ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby chanbaan » Wed Oct 05, 2011 2:37 pm

สิ่งที่คนธรรมศาสตร์ต้องเข้าใจแยกแยะให้ดีว่า ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดจากปรีดี แม้ท่านจะพยายามสร้างกระแส แต่ความจริงมันเป็นเพียงการอาศัยร่องรอยทางประวัติศาสตร์เพื่อชื่อเสียงและการเพิ่มความน่าเชื่อถือต่อการปฏิวัติรัฐประหาร 2475 เท่านั้น


มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือกำเนิดขึ้นจากการจัดตั้งโรงเรียนกฎหมาย[6] เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2440 โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม แต่ครั้งมีพระยศที่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ฯ เพื่อให้การศึกษาอบรมด้านนิติศาสตร์โดยเฉพาะซึ่งไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้[ต้องการอ้างอิง] อย่างไรก็ดี แม้ครั้งนั้นมีสถานะเป็นแต่โรงเรียนอันมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ก็ได้มีแจ้งความของโรงเรียนเกี่ยวกับกำหนดการสอบไล่ของนักเรียนกฎหมายลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาอันเป็นหนังสือพิมพ์ข่าวราชการด้วย[ต้องการอ้างอิง] สำหรับที่ตั้งของโรงเรียนกฎหมายนั้นได้แก่ห้องเสวยของเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมซึ่งอยู่ถัดจากห้องทรงงาน[ต้องการอ้างอิง] โดยเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมทรงให้การศึกษาด้วยพระองค์เองเมื่อทรงเสร็จสิ้นการเสวยพระกระยาหารกลางวันแล้ว ครั้นมีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงมีการย้ายไปทำการเรียนการสอนยังตึกสัสดีหลังกลาง กระทรวงยุติธรรม

พ.ศ. 2453 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ฯ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงพ้นจากตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้นโรงเรียนกฎหมายก็ทรุดโทรมตามลำดับ และต้องไปเปิดทำการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร และที่เรือนไม้หลังเล็ก ๆ ระหว่างตึกศาลแพ่งกับตึกเก๋งจีนซึ่งบัดนี้ทำลายลงแล้ว
พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงรับโรงเรียนกฎหมายไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยให้สังกัดกระทรวงยุติธรรม และให้เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโรงเรียนนี้ โดยสถานที่เรียนนั้นย้ายมายังตึกกรมประชาสัมพันธ์เดิมบริเวณเชิงสะพานผ่านพิภพลีลา


ในปี พ.ศ. 2475 ได้เกิดการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาสู่ระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทย เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน โดยในคำประกาศของคณะราษฎรในวันยึดอำนาจกล่าวว่า การที่ราษฎรยังถูกดูหมิ่นว่ายังโง่อยู่ ไม่พร้อมกับระบอบประชาธิปไตยนั้น “เป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่” นโยบายหรือหลักประการที่ 6 ใน หลัก 6 ประการของคณะราษฎร จึงระบุไว้ว่า “จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร” สถาบันศึกษาแบบใหม่ที่เปิดกว้างให้ประชาชนชาวสยามได้รับการศึกษาชั้นสูง โดยเฉพาะที่จะรองรับการปกครองบ้านเมืองที่เปลี่ยนไป จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมาคู่กันกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
พ.ศ. 2476 รัฐบาลได้จัดตั้งคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นแห่งแรกในประเทศไทย แล้วให้โอนโรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม ไปสมทบกับคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 เมษายน ปีนั้นเอง ครั้งนั้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดให้การเรียนการสอนของโรงเรียนกฎหมาย เป็นแผนกวิชาหนึ่งในคณะดังกล่าว ทั้งนี้ การโอนไปสมทบดังกล่าวเป็นแต่ทางนิตินัย ทว่าโดยพฤตินัยแล้ว ยังคงจัดการเรียนการสอนยังคงอยู่ที่เชิงสะพานผ่านพิภพลีลาเช่นเดิม ซึ่งการให้โอนโรงเรียนกฎหมายไปสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนี้เป็นอีกแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้เกิดการก่อตั้ง มธก. ขึ้น
โดยกลุ่มอดีตนักเรียนโรงเรียนกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม กล่าวคือได้สร้างความไม่พอใจให้แก่นักเรียนโรงเรียนกฎหมาย ที่ต้องการให้ยกฐานะโรงเรียนของตนเป็นมหาวิทยาลัยดังเช่นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่กลับถูกทำให้เสมือนถูกยุบหายไป จึงมีผลผลักดันให้นักเรียนกฎหมายดังกล่าวเคลื่อนไหวหนุนให้มีการก่อตั้ง มธก. ขึ้น โดยเมื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองนั้น ได้โอนทรัพย์สินตลอดจนคณาจารย์ของโรงเรียนกฎหมายเดิม เข้ามาสังกัดในมหาวิทยาลัยใหม่นี้ด้วย

ด้วยเหตุทั้งหมดนี้ จึงได้มีการตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง พุทธศักราช 2476 ขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ปีนั้น และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ปีเดียวกัน
.
อ้างอิงจากสารานุกรมออนไลน์
ซึ่งเราก็ควรเข้าใจบริบทที่แท้จริงด้วยว่า หากเราใส่ร้ายเจ้า เราก็จะมองว่าเราคิดเร็วแต่เจ้าขัดไม่ยอมให้การสนีบสนุน แต่ในความจริงความเป็นขั้นเป็นตอนของการพัฒนากระบวนการศึกษานั้น เจ้าได้วางรากฐานเอาไว้อย่างดี เพียงแต่นายปรีดีนั้นต้องการเป็นใหญ่ จึงกระสันใช้ตำแหน่งหน้าที่สารพัดเพียงเพื่อยกตนเองให้เทียบเท่ากับเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินในยุคสมัยนั้นก็แค่นั้นเอง
อุดมการณ์ไม่ใช่คลิก แต่ต้องคิด คิดไปเรื่อยเลยวุ่ย
พุทธเจ้านำทาง ธรรมประคองใจ จิตใจวุ่นวาย ผิดพลาดพลั่งเผลอ มันเป็นสัจจะธรรมของคนที่ยังคน(เราเอง)
"เกลียดปฏิวัติไทยคม ชื่นชมปฏิวัติสีขาว เกลียดนักการเมืองขี้ฉอ ชื่นชอบนักการเมืองยึดมั่นอุดมการณ์"
User avatar
chanbaan
 
Posts: 2001
Joined: Wed Aug 19, 2009 9:25 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby vee » Wed Oct 05, 2011 3:08 pm

แต่ในนี้ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B% ... 4%E0%B9%8C
เขียนเอาไว้ว่า

เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ประศาสน์การเพียงคนเดียวของมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง


และ

ในขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปรีดี พนมยงค์ ได้สถาปนา "มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง" (มธก.) ขึ้นเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2477 และได้รับแต่งตั้งเป็น "ผู้ประศาสน์การ"[48] (พ.ศ. 2477 - พ.ศ. 2490) คนแรกและคนเดียวของมหาวิทยาลัย




ซึ่งผมคิดว่าเขาคงก่อตั้งจริง เพราะได้ทิ้งเชื้อล้มเจ้าไว้ในธรรมศาสตร์มากมาย ผ่านทางการปลูกฝัง การสอน รวมถึงบุคคลที่สืบทอดเจตนารมณ์ต่อเนื่องกันมาเรื่อยๆ
อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ม.ที่มีปัญหาเรื่องการล้มเจ้ามากที่สุดก็หนีไม่พ้นม.ธรรมศาสตร์ นิติราษฎร์ก็ที่นี่, ใจสุนัข อึ๊งภากรณ์ก็ที่นี่, และที่นี่ก็รับเด็กที่ชื่อก้านธูป ในขณะที่อื่นๆเขาพากันปฏิเสธ
ผมคิดว่าธรรมศาสตร์น่าจะตั้งชื่อใหม่ให้ถูกต้องสมบูรณ์ด้วยซ้ำ เช่น ชื่อ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการล้มเจ้า.
User avatar
vee
 
Posts: 158
Joined: Thu Sep 08, 2011 6:50 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby big boss » Wed Oct 05, 2011 3:10 pm

เหอะ เหอะ ตั้งชื่อกระทู้ซะ.......เดี๋ยวก็โดนศิษย์เก่าธรรมศาสตร์สวนเอาบ้างหรอก :lol: :lol: :lol:
User avatar
big boss
 
Posts: 146
Joined: Mon Jul 04, 2011 9:20 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby chanbaan » Wed Oct 05, 2011 3:18 pm

vee wrote:แต่ในนี้ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B% ... 4%E0%B9%8C
เขียนเอาไว้ว่า

เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ประศาสน์การเพียงคนเดียวของมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง


และ

ในขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปรีดี พนมยงค์ ได้สถาปนา "มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง" (มธก.) ขึ้นเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2477 และได้รับแต่งตั้งเป็น "ผู้ประศาสน์การ"[48] (พ.ศ. 2477 - พ.ศ. 2490) คนแรกและคนเดียวของมหาวิทยาลัย




ซึ่งผมคิดว่าเขาคงก่อตั้งจริง เพราะได้ทิ้งเชื้อล้มเจ้าไว้ในธรรมศาสตร์มากมาย ผ่านทางการปลูกฝัง การสอน รวมถึงบุคคลที่สืบทอดเจตนารมณ์ต่อเนื่องกันมาเรื่อยๆ
อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ม.ที่มีปัญหาเรื่องการล้มเจ้ามากที่สุดก็หนีไม่พ้นม.ธรรมศาสตร์ นิติราษฎร์ก็ที่นี่, ใจสุนัข อึ๊งภากรณ์ก็ที่นี่, และที่นี่ก็รับเด็กที่ชื่อก้านธูป ในขณะที่อื่นๆเขาพากันปฏิเสธ
ผมคิดว่าธรรมศาสตร์น่าจะตั้งชื่อใหม่ให้ถูกต้องสมบูรณ์ด้วยซ้ำ เช่น ชื่อ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการล้มเจ้า.

โดยกลุ่มอดีตนักเรียนโรงเรียนกฎหมายของกระทรวงยุติธรรม กล่าวคือได้สร้างความไม่พอใจให้แก่นักเรียนโรงเรียนกฎหมาย ที่ต้องการให้ยกฐานะโรงเรียนของตนเป็นมหาวิทยาลัยดังเช่นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่กลับถูกทำให้เสมือนถูกยุบหายไป จึงมีผลผลักดันให้นักเรียนกฎหมายดังกล่าวเคลื่อนไหวหนุนให้มีการก่อตั้ง มธก. ขึ้น โดยเมื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองนั้น ได้โอนทรัพย์สินตลอดจนคณาจารย์ของโรงเรียนกฎหมายเดิม เข้ามาสังกัดในมหาวิทยาลัยใหม่นี้ด้วย
อุดมการณ์ไม่ใช่คลิก แต่ต้องคิด คิดไปเรื่อยเลยวุ่ย
พุทธเจ้านำทาง ธรรมประคองใจ จิตใจวุ่นวาย ผิดพลาดพลั่งเผลอ มันเป็นสัจจะธรรมของคนที่ยังคน(เราเอง)
"เกลียดปฏิวัติไทยคม ชื่นชมปฏิวัติสีขาว เกลียดนักการเมืองขี้ฉอ ชื่นชอบนักการเมืองยึดมั่นอุดมการณ์"
User avatar
chanbaan
 
Posts: 2001
Joined: Wed Aug 19, 2009 9:25 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby chanbaan » Wed Oct 05, 2011 3:21 pm

big boss wrote:เหอะ เหอะ ตั้งชื่อกระทู้ซะ.......เดี๋ยวก็โดนศิษย์เก่าธรรมศาสตร์สวนเอาบ้างหรอก :lol: :lol: :lol:

กลัวตายล่ะ ปรีดี ไม่ใช่พ่อใช่แม่ แถมยังไม่รู้เลยว่า ม.ธรรมศาสตร์นั้นดีอย่างไง มีนักการเมืองแดงบ้างเหลืองบ้าง ตีกันนัวในรัฐสภาบ่อยไป ไม่รู้ว่าจุดยืนที่แท้จริงของธรรมศาสตร์นั้นคืออะไร จะเอาเจ้า ไม่เอาเจ้า หรือจะยกสามัญชนให้เทียบชั้นเจ้า ด้วยวาทะกรรมว่า "เจ้าห้ามยุ่งการเมือง" แบบนี้หรือเปล่า นักกฏหมายหัวปรีดี ยุคปฏิวัติรัฐประหาร 2475 ดูจะมีเหตุผลสิน่ะ
อุดมการณ์ไม่ใช่คลิก แต่ต้องคิด คิดไปเรื่อยเลยวุ่ย
พุทธเจ้านำทาง ธรรมประคองใจ จิตใจวุ่นวาย ผิดพลาดพลั่งเผลอ มันเป็นสัจจะธรรมของคนที่ยังคน(เราเอง)
"เกลียดปฏิวัติไทยคม ชื่นชมปฏิวัติสีขาว เกลียดนักการเมืองขี้ฉอ ชื่นชอบนักการเมืองยึดมั่นอุดมการณ์"
User avatar
chanbaan
 
Posts: 2001
Joined: Wed Aug 19, 2009 9:25 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ช่อมัลลิกา » Wed Oct 05, 2011 4:08 pm

ในความคิดของดิฉันแนวคิดของท่านปรีดีดีนะคะ การที่ท่านเอาแนวคิดมาจากฝรั่งเศสมานั้นเป็นเจตนาดี อยากให้ทุกคนเสมอภาค มีภราดรภาพ เพียงแต่ท่านขาดความคิดไคร่ครวญ ในการศึกษาวัฒนธรรมและวิถีประชาของคนไทยว่ามันพร้อมแล้วหรือยัง ท่านเอามาทั้งดุ้นเลย คนไทยยังรับอะไรแบบปุ๊บปั๊บแบบนั้นไม่ทัน

ประกอบกับท่านพลาดอย่างแรงที่สมรู้ร่วมคิดกับแกนนำที่ส่วนมากเป้นทหารที่มีแต่ความทะเยอทะยานทางการเมือง ท้ายสุดพวกทหารที่ช่วยท่านทำการเปลี่ยนแปลงนั่นแหล่ะเป้นผู้สร้างวงจรอุบาทว์มาจนถึงทุกวันนี้ ถามว่าเป้นความผิดของใคร ต้องตอบว่าเป้นความผิดของคณะราฎษร์โดยรวมนั่นแหล่ะที่สร้างวงการอุบาทว์นี้ มีรัฐประหาร ปฏิวัติหักหลังพวกเดียวกันเอง ต่อๆมา ทั้งๆที่ตอนนั้นยุวกษัตริย์แทบจะไม่มีบทบาทใดๆ ตรงกันข้ามต้องตกอยู่ในกรรมมือของคณะราษฎร์ด้วยซ้ำ คณะราษฎร์ทำประชาธิปไตยพังด้วยน้ำมือตัวเองแท้ๆ แล้วนี่ดูสิค่ะ ผ่านมา 70 ปี แล้วประชาธิปไตยยังหามีไม่ พวกที่รู้งูๆปลาๆอย่างควายแดงก็เย้วๆว่าจะปลดแอก เรียกร้องประชาธิปไตยให้ประชาชน ถามหน่อยเถอะค่ะ พ่อพวกคุณพวกคณะราฎษร์หน่ะค่ะ ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย พวกที่อ้างตัวเป้นลูกหลานหน่ะ เข้าใจแค่ไหนกันเนี่ยะค่ะ

ถามว่าท่านปรีดี เป็นผู้ร่วมตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ใช่ไหม.....อันนี้ ตอบว่าใช่ค่ะ
User avatar
ช่อมัลลิกา
 
Posts: 233
Joined: Tue May 18, 2010 8:11 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby PookLook » Wed Oct 05, 2011 4:11 pm

สมคิดอาจจะคิดแบบนี้ก็ได้นะ :lol:
User avatar
PookLook
 
Posts: 1067
Joined: Sun Feb 27, 2011 1:00 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby 3.5v » Wed Oct 05, 2011 4:14 pm

เมียผมก็ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์น่ะ แต่ไม่เห็นคิดจะล้มเจ้าเลย :lol:
User avatar
3.5v
 
Posts: 841
Joined: Thu Apr 22, 2010 9:00 am
Location: ฉะเชิงเทรา

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby chanbaan » Wed Oct 05, 2011 4:17 pm

ช่อมัลลิกา wrote:ในความคิดของดิฉันแนวคิดของท่านปรีดีดีนะคะ การที่ท่านเอาแนวคิดมาจากฝรั่งเศสมานั้นเป็นเจตนาดี อยากให้ทุกคนเสมอภาค มีภราดรภาพ เพียงแต่ท่านขาดความคิดไคร่ครวญ ในการศึกษาวัฒนธรรมและวิถีประชาของคนไทยว่ามันพร้อมแล้วหรือยัง ท่านเอามาทั้งดุ้นเลย คนไทยยังรับอะไรแบบปุ๊บปั๊บแบบนั้นไม่ทัน

ประกอบกับท่านพลาดอย่างแรงที่สมรู้ร่วมคิดกับแกนนำที่ส่วนมากเป้นทหารที่มีแต่ความทะเยอทะยานทางการเมือง ท้ายสุดพวกทหารที่ช่วยท่านทำการเปลี่ยนแปลงนั่นแหล่ะเป้นผู้สร้างวงจรอุบาทว์มาจนถึงทุกวันนี้ ถามว่าเป้นความผิดของใคร ต้องตอบว่าเป้นความผิดของคณะราฎษร์โดยรวมนั่นแหล่ะที่สร้างวงการอุบาทว์นี้ มีรัฐประหาร ปฏิวัติหักหลังพวกเดียวกันเอง ต่อๆมา ทั้งๆที่ตอนนั้นยุวกษัตริย์แทบจะไม่มีบทบาทใดๆ ตรงกันข้ามต้องตกอยู่ในกรรมมือของคณะราษฎร์ด้วยซ้ำ คณะราษฎร์ทำประชาธิปไตยพังด้วยน้ำมือตัวเองแท้ๆ แล้วนี่ดูสิค่ะ ผ่านมา 70 ปี แล้วประชาธิปไตยยังหามีไม่ พวกที่รู้งูๆปลาๆอย่างควายแดงก็เย้วๆว่าจะปลดแอก เรียกร้องประชาธิปไตยให้ประชาชน ถามหน่อยเถอะค่ะ พ่อพวกคุณพวกคณะราฎษร์หน่ะค่ะ ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย พวกที่อ้างตัวเป้นลูกหลานหน่ะ เข้าใจแค่ไหนกันเนี่ยะค่ะ

ถามว่าท่านปรีดี เป็นผู้ร่วมตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ใช่ไหม.....อันนี้ ตอบว่าใช่ค่ะ

ครับร่วมตั้งหรือพลักดัน แต่คงไม่ใช่แค่คิดคนเดียวสร้างคนเดียว เหมือนพวกนิติราษฎร์สรรเสริญเป็นแน่
อุดมการณ์ไม่ใช่คลิก แต่ต้องคิด คิดไปเรื่อยเลยวุ่ย
พุทธเจ้านำทาง ธรรมประคองใจ จิตใจวุ่นวาย ผิดพลาดพลั่งเผลอ มันเป็นสัจจะธรรมของคนที่ยังคน(เราเอง)
"เกลียดปฏิวัติไทยคม ชื่นชมปฏิวัติสีขาว เกลียดนักการเมืองขี้ฉอ ชื่นชอบนักการเมืองยึดมั่นอุดมการณ์"
User avatar
chanbaan
 
Posts: 2001
Joined: Wed Aug 19, 2009 9:25 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby คืนหมาหอน » Wed Oct 05, 2011 4:29 pm

:lol: :lol: เมียผมนิติฯ ธรรมศาสตร์เหมือนกัน....เค้ารู้กันทั้งนั้นแหละว่า

ไอ้พวกสารเลวพวกนี้จะจัดสัมนา จัดเสวนา เนื้อหาเกี่ยวกับล้มสถาบันอยู่บ่อยๆ

เด็กนศ. ที่ยังเรียนบางคนถ้าหัวอ่อน จิตอ่อน จะโดนเป็นพวกแรก....เอามาล้างสมอง ฝังเชื้อ

โดยมีผลกระทบกับเกรด ถ้ามีการต่อต้าน ....ส่วนใหญ่จะหลีกหนีให้ห่างๆจากพวกมัน

คนทั่วไปที่เข้าฟังจะหน้าเดิมๆ นั่งหน้ามึน มีเขางอก เย้วๆๆๆๆ ในห้องประชุม

หนังสือหนังหาก็ขายกันเกร่อ รอบๆ มธ. ไม่เห็นจะมีใครไปจัดการซะที :twisted:

ซ้ายจัด.....ล้มเจ้า....นิยมคอมฯ....เชื้อชั่วไม่มีวันตายจาก มธ.
"คนดีนั้นก็เหมือนคนบ้า หากไม่มีปัญญา"
User avatar
คืนหมาหอน
 
Posts: 34
Joined: Thu Sep 29, 2011 9:56 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby Narcissus » Wed Oct 05, 2011 5:02 pm

แต่ผมเบื่อที่ "คนบางส่วน" ดันทะเล่อทะล่ามาอ้างตัวเป็น "เสียงส่วนใหญ่" ในธรรมศาสตร์ครับ

ผมว่ามันเป็นคนแค่ไม่กี่หยิบมือเท่านั้นล่ะ จากที่นี่ที่ออกมาเรียกร้องอะไรแบบนี้ แต่สื่อดันประโคมไปราวกับทั้งมหาลัยสมรู้ร่วมคิดไปด้วยกัน ;)

และยิ่งแล้วใหญ่ สังคมก็ดันนำภาพคน "คนบางส่วน" มาแทนเป็นภาพของ "คนส่วนใหญ่" ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนั้นเลย
Don't feed the troll
แต่ถ้าเห็น troll เป็นของเล่นก็ไม่ว่ากัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า !
User avatar
Narcissus
 
Posts: 12
Joined: Wed Oct 05, 2011 4:58 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby TheKhanfather » Wed Oct 05, 2011 5:05 pm

ทุกสถาบันมีทั้งศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์เก่าที่มีความคิดแบบ นปช.ทั้งนั้นล่ะครับ

แต่ถ้าทุกฝ่ายหวังดีกันจริงๆ ก็อย่าไปอ้างชื่อเสียง และบุญเก่าเลยครับ

จะเคลื่อนไหวก็ขอให้เป็นในนามตัวท่าน กลุ่มท่าน

เปิดหน้ามาคุยกัน อย่าอ้างแต่วิชาการที่ท่านสรุปเอง อย่าเอาบุญเก่าของสถาบันมาทำลาย

หรืออยากมีชื่อที่เกี่ยวข้องก็ระบุจำนวนไปเลยว่ากี่คน เอาให้ชัดเจน

สุดท้ายผมก็เชื่อว่าความดี ความถูกต้อง ความสุจริต จะทำให้พวกเรามีกินได้มากกว่าประชาธิปไตยที่หลายๆท่านเรียกร้องกัน

อย่าอ้างว่ารักสถาบัน(การศึกษา)ของท่านแต่เอามาป่นปี้เช่นนี้เลย
User avatar
TheKhanfather
 
Posts: 36
Joined: Fri Nov 27, 2009 1:45 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby slim » Wed Oct 05, 2011 5:08 pm

Narcissus wrote:แต่ผมเบื่อที่ "คนบางส่วน" ดันทะเล่อทะล่ามาอ้างตัวเป็น "เสียงส่วนใหญ่" ในธรรมศาสตร์ครับ

ผมว่ามันเป็นคนแค่ไม่กี่หยิบมือเท่านั้นล่ะ จากที่นี่ที่ออกมาเรียกร้องอะไรแบบนี้ แต่สื่อดันประโคมไปราวกับทั้งมหาลัยสมรู้ร่วมคิดไปด้วยกัน ;)

และยิ่งแล้วใหญ่ สังคมก็ดันนำภาพคน "คนบางส่วน" มาแทนเป็นภาพของ "คนส่วนใหญ่" ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนั้นเลย


แพ้ระดับประเทศ หันเข้าระดับมหาลัย เหมาว่าเป็นชนกลุ่มน้อย อะอ้ากๆๆๆ
สมาคมคนอกหักทางการเมือง พรรคชนกลุ่มน้อยคอยความหวัง รายงานตัวจ้า บะบะ มะมะ
User avatar
slim
 
Posts: 194
Joined: Sun Oct 02, 2011 9:10 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby Ja-Ded » Wed Oct 05, 2011 5:50 pm

มหาลัยเป็นแค่สถาบัน ไม่ได้มีความผิดอะไร

แต่คนที่เอาชื่อมหาลัยมาอ้าง มาหากิน มาทำให้เสื่อมเสีย ไอ้คนพวกนี้ล่ะที่น่าเขกกบาล
User avatar
Ja-Ded
 
Posts: 228
Joined: Wed Nov 26, 2008 8:10 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby Narcissus » Wed Oct 05, 2011 5:53 pm

slim wrote:
Narcissus wrote:แต่ผมเบื่อที่ "คนบางส่วน" ดันทะเล่อทะล่ามาอ้างตัวเป็น "เสียงส่วนใหญ่" ในธรรมศาสตร์ครับ

ผมว่ามันเป็นคนแค่ไม่กี่หยิบมือเท่านั้นล่ะ จากที่นี่ที่ออกมาเรียกร้องอะไรแบบนี้ แต่สื่อดันประโคมไปราวกับทั้งมหาลัยสมรู้ร่วมคิดไปด้วยกัน ;)

และยิ่งแล้วใหญ่ สังคมก็ดันนำภาพคน "คนบางส่วน" มาแทนเป็นภาพของ "คนส่วนใหญ่" ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกนั้นเลย


แพ้ระดับประเทศ หันเข้าระดับมหาลัย เหมาว่าเป็นชนกลุ่มน้อย อะอ้ากๆๆๆ


Image
Don't feed the troll
แต่ถ้าเห็น troll เป็นของเล่นก็ไม่ว่ากัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า !
User avatar
Narcissus
 
Posts: 12
Joined: Wed Oct 05, 2011 4:58 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby JUR1ST » Wed Oct 05, 2011 6:07 pm

ผมเป็นศิษย์เก่านิติฯ ธรรมศาสตร์ แต่จบมานานแล้ว ในสมัยนั้นพวกอาจารย์ไม่ได้เป็นอย่างวรเจตน์นะครับ แต่ตอนหลังๆ ก็มีวรเจตน์และนิติราดนี่แหละที่ออกนอกหน้ามาก

อย่าไปให้เครดิตอะไรกับพวกนี้มากครับ เป็นแค่พวกอาศัยชื่อมหาลัยเท่านั้น คนที่เรียนนิติศาสตร์แล้วเข้าใจนิติวิธีเขาไม่เชื่อไอ้พวกนี้หรอกครับ ห่วงก็แต่เด็กๆ ที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ฟังวรเจตน์พูดแล้วอาจคิดว่าเป็น ultimate truth แล้วออกมาเกรียนข้างนอกเท่านั้นเอง
User avatar
JUR1ST
 
Posts: 392
Joined: Thu May 20, 2010 2:25 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby คนบาป » Wed Oct 05, 2011 6:25 pm

อาจารย์นิติส่วนใหญ่ ไม่เอากับพวกล้มเจ้าแน่นอน

อย่างน้อยๆ 23 อาจารย์ ท่านออกมาโชว์ตัวกันแล้ว

ท่าทางจะเป็นเรื่องของศิษย์ปรีดีตีกันเอง

แบบว่า "มั่วหน้าร้าน" เรียกความสนใจให้รัฐบาลปล้นเมือง
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ปุถุชน » Sun Oct 09, 2011 9:43 pm

chanbaan wrote:
big boss wrote:เหอะ เหอะ ตั้งชื่อกระทู้ซะ.......เดี๋ยวก็โดนศิษย์เก่าธรรมศาสตร์สวนเอาบ้างหรอก :lol: :lol: :lol:

กลัวตายล่ะ ปรีดี ไม่ใช่พ่อใช่แม่ แถมยังไม่รู้เลยว่า ม.ธรรมศาสตร์นั้นดีอย่างไง มีนักการเมืองแดงบ้างเหลืองบ้าง ตีกันนัวในรัฐสภาบ่อยไป ไม่รู้ว่าจุดยืนที่แท้จริงของธรรมศาสตร์นั้นคืออะไร จะเอาเจ้า ไม่เอาเจ้า หรือจะยกสามัญชนให้เทียบชั้นเจ้า ด้วยวาทะกรรมว่า "เจ้าห้ามยุ่งการเมือง" แบบนี้หรือเปล่า นักกฏหมายหัวปรีดี ยุคปฏิวัติรัฐประหาร 2475 ดูจะมีเหตุผลสิน่ะ



big boss wrote:เหอะ เหอะ ตั้งชื่อกระทู้ซะ.......เดี๋ยวก็โดนศิษย์เก่าธรรมศาสตร์สวนเอาบ้างหรอก :lol: :lol: :lol:




Ja-Ded wrote:มหาลัยเป็นแค่สถาบัน ไม่ได้มีความผิดอะไร

แต่คนที่เอาชื่อมหาลัยมาอ้าง มาหากิน มาทำให้เสื่อมเสีย ไอ้คนพวกนี้ล่ะที่น่าเขกกบาล




มีศิษย์เก่า(สำเร็จการศึกษา)สถาบันการศึกษาใดที่ไม่ภาคภูมิใจสถาบันการศึกษาของตนฤา....

ปล.คนที่สำเร็จจากโรงเรียนวัดก็ยังภาคภูมิใจ
นอกจากหมาหางด้วน.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ปุถุชน » Sun Oct 09, 2011 9:48 pm

JUR1ST wrote:ผมเป็นศิษย์เก่านิติฯ ธรรมศาสตร์ แต่จบมานานแล้ว ในสมัยนั้นพวกอาจารย์ไม่ได้เป็นอย่างวรเจตน์นะครับ แต่ตอนหลังๆ ก็มีวรเจตน์และนิติราดนี่แหละที่ออกนอกหน้ามาก

อย่าไปให้เครดิตอะไรกับพวกนี้มากครับ เป็นแค่พวกอาศัยชื่อมหาลัยเท่านั้น คนที่เรียนนิติศาสตร์แล้วเข้าใจนิติวิธีเขาไม่เชื่อไอ้พวกนี้หรอกครับ ห่วงก็แต่เด็กๆ ที่ยังไม่มีภูมิต้านทาน ฟังวรเจตน์พูดแล้วอาจคิดว่าเป็น ultimate truth แล้วออกมาเกรียนข้างนอกเท่านั้นเอง




พวกมนุษย์ขี้เหม็นมีวาระซ่อนเร้นชอบเหมารวม.....!
คณะไหน สถาบันไหน ไม่มีศิษย์ดี ศิษย์เลวบ้าง.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ดราม่า » Sun Oct 09, 2011 10:14 pm

หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง นายปรีดี พนมยงค์มีดำริจะจัดตั้งโรงเรียนการเมืองตามแนวทางของตนขึ้นมา ดังนั้น เมื่อวันที่20มีนาคม 2476 ได้มีการประกาศพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ซึ่งมาตรา5 แห่งพระราชบัญญัติว่า“ให้โอนคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ในจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตลอดจนทรัพย์สินและงบประมาณของคณะเหล่านั้นมาขึ้นต่อมหาวิทยาลัยนี้ก่อน วันที่ 1เมษายน พุทธศักราช 2477”เป็นอันว่าคณะรัฐศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซึ่งได้สถาปนาและมีวิวัฒนาการอย่างยืนยาวมาถึง3แผ่นดิน ได้ถึงกาลอวสานลงอย่างฉับพลัน โดยถูกสั่งยุบให้ไปรวมกับมหาวิทยาลัยวิชาการธรรมศาสตร์และการเมือง นั้นย่อมก่อให้เกิดความสะเทือนใจแก่บรรดา ศิษย์เก่าอาจารย์และนิสิตยิ่งนัก “ชลอ วนภูติ” ได้เคยเขียนบรรยายความรู้สึกเอาไว้ว่า“การที่เราเรียนอยู่ดีๆแล้วมีประกาศทางราชการให้ยุบคณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งๆที่เรียนค้างอยู่ และไปยุบเอารุ่นที่เรียนปี2แล้วเข้าด้วยกันเช่นนี้ ต่อมาพวกเราทั้งหมดที่ถูกลอยแพ จึงมีผู้ขนานนามว่านักเรียนรัฐศาสตร์รุ่นแพแตก คือแตกเหมือนแพแตกแล้วลอยเปะปะไปทั้งแผ่นดิน”

“หลวงอังคณานุรักษ์” ซึ่งเลือดรัฐศาสตร์อยู่เต็มตัวเพราะเคยเป็นทั้งนิสิตและอาจารย์สอนวิชาการปกครองอยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในยามวิกฤตินั้น สุดจะนั่งดูดายเพราะคิดว่าคณะรัฐศาสตร์ได้ก่อกำเนิดมา แต่ดึกดำบรรพ์ชาวคณะได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาลเป็นลำดับผลของงานได้ปรากฎให้เห็นประจักษ์ชัดอยู่ทั่วไป แต่ต้องทลายลงในทันทีทันใดเพื่อผลทางการเมือง เป็นเรื่องที่น่าสังเวชจึงได้พยายามวิ่งเต้นอย่างสุดเหวี่ยงเพื่อร้องขอผู้มีอำนาจให้นิสิตชุดที่กำลังศึกษาอยู่ได้เรียนต่อไปจนจบหลักสูตร แต่ว่าไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากท่านผู้ใด ดังนั้นนิสิตรัฐศาสตร์ขณะนั้นจึงทีทางเลือกเพียง ๒ ประการ คือ ถ้าไม่ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ออกไปรับราชการเป็นปลัดอำเภอทั้งๆที่เรียนครึ่งๆ กลางๆ

เมื่อคณะรัฐศาสตร์ฯ ถูกยุบหลวงอังคณานุรักษ์ก็พ้นจากชีวิตอาจารย์ โดยในปลายปี ๒๔๗๖ ทางราชการได้มีคำสั่งให้หลวงอังคณานุรักษ์ไปดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดมหาสารคามแต่ความคิดที่จะรื้อฟื้นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ยังอยู่ในจิตใจของท่านตลอดเวลา ต่อมาภายหลังหลวงอังคณานุรักษ์ได้เข้าสู่วงการเมือง ทำให้ความคิดหวังที่จะรื้อฟื้นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ขึ้นใหม่ก็คืบใกล้เข้ามา ท่านมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ปรึกษาตกลงกันในหลักการเรื่องการที่จะรื้อฟื้นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ขึ้น แต่ยังไม่ทันลงมือทำอะไร รัฐบาลชุดนั้นก็มีอันต้องสิ้นสุดลง

ต่อมาเมื่อ จอมพล ป. พิบูลสงครามได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลอีกวาระหนึ่งในปี พ.ศ.2491ในวันแถลงนโยบายฯ หลวงอังคณานุรักษ์ได้พยายามชี้ให้รัฐบาลเห็นว่าการยุบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไร และเห็นสมควรที่จะฟื้นฟูคณะรัฐศาสตร์ตามแนวคิดเดิมขึ้นใหม่ คณะรัฐมนตรีจึง ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงมหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาว่าแผนกรัฐศาสตร์ควรที่จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองหรือที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการชุดนี้มีรัฐมนตรีสามท่านกับคุณวิจิตร ลุลิตานนท์ รักษาการผู้แทนประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหม่อมเจ้ารัชฎาภิเศก โสณกุล อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีหลวงอังคณานุรักษ์ผู้เป็นเจ้าของเรื่องร่วมเข้าประชุมปรึกษาด้วย

ซึ่งผลของการประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเช่นเดิมคณะกรรมการปรับปรุงมหาวิทยาลัยจึงเสนอคณะรัฐมนตรีว่าแผนกรัฐศาสตร์ควรอยู่ที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยโดยคณะรัฐมนตรีลงมติเห็นชอบด้วยและให้ดำเนินการต่อไป

ขั้นตอนที่สำคัญคือ การเสนอกฎหมายขอจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ ฯ เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา๑๑ นาฬิกาเศษ โดยมีพลเอกมังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้เสนอในนามรัฐบาล ปรากฎว่าที่ประชุมที่ได้มีการ
อภิปรายกันอย่างกว้างขวางและมีผู้คัดค้านไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งพักการประชุมเมื่อเวลา12.40นาฬิกาหลวงอังคณานุรักษ์เล่าว่า “ระหว่างสภาหยุดพักกลางวันข้าพเจ้าต้องเที่ยวได้ไหว้วอนสมาชิกผู้คัดค้านกฎหมายฉบับนี้”

ในที่สุด ตอนบ่ายวันนั้นเองสภาผู้แทนราษฎรก็ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 3) ที่ให้ตั้งคณะรัฐศาสตร์ขึ้นใหม่ โดยได้พิจารณาและได้รับความเห็นชอบรวดเดียวทั้ง3วาระ หลังจากนั้นร่างกฎหมายได้ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา และคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ลงพระนามและลงนามประกาศให้กฎหมายในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อวันที่17 สิงหาคม2491

จึงถือว่าหลวงอังคณานุรักษ์คือบุคคลที่ได้ชื่อว่ามีบทบาทสำคัญที่สุดคนหนึ่งในการจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯยุคใหม่ที่ควรแก่การรำลึกถึงบุญคุณและประทับอยู่ในความทรงจำของชาวสิงห์ดำทุกคนตลอดไป


การที่เขายุบรัฐศาสตร์จุฬา แล้วเอาไปตั้งเป็นม.ธรรมศาสตร์ มันแสดงว่าคนที่จะรับราชการต่อไปต้องจบจาก มธ เท่านั้น

มันอนุมานได้หรือเปล่าว่า ท่านปรีดีต้องการให้ ฝ่ายปกครองที่จบรัฐศาสตร์ ต้องเป็นคนที่เขาปลูกฝังมาเท่านั้น

ถ้าสำเร็จตามแผน นี่เท่ากับผู้หลักผู้ใหญ่ของมหาดไทย คือคนของเขาทั้งหมด :?:
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ชายน้ำ » Mon Oct 10, 2011 10:34 am

ผมไม่เหมารวมทั้งสถาบันเพราะเพื่อนรักและภรรยาผมเองจบธรรมศาสตร์และมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างสุดจิตสุดใจ

ที่น่าห่วงคือนักวิชาการขายตัวที่แอบอ้างเอาชื่อสถาบันแม่โดมไปใช้

ลูกเพื่อนยังอยู่มัธยมแต่ไปร่วมฟังอาจารย์มธ.ชักชวนให้มาเรียน

อาจารย์คนหนึ่งเริ่มปลูกฝังความคิดลูกเพื่อนเลยว่าธรรมศาสตร์ไม่เอาเจ้านะ

ดีว่าเด็กได้รับการอบรมมาดีจึงไม่เห็นดีเห็นงามกับอาจารย์อุบาทว์คนนี้

ผมไม่ทราบว่าคณาจารย์ท่านอื่นรู้เห็นเรื่องนี้หรือไม่ประการใด
User avatar
ชายน้ำ
 
Posts: 252
Joined: Mon Jul 11, 2011 5:28 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ridkun_user » Mon Oct 10, 2011 10:42 am

ผมว่าคน มธ. คงต้องออกมาปกป้องสถาบันตัวเองบ้างนะครับ
ไม่ใช่ว่าออกมาปกป้องท่านปรีดีนะ เพราะปรีดีตายไปตั้งนานแล้ว
ที่คนมธ. ควรปกป้อง ก็คือมธ. ที่ยังคงอยู่ ท่านจะยอมให้คนพวกนี้อ้างชื่อ มธ.
มาบอกว่าเป็นพวกล้มเจ้าอยู่เรื่อยๆ แล้วให้สังคมตราหน้า มธ.​ว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของคนพวกนี้หรือ
"...โลกนี้ไม่สมประกอบ เพราะบางคนชอบเอาแต่ประโยชน์ส่วนตน"

อำนาจเป็นของปวงชน คือ ประชาธิปไตย
อำนาจเป็นของคนส่วนใหญ่ คือ กฎหมู่
User avatar
ridkun_user
 
Posts: 5458
Joined: Mon Nov 02, 2009 10:59 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby rakchart thai » Mon Oct 10, 2011 11:02 am

ดราม่า wrote:
หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง นายปรีดี พนมยงค์มีดำริจะจัดตั้งโรงเรียนการเมืองตามแนวทางของตนขึ้นมา ดังนั้น เมื่อวันที่20มีนาคม 2476 ได้มีการประกาศพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง ซึ่งมาตรา5 แห่งพระราชบัญญัติว่า“ให้โอนคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ในจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตลอดจนทรัพย์สินและงบประมาณของคณะเหล่านั้นมาขึ้นต่อมหาวิทยาลัยนี้ก่อน วันที่ 1เมษายน พุทธศักราช 2477”เป็นอันว่าคณะรัฐศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ซึ่งได้สถาปนาและมีวิวัฒนาการอย่างยืนยาวมาถึง3แผ่นดิน ได้ถึงกาลอวสานลงอย่างฉับพลัน โดยถูกสั่งยุบให้ไปรวมกับมหาวิทยาลัยวิชาการธรรมศาสตร์และการเมือง นั้นย่อมก่อให้เกิดความสะเทือนใจแก่บรรดา ศิษย์เก่าอาจารย์และนิสิตยิ่งนัก “ชลอ วนภูติ” ได้เคยเขียนบรรยายความรู้สึกเอาไว้ว่า“การที่เราเรียนอยู่ดีๆแล้วมีประกาศทางราชการให้ยุบคณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งๆที่เรียนค้างอยู่ และไปยุบเอารุ่นที่เรียนปี2แล้วเข้าด้วยกันเช่นนี้ ต่อมาพวกเราทั้งหมดที่ถูกลอยแพ จึงมีผู้ขนานนามว่านักเรียนรัฐศาสตร์รุ่นแพแตก คือแตกเหมือนแพแตกแล้วลอยเปะปะไปทั้งแผ่นดิน”

“หลวงอังคณานุรักษ์” ซึ่งเลือดรัฐศาสตร์อยู่เต็มตัวเพราะเคยเป็นทั้งนิสิตและอาจารย์สอนวิชาการปกครองอยู่ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในยามวิกฤตินั้น สุดจะนั่งดูดายเพราะคิดว่าคณะรัฐศาสตร์ได้ก่อกำเนิดมา แต่ดึกดำบรรพ์ชาวคณะได้ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาลเป็นลำดับผลของงานได้ปรากฎให้เห็นประจักษ์ชัดอยู่ทั่วไป แต่ต้องทลายลงในทันทีทันใดเพื่อผลทางการเมือง เป็นเรื่องที่น่าสังเวชจึงได้พยายามวิ่งเต้นอย่างสุดเหวี่ยงเพื่อร้องขอผู้มีอำนาจให้นิสิตชุดที่กำลังศึกษาอยู่ได้เรียนต่อไปจนจบหลักสูตร แต่ว่าไม่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากท่านผู้ใด ดังนั้นนิสิตรัฐศาสตร์ขณะนั้นจึงทีทางเลือกเพียง ๒ ประการ คือ ถ้าไม่ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ออกไปรับราชการเป็นปลัดอำเภอทั้งๆที่เรียนครึ่งๆ กลางๆ

เมื่อคณะรัฐศาสตร์ฯ ถูกยุบหลวงอังคณานุรักษ์ก็พ้นจากชีวิตอาจารย์ โดยในปลายปี ๒๔๗๖ ทางราชการได้มีคำสั่งให้หลวงอังคณานุรักษ์ไปดำรงตำแหน่งข้าหลวงประจำจังหวัดมหาสารคามแต่ความคิดที่จะรื้อฟื้นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ยังอยู่ในจิตใจของท่านตลอดเวลา ต่อมาภายหลังหลวงอังคณานุรักษ์ได้เข้าสู่วงการเมือง ทำให้ความคิดหวังที่จะรื้อฟื้นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ขึ้นใหม่ก็คืบใกล้เข้ามา ท่านมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอ่างทอง สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ปรึกษาตกลงกันในหลักการเรื่องการที่จะรื้อฟื้นคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ขึ้น แต่ยังไม่ทันลงมือทำอะไร รัฐบาลชุดนั้นก็มีอันต้องสิ้นสุดลง

ต่อมาเมื่อ จอมพล ป. พิบูลสงครามได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลอีกวาระหนึ่งในปี พ.ศ.2491ในวันแถลงนโยบายฯ หลวงอังคณานุรักษ์ได้พยายามชี้ให้รัฐบาลเห็นว่าการยุบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯก่อให้เกิดความเสียหายอย่างไร และเห็นสมควรที่จะฟื้นฟูคณะรัฐศาสตร์ตามแนวคิดเดิมขึ้นใหม่ คณะรัฐมนตรีจึง ตั้งคณะกรรมการปรับปรุงมหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาว่าแผนกรัฐศาสตร์ควรที่จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองหรือที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะกรรมการชุดนี้มีรัฐมนตรีสามท่านกับคุณวิจิตร ลุลิตานนท์ รักษาการผู้แทนประศาสน์การมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และหม่อมเจ้ารัชฎาภิเศก โสณกุล อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีหลวงอังคณานุรักษ์ผู้เป็นเจ้าของเรื่องร่วมเข้าประชุมปรึกษาด้วย

ซึ่งผลของการประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้จัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเช่นเดิมคณะกรรมการปรับปรุงมหาวิทยาลัยจึงเสนอคณะรัฐมนตรีว่าแผนกรัฐศาสตร์ควรอยู่ที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยโดยคณะรัฐมนตรีลงมติเห็นชอบด้วยและให้ดำเนินการต่อไป

ขั้นตอนที่สำคัญคือ การเสนอกฎหมายขอจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ ฯ เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๔๙๑ เวลา๑๑ นาฬิกาเศษ โดยมีพลเอกมังกร พรหมโยธี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้เสนอในนามรัฐบาล ปรากฎว่าที่ประชุมที่ได้มีการ
อภิปรายกันอย่างกว้างขวางและมีผู้คัดค้านไม่เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งพักการประชุมเมื่อเวลา12.40นาฬิกาหลวงอังคณานุรักษ์เล่าว่า “ระหว่างสภาหยุดพักกลางวันข้าพเจ้าต้องเที่ยวได้ไหว้วอนสมาชิกผู้คัดค้านกฎหมายฉบับนี้”

ในที่สุด ตอนบ่ายวันนั้นเองสภาผู้แทนราษฎรก็ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 3) ที่ให้ตั้งคณะรัฐศาสตร์ขึ้นใหม่ โดยได้พิจารณาและได้รับความเห็นชอบรวดเดียวทั้ง3วาระ หลังจากนั้นร่างกฎหมายได้ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา และคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ลงพระนามและลงนามประกาศให้กฎหมายในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อวันที่17 สิงหาคม2491

จึงถือว่าหลวงอังคณานุรักษ์คือบุคคลที่ได้ชื่อว่ามีบทบาทสำคัญที่สุดคนหนึ่งในการจัดตั้งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯยุคใหม่ที่ควรแก่การรำลึกถึงบุญคุณและประทับอยู่ในความทรงจำของชาวสิงห์ดำทุกคนตลอดไป


การที่เขายุบรัฐศาสตร์จุฬา แล้วเอาไปตั้งเป็นม.ธรรมศาสตร์ มันแสดงว่าคนที่จะรับราชการต่อไปต้องจบจาก มธ เท่านั้น

มันอนุมานได้หรือเปล่าว่า ท่านปรีดีต้องการให้ ฝ่ายปกครองที่จบรัฐศาสตร์ ต้องเป็นคนที่เขาปลูกฝังมาเท่านั้น

ถ้าสำเร็จตามแผน นี่เท่ากับผู้หลักผู้ใหญ่ของมหาดไทย คือคนของเขาทั้งหมด :?:


คุณดราม่าเข้าใจลึกซึ้งจริงๆ... ผมถึงเชื่อด้วยเหตุผลหลายๆอย่างว่า นายปรีดีไม่ใช่นักประชาธิปไตยอะไรเลย ..เพียงแต่เอาสถานการณ์มากล่าวอ้าง การยึดอำนาจจากพระเจ้าแผ่นดินเท่านั้น ..
User avatar
rakchart thai
 
Posts: 454
Joined: Thu May 20, 2010 11:58 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby bmp » Mon Oct 10, 2011 11:58 am

ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี
<< ผมไม่ห้าม นะครับ ที่คุณเจ้าของกระทู้ จะไปยืนตะโกน คำนี้ใน ม.ธรรมศาสตร์ ดังๆ เอาเลยครับเต็มที่เลยเป็นสิทธิของคุณ ตะโกนให้ดังๆ นานๆ ด้วยล่ะ อิอิ

:mrgreen:
User avatar
bmp
 
Posts: 89
Joined: Tue Sep 20, 2011 12:25 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby pouce » Mon Oct 10, 2011 1:18 pm

ผมก็จบธรรมศาสตร์ และไม่เคยคิดว่า ปรีดีเป็นพ่อ เลยแม้แต่น้อย

ไม่งั้น ต้องนับคนตั้งสถาบันทุกคนเป็นพ่อหมดสิ ตั้งกะเนอสเซอรี่ โรงเรียนอนุบาล ประถม มัธยม มหาวิทยาลัยตอนเรียนตรี/โท รวมถึงสถาบันกวดวิชา :roll:
User avatar
pouce
 
Posts: 40
Joined: Tue Oct 14, 2008 10:12 am

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby Oriland » Mon Oct 10, 2011 1:30 pm

ไม่รู้ครับผมจบ ม.ราม
User avatar
Oriland
 
Posts: 316
Joined: Sat Jan 24, 2009 4:30 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby คนขับสิบล้อ » Mon Oct 10, 2011 1:53 pm

bmp wrote:
ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี
<< ผมไม่ห้าม นะครับ ที่คุณเจ้าของกระทู้ จะไปยืนตะโกน คำนี้ใน ม.ธรรมศาสตร์ ดังๆ เอาเลยครับเต็มที่เลยเป็นสิทธิของคุณ ตะโกนให้ดังๆ นานๆ ด้วยล่ะ อิอิ

:mrgreen:



ไอ้เหิ้ยปรีดีอัปรีไม่ใช่พ่อกูว่ะ :lol: มีไรมั้ย
User avatar
คนขับสิบล้อ
 
Posts: 334
Joined: Wed Jul 14, 2010 1:24 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ชายน้ำ » Mon Oct 10, 2011 2:01 pm

ขอบคุณอย่างสูงครับคุณดราม่าเรื่องประวัติการยุบคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ

ตอนเรียนไม่ได้เคยรับรู้เรื่องนี้เลย จะว่าไม่ใฝ่รู้ก็ไม่น่าจะใช่ แหล่งข้อมูลก่อนยุค PC มันค่อนข้างจำกัดครับ

ความจริงอาจารย์ควรให้นิสิตรับรู้เรื่องนี้ทั่วกัน การรู้รากที่แท้จริงของตนเป็นสิ่งดี เป็นคนละเรื่องกับการบ้าสถาบันการศึกษา

ถ้ารากของชาวไทยอีกหลายคนแน่นพอ คงไม่ต้องเป็นเหยื่อให้ชินวัตรมันสนตะพายอยู่อย่างทุกวันนี้
User avatar
ชายน้ำ
 
Posts: 252
Joined: Mon Jul 11, 2011 5:28 pm

Re: ปรีดี ไม่ใช่พ่อ ธรรมศาสตร์ไม่ได้เกิดเพราะปรีดี

Postby ปุถุชน » Mon Oct 10, 2011 3:35 pm

ชายน้ำ wrote:ขอบคุณอย่างสูงครับคุณดราม่าเรื่องประวัติการยุบคณะรัฐศาสตร์จุฬาฯ

ตอนเรียนไม่ได้เคยรับรู้เรื่องนี้เลย จะว่าไม่ใฝ่รู้ก็ไม่น่าจะใช่ แหล่งข้อมูลก่อนยุค PC มันค่อนข้างจำกัดครับ

ความจริงอาจารย์ควรให้นิสิตรับรู้เรื่องนี้ทั่วกัน การรู้รากที่แท้จริงของตนเป็นสิ่งดี เป็นคนละเรื่องกับการบ้าสถาบันการศึกษา

ถ้ารากของชาวไทยอีกหลายคนแน่นพอ คงไม่ต้องเป็นเหยื่อให้ชินวัตรมันสนตะพายอยู่อย่างทุกวันนี้




ถ้าค้นคว้าหาสาเหตุการยุบรวมกัน จะเข้าใจมากกว่านี้....

ศาสตราจารย์ ดร.อดุล วิเชียรเจริญเป็นคณบดีคณะศิลปศาสตร์...
นักศึกษาเข้าเรียนธรรมศาสตร์สองปีแรกต้องเรียนศิลปศาสตร์ทั้งหมดแล้วค่อยเลือกสาขาเรียนต่อไป...

ยุคสมัยเปลี่ยน วันนี้ใครๆก็อยากจะมีคณะแพทย์ศาสตร์.....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
"ถ้าไม่มีการทุจริตตั้งแต่แรก เงื่อนไขการปฏิวัติก็คงไม่เกิด เพราะมันมีการแทรกแซงองค์กรอิสระตลอดเวลา ซึ่งการปฏิวัติก็เป็นการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ผมก็ไม่เห็นว่า ทำไมคณะนิติราษฎร์จึงเสนอให้ถอยหลังไปแค่ 19 กันยา 2549".. อ.ไชยันต์ ไชยพร
User avatar
ปุถุชน
 
Posts: 11805
Joined: Mon Oct 13, 2008 5:19 pm


Return to สภากาแฟ



cron