อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby Gop » Tue Oct 18, 2011 12:26 am

จากเว็บ pantip ครับ ดูแล้วเจ้าของความติดน่าจะมีความรู้ไม่น้อย ลองพิจารณาดูนะครับ
http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11203277/NE11203277.html
ผมลองคิดดูนะครับ

ถ้าเราเอาตู้คอนเทนเนอร์ 40 ฟุต มาถอดประตูหัวและท้ายออก

มันจะกลายเป็นอุโมงค์เหล็ก ขนาด 2.4 x 2.4 m

แล้วติดตั้งใบพัดกวนแบบจุ่ม ( Impeller ) ที่ใช้กับบ่อบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ ขนาดสัก 50kw ต่อตู้

นำไปหย่อนลงเจ้าพระยา แนวยาวของตู้ตามทิศทางการไหลของน้ำ

วางเรียงกันจนเต็มความกว้างของเจ้าพระยา

และ วางซ้อนกันจนถึงความลึกของน้ำ

ให้การไฟฟ้าต่อสายตรงมาจากสถานีจ่าย

ผมไม่ทราบว่าตอนนี้เจ้าพระยากว้าง x ยาวเท่าไรนะครับ

สมมุติว่าใช้ 100 ตู้

ใช้ไฟ 50x100 = 5000 kW หรือ 5MW

ซึ่งสาย 22kV ปรกติจ่ายได้อยู่แล้ว ( สายสามเส้น บนเสาไฟฟ้าที่วางเรียงตามนวนอน น่ะครับ )

ผมคิดเองว่าน่าจะได้ผลมากกว่า

น้ำตีกลับน้อยมาก เพราะดันน้ำออกทั้งหน้าตัดพร้อมกัน

ถ้าจะให้ดี ต้องไปวางที่จุกที่ใกล้ทางออก ( ทะเล ) มากที่สุด

แค่จุดเดียวก็พอ

เพื่อลดระดับน้ำทางเข้า

แล้วน้ำที่เหลือรอการระบาย ทั้งจากอยุธยา และ จากคลองต่างๆ จะถูกดึงมาเองด้วย Pressure

แค่นำเสนอนะครับ
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby Gop » Tue Oct 18, 2011 12:27 am

Image

จากคุณ : N_B_S
เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:57:01
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby Gop » Tue Oct 18, 2011 12:29 am

Image
Image
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby Gop » Tue Oct 18, 2011 12:33 am

ในกระทู้นั้นก็ถกเถียงกันเยอะนะครับ ใครมีความรู้ก็ comment เพิ่มเติมได้เลยครับ
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby dutchout » Tue Oct 18, 2011 2:12 am

ผมเคยเสนอไปนานละ ว่าให้ติด turbine ใต้น้ำ ยังจะได้ประโยชน์กว่า

ที่เสนอมาในกระทู้นี้จากพันทิพย์ก็เห็นด้วย แต่ควรติดตระแกรงหยาบไว้ด้วย มิเช่นนั้น จะเกิดการพังของใบผัดได้
User avatar
dutchout
 
Posts: 2194
Joined: Tue Apr 14, 2009 10:53 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby คลำปม » Tue Oct 18, 2011 3:00 am

มุมมองของวิศวเกินอย่างผม

ผมมองว่าการอัดน้ำจากกลางแม่น้ำไม่เวิร์คครับ
เนื่องจากการจะเร่งความเร็วของแม่น้ำเจ้าพระยาได้
ก็ต้องทำให้มวลน้ำอัดกันสูงขึ้นเป็นยอดคลื่น
จนมวลน้ำทั้งหมดต้องหาพื้นที่ว่างเพื่อเข้าไปแทนจากแรงโน้มถ่วงของโลกที่มีอยู่
มวลมาก จุดสูงสุดของน้ำมาก อัตราเร่งก็มากครับ
(พลังงานศักย์เปลี่ยนเป็นพลังงานจลล์ได้มาก)
และระดับที่ต่ำกว่าของปากแม่น้ำ หรือที่ลุ่มอื่นๆก็จะเป็นปลายทาง

และถ้าเรามีประสิทธิภาพการอัดน้ำได้ผล
มวลน้ำหลังจุดที่อัดน้ำ ระดับน้ำต้องสูงขึ้นครับ
(ถ้าไม่สูงขึ้น ก็แปลว่าไม่ได้ผล)
ซึ่งเมื่อสูงขึ้น บ้านเรือนริมน้ำ ณ หลังแนวอัดน้ำก็มีปัญหาแน่นอน
มันได้อย่างนึงมันก็ต้องเสียอยางนึง แถมลงทุนก็มหาศาล
(แต่ถ้าเอาเรือไปปั่นที่ผิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างที่ทำอยู่ก็ทำไปเถอะครับ
ปั่นให้ตายมันก็ไม่เกิดผลอะไร มันแค่การโฆษณาชวนเชื่อว่ารัฐบาลได้ทำ "อะไร" บ้างเท่านั้น)


ถ้าอยากให้น้ำเพิ่มความเร็วขึ้นผมว่าวิธีที่เวิร์คสุดก็คือไปเพิ่มความเร็ว ณ ปากแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งไหลลงสู่ทะเลเลย
ทว่าหากใครไปดูสถานที่จริงแล้ว (ป้อมพระจุล พระประแดง) ก็จะเห็นนะครับ
ว่าปากแม่น้ำมันกว้างมาก อัตราความเร็วน้ำก็ไม่สูงมากนัก
ระดับของน้ำทะเลไม่ได้แตกต่างจากระดับของแม่น้ำจนเป็นน้ำตกอะไรแบบนั้นเลยครับ
ปากแม่น้ำ เรือก็แล่นเข้าออกได้เป็นปรกติด้วยซ้ำ

ดังนั้นจะลดระดับในแม่น้ำเจ้าพระยาวิธีเดียวที่ทำได้ก็คือต้องทำประตูน้ำนั่นเองครับ
ยามปรกติก็เปิด และเมื่อต้องการลดระดับแม่น้ำเจ้าพระยาต้องปิดประตูแล้วสูบออก
ซึ่งลงทุนมหาศาลครับ เป็นเรื่องใหญ่เลย
(คงต้องทำประตู 2 ชั้นเพราะต้องมีเรือพาณิชย์ใช้งานเข้าออกอยู่ตลอด)
Last edited by คลำปม on Tue Oct 18, 2011 3:09 am, edited 1 time in total.
ถ้าอยากให้คนยอมรับเสียงส่วนใหญ่ เสียงส่วนใหญ่ก็ต้องรู้จักมารยาท รู้จักแสดงออกอย่างมีคุณภาพครับ...
User avatar
คลำปม
 
Posts: 1791
Joined: Sat Jan 08, 2011 6:58 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby halfmoon » Tue Oct 18, 2011 3:03 am

เหมือนตั๊กแตนขี่ช้างครับ

มวลน้ำขนาดใหญ่ มีความเร็วสูงจากแรงโน้มถ่วงและน้ำหนักจากความหนาแน่นของน้ำเอง ทำให้แรงดันหรือความดันของน้ำลดลง แต่ธรรมชาติของมันโมเลกุลจะพยายามดึงกันให้เกิดความหนาแน่นเท่าเดิมคือ 1 ดังนั้นแรงเฉื่อยทั้งสองทางจะสู้กันคือแรงเฉื่อยจากอัตราการไหลหรือความเร็วและความเร่งกับการดึงตัวโมเลกุลของน้ำที่จะเฉื่อยไปสู่ความหนาแน่น 1 สังเกตุจากการไหลของน้ำหากไม่มีความลาดก็ไม่มีการไหล คือไหลจากที่สูงสู่ที่ต่ำตามแรงโน้มถ่วง

ความเร็วสูงของน้ำมหึมา เราจะเอาอะไรไปเพิ่มเป็นความเร่งหรืออัตราเร่งมันได้ครับ เพราะอัตราเร่งอย่างเดียวไม่พอ หน้าตัดของลำน้ำใหญ่มหึมา จะเอาหน้าตัดของท่อหรือใบพัดขนาดไหนมาเพิ่มความเร็วมันได้ ดังนั้นกังหันจากใบพัดเรือที่ส่งออกไปเพียงน้อยนิด ก็ถูกแรงเฉื่อยในการคืนสภาพหรือความหนาแน่นให้เท่ากับ 1 ดูดซับเอาไปหมด ในเกลียวคลื่นที่ผิวน้ำ มันหายไปกับสายน้ำครับ

หลักการไหลของน้ำเราต้องมองให้เข้าใจ แรงที่มากระทำกับน้ำ มันก็เป็นโมเมนตัมเช่นกัน หากมองแบบเด็กๆง่ายๆก็เหมือนดินสออพอลโล่ เอาอันหนึ่งดันท้ายมันก้โผล่ด้านหน้า จะเห็นชัดคือการไหลในระบบปิดหรือท่อ แต่การไหลระบบเปิดคลองการไหลในคลองในร่องหรือแม่น้ำ เราก็คิดว่าเอาอะไรมาพายแล้วน้ำมันจะไหลเร็วขึ้น นั่นเพราะเราอาจจะเคยเอามือหรือขายพายน้ำหรือแกว่งแล้วน้ำมันดันไปหรือไหลไป นั่นเป็นเพราะน้ำที่เราเอาขาลงไปพายนั้นมันอยู่ในอ่างหรือสระน้ำที่มันอยู่นิ่ง แรงกระทำจากเรามันเลยส่งผลเห็นชัด

แต่หากน้ำมันไหลเร็วไหลแรง เราก็อาจจะเคยเอาขาลงไปจุ่ม มันเกิดแรงต้านแล้วมันก็แหวกออกข้าง เหมือนว่ามีแรงจากขาเราไปต้าน แท้จริงแล้วท้านไม่ได้ มันแหวกออก ในกรณีคล้ายกันหากเราวิดน้ำตาม มันก็ไม่ได้ทำให้น้ำมันเร็วขึ้นอย่างเห็นชัด หรือเร็วขึ้นจริง แต่ความรู้สึกของขาหรือมือเรามันถลาไปตามน้ำ คล้ายว่าเหมือนว่ามือขาเราช่วยส่งให้มันเร็วขึ้นอีกนิดนึง แต่จริงแล้วมันน้อยมาก แทบไม่ได้เพิ่มความเร็วอะไรเลย

หากมองตามผิวน้ำ ไม่เกินหนึ่งเมตร รอยเกลียวคลื่นจากขาเรามือเราก็หายไปกับผิวคลื่นของน้ำเอง ปรากฏการณ์นี้คือหนึ่ง แรงจากความเร็วหรืออัตราการไหลของน้ำดูดซับเอาแรงอันน้อยนิดจากเราไป สองโมเลกุลของน้ำดึงเอาแรงจากการกระทำของเราไปเพื่อคืนสภาพไปหาความหนาแน่นเท่ากับ 1 นั้นคือสภาพเฉื่อย หยุดนิ่ง

ความหนาแน่นของน้ำจะเท่ากับ 1 เมื่อแรงดันเท่ากับ 0 เท่านั้น นั้นก็หมายความว่าน้ำจะไม่ไหลเมื่อน้ำไหลสู่จุดต่ำสุด แล้วที่ต่ำของน้ำในโลกนี้อยู่ที่ไหน ก็อยู่ที่ผิวทะเลในขณะที่บรรจบกันนั่นเอง แต่ในช่วงที่น้ำบรรจบกับทะเลนั้นมันยังมีแรงเฉื่อยอยู่ มันก็จะดันต่อไปออกไปในทะเลระยะหนึ่ง แล้วแรงทั้งหมดก็จะถูกต้านถูกดูดซับจนเท่ากับ 0 หรือหยุดนิ่ง

คิดดูครับว่าแรงต้านต้องระดับน้ำทะเลเท่านั้นจึงจะหยุดการไหลของน้ำได้ แล้วแรงอันน้อยนิดนี่ มันจะมากเท่าใด มันจึงจะมากพอที่จะเพิ่มความเร็วของลำน้ำได้ หากจะมองแบบง่ายๆ ดูพื้นที่หน้าตัดของลำน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา ขนาดประมาณ 300-400 เมตร ลึกประมาณ 25 เมตร เท่ากับ 7500 ตารางเมตร กังหันใบพัดเรือเพียง ไม่กี่ตารางเมตร มันจะช่วยเพิ่มแรงได้สักเท่าไหร่เอง แถมยังถูกดูดซับคืนจากโมเลกุลของน้ำ
  • อธิปัตย์ 5 : อิสรภาพ เสรีภาพ ภราดรภาพ มิตรภาพ สันติภาพ : คือแก่นแท้แห่งอำนาจประชาธิปไตย : ท่านมีหรือยัง ถ้าไม่ จงสร้างเอง
User avatar
halfmoon
 
Posts: 10731
Joined: Wed Nov 19, 2008 11:34 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby rakchart thai » Tue Oct 18, 2011 7:54 am

แค่นำไปวางไม่ให้มันลอยไปตามแรงน้ำที่เชี่ยวและแรงตอนนี้ ผมว่าก็เป็นงานใหญ่กว่าช้างแล้วนะครับ :!: :!:
User avatar
rakchart thai
 
Posts: 454
Joined: Thu May 20, 2010 11:58 am

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby phoosana » Tue Oct 18, 2011 12:10 pm

ขอคิดดูก่อนนะว่ามันมี มอเตอร์ อะไรที่ไปทำงานที่ใต้น้ำได้
แล้วต่อไฟฟ้า สามเฟสใต้น้ำยังไงไม่ให้รั่ว เอาเป็นว่าหามาได้ล่ะกัน

ทำแบบนี้ไปได้สักพัก มวลน้ำที่อยู่หลังเครื่องก็จะเพิ่มมากขึ้น
จนเอาชนะแรงผลักดันน้ำก็ไหลย้อนกลับมาอยู่ดี

เดาเอานะ
We love fender.
User avatar
phoosana
 
Posts: 2608
Joined: Tue Jan 27, 2009 11:13 am

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby Gop » Tue Oct 18, 2011 12:44 pm


ผมมองว่าน่าสนใจ เพราะถ้าเราใช้อุปกรณ์นี้มากพอ ผมมองว่าใบพัดเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อการไหลโดยรวมได้ เพราะ driving force ไม่ได้อยู่แค่พื้นผิวอย่างเรือดันน้ำ และเจ้าอุปกรณ์นี้ก็มีขนาดใหญ่พอสมควร ถ้าใช้หลักร้อยตัว ก็มีพื้นที่หน้าตัดพอๆกับแม่น้ำได้เลย ส่วนกำลังของใบพัดถ้าสูงพอ ผมก็มองว่าทำให้เพิ่มกระแสน้ำได้นะครับ ในกระทู้นั้น คนคิดเค้าก็ประมาณไว้แล้ว ว่าต้องใช้ไฟฟ้าประมาณเท่าไหร่ แต่ที่ผมเห็นด้วยกับหลายท่านคืออุปสรรคของแม่น้ำแหละครับ ทั้งสิ่งปฏิกูล ทั้งรูปร่างของท้องน้ำ กระแสน้ำที่แรงจนอาจพัดตู้ไปหมดก็ได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวผมเห็นว่านี่เป็นไอเดียที่มีประโยชน์ เราอาจปรับปรุงไอเดียนี้ให้เหมาะกับสถานการณ์ตอนนี้ก็ได้ ผมก็ได้แต่หวังว่าผู้อ่านจะลองเก็บไปพิจารณา ว่ามีแนวทางไหนที่ปรับปรุง หรือแนวทางไหนจะเป็นไปได้มากกว่าบ้าง ถือว่าช่วยกันระดมความคิดนะครับ

ปล. ฝากถึงคุณ halfmoon เท่าที่ผมรู้ น้ำถ้าความลึกไม่มากนักอย่างน้ำในแม่น้ำ เรามองว่ามันเป็น incompressible fluid ได้ครับ คือมองว่าความหนาแน่นของน้ำนั้นเท่าเดิมตลอด ไม่ว่าเราจะให้แรงกระทำกับมันเท่าไรก็ตาม ดังนั้น driving force ที่เราเพิ่มเข้าไป จะนำไปทำให้มันเคลื่อนที่เป็นหลักครับ เพียงแต่เราต้องพิจารณาการไหลโดยรวมของน้ำ, คุณสมบัติของน้ำ(เช่น ความหนาแน่น ความหนืด), ลักษณะรูปร่างของขอบ ( boundary conditions) โดยส่วนตัวผมเห็นว่า พลังงานที่ผลักน้ำของเจ้าอุปกรณ์นี้น่าจะเพียงพอทำให้น้ำไหลเร็วขึ้นบ้าง ดูแล้วน่าจะมีประสิทธิภาพกว่าเรือดันน้ำมาก แต่ติดตรงอุปสรรคของแม่น้ำ ที่เราน่าจะหาทางเอาชนะได้
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: อย่างนี้น่าจะดีกว่าเรือดันน้ำนะครับ

Postby redfrog53 » Tue Oct 18, 2011 1:05 pm

โอ้ๆๆๆ ตัวเบรคน้ำเลยนะนั้น ชลอน้ำให้เข้าไป แล้วไปดันออกด้วยใบพัดกะจิดเดียว สุดยอดเลย ....!!!
User avatar
redfrog53
 
Posts: 4456
Joined: Wed Aug 04, 2010 7:02 am


Return to สภากาแฟ



cron