nopantaman_agian wrote::lol: เอ้า พวกแมงเม่าเกลียดแดงมากันใหญ่ แต่ไปคุยกันก่อนดีไหม ตกลงจะให้ดราม่า wrote:กฎหมายกำหนดชัดเจนว่า การซื้อขายที่ดินไม่ผิด แต่ผิดที่นักการเมืองไปทำสัญญา
หรือดราม่า"โดยสามัญสำนึก รัฐเสียประโยชน์แน่นอน
หรือ
[quote="Novice wrote:เอ่อ พออ่านไม่เอาพันธมารอีกรอบเนี่ย เริ่มรู้สึกแล้วครับ พี่แกวนเวียนไอ้กรอบความคิดประมาณขายที่ดินรัฐไม่เสียผลประโยชน์อยู่นั่นแหละครับ ก็ศาลเขาพิพากษามาแบบนั้นชัดเจนอยู่ในคำพิพากษาด้วยซ้ำ พี่แกก็ยังบอกอีกว่าศาลไม่มีสิทธิไปว่าว่าการขายทำให้รัฐเสียหายอีก แล้วแบบนี้บอกเคารพคำพิพากษาได้ไงเนี่ย เคารพคำพิพากษาเฉพาะบางส่วนบางส่วนไม่เคารพมีด้วยเหรอ
ตอบดราม่านะ ประเด็นที่ดราม่าบอกว่า การซื้อขายที่ดินไม่ผิด แต่ผิดที่นักการเมืองไปทำสัญญา นั่นแหละที่เป็นประเด็นเริ่มต้น
เพราะผมก็บอกไปตั้งแต่กระทู้นู้นแล้วว่าทักษิณผิดที่ไปทำสัญญา แต่การประมูลไม่ได้มีการทุจริตและส่งผลให้การซื้อขายที่ดินผิด
ไอ้ประเด็นทุจริตทั้งหลายเป็นการใส่สีตีไข่ของกลุ่มขั้วอำนาจตรงข้ามทักษิณ
แล้วก็มีล็อคอินหลายล็อคอินเข้ามาเถียงยาวเหยียด แตกประเด็นไปมา ตั้งแต่เรื่อง แก้กฎหมายสร้างตึกสูง,
เลื่อนวันหยุดปีใหม่, จนมาถึงกฎหมายตัดสินว่าผิด เพราะทักษิณรู้ว่ามีอำนาจ(แถมใช้อำนาจในการทุจริตด้วยนะ )
ยาวมาจนถึงตอนนี้ ดราม่าก็มาช่วยขมวดปมกลับที่เดิม งั้นช่วยไปบอกบุ็คมาร์ค, ฯลฯ ให้เข้าใจด้วยได้ไหม
ปล. Novice ไปลงเรียนกฎหมายที่รามไหม ศาลพิพากษาตรงไหน อยู่ในส่วนของ เกริ่นนำ ข้อวินิจฉัย หรือคำพิพากษาในประเด็นความผิดใด
ตั้งแต่กระทู้โน้น ผมก็เอา บทความของ คุณสมลักษณ์ จัดกระบวนพล มาตอบคุณกับ daoloi ตั้งแต่โพสต์แรกที่ผมโต้กับคุณ คุณบอกให้ผมไปอ่านคำตัดสินของศาลใหม่ให้ละเอียด เพื่ออะไร เพื่อจะเถียงในสิ่งที่ผมเอาบทความของคุณสมลักษณ์มาใช่หรือไม่ แล้วคุณก็มาอ้างว่า คุณไม่ก้าวล่วงในคำพิพากษา แล้วก็ไปเล่นเรื่องอื่นทันที เออ วุ้ย
v
v
v
Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ
by nopantaman » Wed Aug 03, 2011 2:02 am
Bookmarks wrote:
อ้าว ตีกันเองซะแล้ว สรุปแล้ว nopantaman อ่านคำพิพากษาไม่ละเอียด ส่วน dowloi อ่านคำพิพากษาไม่เข้าใจ
มาตรา ๑๐๐ ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดดำเนินกิจการดังต่อไปนี้
๑) เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี
๒) ………………………….
มาตรา ๑๐๐ วรรคสองบัญญัติว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งใดที่ต้องห้ามมิให้ดำเนินกิจการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนด” (ซึ่งปัจจุบันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.กำหนดอยู่ ๒ ตำแหน่ง คือ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี)
กฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิด และความผิดตามกฎหมายหมวดนี้ ตั้งแต่ มาตรา ๑๐๐ ถึง มาตรา ๑๐๓ (รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลเกินสามพันบาท) เมื่อกระทำไปแล้วจะอ้างว่าไม่มีเจตนาทุจริตนั้นฟังไม่ขึ้น เพราะไม่ต้องทุจริตก็มีความผิดแล้ว
คำพิพากษา --- จำเลยที่ ๑ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการและประชาชน แต่จำเลยที่ ๑ กลับฝ่าฝืนบทบัญญัติของกฎหมายทั้งที่จำเลยที่ ๑ เป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องกระทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดี ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ประพฤติตนในสิ่งที่ดีงามตามจริยธรรมของนักการเมือง ให้เหมาะสมกับที่ได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ จึงไม่สมควรรอการลงโทษ”
by nopantaman wrote
ถ้าอยากร่วมวิเคราะห์แสดงความคิดเห็นก็ยินดีครับ ไม่มีใครตีกันหรอก มีแต่คุณตีตัวเองเท่านั้นแหละครับ
สำหรับประเด็นมาตราที่คุณยกมาผมอ่านมาหลายรอบแล้ว และเข้าใจครับ แต่สิ่งที่ชวนถกกันคือ
ส่วนคำขอให้ริบทรัพย์นั้น การที่จำเลยที่ 2 ร่วมประมูลราคาและทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพิพาทนั้นหาได้เป็นความผิดในตัวเองไม่ เหตุที่เป็นความผิดสืบเนื่องจากฐานะของจำเลยที่ 1 ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กฎหมายห้ามมิให้กระทำสัญญาหรือมีส่วนได้เสียกับหน่วยงานของรัฐเป็นเหตุให้จำเลยที่ 1 มีความผิดและต้องรับโทษในความผิดดังกล่าวที่ดินพิพาทจึงไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยทั้งสองได้มาจากการกระทำความผิด ส่วนเงินที่จำเลยที่ 2 ชำระราคาที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิดโดยตรงทรัพย์ทั้งสองอย่างจึงไม่ใช่ทรัพย์อันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) และ (2)
เคยอ่านคำพิพากษาอย่างละเอียดไหมครับ หรือสนใจอ่านแต่ส่วนที่เป็นความผิดของทักษิณเท่านั้น