เมื่อหัวโตโดนสวน

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
555 โทษที เมื่อกี้ โพสต์ like ไปที่ YouTube คลิป คุณไพจิตรร้องเพลงเฉลิมพระเกียรติ หลังร่วมไปแจกสิ่งของช่วยคนน้ำท่วม ... โพสต์แล้วเปลี่ยนใจ เอาออกดีกว่า พอดีว่า ในคลิป คนทำ มีเอาภาพอื่นซ้อนขึ้นมาด้วย ผมเกรงว่า พวกบ้าจี้ จะเอาไปหาเรื่องได้ (อยากดู หาจาก YouTube ชื่อ "ไพจิตรร้องเพลงอวยเจ้า") อันนี้ก็บอกเผื่อท่านอื่นด้วยที่จะแชร์ link น่ะครับ (ผมก็ได้มาจาก feed ใครสักคน จำไม่ได้แล้ว)
แต่อยากขอถือโอกาสบอกคุณไพจิตร (ที่ตอนนี้ได้แต่งตั้งตำแหน่งการเมืองอะไรอยู่ด้วย) ว่า "ไร้สาระนะครับ คุณไพจิตร ร้องเพลงแบบนี้ แล้วช่วยคนน้ำท่วมยังไงครับ?"
..............................................................................................................
Visa Khanthap
ฝากไปถึง อ.สมศักดิ์
Visa Khanthap
ฝากไปถึง อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ด้วยความเคารพ สุดท้าย อ.สมศักดิ์ เจียมฯ ก็นำประเด็นเฉลิมพระเกียรติ “เจ้า” มาแตะใกล้ๆผมจนได้ ผมซึ่งมีรายชื่อติดชาร์ทผู้ร่วมขบวน “ล้มเจ้า” กับเขาคนหนึ่ง อันที่จริง อ.สมศักดิ์ น่าจะเว้นผมไว้สักคน ไม่ควรทำตัวเป็น “คนนำ” เอาตัวผมไปอยู่ในเครือข่ายที่อาจถูก “ถล่ม” เลย เพราะคุณไพจิตรนำเพลงซึ่งผมแต่งขึ้นใหม่ไปร้อง “เพลงพสกนิกรของพระองค์ทุกคนเท่ากัน” อันที่จริงสมัยเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผมเคยเขียนฉันท์สดุดีในหลวงลงในหนังสืออนุสรณ์ของโรงเรียนมาแล้ว จากนั้นตอนทำหนังสือพิมพ์ก็เคยเขียนอาเศียรวาทบ้างเป็นบางครั้งในวาระเฉลิมพระชนม์พรรษา ถึงวันนี้ อ.สมศักดิ์ ดุจัง ใครพูด “อวยเจ้า” ไม่ได้เลย ความจริงคุณไพจิตรร้องเพลงที่ผมแต่งขึ้นใหม่นี้ เธอก็ไม่ได้พูดโยงใยอะไรว่า เพลงนี้จะไปช่วยน้ำท่วมแต่อย่างใด ไม่รู้ อ.สมศักดิ์ ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียดหรือเปล่า แน่นอนที่ร้องเพลงนี้ไม่เกี่ยวกับน้ำท่วมอยู่แล้ว เพียงแต่ของที่นำไปแจกเป็นสิ่งของจากความห่วงใยของท่านทักษิณ และคุณไพจิตรก็พูดถึงท่านทักษิณกับคนเสื้อแดงหลายคนที่โดนชี้หน้ากล่าวหาอย่างพล่อยๆว่า “ไม่จงรักภักดี” ห้าปีที่ผ่านมาเราถูกข้อหานี้เล่นงานหนักหน่วง วันนี้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล เราอยากขอพื้นที่สื่อกระแสหลักปฏิเสธเรื่องเท็จดังกล่าว ด้วยบทเพลงบ้างเท่านั้น เราร้องว่า “ไม่มีทางกั้นแสงแห่งดวงตะวันสีแดงที่ร้อนแรง ไม่ให้สาดส่องโลกา มวลเมฆร้ายหมายบังพลังแห่งศรัทธา แยกแผ่นดินแผ่นฟ้าให้ห่างกัน.... มิ่งมงคลมิ่งขวัญราชันย์องค์ภูมิพล พสกนิกรของพระองค์ทุกคนเท่ากัน ใครแบ่งแยกแตกร้ายทำลายไทยเราเผ่าพันธุ์คนเช่นนั้นมิใช่ไทยแท้จริง....” ความจริงคนจะชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร ก็ควรให้เขามีเสรีภาพเต็มที่ที่จะเลือก หน้าที่ให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอื่นใดเพื่อเปลี่ยนความเชื่อความศรัทธาย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ควรทำด้วยความเคารพ มิใช่เสียดสีกระแหนะกระแหน กระทั่งประณามด่าทอคนที่เห็นต่าง หรือคนที่มีวิธีการที่ต่างไป สำหรับผม ในช่วงการต่อสู้กับเผด็จการอำมาตยาห้าปีที่ผ่านมา ผมทำทุกอย่างเพื่อให้ขบวนการต่อสู้ก้าวไปสู่ชนะ ตามลำดับขั้น โดยไม่คิดถึงอัตตาตัวเอง ไม่กลัวเปลืองตัว ผมสลายตัวตนไปนานแล้ว ห้าปีผมเขียนเพลงเกี่ยวกับ “เจ้า”จนถึงวันนี้ 3 เพลง เพลงแรกคือ “ถวายฎีกา” ช่วงที่คนเสื้อแดงลงชื่อสามสี่ล้านคนแบกหามหีบกล่องถวายฎีกาในหลวงที่สนามหลวง (รายละเอียดไว้มีโอกาสพูดกับสื่อจะพูดให้เต็มที่) “พสกนิกรใต้ร่มโพธิสมภาร ถวายบังคมกราบกรานพระเจ้าอยู่หัว ด้วยดวงจันทร์บังอาทิตย์มืดมิดมัว ดีโดนชั่วชิงชังโหมรังแก ไม่มีที่พึ่งใดในแผ่นดิน นอกจากเจ้าธรณินทร์ผู้เที่ยงแท้ เพียงเดชะพระองค์ ธ.ทรงแล ก็จะแก้เข็ญขุกที่ทุกข์ใจ ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สุดแต่พระบรมราชวินิจฉัย เพราะสุดท้อสุดทนแล้วคนไทย ควรมิควรอย่างไร ถวายฎีกา” ถ้าไม่มีการถวายฎีกากันสามสี่ล้านคนในวันนั้น และหากไม่มีการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนอย่างเหี้ยมโหดในเดือนพฤษภา 53 อยู่ดีๆคนก็คงไม่ “ตาสว่าง” ขึ้นได้หรอก เพลงที่สองชื่อ “เพลงถวายพระพร” เขียนช่วงกระแสการต่อสู้เสื้อแดงเข้มข้น ชุมนุมเต็มท้องสนามหลวง ห่างโรงพยาบาลศิริราชที่ในหลวงทรงพระประชวรเพียงข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา นี้ก็มีที่มาที่ไปซึ่งเพื่อนพ้องใน นปช.ขอร้องให้ช่วยเขียนโดยมีเป้าหมายที่แน่นอนหนึ่งๆ (รายละเอียดไว้มีโอกาสค่อยพูดกัน) สุดท้ายมาถึงเพลงที่สามซึ่งผมอยากตั้งชื่อว่า “พสกนิกรของพระองค์ทุกคนเท่ากัน” เพลงที่ อ.สมศักดิ์ พาดพิงถึง ในช่วงที่ อ.สมศักดิ์ควรระมัดระวัง การลากจูงใครเข้าสู่วิถีโคจรอันร้อนแรงของอาจารย์ พึงอย่าลืมว่า อาจารย์ควรใช้ปัญญาและใช้เหตุผล ทั้งพึงสำรวม อย่าหลุดอารมณ์ให้บ่อยนัก เพราะคนที่ตามแห่อาจารย์วันนี้มีมาก บางคนเป็นพวกโรแมนติค บางคนชอบเสี้ยม บางคนสนุกเพราะไม่เปิดเผยตัวตน บางคนก็สลิ่ม บางคนไม่ศึกษาประวัติศาสตร์ ผมอยากบอกอาจารย์ว่า เมื่อผมไม่มีตัวตน ผมก็ไม่กลัวเปลืองตัวและไม่คิดถึงตัวเอง ถ้าคนด่าผมเป็นคนที่ไม่ใช่นักต่อสู้ที่ผ่านประสบการณ์ภาคสนามอันเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสมาด้วยกันอย่างอาจารย์ ผมทำงานของผมด้วยวิธีการของผม ผมต้องการขอความเป็นธรรมจาก “เจ้า” และต้องการบอก “เจ้า” ว่ายังไม่มีความเป็นธรรมบนแผ่นดินผืนนี้ เมื่อ“เจ้า”ประกาศว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” ผมยังคงต้องการเห็น “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” อย่างแท้จริง ผมไม่ได้ “อวยเจ้า” อย่างที่อาจารย์เข้าใจ หากอาจารย์จะเดินหน้าเรื่องของอาจารย์ต่อไปก็ขอให้พิถีพิถันขึ้นหน่อย รอบคอบรัดกุมขึ้นอีกนิด และอย่าผลักแนวร่วมให้ไปยืนอยู่ในพื้นที่ศัตรูเลย ขอแสดงความนับถือเสมอ
555 โทษที เมื่อกี้ โพสต์ like ไปที่ YouTube คลิป คุณไพจิตรร้องเพลงเฉลิมพระเกียรติ หลังร่วมไปแจกสิ่งของช่วยคนน้ำท่วม ... โพสต์แล้วเปลี่ยนใจ เอาออกดีกว่า พอดีว่า ในคลิป คนทำ มีเอาภาพอื่นซ้อนขึ้นมาด้วย ผมเกรงว่า พวกบ้าจี้ จะเอาไปหาเรื่องได้ (อยากดู หาจาก YouTube ชื่อ "ไพจิตรร้องเพลงอวยเจ้า") อันนี้ก็บอกเผื่อท่านอื่นด้วยที่จะแชร์ link น่ะครับ (ผมก็ได้มาจาก feed ใครสักคน จำไม่ได้แล้ว)
แต่อยากขอถือโอกาสบอกคุณไพจิตร (ที่ตอนนี้ได้แต่งตั้งตำแหน่งการเมืองอะไรอยู่ด้วย) ว่า "ไร้สาระนะครับ คุณไพจิตร ร้องเพลงแบบนี้ แล้วช่วยคนน้ำท่วมยังไงครับ?"
..............................................................................................................
Visa Khanthap
ฝากไปถึง อ.สมศักดิ์
Visa Khanthap
ฝากไปถึง อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ด้วยความเคารพ สุดท้าย อ.สมศักดิ์ เจียมฯ ก็นำประเด็นเฉลิมพระเกียรติ “เจ้า” มาแตะใกล้ๆผมจนได้ ผมซึ่งมีรายชื่อติดชาร์ทผู้ร่วมขบวน “ล้มเจ้า” กับเขาคนหนึ่ง อันที่จริง อ.สมศักดิ์ น่าจะเว้นผมไว้สักคน ไม่ควรทำตัวเป็น “คนนำ” เอาตัวผมไปอยู่ในเครือข่ายที่อาจถูก “ถล่ม” เลย เพราะคุณไพจิตรนำเพลงซึ่งผมแต่งขึ้นใหม่ไปร้อง “เพลงพสกนิกรของพระองค์ทุกคนเท่ากัน” อันที่จริงสมัยเป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ผมเคยเขียนฉันท์สดุดีในหลวงลงในหนังสืออนุสรณ์ของโรงเรียนมาแล้ว จากนั้นตอนทำหนังสือพิมพ์ก็เคยเขียนอาเศียรวาทบ้างเป็นบางครั้งในวาระเฉลิมพระชนม์พรรษา ถึงวันนี้ อ.สมศักดิ์ ดุจัง ใครพูด “อวยเจ้า” ไม่ได้เลย ความจริงคุณไพจิตรร้องเพลงที่ผมแต่งขึ้นใหม่นี้ เธอก็ไม่ได้พูดโยงใยอะไรว่า เพลงนี้จะไปช่วยน้ำท่วมแต่อย่างใด ไม่รู้ อ.สมศักดิ์ ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียดหรือเปล่า แน่นอนที่ร้องเพลงนี้ไม่เกี่ยวกับน้ำท่วมอยู่แล้ว เพียงแต่ของที่นำไปแจกเป็นสิ่งของจากความห่วงใยของท่านทักษิณ และคุณไพจิตรก็พูดถึงท่านทักษิณกับคนเสื้อแดงหลายคนที่โดนชี้หน้ากล่าวหาอย่างพล่อยๆว่า “ไม่จงรักภักดี” ห้าปีที่ผ่านมาเราถูกข้อหานี้เล่นงานหนักหน่วง วันนี้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล เราอยากขอพื้นที่สื่อกระแสหลักปฏิเสธเรื่องเท็จดังกล่าว ด้วยบทเพลงบ้างเท่านั้น เราร้องว่า “ไม่มีทางกั้นแสงแห่งดวงตะวันสีแดงที่ร้อนแรง ไม่ให้สาดส่องโลกา มวลเมฆร้ายหมายบังพลังแห่งศรัทธา แยกแผ่นดินแผ่นฟ้าให้ห่างกัน.... มิ่งมงคลมิ่งขวัญราชันย์องค์ภูมิพล พสกนิกรของพระองค์ทุกคนเท่ากัน ใครแบ่งแยกแตกร้ายทำลายไทยเราเผ่าพันธุ์คนเช่นนั้นมิใช่ไทยแท้จริง....” ความจริงคนจะชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไร ก็ควรให้เขามีเสรีภาพเต็มที่ที่จะเลือก หน้าที่ให้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงอื่นใดเพื่อเปลี่ยนความเชื่อความศรัทธาย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ควรทำด้วยความเคารพ มิใช่เสียดสีกระแหนะกระแหน กระทั่งประณามด่าทอคนที่เห็นต่าง หรือคนที่มีวิธีการที่ต่างไป สำหรับผม ในช่วงการต่อสู้กับเผด็จการอำมาตยาห้าปีที่ผ่านมา ผมทำทุกอย่างเพื่อให้ขบวนการต่อสู้ก้าวไปสู่ชนะ ตามลำดับขั้น โดยไม่คิดถึงอัตตาตัวเอง ไม่กลัวเปลืองตัว ผมสลายตัวตนไปนานแล้ว ห้าปีผมเขียนเพลงเกี่ยวกับ “เจ้า”จนถึงวันนี้ 3 เพลง เพลงแรกคือ “ถวายฎีกา” ช่วงที่คนเสื้อแดงลงชื่อสามสี่ล้านคนแบกหามหีบกล่องถวายฎีกาในหลวงที่สนามหลวง (รายละเอียดไว้มีโอกาสพูดกับสื่อจะพูดให้เต็มที่) “พสกนิกรใต้ร่มโพธิสมภาร ถวายบังคมกราบกรานพระเจ้าอยู่หัว ด้วยดวงจันทร์บังอาทิตย์มืดมิดมัว ดีโดนชั่วชิงชังโหมรังแก ไม่มีที่พึ่งใดในแผ่นดิน นอกจากเจ้าธรณินทร์ผู้เที่ยงแท้ เพียงเดชะพระองค์ ธ.ทรงแล ก็จะแก้เข็ญขุกที่ทุกข์ใจ ขอเดชะใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สุดแต่พระบรมราชวินิจฉัย เพราะสุดท้อสุดทนแล้วคนไทย ควรมิควรอย่างไร ถวายฎีกา” ถ้าไม่มีการถวายฎีกากันสามสี่ล้านคนในวันนั้น และหากไม่มีการปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนอย่างเหี้ยมโหดในเดือนพฤษภา 53 อยู่ดีๆคนก็คงไม่ “ตาสว่าง” ขึ้นได้หรอก เพลงที่สองชื่อ “เพลงถวายพระพร” เขียนช่วงกระแสการต่อสู้เสื้อแดงเข้มข้น ชุมนุมเต็มท้องสนามหลวง ห่างโรงพยาบาลศิริราชที่ในหลวงทรงพระประชวรเพียงข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยา นี้ก็มีที่มาที่ไปซึ่งเพื่อนพ้องใน นปช.ขอร้องให้ช่วยเขียนโดยมีเป้าหมายที่แน่นอนหนึ่งๆ (รายละเอียดไว้มีโอกาสค่อยพูดกัน) สุดท้ายมาถึงเพลงที่สามซึ่งผมอยากตั้งชื่อว่า “พสกนิกรของพระองค์ทุกคนเท่ากัน” เพลงที่ อ.สมศักดิ์ พาดพิงถึง ในช่วงที่ อ.สมศักดิ์ควรระมัดระวัง การลากจูงใครเข้าสู่วิถีโคจรอันร้อนแรงของอาจารย์ พึงอย่าลืมว่า อาจารย์ควรใช้ปัญญาและใช้เหตุผล ทั้งพึงสำรวม อย่าหลุดอารมณ์ให้บ่อยนัก เพราะคนที่ตามแห่อาจารย์วันนี้มีมาก บางคนเป็นพวกโรแมนติค บางคนชอบเสี้ยม บางคนสนุกเพราะไม่เปิดเผยตัวตน บางคนก็สลิ่ม บางคนไม่ศึกษาประวัติศาสตร์ ผมอยากบอกอาจารย์ว่า เมื่อผมไม่มีตัวตน ผมก็ไม่กลัวเปลืองตัวและไม่คิดถึงตัวเอง ถ้าคนด่าผมเป็นคนที่ไม่ใช่นักต่อสู้ที่ผ่านประสบการณ์ภาคสนามอันเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสมาด้วยกันอย่างอาจารย์ ผมทำงานของผมด้วยวิธีการของผม ผมต้องการขอความเป็นธรรมจาก “เจ้า” และต้องการบอก “เจ้า” ว่ายังไม่มีความเป็นธรรมบนแผ่นดินผืนนี้ เมื่อ“เจ้า”ประกาศว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” ผมยังคงต้องการเห็น “ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน” อย่างแท้จริง ผมไม่ได้ “อวยเจ้า” อย่างที่อาจารย์เข้าใจ หากอาจารย์จะเดินหน้าเรื่องของอาจารย์ต่อไปก็ขอให้พิถีพิถันขึ้นหน่อย รอบคอบรัดกุมขึ้นอีกนิด และอย่าผลักแนวร่วมให้ไปยืนอยู่ในพื้นที่ศัตรูเลย ขอแสดงความนับถือเสมอ