"เอแบคโพลล์" ชี้คนไทยส่วนใหญ่เริ่มเห็นความหวังความปรองในชาติ หลังเห็นภาพ "มาร์ค-ยิ่งลักษณ์" จับมือแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมพึงพอใจการทำงานของทหาร , อาสาสมัคร และสื่อมวลชน พร้อมเชื่อว่าน้ำท่วมครั้งนี้คนไทยจะแปรวิกฤตให้เป็นโอาสได้แน่
16ต.ค.2554 ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องสำรวจวิกฤตภัยพิบัติกับโอกาสที่ดีของคนไทย : กรณีศึกษามุมมองของประชาชนผู้ไม่ได้ประสบภัยน้ำท่วมใน 19 จังหวัดของประเทศ
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง วิกฤตภัยพิบัติกับโอกาสที่ดีของคนไทย กรณีศึกษามุมมองของประชาชนผู้ไม่ได้ประสบภัยน้ำท่วมใน 19 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ราชบุรี เพชรบุรี ระยอง ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก ขอนแก่น เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี บุรีรัมย์ เพชรบูรณ์ ยโสธร สงขลา และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 2,513 ตัวอย่าง โดยการเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น สุ่มจังหวัด อำเภอ ตำบลและหมู่บ้าน ค่าความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7 ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา พบว่า
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.0 ของคนไทยที่ถูกศึกษารู้สึกดีขึ้นเมื่อเห็นภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีร่วมกันแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วมให้ชาวบ้าน และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 85.6 มีความหวังต่อจุดเริ่มต้นของความปรองดองของคนในชาติ หลังเห็นภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร่วมกันแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงสิ่งดีๆ ที่พบเห็นในวิกฤตปัญหาน้ำท่วมครั้งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.9 ระบุเป็นความช่วยเหลือเกื้อกูลกันของคนในชาติ ร้อยละ 80.7 ระบุความมีน้ำใจ ร้อยละ 76.7 ระบุคนไทยไม่ทิ้งกัน ร้อยละ 67.2 ระบุความสามัคคีไม่แบ่งฝ่าย และร้อยละ 67.8 ระบุความเสียสละของคนในชาติ ตามลำดับ
เมื่อถามถึงกิจกรรมที่ศูนย์พักพิงปลอดภัยของผู้ประสบภัยน้ำท่วมควรมี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.7 ระบุการทำฐานข้อมูลช่วยเหลือด้านที่ทำกิน รองลงมาคือร้อยละ 72.6 ทำฐานข้อมูลช่วยเหลือด้านการเงินหลังน้ำลด ร้อยละ 64.6 ระบุฟื้นฟูอุตสาหกรรมธุรกิจต่างๆ ร้อยละ 57.3 จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในศูนย์ที่พักพิงปลอดภัย ร้อยละ 56.8 ส่งเสริมศิลปาชีพ ร้อยละ 55.1 จัดเวรยามในการตรวจตราทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ร้อย ละ 53.8 จัดกิจกรรมให้ความรู้ความปลอดภัยเมื่อมีภัยพิบัติ ร้อยละ 47.6 ทำบุญกิจกรรมทางศาสนา และร้อยละ 42.7 ทำกิจกรรมด้านบันเทิง แสดงดนตรี ภาพยนตร์ เป็นต้น
ส่วนรูปแบบความต้องการใดในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม พบ ว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.9 ระบุเป็นการบริจาคเงิน ร้อยละ 66.4 ระบุอาหารแห้ง ร้อยละ 56.6 ระบุน้ำสะอาด ร้อยละ 48.1 ระบุเสื้อผ้า ร้อยละ 27.2 ช่วยบรรจุหีบห่อสิ่งของบริจาค ร้อยละ 18.1 ระบุ เข้าไปช่วยเหลือในพื้นที่ ร้อยละ 17.8 จัดกิจกรรมฟื้นฟูสภาพจิตใจ และร้อยละ 15.9 ระบุช่วยให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัย ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ลำดับความต้องการที่เสนอต่อการบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำท่วมต่อรัฐบาลและ หน่วยงานต่างๆ เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า อันดับแรกได้แก่ ด้านความโปร่งใสในการใช้งบประมาณและเงินบริจาคได้ 9.89 คะแนน อันดับที่สองได้แก่ ด้านการสนับสนุนงบประมาณในการแก้ปัญหาได้ 9.80 คะแนน อันดับที่สาม ได้แก่ ด้านมาตรการชดเชยเยียวยา ได้ 9.72 คะแนน อันดับรองๆ ลงไป ได้แก่ การแก้ปัญหาที่ครอบคลุมทั่วถึง และความรวดเร็วในการช่วยเหลือ ตามลำดับ
ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงความคิดเห็นว่า คนไทยจะสามารถเปลี่ยนจากวิกฤตปัญหาให้เป็นโอกาสที่ดี ทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีน้ำใจช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้หรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.3 คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีได้ มีเพียงร้อยละ 10.7 ที่ไม่คิดเช่นนั้น
และถ้าหลังน้ำลด สิ่งที่คนไทยอยากเห็น พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.8 สานต่อโครงการพระราชดำริ เช่น โครงการแก้มลิง ขุดลอกคูคลอง ร้อยละ 76.3 เร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย ร้อยละ 67.1 คนไทยรักกันไม่แตกแยก เลิกขัดแย้งทางการเมือง ร้อยละ 66.7 สร้างเขื่อน ร้อยละ 64.5 มีแผนป้องกันน้ำท่วมระยะยาวจากรัฐบาล ร้อยละ 62.9 ปราบปรามขบวนการตัดไม้ทำลายป่า และร้อยละ 56.6 ตรวจสอบความโปร่งใสในการใช้งบประมาณและเงินบริจาคช่วยผู้ประสบภัย
นอกจากนี้ เมื่อถามถึงความพอใจต่อหน่วยงานและคณะบุคคลต่างๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมของประชาชน เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ประชาชนพอใจมากที่สุดต่อการทำงานของทหาร ได้ 9.47 คะแนนและไม่แตกต่างกันในอันดับที่สองได้แก่ กลุ่มอาสาสมัครได้ 9.44 คะแนน อันดับที่สามได้แก่ สื่อมวลชน ได้ 9.12 คะแนน รองๆ ลงไป ได้แก่ ดารานักร้อง นักแสดง ฝ่ายปกครอง เช่น ผู้ว่า อบจ. อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กรมชลประทาน ฝ่ายรัฐบาล ตำรวจ และฝ่ายค้าน ตามลำดับ
ประเด็นสำคัญคือ คะแนนเฉลี่ยความเห็นใจ ให้กำลังใจ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาภัยพิบัติน้ำท่วม เมื่อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ 9.00 คะแนน และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.8 ต้องการให้โอกาสรัฐบาลทำงานอยู่จนครบวาระ
ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน เอแบคโพลล์ กล่าวว่า ในท่ามกลางวิกฤตภัยพิบัติน้ำท่วมครั้งใหญ่นี้สิ่งที่ผลวิจัยค้นพบคือ คนไทยส่วนใหญ่ยังมีความหวังว่าจะเป็นโอกาสที่ดีทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในด้านเศรษฐกิจคือการจัดทำฐานข้อมูลช่วยเหลือที่ทำกินและด้านการเงิน การประกอบอาชีพของประชาชนอย่างจริงจังต่อเนื่อง และด้านสังคมคือได้พบเห็นความช่วยเหลือเกื้อกูลกันที่ประชาชนทุกเชื้อชาติ ที่อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยน่าจะช่วยกันรักษาไว้เพื่อความสุขที่ยั่งยืน และด้านการเมืองที่คนไทยส่วนใหญ่มีความหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของความ ปรองดองไม่แตกแยก และทำงานทางการเมืองที่สร้างสรรค์ต่อไป
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 51.6 เป็นหญิง ร้อยละ 48.4 เป็นชาย ร้อยละ 5.4 อายุต่ำกว่า 20 ปี ร้อยละ 21.5 อายุระหว่าง 20 - 29 ปี ร้อยละ 20.8 อายุระหว่าง 30 - 39 ปี ร้อยละ 18.9 อายุระหว่าง 40 - 49 ปี และร้อยละ 33.4 อายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.4 การศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ในขณะที่ร้อยละ 28.6 ปริญญาตรีขึ้นไป ร้อยละ 32.8 อาชีพเกษตรกรและรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป ร้อยละ 25.1 ค้าขายส่วนตัว/อาชีพอิสระ ร้อยละ 15.9 พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 10.2 ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 6.4 นักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 5.9 แม่บ้าน เกษียณอายุ และร้อยละ 3.7 ไม่ได้ประกอบอาชีพ
http://www.komchadluek.net/detail/20111 ... B8%87.html
เป็นยุคทองของบรรดาโพยจริงๆ