บริหารน้ำไม่เป็น

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

บริหารน้ำไม่เป็น

Postby kaidum » Sun Oct 16, 2011 2:43 pm

น้ำท่วม...บริหารจัดการไม่เป็น
15 ตุลาคม 2554 เวลา 10:43 น. |เปิดอ่าน 18,304 | ความคิดเห็น 93

ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษแต่...บริหารน้ำผิดพลาด

รุนแรงจนรัฐบาลต้องประกาศเป็น "วาระแห่งชาติ" ระดมความร่วมมือจากทุกสรรพกำลังมาร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศที่จนถึงเวลานี้ 26 จังหวัด กำลังจมน้ำ ประชาชนกว่า 2.2 ล้านครัวเรือนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก

นอกจากบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรที่เสียหายไปแล้วกว่า 9.6 ล้านไร่ มวลน้ำก้อนมหึมายังรุกคืบสร้างความเสียหายต่อเนื่องฝ่าปราการป้องกันเบื้องต้นรุกล้ำไปยังนิคมอุตสาหกรรม จนมูลค่าความเสียหายพุ่งสูงหลายแสนล้านบาท ยังไม่รวมยอดผู้เสียชีวิตที่สูงถึง 281 ราย


ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตุนิยมวิทยา มายาวนาน ฟันธงว่าวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ใช่เป็นผลพวงจาก "ภัยพิบัติ" แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการน้ำไม่เป็น!!!

"คือไม่สามารถจะบริหารน้ำได้ ไม่มีการติดตามข้อมูลตั้งแต่ต้นฤดูฝนว่าจะตกเยอะไหม ควรเก็บน้ำในเขื่อนไว้เท่าไหร่ ปรากฏว่าทุกคนเก็บน้ำไว้ในเขื่อนใหญ่หมด ทั้งกรมชลประทาน การไฟฟ้าฯ ซึ่งกลัวว่าจะไม่มีน้ำใช้ในหน้าแล้งซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ผิด

...ถ้าฝนตกต่อเนื่องทั้งกลางฤดู ปลายฤดู ยังตกอยู่ ปริมาณช่องว่างน้ำในเขื่อนจะไม่สามารถเก็บน้ำฝนกลางฤดูได้ ตอนนี้เขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้วปัญหาคือ เมื่อเขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้ว ก็ปล่อยน้ำในเขื่อนออกมาพร้อมกัน ปริมาณน้ำที่ปล่อยมามากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกใส่เขื่อน"

ดร.สมิทธ อธิบายว่า การปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ทั้ง เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทำให้น้ำมารวมตัวในภาคกลางตอนบนไล่มาตอนล่าง ขณะที่ภาคกลางก็มีน้ำฝนที่ตกมาอยู่ท้ายเขื่อนอยู่ในที่ลุ่มอยู่แล้ว ดังนั้นน้ำในขณะนี้จึงมหาศาลมาก หลายคนบอกน้ำปล่อยมานิดเดียวแต่เพราะน้ำมีอยู่แล้วในที่ลุ่ม ในนา เมื่อปล่อยมาพร้อมกันปริมาณน้ำจึงมาก ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมพร้อมกัน ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา

"เป็นวิกฤตบริหารน้ำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่มีการวางแผนไว้ก่อน อันที่จริงเราควรเก็บน้ำไว้ครึ่งหนึ่ง และถ้ามีฝนกลางฤดูที่แล้วก็สามารถเก็บน้ำไว้อีกได้"

ทั้งนี้ ที่ผ่านมานักวิชาการหลายคนบอกว่าน้ำไม่เคยสูงเช่นนี้ บางคนบอกน้ำเยอะแต่ไม่เคยท่วม ทุกคนต่างคนต่างมีข้อมูลของตัวเอง แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเถียงกันเรื่องข้อมูล เพราะข้อมูลที่แท้จริงกรมอุตุนิยมวิทยามีอยู่แล้ว เรามีสถานีวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน กว่า 200 แห่งที่วัดปริมาณฝนได้

สำหรับแนวทางการแก้ไขในเวลานี้ ดร.สมิทธเห็นว่า จำเป็นที่จะต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนเพราะช่วงนี้ไม่มีปริมาณน้ำฝนที่จะตกเข้าเขื่อนแล้วทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนนี้3 เขื่อนใหญ่ก็จะไม่มีน้ำเข้าแล้ว ดังนั้นถ้าเรายังปล่อยน้ำมหาศาลซ้ำเติมระบบน้ำท่วมที่อยู่ในภาคกลาง น้ำจะท่วมหมด

"ความเสียหายเป็นแสนล้านบาท ประเทศไทยมีหน่วยงานที่ดูแลปัญหาเกี่ยวกับน้ำภายใต้สังกัดกระทรวงต่างๆ กว่า 20 หน่วยงาน แต่เราไม่มีดาตาเบส ต่างฝ่ายต่างทำไม่เอาข้อมูลมาแชร์กัน จึงทำให้ขาดผลวิเคราะห์ในการตัดสินใจ

...การบริหารน้ำถ้าไม่มีการประสานงานกันทั้งกรมอุตุฯ กรมชลฯ การไฟฟ้าฯ ว่าควรจะเก็บหรือปล่อยน้ำแค่ไหนมันก็ไม่มีฐานข้อมูลที่นำมาคำนวณปริมาณน้ำว่าควรจะปล่อยหรือพร่องน้ำในระดับใดจึงจะทำให้พื้นที่ไม่เดือดร้อน"

นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าการไม่มีเอกภาพในการทำงาน การที่นักวิชาการทะเลาะกันเอง ไม่มีความรู้อย่างแท้จริงนำไปเสนอรัฐบาล จึงทำให้ระบบรวนทั้งหมด สุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาอุทกภัยทั้งๆ ที่น้ำมวลใหญ่ที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนใหญ่ๆนั้นบริหารจัดการได้

"ฝนปีนี้อาจจะมากกว่าปีที่แล้ว แต่การบริหารน้ำที่เราเก็บไว้มากไป แล้วปล่อยมาทีเดียว ไม่ปล่อยให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติ หากปล่อยมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นฤดูตามธรรมชาติ กลางฤดูพอฝนตกก็เก็บบ้างปล่อยบ้างปลายฤดูก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยทีเดียวเยอะๆ น้ำก็จะไม่ท่วม ถ้าเราไม่ปล่อยน้ำก้อนใหญ่จากเขื่อน 3 แห่ง รับรองว่าน้ำไม่ท่วม กทม.ปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา และอีกหลายจังหวัดอย่างที่เห็นกันอยู่"

มาตรการบรรเทาปัญหาเฉพาะหน้าเวลานี้ ดร.สมิทธ มองว่า อันดับแรกเขื่อนใหญ่ควรหยุดปล่อยน้ำและหาทางระบายน้ำที่อยู่ในแม่น้ำใหญ่ๆ ทั้งแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกงให้ลงทะเลเร็วที่สุด ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากแม่น้ำทั้งสามสาย เพราะช่วงนี้น้ำทะเลหนุนสูง น้ำเหนือไหลมาสมทบจะทำให้น้ำนิ่ง ไหลช้าลง ก็ต้องเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลก็จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม กทม.ได้

"แต่เพราะหลายเขื่อนยังปล่อยมาหลาย100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่แม่น้ำต่างๆระบายต่อวันได้ไม่ถึง 50 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกเขื่อนพร้อมใจกันปล่อย มันก็มารวมกันที่ภาคกลาง เหมือนเราเทน้ำลงมาพร้อมกัน น้ำที่เต็มแก้วเมื่อเติมไปอีกมันก็ล้น

...เรื่องนี้ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษ แต่เป็นเพราะการบริหารน้ำที่ผิดพลาด หากเราบริหารไม่ดีท่วมแน่ ถ้าไม่รู้จักเก็บน้ำในเขื่อนไว้ให้เหมาะสม นอกจากนี้การบริหารในเขื่อนเล็กๆแต่ละเขื่อนไม่สามารถระบายออกทะเลได้รวดเร็วพอ มันก็เอ่อในที่ลุ่มภาคกลาง"

ประเมินมาตรการแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ออกมาถูกทางหรือไม่นั้น ดร.สมิทธ มองว่าจริงๆ รัฐบาลควรตั้งศูนย์เฉพาะกิจแต่แรกเพราะการบริหารภัยพิบัติใหญ่ๆ ต้องตั้งศูนย์เฉพาะ ต้องมีผู้บริหารใหญ่และผู้ควบคุมศูนย์คนเดียว จะเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกหรือนายกรัฐมนตรี ก็ได้ แต่ต้องตัดสินใจคนเดียว ทว่าตั้งช้าไปหน่อย แม้ตอนนี้จะเริ่มมีการตัดสินใจเดินหน้าแก้ไขหลายเรื่องแล้วแต่มาเริ่มตอนวิกฤตน้ำใกล้ท่วม กทม.ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอยู่มาก ทำให้ผลกระทบเยอะ

ส่วนความตื่นตระหนกของชาวบ้านที่ไม่มั่นใจสถานการณ์ และแก้ปัญหาด้วยการสร้างพนังกั้นน้ำหน้าบ้านตนเองจนวัตถุดิบขาดตลาดนั้น ดร.สมิทธ เห็นว่าอาจไม่ถูกต้องตามวิธีการ เพราะเป็นการสร้างที่ไม่มีหลักวิชาการการเอาดินวาง เอากระสอบทรายมาวาง มันสู้แรงดันน้ำไม่ได้

ทั้งนี้ น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร หนักถึง 1 ตันถ้าสร้างเขื่อนสูง 2 เมตร แสดงว่ามีแรงดันน้ำถึง 2 ตัน ดังนั้นหากเขื่อนสร้างไม่แข็งแรงน้ำจะซึม กระสอบทรายไม่หนักพอก็ทลาย น้ำก็จะไหลอย่างรวดเร็วและแรงจนเอาไม่อยู่

ดร.สมิทธ อธิบายถึงแนวคิดที่ในอดีตเคยเสนอให้ตั้ง "กระทรวงน้ำ" ขึ้นมารับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยตรง ว่าเป็นเพียงข้อเสนอของนักการเมืองที่จะทำให้มีตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มขึ้นทั้งรัฐมนตรี ที่ปรึกษาและข้าราชการการเมือง เป็นการสร้างตำแหน่งเปล่าๆ

"ผมว่าทำอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบันก็เหมาะสมแล้ว คือการตั้งศูนย์เฉพาะแล้วรวมเอานักวิชาการผู้มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมารวมกัน แต่ว่าการบริหารต้องการคนที่รู้เรื่องมาคุยกัน อย่าให้มานั่งเถียงกัน และการตัดสินใจก็ให้นายกฯ เป็นผู้ชี้ขาด"


เขื่อนใหญ่ต้องหยุดปล่อยน้ำ

ยังต้องลุ้นระทึกกับมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่คาดว่าจะถึง กทม.ในวันสองวันนี้ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ยังอดเป็นห่วงฝีมือ กทม. กับการผันน้ำ กทม. หากเกิดน้ำทะลักเข้าพื้นที่เข้ามาจริงๆ


"ผมไม่เชื่อฝีมือ กทม. เพราะไม่เคยศึกษาหรือไปดูเขื่อน เช่น เขื่อน จ.ปทุมธานี ที่เพิ่งแตกไป กทม.ก็ไม่ดูแลบอกว่าท้องถิ่นสร้างขึ้นเอง ทั้งที่จริงแล้ว กทม.ควรมีหน้าที่ไปดูแลพื้นที่ด้วย เพราะน้ำที่จะแตกจากปทุมฯ จะเข้า กทม.กทม.อยู่ติดจังหวัดต้นน้ำ ถ้าเถียงกันอย่างนี้ กทม.จมแน่"

ทั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าเขื่อนรอบๆ กทม.จะมีความแข็งแรงพอหรือไม่ เพราะเขื่อนกั้นน้ำของ กทม.มีทั้งเขื่อนดินและเขื่อนคอนกรีต กระสอบทรายโดยเฉพาะในพื้นที่รอบนอก ทาง อบต. และอบจ. จะเป็นคนดูแล โดยใช้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ อาจทำให้มีปัญหาเรื่องความแข็งแรง

"อันนี้ถือเป็นจุดอ่อนจะทำให้เกิดวิกฤตน้ำในกทม.ได้ ขณะนี้น้ำล็อตใหญ่ที่มาจากเขื่อนภูมิพลสิริกิติ์ ป่าสักชลสิทธิ์ กำลังผ่านเข้ามาใน 3-4 จังหวัดที่ท่วมอยู่แล้ว กทม.จึงต้องระวังเพราะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุน ตอนนี้ดูแล้ว กทม.คงรอดยาก"

ดร.สมิทธ ประเมินว่า วิธีการแก้ไขให้ได้ผลเร็วคือ ต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ จากนั้นตั้งเครื่องสูบน้ำที่ปลายแม่น้ำที่จะลงสู่ทะเลให้มากที่สุดเพื่อสูบน้ำออกปากอ่าว นี่คือวิธีเดียวที่จะระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

"การเอาเรือไปดันน้ำจะดันได้เฉพาะผิวน้ำเท่านั้น ไม่สามารถดันน้ำที่อยู่ลึกไปข้างล่างได้พระราชดำรัสของในหลวงเรื่องการสร้างคลองลัดโพธิ์ การที่เป็นคลองแคบจะทำให้การดันน้ำไหลออกจากคลองได้เร็ว แต่ถ้าเอาเรือหลายลำไปผูกแล้วดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กว้าง เป็นการเสียน้ำมันเปล่า เพราะดันได้แค่ผิวน้ำเท่านั้นเรื่องนี้ต้องคิดต้องรู้ลักษณะของน้ำ ดังนั้นที่ถูกต้องคือการตั้งระบบสูบน้ำที่ปลายคลองหรือปลายแม่น้ำออกสู่ทะเลเลย"

สำหรับแนวคิดที่ กทม.ลงทุนทำอุโมงค์ยักษ์มีการระบายน้ำจากที่ลุ่มของกทม. เช่น รามคำแหงหนองจอก แทนที่จะระบายออกอ่าวไทย แต่กลับเอามาออกที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลยเพราะจะทำให้เจ้าพระยาล้นตลิ่งอีก หมุนเวียนถ้าจะลงทุนให้มากหน่อย วางท่อให้ยาวแล้วไปลงที่อ่าวไทยจะดีกว่า และทำให้ กทม.ปลอดภัยจากน้ำท่วมด้วย ไม่รู้ทำไมถึงคิดกันแค่นี้ เห็นว่าผู้ว่าฯกทม.จะทำอีกหลายอุโมงค์แต่ไม่รู้จะไปออกที่ไหน

ดร.สมิทธ ประเมินถึงสถานการณ์พายุบันยันที่วิเคราะห์แล้วเชื่อว่าไม่เข้าไทย แต่การที่นักวิชาการไม่มีความรู้แล้วไปให้ข้อมูลกับ ศปภ.และนายกฯ ว่าพายุจะสร้างผลกระทบต่อประเทศทำให้เกิดความตื่นกลัวกันหมด คนไม่รู้มาพูดทำให้ตกใจและประเมินพลาด

"พายุลูกนี้จะเข้าที่อ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีนจากนั้นก็จะไปเวียดนามเข้ามาทางเหนือบ้านเราก็จะทำให้มีฝนตกนิดหน่อยที่เชียงใหม่ เชียงรายจากนั้นจะทำให้อากาศหนาวเย็นลง ผมอยากขอให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องอุตุนิยมวิทยา หรืออุทกวิทยา หยุดให้ข้อมูล เพราะจะให้เกิดความตระหนก แตกตื่นกันไปหมด"

ดร.สมิทธ วิเคราะห์ต่อไปว่า หลังจากนี้ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วหากมีพายุเข้ามาจะไม่ส่งผลให้มีฝนตก หรือถ้าตกก็จะไม่มาก สิ่งที่กรมอุตุฯ และรัฐบาลต้องระวังต่อไป คือ ร่องลมมรสุมที่จะเลื่อนจากภาคกลางตอนล่างไปยังตอนใต้ ผ่านสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ซึ่งปีที่แล้วช่วงเดือนเดียวกันก็มีพายุดีเปรสชันก่อตัวทางทะเลจีนตอนล่างพัดเข้าสู่อ่าวไทย คลื่นลมที่พัดมาจะทำให้เกิดคลื่นพายุหมุนซัดชายฝั่ง(สตอร์ม เซิร์จ) สูง 4-5 เมตร และจะส่งผลกระทบให้ภาคใต้ เช่น ปัตตานี ยะลา

ดังนั้น ข้อมูลในการเตือนภัยพิบัติของกรมอุตุฯ จะต้องแม่น และหากสภาวะลมแรงจะทำให้สตอร์ม เซิร์จ สูงถึง 5-6 เมตร ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวฝั่งและรัฐบาลต้องเตือนให้เขาอพยพไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย

ขอบคุณที่มา
http://www.posttoday.com/
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
User avatar
kaidum
 
Posts: 520
Joined: Sun Aug 07, 2011 12:04 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby 55555 » Sun Oct 16, 2011 3:29 pm

ยังบ้าสตรอมเซริจ อยู่รึ...

ปีที่แล้วจุดประเด็นจนถึงวันทำนาย...

เดี๋ยวอีก 7-8 เกิดฟลุ๊กเกิดขึ้นมา คงได้เอาไว้โม้เหมือนสินามิ..


:lol:
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby MuuSang » Sun Oct 16, 2011 3:39 pm

55555 wrote:ยังบ้าสตรอมเซริจ อยู่รึ...

ปีที่แล้วจุดประเด็นจนถึงวันทำนาย...

เดี๋ยวอีก 7-8 เกิดฟลุ๊กเกิดขึ้นมา คงได้เอาไว้โม้เหมือนสินามิ..


:lol:


สตรอมเซริจ เกิดทุกปีครับ ลองขับรถไปรับลมแถวๆ หัวไทร เชียรใหญ่ดู กลางคืนเสียงดัง คึ่กๆๆๆ ยิ่งกว่าโรงสีข้าว
มากบ้างน้อยบ้าง ก็แล้วแต่ กินยาวไปถึงเดือนอ้าย เดือนยี่

ส่วนคุณน่ะ อยู่แถวไหน ใกล้ทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกหรือเปล่า
มีแผ่นดินอยู่ ก็นับว่าเป็นหนี้บรรพชนมากโข ควรเร่งทดแทนคุณให้หมดในชาตินี้
คนบางพวกกำลังทำความฉิบหายให้บ้านเมือง ที่บรรพบุรุษเราปกป้องมา
มันจะต้องไม่มีแผ่นดินอยู่ มันจะต้องชดใช้อย่างสาสม
User avatar
MuuSang
 
Posts: 1894
Joined: Tue Dec 02, 2008 10:47 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby 55555 » Sun Oct 16, 2011 3:43 pm

คราวที่แล้วเค้าบอกจะเข้ามาถึงกรุงเทพฯเลยครับ..

:D
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby kaidum » Sun Oct 16, 2011 4:00 pm

55555 wrote:คราวที่แล้วเค้าบอกจะเข้ามาถึงกรุงเทพฯเลยครับ..

:D

ปีนี้น้ำท่วมหนักนะครับ บางอย่างที่สมิทธิเตือน ถ้าเราเตรียมพร้อมรับมือไว้ แม้มันไม่ได้เกิด ก็ยังถือว่าเราตื่น
คนนครสวรรค์ยังงงอยู่จนกระทั่งตอนนี้ น้ำท่วมได้ไง ผมเคยหัวเราะสมิทธิเมื่อตอนที่บอกว่าจะเกิดสึนามิ เหมือนกัน
แต่พอเกิดขึ้นมาจริงๆ เราร้องไห้กันค่อนประเทศนะครับ เราเอาข้อมูลของเขาในขณะนี้ดีกว่าครับ ไม่ต้องแตกตื่น แต่เตรียมพร้อม
หลายๆความเห็นของเขาก็มีที่มาที่ไปนะครับ

"...การบริหารน้ำถ้าไม่มีการประสานงานกันทั้งกรมอุตุฯ กรมชลฯ การไฟฟ้าฯ ว่าควรจะเก็บหรือปล่อยน้ำแค่ไหนมันก็ไม่มีฐานข้อมูลที่นำมาคำนวณปริมาณน้ำว่าควรจะปล่อยหรือพร่องน้ำในระดับใดจึงจะทำให้พื้นที่ไม่เดือดร้อน...
....นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าการไม่มีเอกภาพในการทำงาน การที่นักวิชาการทะเลาะกันเอง ไม่มีความรู้อย่างแท้จริงนำไปเสนอรัฐบาล จึงทำให้ระบบรวนทั้งหมด สุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาอุทกภัยทั้งๆ ที่น้ำมวลใหญ่ที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนใหญ่ๆนั้นบริหารจัดการได้
"
ตรงนี้พอน่าจะพอบอกอะไรๆได้ไม่ใช่หรือครับ หรืออย่างกรณีเรือดันน้ำ
"....การเอาเรือไปดันน้ำจะดันได้เฉพาะผิวน้ำเท่านั้น ไม่สามารถดันน้ำที่อยู่ลึกไปข้างล่างได้พระราชดำรัสของในหลวงเรื่องการสร้างคลองลัดโพธิ์ การที่เป็นคลองแคบจะทำให้การดันน้ำไหลออกจากคลองได้เร็ว แต่ถ้าเอาเรือหลายลำไปผูกแล้วดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กว้าง เป็นการเสียน้ำมันเปล่า เพราะดันได้แค่ผิวน้ำเท่านั้นเรื่องนี้ต้องคิดต้องรู้ลักษณะของน้ำ ดังนั้นที่ถูกต้องคือการตั้งระบบสูบน้ำที่ปลายคลองหรือปลายแม่น้ำออกสู่ทะเลเลย..."
ความเห็นของเขาก็ไม่ใด้ฉีกหลักวิชาการเลย เราไม่เคยวางแผนเตรียมพร้อม ตรงนี้แหละครับคือข้อผิดพลาดที่น่าจะเตือนสติคนไทย
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
User avatar
kaidum
 
Posts: 520
Joined: Sun Aug 07, 2011 12:04 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby Anubitz » Sun Oct 16, 2011 4:02 pm

MuuSang wrote:
55555 wrote:ยังบ้าสตรอมเซริจ อยู่รึ...

ปีที่แล้วจุดประเด็นจนถึงวันทำนาย...

เดี๋ยวอีก 7-8 เกิดฟลุ๊กเกิดขึ้นมา คงได้เอาไว้โม้เหมือนสินามิ..


:lol:


สตรอมเซริจ เกิดทุกปีครับ ลองขับรถไปรับลมแถวๆ หัวไทร เชียรใหญ่ดู กลางคืนเสียงดัง คึ่กๆๆๆ ยิ่งกว่าโรงสีข้าว
มากบ้างน้อยบ้าง ก็แล้วแต่ กินยาวไปถึงเดือนอ้าย เดือนยี่

ส่วนคุณน่ะ อยู่แถวไหน ใกล้ทะเลภาคใต้ฝั่งตะวันออกหรือเปล่า


มายืนยันอีกคน มันมีมาเรื่อยๆในหน้ามรสุมครับ แต่คนเราไม่ได้เรียกมันว่า สตอรม เซิจ เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ คนแถวบ้านผมอาจจะเรียกว่า คลื่นขึ้น (ไม่แน่ใจว่าอันเดียวกันหรือเปล่า แต่น่าจะใช่) ประมาณนี้

ส่วนที่ ดร.สมิธ ออกมาพูดนั้น ผมว่า ดร. คงมองถึงสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ ภายใต้หลักการเกิด สตอรม เซิจ เลยออกมาเตือนหน่ะครับ
User avatar
Anubitz
 
Posts: 478
Joined: Sat Sep 17, 2011 5:28 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby เพื่อนร่วมชาติ » Sun Oct 16, 2011 6:28 pm

ถ้าจะบอกว่าเกิดสตอร์มเซิร์จอย่างที่สมิทธพูด

ต้องเกิดที่อ่าวไทยตอนบนสุด และต้องเกิดจากพายุเลี้ยวโค้งขึ้นมาหากรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงครามครับ

เกิดที่อื่นและแบบอื่นนับไม่ได้ครับ

ถ้าลองตามดูสมิทธจริง ๆ ผมว่าแกทายผิดมากกว่าถูกนะครับ

เรื่องน้ำท่วมคราวนี้ มาทำเก่งพูดทีหลัง ใครก็ทำได้ครับ
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด คนไทยใช้แล้วเลอะเทอะชิบเป๋ง
User avatar
เพื่อนร่วมชาติ
 
Posts: 3541
Joined: Mon Oct 13, 2008 6:40 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby redfrog53 » Sun Oct 16, 2011 7:46 pm

"เขาหาว่า ผมบ้า!!" ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทย
User avatar
redfrog53
 
Posts: 4456
Joined: Wed Aug 04, 2010 7:02 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby kaidum » Sun Oct 16, 2011 8:34 pm

redfrog53 wrote:"เขาหาว่า ผมบ้า!!" ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทย


ผมว่าบางเรื่องที่แกอ่อนไหวเกินไป อย่างกรณีสตอมเซิร์จเข้ากรุงเทพ ความเป็นไปได้ยังยากอยู่ แต่ก็ไม่ใช่จะไม่มีโอกาสเกิด
เพียงแต่ต้องมีปัจจัยร่วมเยอะแยะ ถึงจะมีผลขนาดนั้นได้ เราก็ละๆมันไปบ้าง แต่บางอย่างผมก็ยังมีความรู้สึกว่า ควรระมัดระวัง
และเตรียมพร้อมไว้บ้าง เท่านั้นเองครับ แต่ในบริเวณชายฝั่งควรจะฟังไว้มากๆกว่าครับเพราะความเป็นไปได้สูง
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
User avatar
kaidum
 
Posts: 520
Joined: Sun Aug 07, 2011 12:04 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby tigermao » Sun Oct 16, 2011 9:01 pm

ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ
User avatar
tigermao
 
Posts: 1533
Joined: Mon Jul 05, 2010 1:08 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby kaidum » Sun Oct 16, 2011 9:45 pm

tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


นอกจากประเด็นนี้ของคุณ ผมยังอดคิดถึงประเด็น"การสั่งการ"ของนายปลอดประสพด้วยครับ ไม่อยากโทษใครแต่ถ้าหาก วลีที่บอกว่า "เป็นคำสั่ง ผมสั่งคุณต้องทำ"
แล้วทำให้เกิดปัญหาขนาดนี้ก็ควรแก่การลงโทษ














"
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
User avatar
kaidum
 
Posts: 520
Joined: Sun Aug 07, 2011 12:04 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby tigermao » Sun Oct 16, 2011 9:57 pm

kaidum wrote:
tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


นอกจากประเด็นนี้ของคุณ ผมยังอดคิดถึงประเด็น"การสั่งการ"ของนายปลอดประสพด้วยครับ ไม่อยากโทษใครแต่ถ้าหาก วลีที่บอกว่า "เป็นคำสั่ง ผมสั่งคุณต้องทำ"
แล้วทำให้เกิดปัญหาขนาดนี้ก็ควรแก่การลงโทษ


"


ไม่มีใครรู้ธรรมชาติหรอกครับ... เมื่อน้ำท่วม..เขื่อนยังไม่เต็ม..ก็ต้องเก็บใว้...หวังว่าฝนอาจทิ้งช่วงแล้วค่อยมาระบาย...ออกมา..
ถ้าระบายออกมามาก รับรองได้ว่าโดนด่าเห็นๆ เหมือนกัน... ว่าจะรีบระบายไปถีงใหน..

และน้ำที่เข้าท่วมอยุธยา.. ก็ยังไม่ใช่น้ำจากเขื่อนด้วย น้ำจากเขื่อนเป็นก้อนหลังที่ทำให้ท่วม นครสวรรค์ ครับ
User avatar
tigermao
 
Posts: 1533
Joined: Mon Jul 05, 2010 1:08 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby PinkDevil » Sun Oct 16, 2011 11:44 pm

tigermao wrote:
kaidum wrote:
tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


นอกจากประเด็นนี้ของคุณ ผมยังอดคิดถึงประเด็น"การสั่งการ"ของนายปลอดประสพด้วยครับ ไม่อยากโทษใครแต่ถ้าหาก วลีที่บอกว่า "เป็นคำสั่ง ผมสั่งคุณต้องทำ"
แล้วทำให้เกิดปัญหาขนาดนี้ก็ควรแก่การลงโทษ


"


ไม่มีใครรู้ธรรมชาติหรอกครับ... เมื่อน้ำท่วม..เขื่อนยังไม่เต็ม..ก็ต้องเก็บใว้...หวังว่าฝนอาจทิ้งช่วงแล้วค่อยมาระบาย...ออกมา..
ถ้าระบายออกมามาก รับรองได้ว่าโดนด่าเห็นๆ เหมือนกัน... ว่าจะรีบระบายไปถีงใหน..

และน้ำที่เข้าท่วมอยุธยา.. ก็ยังไม่ใช่น้ำจากเขื่อนด้วย น้ำจากเขื่อนเป็นก้อนหลังที่ทำให้ท่วม นครสวรรค์ ครับ

รบกวน tigermao ช่วยไปอธิบายให้ สองคนนี้ฟังหน่อย เข้าใจผิดมากมาย แถมมาปล่อยข่าวทำร้ายคนอื่นมั่วไปหมด

nibiru wrote:https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=231879350200907&id=216796941694370

Image


ModdangOnTV
ได้ตัวต้นเหตุ ที่ทำเกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในปีนี้แล้ว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี และนายธีระ วงศ์สมุทร บังคับชาวนาให้่ลดการทำนาปรัง

ชาวนาคนไหนไม่ร่วมมือ รัฐบาลจะ ***ไม่ปล่อยน้ำให้***

และจะลงโทษซ้ำด้วยการ ตัดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกร ของรัฐบาล

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=...e%3D1&ref=nf


การบังคับใช้มาตรการ "ไม่ปล่อยน้ำให้" ให้ทำกรมชลประทาน ไม่ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในหน้าแล้ง

ทั้ง ๆ ที่ฝนเริ่มตกมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554

กราฟแสดงปริมาณเก็บกัก ในเขื่อนภูมิพล

จากเว็บ ศูนย์ปฏิบัติการจัดสรรน้ำ สำนักอุทกวิทยาและบริหารน้ำ กรมชลประทาน

http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php...p?dam_id=1

palmaom wrote:เรียนพี่ๆที่เสรีไทยทุกท่าน ผมน้องใหม่ครับ ปกติอ่านอย่างเดียวแต่พอชักตะงิดเรื่องน้ำท่วมมากๆเข้าว่าทำไมถึงได้เสียหายมากขนาดนี้ก็เริ่มชักอยากหาคำตอบ ที่จริงมีคนตั้งกระทู้เรื่องนี้ไปบ้างแล้วแต่จำไม่ได้ว่าใคร ประกอบกับมีข้อมูลเพิ่มเติม ผมเลยอยากร่วมแชร์กับท่านสมาชิกกันว่าจริงแท้แค่ไหน

สาเหตุหลักๆที่ทำให้น้ำท่วมเนี้ยตอนนี้ผมคิดว่า มี 3 ประเด็น

1.ปีนี้ฝนตกหนักน้ำมากกว่าทุกปี อันนี้คงต้องยอมรับ

2.การจัดการบริหารน้ำที่ผิดพลาด ทั้งๆที่รู้ว่าปีนี้หน้าฝนมาเร็วและตกเยอะ ทำไมถึงไม่มีการเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนใหญ่ อย่างเช่น เขื่อนภูมิพล

มีรูปประกอบครับ เอามาจากพวกพี่ๆ oknation

3.ประเด็นเบื้องหลังของกลุ่มบุคคลที่สั่งไม่ให้กรมชลระบายน้ำผ่านแม่น้ำท่าจีนตั้งแต่แรกเพราะแม่น้ำท่าจีนถือเป็นเส้นทางระบายน้ำที่สำคัญมากๆเช่นกัน
จากข่าว http://www.thairath.co.th/today/view/205637

ปีนี้ที่หนักหนาสาหัส ไม่ได้หมายความว่าน้ำจะมากกว่าปกติจนเกินรับ แต่เป็นเพราะว่าชลประทานไม่ยอมระบายน้ำออก “กักไว้จนขึ้นอืดเลย เอ่อท่วมไปหมด
ถ้าระบายออกไปบ้างก็จะไม่มีปัญหา อะไรหรอก น้ำน่ะมันไม่ไปท่วมทันทีหรอกถ้าค่อยๆปล่อยไปน่ะ แต่น้ำที่เอ่ออยู่ปากน้ำนี่ มันจะลดลง”พลางย้ำว่า
“เชื่อผมเถอะ ที่กลัวๆกันว่าจะท่วมสุพรรณน่ะ มันไม่ถึงสุพรรณทันทีหรอก มันต้องผ่านประตูน้ำมากมายกว่าจะถึงสุพรรณ” สำเริงย้ำหนักแน่น เหมือนจะบอกนัยบางประการ
เกี่ยวกับการกักและปล่อยน้ำของกรมชลประทาน

ผมว่าทั้ง 3 ประเด็นนี้ทำให้น้ำท่วมปีนี้นั้นหนักมาก แต่ประเด็นคือข้อ 2 และ 3 ถามว่าใครกันที่ต้องออกมารับผิดชอบ เพราะประเทศไทยเสียหายเป็นแสนล้าน
To dream the impossible dream
To fight the unbeatable foe
To bear with unbearable sorrow
To run where the brave dare not go
To right the unrightable wrong
To love pure and chaste from afar
To try when your arms are weary
To reach the unreachable star
User avatar
PinkDevil
 
Posts: 835
Joined: Sat Feb 07, 2009 1:12 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby kaidum » Sun Oct 16, 2011 11:51 pm

tigermao wrote:
kaidum wrote:
tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


นอกจากประเด็นนี้ของคุณ ผมยังอดคิดถึงประเด็น"การสั่งการ"ของนายปลอดประสพด้วยครับ ไม่อยากโทษใครแต่ถ้าหาก วลีที่บอกว่า "เป็นคำสั่ง ผมสั่งคุณต้องทำ"
แล้วทำให้เกิดปัญหาขนาดนี้ก็ควรแก่การลงโทษ


"


ไม่มีใครรู้ธรรมชาติหรอกครับ... เมื่อน้ำท่วม..เขื่อนยังไม่เต็ม..ก็ต้องเก็บใว้...หวังว่าฝนอาจทิ้งช่วงแล้วค่อยมาระบาย...ออกมา..
ถ้าระบายออกมามาก รับรองได้ว่าโดนด่าเห็นๆ เหมือนกัน... ว่าจะรีบระบายไปถีงใหน..

และน้ำที่เข้าท่วมอยุธยา.. ก็ยังไม่ใช่น้ำจากเขื่อนด้วย น้ำจากเขื่อนเป็นก้อนหลังที่ทำให้ท่วม นครสวรรค์ ครับ


ครับเข้าใจครับ น้ำน้อยก็แล้ง น้ำมากก็ท่วม วิปริตธรรมชาติ แต่มนุษย์มีสมอง ก็อยู่ที่การแก้ปัญหาแล้วล่ะ รอดูกึ๋นผู้เสนอหน้ารับใช้ที่เข้ามาแก้ปัญหา
ประสพการณ์มากก็คลี่คลายเร็ว ไม่มีประสพการณ์ก็คงใช้เวลา
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
User avatar
kaidum
 
Posts: 520
Joined: Sun Aug 07, 2011 12:04 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby zereza » Sun Oct 16, 2011 11:53 pm

tigermao wrote:
kaidum wrote:
tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


นอกจากประเด็นนี้ของคุณ ผมยังอดคิดถึงประเด็น"การสั่งการ"ของนายปลอดประสพด้วยครับ ไม่อยากโทษใครแต่ถ้าหาก วลีที่บอกว่า "เป็นคำสั่ง ผมสั่งคุณต้องทำ"
แล้วทำให้เกิดปัญหาขนาดนี้ก็ควรแก่การลงโทษ


"


ไม่มีใครรู้ธรรมชาติหรอกครับ... เมื่อน้ำท่วม..เขื่อนยังไม่เต็ม..ก็ต้องเก็บใว้...หวังว่าฝนอาจทิ้งช่วงแล้วค่อยมาระบาย...ออกมา..
ถ้าระบายออกมามาก รับรองได้ว่าโดนด่าเห็นๆ เหมือนกัน... ว่าจะรีบระบายไปถีงใหน..

และน้ำที่เข้าท่วมอยุธยา.. ก็ยังไม่ใช่น้ำจากเขื่อนด้วย น้ำจากเขื่อนเป็นก้อนหลังที่ทำให้ท่วม นครสวรรค์ ครับ


รู้ได้แบบนี้ก็ดีครับ จะได้ไม่บ้าตามบางพวกที่โทษแต่อำมาตย์ เลยเถิดไปกว่านั้นก็มี บางคนหาว่า ปชป วางยาเข้าไปอีก แต่เรื่องการจัดการในภาวะวิกฤติยังไงก็สอบตกครับ
"ถ้าคุณตั้งคำถามของปัญหาที่เกิดขึ้นผิด ก็อย่าหวังว่าจะได้ทางออกของปัญหาที่ถูกต้อง"
"อิทัปปัจจยตา และ ปฏิจจสมุปปบาท สองหลักใหญ่ที่เป็นหัวใจแห่งพุทธะ หากคนไทยเรียนรู้และปฏิบัติตามได้เกินครึ่ง ชาติไทยจะห่างไกลความวิบัติทั้งปวง"
User avatar
zereza
 
Posts: 1312
Joined: Mon Apr 26, 2010 6:03 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby kaidum » Sun Oct 16, 2011 11:56 pm

PinkDevil wrote:
tigermao wrote:
kaidum wrote:
tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


นอกจากประเด็นนี้ของคุณ ผมยังอดคิดถึงประเด็น"การสั่งการ"ของนายปลอดประสพด้วยครับ ไม่อยากโทษใครแต่ถ้าหาก วลีที่บอกว่า "เป็นคำสั่ง ผมสั่งคุณต้องทำ"
แล้วทำให้เกิดปัญหาขนาดนี้ก็ควรแก่การลงโทษ


"


ไม่มีใครรู้ธรรมชาติหรอกครับ... เมื่อน้ำท่วม..เขื่อนยังไม่เต็ม..ก็ต้องเก็บใว้...หวังว่าฝนอาจทิ้งช่วงแล้วค่อยมาระบาย...ออกมา..
ถ้าระบายออกมามาก รับรองได้ว่าโดนด่าเห็นๆ เหมือนกัน... ว่าจะรีบระบายไปถีงใหน..

และน้ำที่เข้าท่วมอยุธยา.. ก็ยังไม่ใช่น้ำจากเขื่อนด้วย น้ำจากเขื่อนเป็นก้อนหลังที่ทำให้ท่วม นครสวรรค์ ครับ

รบกวน tigermao ช่วยไปอธิบายให้ สองคนนี้ฟังหน่อย เข้าใจผิดมากมาย แถมมาปล่อยข่าวทำร้ายคนอื่นมั่วไปหมด

nibiru wrote:https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=231879350200907&id=216796941694370

Image


ModdangOnTV
ได้ตัวต้นเหตุ ที่ทำเกิดน้ำท่วมรุนแรงที่สุดในปีนี้แล้ว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี และนายธีระ วงศ์สมุทร บังคับชาวนาให้่ลดการทำนาปรัง

ชาวนาคนไหนไม่ร่วมมือ รัฐบาลจะ ***ไม่ปล่อยน้ำให้***

และจะลงโทษซ้ำด้วยการ ตัดสิทธิ์เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกร ของรัฐบาล

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=...e%3D1&ref=nf


การบังคับใช้มาตรการ "ไม่ปล่อยน้ำให้" ให้ทำกรมชลประทาน ไม่ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนในหน้าแล้ง

ทั้ง ๆ ที่ฝนเริ่มตกมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2554

กราฟแสดงปริมาณเก็บกัก ในเขื่อนภูมิพล

จากเว็บ ศูนย์ปฏิบัติการจัดสรรน้ำ สำนักอุทกวิทยาและบริหารน้ำ กรมชลประทาน

http://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php...p?dam_id=1

palmaom wrote:เรียนพี่ๆที่เสรีไทยทุกท่าน ผมน้องใหม่ครับ ปกติอ่านอย่างเดียวแต่พอชักตะงิดเรื่องน้ำท่วมมากๆเข้าว่าทำไมถึงได้เสียหายมากขนาดนี้ก็เริ่มชักอยากหาคำตอบ ที่จริงมีคนตั้งกระทู้เรื่องนี้ไปบ้างแล้วแต่จำไม่ได้ว่าใคร ประกอบกับมีข้อมูลเพิ่มเติม ผมเลยอยากร่วมแชร์กับท่านสมาชิกกันว่าจริงแท้แค่ไหน

สาเหตุหลักๆที่ทำให้น้ำท่วมเนี้ยตอนนี้ผมคิดว่า มี 3 ประเด็น

1.ปีนี้ฝนตกหนักน้ำมากกว่าทุกปี อันนี้คงต้องยอมรับ

2.การจัดการบริหารน้ำที่ผิดพลาด ทั้งๆที่รู้ว่าปีนี้หน้าฝนมาเร็วและตกเยอะ ทำไมถึงไม่มีการเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนใหญ่ อย่างเช่น เขื่อนภูมิพล

มีรูปประกอบครับ เอามาจากพวกพี่ๆ oknation

3.ประเด็นเบื้องหลังของกลุ่มบุคคลที่สั่งไม่ให้กรมชลระบายน้ำผ่านแม่น้ำท่าจีนตั้งแต่แรกเพราะแม่น้ำท่าจีนถือเป็นเส้นทางระบายน้ำที่สำคัญมากๆเช่นกัน
จากข่าว http://www.thairath.co.th/today/view/205637

ปีนี้ที่หนักหนาสาหัส ไม่ได้หมายความว่าน้ำจะมากกว่าปกติจนเกินรับ แต่เป็นเพราะว่าชลประทานไม่ยอมระบายน้ำออก “กักไว้จนขึ้นอืดเลย เอ่อท่วมไปหมด
ถ้าระบายออกไปบ้างก็จะไม่มีปัญหา อะไรหรอก น้ำน่ะมันไม่ไปท่วมทันทีหรอกถ้าค่อยๆปล่อยไปน่ะ แต่น้ำที่เอ่ออยู่ปากน้ำนี่ มันจะลดลง”พลางย้ำว่า
“เชื่อผมเถอะ ที่กลัวๆกันว่าจะท่วมสุพรรณน่ะ มันไม่ถึงสุพรรณทันทีหรอก มันต้องผ่านประตูน้ำมากมายกว่าจะถึงสุพรรณ” สำเริงย้ำหนักแน่น เหมือนจะบอกนัยบางประการ
เกี่ยวกับการกักและปล่อยน้ำของกรมชลประทาน

ผมว่าทั้ง 3 ประเด็นนี้ทำให้น้ำท่วมปีนี้นั้นหนักมาก แต่ประเด็นคือข้อ 2 และ 3 ถามว่าใครกันที่ต้องออกมารับผิดชอบ เพราะประเทศไทยเสียหายเป็นแสนล้าน



เป็นความเห็นที่เบาปัญญาครับบอกได้แบบผ่านๆจากความเห็น แต่จริงๆแล้วอย่างที่ผมเกริ่น สมองมนุษย์คือ ดัชนี ปัญหาต่างๆคือบททดสอบ คนที่มีมุมมองในแง่นี้ คือการการใช้ตรรกะใน
ความเป็นอคติครับ
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
User avatar
kaidum
 
Posts: 520
Joined: Sun Aug 07, 2011 12:04 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby คนบาป » Mon Oct 17, 2011 1:13 am

ต้นสิงหา ระดับกักเก็บเท่ากับปีที่แล้วตอนหมดฝน สมควรระบายน้ำออกบ้าง แต่มาโดนน้ำฝนในนาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว

นักการเมืองจึงต้องสั่งให้กักน้ำต่อไป และพายุก็โหมเข้ามาอีกหลายลูก ทำให้น้ำเข้าเขื่อนและลงมาตามเจ้าพระยามากมาย

เมื่อเขื่อนใกล้เต็มจะเกิดเสียหายหากเขื่อนพัง จึงต้องถึงเวลาที่ต้องปล่อยมวลน้ำระลอกใหญ่ตามลงมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ปัญหาคือ การเตรียมรับมือน้ำเหนือของฝ่ายใต้เขื่อน จนถึงารเตรียมการระบายน้ำ ไม่มีความชัดเจน

เนื่องจากรัฐบาลยิ่งผยอง ใช้อำนาจ แม้ในการจัดตั้งศูนย์อำนวยการก็ผิดฝาผิดตัว

เวลานั้นต้องเป็นเรื่องของข้าราชการ กองทัพ และเชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ใช่เอาตำรวจ เอาอดีตอธิบดีกรมประมง กรมป่าไม้มาบัญชาการแก้น้ำท่วม

ใช้คนไม่ถูกเรื่องนั่นแหละครับ รัฐบาลมือใหม่จริงๆ แล้วน่าจะเป็นแค่ฝ่ายอำนวยการ ให้การสนับสนุน และเป็นศูนย์ประสานงานเท่านั้น

การสั่งการต้องเป็นฝ่ายข้าราชการและผู้เชียวชาญที่อยู่กับเรื่องน้ำเท่านั้น

เรื่องของจังหวะ เวลา เป็นเรื่องสำคัญในการระบายน้ำ ไม่ใช่ให้รัฐบาลมาประเมิณปริมาณน้ำหรือบัญชาการเองโดยตรง
User avatar
คนบาป
 
Posts: 13482
Joined: Fri Nov 19, 2010 3:52 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby 55555 » Mon Oct 17, 2011 12:33 pm

เท่าที่ผมสังเกตุ ปัญหาคือ คนทำงาน รนราน ทำอะไรไม่ค่อยถูก

ตัวนายกเองก็เป็นหลักไม่ได้เพราะไม่มีอะไรอยู่ในหัว....

ปลอดประสพ ก็ละล้าละลัง จะปล่อยน้ำก็กลัวท่วมนา กลัวถูกด่า..

พอสั่งเก็บไว้ ถึงเวลาเขื่อนรับน้ำไม่ไหว ระเบิดออกมาพร้อมกันทีเดียว ก็ชิกหายหมดอย่างที่เห็น

แต่ไอ้เรือไล่น้ำนี่มันเหลือขอจริง ๆ ครับ....ชาวบ้านกำลังหมดเนื้อหมดตัว ..โรงงานอุตสาหกรรมจมใต้น้ำ

แม่ ม ยังมีเวลาไปทำอีเว้นท์สร้างภาพอีก.....


:D
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby 99 ราตรี » Mon Oct 17, 2011 12:49 pm

tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


เจอมาเลยเอามาฝากกัน.........เจ้ากรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ..ถูกสัมภาษโดยช่อง 5 นายก เขาเห็น ท่านตอบปัญหาดีมาก...(ก็คนเขาทำงาน กว่าจะได้ข้อมูลต้องลงเรือไปวันระดับน้ำ ในแม่น้ำในเขื่อน ทุกที่)

หล่อน ก็เรียกเข้าไปพบ แล้วบอกให้รัฐบาลเป็นคนปล่อย ขบวนเรือดันน้ำ โดยเกณฑ์เรือจากกรมเจ้าท่าอะไรมาอีกเยอะแยะ จนดู วุ่นวาย หล่อนจะลงปล่อยเรือ 7 โมงเช้าเพื่อให้คนเข้าใจว่ารัฐบาลเก่ง เจ้ากรมก็บอกว่า ตอนเช้าน้ำกำลังขึ้นจะผันไปใหน จะผันไปให้ท่วมอีกเหรอ....ถ้าจะผัน จะดันน้ำเขาก็ผันตอนน้ำลงเต็มที่ึืคือ 10 โมง...นังปูกระโดดลงเรือปั๊บถามหานักข่าว...นักข่าวอยุ่ใหน ... ถ่ายรูป วนเรือ 2 รอบ หล่อนก็กลับ...ไอ้ปลอดก็แจกเงินเรือพวกเสื้อแดง..แล้วก็กลับกัน...ความจริงการดันน้ำเขาทำมาตั้งนานแล้ว...โครงการพระราชดำหริของในหลวงท่าน...ทำให้สอดคล้องกับน้ำในเขื่อน...

อีกเรื่อง...การปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล...ในหลวงท่านรับสั่งให้ปล่อยน้ำตั้งแต่ปลายเดือนสิงหา...ท่านตรัสว่าปริมาณน้ำฝนเยอะ...ให้ทะยอยปล่อยลงมาวันละเล็กละน้อย....ปลอดประสพกร่างใส่...ไม่ต้องไปฟังในหลวงให้ฟังเขาไม่ปล่อย ผนตกมากก็ไม่ปล่อย...ผอ.เขื่อนบอกว่าไม่ไหวแล้วนะต้องปล่อย..แค่นั้นแหละไอ้ปลอดก็สั่งปล่อย....มาปะทะกับนครสวรรค์...ประเทศไทยก็เป็นอย่างที่เห็น


โอเคถ้าอ่านจบโทษใครดี :evil:
User avatar
99 ราตรี
 
Posts: 127
Joined: Fri Mar 11, 2011 5:18 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby tigermao » Mon Oct 17, 2011 1:16 pm

99 ราตรี wrote:
tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


เจอมาเลยเอามาฝากกัน.........เจ้ากรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ..ถูกสัมภาษโดยช่อง 5 นายก เขาเห็น ท่านตอบปัญหาดีมาก...(ก็คนเขาทำงาน กว่าจะได้ข้อมูลต้องลงเรือไปวันระดับน้ำ ในแม่น้ำในเขื่อน ทุกที่)

หล่อน ก็เรียกเข้าไปพบ แล้วบอกให้รัฐบาลเป็นคนปล่อย ขบวนเรือดันน้ำ โดยเกณฑ์เรือจากกรมเจ้าท่าอะไรมาอีกเยอะแยะ จนดู วุ่นวาย หล่อนจะลงปล่อยเรือ 7 โมงเช้าเพื่อให้คนเข้าใจว่ารัฐบาลเก่ง เจ้ากรมก็บอกว่า ตอนเช้าน้ำกำลังขึ้นจะผันไปใหน จะผันไปให้ท่วมอีกเหรอ....ถ้าจะผัน จะดันน้ำเขาก็ผันตอนน้ำลงเต็มที่ึืคือ 10 โมง...นังปูกระโดดลงเรือปั๊บถามหานักข่าว...นักข่าวอยุ่ใหน ... ถ่ายรูป วนเรือ 2 รอบ หล่อนก็กลับ...ไอ้ปลอดก็แจกเงินเรือพวกเสื้อแดง..แล้วก็กลับกัน...ความจริงการดันน้ำเขาทำมาตั้งนานแล้ว...โครงการพระราชดำหริของในหลวงท่าน...ทำให้สอดคล้องกับน้ำในเขื่อน...

อีกเรื่อง...การปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล...ในหลวงท่านรับสั่งให้ปล่อยน้ำตั้งแต่ปลายเดือนสิงหา...ท่านตรัสว่าปริมาณน้ำฝนเยอะ...ให้ทะยอยปล่อยลงมาวันละเล็กละน้อย....ปลอดประสพกร่างใส่...ไม่ต้องไปฟังในหลวงให้ฟังเขาไม่ปล่อย ผนตกมากก็ไม่ปล่อย...ผอ.เขื่อนบอกว่าไม่ไหวแล้วนะต้องปล่อย..แค่นั้นแหละไอ้ปลอดก็สั่งปล่อย....มาปะทะกับนครสวรรค์...ประเทศไทยก็เป็นอย่างที่เห็น


โอเคถ้าอ่านจบโทษใครดี :evil:


ดูกราฟซิครับว่าควรระบายออกตอนใหน... ตั้งแต่นกเต็นน้ำก็ท่วมแล้ว....
อีกอย่าง ที่ขีดเส้นใต้มีหลักฐานยืนยันได้ชัดเจน ขนาดใหนครับ.. ได้ข้อมูลมาจากใหน

http://tiwrm.haii.or.th/DATA/REPORT/php/rid_lgraph1.php
User avatar
tigermao
 
Posts: 1533
Joined: Mon Jul 05, 2010 1:08 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby tigermao » Mon Oct 17, 2011 1:27 pm

ลองฟังนี้ครับ...

http://www.youtube.com/watch?v=Z6FNRd5nkbg
User avatar
tigermao
 
Posts: 1533
Joined: Mon Jul 05, 2010 1:08 pm

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby kaidum » Mon Oct 17, 2011 1:33 pm

tigermao wrote:
99 ราตรี wrote:
tigermao wrote:ตั้งแต่นกเต็น.. เป็นต้นมา..ผนตกยาวมาตลอด.น้ำก็เริ่มท่วมแล้ว.เขื่อนก็ต้องช่วยเก็บกักน้ำเอาใว้..ป้องกันไม่ให้น้ำ มาท่วมซ้ำเติมอีก...
แต่ใครจะไปรู้ได้ว่าหลังจากฝนก็มาเป็นชุดยาว.. ไม่มีโอกาศได้ปล่อยน้ำเลย...โทษใครไม่ได้หรอกครับ


เจอมาเลยเอามาฝากกัน.........เจ้ากรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ..ถูกสัมภาษโดยช่อง 5 นายก เขาเห็น ท่านตอบปัญหาดีมาก...(ก็คนเขาทำงาน กว่าจะได้ข้อมูลต้องลงเรือไปวันระดับน้ำ ในแม่น้ำในเขื่อน ทุกที่)

หล่อน ก็เรียกเข้าไปพบ แล้วบอกให้รัฐบาลเป็นคนปล่อย ขบวนเรือดันน้ำ โดยเกณฑ์เรือจากกรมเจ้าท่าอะไรมาอีกเยอะแยะ จนดู วุ่นวาย หล่อนจะลงปล่อยเรือ 7 โมงเช้าเพื่อให้คนเข้าใจว่ารัฐบาลเก่ง เจ้ากรมก็บอกว่า ตอนเช้าน้ำกำลังขึ้นจะผันไปใหน จะผันไปให้ท่วมอีกเหรอ....ถ้าจะผัน จะดันน้ำเขาก็ผันตอนน้ำลงเต็มที่ึืคือ 10 โมง...นังปูกระโดดลงเรือปั๊บถามหานักข่าว...นักข่าวอยุ่ใหน ... ถ่ายรูป วนเรือ 2 รอบ หล่อนก็กลับ...ไอ้ปลอดก็แจกเงินเรือพวกเสื้อแดง..แล้วก็กลับกัน...ความจริงการดันน้ำเขาทำมาตั้งนานแล้ว...โครงการพระราชดำหริของในหลวงท่าน...ทำให้สอดคล้องกับน้ำในเขื่อน...

อีกเรื่อง...การปล่อยน้ำจากเขื่อนภูมิพล...ในหลวงท่านรับสั่งให้ปล่อยน้ำตั้งแต่ปลายเดือนสิงหา...ท่านตรัสว่าปริมาณน้ำฝนเยอะ...ให้ทะยอยปล่อยลงมาวันละเล็กละน้อย....ปลอดประสพกร่างใส่...ไม่ต้องไปฟังในหลวงให้ฟังเขาไม่ปล่อย ผนตกมากก็ไม่ปล่อย...ผอ.เขื่อนบอกว่าไม่ไหวแล้วนะต้องปล่อย..แค่นั้นแหละไอ้ปลอดก็สั่งปล่อย....มาปะทะกับนครสวรรค์...ประเทศไทยก็เป็นอย่างที่เห็น


โอเคถ้าอ่านจบโทษใครดี :evil:


ดูกราฟซิครับว่าควรระบายออกตอนใหน... ตั้งแต่นกเต็นน้ำก็ท่วมแล้ว....
อีกอย่าง ที่ขีดเส้นใต้มีหลักฐานยืนยันได้ชัดเจน ขนาดใหนครับ.. ได้ข้อมูลมาจากใหน

http://tiwrm.haii.or.th/DATA/REPORT/php/rid_lgraph1.php


ผมเชื่อว่างานนี้ไม่จบง่ายๆ แล้วครับ คือปัญหาน้ำท่วมน่ะครับ ผมชักไม่ค่อยเชื่อแล้วสิครับ ว่าจะไม่ให้น้ำท่วมกรุงได้
และผมก็เชื่อในข้อมูลของทุกๆท่านที่นำเสนอทั้งที่มีข้อมูลชัดเจนและบางข้อมูลยังไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน ที่เหลือต่อจากนี้คงอาศัยให้น้ำ
เป็นผู้พิสูจน์ความจริงต่อไป ใครทำอะไรไว้ ไม่นานต่อจากนี้ครับ พวกเราจะได้เห็น
ประชาธิปไตยของผม ไม่ได้เกิดจากอารมณ์และการอุปถัมป์ โดยใคร
User avatar
kaidum
 
Posts: 520
Joined: Sun Aug 07, 2011 12:04 am

Re: บริหารน้ำไม่เป็น

Postby 55555 » Mon Oct 17, 2011 3:00 pm

ความจริงผมก็ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับ สมิธ หรอก....

แต่ที่ผมไม่เข้าใจ...คุยเรื่องน้ำท่วมยังอุตส่าห์ลากไป สตอร์มเซิร์จ จนได้

น้อย ๆ หน่อยก็ได้เรื่องอีโก้..


:D
55555
 
Posts: 5131
Joined: Mon Oct 13, 2008 8:29 am


Return to สภากาแฟ



cron