ไทยเข้าสู่ภาวะประเทศผู้นำที่ตายแล้ว
15 ตุลาคม 2551 กองบรรณาธิการ
ดูซี..ยามครอบครัวไทยเรามีปัญหา หมาที่ขุนน้ำข้าวมากะมือมันกำแหงกล้าเห่า เตะสั่งสอนก็เสียตีนเปล่า ยามนี้..คนไทยเราขืนทำวู่วามไปจะ "เสียผู้ใหญ่" ที่น่านับถือ
เราควรมองเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า "คนไทย-แตกสามัคคีเมื่อไหร่" กระทั่งหมามันยังจ้องกระโจนใส่ ฉะนั้น..ทุกฝ่าย "อยากฆ่ากัน" ก็รีบฆ่ากันไวๆ จะได้กลับมาตั้งหน้า-ตั้งตา "ช่วยกัน" พัฒนาชาติไทยเราเสียที!
นี่ผมพูดจริงๆ นะครับ คนเรา..เวลาเขาอยากจะตีกันนี่ ใครก็อย่าไปห้ามเด็ดขาด โบราณบอกว่า "ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ" ฉะนั้น ต้องให้ความอยากของเขาพัฒนาไปให้ถึงขีดสุด
เมื่อถึง "ขีดสุด" ของมันแล้ว ก็จะคืนกลับสภาพปกติด้วยตัวมันเอง!
นี่คือหลักธรรมชาติ ขึ้นต้นมันต้องหมักหมม-เน่าเฟะก่อน เหมือนขยะ เน่าจนได้ที่ก็แปลงค่าเป็นก๊าซ เป็นพลังงาน เป็นปุ๋ยจุลินทรีย์
ความแตกสามัคคี การแยกฝ่ายเป็น "มือตบ-ตีนตบ" อย่างคนไทยตอนนี้ ก็ทำนองนั้น!
ฉะนั้น อย่าไปมองผิดๆ ว่า ไทยพันธมิตรฯ-ไทย นปช.กำลังทำให้ชาติแตกแยกเป็นอันขาด ต้องเข้าใจว่า นี่คือการแตกกิ่ง-แตกก้านของประชาธิปไตย เป็นการพัฒนาการทางสังคมที่ส่อสัญญาณ
ขยับเขยื้อนชาติไปสู่จุดที่ดีกว่า สู่ยุคสมัย "วิถีบูรพา" ที่กำลังมาถึง!
คนไทยเรารู้จักใช้สมองกันแล้ว กำลังคิดเป็น-ทำเป็นกันแล้ว เพียงแต่อยู่ในช่วง "ต่างแหวกว่าย" ไปสู่จุดลงตัวที่ดีกว่าร่วมกัน และเราควรเรียกการสั่นไหวทางสังคมครั้งนี้ว่า
"ปรากฏการณ์" แสวงหาสังคมใหม่ มากกว่าจะเรียกว่า "แบ่งฝ่ายฆ่ากัน"!
เพียงแต่ว่าสังคมรวม "ต้องให้เวลา" กับการหมักบ่มความคิดที่หลากหลายไปคนละทิศละทางนี้ ให้ค่อยๆ รวมตัว จากทางแยก-ทางขนาน-ทางตัด มาเป็นทางร่วมที่เรียกว่า
"ทางเอก" สายเดี่ยวเดียวกัน!
ไม่ต้องห่วงหรอกครับ และไม่ต้องถามกันให้วุ่นวายไปว่า "แล้วประเทศไทยจะไปทางไหนกัน?"
ทางออก อันเป็นทางที่ "ควรไป" สำหรับไทยเพื่ออนาคตมีอยู่พร้อมแล้ว ถึงเวลา-ก็จะถึงด้วยกันทุกคน ขออย่างเดียว ขอให้ทุกคนใจเย็นๆ จะตีกัน ก็ตีกันแบบเย็นๆ
เมื่อเย็นแล้ว สิ่งที่ได้หลังจากนั้นก็จะ "ยั่งยืน"!
คนไทยนั้น ไทยก็คือไทย "ตัดไม่ตายขายไม่ขาด" ว่างกันมานาน ไม่รู้จะไปตีกะใคร ก็ตีกันเองแก้กลุ้มไปอย่างนั้น
แต่ตอนนี้ "เขมร" มันบังอาจมาชี้หน้า "ขีดเส้นตาย" ให้ไทยถอนทหารชั่วโมงนั้น-ชั่วโมงนี้ ไม่งั้นจะเปิดสงครามเต็มรูปแบบกับไทย
ฮุน เซน เอ๊ย..ฮอร์ นัมฮง เอ๊ย..เห็นมาดผ่านรูปจากข่าวสารและฟังวาจาแล้ว มันจะ "แอคอาร์ต" เกินตัวไปหน่อยละมั้ง?
"ธาตุแท้คนไทย" ก็น่าจะรู้อยู่กับใจมิใช่หรือ คนนอกชาติอย่ามาแหยม แหยมเมื่อไหร่คนไทยจะรวมกัน ไล่ฟันกระบาลเอาเลือดมาเซ่นบ้าน-ล้างเมือง
แล้วจะว่าไม่เตือน!
แต่ดูๆ แล้ว ที่จู่ๆ เขมรก็ทำสะแอ๋งกับไทย มันทะแม่งๆ อยู่ คือมันมาผิดคิว-ผิดจังหวะ และผิดบุคลิกท่าทีอันคนระดับนายกฯ ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ จะพึงกระทำ ซึ่งกัมพูชาก็ยกว่า พ้นระดับประเทศ "บ้านป่า-เมืองเถื่อน" ไปแล้ว
เมื่อ ๑๓ ตุลา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ต่างประเทศของไทยไปคารวะ แนะนำตัวในฐานะ "รัฐมนตรีต่างประเทศใหม่" อันถือว่าเป็นการให้เกียรติกับมิตรประเทศ
แล้วในวาระแขกมาเยี่ยมคารวะ ทั้งนายกฯ ฮุน เซน ทั้งฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศ กลับแสดงมรรยาทฐานะเจ้าบ้านด้วยการเกรี้ยวกราดอหังการ ชี้นิ้วสั่งการให้ทหารไทยถอยออกไป
ไม่งั้นจะทำสงคราม!
ลองคิดกันดูซิครับ ถ้าไม่ใช่คนบ้า เขาจะกล้าทำอย่างนั้นหรือ ทั่วโลกเขาเห็นข่าวเขาก็จะต้องหัวเราะว่า "สันดานเขมรมาอีกแล้ว"
ทหารไทยเราน่ะ..ใช่ว่ากลัวทหารเขมร แต่ขี้เกียจรำคาญกับพวกพาลสันดานหยาบเท่านั้น
ประเด็นพิรุธคือ "ทำไมนายกฯ ฮุน เซน ถึงกล้าประกาศสงครามกับไทย?"
เพราะไส้กี่ขดๆ ในท้องสมเด็จฮุน เซน น่ะ ผ่าออกมาดูเมื่อไหร่มีแต่ "ยางข้าวไทย" เคลือบ และอีกอย่าง มีกี่นิ้วสมเด็จฮุน เซน คิดสะระตะไป ถ้าอยากรบกับไทยจริงๆ น่ะ
อึดได้กี่น้ำ? สหายผู้อาวุโสของผม "คุณสะอาด เปี่ยมพงษ์สานต์" แวะมาคุยให้ฟังว่า ตอนมีปัญหาเขาพระวิหารสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ท่านก็นั่งล้อมวงคุยกับเพื่อนทหาร เวลาเพื่อนคุย ท่านก็นั่งหลับ เวลาเพื่อนหยุดคุย ท่านก็ลืมตาขึ้นมาคุย
ท่านบอกว่า "เขมรน่ะเรอะ รวดเดียวไปกินข้าวเที่ยงที่พนมเปญได้เลย แต่เขาจะรุมตีนเอาน่ะซีโว้ย"
"รุมตีน" ในที่นี้ของท่าน ไม่ใช่ตีนเขมร หากแต่เป็น "ตีนสหประชาชาติ" ที่ตัดสินให้ไทยแพ้คดีเขาพระวิหารนั่นแหละ!
การที่สมเด็จฮุน เซน ชี้นิ้ว "ขีดเส้นตาย" สั่งให้ไทยถอนทหาร น่าจะเป็นการ "แสดงละครแก้บน" ข้ามประเทศ หวังจุดกระแส "เลือดรักชาติฟีเวอร์" ให้พุ่งพล่านในหมู่คนไทย
และสื่อทั้งหลาย ไม่ว่าโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ สำนักข่าวต่างประเทศ จะได้ "ทิ้งข่าว" รัฐบาลทรราชสมชาย "สั่งฆ่าประชาชนพันธมิตรฯ" ไปงับข่าวเขมรประกาศสงครามกับไทยแทน
เพราะยังไงๆ ข่าวเขมรรบไทย ย่อมใหญ่กว่า สดกว่า ดึงดูดความสนใจชาวโลกได้มากกว่าข่าว "นายกฯ สมชาย" น้องเขยอดีตนายกฯ ทักษิณ "สั่งฆ่าประชาชน" เป็นไหนๆ!?
สไตล์ "สร้างข่าวกลบข่าว" เป็นสไลต์ที่ "ทักษิณ" นำมาใช้บ่อยๆ ในสมัยเป็นนายกฯ จำกันได้อยู่มิใช่หรือ
อย่าลืม..ในเมื่อทักษิณมีศักยภาพโทร.สั่งฮุน เซน ได้ แล้วสมชาย "นายกฯ น้องเขย" ทำไมจะโทร.คุยกับฮุน เซน บ้างไม่ได้ ล่าสุดก็เพิ่งควงนายนพดลไปเปิดถนนกับฮุน เซน ที่เกาะกงตอนเป็นรองนายกฯ
อย่าทำไก๋ว่าจำไม่ได้นะ?
ที่ ผบ.เหล่าทัพ อันประกอบด้วย พลเอกทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. และ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร.ประชุมแล้วมีมติดังที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกแถลงนิ่มๆ ว่า
"กองทัพมีมติไม่ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่พิพาท และพร้อมเผชิญหน้ากับกองทัพของกัมพูชา หากถูกรุกรานพื้นที่ก่อน" นั้น
ไม่มาก ไม่น้อย เป็นคำพูดพิทักษ์เกียรติชาติและกองทัพ เหมาะสมกับบุคลิกภาพ "กองทัพไทย" อันเป็นกองทัพมาตรฐาน ภายใต้การนำของ ผบ.เหล่าทัพมาตรฐานทั้งสามนั้นแล้ว
ไทยไม่จำเป็นต้อง "ต่อปาก-ต่อคำ" ให้มากความ ฮุน เซน กระเหี้ยนกระหือรือจะรบกับไทยนัก แล้วพิรี้พิไรอยู่ทำไมล่ะ?
ฮืมมมม..นับวัน "รัฐบาลสมชาย" ก็จะทำให้ประเทศชาติถูกหยาม ถูกลูบคมลงไปทุกวัน ไม่มีศักดิ์ศรี ไม่มีน้ำยาให้อาศัย "เป็นหน้า-เป็นตา" ของประเทศชาติ ประชาชนได้เลย
พูดภาษาชาวบ้านเขาก็ว่า "ปล่อยให้เขมรเอาตีนลูบหน้าได้" มันไม่อายเฉพาะตัวท่าน รัฐบาลท่านนะครับ แต่มันอาย และเสื่อมเสียไปถึงกองทัพ ถึงสถาบันบริหารชาติด้วย
นายสมชายรู้สึกอย่างนี้บ้างไหมครับ?
หลังจากฆ่าประชาชน เพื่อให้ได้เข้าไปอ่านนโยบายในรัฐสภา เนี่ยะ..๗ วันแล้ว ท่านใช้สถานภาพรัฐบาลทำคุณอะไรให้ประเทศชาติบ้าง นอกจาก ๗ วัน ประชุม ครม.๒ ครั้ง
และทั้ง ๒ ครั้ง ตั้งหน้า-ตั้งตา ตั้งสมุน ตั้งข้าราชการเครือข่ายข้าทาสบริวารสวามิภักดิ์ไปยึดเก้าอี้-ยึดตำแหน่ง สำคัญๆ ในวงงานชนิดไม่อายผีบ้าน-ผีเมือง!
ช่อง ๑๑ กรมประชาสัมพันธ์ ก็ยังปล่อยให้เป็น NBT เป็นสถานีขี้ครอกพิทักษ์ปกป้องระบอบทักษิณ โฆษกรัฐบาล ก็เก็บตกเอาเด็กชงเหล้าสภาโจ๊กมาปูนบำเหน็จจากความดี-ความชอบ บริภาษ "ป๋าเปรม" ให้เป็นผลงานเข้าตานาย
แล้วก็ทำหลิ่วตา ให้ นปช.ระดมพลคนเสื้อแดงมาสร้างกระแสเผชิญหน้า "เพิ่มปัญหาในปัญหา" แถมให้ตั้งวงด่าทหาร จุดกระแส "ทหารจะก่อการปฏิวัติ" ประกาศทางวิทยุ ทางโทรทัศน์ปาวๆ
สร้างบรรยากาศกระหนาบทั้งจากเขมร-ภายนอก และทั้งจากจุดกระแสทหารปฏิวัติ-ข้างใน
เด็กสมชาย-เด็กทักษิณ-เด็กรัฐบาลทั้งสิ้น หัวไม่สั่ง แล้วหางจะส่ายได้อย่างไร ในภาวะใกล้ศาลจะพิพากษา "คดีลูกพี่ทักษิณ" ในวันที่ ๒๑ ตุลานี้?
คุณเป็นรัฐบาลเพื่อสิ่งนี้หรือ?
จะเสื้อเหลือง-เสื้อแดง พี่น้องคนไทยที่แยกสายเลือดไม่ขาดทั้งนั้น จะปลุกปั่นขึ้นมาประชันทำไม ถ้ารัฐบาลจริงใจต่อชาติ ต้องแก้ปัญหาที่มี ไม่ใช่ไปสร้างปัญหาขึ้นมาประชันปัญหา
อย่าปั่นประชาชนมาชนประชาชน แตกแยกความคิดได้ แต่อย่าแตกประชาชนเหมือนจะแยกชาติ ยิ่งมีข้าราชการ โดยเฉพาะตำรวจ "เป็นทาสอำนาจ" ออกหน้าออกตา จะยิ่งช่วยปั่นประชาชนดาหน้าเข้าหากันหนักขึ้น!
นายกฯ สมชายนอกจากไม่เคยแสดงอาการห้ามปรามแล้ว ยังไม่มีวุฒิภาวะผู้นำเพื่อการ "นำชาติ" ใดๆ ให้ห่างไกลออกไปจากอุ้งตีนทักษิณได้เลย!
ประเทศในภาวะ "ไร้ผู้นำ" ผมอยากให้ทุกคน-ทุกฝ่าย โดยเฉพาะพันธมิตรฯ "ใช้สติ" บนวุฒิภาวะที่เหนือกว่า แยกแยะสถานการณ์ แยกแยะบุคคล แยกแยะส่วนตัว-ส่วนรวมให้ชัดเจน ต้องช่วยเป็นกำลังใจให้ "กองทัพ" และข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ "ทำงาน" คัดท้ายสถานการณ์ด้วยโปร่งใจ
ฆ่าสมชายที่ตายแล้ว ไม่มีความหมาย เพราะไร้ค่าแล้ว
ช่วยและใช้กองทัพพัฒนา "สถานการณ์ชาติ" เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว.
ผมยังไม่อยากปักใจเชื่อว่า ผอทบ โดนงาบไปแล้ว คิดไงกันบ้างครับ