูงสุดที่ควรจะขายก็ได้" ดังนั้นการซื้อขายที่ดินแปลงนี้บอกไม่ได้เลยว่า สุจริต หรือไม่สุจริต
คือมีการใช้ฐานะของภรรยานายกฯเข้ามาประมูล แต่ก็ไม่พบหลักฐานว่าทุจริต เรื่องมันแค่เอื้อประโยชน์)


5. สำหรับ คคห. ถัดมาที่คุณอุปมาอุปไมย ผมขอเสริมนิดนึงให้เห็นภาพนะครับ
สมมุติว่าเหตุการณ์มันเป็นมากกว่านั้น โดยมีหัวหน้าแผนกอีกคนซึ่งอยากได้อำนาจแทนผู้จัดการที่ชื่อทักษิณ
ต้องการกำจัดผู้จัดการและรองผู้จัดการทั้งหลายออกไปให้หมด จึงได้ประโคมข่าวขึ้นมาว่า
1.เมียผู้จัดการโกง ซื้อกระดาษราคาถูกกว่าราคาจริง โรงงานเสียหายหลายล้าน 2.แถมพอซื้อไปแล้ว
ก็ออกระเบียบเลื่อนวันหยุดเพื่อให้ซื้อได้ทันก่อนกระดาษขึ้นราคา 3.นอกจากนั้นยังออกประกาศ
ปรับราคาขายต่อกระดาษให้กระดาษที่เมียซื้อไปราคาแพงขึ้น และทั้งหมดนี้ 4.ผู้จัดการ
มีเป็นคนวางแผนทั้งสิ้น แต่มีอีกคนที่เกิดความสงสัย เนื่องจากหัวหน้าแผนกคนนี้ประวัติก็ไม่ได้ดีเลย
มีคำครหาโกงกินบริษัทเยอะแยะ เลยเอาหลักฐานออกมาให้เห็นว่าคำกล่าวหาต่างๆ เหล่านั้น
ไม่ได้เป็นความจริง ที่เป็นความจริงคือระเบียบที่ค่อนข้างคลุมเครือนั้นห้ามภรรยาผู้จัดการจริง
และเมื่อมีคนถามถึงข้อ 4 เขาก็เลยอธิบายว่า ก็ข้อ 1-3 มันไม่จริง และข้อ 4 มันพิสูจน์ยาก
ทำไม คุณถึงยังจะเชื่อนายเออีกครับ ตกลงคุณตัดสินคนจากเหตุและผลหรือจากความเกลียดชัง
ไม่ไว้วางใจครับ


ผมไปเชื่อนายเอตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ?
ผมเชื่อศาล


ปล : ผมกำลังจะส่ง คห. ปรากฎว่าเพื่อสมาชิกช่วยตอบแนวทางเดียวกันเยอะเลย
แบบนี้ผมสบายใจเลยครับที่คนอ่านคำพิพากษาแล้วไม่งงกันทั้งนั้น

เห็นใจเหมือนกันครับที่คุณงง (หรือแกล้งงงก็ไม่ทราบ)
ชี้แจงเท่าที่ชี้ได้แล้วนะครับ พอสมควรแล้ว
ผมพอล่ะ
Last edited by คลำปม on Fri Oct 07, 2011 12:58 am, edited 1 time in total.
ถ้าอยากให้คนยอมรับเสียงส่วนใหญ่ เสียงส่วนใหญ่ก็ต้องรู้จักมารยาท รู้จักแสดงออกอย่างมีคุณภาพครับ...
User avatar
คลำปม
 
Posts: 1791
Joined: Sat Jan 08, 2011 6:58 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby yoshikiryuichiro » Fri Oct 07, 2011 12:55 am

ถึงคุณคลำปม , ดราม่า , Novice , 55555 , Solidus , Bookmarks และอีกหลาย ๆ ท่านที่ตอบโต้กับ nopantaman_agian

อย่าได้สนใจคนแบบนี้ เพราะไม่มีทางที่เขาจะฟังคุณ เพราะเจตนาของเขามันบอกมาต้งแต่ชื่อที่ใช้แล้วว่า เป็นพวกรับงานมาเพื่อแก้ตัวแทนทักษิณเท่านั้น

ไม่ได้มีความคิดอื่นใดเลยที่เป็นของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

และขอแจ้งให้mod และ wm ให้ทราบด้วยว่าล็อกอินนี้มีเจตนาป่วนกระทู้และโพสต์เพื่อชักนำให้ผู้อื่นเห็นผิดเป็นชอบ

บิดเบือนสาระสำคัญของเนื้อหาเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายตน อันเป็นการกระทำที่เลวร้าย จึงขอให้ทางเว็บลบข้อความของnopantaman_agianทั้งหมด

หรือย้ายส่วนที่เป็นการป่วนเนื้อหาเข้าห้องขังเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย
大一大万大吉

一人が皆のため 皆が一人のために尽くせば 天下は幸せになれる...
これが私の正義!!

เมื่อคนๆหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อทุกๆคน และทุกๆคนจะทำทุกอย่างเพื่อคนๆนั้นเมื่อใด เมื่อนั้นแผ่นดินจะร่มเย็นเป็นสุข
นี่คือคุณธรรมของชั้น!!
User avatar
yoshikiryuichiro
 
Posts: 574
Joined: Sat May 15, 2010 10:34 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby คลำปม » Fri Oct 07, 2011 1:09 am

yoshikiryuichiro wrote:ถึงคุณคลำปม , ดราม่า , Novice , 55555 , Solidus , Bookmarks และอีกหลาย ๆ ท่านที่ตอบโต้กับ nopantaman_agian

อย่าได้สนใจคนแบบนี้ เพราะไม่มีทางที่เขาจะฟังคุณ เพราะเจตนาของเขามันบอกมาต้งแต่ชื่อที่ใช้แล้วว่า เป็นพวกรับงานมาเพื่อแก้ตัวแทนทักษิณเท่านั้น

ไม่ได้มีความคิดอื่นใดเลยที่เป็นของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

และขอแจ้งให้mod และ wm ให้ทราบด้วยว่าล็อกอินนี้มีเจตนาป่วนกระทู้และโพสต์เพื่อชักนำให้ผู้อื่นเห็นผิดเป็นชอบ

บิดเบือนสาระสำคัญของเนื้อหาเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายตน อันเป็นการกระทำที่เลวร้าย จึงขอให้ทางเว็บลบข้อความของnopantaman_agianทั้งหมด

หรือย้ายส่วนที่เป็นการป่วนเนื้อหาเข้าห้องขังเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย


ใจเย็นๆครับคุณ yoshikiryuichiro

ผมคิดว่าถ้าคุณ nopantaman_agian เล่นกระทู้สไตล์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบนี้กลับจะดีเสียอีกนะครับ
บอกตามตรงผมว่าคุณ nopantaman_agian เป็นแดงคุณภาพเลยแหละ

การโต้แย้งของแกมีลำดับความ มีเหตุ มีผลน่ารับฟังเหมือนกันครับ

ส่วนตัวผมให้แก 7 เต็ม 10 เลยนะครับ
(แกติดเรื่องหาช่องให้ทักษิณผิดน้อยที่สุดอยู่หน่อยเดียว แต่ก็ยังดีกว่าพวกที่คิดว่าทักษิณไม่เคยผิดอีกมาก)

และถึงผมอาจจะไม่แสดงความคิดเห็นกับแกในเรื่องนี้แล้ว
(เพราะผมว่าไร้ประโยชน์ แกตะแบงไปนิด)
แต่ผมก็อ่านความคิดเห็นแกได้เรื่อยๆครับ

จะให้โต้แย้งกับเสื้อแดงแบบชาบูแม้วตลอดมันไม่ไหวครับ
มีแบบคุณ nopantaman_agian บ้างผมว่าแกทำให้เราได้ลับสมองดีออก

เถียงแกมั่วๆก็โดนแกสวนซัดร่วงได้เหมือนกัน หลักแกดีเลยแหละถ้าเราเปิดใจมอง

อย่าซีเรียสมากมายเลยครับคนไทยด้วยกัน
นักการเมืองมันไกลตัวเราจะตาย ที่จริงเราๆท่านๆนี่แหละที่ทำให้สังคมนี้น่าอยู่
หนักนิดเบาหน่อยต้องให้อภัยกันครับ

เรารำคาญเขาถ้าคิดในมุมกลับเขาก็คงรำคาญเราเหมือนกันครับ
ถ้าอยากให้คนยอมรับเสียงส่วนใหญ่ เสียงส่วนใหญ่ก็ต้องรู้จักมารยาท รู้จักแสดงออกอย่างมีคุณภาพครับ...
User avatar
คลำปม
 
Posts: 1791
Joined: Sat Jan 08, 2011 6:58 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 1:12 am

yoshikiryuichiro ผมจะยกตัวอย่างอีกครั้ง แล้วไม่คุยกับเกรียนแก่แล้ว :lol:


อุปกรณ์การเล่นการพนันเช่น ไพ่ ลูกเต๋าสำหรับเล่นไฮโล ไม่มีความผิด ขายได้ด้วยซ้ำ

แต่ถ้าเมื่อไหร่มีการเล่นพนัดก็ผิด...


เช่นคุณเล่นพนันด้วยลูกเต๋ากินเงินกันอยู่ มันผิดกฎหมายการพนัน แต่ไม่ผิดที่มีลูกเต๋าในครอบครอง


ถึงคลำปม มารอะเก็นหลักไม่ดีครับ เขามั่วเยอะจริงๆ ผมว่าเขายังอ่านคำพิพากษาแบบจับประเด็นไม่ได้เลย


ป.ล. สมมุติถ้ามารอะเก็นไม่ได้ป่วนนะ คุณทำให้ผมรู้ซึ้งถึงแก่นเลยล่ะว่าทำไมเสื้อแดงโดนทักษิณหลอก
Last edited by ดราม่า on Fri Oct 07, 2011 1:19 am, edited 1 time in total.
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby Novice » Fri Oct 07, 2011 1:18 am

อันที่จริง ผมต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำ เพราะปกติผมก็ไม่ได้สนใจอะไรในคดีนี้มาก เนื่องจากประเด็นมันน้อยนิดเหลือเกิน

นอกจากที่ตัดสินว่าทักษิณผิดจริงแล้ว แทบไม่ได้มีสาระอะไรบ่งบอกถึงระบอบทักษิณซักนิด เพราะคำพิพากษาที่บ่งบอกถึงระบอบทักษิณ

มันคือคำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย ที่ถ้าผมเป็นทักษิณผมควรจะสั่งยิงทนายทิ้งมากกว่าจะมาโกรธศาล เพราะในคดีนั้นนอกจากการกร่าง

ไม่เข้าท่าใส่ศาลแล้ว ไม่มีข้อไหนเลยที่ทนายมันจะแก้ต่างว่าพวกมันไม่ผิด แก้ต่างก็แก้แบบข้าง ๆ คู ๆ ประมาณกูผิดมันก็ผิดเหมือนกัน

แต่อันที่จริง ไม่ว่าจะมองประเด็นไหน หรือ ไม่ว่าจะยกข้อหมายหรือข้อสังเกตอะไรมา ทักษิณก็ผิดจริงที่เซ็นรับรองให้พจมาน โดยไม่จำต้องวินิจฉัยเรื่องการทุจริตเลยด้วยซ้ำ

ผมไม่รู้ว่ามีข้อกล่าวหาอะไรก่อนหน้านั้น เพราะปกติผมก็ไม่ค่อยได้สนใจแกนนำบ้าน้ำลาย หรือพรรคฝ่ายค้านออกมาโต้รายวันอยู่แล้ว ผมสนใจแค่ข้อกล่าวต่อศาล

และการวินิจฉัยเท่านั้นเอง
User avatar
Novice
 
Posts: 643
Joined: Thu May 20, 2010 8:22 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby yoshikiryuichiro » Fri Oct 07, 2011 1:19 am

คลำปม wrote:
yoshikiryuichiro wrote:ถึงคุณคลำปม , ดราม่า , Novice , 55555 , Solidus , Bookmarks และอีกหลาย ๆ ท่านที่ตอบโต้กับ nopantaman_agian

อย่าได้สนใจคนแบบนี้ เพราะไม่มีทางที่เขาจะฟังคุณ เพราะเจตนาของเขามันบอกมาต้งแต่ชื่อที่ใช้แล้วว่า เป็นพวกรับงานมาเพื่อแก้ตัวแทนทักษิณเท่านั้น

ไม่ได้มีความคิดอื่นใดเลยที่เป็นของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

และขอแจ้งให้mod และ wm ให้ทราบด้วยว่าล็อกอินนี้มีเจตนาป่วนกระทู้และโพสต์เพื่อชักนำให้ผู้อื่นเห็นผิดเป็นชอบ

บิดเบือนสาระสำคัญของเนื้อหาเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายตน อันเป็นการกระทำที่เลวร้าย จึงขอให้ทางเว็บลบข้อความของnopantaman_agianทั้งหมด

หรือย้ายส่วนที่เป็นการป่วนเนื้อหาเข้าห้องขังเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย


ใจเย็นๆครับคุณ yoshikiryuichiro

ผมคิดว่าถ้าคุณ nopantaman_agian เล่นกระทู้สไตล์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบนี้กลับจะดีเสียอีกนะครับ
บอกตามตรงผมว่าคุณ nopantaman_agian เป็นแดงคุณภาพเลยแหละ

การโต้แย้งของแกมีลำดับความ มีเหตุ มีผลน่ารับฟังเหมือนกันครับ

ส่วนตัวผมให้แก 7 เต็ม 10 เลยนะครับ
(แกติดเรื่องหาช่องให้ทักษิณผิดน้อยที่สุดอยู่หน่อยเดียว แต่ก็ยังดีกว่าพวกที่คิดว่าทักษิณไม่เคยผิดอีกมาก)

และถึงผมอาจจะไม่แสดงความคิดเห็นกับแกในเรื่องนี้แล้ว
(เพราะผมว่าไร้ประโยชน์ แกตะแบงไปนิด)
แต่ผมก็อ่านความคิดเห็นแกได้เรื่อยๆครับ

จะให้โต้แย้งกับเสื้อแดงแบบชาบูแม้วตลอดมันไม่ไหวครับ
มีแบบคุณ nopantaman_agian บ้างผมว่าแกทำให้เราได้ลับสมองดีออก

เถียงแกมั่วๆก็โดนแกสวนซัดร่วงได้เหมือนกัน หลักแกดีเลยแหละถ้าเราเปิดใจมอง

อย่าซีเรียสมากมายเลยครับคนไทยด้วยกัน
นักการเมืองมันไกลตัวเราจะตาย ที่จริงเราๆท่านๆนี่แหละที่ทำให้สังคมนี้น่าอยู่
หนักนิดเบาหน่อยต้องให้อภัยกันครับ

เรารำคาญเขาถ้าคิดในมุมกลับเขาก็คงรำคาญเราเหมือนกันครับ


ขอบคุณที่ตอบกลับด้วยดี แต่ผมว่ามันก็ไม่ต่างกัน เพราะเจตนาของเขาไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง

ยิ่งพูดก็ยิ่งเห็นว่าคน ๆ นี้คงเป็นพวกทนายหน้าเงินที่เห็นผมประโยชน์เป็นใหญ่ จนสามารถทรยศต่อจรรยาบรรณอาชีพของตัวเอง

ซึ่งคนประเภทนี้เป็นภัยต่อความสงบเรียนร้อยของบ้านเมืองและสังคม ที่ทุกวันนี้ประเทศปั่นป่วนก็เพราะคนไม่มีคุณธรรมเห็นแก่ได้ไม่ใช่รึ
大一大万大吉

一人が皆のため 皆が一人のために尽くせば 天下は幸せになれる...
これが私の正義!!

เมื่อคนๆหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อทุกๆคน และทุกๆคนจะทำทุกอย่างเพื่อคนๆนั้นเมื่อใด เมื่อนั้นแผ่นดินจะร่มเย็นเป็นสุข
นี่คือคุณธรรมของชั้น!!
User avatar
yoshikiryuichiro
 
Posts: 574
Joined: Sat May 15, 2010 10:34 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Fri Oct 07, 2011 1:21 am

Novice wrote:คืองี้ครับ คำวินิจฉัยในหน้า 32 เป็นการวินิจฉัยในกรณีของการยื่นประมูลที่มีการประมูลในรูปแบบที่ผิดปกติตามที่ศาลวินิจฉัย กรณีนี้คือศาลชี้ว่าที่เป็นแบบนี้เพราะทักษิณได้มีส่วนในการประมูลด้วย ซึ่งเท่ากับผิดตามมาตรา 100 ดังที่กล่าวมา

แต่ในข้อวินิจฉัยสุดท้ายเป็นการวินิจฉัยในกรณีของการทำสัญญาซื้อขาย เมื่อการประมูลจบลง มันก็ต้องชำระราคาครับ การชำระราคาครั้งนี้ไม่ผิดกฎหมายครับ เพราะการประมูลจบลงไปแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่ากระบวนการประมูลมันถูกต้อง ซึ่งต้องแยกกันนะครับ ระหว่างการประมูลกับการทำสัญญาซื้อขาย

เอาข้อวินิจฉัยสองประเด็นมาปนกันมันก็เข้าใจคลาดเคลื่อนกันแบบนี้แหละ


มันแยกจากกันไม่ได้ครับ ต้องเข้าใจกฏหมายก่อนนะครับ ว่าไม่สามารถเขียนให้ตีความได้ว่า
"การประมูลผิดปกติเป็นเหตุให้ตัดสินได้ว่าจำเลยผิด" เพราะตามหลักสากลของกฏหมาย ต้องใช้หลักฐานครับ
ใช้ความรู้สึก (เช่นรู้สึกว่าผิดปกติ) เป็นหลักฐานในการลงโทษไม่ได้ เคยได้ยินไหมครับที่เขาบอกว่า ยกผลประโยชน์ให้จำเลย นะครับ
ดังนั้น ถ้าศาลเห็นว่าการประมูลนี้ผิดปกติหรือไม่ถูกต้อง (ตามที่คุณคิดว่าศาลคิด) ศาลต้องชี้มูลความผิดชัดแจ้ง
และคุณไปเอาหลักคิดจากไหนมาครับ ที่ว่าการประมูลไม่ถูกต้อง แต่การชำระราคาไม่ผิดกฏหมายเนี่ย
ถ้าการประมูลไม่ถูกต้อง การชำระราคาต้องเป็นโมฆะครับ เพราะเป็นผลจากการประมูล และทรัพย์ที่ได้มา
ต้องริบกลับคืน เพราะถือว่าได้มาโดยไม่ถูกต้อง และสุดท้าย ผู้ประมูลต้องได้รับโทษครับ นี่คือกฏหมาย

ถ้าคุณจะอ้างแค่ว่าศาลเขียนแค่ผิดปกติ แต่ไม่สามารถหาหลักฐานได้ ศาลทำเช่นนั้นไม่ได้ครับ
ก็คล้ายๆ กับที่นักการเมืองบางคน(ผมเรียกเขาว่านักการเมืองนะ) บอกว่ามีการซื้อเสียงหัวละ 1000 บาท
ถ้าเป็นการพูดในหน้าที่ จะต้องโทษเนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ครับ
แต่ที่รอดๆ กันมาได้ เพราะถ้าฟ้องจริงสุดท้ายอย่างมากก็ผิดฐานหมิ่นประมาท
เพราะร้อยทั้งร้อยพวกนี้ไม่มีหลักฐานชัดแจ้งครับ และคำพูดนี้ก็ไม่สามารถใช้เป็น่่คำพิพากษาทางกฏหมายให้แก่ใครได้เช่นเดียวกัน
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 1:23 am

^
^
^
มารอะเก็นนี่เกรียนตัวจริงเลยยอมรับ ไม่อ่านที่คนอื่นโพสข้างบนเลย
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Fri Oct 07, 2011 1:27 am

เห็นดราม่ามาออกตัวแรง ขอเล่นด้วยหน่อย

ดราม่านี่เกรียนตัวจริงเลยยอมรับ ไม่อ่านที่คนอื่นโพสเลย
เข้ามาแปะๆๆ แล้วก็ด่า แล้วก็ไป ไม่ทันอ่านเลยว่าเขาคุยประเด็นใดบ้าง
พฤติกรรมเกรียนชัดๆ :lol: :lol: :lol:
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby nopantaman_agian » Fri Oct 07, 2011 1:30 am

yoshikiryuichiro wrote:ถึงคุณคลำปม , ดราม่า , Novice , 55555 , Solidus , Bookmarks และอีกหลาย ๆ ท่านที่ตอบโต้กับ nopantaman_agian

อย่าได้สนใจคนแบบนี้ เพราะไม่มีทางที่เขาจะฟังคุณ เพราะเจตนาของเขามันบอกมาต้งแต่ชื่อที่ใช้แล้วว่า เป็นพวกรับงานมาเพื่อแก้ตัวแทนทักษิณเท่านั้น

ไม่ได้มีความคิดอื่นใดเลยที่เป็นของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

และขอแจ้งให้mod และ wm ให้ทราบด้วยว่าล็อกอินนี้มีเจตนาป่วนกระทู้และโพสต์เพื่อชักนำให้ผู้อื่นเห็นผิดเป็นชอบ

บิดเบือนสาระสำคัญของเนื้อหาเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของฝ่ายตน อันเป็นการกระทำที่เลวร้าย จึงขอให้ทางเว็บลบข้อความของnopantaman_agianทั้งหมด

หรือย้ายส่วนที่เป็นการป่วนเนื้อหาเข้าห้องขังเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย


อ้าว ข้ามความเห็นนี้ไปได้ไงเนี่ย เอาเลยครับ ไปแจ้ง mod wm เลยจะได้รู้กันไปว่าการคุยกันอย่างนี้คือการป่วนกระทู้
แต่ไอ้ความเห็นประเภทไม่สนใจที่คุย เข้่ามาด่า แล้วก็ไป นี่ไม่ใช่การป่วนกระทู้

เป็นบ้าไปแล้วหรือไงเจ้าหนูคนนี้ :lol: :lol: :lol:
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 1:33 am

nopantaman_agian wrote:มันแยกจากกันไม่ได้ครับ ต้องเข้าใจกฏหมายก่อนนะครับ ว่าไม่สามารถเขียนให้ตีความได้ว่า
"การประมูลผิดปกติเป็นเหตุให้ตัดสินได้ว่าจำเลยผิด" เพราะตามหลักสากลของกฏหมาย ต้องใช้หลักฐานครับ
ใช้ความรู้สึก (เช่นรู้สึกว่าผิดปกติ) เป็นหลักฐานในการลงโทษไม่ได้ เคยได้ยินไหมครับที่เขาบอกว่า ยกผลประโยชน์ให้จำเลย นะครับ
ดังนั้น ถ้าศาลเห็นว่าการประมูลนี้ผิดปกติหรือไม่ถูกต้อง (ตามที่คุณคิดว่าศาลคิด) ศาลต้องชี้มูลความผิดชัดแจ้ง

ทักษิณทำผิดมาตรา 100 ข้างบนผมอธิบายชัดเจนแล้ว คุณโง่เองที่ไม่ได้อ่าน :lol:

หลักฐานศาลท่านก็ชี้ชัดเจนแล้วผมก็โพสแล้วคุณโง่เองที่ไม่ได้อ่าน :lol:



และคุณไปเอาหลักคิดจากไหนมาครับ ที่ว่าการประมูลไม่ถูกต้อง แต่การชำระราคาไม่ผิดกฏหมายเนี่ย
ถ้าการประมูลไม่ถูกต้อง การชำระราคาต้องเป็นโมฆะครับ เพราะเป็นผลจากการประมูล และทรัพย์ที่ได้มา
ต้องริบกลับคืน เพราะถือว่าได้มาโดยไม่ถูกต้อง และสุดท้าย ผู้ประมูลต้องได้รับโทษครับ นี่คือกฏหมาย

ศาลสั่งแล้วการประมูลที่ดินเป็นโมฆะแล้วนี่มั่วนี่หว่า

ที่ผู้ประมูลไม่ต้องรับโทษผมก็อธิบายแล้วคุณโง่เองที่ไม่ได่อ่าน :lol:


ถ้าคุณจะอ้างแค่ว่าศาลเขียนแค่ผิดปกติ แต่ไม่สามารถหาหลักฐานได้ ศาลทำเช่นนั้นไม่ได้ครับ
ก็คล้ายๆ กับที่นักการเมืองบางคน(ผมเรียกเขาว่านักการเมืองนะ) บอกว่ามีการซื้อเสียงหัวละ 1000 บาท
ถ้าเป็นการพูดในหน้าที่ จะต้องโทษเนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ครับ
แต่ที่รอดๆ กันมาได้ เพราะถ้าฟ้องจริงสุดท้ายอย่างมากก็ผิดฐานหมิ่นประมาท
เพราะร้อยทั้งร้อยพวกนี้ไม่มีหลักฐานชัดแจ้งครับ และคำพูดนี้ก็ไม่สามารถใช้เป็น่่คำพิพากษาทางกฏหมายให้แก่ใครได้เช่นเดียวกัน
ก็บอกแล้วว่าหลักฐานมีชัดเจน ผมก็ยกมาแล้ว คุณมั่วเองที่ไม่ได้อ่าน :lol:
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ชาวพันทิพ ขอโทษ กลัวถูกฟ้อง กรณีโพสเรื่องกล้อง CCTV

Postby ดราม่า » Fri Oct 07, 2011 1:37 am

:lol:
nopantaman_agian wrote:เห็นดราม่ามาออกตัวแรง ขอเล่นด้วยหน่อย

ดราม่านี่เกรียนตัวจริงเลยยอมรับ ไม่อ่านที่คนอื่นโพสเลย
เข้ามาแปะๆๆ แล้วก็ด่า แล้วก็ไป ไม่ทันอ่านเลยว่าเขาคุยประเด็นใดบ้าง
พฤติกรรมเกรียนชัดๆ :lol: :lol: :lol:


หลักฐานการมั่วของ มารอะเก็น คือผมโพสอธิบายแล้วข้างบน แต่คุณแค่มาพ่นๆๆๆๆ โดยไม่อ่านที่ผมโพส แล้วจะให้คนอื่นอธิบายต่อทำไม :lol:

หลักฐานที่สองคือ ในจหน้าที่สองผมแฉมารอะเก็นแล้วว่า มั่วว่าคุณคลำปเป็นคนตั้งกระทู้แล้วไปด่าเขาเฉยเลย :lol:


สรุป ขอพิพากษาว่า มารอะเก็น เป็นคนมั่ว และเกรียนเฒ่า ไม่สมควรที่จะไปอธิบายอะไรให้มันฟังอีกเพราะมันทั้งมั่วทั้งเน่า แค่ตั้งใจมาป่วนให้สมาชิกหน่ายจนหนี :lol:

คำวินิฉัยส่วนบุคคล มารอะเก็น ก็รู้แหละว่าทักษิณผิด แต่แถเพราะป่วนเท่านั้น :twisted: ที่ผมเชื่อเช่นนั้นเพราะมันไม่อ่านคำเห็นคนอื่นเลย
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

PreviousNext

Return to สภากาแฟ



cron