เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

คลังปัญญา กระทู้ปักหมุดเดิม เรื่องสำคัญจัดเก็บที่นี่

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby devotion » Wed Jan 06, 2010 8:18 pm

สวัสดีปีใหม่เช่นกันค่ะ คุณ overtherainbow

ขอตั้งเป้าหมายว่าเราจะไปทานข้าวกันในวัน ล้มล้างกบฏ สำเร็จ ดีไหมคะ

ช่วงที่หายไป เป็นเพราะเราเริ่มเกี่ยวข้องกับเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้นไปอีก โดยเอาอธิการบดีที่มีสายใยเกี่ยวพันกับกลุ่ม นช. ไปเป็นจำเลยในศาลแล้ว 1 คน แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการ หากสามารถนำเสนอในศาลจนได้รับความยุติธรรม จะเกิดบรรทัดฐานสำหรับการปกป้องประชาชนจากการถูกเอาเปรียบ (เอาเป็นทาส) อย่าง ไร้จริยธรรมความรู้ดีรู้ชั่ว ของบุคคลในวงการศึกษาที่ถูกมองว่าสูงส่ง ซึ่งก็จะเป็นบันไดขั้นแรกของการสร้างความแข็งแกร่งในภาคประชาชน ที่เป็นผลงานของเรา

หลังจากการแจ้งความต่างๆถูกนำไปผ่านกระบวนการเกินครึ่งปี ก็เริ่มมีหลักฐานการละทิ้งหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ผู้เก็บเรื่องนานไป ในช่วงนี้เราก็จะเริ่มติดตามคดี บางคดีเข้าไปผ่าน "การพิจารณา" นานได้ที่ก็เริ่มถูกส่งกลับมาสอบเพิ่ม ปัจจุบันเราเริ่มมีความชำนาญในการสังเกต "ตำรวจเสื้อแดง"

แต่สิ่งหนึ่งที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วก็คือ คดีหมิ่นสถาบันฯ ถูกนำไป "พิจารณาและดำเนินการ" ช้ากว่าคดีหมิ่นฯส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ไม่ต้องอธิบายอีกแล้วว่า ตำรวจกำลังทำอะไรกันอยู่ ??

ขอขอบคุณสำหรับความสนใจและติดตามถามไถ่ค่ะ อีกไม่นานพบกันในกระทู้เดิมของดิฉันนะคะ
User avatar
devotion
Moderator
 
Posts: 1001
Joined: Tue Apr 28, 2009 7:11 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Thu Jan 07, 2010 9:26 am

devotion wrote:คุณเบิร์ดสนใจรับข้อมูลไป re-write มาลงในกระทู้ไหมคะ

ดิฉันมีเนื้อหา "ความเลวร้าย" 1 ความเลวร้าย รวม 9 บทความ มี reference อ้างอิงเรียบร้อย ซึ่งไม่มีใครวิเคราะห์เรื่องนี้ไว้โดยเฉพาะอย่างที่เราทำ (ชุดภาษาอังกฤษส่งผู้เกี่ยวข้องระดับสูงในต่างประเทศจำนวนมาก)

อยากส่งให้คุณเบิร์ดสรุปเป็นเนื้อหาต่อเนื่องรวมเป็น 1 ตอนแบบที่นำมาลงในกระทู้นี้ และนำมาเผยแพร่ในกระทู้ (เพราะคุณเบิร์ดเขียนแล้ว อ่านเข้าใจง่าย) ซึ่งเนื้อหาสรุปที่ทำขึ้น คุณเบิร์ดสามารถนำไปรวมเล่มด้วยได้หากต้องการ

ถ้าคุณเบิร์ดอยากดูก่อน จะส่ง link ของบทความไปให้ค่ะ


ส่ง pm ให้คุณ devotion เมื่อคืนไม่ทราบว่าได้รับหรือเปล่าค่ะ...
เมื่อคืนไม่แน่ใจว่า โน๊ตบุค หรือ อินเตอร์เนท เกเร

ขออนุญาติแจ้งคุณ devotion อีกครั้งค่ะ

ขอบพระคุณที่กรุณาติดตามอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ยังกรุณารวบรวมข้อมูลให้ด้วย
รู้สึกเป็นเกียตริอย่างยิ่งค่ะ...
รบกวนส่ง link บทความที่พี่รวบรวมไว้ให้เบิร์ดด้วยนะค่ะ
ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ... :mrgreen:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby naichod » Thu Jan 07, 2010 10:45 am

หนูเบิร์ด ลุงชดว่า หนูอาจต้องเปิดกระทู้ร่วมกับคุณ devotion อีกกระทู้หนึ่งนะครับ

เค้าลางแห่งความเลวร้าย แม้ว อาจจะไม่เท่ากับ เค้าลางแห่งความเลวร้ายของ .....กลุ่มอำนาจใหม่สีน้ำเงิน (การรวมตัวกันของปลาฉลามที่ได้ น้ำใหม่)

ต่อให้แม้ว ตายไป กลุ่มแดงๆสลายตัวไป

ลุงชดเชื่อว่า บ้านเมืองก็ยังไม่ปกติสุข เพราะ กลุ่มอำนาจใหม่เริ่มเป็นตัวแล้วกว่า 65 เปอร์เซนต์

เพียงแต่กลุ่มใหม่จับทางคนไทยถูกตรง ไม่แตะสถาบัน เบื้องสูง แต่แอบใช้เรื่องความจงรักภักดี เข้าไปพ่วงอีกตะหาก ครับ

กลุ่มใหม่นี้ จะย้อนเมืืองไทยกลับไปสมัย ถนอมได้เลย ทีเดียว


อยากให้ลองคิดคำพูดพึมพำของลุงชดไว้หน่อยนะครับ
Nul plus que nous. À moins que nous sommes à genoux à la sienne.
No one higher than us. Unless we kneel to his own.
User avatar
naichod
 
Posts: 2327
Joined: Mon Mar 30, 2009 7:43 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby overtherainbow » Thu Jan 07, 2010 10:50 am

:D หนูเบิร์ดมีหนังสือเล่มใหม่อีกแน่ๆ หลังจากเล่มนี้แล้วเสร็จ :lol:
ดีออก
เราไม่ยอมให้ใครมาทำกับประเทศแล้วจะนิ่งเฉยได้อีกต่อไป แล้ว
ลำดับความสำคัญก่อนหลัง มีจริงๆ
บรรหารก็ใช่ย่อย ไม่รู้คลอรีนที่ขายให้การประปา อีกกี่ปีจึงจะหมดสัญญา คะ
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Thu Jan 07, 2010 11:45 am

naichod wrote:หนูเบิร์ด ลุงชดว่า หนูอาจต้องเปิดกระทู้ร่วมกับคุณ devotion อีกกระทู้หนึ่งนะครับ

เค้าลางแห่งความเลวร้าย แม้ว อาจจะไม่เท่ากับ เค้าลางแห่งความเลวร้ายของ .....กลุ่มอำนาจใหม่สีน้ำเงิน (การรวมตัวกันของปลาฉลามที่ได้ น้ำใหม่)

ต่อให้แม้ว ตายไป กลุ่มแดงๆสลายตัวไป

ลุงชดเชื่อว่า บ้านเมืองก็ยังไม่ปกติสุข เพราะ กลุ่มอำนาจใหม่เริ่มเป็นตัวแล้วกว่า 65 เปอร์เซนต์

เพียงแต่กลุ่มใหม่จับทางคนไทยถูกตรง ไม่แตะสถาบัน เบื้องสูง แต่แอบใช้เรื่องความจงรักภักดี เข้าไปพ่วงอีกตะหาก ครับ

กลุ่มใหม่นี้ จะย้อนเมืืองไทยกลับไปสมัย ถนอมได้เลย ทีเดียว


อยากให้ลองคิดคำพูดพึมพำของลุงชดไว้หน่อยนะครับ


ขอบพระคุณลุงชดค่ะ ที่แวะมาให้คำแนะนำถึงจะแบบพึมพำก็เถอะค่ะ
หลานดีใจม๊ากมาก ที่ลุงแวะมาค่ะ.. :mrgreen:

หนูก็หวั่น ๆ อยู่เหมือนกันค่ะ....
เฝ้าจับตา...พร้อมรวบรวมข้อมูลไว้บ้างแล้วค่ะ...
คนกลุ่มนี้เดาใจยากมาก คนกุมหางเสือค่อนข้างจะเจ้าเล่ห์มากกว่า :roll:

overtherainbow wrote::D หนูเบิร์ดมีหนังสือเล่มใหม่อีกแน่ๆ หลังจากเล่มนี้แล้วเสร็จ :lol:
ดีออก
เราไม่ยอมให้ใครมาทำกับประเทศแล้วจะนิ่งเฉยได้อีกต่อไป แล้ว
ลำดับความสำคัญก่อนหลัง มีจริงๆ
บรรหารก็ใช่ย่อย ไม่รู้คลอรีนที่ขายให้การประปา อีกกี่ปีจึงจะหมดสัญญา คะ


:mrgreen: แล้วจะตามข้อมูลมาให้พี่สาวคนสวยค่ะ...
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Thu Jan 07, 2010 2:06 pm

ย้อนรอยชุมนุม ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒

เหตุการณ์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ อันเป็นวัฒนธรรมอันดีงามของประเทศ สร้างชื่อเสียง
ในด้านการท่องเที่ยวไปทั่วโลก นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่ตั้งหน้าตั้งตารอ เพื่อต้อง
การมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบไทย ไม่ว่าจะเป็น สงกรานต์เชียงใหม่ หลายหน่วยงาน
ร่วมกันจัดพิธีรดนำดำหัวผุ้ใหญ่ ตามแบบประเพณีพื้นเมืองอันสวยงาน

จังหวัดทางภาคอีสานหลายๆ จังหวัด เป็นอีกจุดที่จัดพิธีตามแบบวัฒนธรรมที่สืบทอดมา
รวมไปถึงถนนข้าวสารอันขึ้นชื่อว่า มีการเล่นสงกรานต์ที่สนุกสนาน มีชาวต่างชาติมาร่วม
เล่นน้ำสงกรานต์จำนวนไม่น้อยทีเดียว ซึ่งชาวต่างชาติเหล่านี้ต่างรอคอยด้วยความหวัง
ว่าในปีนี้( ๒๕๕๒ ) พวกเค้าจะได้มีโอกาส สัมผัสกับบรรยากาศแบบนั้นอีกครั้ง

แต่แล้ว...

สถานการณ์ที่คนไทยทุกคนต่างหวาดหวั่นก็เกิดขึ้นในช่วงเทศกาล ที่ควรจะมีความสุข
เทศกาลที่คนไทยทั้งชาติภูมิใจ สิ่งที่ดีงามที่ควรจะได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก ภาพที่
ปรากฎควรเป็นภายใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขของคนไทยทั้งประเทศ หากแต่..
ข่าวที่แพร่ะสะพัดไปทั่วโลก กลับกลายเป็น ภาพสถานการณ์เผาบ้านเผาเมืองของมวล
ชนกลุ่มหนึ่ง...ที่เกิดขึ้นใจกลางเมืองหลวงของประเทศ...


ย้อนเวลากลับไปในเช้าวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มมวลชน
ที่ปักหลักอยู่รอบทำเนียบฯ หากนับจากวันที่เริ่มการชุมนุม ( ๒๖ มีนาคม ๕๒) รวมเวลา
เป็นวันที่ ๖ สื่อมวลชนหลายฝ่ายยังคงปักหลักเสนอข่าวความเหลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่แม้ว ก็ยังคงโฟนอิน วีดีโอลิงค์เข้ามาเป็นวันที่ ๔ แล้วเช่นกัน


การชุมนุมในช่วงเช้า ผู้ชุมนุมกระจายกำลังอยู่บริเวณรอบทำเนียบฯ มากกว่าวันที่ผ่านมา
เนื่องจากจะมีการประชุม ครม แกนนำจึงระดมคนมาชุมนุมเพื่อสกัดไม่ให้นายกและครม
เข้าประชุมภายในทำเนียบ

- ตามประตูเข้าออกทุกประตู กลุ่มผู้ชุมนุมนำรถบรรทุก ๖ ล้อ มาจอดขวางไว้
- สะพานมัฆวาน มีการนำรถแท็กซี่ แผงรั้วเหล็กมาขวาง และปิดการจราจรตั้งแต่สี่แยก
สวนมิสกวันถึงสะพานมัฆวาน


เวลา ๐๘.๓๐ น. รองนายกได้ประกาศยกเลิกการประชุม ครม เพราะเห็นว่าสถานการณ์
ยังไม่เอื้ออำนวน และนายกจะต้องเดินทางไปประชุมจี ๒๐ ในต่างประเทศ จึงตัดสินใจ
งดการประชุม อีกเหตุผลหนึ่ง คือ ไม่ต้องการให้มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่ม
ผู้ชุมนุม ซึ่งเหตุการณ์อาจบานปลายเหมือนเมื่อครั้งเหตุการณ์ ๗ ตุลา ๕๑

การตัดสินใจงดการประชุมบางกลุ่มอาจมองว่าฝ่ายรัฐพ่ายแพ้ ซึ่งถ้าหากวิเคราะห์แล้ว
ไม่ใช่เรื่องแพ้ ชนะ แต่เป็นเรื่องของการรักษาบ้านเมือง แต่ต้องแก้ไขด้วยความอดทน
อดกลั้น พยายามให้สถานการณ์ผ่านไป โดยหลีกเลี่ยงเหตุที่จะก่อให้เกิดสถานการณ์
รุนแรง หรือ การปะทะกันระหว่างคนไทยด้วยกันเอง นั่นจะยิ่งทำให้ บ้านเมืองเสียหาย


หากวิเคราะห์การเคลือนไหวของแม้วในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ( ๒๖-๓๑ มีนาคม )
จะเห็นว่าการเคลื่อนไหวอขงแม้ว โดยเปิดแนวรบทุกด้าน เป็นศัตรูพร้อมกันหลายฝ่าย
ไม่ว่าจะเป็นองคมนตรี ศาล องค์กรอิสระ รัฐบาล โดยไม่เกรงกลัวใคร การเคลื่อนไหว
ในลักษณะเอาชาติเป็นตัวประกัน

เพื่อคืนอำนาจและผลประโยชน์ของแม้ว โดยเป้าหมายระบุชัดเจนว่า ต้องการให้มีการ
แก้รัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้ยุบสภา และการยื่น พรบ ปรองดอง เพื่อนิรโทษกรรมให้
กับแม้ว ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา หลายท่านมองว่าเป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น เพราะหลาย
ประโยคที่บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับแม้ว ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ เช่น


นายประชา สมาชิกพรรค ระบุว่าจะมีเหตุการณ์นองเลือด
นายจาตุรน อดีตหัวหน้าพรรค ระบุว่าจะซ้ำรอยเหตุการณ์ ๖ ตค ๑๙
ตัวแม้วเอง ระบุว่าจะนำมวลชนบุกเมืองหลวง
เป็นต้น

ล้วนเป็นคำกล่าวที่ต้องการให้เกิดสถานการณ์เลวร้าย เหมือนต้องการทำลายเสถียรภาพ
และภาพลักษณ์ของประเทศอันเป็นเสมือนแผ่นดินแม่ของคนไทยทั้งประเทศ รวมทั้งตัว
ผุ้ที่กล่าวประโยคเหล่านั้นออกมา หรือ บุคคลเหล่านั้น หาใช่คนไทยไม่

จะด้วยฟ้าไม่เข้าข้างคนผิดหรือเหตุการณ์ธรรมชาติ สุดจะคาดเดาได้

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน มีฝนตกอย่างหนักบริเวณทำเนียบ กลุ่มมวลชนที่ชุมนุมอยู่บริเวณ
รอบทำเนียบ บริเวณเวทีปราศรัยบนสะพานชมัยมรุเชฐ ซึ่งมีมวลชนมากกว่าบริเวณอื่น
ต่างพากันวิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่น สายฝนและแรงลมได้พัดผ้าใบที่ใช้คลุมหลังคาเวที
ปราศรัยหลุดออก และยังพัดร่มกันแดดขนาดใหญ่ข้างเวทีล้มระเนระนาด

" ฝนที่ตกลงมาเป็น ฝนเทียม ที่รัฐพยายามทำในช่วง ๑-๒ วันที่ผ่านมา เพื่อใช้ไล่ม็อบ
แต่ไม่เป็นผล เพราะทุกคนไม่กลัวเปียก
"

พร้อมคำกล่าวอ้างว่า ทุกครั้งที่แม้วปราศรัยกับกลุ่มมวลชน ฝนจะตกทุกครั้ง

ภายหลังสายฝนซาลง หลังจากตกกระหน่ำนานกว่า ๑ ชั่วโมง กองกำลังทหารที่รักษา
การอยุ่ในทำเนียบ ได้มีการปรับเปลี่ยนกองกำลังชุดใหม่แทนชุดเดิม กลุ่มผุ้ชุมนุมที่
อยุ่ในบริเวณประตู ๘ ติดคลองผดุงกรุงเกษม อยู่ในสภาพเปียกปอน หลายคนได้ตะ
โกนถามทหารอย่างโกรธเกรี้ยวว่า

" ทำไมมากันมากนัก เวลาไปรบชายแดนมีมากขนาดนี้หรือไม่ "
" สบายเกินไปหรือเปล่า เป็นทหารต้องไม่กลัวเปียก กลัวร้อน "

เวลา ๒๐.๑๐ น. แม้วได้โฟนอินผ่านระบบวีดีโอลิงค์ มายังกลุ่มผู้ชุมนุม โดยมีฉากหลัง
เป็นธงชาติ และมีคำว่า " THAILAND NEEDS CHANGE " ติดอยู่หน้าโพเดียม ใจความ
สำคัญในการโฟนอินครั้งนี้ สรุปได้ดังนี้


" ตอนนี้มีหลายคนพยายามออกมาปฏิเสธ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิวัติ และการที่ป๋า
บอกว่า ประเทศโชคดีที่ได้นายอภิสิทธิ์มาเป็นนายก ซึ่งไม่รู้ว่าจะโชคดีหรือไม่ แต่รุ้ว่า
โชคร้ายที่ได้นายกษิต เป็น รมว ต่างประเทศ.."

พร้อมยืนยันว่า ตนไม่เคยมีจิตใจที่จะทำลายสถาบัน หรือทำให้สถาบันเสียหารเลย แม้
แต่น้อย และในสมัยที่ตนเป็นนายกนั้น มีมหาอำนาจถึง ๓ ประเทศมาเยือนไทยในฐานะ
พระราชอาคันตุกะ คือ อเมริกา รัสเซีย และ จีน ซึ่งไม่เคยมีสมัยไหนทำได้มาก่อน

(พฤติกรรมเช่นนั้ เค้าเรียกว่ายกหางตัวเองหรือเปล่า)

แม้วโต้แย้งข้อกล่าวหาที่ว่า อยากเปลี่ยนแปลงการปกครองไว้ดังนี้

" พี่น้องครับ ถามว่าผมอยากเปลี่ยนการปกครองหรือ บอกได้ชัด ว่าอยากได้ประชาธิป
ไตยที่เต็มใบแท้จริง ไม่อยากได้แบบอำมาตยาธิปไตยอีกแล้ว ต้องการได้ประชาธิปไตย
โดยประชาชน เพื่อประชาชน ไม่ใช่ถูกแทรกแซงโดยอำมาตย์ เพื่ออำมาตย์ หรือ กลุ่ม
อิทธิพลชนชั้นทางเศรษฐกิจ หรือพวกนักการเมืองที่แสวงหาผลประโยชน์ใน กทม ต้อง
การประชาธิปไตยที่ทุกคนได้เท่าเทียมกัน...
"

การโฟนอินในวันนี้จบลงด้วยความเพ้อฝัน อวดเก่ง อวดฉลาดของผู้ปราศรัย

" พี่น้องมาร่วมกัน แล้วบอกว่าจะเอาประชาธิปไตยคืนมา เมื่อได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง
แล้ว เศรษฐกิจที่ตกต่ำของประเทศ ผมมีกึ๋นแก้ได้แน่นอน คือ ขณะนี้พี่น้องครับ ผมก็
ทำมาหากินอยู่ ตอนนี้ไปขุดทองที่แอฟริกา ได้เหมือนทองมามีทองอยู่หลายแสนล้าน
บาท ถ้าปัญหาที่ประเทศไม่มีใครแก้ แก้ไม่ได้ ก็ตามผมมา ผมจะมาแก้
แต่ถ้ามีคนแก้
แล้ว ไม่ต้องห่วงผม ผมขอขุดทองรอไปก่อน ไม่ใช่ไม่ห่วงพี่น้องครับ ห่วงมากเดี๋ยวจะ
หาว่าทำเพื่อตัวเองอีก "

" ขณะนี้ได้เห็นอะไรต่าง ๆ มากมาย จึงอยากเนรมิตให้ไทยเหลือเกิน ผมว่าเนรมิตรถ
ไฟฟ้า ๑๐ สาย เปรี้ยงเรียบร้อย
เชื่อมรถไฟจาก กทม ไปสู่หัวเมืองใหญ่ เปรี้ยงจบ
เนรมิตน้ำเพื่อการเกษตร เปรี้ยงจบ เนรมิตการศึกษาเพื่อลูกหลาน เปรี้ยงจบ
(ตัวเองยังเอาไม่รอด จะเนรมิตอะไรให้ใครได้ ขายฝันอีกแล้ว)

มันใช้เงินมาก แต่ ถ้าหาเงินเป็นไม่มากเลย เพราะเงิน มันนี่ มันเอาจากอนาคตมาใช้ได้
ไม่ต้องเอาของ ปู่ย่า ตายาย มาใช้ เมื่อก่อนเป็นนายกยังสัมผัสโลกไม่เท่าครั้งนี้ เห็น
หมด ได้คุยกับระดับผู้นำประเทศ นักธุรกิจใหญ่ บริษัทที่ไปไม่รอดทางตะวันตนมาซุก
แถวนี้หมด รู้วิธีเจรจา ถ้ามีเวลาจะมาทำให้มันเลยครับ

ผมมั่นใจว่า ถ้าทำประเทศเราเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เราจะแซงประเทศที่นำเราไป
แล้วไม่เกิน ๑๐ ปี แซงเรียบ พี่น้องครับ
"

ตบท้ายด้วยคำออดอ้อนผู้ชุมนุมว่า ยินดีจะกลับมาช่วยประเทศ แม้จะต้องเริ่มในขณะ
อายุ ๖๐ ปีแล้วก็ตาม


ข้างต้นเป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๒ นับเป็นวันที่ ๖ ของการชุมนุมเพื่อ
ปิดล้อมทำเนียบ ของกลุ่มมวลชนทีให้การสนับสนุนแม้ว เป้าหมายและความต้องการ
ของแม้วและบรรดาแกนนำคืออะไร คงพอจะมองได้ลาง ๆ เริ่มมองเห็นเป็นรูปร่างได้
บ้างแล้ว...จะตรงกับข้อสมมุติฐานที่หลายท่านได้ตั้งไว้หรือไม่...
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Thu Jan 07, 2010 9:53 pm

นิทานก่อนนอน ไม้ขีดไฟก้านเดียว

ลังเลอยู่นานว่าควรหรือไม่ควร เล่านิทานเรื่องนี้...

ไม้ขีดไฟก้านเดียว

เรื่องมีอยู่ว่า ในอดีตมีนักธุรกิจน้ำเมาผู้ประสบความสำเร็จรายหนึ่ง นักธุรกิจรายนี้ได้
ก่อร่างสร้างตัว ล้มลุกคลุกคลาน ขาดทุนครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ในที่สุด เค้าก็สามารถ
ฝ่าฝันอุปสรรคนานับประการ จนประสบความสำเร็จ กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีรายหนึ่ง
ดังระดับโลก แต่ท่านก็ยังเก็บตัวอยู่อย่างเงียบ ๆ มุ่งมั่นกับธุรกิจอย่างตั้งใจ

และแล้ววันแห่งความเลวร้ายก็คืบคลานเข้ามา เมื่อนักธุรกิจหน้าใสคนหนึ่งก้าวขึ้นสู่บัลลังค์
แห่งอำนาจ ได้แสดงความต้องการในธุรกิจน้ำเมา จึงเจรจาของซื้อ แต่นักธุรกิจน้ำเมา
ปฏิเสธ ด้วยว่าเป็นธุรกิจที่ก่อร่างสร้างมาด้วยมือทั้ง ๒ จึงอยากรักษาไว้ให้ลูกหลาน
แต่นักธุรกิจหน้าใสผู้หลงใหลในอำนาจ ก็ยังคงตามรังควานอยู่ตลอดเวลา

นักธุรกิจน้ำเมาจึงได้นำธุรกิจของเขาออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อหลบหนีอิทธิพลของ
นักธุรกิจหน้าใส

นักธุรกิจหน้าใส โกรธมาก และเก็บความโกรธไว้ เป็นเหมือนไฟสุมทรวงตลอดมา
รอเวลาเพื่อแก้แค้น และฮุบธุรกิจน้ำเมามาเป็นของตน

จนวันหนึ่ง...เวลานั้นก็มาถึง

เมื่อนักธุรกิจน้ำเมาต้องการนำธุรกิจเข้าสู่ระดับมหาชน นักธุรกิจหน้าใสต้องการขัดขวาง
จึงเรียกประธานกลุ่ม เข้าพบ และแจ้งว่า หากประธานกลุ่มสามารถขัดขวางนักธุรกิจ
น้ำเมา ไม่ให้ขึ้นสู่ระดับมหาชนได้ จะตบรางวัลให้อย่างงาม

ประธานกลุ่มรับคำ พร้อมปฏิบัติการจนสามารถขัดขวางนักธุรกิจน้ำเมาได้สำเร็จ แต่
นักธุรกิจน้ำเมาผู้ไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อปัญหา ได้นำธุรกิจขึ้นสู่ระดับมหาชนในต่างประเทศ
จนสำเร็จ สร้างความไม่พอใจให้กับนักธุรกิจหน้าใสอย่างมาก

เมื่อขัดขวางนักธุรกิจน้ำเมาได้แล้ว ประธานกลุ่มจึงได้เข้าพบเพื่อรับรางวัล แต่กลับได้
รับการปฏิเสธจากนักธุรกิจหน้าใส อ้างว่าปฏิบัติการไม่สำเร็จตามข้อตกลง ประธานกลุ่ม
โกรธ ไม่คาดคิดว่านักธุรกิจหน้าใสจะเป็นบุคคลที่ไม่รักษาคำพูดเช่นนี้

ในขณะนั้น บัลลังค์อำนาจของนักธุรกิจหน้าใสกำลังสั่นคลอน ประธานกลุ่มจึงเข้าร่วม
เพื่อโค่นล้มอำนาจนักธุรกิจหน้าใส เพราะโกรธที่ไม่รักษาคำสัญญา

ในที่สุด

นักธุรกิจหน้าใสก็ตกบัลลังค์แห่งอำนาจ
ประธานกลุ่มกับคืนสู่ที่ตั้ง
ประเทศปั่นป่วน วุ่นวาย แบ่งขั้ว สุดจะพรรณา

นักธุรกิจน้ำเมา มีความสุขกับธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ไม่เดือดร้อนใด ๆ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

เพียงไม้ขีดไฟก้านเล็ก ๆ ก้านเดียว สามารถสร้างไฟป่าที่รุนแรงได้

อย่าคิดมาก....ก็แค่ นิทานก่อนนอน...
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby jrr. » Fri Jan 08, 2010 12:02 am

..............click แล้วไปนอน...............
User avatar
jrr.
 
Posts: 887
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:41 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby devotion » Fri Jan 08, 2010 12:25 am

bird wrote:ส่ง pm ให้คุณ devotion เมื่อคืนไม่ทราบว่าได้รับหรือเปล่าค่ะ...
เมื่อคืนไม่แน่ใจว่า โน๊ตบุค หรือ อินเตอร์เนท เกเร

ขออนุญาติแจ้งคุณ devotion อีกครั้งค่ะ

ขอบพระคุณที่กรุณาติดตามอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ยังกรุณารวบรวมข้อมูลให้ด้วย
รู้สึกเป็นเกียตริอย่างยิ่งค่ะ...
รบกวนส่ง link บทความที่พี่รวบรวมไว้ให้เบิร์ดด้วยนะค่ะ
ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ... :mrgreen:


ได้รับค่ะ ดีใจและขอขอบคุณที่คุณเบิร์ดกรุณาตอบอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ได้ตอบกลับ ต้องขออภัยนะคะ พอดีมัวกวาดขยะเว็บบอร์ดอยู่ จะส่งลิงค์ประมาณสุดสัปดาห์นี้ค่ะ
User avatar
devotion
Moderator
 
Posts: 1001
Joined: Tue Apr 28, 2009 7:11 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby overtherainbow » Fri Jan 08, 2010 1:35 pm

มาอ่านนิทานตอนบ่าย
อยากให้นิทานจบแบบว่าธรณีสูบนักธุรกิจหน้าใส จัง :mrgreen:
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby แดง ขาว น้ำเงิน » Fri Jan 08, 2010 1:37 pm

ไอ้คุณแม้วเสร็จแน่ๆ เจอ 2 ประสาน พลังเทอร์โบ อิอิ :mrgreen:
"ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส" เพลโต้
User avatar
แดง ขาว น้ำเงิน
Moderator
 
Posts: 4943
Joined: Thu Feb 12, 2009 4:07 pm
Location: Earth


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Sat Jan 09, 2010 5:40 pm

การกระทำที่ไม่สมควร

กับอีกหนึ่งหัวข้อที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมของมวลชนทักกี้ ในช่วง ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๒
ถึง ๑๘ เมษายน ๒๕๕๒ ภายใต้คำกล่าวอ้าง เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มใบ หรือที่
เรียกกันว่า " ประชาธิปไตยฉบับแม้ว ๆ " ซึ่งแม้วได้กล่าวอ้างอยู่เสมอ ในทุกๆ ครั้งของ
การโฟนอิน เช่น มีความเสมอภาค มีเสรีภาพ มีความยุติธรรม ดูแลกันได้ทุกภาคส่วน
ไม่มีคนจนในแผ่นดิน ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ว่าฐานันดรไหน
ฯลฯ

เป็นความหมายของคำว่า "ประชาธิปไตย" แบบแปลกๆ ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่า
แท้จริงแล้ว มันเป็นการปกครองในลักษณะใด หากทุกคนในประเทศอ้างสิทธิ-เสรีภาพ
และความเท่าเทียมกัน ในทุก ๆ กรณี โดยไม่ต้องสนใจว่า กฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือที่
เรียกกันว่า กฎหมาย ระบุไว้ หรือห้ามไว้อย่างไร ความวุ่ยวายในประเทศจะเกิดขึ้นมาก
ขนาดใด เพราะ ทุกคนล้วนมีสิทธิ เสรีภาพ ที่จะกระทำอะไรก็ได้ ตามอำเภอใจ

หรือว่า...เราขาดสติปัญญา จึงไม่สามารถมองเห็นความเป็นไปได้ของ "ประชาธิปไตย
ฉบับแม้ว ๆ "

Image

การออกมาเคลื่อนไหวของมวลชนทักกี้ ภายใต้แกนนำ ๓ เกลอ สมาชิกพรรคการเมือง
ท่านผู้ทรงเกียรติสวมสูท อดีตทั้ง ๑๑๑ และ ๑๐๙ รวมไปถึงบรรดาแกนนำกลุ่มต่าง ๆ
นับจากวันที่ ๒๖ ล้วนสอดรับประสานกันในทุกกรณี ไม่ว่าการปล่อยข่าว การสลายการ
ชุมนุมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบทั้ง สีกากี และ สีเขียว แม้กระทั้ง คำกล่าวอ้าง
ที่ตลกที่สุด อย่างเช่น รัฐทำฝนหลวงเพื่อสลายการชุมนุม...


การเคลื่อนไหวของทักกี้ เป็นไปอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ปลุกระคม ยั่วยุ สร้างขวัญกำลัง
ใจมวลชนทักกี้ เร่งระดับการชุมนุมให้รุนแรงขึ้นตามลำดับ เสมือนหนึ่ง พยายามสร้าง
สถานการณ์ให้เกิดการปะทะ ระหว่างรัฐ กับ มวลชนทักกี้ เช่น เหตุการณ์ที่มวลชนทักกี้
เข้าล้อมบ้านสี่เสา เพื่อกดดันให้ประธานองคมนตรี และ นายกลาออก

Image

ก่อนการเคลื่อนไหวเพื่อปิดล้อมบ้านพักสีเสา บรรคาเครือญาติทักกี้ได้ทยอยเดินทาง
ออกนอกประเทศ ตั้งแต่วันที่ ๖-๗ เมษายน ๕๒ ถือเป็นการชิงหนีไปก่อน โดยปล่อย
ให้มวลชนทักกี้ที่มาร่วมชุมนุมเป็นตัวประกัน ซึงจุดยืนการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชน
ทักกี้จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จากการขับไล่รัฐบาลในตอนต้น มาเป็นการขับไล่
องคมนตรี
ในขณะที่ตัวคนที่ชักชวนให้มาชุมนุมก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่ต้องรับผิดชอบกับสิ่ง
ที่อาจจะเกิดขึ้น


วันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๒ คุณหญิง และ แพทองทาน เดินทางด้วยสายการบินคาเธ่ย์
เที่ยวบิน CX750 ปลายทางฮ่องกง ส่วน พินทองทา เดินทางด้วยสายการบินไทยเที่ยว
บิน TG910 ปลายทางประเทศอังกฤษ


วันที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๒ นายสมชาย และ พานทองแท้ เดินทางด้วยสายการบินเอมิ
เรตส์ เที่ยวบินที่ EX419 ปลายทางนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์


ย้อนไปเมื่อวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๒ แนวร่วมมวลชนทักกี้ ยังคงทยอยเดินทางเข้ามา
บริเวณหน้าทำเนียบอยู่ตลอดเวลา ทำให้พื้นที่ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐ
จนถึงแยกมิสกวัน ถนนราชดำเนินนอก เลี้ยวไปทางลานพระบรมรูปทรงม้า เต็มไปด้วย
มวลชนทักกี้ เจ้าหน้าที่ประเมินจำนวนมวลชนสูงเกือบ ๑ แสนคน

ในขณะที่บนเวทีปราศรัย แกนนำและอดีต ๑๑๑ ต่างขึ้นเวทีเพื่อเรียกร้อยให้กลุ่มชุมนุม
ร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องล้มล้าง พล.อ.เปรม โดยกำหนดการเคลื่อนขบวนไป
หน้าบ้านพักสี่เสาฯ เพื่อแสดงพลังกดดันให้ประธานองคมนตรีลาออกจากตำแหน่ง

การปลุกระดมมวลชน ได้นำกรณีการจับกุมทีมมือปืนที่เตรียมลอบสังหารองคมนตรี
โดยกล่าวโจมตีว่า

" เป็นความพยายามจะให้เกิดเหตุในวันที่ ๘ เมษายน เพื่อป้ายสีมวลชนทักกี้ เพราะทีม
สังหารมีนายทหารยศพันตรี และ พันเอก ของทัพบก เป็นผู้สั่งการ เพื่อโยนความผิดให้
มวลชนทักกี้
" (กล่าวอ้างลอย ๆ ตามสไตล์แกนนำ ๓ เกลอ)

Image

เวลา ๘.๐๐ น. เชิงสะพานอรทัย ด้านหลังทำเนียบ การ์ดมวลชนทักกี้ ทั้งหมดสวมเสื้อ
และกางเกงยีนส์สีดำ มีผ้าแดงผูกคอและคาดศรีษะ รวมตัวเพื่อเช็คความพร้อม ขณะที่
ณัฐวุฒิ ประกาศผ่านเครือข่าย ขอให้มวลชนทักกี้ ช่วยกันบริจาคหมวกกันน็อกมาที่เวที
ใหญ่ให้มาก ๆ เพื่อใช้ในการเคลื่อนขบวน


เวลา ๘.๓๐ น. หลังเวทีปราศรัยสะพานชมัยมรุเชฐ นายจรัล ดิษ นำตัวนายวันเฉลิม
และ ซ้อโอ่ง (จิดาภา) ผู้ต้องหาทุบรถนายกที่ใจกลางเมืองพัทยา เมื่อ ๗ เมษายน ๕๒
มาแถลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทั้ง ๒ ยืนยันว่าตนต้องเป็นแพะ


เวลา ๙.๐๐ น. นายณัฐวุฒิ น.พ.เหวง นำเหล็กค้นธงทำจากแป็ปปลายแหลมมาโชว์สื่อ
พร้อมกล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่รักษาการณ์หน้าบ้านพักสี่เสานำมาให้ เพราะเห็นว่าเป็นอา
วุธที่จะใช้ทำร้ายมวลชนทักกี้ มีการรวบรวมชายฉกรรจ์จำนวนมากจากหลายพื้นที่ เพื่อ
ปกป้อง พล.อ.เปรม และต่อต้านมวลชนทักกี้ โดยจะถือคันธงดังกล่าวเป็นอาวุธพร้อม
สะพายกระเป๋าผ้า ที่น่าจะมีอาวุธอื่นอีก เช่น หนังสติ๊ก ระเบิดปิงปอง ฯ


อืม...อธิบายชัดเจน เสมือนหนึ่งว่า เป็นผู้จัดตั้งกองกำลังพิทักษ์ป๋าเองนะเนี้ย

Image

นพ เหวง กล่าวอ้างว่า ตนเชื่อว่าการเคลื่อนขบวนครั้งนี้จะถูกโจมตีด้วยหนังสติ๊กยิงกระ
สุนหัวน๊อต และอาจตามมาด้วยอาวุธอื่น ซึ่งหากมีคนได้รับบาดเจ็บล้มตาม แม้เพียง ๑
คน นายกต้องรับผิดชอบ และถือเป็นสิทธิของมวลชนทักกี้ ที่จะตอบโต้ป้องกันตัว


ส่วนประโยคนี้...เสมือนบอก สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น ลาง ๆ นะ...

เวลา ๙.๕๙ น. ทัพหน้า ขบวนสันตินำโดย นพ เหวง ตั้งขบวนริมคลองเปรมประชากร
เดินทางผ่านหน้าวัดเบญจฯ เลี้ยวซ้ายไปบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า บริเวณเวทีใหญ่
อยุ่ภายใต้การนำของนายวีระ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เป็นหน้าที่ของนายณัฐวุฒิ
ส่วนบริเวณหน้าบ้านพักสี่เสามีนายจตุพร เป็นผู้ดูแล เหล่าแกนนำประกาศเป็นระยะว่า


ต้องให้ถึงหน้าบ้านพักสี่เสา และต้องปิดบัญชีให้ได้ภายในวันเดียว

เวลา ๑๐.๐๐ น. กลุ่มมวลชนทักกี้ เริ่มเคลื่อนขบวนจากลานพระบรมรูปฯ มุ่งหน้าบ้าน
พักสี่เสา

เวลา ๑๐.๔๐ น. นายจุตพร และ นายการุณ เข้าเจรจากับ พล.ต.ต.วิชัย ผบก.น.๑
เพื่อขอให้เปิดเส้นทาง โดยผู้ชุมนุมต้องถูกตรวจค้นอาวุธก่อน เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง
ที่อาจเกิดขึ้น นายจุตพรกล่าวภายหลังเคลื่อนขบวนถึงหน้าบ้านพักสี่เสา


Image

" การชุมนุมหลังจากนี้จะปักหลักอยุ่หน้าบ้านสี่เสา บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และ
หน้าทำเนียบ โดยจะมีแกนนำสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย และจะได้ประกาศมาตรการการ
เคลื่อนไหวต่อไป ระบอบอำมาตยาธิปไตยจะอยุ่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ พล.อ.เปรม
"

นายจตุพรยืนยันว่า มวลชนทักกี้จะไม่บุกเข้าไปภายในบ้านพักสี่เสาแน่นอน

นายจักรภพ ปราศรัยว่า ถ้าการชุมนุมของมวลชนทักกี้ในคราวนี้ไม่มีผลอะไร หรือพูด
จากันไม่รู้เรื่อง เราจะยึดกรุงเทพฯ เพื่อให้รู้ว่าบ้านเมืองเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของ
คนในรั้วบ้านพักสี่เสา


ฟังแล้ว อเน็จอนาจ ในพฤติกรรม คำพูด ของบรรดาแกนนำที่ไร้สติ ขาดจิตสำนึก

เวลา ๑๑.๐๐ น. นายวีระ ขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐและองคมนตรี ยืนยันว่าจะให้เวลา ๓
วัน ปักหลักเรียกร้องจนกว่าจะได้รับชัยชนะ โดยเสนอเงื่อนไขที่จะยุติการชุมนุมไว้ว่า
นายอภิสิทธิ์และองคมนตรีที่แทรกแซงการเมืองต้องลาออกสถานเดียว


ตามมาด้วย อดีต ๑๑๑ นายอดิศร ที่ขึ้นเวทีปราศรัยว่า

" วันนี้เป็นวันตายของคนชื่อเปรม คน ๆ นี้มีศักดิ์เท่ากับตนและพ่อตน เราจะบังคับให้
พล.อ.เปรม ลาออกจากประธานองคมนตรีวันนี้
"

ตามเคย...กล่าวอ้างว่าแทรกแซงการเมือง แต่ไม่ยักกะมีหลักฐานมาโชว์ มีแต่คำพูด
จาบจ้วงสารพัด แล้วแต่จะสรรหามาอย่างขาดสติปัญญา

เวลา ๑๒.๒๐ น. ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ภายหลังคำยืนยันของนายจตุพร ว่าจะไม่บุก
เข้าไปในบริเวณบ้านพักสี่เสา ปรากฎมีกลุ่มบุคคลส่วนชุดนักเรียน นักศึกษา ประมาณ
๓๐ คน ปืนแนวแท่นปูนบริเวณรอบรั้วบ้านพัก เข้ายึดพื้นที่บริเวณป้อมตำรวจหน้าบ้านฯ
มวลชนทักกี้ด้านหลังต่างลุกฮือ พยายามประชิดแนวเข้ามา


เวลา ๑๒.๓๐ น. นายจตุพร กล่าวว่า กลุ่มมวลชนทักกี้จะตั้งเวทีปราศรัยที่หน้าบ้านสี่เสา
และจะไม่ยอมเจรจากับเจ้าหน้าที่อีกต่อไป เพราะ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เคยนำสเปรย์พริก
ไทยเข้ามาสลายมวลชนในบริเวณนี้มาแล้ว


เมื่อ ๑๐.๔๐ ยืนยันว่าจะไม่บุกรุกเข้าบริเวณบ้านพักสี่เสา
ต่อมา ๑๒.๒๐ มีการบุกรุกเข้าไปโดยกล่มบุคคลที่สวมใส่ชุดนักเรียน นักศึกษา
และ ๑๒.๓๐ กล่าวว่า จะไม่เจรจากับเจ้าหน้าที่อีกต่อไป

คำกล่าวไร้ราคา ของผู้ที่สวมหมวก แกนนำ สมาชิกพรรค และ ผู้ทรงเกียรติให้ชุดสูท
แล้วชาวรากหญ้าในสายตาของแม้ว ยังจะมัวเชื่อถือในคำพูดไร้ราคา อยู่อีกหรือ
ยังไม่พ้น ๓ ชั่วโมง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เคยได้ยินแต่ ๓ ปี นารีเป็นอื่น แต่นี่...

Image

เวลา ๑๔.๐๐ น. นางเยาวภา, นส ชินณิชา และ นส ยิ่งลักษณ์ เดินทางมาให้กำลังใจ
กลุ่มมวลชนทักกี้ ภายใต้กระแสข่าว บรรดาเครือญาติล้วนเดินทางออกนอกประเทศ
โดยให้สัมภาษณ์ว่า


Image

" มาให้กำลังใจกลุ่มมวลชนและมาด้วยหัวใจเป็นประชาธิปไตย เชื่อว่ากลุ่มมวลชนทักกี้
เป็นคนใจอะไรง่าย รักความสงบ ยุติธรรม
"

" มาเพื่อรักษาสิทธิเสรีภาพของระบอบประชาธิปไตย ที่ต้องการทำให้บ้านเมืองเป็นประ
ชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่จอมปลอม
"

เวลา ๑๔.๓๐ น. นายอริสมันต์ ขี้นเวทีปราศรัยบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งเนื้อหา
ส่วนใหญ่ยังคงกล่าวโจมตีพล.อ.เปรมและบุคคลที่ถูกพาดพิงว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์
๑๙ กันยายน ๔๙ พร้อมปลุกระดมให้กลุ่มมวลชนทักกี้ไปปิดสื่อทีวีเอเอส


ติดตามมาด้วยการปราศรัยจาก นายสุนัย สส สัดส่วนพรรค

" ขณะนี้มีคนบางกลุ่มจะปราบปรามมวลชนทักกี้ด้วยวิธีซับซ้อน โดยเฉพาะข่าวการลอบ
สังหารองคมนตรี ซึ่งตนจะใช้เวทีในสภาทวงถาม เพราะการออกข่าวลอบฆ่าเช่นนี้ เป็น
แผนซ้อนแผน เพื่อป้องปราบประชาชน โดยเฉพาะมวลชนทักกี้ และ หากนายชาญชัย
ตายจริงก็จะมีการป้ายสีเรื่องนี้ไปยังกลุ่มมวลชนทักกี้ทันที
"

ก็ว่ากันไป...ว่ากันเป็นฉาก ๆ ว่าป้ายสีสารพัดเรื่อง แล้วคำกล่าวอ้างต่าง ๆ นั่นเล่าท่าน
สิ่งที่พวกท่านกล่าวหา ล้วนมาจากการกระทำของพวกท่าน เฉกเช่นเดียวกับที่พวกท่าน
อ้างว่า พวกท่านล้วนโดนป้ายสี ใช่หรือไม่

เวลา ๑๕.๒๐ น. นายณัฐวุฒิ ปราศรัยกล่าวอ้างว่า ผู้ชุมนุมบางส่วนถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดี
ใช้หนังสติ๊กยิงกระสุนหัวน็อตเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมย่านบางลำพูได้รับบาดเจ็บหลายราย


สอดคล้องกับคำกล่าวของ นพ เหวง เมื่อช่วง ๙.๐๐ น. (แสดงไว้ข้างต้น) ที่ว่า

" เชื่อว่าการเคลื่อนขบวนครั้งนี้จะถูกโจมตีด้วยหนังสติ๊กยิงกระสุนหัวน๊อต และอาจตาม
มาด้วยอาวุธอื่น ซึ่งหากมีคนได้รับบาดเจ็บล้มตาม แม้เพียง ๑ คน นายกต้องรับผิดชอบ
และถือเป็นสิทธิของมวลชนทักกี้ ที่จะตอบโต้ป้องกันตัว
"

ช่างบังเอิญเกินไปหรือเปล่าหนอ....

เวลา ๑๖.๐๐ น. นายวีระ นายจักรภพ นายณัฐวุฒิ และนายจตุพร ขึ้นเวทีหน้าทำเนียบ
อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ ๑ โดยมีเนื้อหาโจมตีรัฐและองคมนตรีเช่นเดิม พร้อมเสนอข้อ
เรียกร้อง ๓ ข้อ โดยให้เวลา ๒๔ ชั่วโมงในการดำเนินการตามข้อเรียกร้อง


Image

๑) พล.อ.เปรม, พล.อ.สุรยุทธ์ และนายชาญชัย ต้องพิจารณาตนเองลาออกจากตำ
แหน่งองคมนตรี เพื่อความบริสุทธิ์ของสถาบัน

๒) นายอภิสิทธิ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งนายก โดยข้อเรียกร้องทั้ง ๒ ข้อนี้ต้องเกิดขึ้น
โดยไม่มีเงื่อนไข

๓) การบริหารงานราชการให้ดำเนินต่อไปตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์
เป็นประมุข หากมีการปรับปรุงใดๆ ให้ดีขึ้นตามหลักสากล
ต้องหารือกับนักประชาธิปไตย
ที่มีประวัติและพฤติกรรมที่เชิดชูระบอบประชาธิปไตยเป็นที่ประจักษ์


อันข้อที่ ๓ นี้ บรรดาแกนนำก็ไม่ได้ระบุว่า ใครกันหนอคือ นักประชาธิปไตยของเขา
เรา ๆ ท่าน ๆ พอจะมีคำตอบหรือไม่ หวังว่า คงไม่ใช่ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร หรอกนะ

เวลา ๑๙.๓๐ น. บนเวทีหน้าทำเนียบ สส พรรค, อดีต สส พอปอชอ และ อดีต รมต
มาร่วมการชุมนุม โดยขึ้นนั่งเปิดตัวร่วมกันบนเวที อาทิ นายสมพงษ์ นายวิทยา นายปรีชา
นายเผดิมชัย และที่ขาดไม่ได้ หมวดเจี๊ยบ


เวลา ๒๐.๒๐ น. เวลาที่ทุกคนรอดอยก็มาถึง ทักกี้ปราศรัยผ่านระบบวิดีโอลิงก์ พร้อม
ถ่ายทอดไปยังเวทีปราศรัยตามจุดต่าง ๆ
เนื้อหาโดยสรุป แสดงความยินดีกับคนไทย
ทั้งประเทศที่รวมตัวกันอยากได้ประชาธิปไตยที่แท้จริง มากันเยอะเหลือเกิน ชื่นใจมาก
จะได้กลับบ้านหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เรื่องสำคัญคือ ประชาชนจะได้ประชาธิปไตย
เต็มมือ เราจะไม่กลับไปมือเปล่า แต่จะกลับไปพร้อมประชาธิปไตย เราขอมีประชาธิป
ไตยของแท้ ไม่ใช่ประชาธิปไตยหลอก ๆ


Image

ทักกี้กล่าวว่า " ตอนนี้ตนฝันว่าประชาธิปไตยเป็นของประชาชนแล้ว มีความเสมอภาค
มีเสรีภาพ มีความยุติธรรม ดูแลกันได้ทุกภาคส่วน ไม่มีคนจนในแผ่นดินไทย และขอ
ให้พี่น้องอดทนอีก ๓ วันเพราะตอนนี้เขากะจะปล่อยให้เราแห้งตาย ดังนั้นพี่น้องกทม.
ต้องมาช่วยกันเติมเต็ม เติมพลัง ให้ลูกหลานมาอยู่ที่นี่ ดีกว่าเรียนจบแล้วไม่มีงานทำ

สื่อและนักวิชาการบางส่วนบอกว่าพี่น้องถูกหลอกมาช่วยตน จริง ๆ แล้วตนไม่แคร์ จะ
ได้กลับหรือไม่ได้กลับบ้าน เรื่องเล็ก แต่ประเทศไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นเรื่อง
ใหญ่กว่า
"

Image

"ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม ที่ผ่านมาอโหสิ กรรมให้ทุกฝ่าย ใครทำอะไรกับผมก็ถือเป็นเวร
กรรมที่ติดกันมา ขออโหสิกรรมให้ เชื่อว่าบุญกรรมจะทำหน้าที่ของมันเอง ไม่ว่าจะเป็น
ของใครก็ตาม
แต่ขอให้คนไทยที่มาที่นี่ช่วยกันสร้างประวัติศาสตร์ อย่ากลับไปมือเปล่า
เราต้องเอาประชาธิปไตยกลับไปลูบๆ คลำๆ พอแล้วประชาธิปไตยวับๆ แวบๆ ที่มีอีแอบ
เปิดเข้าเปิดออก ดังนั้น ไม่ว่าประชาชนที่อยู่ที่ไหนขอให้ช่วยเติมพลังให้ถนนราชดำเนิน
ทั้งพลังคน พลังเสบียง พลังใจเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง และวันที่ ๙ เม.ย.นี้
ถ้าประชาชนไม่หนี ผมจะหนีได้อย่างไร จะมาพบกับพี่น้องอีก
"

ถูกต้อง บุญกรรมจะทำหน้าที่ของมันเอง ใครโกงกินประเทศ ใครไม่จงรักภักดี ใครพูด
โกหก ใครสร้างความปั่นป่วนให้ประเทศ ใครเป็นคนก่อให้เกิดความแตกแยกของคนใน
ประเทศ ใครสร้างสถานการณ์ เผาบ้านเผาเมือง สักวัน กฎแห่งกรรมจะทำหน้าที่....
Last edited by bird on Sun Jan 10, 2010 1:23 pm, edited 2 times in total.
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Sat Jan 09, 2010 5:44 pm

ข้อมุลที่นำเสนอข้างต้น ยาวไปนิดนะค่ะ แล้วจะเข้ามาจัดวรรคตอนให้อีกครั้ง
เพื่อความสะดวกของทุกท่านค่ะ... :mrgreen:

overtherainbow wrote:มาอ่านนิทานตอนบ่าย
อยากให้นิทานจบแบบว่าธรณีสูบนักธุรกิจหน้าใส จัง :mrgreen:


นิทานเรื่องนี้ อ่านจบแล้ว...นอน :mrgreen:

แดง ขาว น้ำเงิน wrote:ไอ้คุณแม้วเสร็จแน่ๆ เจอ 2 ประสาน พลังเทอร์โบ อิอิ :mrgreen:

อืม..จะตามล้างจนกว่า ตระกูลนี้จะหายไปจากโลก... :mrgreen:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby overtherainbow » Tue Jan 12, 2010 12:16 pm

ตอนนี้เงียบๆหรือเตรียมย้ายด่วน
ก่อนจะมีการเซ็นสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนพรุ่งนี้
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby dahlia » Tue Jan 12, 2010 1:28 pm

Image

สาวเบิร์ดครับ คุณรู้มั๊ย นี่เป็นภาพที่ทุเรศและบาดตาบาดใจผมที่สุด เท่าที่ผมตอนนั้นเห็น นี่แหละจึงเป็นเหตุที่ผมอภัยให้ไม่ได้
ผมเป็นแฟนคลับ แคนไท , ริดกุน , nontee , eAT , Moon , tonythebest , -3- , amplepoor , เด็กปากดี
User avatar
dahlia
 
Posts: 1375
Joined: Mon Oct 12, 2009 2:35 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby paper punch » Tue Jan 12, 2010 1:47 pm

Image

เอานมมาฝากคุณเบิร์ดครับ

ยังตามอ่านอยู่เหมือนเดิมเน้อ..
เคารพและศรัทธาคุณ ชวน หลีกภัย

ราตรีสวัสดิ์(official version)
http://www.youtube.com/watch?v=JFCooDPQ ... re=related
User avatar
paper punch
 
Posts: 922
Joined: Mon Oct 13, 2008 9:16 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Tue Jan 12, 2010 3:36 pm

สงกรานต์ เผาบ้าน เผาเมือง

หัวข้อสุดท้ายอันเกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ เมษายน ๒๕๕๒ “ สงกรานต์วิปโยค " หรือ
" สงกรานต์เลือด “ อันเป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลางเมือง ระหว่าง
ประชาชนคนไทยด้วยกันเอง ซึ่งพอจะลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ช่วงปลายมีนาคม ถึงกลาง
เมษายน ๒๕๕๒ ได้คร่าว ๆ

Image

เริ่มจากการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๒ เพื่อปิดล้อมทำเนียบ จากนั้นได้
ขยายวงเพื่อปิดล้อมบ้านพักสี่เสาฯ ในวันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๒ ติดตามด้วยเหตุการณ์
มวลชนบุกสถานที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนบวก ๓ บวก ๖ ณ รอยับ คลิฟฯ รีสอร์ท
ในเช้าวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๒ ภายใต้การนำของนายอริสมันต์

จนทำให้รัฐบาลต้องประการเลือนการประชุมออกไป พร้อมประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินใน
พื้นที่พัทยา เพื่อควบคุมดูแลการเดินทางกลับของผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ให้เป็น
ไปด้วยความเรียบร้อย และในอีก ๖ ชั่วโมงต่อมาได้ยกเลิก พรก.ฉบับดังกล่าว

Image
Image

ภาพการบุกรุกสถานที่ประชุม ที่แพร่ภาพไปทั่วโลก เป็นเสมือนการประจานภาพลักษณ์
ของประเทศในด้านลบ ที่ยากจะฟื้นความเชื่อมั่นของต่างประเทศได้ในระยะเวลาอันใกล้

อันมีสาเหตุมาจากการกระทำของมวลชนกลุ่มหนึ่ง ภายใต้การโฟนอินปลุกระดมมวลชน
ของ คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ที่ระดมโฟนอินผ่านระบบวีดีโอลิงก์เข้ามายังกลุ่มมวลชนอย่างต่อ
เนื่อง หากถามหาความรับผิดชอบ แน่นอน
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร คงจะโยนบาปครั้งนี้ให้กับมวลชน

ภายใต้คำกล่าวอ้างที่ว่า กลุ่มมวลชนเคลื่อนไหวเพื่อต้องการเรียกร้องประชาธิปไตยที่
แท้จริง ซึ่งเป็นแต่เพียงนามธรรม อันเป็นคำกล่าวอ้างที่คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ใช้ในการปลุก
ระดม ยั่วยุ ร่วมกับการบอกเล่าสถานการณ์เท็จ ที่กล่าวอ้างว่าตนเป็นเหยี่อ แล้วแต่ว่าจะ
สรรหาอะไรมาพูด มาบอกเล่า แต่ หาความเป็นจริงในคำพูดเหล่านั้นไม่ได้เลย


Image
Image

ช่วงเช้าของวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๒ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม อริสมันต์ แกนนำมวลชนบุก
รอยัล คลิฟฯ ที่บ้านพักย่านผั่งธนบุรี ในข้อหาปลุกระดมขับไล่นายก ขณะเดียวกันกลุ่ม
มวลชนทักกี้ประกาศเพิ่มระดับการชุมนุม เพื่อขับไล่รัฐบาลต่อไป

ช่วงบ่ายของวันที่ ๑๒ เมษายน นายกออกแถลงการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย พร้อมกับ
ประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉินครอบคลุมพื้นที่รวม ๕๐ เขต ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และ
บางพื้นที่ใน จ.อยุธยา ภายหลังจบการแถลงการณ์ สื่อทีวีทั้งในและต่างประเทศที่ถ่าย
ทอดสดการแถลงการณ์ในขณะนั้น ต่างแพร่ภาพเหตุการณ์กลุ่มมวลชนทักกี้ฝ่าแนวกั้น
ของเจ้าหน้าที่ไล่ทุบรถ ซึ่งทราบต่อมาว่าเป็นรถนายก และรถรองฯ นิพนธ์


Image
Image
Image

ภาพความโกลาหลภายในพื้นที่กระทรวงมหาดไทย เป็นการแพร่ภาพสดที่แสดงให้เห็น
ถึงพฤติกรรมการชุมนุมของ กลุ่มมวลชนทักกี้ ที่กล่าวอ้างมาโดยตลอดว่า เป็นการชุม
นุมด้วยสันตื ปราศจากอาวุธและความรุนแรง แต่ภาพที่ถ่ายทอดไปทั่วโลกนั้น ขัดแย้ง
กับคำกล่าวอ้างโดยสิ้นเชิง


ถึงแม้ในเวลาต่อมา จะมีคำประกาศจากแกนนำว่าเป็นการจัดฉากของฝ่ายรัฐบาลก็ตาม
แต่คงไม่สามารถปัดความรับผิดชอบครั้งไปได้ ปรารกฎการณ์ครั้งนี้ กลับกลายเป็น


ปรากฎการณ์แดงเทียม

ซึ่งคนที่คุณก็รู้ว่าใคร และ แกนนำมวลชนทักกี้ ใช้ในการปฏิเสธความรับผิดชอบต่อเหตุ
การณ์อีกครั้ง

Image

ในช่วงเย็นวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๕๒ กลุ่มมวลชนทักกี้ ใช้มอร์เตอร์ไซค์จำนวนหลาย
ร้อยคัน แท็กซี่ และรถยนต์ส่วนบุคคลของกลุ่มผู้ชุมนุม ปิดเส้นทางบริเวณสี่แยกหลาน
หลวงทั้งหมด และขยายวงกว้างถึงแยกเทวกรรม โดยนำรถปรับอากาศสาย ๕๑๑ จอด
ขวางทางแยก โดยมีการ์ดถือไม้ หลายสิบคนเผ้าระวัง โดยอ้างว่า

เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่เข้าสลายการชุมนุม

วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๒

สื่อทีวีหลายช่องต่างแพร่ภาพการเข้าสลายการชุมนุมบริเวณถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า ซึ่งมี
มวลชนทักกี้ปักหลักชุมนุมบริเวณใต้ทางด่วนประมาณ ๑,๐๐๐ คน กลุ่มผู้ชุมนุมถอยร่น
มาถึงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ในขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มทำการเผายางรถยนต์และ
พยายามขับรถประจำทางพุ่งเข้าชนเจ้าหน้าที่ทหาร

Image


ทำให้ทหารต้องยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขู่ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังฮือเข้ามาปะทะ จนต้องยิงแก็สน้ำ
ตาเข้าสะกัด ผู้ชุมนุมทยอยถอยร่นไปรวมตัวกันที่ อนุสาวรีย์ชัยฯ สถานการณ์บิรเวณ
ถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า กลับสู่ภาวะปกติ เจ้าหน้าที่สามารถตรึงกำลังตั้งแต่สามเหลี่ยมดิน
แดงถึงโรงพยาบาลทหารผ่านศึกในเวลาประมาณ ๐๕.๓๐ น.

เวลาประมาณ ๐๖.๔๐ น. มวลชนทักกี้นำรถบรรทุกแก็ส มาจอดขวางกลางถนนดินแดง
ผั่งขาเข้า ตรงข้ามโรงเรียนพิบูลย์ประชาสรรค์ พร้อมเปิดวาวล์ ด้วยคำกล่าวอ้างที่ว่า


เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ทหารเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม

Image
Image
Image

จนเป็นเหตุให้ผู้ที่อาศัยอยู่บริเวณแฟลตดินแดง รวมตัวกันเจรจากับกลุ่มผุ้ชมุนุมเพื่อให้
เคลื่อนย้ายรถแก็ส แต่ไม่เป็นผล จนเกิดการปะทะกันระหว่างผู้ที่อยู่อาศัยเพื่อปกป้อง
ที่พักอาศัยของตนเอง


กับกลุ่มมวลชนที่ก่อเหตุ เพื่อเป้าหมายเพียงเพื่อคนที่คุณก็รู้ว่าใคร

ในขณะที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มวลชนทักกี้ยึดรถประจำทาง เผายางรถยนต์ และ
ปาระเบิดเพลิงใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ภายหลังสามารถผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้
ออกไปได้ กลุ่มผุ้ชุมนุมทำการปิดการจราจรบริเวณแยกอุรุพงษ์ ถนนศรีอยุธยา และยัง
คงปฎิบัติการความรุนแรง ไม่ว่าจะทุบกระจกห้างร้าน ทำลายทรัพย์สินสาธารณ อีกทั้งมี
ความพยายามเผาธนาคารกรุงเทพ สาขาอุรุพงษ์

Image
Image

กลุ่มผุ้ชุมนุมบริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ยังพยามยามจะเผามัสยิดของชาวมุสลิมภายใน
ซอยเพชรบุรี ๕ จนเกิดการปะทะกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในย่านดังกล่าว และในบริเวณ
ชุมนุมนางเลิ้งก็เช่นเดียวกัน ที่รวมตัวกันขึ้นต่อต้านการกระทำของกลุ่มมวลชนทักกี้ จน
เกิดการปะทะกัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย อันเกิด การกระสุนปืนปริศนา


Image
Image
Image

สถานการณ์ช่วงเปราะบางของวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๕๒ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงของความสนุก
สนานในเทศกาลสงกรานต์ ช่วงที่น่าจะเต็มไปด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นของวันครอบครัว
หากแต่ในปี ๒๕๕๒ กลับกลายเป็นบรรยากาศที่น่าเศร้าสลด ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ

สถานการณ์ตึงเครียดในหลายพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการแปรสภาพเป็นสงครามกลางเมือง คน
ไทยหยิบอาวุธหันหน้าเข้าประหัตประหารกัน แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกัน

Image

กลุ่มหนึ่งเพียงเพื่อปกป้องรักษาที่พักอาศัยและชุมนุมของตนเองให้ปลอดภัย

กลุ่มหนึ่งปฎิบัติการภายใต้เป้าหมายเพื่อบุคคลเพียงคนเดียว ที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด
จำคุก ๒ ปี หนีโทษอาญา และเต็มไปด้วยความเคียดแค้น เฝ้าวุ่นเวียนอยู่รอบ ๆ แผ่นดิน
ที่ตนเองไม่กล้าเหยียบย่างเข้ามา
ด้วยคำกล่าวอ้างว่า

ไม่มีความยุติธรรม โดนกลั่นแกล้ง และอีกหลาย ๆ เหตุผลที่อ้างประโยชน์เข้าข้างตนเอง

ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด หลายฝ่ายออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายมีสติ และ
ยุติการใช้ความรุนแรง ให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติในกรอบของกฎหมาย สส พรรคใหญ่ นำโดย วิป
ฝ่ายค้าน นายวิทยา ขอเปิดประชุมร่วม เพื่อพิจารณาปัญาความขัดแย้ง

Image
Image
Image

แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นการประชุมที่นำภาพสถานการณ์เท็จของ สส พรรคใหญ่มีกล่าว
โจมตี อ้างอิงกันอย่างไร้สติ โดยไม่มีการตรวจสอบที่มาของภาพเหตุการณ์ที่นำมาอ้างอิง
ในสถานที่อันทรงเกียรติ ล้วนแสดงวุฒิภาวะที่ไม่น่าเชื่อว่า


ท่านเป็นผู้ทรงเกียรติที่ได้รับเลือกจากประชาชนจำนวนมากให้เข้ามาทำหน้าที่แทน

Image
Image

ช่วงเช้าของวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ ผู้ชุมนุมบริเวณรอบทำเนียบเริ่มทยอยเดินทางกลับ
แกนนำนายจตุพร ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยเพียงสั้น ๆ แล้วหายตัวไป พร้อมๆ กับ นายจักรภพ
ที่หายไปจวบจนปัจจุบัน


พฤติกรรมดังกล่าว เผยธาตุแท้ของแกนนำบางคน ที่รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี โดยไม่สน
ใจว่า กลุ่มมวลชนที่ตัวเองชักชวนมานั้นจะพบกับชะตากรรมเช่นไร


คงเหลืออยู่แต่นายวีระ ที่ประกาศยุติการชุมนุมในเวลา ๑๐.๓๐ น. ของวันที่ ๑๔ เมษายน
๒๕๕๒ ภายใต้คำกล่าวอ้างที่ว่า

มีผู้ไม่ประสงค์ดี แอบแฝงเข้ามาในกลุ่มมวลชนทักกี้ ทำให้ไม่ปลอดภัย และ กลุ่มมวล
ชนทักกี้ขาดสื่อ ที่จะใช้ในการสื่อสารความคิดออกไปทางสังคม ถือเป็นการสิ้นสุด


สงกรานต์วิปโยค

Image
Image

แต่การเคลื่อนไหวของแกนนำและกลุ่มมวลชนทักกี้ หาได้ยุติตามไม่ ยังคงปฎิบัติการ
ป่วนบ้านป่วนเมืองอยู่

เสมือนเป็นตัวมอดที่คอยกัดกิน บ่อนทำลาย ประเทศอยู่ตลอดเวลา

Image
Image

ย้อนรอยเหตุการณ์ เผาบ้าน เผาเมือง คงต้องยุติลงไว้ ณ จุดนี้ ภาพเหตุการณ์จริงหลาย
ท่านคงสดับรับรู้ด้วยตัวท่านเอง ต้นสายปลายเหตุ ของสถานการณ์ดังกล่าว เป็นมาอย่าง
ไร หลายท่านคงทราบดี และอีกหลายท่านคงมีโอกาสบันทึก เนื่อข่าว รูปภาพ คลิปวีดีโอ
ไว้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ หรือ เพื่อการศึกษาวิเคราะห์

หวังว่าในสักวัน เนื้อข่าว ภาพเหตุการณ์ รวมไปถึงคลิปวิดีโอ ที่ทุกท่านจัดเก็บไว้ คงได้
นำมาออกมา รวบรวมไว้ เพื่อบันทึกเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย ว่า


ครั้งหนึ่ง มีขบวนการโกงกินชาติบ้านเมือง ที่พร้อมทำทุกอย่าง เพื่อให้บ้านเมืองพินาศ

หรือ เพื่อหักล้างประวัติศาสตร์ที่อาจจะมีบางกลุ่มเขียนขึ้น เพื่อปกปิดความผิดของผู้นำ
ฝ่ายตน โดยพยายามสร้างให้
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร จากทรราช ผู้โกงกิน กลายเป็น วีรบุรุษ
ผู้กล้าที่ต่อสู้กับเหล่าอำมาตย์เพื่อประชาธิปไตยฉบับแม้ว


หวังว่าในสักวันหนึ่ง ประวัติศาสตร์บทนี้ จะได้ถูกถ่ายทอดสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน ด้วยข้อมูล
บนพื้นฐานของความเป็นจริง.....
Last edited by bird on Tue Jan 12, 2010 9:30 pm, edited 3 times in total.
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby overtherainbow » Tue Jan 12, 2010 5:27 pm

:mrgreen:
ขอโฆษณาค่ะ
อยากได้ดีวีดี ขบวนการแดงล้มเจ้า
พิมพ์ dvd ส่งไปที่ 4678999
เบิร์ด เมื่อยมือมั้ย ช่วยสอนคุณอิทรายุทธเอารูปมาลงด้วยซีจ๊ะ คุณอิทรายุทธมีรูปอยากเอามาแชร์กัน
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Tue Jan 12, 2010 5:56 pm

คืนนี้จะจัดวรรคให้น่ะค่ะ แล้วก็ อัพรูปให้ด้วยค่ะ เพื่อความสะดวกของทุกท่านค่ะ :mrgreen:

overtherainbow wrote:ตอนนี้เงียบๆหรือเตรียมย้ายด่วน
ก่อนจะมีการเซ็นสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนพรุ่งนี้

overtherainbow wrote::mrgreen:
ขอโฆษณาค่ะ
อยากได้ดีวีดี ขบวนการแดงล้มเจ้า
พิมพ์ dvd ส่งไปที่ 4678999
เบิร์ด เมื่อยมือมั้ย ช่วยสอนคุณอิทรายุทธเอารูปมาลงด้วยซีจ๊ะ คุณอิทรายุทธมีรูปอยากเอามาแชร์กัน


ต่อรองซาอุอยู่ค่ะ แต่คงยาก.... สำหรับรูปภาพก้อ
- คลิกเลือก Img จะปรากฏ ใช่มั่ยค่ะ
- ระหว่างเครื่องหมาย ][ ให้ก๊อป http://.... มาวางค่ะ
- เสร็จแล้วลอง preview ดู เบิร์ดทำแบบนี้หล่ะ

หรือถ้าอยู่ในเครื่องก็ attachment เลยค่ะ

ท่านที่มีความสามารถรบกวน อธิบายอีกครั้งน่ะค่ะ :mrgreen:

dahlia wrote:Image

สาวเบิร์ดครับ คุณรู้มั๊ย นี่เป็นภาพที่ทุเรศและบาดตาบาดใจผมที่สุด เท่าที่ผมตอนนั้นเห็น นี่แหละจึงเป็นเหตุที่ผมอภัยให้ไม่ได้


ความรู้สึกประมาณนั้นเหมือนกันค่ะ... :mrgreen:

paper punch wrote:Image

เอานมมาฝากคุณเบิร์ดครับ

ยังตามอ่านอยู่เหมือนเดิมเน้อ..


กะลังหิวอยู่พอดีเลยค่ะ ภารกิจชุกค่ะ ช่วงนี้
ขอบคุณน่ะค่ะที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง

ตอไปก็ การถวายฎีกา ที่ไม่สมควรกระทำ ค่ะ
อดใจรอน่ะค่ะ :mrgreen:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby pooyong » Tue Jan 12, 2010 8:38 pm

นานแค่ไหน ก็จะรอ
ฮิฮิ :mrgreen:
การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน
User avatar
pooyong
 
Posts: 1496
Joined: Mon Oct 19, 2009 9:55 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby dtonNA » Wed Jan 13, 2010 5:15 am

เข้ามาดู :mrgreen:
เราต้องการคนดีมาเป็นผู้ปกครองบ้านเมืองเท่านั้น
User avatar
dtonNA
 
Posts: 1493
Joined: Fri Nov 28, 2008 1:28 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Wed Jan 13, 2010 3:32 pm

ขออนุญาติหยิบมาแปะไว้...

จบแล้ว"ทักษิณ"!

"การโฟนอิน ล่าสุด ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริเวณการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ เขายายเที่ยงเมื่อค่ำวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา

เห็นได้ชัดว่า พลังได้ถดถอยลงไปมาก ...เหมือนจะทราบดีว่าในเชิงพลังต่อรอง และพลังทุนนั้น ได้หดหายลงไปมาก ความพยายามประสานผลประโยชน์กับชนชั้นสูง แนวโน้มผลสำเร็จเหลือน้อยลงเรื่อยๆ"

หากเป็นภาวะปกติ ระดับมหาเศรษฐีของไทย เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แถมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีถึง สองสมัย "ไม่ยาก" ที่จะประสานกับชนชั้นสูง และในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาหลายครั้ง แม้ผู้นำจะถูกรัฐประหาร ก็ยังได้รับการดูแลอย่างดี ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศ หรือต่างประเทศ

กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถือเป็นความพิเศษและผิดปกติจากประวัติศาสตร์ !!!
-คิดใหญ่เกินตัว
-การไม่ยอมจำนน กับอำนาจดังเดิม
-ผลประโยชน์ โยงใยกับคนรอบข้างจำนวนมาก
-ปมยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท
- และอื่นๆ อีกมากมาย

คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้นัดฟังคำพิพากษาคดีดังกล่าวแล้ว ในวันที่ 26 ก.พ. นี้ เวลา 13.00 น.

สาระสำคัญคือการพิสูจน์เรื่องของการ "ซุกหุ้น"....ที่เมื่อสอบเชิงลึกโดยเฉพาะข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ที่ ชี้แจงในฐานะพยาน เมื่อ ดีเอสไอ และ ก.ล.ต.พบหลักฐาน ว่า บริษัทวินมาร์คและแอมเพิลริชเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน มีความสัมพันธ์กับอีกสองบริษัทที่โผล่ขึ้นมาใหม่

กองทุน ซิเนตร้าทรัสต์ และบลูไดมอนด์ !!!

ซึ่งหากตรวจสอบเชิงลึกต่อไปอีก เราอาจจะพบว่า มีอีกหลายครั้ง ที่บริษัทต่างประเทศ "ฝรั่งหัวดำ" เข้าไปพัวพันกับการลงทุนใน ปตท.ตั้งแต่การเข้าซื้อหุ้น ไอพีโอ ในราคา 35 บาท ....รวมถึงเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทชินคอร์ป ในช่วงที่ราคาร่วงไปถึง 8-9 บาท ก่อนที่ราคาจะขยับมาอย่างต่อเนื่อง และมีการขายออกในบางช่วง ...ก่อนที่จะขายล็อตใหญ่ให้ กองทุนเทมาเส็ก ในราคา 49 บาท

เพราะหากพิสูจน์ได้ว่าบริษัท "ฝรั่งหัวดำ" เกี่ยวโยงกับนักการเมืองจริง เท่ากับว่าเข้ามาซื้อหุ้นในราคาถูก เพื่อผ่องถ่ายเงินออกนอกประเทศ และได้สิทธิในการซื้อหุ้นราคาพาร์ ปตท.ในโควตาต่างชาติ โดยไม่ต้องเข้าแถวยืนรอซื้อหุ้นเช่นประชาชนทั่วไป

การแก้ไขสัญญา "มือถือ"....ผลประโยชน์ทับซ้อน ที่คลาสสิกที่สุด !!!

กรณีการแก้ไขสัญญาให้ปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้ที่บริษัท เอไอเอส จากอัตราก้าวหน้า 25% และต้องเพิ่มเป็น 30% ในอนาคต แก้ไขใหม่เป็นอัตราคงที่ 20% ตลอดอายุสัญญาสัมปทาน มีการคำนวณกันว่า รัฐสูญเสียผลประโยชน์หลักหมื่นล้านบาท ในทางกลับกันความสูญเสียของรัฐ กลับไปเพิ่มผลประโยชน์ให้กับเอกชน ในอัตราที่เท่ากัน

รวมถึง การแก้กฎหมายให้มีการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต เป็นการเอื้อบริษัทมือถือ แถมกีดกันผู้ประกอบการกิจการโทรคมนาคมรายใหม่อีกด้วย

ขณะที่อีกฝากหนึ่ง พบว่าขณะนี้ในระดับเจ้าหน้าที่ ไทยกับกัมพูชา กำลังทำงานกันอย่างหนัก ที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ กลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้มาก เมื่อท่าทีฝ่ายกัมพูชา เริ่มอ่อนลง อาจจะเป็นไปได้ว่า ประเมินแล้วสถานการณ์วันนี้ หากยังกอดคอกับอดีตนายกฯ คงจะไม่รุ่งนัก

เพราะความพยายามของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ผ่านมา....จบแล้วครับ!!!

โดย : แกะรอยการเมือง:ฆฤณ weerasak@nationgroup.com

วันที่ 13 มกราคม 2553 02:00

วีระศักดิ์ พงษ์อักษร

http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... 8%93!.html


กับข้อความบางส่วน ที่แสดงถึงการรับรู้ ข้อมูลเท็จ

พวกนี่ไม่รู้ความจริง สนามบินสุวรรณภูมิ สมัยปชป อนุมัติงบ ก่อสร้าง กว่า 7 หมื่นล้าน นายกทักษิณมาเหลือแค่ 4 หมื่นล้าน ไม่รู้ก็มีคนไปเชื่อ.....ได้เหมือนกัน คือสมรู้ร่วมคิดทำลายคนอื่น บิดเบือนข้อมูลก็เอา คนธรรมดาไม่เป็นไรแต่นี่เป็นสื่ออีก กรรมประเทศไทย


จบแล้วเนชั่น สื่อที่มีไว้รับใช้ปชป เป็นขี้ข้าอำมาตย์ หมดสิ้นจรรยาบรรณสื่อ
คอยดูกันต่อไปว่าใครจะจบ ระหว่างโจรยึดอำนาจ กับประชาชนผู้รักความเสมอภาคเท่าเทียม มาดูกัน


พวกขีข้าอำมาตย์มารุมทำร้ายคนบริษุทธิ์อย่างท่านทักษิณ ท่านจึงต้องลำบากเยี่ยงนี้ ขอให้นักรบสีแดงจงผนึกกำลังไว้ให้มั่น รอวันนายท่านกลับมา


น่าขำพวกหลักลอยไม่มีสมองคิดเองจำขี้ปาก....สื่อจอมลวงโลกหรือคนอื่น แล้วมาพืดต่อๆกันมา จับแพะชนแกะ

ซุกหุ้น โถ ..พูดเหมือนรู้เรื่องหุ้นดี ขอหัวเราะดังๆสักครั้ง กร๊ากก กรั๊กกกๆๆๆ คนมีกระตังค์จะเอาเงินกระจายการลงทุนทั้งในนอกประเทศเพื่อลดความเสี่ยงมันผิดตรงไหน มิทราบ หุ้นนั่นมันหุ้นใคร ขโมยมาหรือเปล่าหุ้นเขาเอง

ถ้าเป็นหุ้นที่ขโมยมาเอาไปซุกก็ว่าไปอย่าง ที่จริงหุ้นมันซุกไม่ได้หรอกยังไงก็ต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ไม่แจ้งจะเอาอะไรมาซื้อขายล่ะ ที่กล่าวหาว่าซุกหุ้นน่ะอาจจะเป็นแค่เทคนิคการเล่นหุ้นระดับเซียน..ที่หมูในตลาดอาจตามไม่ทัน ก็แค่นั้นเอง..ถ้าจะผิดต้องเอากฎหมายระเบียบมากล่าวหาครับ

และอีกอย่างเช่นเศรษฐีสมัยก่อนมีสมบัติมาก ก็กระจายเก็บที่นู่นที่นี่ เอาไปใส่ตุ่มฝังดิน หรือสามีจำนวนมากเอาเงินไปซุกไปซ่อน ไม่ให้เมียหาเจอก็มีถมเถ ถือว่าผิดไหม ผิดกฎหมายข้อไหนมิทราบ สมบัติของคุณคุณจะเอาไปซ่อนไปซุกที่ไหนมันหนักหัวใครมิทราบ

จะกล่าวหาใครดูหลักฐานและข้อกฎหมายก่อนมาพืด..

เรื่องนี้อย่าให้เหมือนเซ็นต์ชื่อรับรองเมียซื้อที่ติดคุก2ปีที่ไม่มีที่ไหนในโลกตัดสินกันแบบนี้ ถ้าตัดสินแบบตรงไปตรงมา ใครๆเขาก็รับได้อย่างมากก็เสียภาษีเพิ่มหรือเสียค่าปรับ..

.จะว่าไปผู้ที่เสียหายตัวจริงควรจะเป็นเทมาเส
คของสิงคโปร์เพราะเอาเงินสิงคโปร์มาซื้อล้วนๆ

ศาลยังไม่ตัดสินกระบอกเสียงหลักลอยจะรอให้ศาลตัดสินก่อนก็ไม่สาย ทำตัวเป็นเกจิหรือศาลเตี้ยมามั่วตัดสินกันเองก่อนแบบนี้ ไม่น่าเกียจเหรอ

ยกตัวอย่างเช่น สมมุติ

นายวีรศักดิ์ ภรรยาและครอบครัว ร่ำรวย โชคร้ายมีคดีหุ้นแบบนี้คดีหนึ่งที่โดน ศาลของ คมช.กำลังพิจารณา จู่ๆมีสื่อที่ชื่อนายหมูนายแมวคนหนึ่ง มาละเลงอวดรู้.

.จบแล้ว.วีรศักดิ์ ลูกเมียและครอบครัว.

ตัดสินให้เสร็จสรรพ ..แบบนี้ วีรศักดิ์คิดว่าแฟร์ไหม ควรทำหรือไม่ คงหัวเราะชอบใจล่ะสิ..ยังไงถ้าคิดว่าตัวเองเป็นสื่อก็ควรมีจริยธรรมจรรยาบรรณบ้าง..ไม่ใช่พอไม่ชอบใครก็ละเลงใส่สีตีไข่ล่วงหน้า เลือกข้างตั้งตัวเป็นศาลเตี้ยทำให้คนอื่นเสียหายไปก่อน เรื่องอยู่ที่ศาล คมช. อย่าเพิ่งรีบร้อนรอดูศาลก่อนก็ไม่สาย..ฮา


แค่พี่ชายคนโต สุรยุทธหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ พวกขี้ข้าหลักลอยทั้งหลายรีบเฉไฉ เอาเรื่องหุ้นทักษิณมาเบี่ยงเบนกลบเกลื่อน พี่ชายที่บุกรุกป่าสงวนหน้าตาเฉย..นึกว่าคนอื่นจะไม่รู้ทัน..แค่กระบอกเสียงทรราชเผด็จการหลักลอย ฮา


นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น ข้อมูลที่มวลชนทักกี้รับรู้ส่วนใหญ่ เป็นข้อมูลที่ได้รับจากการโฟนอินบ้าง
จากบรรดาแกนนำบ้าง จากเว็บบอร์ดที่เสนอข้อมูลบิดเบือนบ้าง

หากสถานการณ์การรับรู้ข่าวสาร ยังเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ภายในประเทศยังคงน่าห่วง
การแก้ไขควรเริ่มต้นจากจุดใด ฝากไว้ให้ทุกท่านช่วยกันวิเคราะห์ เพื่อร่วมกันหาหนทางแก้ไข
คนละนิด คนละหน่อย...สักวัน ประเทศไทย สยามประเทศจะกลับมาเป็น

สยามเมืองยิ้ม....

สักวันต้องมาถึง แน่นอน
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby naichod » Wed Jan 13, 2010 4:31 pm

"หากสถานการณ์การรับรู้ข่าวสาร ยังเป็นเช่นนี้ สถานการณ์ภายในประเทศยังคงน่าห่วง
การแก้ไขควรเริ่มต้นจากจุดใด ฝากไว้ให้ทุกท่านช่วยกันวิเคราะห์ เพื่อร่วมกันหาหนทางแก้ไข"


ลุง มารอตอบ

เรื่องเกี่ยวกับข่าวสารนั้น

ใช้กันมานานแล้ว ในการปลุกปั่นยุยง ตั้งแต่สมัยสงครามเย็น จนปัจจุบัน ก็ยังได้ผลอยู่

ต้องเข้าใจว่า ข่าวสารของสังคมเมือง กับ ชนบท นั้น มีวิธีการเผยแพร่ แตกต่างกันออกไปมากทีเดียว

สมัยสงครามเย็น มี ยุทธวิธีหนึ่ง ที่เรียกว่า ข่าวกลั่น

หมายความว่า เมื่อมีข่าวสารข้อมูลมากมาย ที่จริงปนเท็จ จำเป็นต้อง ใช้สื่อที่มีศักยภาพในการแก้ข่าว แล้วกลั่นความจริงออกมาทั้งสองด้าน ให้ประชาชนทราบ เรียกกันสั้นๆว่า ข่าวกลั่น

(ข่าวกรอง........ใช้ในความหมายของความมั่นคง ที่เสาะข้อมูลมาได้)

อเมริกัน จะใช้สื่อต่างๆ ทำการแก้ไขข้อมูลข่าวสารที่ถูกทำให้ปนเปื้อน แล้ววิเคราะห์ถึงสิ่งที่ปนเปื้อนว่ามีวัตถุประสงค์อย่างไร ทันที ที่สังคมมีข่าวปล่อย ข่าวเท็จ ข่าวจริงปนเท็จ

และก็ยังใช้จนปัจจุบัน ในอเมริกาเองก็จะมีสื่อที่ทำหน้าที่แบบนี้อยู่ เพื่อ แก้ไข และป้องการ ประชาชนรับข้อมูลที่บิดเบือน

รัฐบาลนี้ จะทำเป็นหรือไม่? ผมคงไม่มีคำตอบให้

สมัยสงครามเย็น อเมริกันก็มีข่าวปล่อยบิดเบือนเช่นกัน ทางฝ่ายคอมฯสายรัสเซีย (สายจีนแดงไม่ค่อยได้ทำในเรื่องนี้เท่าใดนัก) จะเป็นผู้ดำเนินการ สร้างข่าวกลั่น ออกมาโต้เช่นกัน

...............สงครามข่าวสารจึงมีมานานแล้ว และรบกันด้วย ข่าวกลั่น มากกว่า ข่าวปล่อยบิดเบือน เพราะ ข่าวปล่อยบิดเบือน จะทำให้คนเชื่อในระยะสั้น แต่ข่าวกลั่น จะทำให้คนหลงตามไปในระยะยาวในบทวิเคราะห์

จึงเห็นได้ว่า ข่าวธรรมดาที่แม้จะบิดเบือนจากความจริงไปบ้างในทฎษฎี 70/30
จะไม่ทำให้การปลุกปั่นสำเร็จเท่ากับ ข่าวกลั่น ที่มีการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่อง เพราะในการวิเคราะห์จะแอบแฝงแนวคิดฝังลงไปให้ผู้อ่านค่อยๆเดินตามไปทีละน้อย

ผู้ที่หลงไปกับข่าวกลั่นของแต่ละฝ่ายจะจมลึกไปเรื่อยๆ จนเกิดภาวะแตกหักทางความคิด


และนั่นเป็นที่มาของ ภัยพิบัติยุคใหม่ที่ ประเทศเรากำลังเผชิญนั่นเอง

ข่าวสารชนบท คอมเก่าฯจะเรียกว่า หนังสือพิมพ์เดินเท้า
กล่าวคือ การพูดคุย ในสังคมชนบท ณ สถานที่สาธารณะเช่นร้านกาแฟ งานบวช งานศพ

แต่ หนังสือพิมพ์เดินเท้าของฝ่ายอเมริกัน ไม่มี และบางพื้นที่เช่นเวียตนาม อาจมีแต่น้อยกว่ามาก
ฝ่ายอเมริกัน พยายามใช้ หมอสอนศาสนา หรือพวก ครูที่เข้าไปสอนเด็กๆตามหมู่บ้าน แทน ซึ่งได้ผลน้อยกว่าในสงครามแย่งชิงมวลชน

จนเปลี่ยนวิธีการมาเป็น เสียงตามสาย เช่น วอยซ์ออฟอเมริกา และได้ผลดี
พวกคอมฯ ก็เอาบ้าง เช่นกัน


สงครามข่าวสารเชิงนี้ จะผลัดกัีนรุกไล่เสมอมา ขึ้นอยู่กับใครพลิกแพลงได้มากกว่ากัน

ตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทย เสียเปรียบเรื่องคะแนนเสียงต่อ พรรคคู่แข่งในแถบอีสาน ก็เลยเปลี่ยนกลยุทธ นำเอาเรื่องเทอดทูนสถาบัน มานำหน้าในการแพร่ข่าวสารของตน เพราะรู้ว่าคนไทยส่วนใหญ่มีความจงรักภักดี พรรคภูมิใจไทยจึงมีคะแนนเสียงตีตื้นมาได้

เรื่องสงครามข่าวสารในเชิงปฏฺิบัติการแย่งมวลชนนั้น มีเทคนิคและรายละเอียดมากมายที่สู้กัน

รัฐบาลเองจะต้องงัดสิ่งเหล่านี้ออกมาดูและทำอย่างจริงจัง จึงจะสามารถทำให้ประเทศสงบสุขได้
หากมองข้ามไป............สงครามนี้จะยืดเยื้อไปจนลูกหลานจากข่าวกลั่นที่ฝังหัวประชาชนข้างเดียวของฝ่ายไม่หวังดีต่อบ้านเมือง
Nul plus que nous. À moins que nous sommes à genoux à la sienne.
No one higher than us. Unless we kneel to his own.
User avatar
naichod
 
Posts: 2327
Joined: Mon Mar 30, 2009 7:43 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Thu Jan 14, 2010 1:10 pm

pooyong wrote:นานแค่ไหน ก็จะรอ
ฮิฮิ :mrgreen:


ขอบคุณคร๊าบที่ยังปักหลักรอ... 8-)

dtonNA wrote:เข้ามาดู :mrgreen:


ก้อ..ขอบคุณที่แวะมาดูเจ้าค่ะ.. :mrgreen:

naichod wrote:ลุง มารอตอบ
เรื่องเกี่ยวกับข่าวสารนั้น

ใช้กันมานานแล้ว ในการปลุกปั่นยุยง ตั้งแต่สมัยสงครามเย็น จนปัจจุบัน ก็ยังได้ผลอยู่........

..............รัฐบาลเองจะต้องงัดสิ่งเหล่านี้ออกมาดูและทำอย่างจริงจัง จึงจะสามารถทำให้
ประเทศสงบสุขได้

หากมองข้ามไป............สงครามนี้จะยืดเยื้อไปจนลูกหลานจากข่าวกลั่นที่ฝังหัวประชาชนข้างเดียวของฝ่ายไม่หวังดีต่อบ้านเมือง


ขอบพระคุณลุงชด มากน่ะค่ะ สำหรับคำตอบที่แฝงไว้ด้วยข้อคิดดี ๆ
เบิร์ด คาดหวังว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คงจะได้รับรู้ข้อความของคุณลุงผ่านกระทู้นี้บางไม่มากก็น้อย
พร้อมทั้งคาดหวังว่า ท่านเหล่านั้น คงจะนำไปคบคิดและวิเคราะห์เพื่อประโยชน์ในเชิงปฏิบัติ
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby naichod » Thu Jan 14, 2010 2:36 pm

แวะมาบอกคุณหนูเบิร์ดว่า เนื่องจาก แดงครั้งนี้เอาจริงมากกว่าก่อน เพราะเป็นการดิ้นของนายใหญ่ก่อนศาลตัดสิน ถึงขนาดส่งสายไปคุยลับๆแบบเงียบสนิทกับพวกทำสงครามมวลชนสายกำลังที่ยังเหลืออยู่

ลุงชดอาจตั้งกระทู้ ยุทธการเผาเมือง ในอีกเร็ววัน นี้

อยากจะบอกให้หนูเบิร์ด เช็คสายข่าวและข้อมูล ให้ดีๆเกี่ยวกับ จังหวัดสกลนคร กาฬสินธิ์ และ อุบลราชธานี มีการเตรียมกำลังติดอาวุธ แล้ว และฝึกซ้อมอยู่ด้วย

เรื่องนี้สำคัญมากถึงขนาด ท่านนายกฯต้องไปขอคำปรึกษาจากผู้ใหญ่ทีเดียว

แต่เว็บเรากำลังเพลิดเพลินอยู่กับเรื่องอื่นๆ :|
Nul plus que nous. À moins que nous sommes à genoux à la sienne.
No one higher than us. Unless we kneel to his own.
User avatar
naichod
 
Posts: 2327
Joined: Mon Mar 30, 2009 7:43 am

PreviousNext

Return to ห้องสมุด



cron