"เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรอง

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

"เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรอง

Postby ryukendo » Sun Oct 16, 2011 10:45 am

Image
"เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรองในชาติ หลังเห็นภาพ "มาร์ค-ยิ่งลักษณ์" จับมือแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมพึงพอใจการทำงานของทหาร , อาสาสมัคร และสื่อมวลชน พร้อมเชื่อว่าน้ำท่วมครั้งนี้คนไทยจะแปรวิกฤตให้เป็นโอาสได้แน่

16ต.ค.2554 ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องสำรวจวิกฤตภัยพิบัติกับโอกาสที่ดีของคนไทย : กรณีศึกษามุมมองของประชาชนผู้ไม่ได้ประสบภัยน้ำท่วมใน 19 จังหวัดของประเทศ

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง วิกฤตภัยพิบัติกับโอกาสที่ดีของคนไทย กรณีศึกษามุมมองของประชาชนผู้ไม่ได้ประสบภัยน้ำท่วมใน 19 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ราชบุรี เพชรบุรี ระยอง ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก ขอนแก่น เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร สงขลา และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 2,513 ตัวอย่าง โดยการเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น สุ่มจังหวัด อำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน ค่าความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา พบว่า

ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.0 ของคนไทยที่ถูกศึกษารู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีร่วมกันแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมให้ชาวบ้าน และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 มีความหวังต่อจุดเริ่มต้นของความปรองดองของคนในชาติ หลังเห็นภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร่วมกันแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงสิ่งดีๆ ที่พบเห็นในวิกฤตปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.9 ระบุเป็นความช่วยเหลือเกื้อกูลกันของคนในชาติ ร้อยละ 80.7 ระบุความมีน้ำใจ ร้อยละ 76.7 ระบุคนไทยไม่ทิ้งกัน ร้อยละ 67.2 ระบุความสามัคคีไม่แบ่งฝ่าย และร้อยละ 67.8 ระบุความเสียสละของคนในชาติ ตามลำดับ

เมื่อถามถึงกิจกรรมที่ศูนย์พักพิงปลอดภัยของผู้ประสบภัยน้ำท่วมควรมี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.7 ระบุการทำฐานข้อมูลช่วยเหลือด้านที่ทำกิน รองลงมาคือร้อยละ 72.6 ทำฐานข้อมูลช่วยเหลือด้านการเงินหลังน้ำลด ร้อยละ 64.6 ระบุฟื้นฟูอุตสาหกรรมธุรกิจต่างๆ ร้อยละ 57.3 จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในศูนย์ที่พักพิงปลอดภัย ร้อยละ 56.8 ส่งเสริมศิลปาชีพ ร้อยละ 55.1 จัดเวรยามในการตรวจตราทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ร้อย ละ 53.8 จัดกิจกรรมให้ความรู้ความปลอดภัยเมื่อมีภัยพิบัติ ร้อยละ 47.6 ทำบุญกิจกรรมทางศาสนา และร้อยละ 42.7 ทำกิจกรรมด้านบันเทิง แสดงดนตรี ภาพยนตร์ เป็นต้น

ส่วนรูปแบบความต้องการใดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พบ ว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 ระบุเป็นการบริจาคเงิน ร้อยละ 66.4 ระบุอาหารแห้ง ร้อยละ 56.6 ระบุน้ำสะอาด ร้อยละ 48.1 ระบุเสื้อผ้า ร้อยละ 27.2 ช่วยบรรจุหีบห่อสิ่งของบริจาค ร้อยละ 18.1 ระบุ เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ ร้อยละ 17.8 จัดกิจกรรมฟื้นฟูสภาพจิตใจ และร้อยละ 15.9 ระบุช่วยให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัย ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ลำดับความต้องการที่เสนอต่อการบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำท่วมต่อรัฐบาลและ หน่วยงานต่างๆ เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า อันดับแรกได้แก่ ด้านความโปร่งใสในการใช้งบประมาณและเงินบริจาคได้ 9.89 คะแนน อันดับที่สองได้แก่ ด้านการสนับสนุนงบประมาณในการแก้ปัญหาได้ 9.80 คะแนน อันดับที่สาม ได้แก่ ด้านมาตรการชดเชยเยียวยา ได้ 9.72 คะแนน อันดับรองๆ ลงไป ได้แก่ การแก้ปัญหาที่ครอบคลุมทั่วถึง และความรวดเร็วในการช่วยเหลือ ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงความคิดเห็นว่า คนไทยจะสามารถเปลี่ยนจากวิกฤตปัญหาให้เป็นโอกาสที่ดี ทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีน้ำใจช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้หรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.3 คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีได้ มีเพียงร้อยละ 10.7 ที่ไม่คิดเช่นนั้น

และถ้าหลังน้ำลด สิ่งที่คนไทยอยากเห็น พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.8 สานต่อโครงการพระราชดำริ เช่น โครงการแก้มลิง ขุดลอกคูคลอง ร้อยละ 76.3 เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ร้อยละ 67.1 คนไทยรักกันไม่แตกแยก เลิกขัดแย้งทางการเมือง ร้อยละ 66.7 สร้างเขื่อน ร้อยละ 64.5 มีแผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาวจากรัฐบาล ร้อยละ 62.9 ปราบปรามขบวนการตัดไม้ทำลายป่า และร้อยละ 56.6 ตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้งบประมาณและเงินบริจาคช่วยผู้ประสบภัย

นอกจากนี้ เมื่อถามถึงความพอใจต่อหน่วยงานและคณะบุคคลต่างๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมของประชาชน เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ประชาชนพอใจมากที่สุดต่อการทำงานของทหาร ได้ 9.47 คะแนนและไม่แตกต่างกันในอันดับที่สองได้แก่ กลุ่มอาสาสมัครได้ 9.44 คะแนน อันดับที่สามได้แก่ สื่อมวลชน ได้ 9.12 คะแนน รองๆ ลงไป ได้แก่ ดารานักร้อง นักแสดง ฝ่ายปกครอง เช่น ผู้ว่า อบจ. อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรมชลประทาน ฝ่ายรัฐบาล ตำรวจ และฝ่ายค้าน ตามลำดับ

ประเด็นสำคัญคือ คะแนนเฉลี่ยความเห็นใจ ให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม เมื่อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ 9.00 คะแนน และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.8 ต้องการให้โอกาสรัฐบาลทำงานอยู่จนครบวาระ

ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน เอแบคโพลล์ กล่าวว่า ในท่ามกลางวิกฤตภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่นี้สิ่งที่ผลวิจัยค้นพบคือ คนไทยส่วนใหญ่ยังมีความหวังว่าจะเป็นโอกาสที่ดีทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในด้านเศรษฐกิจคือการจัดทำฐานข้อมูลช่วยเหลือที่ทำกินและด้านการเงิน การประกอบอาชีพของประชาชนอย่างจริงจังต่อเนื่อง และด้านสังคมคือได้พบเห็นความช่วยเหลือเกื้อกูลกันที่ประชาชนทุกเชื้อชาติ ที่อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยน่าจะช่วยกันรักษาไว้เพื่อความสุขที่ยั่งยืน และด้านการเมืองที่คนไทยส่วนใหญ่มีความหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความ ปรองดองไม่แตกแยก และทำงานทางการเมืองที่สร้างสรรค์ต่อไป

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 51.6 เป็นหญิง ร้อยละ 48.4 เป็นชาย ร้อยละ 5.4 อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 21.5 อายุระหว่าง 20 - 29 ปี ร้อยละ 20.8 อายุระหว่าง 30 - 39 ปี ร้อยละ 18.9 อายุระหว่าง 40 - 49 ปี และร้อยละ 33.4 อายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.4 การศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ในขณะที่ร้อยละ 28.6 ปริญญาตรีขึ้นไป ร้อยละ 32.8 อาชีพเกษตรกรและรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป ร้อยละ 25.1 ค้าขายส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 15.9 พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 10.2 ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 6.4 นักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 5.9 แม่บ้าน เกษียณอายุ และร้อยละ 3.7 ไม่ได้ประกอบอาชีพ

http://www.komchadluek.net/detail/20111 ... B8%87.html


เป็นยุคทองของบรรดาโพยจริงๆ :lol: :lol: :lol:
User avatar
ryukendo
 
Posts: 1173
Joined: Sat Feb 05, 2011 9:49 am

Re: "เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรอง

Postby ssa » Sun Oct 16, 2011 10:54 am

โพยโสเภณี
User avatar
ssa
 
Posts: 2775
Joined: Fri Oct 17, 2008 11:31 am


Re: "เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรอง

Postby มะเขือเทศเน่า » Sun Oct 16, 2011 1:25 pm

ไม่หวังเลยครับ เพราะถูกเป่าหูถูกเสี้ยมด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จหรือจินตนาการน้ำทะลักมานานแล้ว
การเมืองทำให้ปวดหัว แต่อย่ากลัวที่จะรับฟัง อิอิ
อย่าปล่อยให้คำว่า "ประชาธิปไตย" และ "ประชาชน"
ถูกใช้เป็นเครื่องมือหากินของนักการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตน
User avatar
มะเขือเทศเน่า
 
Posts: 2525
Joined: Sat May 01, 2010 9:43 pm

Re: "เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรอง

Postby little bee » Sun Oct 16, 2011 2:02 pm

น่าแปลก ผมกลับเห็นสัญญาณความแตกแยกมากขึ้นชัดเจนอย่างไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต
อันเกิดจากน้ำมือของพวกนักเสี้ยม นักสร้างวาทกรรมเพื่อเบี่ยงปัญหาออกจากตัว นักฉวยโอกาส และนักเลงข้างถนน

ผมไปเจอข้อความจากบล็อกเกอร์ท่านหนึ่งในโอเคเนชั่น โดนใจมากๆ เอามาฝากพี่น้องครับ

ความคิดเห็นที่ 7 su
พวกที่หนีน้ำอยู่ขณะนี้ คงจะรู้ซึ้งแล้วว่าบ้านของตัวเองถูกคนอื่นมาบุกรุก จนทำมาหาประทานไม่ได้มันเป็นอย่างไร
ความรู้สึกเดียวกับคนกรุงเทพๆเมื่อปีที่แล้ว พวกเขาระทมทุกข์กับพวกอัตพาลมาบุกรุกจนทำมาหากินไม่เป็นปกติสุข แถมถูกเผาจนเสียหายไปเป็นแสนๆล้าน.


ความเห็นนี้ทำให้ผมตาสว่างครับ...
ตาสว่างว่าเราคนกรุงเทพที่ถูกต่อว่ามาตลอดว่าเหยียดรากหญ้าชนชั้นล่าง ดูถูกคนต่างจังหวัด สุขสบายบนหัวคนต่างจว.นั้น
แต่ที่จริงเราไม่เคยปริปากพร่ำบ่นความทุกข์ซ้ำซากให้ใครรู้เลย เราได้แต่กัดฟันแล้วอดทน
เราไม่เคยตั้งกระทู้ต่อว่าคนจังหวัดไหน หรือเอ่ยสัมภาษณ์ออกไมค์หาคนผิดให้เราได้กล่าวโทษเลย เพราะเรารู้ว่ามวลชนเสื้อแดงถูกมอมเมาจากแกนนำ
เราไม่เคยเรียกร้องให้ใครมาชดใช้ให้เรา แบกภาระของเรา แทนเรา เพราะเรารู้ว่าต้องแก้ปัญหาและกอบกู้ชีวิตด้วยตัวเอง


ฉะนั้น เวลาคนกทม.ถูกสื่อเสี้ยมกับเว็บพันทิปต่อว่าว่าคนกทม.เห็นแก่ตัว ปล่อยให้น้ำท่วมคนต่างจว. คนต่างจว.ลำบากคนกรุงสบาย...
แล้วเรียกร้องให้เราสำนึกถึงพระคุณ เรียกร้องให้เราชดใช้คืนความเดือดร้อนให้...
ไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่จุกที่คอหอย
"เราไม่อาจเสกกบให้เป็นเจ้าชายได้ ฉันใด
เราย่อมมิอาจสร้างควายให้เป็นนายกได้ ฉันนั้น"
User avatar
little bee
 
Posts: 987
Joined: Fri Jul 22, 2011 7:14 am

Re: "เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรอง

Postby naiare » Sun Oct 16, 2011 2:30 pm

ทำโพลล์ออกมาเพื่อสนับสนุนความเชื่อของ ดร นพดล

ล้วนคำถามชี้นำ
User avatar
naiare
 
Posts: 3000
Joined: Sun Mar 08, 2009 2:35 am

Re: "เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรอง

Postby little bee » Sun Oct 16, 2011 2:32 pm

อ้าว 2 โพยโสเภณีแย้งกันเองซะแร้ว ทะไมไม่นัดกันก่อนล่ะยะตัวเธอว์ :roll:


“ดุสิตโพล” เผย ปชช.ยังไม่เชื่อน้ำท่วมช่วยฝ่ายค้าน-รบ.ปรองดอง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2554 10:57 น.


“สวนดุสิตโพล” เผยประชาชนเกือบร้อยละ 30 เครียดมากต่อสถานการณ์น้ำท่วม เพราะเกิดต่อเนื่องยาวนานจนวิตกกังวล เกือบร้อยละ 60 เห็นว่าคนไทยยังช่วยเหลือกันเต็มที่ แต่ยังไม่เชื่อจะเป็นจุดเปลี่ยนของการปรองดองระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน เพราะการช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมกับการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน และยังไม่เห็นทั้ง 2 ฝ่ายมีการร่วมมือกันอย่างจริงจัง

วันที่ 16 ต.ค. “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้เปิดเผยสำรวจความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งโดยตรงและโดยอ้อม โดยใช้การโทรศัพท์สัมภาษณ์และลงพื้นที่ในบางส่วนจากตัวแทน 15 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวน 1,634 คน ระหว่างวันที่ 10-15 ตุลาคม 2554 สรุปผลได้ดังนี้

ความรู้สึกของประชาชนต่อการรับรู้รับฟังข้อมูลข่าวสารน้ำท่วมเป็นอย่างไร อันดับ 1 ค่อนข้างเครียด 44.36% เพราะกลัวบ้านตัวเองจะถูกน้ำท่วมและเห็นใจผู้ที่ถูกน้ำท่วมอยู่ในขณะนี้ เป็นเหตุการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงของประเทศไทย ฯลฯ อันดับ 2 เครียดมาก 29.37% เพราะมีการนำเสนอข่าวน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานานนับเดือน ทำให้เกิดการวิตกกังวลไปต่างๆ นานา ฯลฯ อันดับ 3 ไม่ค่อยเครียด 16.69% เพราะมีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมไว้แล้ว มั่นใจว่าที่บ้านไม่ท่วม ส่วนราชการมีการป้องกันอย่างเต็มที่ ฯลฯ อันดับ 4 ไม่เครียด 9.58% เพราะคิดว่าเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรรับฟังอย่างมีสติและเตรียมรับมือหรือป้องกันจะดีกว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ฯลฯ

ส่วน “วิธีคลายเครียดและวิตกกังวล” ของประชาชน กรณีน้ำท่วม อันดับ 1 หยุดติดตามข่าวสารน้ำท่วมสักพัก หากิจกรรมอย่างอื่นมาทำแทน/พูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวเพื่อจะได้ระบายความวิตกกังวลออกมา/ไม่คิดวิตกกังวลอยู่คนเดียว 49.85% อันดับ 2 ต้องทำใจยอมรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น/ให้กำลังใจตัวเอง มองโลกในแง่ดี และควรหาทางป้องกันหรือมีการเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำท่วม 41.31% อันดับ 3 ควรมองคนที่ลำบากหรือแย่กว่าเราเพื่อจะได้มีกำลังใจที่จะฝ่าฟันอุปสรรคครั้งนี้ให้ผ่านพ้นไปได้ 8.84%

ส่วนวิธีป้องกันกรณีที่มีโจรขโมยฉวยโอกาสช่วงน้ำท่วมในการลักขโมยทรัพย์สินตามบ้านเรือน อันดับ 1 เพิ่มสายตรวจหรือกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตระเวน ตรวจตราพื้นที่ต่างๆ ให้มากขึ้น/มีบทลงโทษที่รุนแรง 63.42% อันดับ 2 เก็บรวบรวมทรัพย์สินที่มีค่าไว้ในที่ปลอดภัย ปิดประตูหน้าต่างให้แน่นหนา 21.98% อันดับ 3 คนในชุมชนหรือเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันควรช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล 14.60%

วิธีป้องกันกรณีที่มีการขายสินค้าอุปโภคบริโภคเกินราคาในช่วงน้ำท่วมอันดับ 1 กระทรวงพาณิชย์จะต้องมีการตรวจสอบราคาสินค้าอย่างเข้มงวด/เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดูแลความเรียบร้อย 47.72% อันดับ 2 มีการประกาศเตือนพ่อค้าแม่ค้า/พร้อมแจ้งมาตรการ บทลงโทษที่รุนแรงกับผู้ที่ฉวยโอกาสขายสินค้าเกินราคา 45.44% อันดับ 3 ประชาชนเองไม่ควรซื้อสินค้ากับร้านที่ขายเกินราคา หากพบเจอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ของรัฐทันที 6.84%

ความคิดเห็นต่อการช่วยเหลือของประชาชน กับประชาชนที่ถูกน้ำท่วมเป็นอย่างไร อันดับ 1 คนไทยต่างช่วยเหลือซึ่งกันและกันอย่างเต็มที่/การบริจาคเงิน สิ่งของ เครื่องใช้ และแรงกายแรงใจ 57.94% อันดับ 2 รู้สึกซาบซึ้งถึงน้ำใจของคนไทยด้วยกัน คนไทยไม่ทอดทิ้งกัน เป็นการแสดงออกซึ่งความรัก สามัคคี 33.67% อันดับ 3 ยังมีคนบางกลุ่มที่ฉวยโอกาสจากเรื่องน้ำท่วมมาแอบอ้างเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตนเอง 8.39%

สิ่งไหน/เรื่องใดควรทำเป็นอย่างแรกหลังน้ำท่วม อันดับ 1 ซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้าง อาคาร บ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายให้เข้าสู่สภาพปกติ 54.50% อันดับ 2 สำรวจความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมให้การช่วยเหลือและดูแลผู้ประสบภัยจนกว่าจะช่วยเหลือตัวเองได้ 23.67% อันดับ 3 การเยียวยา ฟื้นฟูทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของผู้ประสบภัย เพื่อให้มีกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป 21.83%

การแก้ปัญหาระยะยาวเกี่ยวกับน้ำท่วมควรทำอย่างไร อันดับ 1 การศึกษา วางแผนระบบการระบายน้ำเส้นทางน้ำต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ/การเตรียมการป้องกันน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นในครั้งต่อไป 53.65% อันดับ 2 ระดมความคิดเห็นทั้งผู้เชี่ยวชาญในไทยและจากต่างประเทศมาประชุมหารือเพื่อหาแนวทางป้องกัน และแก้ไขปัญหาในระยะยาว ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญและสนับสนุนอย่างเต็มที่โดยเฉพาะ เรื่องงบประมาณ 23.65% อันดับ 3 การสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนเรื่องน้ำท่วมในการรับมือและป้องกันเมื่อจะต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วม/นำเรื่องน้ำท่วมขึ้นมาเป็นวาระเร่งด่วนหรือเป็นวาระแห่งชาติ 22.70%

จากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดเปลี่ยนของการสร้างความปรองดอง การร่วมมือกันระหว่าง “รัฐบาล” กับ “ฝ่ายค้าน” ได้หรือไม่ อันดับ 1 ไม่แน่ใจ 42.33% เพราะการช่วยเหลือเรื่องน้ำท่วมกับเรื่องการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน, ยังไม่เห็นทั้ง 2 ฝ่ายมีการร่วมมือกันอย่างจริงจัง ฯลฯ อันดับ 2 ได้ 29.55% เพราะความสามัคคี ปรองดองเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ การร่วมแรงร่วมใจเป็นสิ่งสำคัญ ฯลฯ อันดับ 3 ไม่ได้ 28.12% เพราะต่างฝ่ายต่างมีวิธีการหรือมีแนวคิดที่แตกต่างกัน, เป็นธรรมชาติของการเมืองไทยที่จะต้องมีการแบ่งขั้วทางการเมือง ฯลฯ

ส่วนหัวข้อบทเรียนที่คนไทยได้รับจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ อันดับ 1 น้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของประเทศ และก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างประเมินค่ามิได้ 33.98% อันดับ 2 ภาครัฐจะต้องมีการดำเนินการป้องกัน แก้ไขเรื่องน้ำท่วมในระยะยาวอย่างจริงจังและจะต้องทำทันที 30.83% อันดับ 3 วิกฤตการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการทำลายป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติ/ขาดการสำรวจความพร้อมของการรองรับน้ำจากแหล่งต่างๆ ได้แก่ เขื่อน แม่น้ำ คูคลอง และทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ 18.77% อันดับ 4 การเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับน้ำท่วมที่อาจจะมีขึ้นอีกในครั้งต่อไป/ประชาชนจะต้องศึกษา รู้จักดูแลตนเองในการเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับน้ำท่วม 16.42%
"เราไม่อาจเสกกบให้เป็นเจ้าชายได้ ฉันใด
เราย่อมมิอาจสร้างควายให้เป็นนายกได้ ฉันนั้น"
User avatar
little bee
 
Posts: 987
Joined: Fri Jul 22, 2011 7:14 am


Return to สภากาแฟ



cron