เพลิงสีนิล wrote:ความเดือดร้อนก็ถูกเฉลี่ย , ความเสียหายถูกเฉลี่ย ระดับน้ำควบคุมได้ ความขัดแย้ง ก็จะลดลงไปด้วย เช่นกัน ...
ตรรกนี้มันอาจไม่มีทางเป็นไปได้อะครับ
1. ระดับพื้นที่สูงต่ำไม่เท่ากัน คนเดือดร้อนไม่เท่ากัน คนที่ถูกน้ำท่วมสูงก็อยากให้ระบายน้ำออกไปให้ไว หรือ ทำอย่างไรก็ได้ขอให้มันลดลง ต้องทำความเข้าใจ ร่วมกันครับ เดือดร้อนเหมือนกันหมด
2. ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เท่ากัน ในกรณีเขตเมืองที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่น มีกิจการร้านค้ามากมาย หากท่วมย่อมเสียหายมากกว่าพื้นที่ที่เป็นไร่นา หรือ สวน การช่วยเหลือในเขตเมืองจัดการได้ยาก เพราะจำนวนคนมีมาก รวมถึงสถานที่สำคัญ อย่าง รพ. ที่เกี่ยวพันกับชีวิตคน ส่วนพื้นที่นั้ ก็ท่วมได้ แต่ถ้าถามว่า ท่วมแค่หน้าแข้ง เดือดร้อนไหม เดือดร้อน แต่ทนได้ ก็รับน้ำเท่าที่รับได้ ... โรงพยาบาล ท่วมหน้ารพ.แต่ไม่ท่วมเข้ามาในอาคาร ท่วมแค่นั้น แต่ ยั้งน้ำไว้ ไม่เร่งปล่อยออกมา ....
3. หากทุกที่ท่วมเหมือนกันหมด แล้วจะให้ใครมาช่วยเหลือใครครับ เพราะทุกคนต่างคิดช่วยตัวเอง ...ไม่ใช่ท่วมเท่ากันหมดเลย ครับ ...... เฉลี่ย ความเดือดร้อน เท่าที่แต่ละพื้นที่รับได้ เช่น ตอนนี้ ถ้า น้ำทีเชียงใหม่ ยั้งไว้ได้ สัก 1,000ล้าน ลบ.ม. แล้วปล่อยน้ำที่เหลือ ลงมานครสวรรค์จะน้องลง ไป 1,000ล้าน ลบ.ม.
4. ความโกลาหลจะเกิดขึ้นทุกที่ควบคุมยาก การตั้งศูยน์ประสานงานแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะเส้นทางต่างๆ ถูกตัดขาดหมด ไม่ใช่ทุกพื้นที่ต้องท่วมเท่ากัน นี่ครับ ที่นารับน้ำไป 2เมตร ในเมืองรับไว้สัก30ซม.(ในเมืองบางที่ ที่ต้องแห้งก็ต้องแห้ง ทำเป็นส่วนศุนย์ ต่างๆ )
5.จะต้องไม่ลืมคำว่า ***มนุษย์ ครับ มันมักจะไม่มีใครยอมใคร ยามภัยมาถึงตัว ....ต้องทำความเข้าใจร่วมกัน ครับ
halfmoon wrote:วิธีน้ำป้องกันและเอาประโยชน์จากน้ำหลากได้ถูกต้องแล้วครับ เห็นด้วย คือการตัดถนนแนวขวางทางลาดภูมิประเทศ แล้วรวมน้ำที่จุดตัดลำน้ำ แม่น้ำอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการแก้ปัญหาน้ำท่าหรือน้ำในลำน้ำที่จะวิ่งตรงลงมาภาคกลางตอนล่างและกรุงเทพฯ ต้องใช้วิธีเบียงน้ำครับ
การเบี่ยงน้ำในภาคกลางจนมาถึงกรุงเทพฯ ต้องเบี่ยงออกทิศตะวันออก คือเริ่มตั้งแต่อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นจุดต่อเชื่อกันระหว่างแม่น้ำเจ้าพระยากับคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก ใช้วิธีการสูบอัดย้อนให้กลับมาที่อำเภอเมืองลพบุรีโดยการสร้างทางน้ำอ้อมเมือง และสูบดันต่อมาในคลองชลประทานมาออกอำเภอท่าหลวง ที่อำเภอท่าหลวงต้องใช้วิธีกักเป็นประตูน้ำและคัดน้ำข้ามไปคลอง 13 และออกที่หนองแค จากหนองแคคลอง 13 สูบอัดผ่านหนองเสือ มาถึงคลองรังสิต-นครนายก ต้องกักน้ำย้อนกลับรังสิตและสืบแยกเป็นสองสาย สายบนไปองครักษ์ ออกแม่น้ำนครนายก ช่วงนี้ปล่อยให้ไหลตามธรรมชาติ ออกบางคล้า แม่น้ำบาประกง ผ่านแปดริ้ว และออกบางประกง อ่าวไทย
อีกสายหนึ่งจากหนองเสือคลอง 13 สูบอัดเข้ามาหนองจอกทำทางอ้อมน้ำเพื่อแยกอีกสองสายย่อย สายบนออกคลองแสนแสบไปบางน้ำเปรี้ยว และออกตอนเหนือของแปดริ้วลงบางประกง สายล่างออกที่คลองแสนแสบไปแยกคลองสวน หลวงแพ่ง และเปร็ง ออกบางเสาธง บางบ่อ อ่าวไทย
เพลิงสีนิล wrote:นึกถึงตอนอธิบายอะไรให้พวก ควายแดงเข้าใจสิครับ ยากไหม
นักเรียนตลอดชีพ wrote:เพลิงสีนิล wrote:นึกถึงตอนอธิบายอะไรให้พวก ควายแดงเข้าใจสิครับ ยากไหม
ถ้ามาร์คอธิบายจะโดนด่า ถ้าปูอธิบาย แดงรับได้ ............
เพลิงสีนิล wrote:
ปัญหาการกักน้ำ
แน่นอนเรารู้กันอยู่ว่า ไหลจากสูงลงที่ต่ำ แต่พื้นที่มันสูงต่ำไม่เท่ากัน การจะกักไว้ให้อยู่ในที่สูงก็ต้องใช้ คันกั้นน้ำเอาไว้อยู่ดี เพื่อไม่ให้ที่ต่ำท่วมสูง(ตามหลักการที่เสนอมา) มันก็ยังเป็นปัญหาอยู่ว่าไอ้คันกั้นน้ำ จะต้องวางแนวยาวแค่ไหนไม่ให้ไหลออก และมั่นใจได้อย่างไรว่าไม่มีใครไปทำลาย
.......คันกั้นน้ำนี้ ยาวไปตามภูมิประเทศ ที่อยู่ในความสูงเดียวกัน(เหมือนนาขั้นบันได) แล้วเมื่อน้ำสูงจนถึงระดับที่ต้องการ ก็จะล้นไปในระดับ ที่ต่ำลง ซึ่งระดับที่ต่ำลงก็จะมีความสูงของคันรักษาระดับ เช่นกัน หากในแต่ละจังหวัด ทำขั้นบันไดในพท.จว.ของตน (โดยส่วนเกินต้องรักษาระดับ โดยใชเครื่องสูบน้ำ หรือผันน้ำไปทางอื่น) ....... ในแต่ละจว.จะสามารถ ชะลอน้ำที่จะไหลลงมา จว.ท้ายน้ำ ให้มีมวลน้ำน้อยลงได้ ..... เมื่อมวลน้ำน้อยลงจนลดความรุนแรง และสามารถบังคับ ทิศทางของมวลน้ำได้แล้ว ก็ค่อยๆ ปล่อย น้ำที่กักไว้ในแต่ละ จว.ันน้ำออกให้หมด ........ ผมรู้แล้ว ว่าจะอธิบาย ยังไง คือ ใช้พื้นที่ ทุกส่วน เป็นแก้มลิง(เมือง ก็เป็นแก้มลิงได้ น้ำสูงสัก35-30ซม. เมืองยังดำเนินกิจกรรมได้) แต่ ความสูงของน้ำในแต่ละ พื้นที่ จะแตกต่างกันไป
ผมพอสรุปได้คราวๆ ผมไม่ฟันธงว่าทำไม่ได้ แต่
คนที่เป็นผู้นำที่จะแก้ปัญหาแบบเฉลี่ยน้ำ เฉลี่ยทุก เฉลี่ยสุข ต้องเป็นคนที่ประชาชนในพื้นที่รับน้ำเหล่านั้นเชื่อถือ และ มีความมั่นใจในตัวผู้นำอย่างสูงสุด ว่าจะสามารถทำได้จริงอย่างที่พูดหรือบอกไว้ ดังนั้น ผู้นำใสการแก้ปัญหา ต้องมีจิตวิทยาสูง และ มีความสามารถในการบริหารจัดการขั้นเทพจริง เท่านั้น
แต่ปัจจุบัน และ อีก3 ปีต่อจากนี้ ผู้นำเราคือ เจ๊ปูอะครับ ท่านเชื่อมั่นเจ๊แกหรือเปล่า
........ถ้าปีหน้า น้ำบ่า มันมาอย่างนี้อยู่ แล้วปูไม่ทำอะไร ปูจะโดนลอยไปกับน้ำ แน่ (ผมว่าคนไทย เป็นคนใจอ่อน ยอมได้ แต่ท่ามันซ้ำซาก คงไม่มีใครทน แล้วล่ะครับ)
เพลิงสีนิล wrote:นักเรียนตลอดชีพ wrote:เพลิงสีนิล wrote:นึกถึงตอนอธิบายอะไรให้พวก ควายแดงเข้าใจสิครับ ยากไหม
ถ้ามาร์คอธิบายจะโดนด่า ถ้าปูอธิบาย แดงรับได้ ............
ให้ปูอธิบาย แดง ก็รับเละสิครับ
ตรรกคงแบบนี้
while (โพย <> NULL)
{
Scanf("%mempu", &โพล);
Printf ("ซ้อม",โพล);
Printf ("แถลง",mempu);
if ( mempu <> โพล )
{
Printf ("ความ ฉิบ หาย บังเกิด");
Printf ("แก้ตัว บลา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ");
}
else Printf ("บลา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ต้องเข้าใจให้ได้นะคะ")
}