palmaom wrote:
- เรียนพี่ เช neverdie เขาออกข่าวแล้วครับว่าจะกู้ 500,000 ล้านบาท เพื่อมาดำเนินนโยบายที่ให้ไว้ มากกว่า ปชป.
กู้มา 2 ปีครึ่งอีก ต้องเรียกว่า หาตังค์ไม่เป็นของจริงแล้วยังดีแต่กู้กว่าชาวบ้านด้วย
เช neverdie wrote:แต่ถ้าถอยตัวเองออกมาให้ห่างจากปัญหาน้ำท่วม แล้วมองภาพในมุมกว้างทั้งหมดจะทำให้เริ่มมองเห็นอะไรรางๆครับ
ปัญหามันเริ่มจากการที่ประกาศโครงการรับจำนำข้าว(รับซื้อข้าวทุกเมล็ด)จากชาวนาตันละ 15,000 - 20,000 บาท คำนวนคร่าวๆรัฐบาลอีปูต้องหาเงิน สี่แสนล้านบาท-ห้าแสนล้านบาทมาเพื่อทำตามนโยบายนี้ แต่เอาเข้าจริงรัฐบาลก็ไม่มีเงินมากขนาดนั้นที่จะไปรับซื้อข้าวจากชาวนาตามที่ประกาศใว้ตอนหาเสียง วิธีแก้ปัญหาแบบ สัด นา รก ชิง หมา เกิด ของรัฐบาลก็คือปล่อยให้น้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมของชาวนาเพื่อลดปริมาณข้าวที่จะเข้าโครงการรับซื้อของรัฐบาล หวังจะยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวคือไม่ต้องรับซื้อข้าวในปริมาณมากและยังได้กลบเกลื่อนข่าวความชั่วช้าของรัฐบาลทั้งการยกพื้นที่เขาพระวิหารให้เขมร การยกพื้นที่สัมปทานน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลให้เขมร ฯลฯ
แต่ปัญหามันดันลามปามเกินควบคุมเพราะความโง่อภิมหาโง่ยิ่งกว่าลิงตัวเมียที่พูดภาษามนุษย์ได้ ทำให้พื้นที่อุตสาหกรรมต่างๆพังพินาศย่อยยับไปด้วย
amplepoor wrote:นี่คุณไม่ได้อ่านที่ผมพิมพ์เลย ใช่ป่าว
1 ผมถามว่า มีอ้างอิงใหม ที่บอกว่าเขื่อนไม่ปล่อยน้ำ........คุณไม่ให้
2 ผมเอาคลิบสมิธมาบอกให้รู้ว่า เมื่อเมื่อต้นปีสิ่งที่กลัวกันคือน้ำแล้ง ไม่ได้กลัวไปเองแต่มีหลักฐานทางอุตุสนับสนุน
3 แล้วน้ำก็แล้งจริงๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มกรามา การลดของน้ำเหมือนกับที่เกิดในปี 2552 เป๊ะๆ เดินแนวเดียวกันมาถึงกลางเดือนมีนาคมเลย
http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_lgraph.php
ในเมื่อมีตัวอย่างแล้วว่าในปี 2552 กราฟมันเคยลงไปถึง 3900 ล้าน เมื่อ 22 กค. ต่ำถึงระดับวิกฤติ
คุณจะให้เขื่อนทำอย่างไรล่ะ
4 เมื่อน้ำเริ่มท่วมบางระกำนั้น น้ำในเขื่อนเพิ่งจะมีแค่ 9 พันกว่าล้าน สำหรับเขื่อน นี่เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
แต่ในวันนั้น คุณกล้าปล่อยน้ำลงไปซ้ำเติมชาวบ้านอีกหรือ
5 แล้วที่คุณเอาสถิติน้ำฝนมาอ้าง มันไม่ใช่ตวามรับผิดชอบของเขื่อน มันหน้าที่กรมชลประทาน ซึ่งวันนั้น มีรัฐบาลชะนีหน้าโง่ดูแลอยู่
ตกลงคุณกล่าวหาสองปัจจัย คือเขื่อน กับชลประทาน ทำให้น้ำท่วม
เขื่อนเขารับผิดชอบน้ำหลังเขื่อน ชลประทานรับผิดชอบน้ำใต้เขื่อน
อย่าเอาสองปัจจัยมาปนกันสิครับ จะได้คุยกันรู้เรื่อง
redfrog53 wrote:เรื่องต่อไป...
"รัฐบาลชุดก่อนเก็บน้ำไว้ในเขื่อนมากผิดปกติ กะว่าแพ้เลือกตั้งแล้ว จะได้เป็นปัญหากับรัฐบาลชุดนี้"
....เอ่อ รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของรัฐบาลก่อนกับรัฐบาลนี้ก็คนเดียวกันนะคะ เขาจะไปทำร้ายตัวเองขนาดนั้นทำไม...
วรกร จาติกวณิช
รู้มั้ยว่าทำไมน้ำถึงท่วมเป็นวงกว้างขนาดนี้.......
สาเหตุ.....
การจัดการบริหารน้ำผิดพลาด
ใครผิดพลาด.....
นายปลอดประสพภัย ทำไมถึงเป็นนายคนนี้ เพราะตอนน้ำท่วมช่วงแรกๆ
นายคนนี้เป็นคนสั่งให้เขื่อน ทุกเขื่อนกักน้ำให้ไว้ให้มากที่สุด แทนที่จะปล่อยให้ระบายน้ำออกจาก
เขื่อนตามหลักการที่เคยทำมา เพื่อที่จะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมในช่วงนั้นลดลง ...........
โดยไม่สนใจคำคัดค้านจาก ผอ.เขื่อนต่างๆ โดยเฉพาะเขื่อภูมิพล ที่พยายามโต้ เถี่ยงคัดค้านมาโดย
ตลอดจนนายคนนี้ไม่สามารถโต้เถี่ยงจึงกล่าวออกมาว่า
"นี่คือคำสั่ง ผมสั่ง...คุณต้องทำ"
แล้วเป็นไง....น้ำเหนือที่ยังไม่หมดช่วงมรสุมตะวันออกลงมาที่เขื่อนต่างๆเป็น จำนวนมาก
จะค่อยๆระบายก็ไม่ได้ ต้องกัก...นี่เป็นคำสั่ง จนส่งผลดังปัจุบันที่ เป็นอยู่.....
แล้วเราจะประนามใคร......... ช่วยกระจายเรื่องหน่อยเถอะครับ ชาวไทยจะได้ตาสว่าง
*** ชาวเขื่อน ***
น้ำท่วมครั้งนี้ เกิดจากความผิดพลาดการบริหารน้ำทั้งหมด คนที่ต้องรับผิดชอบ ปู ปลอดประศพ
เตี้ยสุพรรณ รมต.เกษตร กรมชล! ฯ ความจริงที่ควรรู้
๑.ปริมาณน้ำไม่ได้มากกว่าปี ๔๙ และ ๓๘
๒. เพียงแต่น้ำมาเร็วกว่าปกติประมาณ ๔๕ วัน
๓. ทำให้มีการกักน้ำไว้ไม่ให้ไปท่วมนาที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จ
๔. บรรหารไม่ยอมให้ผันน้ำไปท่าจีนตั้งแต่แรก ทำให้เกิดการแตก ของบาง โฉมศรี
ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติหนัก
๕. อ้ายเหลี่ยมรู้ดีดังนั้นตอนที่อ้ายพายัพ มันออกมาโวย อ้ายเตี้ยสุพัน มันจึงรีบออกมาห้ามเพราะ
ม่ายงั้น จะความแตก เพราะงานนี้ชิหายเกินกว่าจะคาดคิด
๖. อ้ายปลอดประศพสั่งไม่ปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล ตั้งแต่แรกเพราะต้องการให้ ตอนล่าง
เก็บเกี่ยวเสร็จ พอน้ำเหนือมามาก จนท่วมตัวเมืองเชียงใหม่จึงต้องปล่อย น้ำลงเขื่อนจนน้ำในเขื่อน
เกิดวิกฤติ ต้องปล่อยน้ำจำนวนมาก ติดต่อกัน
๗. หลายพื้นที่มีการกักกันน้ำ โดยเน้นไม่ให้พื้นที่ฐานเสียง ที่ยังเก็บเกี่ยวไม่เสร็จถูกน้ำท่วม
ยิ่งเป็นการซ้ำเติม ให้น้ำมีมวลมากก้อนใหญ่และรุนแรง หลายพื้นที่ไม่เคยท่วมหรือท่วมหนัก
จึงโดนกันทั่ว
๘.มีการบริหารผิดพลาดที่อยุธยาทำให้ ตัวเมือง เกาะเมือง และนิคมวายวอด ฝีมือหลักของอ้าย
ปลอดประศพ
๙.ใบเสร็จทั้งหมดดูได้จาก ปริมาณน้ำของแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำสายอื่นๆ ที่มีการเก็บข้อมูล
๑๐. ผู้ได้รับความเสียหายควรฟ้องศาลปกครอง เรียกให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบค่าเสียหาย
เพราะเป็นการปฏิบัติงานผิดพลาดร้ายแรง รวมถึงม.๑๕๗
๑๑.ย้ำอีกครั้งว่าอย่าอ้างภัยธรรมชาติ เป็นฝีมือห่วย๑๐๐%
สรุปต้องลากคอ บรรหาร ธีระ ปู ปลอดประศพ อธิบดีกรมชล มารับโทษ โดยใช้หลักฐานจากข้อมูล
น้ำทั้งหมด ซึงถ้าฟ้องศาลปกครอง ให้ศาลออกหมายเรียก เอกสารพวกนี้มาดูได้ ประเทศชิหาย
ขนาดนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ
https://www.facebook.com/groups/1708669 ... 5483494200
palmaom wrote:เรียนพี่ amplepoor โอเคเข้าใจแล้วครับพี่ นึกว่าเขื่อนกำกับดูแลหมด
แต่ถามพี่นิดนึงว่า การที่เขื่อนจะระบายน้ำออกนี่ต้องถาม กรมชลประทานก่อนป่าวครับ
รึทางเขื่อนมีอำนาจในการตัดสินใจปล่อยน้ำออกเอง เพราะจะได้เห็นภาพว่าหน่วยงานไหน
ที่รับผิดชอบส่วนนี้
amplepoor wrote:นี่คุณไม่ได้อ่านที่ผมพิมพ์เลย ใช่ป่าว
1 ผมถามว่า มีอ้างอิงใหม ที่บอกว่าเขื่อนไม่ปล่อยน้ำ........คุณไม่ให้
2 ผมเอาคลิบสมิธมาบอกให้รู้ว่า เมื่อเมื่อต้นปีสิ่งที่กลัวกันคือน้ำแล้ง ไม่ได้กลัวไปเองแต่มีหลักฐานทางอุตุสนับสนุน
3 แล้วน้ำก็แล้งจริงๆ ตั้งแต่วันที่ 1 มกรามา การลดของน้ำเหมือนกับที่เกิดในปี 2552 เป๊ะๆ เดินแนวเดียวกันมาถึงกลางเดือนมีนาคมเลย
http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_lgraph.php
ในเมื่อมีตัวอย่างแล้วว่าในปี 2552 กราฟมันเคยลงไปถึง 3900 ล้าน เมื่อ 22 กค. ต่ำถึงระดับวิกฤติ
คุณจะให้เขื่อนทำอย่างไรล่ะ
4 เมื่อน้ำเริ่มท่วมบางระกำนั้น น้ำในเขื่อนเพิ่งจะมีแค่ 9 พันกว่าล้าน สำหรับเขื่อน นี่เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
แต่ในวันนั้น คุณกล้าปล่อยน้ำลงไปซ้ำเติมชาวบ้านอีกหรือ
5 แล้วที่คุณเอาสถิติน้ำฝนมาอ้าง มันไม่ใช่ตวามรับผิดชอบของเขื่อน มันหน้าที่กรมชลประทาน ซึ่งวันนั้น มีรัฐบาลชะนีหน้าโง่ดูแลอยู่
ตกลงคุณกล่าวหาสองปัจจัย คือเขื่อน กับชลประทาน ทำให้น้ำท่วม
เขื่อนเขารับผิดชอบน้ำหลังเขื่อน ชลประทานรับผิดชอบน้ำใต้เขื่อน
อย่าเอาสองปัจจัยมาปนกันสิครับ จะได้คุยกันรู้เรื่อง