เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

คลังปัญญา กระทู้ปักหมุดเดิม เรื่องสำคัญจัดเก็บที่นี่

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby อธิฏฐาน » Fri Sep 25, 2009 8:51 am

ตีตนเสมอเจ้า

Image
User avatar
อธิฏฐาน
 
Posts: 3001
Joined: Mon Oct 13, 2008 1:18 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Fri Sep 25, 2009 4:00 pm

อยากเปลี่ยนแม้กระทั่งเวลา

พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
ขึ้นอยู่กับแรงดึงดูด และวงโคจรของโลก ดวงอาทิตย์และระบบสุรยจักรวาล
และเป็นแบบนี้มานานนับหมื่น ๆ ปี โดยไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนแปลง
เส้นทางโคจรของโลก และดวงอาทิตย์ เป็นตัวกำหนดเวลาที่สากลยอมรับ
โดยมีเวลาที่เมือง กรีนิซ ประเทศอังกฤษเป็นเวลามาตรฐานโลก

การใช้เวลามาตรฐานของแต่ละประเทศ โดยเทียบกับเวลามาตรฐานโลกนั้น
ใช้กฎเกณฑ์พื้นฐานที่ได้จากการประชุมนานาชาติ ณ กรุงวอชิงตัน ดี ซี
เมื่อ 1 พฤศจิกายน 2427 โดยมี 25 ประเทศเข้าร่วมประชุม ที่ประชุมได้มี
ข้อตกลงให้แบ่งโลกตามแนวเส้นแวงออกเป็น 24 โซนเท่าๆ กัน แต่ละโซนมีค่า
15 องศา ทั้งในทางทิศตะวันตกและตะวันออก และมีค่าเท่ากับ 1 ชั่วโมงห่างจาก
โซนที่ติดกัน เส้น 0 องศาจะผ่านที่เมืองกรีนิช ประเทศอังกฤษ โดยมีเส้นแบ่งวัน
อยู่ที่ 180 องศา ทั้งนี้ประเทศต่าง ๆ ได้รับเอาแนวคิดนี้โดยใช้เส้นแวงที่แบ่งประเทศ
ออกเป็นสองส่วนเป็นตัวกำหนดเวลาว่าเวลามาตรฐานประจำถิ่น เร็วกว่า ช้ากว่าเวลา
มาตรฐานโลกที่เมืองกรีนิช เท่าไร แต่การกำหนดเวลาท้องถิ่นจะเปลี่ยนแปลงไป
ตามสภาพของประเทศต่าง ๆ ทั้งนี้สิทธิการกำหนดเวลามาตรฐานประจำถิ่นยังเป้น
ของประเทศนั้น ๆ อยู่

สำหรับประเทศไทยได้มีการประกาศใช้เวลามาตรฐานที่ลองติจูด 105 องศาตะวันออก
ในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2463 ซึ่งมีเวลามาตรฐานเร็วกว่าที่กรีนิช 7
ชั่วโมง เพราะประเทศไทยอยู่ห่างจากเส้นเมอริเดียนเริ่มแรก (เมืองกรีนิช) 105 องศา
ไปทางทิศตะวันออก ประเทศไทยใช้เวลาที่ประกาศใช้นี้นี้มานานหลายสิบปี
ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดคิดอยากจะไปเปลี่ยนแปลง...

พระอาทิตย์ขึ้น 6 โมงเช้า พระอาทิตย์ตก 6 โมงเย็น เวลาราชการเริ่ม 8 โมงเช้า
ราชการเลิก 4 โมงเย็น เคารพธงชาติ 8 โมงเช้า และ 6 โมงเย็นทุกวัน ทุกวัน
ไม่เคยมีใครเดือดร้อน ไม่เคยมีใครคิดจะไปยุ่งเกี่ยว ทุกคน ๆ ยอมรับกฎเกณฑ์
นี้มีตลอดตั่งแต่บรรพบุรุษ จนกระทั่งปัจจุบัน...

อยู่ ๆ แม้วก็ประกาศเจตนารมณ์ ข้าอยากจะเปลี่ยนเวลาโลก ให้พระอาทิตย์ 7 โมงเช้า
พระอาทิตย์ตกทุ่มตรง เคารพธงชาติ 7 โมงเช้า และ 5 โมงเย็น เวลาราชการเริ่ม
7 โมงเช้า ราชการเลิก 3 โมงเย็น.. ลองคิดดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น
งานเข้า 8 โมงเช้า (หรือ 7 โมงเวลาเดิม) ต้องตี่น 6 โมงเช้า ( ตี 5 เดิม)
ออกจากบ้าน 7 โมงเช้า ( 6 โมงเข้าเดิม) ฟ้ายังคงมืด อันตราย หากบ้านคุณ
อยู่ที่เปลี่ยว ซอยลึก คุณจะกล้าเดินออกมาหรือไม่..อาญชกรรมคงเพิ่มขึ้น
เป็นเท่าตัว หรือ แม้วต้องการเอาใจนักธุรกิจโดยไม่สนใจประชาชนว่าจะ
เดือดร้อนหรือไม่ เค้าเรียกว่าเห็นแค่พวกพ้องนะท่าน

แม้วขึ้นสู่อำนาจ มีโครงการสารพัดโครงการ มีแนวคิดแปลก ๆ ใหม่ ๆ
ไม่เว้นแม้กระทั่งจะเปลี่ยนเวลาที่ใช้กันมานานแสนนาน หากแม้วเปลี่ยนจริง
ประเทศคงสับสนวุ่นวาย ไม่รุ้เหมือนกันนะว่า ใช้ส่วนไหนของร่างกายคิด
นี่หรือ ความคิดของผู้นำประเทศชาติ แค่ความคิดก็ไร้สาระ ยิ่งกว่าเด็กอนุบาล
คิดได้ไง จะเปลี่ยนเวลา...

หรือหากจะมองให้ลึกซึ่ง เพราะแม้วต้องการกำหนดทุกอย่างในประเทศขึ้นไหม่
โดยมีจุดประสงค์ร้ายแอบแฝงไว้หรือไม่ แม้วต้องการลบล้างที่เคยมี เคยปฎิบัติ
จนเป็นประเพณี วัฒนธรรม ธรรมเนียมที่ดีงาม ให้หมดไปจากประเทศ เพื่ออะไร
เพื่อต้องการวางรากฐานใหม่ของประเทศหรือป่าว......วันหนึ่งคงได้รู้กัน
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby ดาตายัง » Sat Sep 26, 2009 10:54 am

THAKSIN THE SERIES : RISE OF THE EVIL :twisted:
One for all, and all for one
un pour tous, tous pour un
จากหนึ่งสู่เหล่า รวมเราเป็นหนึ่ง
User avatar
ดาตายัง
 
Posts: 171
Joined: Sat Aug 15, 2009 12:56 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby Bookmarks » Sat Sep 26, 2009 11:35 am

เปลี่ยนเพลงชาติไทย ไอสันดานแม้ว คนเค้ารู้ทันว่าเอ็ง คิดอะไรอยู่
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby ATOM » Sat Sep 26, 2009 1:40 pm

Bookmarks wrote:เปลี่ยนเพลงชาติไทย ไอสันดานแม้ว คนเค้ารู้ทันว่าเอ็ง คิดอะไรอยู่


คิดเอง เออเองเลยรึวะเนีย ถูกเป่าหู แค่นี้เชื่อเลยรึวะ

รู้ความคิดคนอื่นเลยรึเนีย ป้าด....สำเร็จอรหัน แล้วนะนี้

ปล..หวยเถื่อนงวดนี้ขอเลขเด็ดๆ อาจาน หึหึ...
User avatar
ATOM
 
Posts: 2838
Joined: Sun Aug 09, 2009 9:52 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby Bookmarks » Sat Sep 26, 2009 1:49 pm

ATOM wrote:
Bookmarks wrote:เปลี่ยนเพลงชาติไทย ไอสันดานแม้ว คนเค้ารู้ทันว่าเอ็ง คิดอะไรอยู่


คิดเอง เออเองเลยรึวะเนีย ถูกเป่าหู แค่นี้เชื่อเลยรึวะ

รู้ความคิดคนอื่นเลยรึเนีย ป้าด....สำเร็จอรหัน แล้วนะนี้

ปล..หวยเถื่อนงวดนี้ขอเลขเด็ดๆ อาจาน หึหึ...

5555 คนเค้ารู้สันดานไอแม้ว มาตั้งนานแล้ว มีแต่พวกควายแดงนั่นแหละ ที่ไม่รู้ :lol: :lol: :lol:
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Sat Sep 26, 2009 1:53 pm

ATOM wrote:
คิดเอง เออเองเลยรึวะเนีย ถูกเป่าหู แค่นี้เชื่อเลยรึวะ

รู้ความคิดคนอื่นเลยรึเนีย ป้าด....สำเร็จอรหัน แล้วนะนี้

ปล..หวยเถื่อนงวดนี้ขอเลขเด็ดๆ อาจาน หึหึ...


ใครจุดธูปเรียกไม่ทราบ....
บอกแล้วว่ากระทู้นี่ ไม่ต้องการ...เรียนเชิญกระทู้อื่น
ปัญญาชนไร้สาระ ไร้สติ ไร้สามัญสำนึก
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby ดาตายัง » Sat Sep 26, 2009 2:00 pm

bird wrote:
ATOM wrote:
คิดเอง เออเองเลยรึวะเนีย ถูกเป่าหู แค่นี้เชื่อเลยรึวะ

รู้ความคิดคนอื่นเลยรึเนีย ป้าด....สำเร็จอรหัน แล้วนะนี้

ปล..หวยเถื่อนงวดนี้ขอเลขเด็ดๆ อาจาน หึหึ...


ใครจุดธูปเรียกไม่ทราบ....
บอกแล้วว่ากระทู้นี่ ไม่ต้องการ...เรียนเชิญกระทู้อื่น
ปัญญาชนไร้สาระ ไร้สติ ไร้สามัญสำนึก


อตอมนี่ไปกระทู้อื่นว่า นายกอย่างหนา หน้าหนา
อตอมเองนี่สุดด้านยิ่งกว่ากั๊บ
:lol: :lol: :lol:
One for all, and all for one
un pour tous, tous pour un
จากหนึ่งสู่เหล่า รวมเราเป็นหนึ่ง
User avatar
ดาตายัง
 
Posts: 171
Joined: Sat Aug 15, 2009 12:56 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby จีรนุช » Sat Sep 26, 2009 2:07 pm

ไม่มีอะไรหรอก อ่านหมดทั้งกระทู้เเล้ว คนที่จบป 4 อย่างเรา ขอสอนคนจบป.เอก อย่างอะตอมเรื่องง่ายๆ สักเรื่องนะ คือคนเรามันมีทั้งดีทั้งชั่ว ถูกเลย เเต่จะบอกว่าช่างเขา ? มันดูไร้ความรับผิดชอบต่อสังคมไปนิด ทำผิดก็ต้องได้รับการลงโทษ ทำผิดกฎหมายก็เข้าคุกไป ส่วนเรื่องที่ทำดีนโยบายดี ก็ชื่นชมยกย่องกันไป เรื่องง่ายๆเเค่นี้ น่าจะเข้าใจได้ไม่ยาก หรือไม่เคยเรียน ป4. ?
User avatar
จีรนุช
 
Posts: 5689
Joined: Sun Nov 30, 2008 7:34 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby ATOM » Sat Sep 26, 2009 2:55 pm

bird wrote:
ATOM wrote:
คิดเอง เออเองเลยรึวะเนีย ถูกเป่าหู แค่นี้เชื่อเลยรึวะ

รู้ความคิดคนอื่นเลยรึเนีย ป้าด....สำเร็จอรหัน แล้วนะนี้

ปล..หวยเถื่อนงวดนี้ขอเลขเด็ดๆ อาจาน หึหึ...


ใครจุดธูปเรียกไม่ทราบ....
บอกแล้วว่ากระทู้นี่ ไม่ต้องการ...เรียนเชิญกระทู้อื่น
ปัญญาชนไร้สาระ ไร้สติ ไร้สามัญสำนึก


โทษที ครับ ลืมแสดงบัตร สอใส่เกือก หึหึ..พอดีมองเห็นผู้หยั่งรู้ความคิดผู้อื่นสำเร็จอรหัน หวยเถื่อนมันเยอะ ก็เลยต้องการเลขเด็ด จะแก้เผ็ดเจ้ามือหวยเถื่อนชะหน่อย มันดันหนุนม๊อบ พธมและพวก
User avatar
ATOM
 
Posts: 2838
Joined: Sun Aug 09, 2009 9:52 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby Bookmarks » Sat Sep 26, 2009 3:08 pm

ATOM wrote:
bird wrote:
ATOM wrote:
คิดเอง เออเองเลยรึวะเนีย ถูกเป่าหู แค่นี้เชื่อเลยรึวะ

รู้ความคิดคนอื่นเลยรึเนีย ป้าด....สำเร็จอรหัน แล้วนะนี้

ปล..หวยเถื่อนงวดนี้ขอเลขเด็ดๆ อาจาน หึหึ...


ใครจุดธูปเรียกไม่ทราบ....
บอกแล้วว่ากระทู้นี่ ไม่ต้องการ...เรียนเชิญกระทู้อื่น
ปัญญาชนไร้สาระ ไร้สติ ไร้สามัญสำนึก


โทษที ครับ ลืมแสดงบัตร สอใส่เกือก หึหึ..พอดีมองเห็นผู้หยั่งรู้ความคิดผู้อื่นสำเร็จอรหัน หวยเถื่อนมันเยอะ ก็เลยต้องการเลขเด็ด จะแก้เผ็ดเจ้ามือหวยเถื่อนชะหน่อย มันดันหนุนม๊อบ พธมและพวก

555 จำขี้ปากเค้ามาคุยอีกแล้ว บอกสิว่า คนที่เกลียดไอแม้วเป็นเจ้ามือหวยเถื่อน ค้ายาบ้า 555 ไปดูสิ คดีคนค้ายาบ้า ญาติ สส เพื่อแม้วทั้งนั้น แถม ยาบง ยาบ้า ก็มาจาก อีสาน เหนือ เยอะสุด ไอพวกที่เล่นหวย เจ้ามือหวย พวกเชื่ออะไรเป็นตุเป็นตะ ไหว้สัตว์ออกลูกมาผิดปกติ ต้นไม้แปลกประหลาด ก็มาจาก อีสาน เหนือ ทั้งนั้น
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Sat Sep 26, 2009 3:42 pm

เปลี่ยนระบบการศึกษาพาชาติล้ม

แต่ไหนแต่ไรมา ระบบการศึกษาของประเทศ สอนให้เด็ก ๆ รุ้จักการอ่านหนังสือ
โดยวิธีแยบยล ไม่ว่าจะเป็นการค้นข้อมุลเพื่อจัดทำรายงาน บังคับให้เด็ก ๆ เขียน
ลงในสมุดรายงาน การเข้าห้องสมุดค้นหาข้อมูลจากหนังสือเล่มนั้นเล่มนี้
ถือเป็นการบังคับให้เด็ก ๆ ได้อ่านและเขียนในเวลาเดียวกัน ถึงแม้เด็กจะจดจำได้ไม่ทั้งหมด
แต่ก็ยังคงเหลืออยู่บ้าง พอเป็นประโยชน์ได้บ้างเมื่อถึงเวลาสอบหรือในยามจำเป็น

ระบบการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อในสถานศึกษาของราชการ ไม่ว่าจะเป็นในระดับ
ชั้นใด ๆ ต่างก็ใช้ระบบการสอบโดยตรง โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย
ทำให้โอกาสที่จะผลิตคนดีมีความสามารถจริงๆนักวิชาการที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ
ออกสู่สังคมเพื่อทำประโยชน์ให้กับประเทศได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ
บุคคลใดมีความสามารถ มีคุณสมบัติที่ดี มีโอกาสได้รับทุนการศึกษาของประเทศ
ของพระองค์ท่านไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่และนำกลับมาประยุกต์
ใช้ให้เหมาะสมกับประเทศของเรา

ระบบการศึกษาเดิม สอนให้เด็ก ๆ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เคารพครูบาอาจารย์
เคราพผุ้หลักผู้ใหญ่ มีสัมมาคารวะ รุ้จักกาละเทศะ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักการแบ่งปัน
รู้จักอดออม สอนให้เด็ก ๆ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติ เรียนรู้ถึงวีรกรรมของ
องค์พระมหากษัตริย์ เรียนรู้การต่อสู้ของบรรพบุรุษเพื่อปกป้องรักษาพื้นแผ่นดินทองไว้
ให้ลูกหลาน เรียนรู้การหลั่งเลือดของวีรชน วีรสตรีในแต่ละยุคแต่ละสมัย

เรียนรู้ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งก่อนและหลังปี 2475
เพื่อปลูกฝังความรักชาติให้อยู่ในจิตสำนึก สามัญสำนึก ให้อยู่ในสายเลือด
สอนให้เด็ก ๆ รู้จักบุญคุณขององค์พระมหากษัตริย์ทุก ๆ พระองค์
เพื่อให้เด็ก ๆ ได้รุ้จักทดแทนบุญคุณของแผ่นดินในยามเมื่อเค้าเติบโต....
เพื่อเป็นคนไทยที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ด้วยจิตสำนึกของคนไทย...

เมื่อแม้วขึ้นสู่อำนาจ เกิดโครงการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาใหม่
สอนให้เด็ก ๆ คิดนอกกรอบ หนังสือไม่ต้องอ่าน ทุกอย่างหาได้จากคอมพิวเตอร์
หันมาใช้ระบบโอเน็ต เอเน็ต เป็นการสอบวัดผลทั่วประเทศ เพื่อที่เด็ก ๆ
ในตัวเมืองและนอกตัวเมืองได้มีโอกาสเท่าเทียมกัน เป็นระบบการสอบเพื่อสะสม
คะแนนไว้ใช้เมื่อยามต้องเข้าระดับมหาวิทยาลัย หากคะแนนไม่พอ
ไม่ถูกใจเปิดโอกาสให้สอบใหม่ได้

ผลที่ตามมาอะไรท่านรู้มั้ย พ่อแม่ผู้ปกครองต้องพาเด็ก ๆ เรียนพิเศษกันเป็นว่าเล่น
เพราะต้องสอบวัดผลประเมินทั่วประเทศ มีแม้กระทั้งลงทุนซื้อข้อสอบ
เพื่อให้ลูกหลานของตัวเองได้มีโอกาสอยู่ในอันดับต้น ๆ จะได้มีโอกาสเรียน
ในมหาวิทยาลัยที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจว่าเด็ก ๆ จะเป็นอย่างไร
แทนที่จะเป็นการเปิดโอกาสอย่างที่แม้วว่าไว้ กลายเป็นปิดโอกาสให้กับเด็ก ๆ
ที่มีฐานะไม่ดีนัก พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ ทำงานหลังสู่ฟ้าหน้าสู่ดิน ก้มหน้าก้มตาทำงาน
เพื่อหาเงินมาให้ลูกหลานได้เรียนพิเศษ

พ่อแม่ทำงานหนักขึ้น เวลาที่ควรจะมีความสุขกับลูก ๆ เพื่อสั่งสอนให้เค้าเป็นคนดีของสังคม
ลดหายลงไป เวลาแห่งความสุขหายไปกับการต้องสอบแข่งขัน ต้องเรียนพิเศษ
ต้องได้เรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อ ซื้อข้อสอบ บริจาคให้โรงเรียน ซื้อเก้าอี้ให้ลูก ๆ ได้มีที่เรียน
เกิดการแข่งขันในหมู่พ่อแม่ผู้ปกครง ต่างประมูลกันเป็นว่าเล่น แล้วเงินจำนวนนี้เข้ากระเป๋าใคร
เราไม่รู้หรอกท่านไม่ต้องถาม เราอยากถามว่าระบบโอเน็ต เอเน็ตดีตรงไหน เปิดโอกาสให้เด็ก
ทั่วประเทศตรงไหน ประสิทธิภาพ, คุณภาพของนักเรียนนักศึกษาที่จบออกมาดีขึ้นกว่าเดิมตรงไหน
และ มูลค่าที่เริ่มระบบจำนวนมหาศาลที่เบิกจากงบประมาณแผ่นดิน ภาษีของเราสมเหตุสมผลหรือไม่
ทุกวันนี้เรายังคงเห็นแต่ปัญหาอันเกิดจากระบบที่ท่านคิดที่ท่านสร้างขึ้นมาอยู่ทั่วทั้งประเทศ

นั้นคือปัญหาจากระบบคัดเลือก ที่นี้ลองมาดูปัญหาอันเกิดจากการปรับปรุงตำราเรียน
วิชาที่บรรจุให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้บ้าง หากท่านเป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครอง อยากเชิญชวนให้ท่านเปิดตำราเรียน
หนังสือเรียนของลูกหลานดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับตำราเรียน เด็กประถมเรียนหนังสือภาษาไทยเทอมละ 3-4 เล่ม
หนังสือวิทยาศาสตร์เทอมละ 2 เล่ม ภาษาอังกฤษเทอมละ 4 เล่ม คณิตศาสตร์เทอมละ 2-3 เล่ม
ส่วนเนื่อหาไม่ต้องพูดถึง มีคำอธิบายอย่างกว้าง ๆ แสดงวิธีทำแบบลัดวงจร ( หรือว่าเราโง่กันเนี้ย )
เด็กแบกกระเป๋าน้ำหนักมหาศาล ส่วนเด็กมัธยมเรียน วิชาคณะสี เพื่อเป็นการสร้างความรักสามัคคี สร้างวินัย
สร้างความรับผิดชอบ ต้องเรียนสัปดาห์ละ 2-3 ชั่วโมง แต่ ประวัติศาสตร์, ศีลธรรม เรียนสัปดาห์ละ 50 นาที

เกิดอะไรขึ้นกับระบบการศึกษานับจากที่แม้วขึ้นสู่อำนาจ เปลี่ยนระบบเพื่อให้เด็ก ๆ ฉลาดน้อยลง
เปลี่ยนระบบเพื่อให้พ่อ แม่ ไม่มีเวลาสอนลูกเป็นคนดี เปลี่ยนระบบเพื่อสร้างวัฒนธรรมในการซื้อข้อสอบ
ซื้อที่เรียน หรื่อ เปลี่ยนระบบเพื่อให้ประเทศสร้างปัญญาชนที่ไร้สติ ไร้สมอง ไร้สามัญสำนึก ...
แต่ที่แน่ ๆ ระบบการศึกษาของประเทศถดถอยอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่แม้วขึ้นสู่อำนาจ.....
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Mon Sep 28, 2009 2:42 pm

ระบบบริหารแบบ ซี อี โอ

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 6 พฤษภาคม 2546 มีความเห็นชอบให้ทุกจังหวัดและ
สถานเอกอัครราชฑูตไทยทั่วโลก ใช้หลักการบริหารราชการแบบบูรณาการ
หรือที่รู้จักกัน " ระบบซีอีโอ " (CEO) ยกเว้นกรุงเทพมหานคร โดยมีมติให้
ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บริหารสูงสุดในจังหวัด ในฐานะเป็นหัวหน้าข้าราชการ
ทุกหน่วยงาน

อันมีสาเหตุมาจากการกล่าวอ้างที่ว่า การบริหารงานในระดับจังหวัดล้มเหลว
ขาดประสิทธิภาพ ขาดเอกภาพในการบังคับบัญชา ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็น
หัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัดไม่มีอำนาจในการบริหารงาน คน และ
เงิน มากเท่าที่ควร

ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้เชื่อว่า ระบบซีอีโอ มีข้อดีหลายประการ เช่น
1 ช่วยทำให้ระบบบริหารภาครัฐ โดยเฉพาะในระดับจังหวัดมีศักยภาพและ
สมรรคภาพสูง
2 สามารถประสานและกำกับดูแลการทำงานของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
ในด้านการบริหารงานทั่วไป คือ มีอำนาจวินิจฉัยสั่งการ อนุมัติ อนุญาติ
การบริหารงานบุคคล และ การบริหารงบประมาณ ได้ครอบคลุมวงจร และ
ทันต่อเหตุการณ์
3 บรูณาการนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการต่อสู้เพื่อเอาชนะ 3 สงคราม
ได้แก่ สงครามการต่อสู้กับปัญหาความยากจน ปัญหายาเสพติด และ
ปัญหาทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการ
4 สนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชนในพื้นที่

เป็นไงบ้างแนวนโยบายและแนวคิดในการปรับเป่ลี่ยนระบบการบริหารตาม3
แนวความคิดของแม้ว อ่านดูแล้ว โอ เค เลย สวยหรู ดูดี มีเหตุมีผล
ลองนำไปพูดให้กับชนชั้นกรรมาชีพ ทำงานหลังสุ้ฟ้าหน้าสู่ดินช่างดูดีแท้ๆ
แต่ถ้าลองมาวิเคราะห์ ระบบ ซี อี โด ดู

ระบบผู้ว่า ซีอีโอ เป็นระบบการบริหารที่มีแนวโน้มขัดกับกระแสโลก
ไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงการปฎิรูปการเมือง
การปกครองในระบบประชาธิปไตยของไทย กล่าวคือ

- เป็นระบบการรวมอำนาจให้การบริหารงาน คน และเงิน ไว้ที่คนคนเดียว
โดยไม่มีคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งอาจเรียกว่า เผด็จการ
- แนวคิดบริหารระบบ ซีอีโอ เป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น
ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
- ระบบบริหาร ซีอีโอ ไม่อาจนำไปส่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดตาม
บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
- ระบบบริหาร ซีอีโอ สอดคล้องกับระบบปิด
- ระบบบิรหาร ซีอีโอ ใช้ได้ดีกับเอกชน แค่ไม่อาจนำมาใช้กับการบริหาร
ราชการในระดับจังหวัดได้ง่าย

พอจะเห็นแนวคิดระบบบริหารที่แม้วต้องการหรือยัง แม้วต้องการให้เป็น
อำนาจอยุ่ที่คน ๆ เดียว เพื่อง่ายต่อการสั่งการ ไม่ต้องมีผู้รุ้เห็นหลายคน
ง่ายต่อการยักย้ายถ่ายเท เพียงแค่ คิดโครงการในระดับจังหวัด ผู้ว่าเบิก
จ่ายได้เลยไม่ต้องมีมติกรรมการ ฤดูเลือกตั้งก็ง่ายแสนง่าย หมู่บ้านไหน
มีคนเลือกเยอะ มีคะแนนทิ้งคู่ต่อสุ้ อนุมัติจ่ายได้ทันทีในรูปของการส่ง
เสริมโครงการหมู่บ้าน กี่ปีที่ใช้ระบบบริหารซีอีโอ ลองคูณจำนวนเม้ดเงิน
ที่พอจะถ่ายเทไปได้กันเองแล้วกัน แค่นี้พอจะตาสว่างขึ้นบ้างมั้ย
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Mon Sep 28, 2009 3:01 pm

overtherainbow wrote::mrgreen: ดันกระทู้จ้าาา


ขอบคุณคร้าบ ที่ให้การสนับสนุน
จะพยายามเต็มที่คร้าบ

ในส่วนของการพยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ภายในประเทศ
ที่พวกเราถือปฏิบัติกันมาช้านาน คงจะสรุปได้เพียงเท่านี้
ซื่งเป็นการพยายามวางรากฐาน ทั้งขุมกำลังคนไว้ตามองค์กร
เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินงานในรูปของโกงเชิงนโยบาย

เป็นรูปแบบของการโกงแบบไม่ผิด หรือ อุดช่องโหว่ทั้งหมด
ดังตัวอย่างคดีดังที่เพิ่งผ่านพ้นไป..(ห้ามเอ่ยชื่อ)
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถทำเงินเข้ากระเป๋าได้หลาย
ที่สำคัญไม่ผิดด้วย เพราะอำนาจอยู่ที่คนเพียงคนเดียว

ลำดับต่อไป จะเริ่มเข้าสู่พฤติกรรมและการปฏิบัติงาน
การดำเนินงาน การวางตน และ ภาวะผู้นำ....
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Wed Sep 30, 2009 10:35 am

บทเทศน์ของ หลวงตามหาบัว

ก่อนอื่นขอนำเสนอด้วยบทเทศน์ของหลวงตามหาบัว เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2548
โดยขออนุญาติยกมาเพียงตอนหนึ่งที่มีนัยะ ดังนี้

" บ้านเมืองเราเวลานี้ ถูกบีบถูกบังคับด้วยความมืดมน อนธกาลพูดตั้งแต่วงรัฐบาล
มาว่าอย่างนี้เลย เมืองไทยรู้สึกว่ามือมนมากถูกสิ่งที่มืดดำ เอาอำนาจป่าเถื่อนมาบีบ
บังคับทุกแง่ทุกมุม เวลานี้ หาความสุจริตไม่ได้เลย มีตั้งแต่คนชั่ว เดี๋ยวนี้ครองบ้าน
ครองเมือง เป็นเจ้าอำนาจบาตรหลวง ครอบคนดีในเมืองไทยเรา แม้แต่พระก็เดือดร้อน
เวลานี้ อย่าว่าแต่ประชาชนเลย พระท่านอยู่เป็นศีลเป็นธรรมปฏิบัติตนอยู่ในป่าในเขา
ก็ได้รับความกระทบกระเทือนจากพวกนี้ละ พวกเปรต พวกผี เราก็แปลกใจนะ จิตใจคน
ทำไมถึงดำเอาหนักหนา ไม่มองดูผิด ถูก ชั่ว ดี มีแต่จะเอาให้ได้อย่างเดียว ผิดถูกก็ตาม
ขอให้ได้อย่างใจ เวลานี้ใช้อำนาจป่าเถื่อนมาบีบบังคับทุกแบบทุกฉบับ "

" เราสลดสังเวชนะ เช่น อย่างขนบประเพณีของบ้านเมืองเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงตั้งสมเด็จพระสังฆราชมาตั้งแต่ไหนแต่ไรมา นี่เป็นประเพณีของบ้านเมืองเรา สงบ
ร่มเย็นเรื่อยมา นี้มันก็มายึดเอาแบบลับ ๆ ลึก ๆ นี่ละที่ว่าพวกมืดมิดปิดตา มันเข้ามา
เหยียบย่ำ มีแต่อำนาจเสียด้วย มันลุกลามเข้าไปหารัฐบาลนู่น อำนาจเหล่านี้ มันจะกลาย
เป็นรัฐบาลอาภัพไปนะ หนัก ๆ เข้ารัฐบาลนี้มันจะเป็นรัฐบาลอาภัพ เพราะมักใหญ่ใผ่สูง
เกินเนี้อเกินตัว "

" ได้ทราบว่าเด๋ยวนี้จะเป็นประธานาธิบดี เราทราบว่าอย่างนั้น ตั้งหน้าตั้งตารุกกันใหญ่
ตั้งหน้าตั้งตาจะขึ้นไปถึงประธานาธิบดี เขาพูดให้ฟังนี่ เราก็ว่าอย่างนี้ เราจะผิดที่ไหน
เราเอาคำพูดเขามาพูดเฉย ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น แล้วจะอาภัพ รัฐบาลไทยเรา ว่างั้นเลย
เราพูดชี้นิ้วเลย "

" ถ้าใครจะอาภัพ ก็รัฐบาลเป็นต้นจะอาภัพ ที่ตัวเก่ง ๆ มักเก่งอึ่งอ่างนะซิ พองตัวขึ้นไป
ให้เท่าวัว คือ ธรรม ธรรมท่านจะเป็นอะไร แล้วอึ่งอ่างมันท้องจะระเบิดนะ พองเข้าไป ๆ
ไม่รู้จักหนักจักเบา คืบคลานเข้าไปหมด เรานี้วิตก พอได้ยินอย่างนี้รู้สึกวิตก มันปรารถนา
ลามกขึ้นไปเรื่อย ๆ จะปีนขึ้นจรวด ดาวเทียม ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเครื่องจะขึ้นไป จะเหาะขึ้นไป
โดยที่ไม่มีปีก เราพูดเท่านี้ละ เราสลดสังเวชถึงเรื่องชาติบ้านเมืองทุกวันนี้ "

คงไม่ต้องอธิบายหรือชี้แจงรายละเอียดใด หลวงตาท่านเทศน์ไว้ให้ได้คิด
Last edited by bird on Thu Oct 01, 2009 10:39 am, edited 1 time in total.
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Wed Sep 30, 2009 11:44 am

ซุกหุ้น ภาค 1

ลืมกันไปหรือยัง คดีซุกหุ้น ของนายกแต้ๆ ของเรา เมื่อปี 2544
เป็นคดีแรกของนายกแต้ๆ หลังชนะการเลือกตั้งทั่วไปและขึ้น
ดำรงตำแหน่งนายกของประเทศก่อนนำพาประเทศสู่หายนะ
ซึ่ง มติ ปปช. 8:1 ทักสินจงใจปิดปิดบัญชีทรัพย์สิน แต่
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 8:7 ทักสินไม่มีความผิด..

การยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของนักการเมือง หรือ สส.
ต้องยื่นต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
แห่งชาติ (ปปช.) 3 ครั้ง คือ
ครั้งที่ 1 ยื่นบัญชีฯ เมื่อเข้ารับตำแหน่ง
ครั้งที่ 2 ยื่นบัญชีฯ เมื่อพ้นจากตำแหน่ง
ครั้งที่ 3 ยื่นบัญชีฯ เมื่อพันจากตำแหน่งเป็นเวลา 1 ปี

วันที่ 26 ธันวาคม 2543 คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
การทุจริตแห่งชาติ หรือ ปปช. ได้แถลงผลการพิจารณาลงมิตเรื่อง
การไม่แสดงหุ้นที่อยู่ในชื่อของบุคคลอื่น ของ นายกทักสินและ
คุณหญิงพจมาน โดยสรุปดังนี้

1. ไม่แสดงทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของตนเองและคู่สมรส โดยแยกเป็น
อยู่ในชื่อตนเอง รวมมุลค่า 6,750.- บาท (หกพันเจ็ดร้อยห้าสิบบาท)
อยู่ในชื่อคู่สมรส รวมมูลค่า 6,337,599.35 บาท (หกล้านสามแสน
สามหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทสามสิบห้าสตางค์)
ปปช. เห็นว่ามีมูลค่าน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (ไม่ระบุจำนวน)
ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินที่ไม่แสดง ไม่ส่งผลให้ตนเองและคุ่สมรสได้ประโยชน์
แต่อย่างใด ลงมติว่า ไม่ได้จงใจปกปิดรายการทรัพย์สินดังกล่าว

2. ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อของบุคคลอื่น ผลการตรวจสอบ สรุปได้ว่า ไม่แสดง
รายการทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อบุคคลอื่น ดังนี้
ครั้งที่ 1 เมื่อเข้ารับตำแหน่ง ( 7 พฤศจิกายน 2540 ) ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน
2,371,726,371.- (สองพันสามร้อยเจ็ดเอ็ดล้านเจ็ดแสนสองหมื่น..บาท)
ครั้งที่ 2 เมื่อพ้นจากตำแหน่ง ( 4 ธันวาคม 2540 ) ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน
1,523,139,657.- (หนึ่งพันห้าร้อยยี่สิบสามล้านหนึ่งแสนสามหมื่น..บาท)
ครั้งที่ 3 เมื่อพ้นจากตำแหน่ง 1 ปี ( 4 ธันวาคม 2541) ไม่แสดงรายการทรัพย์สิน
646,984,383.- (หกร้อยสี่สิบหกล้านเก้าแสนแปดหมื่น...บาท)

คณะกรรมการ ปปช. พิจารณาแล้วมีมติด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 1 ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ จงใจยื่นบัญชีฯ อันเป็นเท็จ
และได้เสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชื้ขาดตามมาตร 295 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป
ซึ่งผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2544 ด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 7 ว่า
พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความผิดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 295 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

เมื่อศาลท่านวินิจฉัยเช่นนั้น ก็ต้องถือว่าแม้วไม่มีความผิด คงเหลือไว้แต่เพียงคำถามที่ค้างคาใจ
ท่านผู้ซึ่งกำลังจะขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศ มีพฤติกรรมเช่นนี้ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่ง
ประชาชนจะไว้วางใจท่านได้เต็ม 100 หรือไม่ว่า ท่านจะไม่จงใจปกปิดอะไรต่อมิอะไรที่เกี่ยวกับ
การบริหารประเทศของท่านในอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

ณ วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็คงจะได้คำตอบที่ค้างคาใจอยู่ ด้วยความเจ็บช้ำที่ครั้งหนึ่งได้หยิบยื่น
โอกาสให้ .......ตนหนึ่งเข้ามาทำร้ายบ้านเมืองอย่างไม่น่าให้อภัย
Last edited by bird on Sun Nov 15, 2009 3:47 pm, edited 1 time in total.
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby overtherainbow » Wed Sep 30, 2009 12:06 pm

[color=#BF40BF] :D
แบบนี้ท่าจะเป็นหนังยาว
ปูเสื่อคอยเลยแล้วกัน
แต่ว่าเดี๋ยวพวกนั้นก็ไม่มากระทู้นี้แน่ๆ
ดูอย่างกระทู้กบฏซี ทางโล่งสะดวกเอามากมาก
User avatar
overtherainbow
 
Posts: 3123
Joined: Sat Dec 27, 2008 12:36 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Wed Sep 30, 2009 12:11 pm

overtherainbow wrote:[color=#BF40BF] :D
แบบนี้ท่าจะเป็นหนังยาว
ปูเสื่อคอยเลยแล้วกัน
แต่ว่าเดี๋ยวพวกนั้นก็ไม่มากระทู้นี้แน่ๆ
ดูอย่างกระทู้กบฏซี ทางโล่งสะดวกเอามากมาก


อย่าลืมเตรียมขนม นม เนย นะพี่นะ
:lol: :lol: :lol:
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby เจ้านายฝ่ายเหนือ » Wed Sep 30, 2009 12:11 pm

ผมว่าคุณ ATOM น่าจะต่อสู้ทางความคิดกับคุณ bird ไม่ใช่ด้วยการมาเถียงไปๆมาๆในกระทู้นี้
แต่คุณ ATOM ควรตั้งกระทู้ใหม่ และอธิบาย ความดีของทักษิณ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน เหมือนที่คุณ bird ทำนะครับ

ลองดูครับ ถ้ารักทักษิณจริง แค่นี้ไม่ยากหรอกครับ ATOM
อาจจะมีชุลมุน รุมสกรัมนิดหน่อย ก็ทนพิมพ์ให้้จบก็แล้วกันนะครับ จะรออ่าน
User avatar
เจ้านายฝ่ายเหนือ
 
Posts: 1189
Joined: Fri Sep 25, 2009 9:36 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Wed Sep 30, 2009 2:13 pm

ภาวะผู้นำกับการบริหาร

นายกแต้ๆ เข้ามาบริหารบ้านเมืองตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 ด้วยคะแนน
เสียงที่ท้วมท้น นำลูกพรรคเข้าสู่สภาได้ถึง 200 กว่าที่นั่ง พร้อมกับประกาศยุทธศาสตร์
การทำสงครามยาเสพติด ทำสงครามกับความจน และอีกกว่าร้อยยุทธศาสตร์ที่
ประกาศอย่างท้าทายชนิดที่เรียกได้ว่า ไม่เคยมีนายกท่านใดในประวัติศาสตร์การเมือง
เคยทำมาก่อน ซึ่งแต่ละยุทธศาสตร์ชวนให้หลงไหล และเป็นที่คาดหวังอย่างยิ่ง

การเดินทางออกเยี่ยมเยียนต่างจังหวัดเป็นไปอย่างมีระบบและดูเหมือนจะเอาจริง
ต่อการบริหารประเทศ กลับกลายเป็นการใช้จ่ายเงินไปกับโครงการ "คณะรัฐมนตรีสัญจร"
อย่างไม่มีระเบียบและสิ้นเปลื้องโดยใช่เหตุ มีการต้อนรับคณะรัฐมนตรีอย่างเอิกเกริก
ทั่วทั้งภาคอีสาน และ ภาคเหนือตอนบน ใช้เงินคงคลังจากรัฐบาลก่อนหน้าอย่างไร้ค่า
และไม่รู้ความหมายของเงินคงคลังก้อนนั้น ว่าได้มาจากความอดทนของประชาชน
ทั้งประเทศ เพื่อปลดหนี้ ไอ เอ็ม เอฟ

ในช่วงปีแรกของการบริหารประเทศ แม้วทำให้ประชาชนทั้งบนดินและรากหญ้า
ใช้เงินอย่างมือเติบ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทบัตรเครดิต สินค้าเครื่องเสียง เครื่องใช้ไฟฟ้า
เติบโตขึ้นมาจากพฤติกรรมการหว่านเงินของแม้ว ลงไปให้ชาวรากหญ้า ใช้จ่าย
เที่ยวเตร่ ซื้อข้าวของที่ฟุ่มเพื่อย รวมมูลค่าเม็ดเงินมากว่า หนึ่งหมื่นล้านบาท
ภายในปีเดียว ประชาชนทั้งประเทศใช้บัตรเครดิต แสดงความหรูหราอย่างเหนือชั้น
ด้วยการเปิด ถนนแฟชั่น ประชาชนใช้จ่ายกันอย่างไม่สนใจหนี้ที่พอกพูนขึ้น

ปีที่สองของการบริหาร พรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่า เชื่ยวเชิงชายอยู่ในวงการเมือง
ได้ยอมสยบต่อนายกภายใต้นโยบาย หว่านเงินลงไปในประชากรชั้นรากหญ้า ซึ่งเป็น
การให้ที่ต้องตอบแทนด้วยบุญคุณ คือพร้อมที่จะลงคะแนนเสียงให้แก่พรรค ทอรอทอ
ในทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่น และระดับชาติ ซึ่งรัฐบาล ทอรอทอ
สามารถจัดมวยล้มต้มคนอีสานได้ถึง 4 ปีที่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากการ
หว่านเม็ดเงินให้คระรัฐมนตรี เพื่อเป็นการสร้างปราการให้พรรคใน 16 จังหวัดของ
ภาคอีสานอย่างฟุ่มเฟื่อย

แม้ว ยกตัวเองเป็นนักการเมือง เป็นนายกที่มีคุณภาพ (เรียกว่าชมตัวเองว่างั้นเถอะ)
เทียบกับนักการเมืองของอังกฤษหรือสหรัฐ ดังนั้น คณะรัฐมนตรีเวลาเข้าประชุม
ปากต้องเหมือนอมลูกอม สมองต้องบรรจุไปด้วยสิ่งที่ไร้สาระ หรือ ขี่เลื่อย
ห้ามเสนอความคิด ไม่ต้องเสนอแผนหรือนโยบายที่ได้เข้าไปบริหาร รอคำสั่งจาก
เศษกระดาษที่นายกจดงบประมาณที่จะนำไปหว่านยังที่ต่าง ๆ ตามอำเภอใจท่าน
ส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนำไปจัดสรรเงินให้แก่ประชาชนที่พวกเขา
เรียกว่า รากหญ้า

แม้วบริหารประเทศเชิงธุรกิจ หว่านเงินลงไปให้หัวคะแนนที่มีอิทธิพลในการคุม
เสียงประชาชนรากหญ้าได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ไม่เว้นแม้แต่ชนชั้นปัญญาชน
อย่าง สส แม้วก็สามารถคุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จ ชนิดที่เรียกว่า ชี้เป็นชี้ตาย ยิ่งทำให้
แม้วผยองอำนาจที่กอบโกยเข้ามาจากการหว่านเม็ดเงินลงไป (เงินที่หว่านเนี้ย
เงินภาษีประชาชนนะท่าน ไม่ใช้เงินท่านแม้วอย่างที่สมุนนำไปบอกต่อรากหญ้า)

แม้วประกาศจะฟังทุกเรื่องที่นักวิชาการและฝ่ายค้านเสนอมา แต่พฤติกรรมกลับ
ตรงกันข้าม แม้ว ไม่เคยฟังใคร ไม่ฟังเสียงค้านจากนักวิชาการ แถมยังตอบโต้
อย่างโอหัง กราดเกรี้ยว และ เหยียดหยาม อย่างที่ไม่เคยปรารกฎในสมัยนายก
ท่านใดมาก่อน การบริหารบ้านเมืองของแม้วเป็นอาการของคนคลั่ง ความโอหังและ
ความบ้าอำนาจ ปรัญชาความพอเพียงถูกทำลายลงไปพร้อมกับความย่อยยับ
ของประเทศ....
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby คิคิ » Wed Sep 30, 2009 3:26 pm

ดัน ;)
ลายเซ็นต์กู มืงก็ลบ
User avatar
คิคิ
 
Posts: 1702
Joined: Tue Oct 14, 2008 3:40 am

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Wed Sep 30, 2009 4:11 pm

คิคิ wrote:ดัน ;)


ขอบคุณคร้าบ...
กำลังเรียบเรียงข้อมูลเรื่องต่อไปอยู่คร้าบ
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby ORCL » Wed Sep 30, 2009 5:29 pm

ช่วยเสริมนิดนึงครับ
บทความจาก วัชระ เพชรทอง หนังสือพิมพ์แนวหน้า

ชีวิตของพ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สร้างความทุกข์แสนสาหัสให้กับมาตุภูมิ สร้างความแตกแยกให้กับคนภายในชาติอย่างหนักหน่วงยิ่งนัก

จนบัดนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองในต่างประเทศ ก็ยังเต็มไปด้วยกิเลสตัณหาและความอาฆาตแค้น ต้องการกลับมามีอำนาจทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ถึงขั้นบางเวลาเพ้อคลั่งขนาดจะสถาปนาตนเองเป็น "ประธานาธิบดี" เลยทีเดียว

พ.ต.ท. ทักษิณ บัญชาการรบจากนอกประเทศ สั่งลูกสมุน ลูกหาบแลบรรดาสาวกผู้ศรัทธาทั้งหลายให้ดำเนินการทุกวิถีทาง ดิบ-ถ่อย-เถื่อนสุดๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ "แดงทั้งแผ่นดิน"

แต่ฟ้า-ดิน ก็ไม่ปรานีและไม่เป็นใจ ตอบสนองต่อทรราช !

ทรชนย่อมอยู่บนเส้นทางแห่งทรราช เหล่าบรรดาลูกหาบน้อย-ใหญ่ ก็เฉกเช่นเดียวกัน

ทุรชนเหล่านี้ปากจะตะโกนกู่ก้องร้องคำว่า "ประชาธิปไตยๆๆ" บังหน้ากลบหูประชาชน

แต่แท้ที่จริงเป็นเพียง"ประชาธิปไตยของทักษิณ เท่านั้น หาใช่ประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทยไม่

ทรชนเหล่านั้นสู้เพื่อกระเป๋าเงินใบใหญ่("ที่สุดในชีวิต") ของตนเองเท่านั้น ด้วยเกรงว่านายทาสจะสูญหายตายจากไป

ความอิ่มหมีพีมันจะหมดไปจากชีวิตอันแสนสั้นด้วย!!

ทุรชนเหล่านั้นก็จะโฆษณาป่าวร้องว่า "ทักษิณคือสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย" โดยโกหกมวลชนคนรากหญ้า คนยากจนในชนบทอันกว้างใหญ่ไพศาล

แต่แท้ที่จริงทักษิณคือสัญลักษณ์ ของนักเผด็จการทรราชในคราบนักเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยการทุจริต การซื้อเสียงและการใช้อำนาจอิทธิพลข่มขู่ทุกรูปแบบ

ทรชนก็จะอ้างว่า นายใหญ่คือผู้เสียสละ รวยแล้วไม่โกง!

แต่แท้ที่จริงแล้ว คือคนที่เห็นแก่ตัวแบบสุดๆ ร่ำรวย(มหาศาล) แล้วก็ยังมีพฤติการณ์โกงไม่มีที่สิ้นสุด

นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกและคนเดียวในประเทศไทยที่ถูกทั้งประชาชน(ส่วนมาก)และทหารพร้อมใจสามัคคีกันขับไล่

ประชาชน(ประท้วงต่อเนื่องยาวนานจนถูกอาวุธสงครามยิงใส่ได้รับบาดเจ็ยสาหัสหลายร้อยคนและถึงแก่ความตายเกือบสิบคน)

ทหาร(ก่อการรัฐประหาร ยึดอำนาจ ขับไล่รัฐบาลทรราชออกไป พ.ต.ท.ทักษิณหนีไปอยู่ต่างประเทศเนื่อง

จากกลัวศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินลงโทษ"จำคุก")

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ทุจริตทุกรูปแบบอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นทรราชได้ เพราะทรยศต่อประชาชนนั้นเอง

มิได้ใช้อำนาจแห่งรัฐเป็นไปเพื่อประชาชนของประชาชนและโดยประชาชนแต่ เป็นไปเพื่อตนเองและพวกพ้องทั้งสิ้น!

พ.ต.ท.ทักษิณ จึงได้รับการขนานนามจากประชาชนว่า เป็นทรราชโดยแท้!

ทรราชที่กำลังจะหมดลมหายใจในไม่ช้า...
User avatar
ORCL
 
Posts: 69
Joined: Wed Sep 30, 2009 5:21 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Thu Oct 01, 2009 2:08 pm

รวยจากการปั่นหุ้น

หุ้น ( ตราสาร ) คือ เอกสารทางการเงินที่บริษัทออกมาเพื่อระดมเงินทุน จากผู้ลงทุน
และเปิดให้มีการซื้อขายหุ้นกันได้ในตลาดหลักทรัยพ์ หรือที่เรียกว่า ตลาดหุ้น การซื้อขาย
ขายหุ้นมีทั้งขาดทุนและกำไร หากจะสรุปง่าย เปรียบตลาดหุ้นเป็นตลาดนัด ที่มีการขาย
สินค้านานาชนิดในราคาที่แตกต่างกันไป เพี่ยงแต่ตลาดหุ้นผลขาดทุนกำไรที่เกิดขึ้น
ส่งผลให้ผู้ถือหุ้นกลายเป็นเศรษฐีหรือล้มละลายได้เพียงระยะเวลาไม่กีปี ซึ่งขึ้นอยุ่ประสม
การณ์ของนักเล่นหุ้น

หากอธิบายง่าย ๆ คือ ท่านซื้อหุ้นชนิดหนึ่งมาให้ราคาหุ้นละ 10 บาท ท่านถือครองไว้
อาจจะวันเดียว หรือ 3 วันหรือ 1 ปี สุดแล้วแต่ท่าน เมื่อไรที่ราคาหุ้นที่ท่านซื้อมามันสูงขึ้น
ไปจากราคาหุ้นละ 10 บาทเป็นราคาหุ้นละ 20 บาท ท่านก็ขายไป ท่านจะเกิดผลกำไร
จากการขายหุ้นตัวนั้น ( 20 - 10 ) 10 บาท ในทางกลับกันหากหุ้นที่ท่านซื้อไว้มีราคา
ตกลงจาก 10 บาท เป็น 9 , 8 บาท ซึ่งท่านคาดว่าราคาอาจจะตกลงไปอีก ท่านก็รีบขาย
เพื่อให้ขาดทุนน้อยที่สุด ผลกำไรจากการขายผลในตลาดหุ้นนี้ สรรพากรยกเว้นภาษีให้ท่าน
แต่ต้องเข้าหลักเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร (กฎข้อบังคับของสรรพากร)
เพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศอย่างหนึ่ง

การปั่นหุ้น คือ การซื้อขายหุ้นโดยมีเป้าหมายที่จะสร้าง หรือ ควบคุมราคาหุ้นให้เป็นไป
ตามที่ต้องการ ทำให้ราคาหุ้นนั้นเคลื่อนไหวผิดปกติ เพื่อลวงคนอื่นว่าหุ้นตัวนั้นมีการซื้อขาย
อย่างคึกคัก จนทำให้ราคาหุ้นปรับสูงขึ้นตามที่ต้องการ การปั่นหุ้นต้องเผชิญกับสภาวะความ
ไม่แน่นอนและความเสี่ยง ดังนั้น การปั่นหุ้นในขณะที่มีอำนาจทางการเมืองจะช่วยลดสภาวะ
ความไม่แน่นอนและความเสี่ยงได้ ด้วยเหตุนี้ แม้วจึงเลือกที่จะหารายได้หรือสร้างความร่ำรวย
จากการปั่นหุ้นในขณะที่มีอำนาจ ตามสุภาษิตที่ว่า " น้ำขึ้นให้รีบตัก "

3 ปีนับจากวันที่แม้วขึ้นสุ่อำนาจ สามารถทำให้ครอบครัว ญาติสนิท มิตรสหาย ร่ำรวยจาก
มุลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จากมูลค่า ณ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 มีมูลค่ารวมประมาณ
102,272 ล้านบาท (หนึ่งแสนสองพันล้าน..) เป็นมูลค่ารวมสุทธิ 194,071 ล้านบาท
(หนึ่งแสนเก้าหมื่นสี่พันเจ็ดสิบเอ็ดล้าน...บาท) รวมมูลค่าเพิ่มขึ้น
91,799 ล้านบาท (เก้าหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยเก้าสิบเก้าล้าน..)อันเป็นผลมาจาก
ปั่นหุ้นในรูปแบบของการบริหารราชการที่มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาค " คนรวย "
โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทที่ตระกูลกรูเป็นเจ้าของ

นีหละที่เค้าว่า คนรวยไม่โกง แต่ใช้วิธีตามหลักสากลที่เรียกว่า
การปั่นหุ้น รากหญ้าจะจนก็ช่าง แต่ตระกูลกรูต้องรวย

สรุป มูลค่าหุ้นรวมของกลุ่มบริษัทรวมญาติ
Attachments
Picture1 [640x480].png
(80.56 KiB) Downloaded 261 times
Last edited by bird on Sat Oct 10, 2009 11:32 am, edited 2 times in total.
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby คนที่ไม่สำคัญ » Thu Oct 01, 2009 3:53 pm

เอาใจช่วยครับ มารื้อกระทู้ให้ครับจะได้หาไม่ยาก
User avatar
คนที่ไม่สำคัญ
 
Posts: 1
Joined: Thu Oct 01, 2009 3:45 pm


Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby แดง ขาว น้ำเงิน » Fri Oct 02, 2009 12:09 am

สู้โว้ย :mrgreen:
"ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส" เพลโต้
User avatar
แดง ขาว น้ำเงิน
Moderator
 
Posts: 4943
Joined: Thu Feb 12, 2009 4:07 pm
Location: Earth

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Fri Oct 02, 2009 10:06 am

อวดอ้างราคายางพารา

ยางพารา เป็นพืชเศรษฐิกจสำคัญของประเทศอีกตัวหนึ่ง
ที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิต
สภาพภูมิอากาศ และคุณภาพของยางดิบ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตยางอันดับหนึ่งของโลก
ประมาณปีละ 2.5 ล้านตัน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของผลผลิตทั่วโลก ซึ่งผลผลิตดังกล่าวสูงกว่า
ของมาเลเซียถึง 4 เท่า แต่กลับมีรายได้เข้าประเทศจากยางพาราน้อยกว่ามาเลเซียถึงปีละ
ประมาณ 2,000 ล้านบาท (ในปี 2544) นั่นเป็นเพราะมาเลเซียมีอุตสาหกรรมในการเพิ่มผลผลิต
จากยางดิบเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น ยางแท่ง มากกว่านั่นเอง การส่งออกยางของไทยจึงอยู่ในรูปของ
การส่งวัตถุดิบให้กับประเทศอุตสาหรรมเท่านั้น

ในช่วงปี 2543 (รัฐบาลชวน) ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศจีนเปิดประเทศทำการค้าแบบเสรีเต็มรูปแบบ
ปล่อยให้ชาวจีน 1,300 ล้านคนซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภคใช้กันได้ตามในชอบ รถยนต์เป็นสินค้า
ตัวหนึ่งที่ชาวจีนหาซื้อมาแทนรถจักรยาน ทำให้ยางสังเคราะห์อันเป็นวัตถุดิบสำคัญเป็นที่ต้องการ
อย่างมาก ทำให้สต๊อคยางของโลกลดลง เรียกว่าผลิตมาเท่าไหร่ขายได้หมดโดยไม่เกี่ยงราคา
ซึ่งเป็นวัฏจักรสากลที่ว่า เมื่อความต้องการมีมาก แต่ผลผลิตมีน้อย ทำให้ราคายางปรับสูงขึ้น
จากปี 2543 ต่อเนื่องมาปี 2444

ราคายางสังเคราะห์จากน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก กระตุ้นให้ราคายางแผ่นรมควันปรับราคา
สูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งราคายางดิบขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้กำหนดราคา
ยางพาราจึงถูกใช้เพื่อการเมือง ในรูปแบบของการแทรกแซงราคา โดยใช้ภาษีอากรของประเทศ
บิดเบียนราคาที่แท้จริง การคลังทำหน้าที่อุดหนุนการแทรกแซง พาณิชย์ทำหน้าที่เจรจาขายยาง
ที่ซื้อสะสมไว้ในโครงการแทรกแซงราคา เป็นวงจรที่ทำให้เกิดการทุจริตจำนวนมหาศาล เพราะ
ไม่เพียงจะขาดรายได้จากการไม่ใช้ศักยภาพของยางพาราให้เต็มที่แล้ว ยังต้องขาดทุนสะสม
จากการแทรกแซงราคาไปไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท (ข้อมูลปี 2544)

ดังนั้น ราคายางที่ปรับสูงขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2543 ต่อเนื่อง ปี 2544-2548 เป็นผลมาจากความ
ต้องการยางในตลาดอุตสาหกรรมทั่วโลกเพิ่มสุงขึ้น ในขณะผลผลิตมีน้อยไม่เพียงพอต่อ
ความต้องการใช้ และราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ราคายางสุงขึ้นตามไปด้วย

ไม่ได้เป็นเพราะความเก่ง ความสามารถของ แม้ว อย่างที่สมุนออกมาแหกปากหลอก
ชาวบ้านแต่อย่างใด หากแต่ต้องถามกลับไปว่า ในขณะที่ยางมีราคาสูงขึ้น ประเทศเพื่อน
บ้านสร้างรายได้เข้าประเทศอย่างมากมาย แต่ทำไมประเทศถึงมีรายได้น้อยกว่ามาเลเซีย
ซึ่งมีผลผลิตน้อยกว่าถึง 4 เท่าตั้งปีละ 2,000 ล้านบาทและยังมีขาดทุนสะสมจากการแทรก
แซงราคาสูงถึงปีละประมาณ 15,000 ล้านบาท จะตอบคำถามนี้อย่างไรเล่าท่าน
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby bird » Fri Oct 02, 2009 3:25 pm

อ้างผลงาน การค้าต่างตอบแทน

มาตรการทางการค้าที่ แม้ว นำมาใช้โฆษณาว่าเป็นผลงานครั้งแล้วครั้งเล่าว่า
ประสบความสำเร็จอย่างสูง อีกทั้งยังส่งผลประโยชน์ให้กับประเทศ โดยเฉพาะ
กลุ่มเกษตรกรอย่างอเนกอนันต์ คือ การค้าต่างตอบแทน

การค้าต่างตอบแทน หมายความว่า หากหน่วยงานของรัฐ หรือ รัฐวิสาหกิจ
มีโครงการจัดซื้อ จัดจ้าง จากต่างประเทศเมื่อใด ต้องทำสัญญากับคู่สัญญาจาก
ต่างประเทศนั้นๆ ให้ซื้อสินค้าจากประเทศไทยเป็นการตอบแทนในจำนวนที่กำหนด

ซึ่งประกาศกระทรวงพาณิชย์ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มีนาคม 2541 ระบุให้
โครงการจัดซื้อจัดจ้างจากต่างประเทศของราชการและรัฐวิสาหกิจที่มีมูลค่าตั้งแต่
300 ล้านบาทขึ้นไป ต้องจัดซื้อโดยมีเงื่อนไขการค้าต่างตอบแทนไม่น้อยกว่า 50%
ของมูลค่าสินค้าหรือบริการต่างประเทศ ยกเว้น โครงการที่ใช้เงินกู้และเงินช่วยเหลือ
ที่ได้รับจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ จากรัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์กรรัฐบาล
ต่างประเทศที่ให้กู้โดยมีเงื่อนไขผ่อนปรน

หน่วยราชการที่เป็นผู้ประสานงานคือ กรมการค้าต่างประเทศ มีข้อกำหนดรายการ
สินค้าที่ต้องใช้ในการค้าต่างตอบแทนไว้ 14 กลุ่มรวมสินค้า 41 รายการ ส่วนใหญ่เป็น
สินค้าเกษตรและเกษรแปรรูป เช่น ไก่แช่เข็ง น้ำตาล ฯลฯ การค้าต่างตอบแทนเริ่ม
ดำเนินการตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งในแต่ละปีมีมูลค่ารวมไม่กี่พันล้านบาท เพราะมีไม่บ่อยครั้ง

เมื่อ แม้ว ขึ้นสู่อำนาจในปี 2544 การค้าต่างตอบแทนได้เพิ่มขึ้น จากจำนวนสัญญาเดิม
24 สัญญา รวมวงเงิน 2,600 ล้านบาท เป็นจำนวนสัญญา 51 สัญญา รวมวงเงินประมาณ
21,300 ล้านบาท ในปี 2547 จำนวนสัญญาที่เพิ่มขึ้นกลายเป็นเครื่องมือโฆษณาผลงาน
ที่สำคัญของรัฐบาล ซึ่งสมุนแม้วยังคงนำมาป่าวประกาศถึงความสามารถในการบริหาร
ราชการของแม้ว อย่างไม่ละอาย

ข้ออ้างของรัฐบาลคือ การค้าต่างตอบแทนช่วยลดการขาดดุลการค้า และแก้ปัญหาผลผลิต
เกษตรล้นตลาดภายในประเทศ ซึ่งฟังดูก็น่าจะเป็นเช่นนั้น ในการจ่ายชำระค่าสินค้า บริการ
จากต่างประเทศแทนที่จะจ่ายด้วยเงินสด จ่ายด้วยดอลล่าห์ ก็เอาสินค้าเกษตรไปแลกมา
ทำให้รัฐจ่ายเงินสดน้อยลง ขายสินค้าเกษตรในลักษณะของการส่งออกได้มากขึ้น ราคา
สินค้าเกษตรในประเทศก็สูงขึ้น เกษตรกรย่อมได้รับผลประโยชน์

หากแต่ว่าข้ออ้างดังกล่าวข้างต้น ยังคงมีข้อสงสัย ( ช่างสงสัยเกินไปหรือป่าวหนอ )

- มูลค่าการค้าต่างตอบแทนมีวงเงินเพิ่มขึ้นในสมัยแม้ว แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกรวม
ยังมีสัดส่วนที่น้อยนิด เช่น ปี 2547 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนรวมประมาณ 21,300 ล้านบาท
แต่มูลค่าการส่งออกรวมประมาณ 355,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 6% ของมูลค่าการส่งออก
ดังนั้น การค้าต่างตอบแทนจึงไม่ส่งผลต่อดุลการค้าของประเทศ

- รายการสินค้าที่กำหนดไว้ 41 รายการ แต่ในการค้าต่างตอบแทนจริง ส่วนใหญ่เป็นสินค้า
เกษตรไม่กี่รายการ เช่น ปี 2544 เป็น ไก่แช่แข็ง อาหารแช่แข็ง มันสำปะหลัง ปี 2545 เป็น
ไก่แช่แข็ง น้ำตาล กุ้งแช่แข็ง ในปี 2547 เป็น ข้าวหอมมะลิ แป้งมันสำปะหลัง กุ้งแช่แข็ง
ซึ่งสินค้าเหล่านี้ล้วนเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศอยู่แล้ว มีตลาดในต่างประเทศที่
เข็มแข็งยาวนาน ขายได้ดีมาตลอด ไม่มีปัญหาการส่งออก และที่สำคัญ ไม่มีปัญหาสินค้าล้น
ตลาดภายในประเทศ

นั่นย่อมหมายความว่า แม้ว ได้บิดเบือนรูปแบบการค้า จากการขายในตลาดเปิด เปลี่ยนมาซื้อ
ผ่านการค้าต่างตอบแทนกับหน่วยงานของรัฐเท่านั้น ไม่ได้เป็นการขยายตลาด และ มูลค่าการค้า
สินค้าเหล่านี้ ก็ไม่ได้สร้างประโยชน์เพิ่มให้กับเกษตรกรแต่อย่างใด

- การค้าต่างตอบแทน ที่มีหน่วยงานของรัฐเป็นตัวกลาง ได้กระทำการผ่านบริษัทตัวแทนที่มี
รายชื่ออยุ่ 17 บริษัทกระจายในหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป
วัสดุก่อสร้าง เคมี แต่สัญญาการค้าต่างตอบแทนที่มีมูลค่าสูงมักจะวนเวียนอยู่กับสินค้า
เกษตรแปรรูปไม่กี่รายการ เช่น ไก่แช่แข็ง กุ้งแช่แข็ง อาหารแช่แข็ง และ ข้าว จึงทำให้มี
บริษัทตัวแทนไม่กี่แห่งที่ได้ประโยชน์จากสัญญาการค้าต่างตอบแทน ซึ่งหากตรวจดูรายชื่อ
บริษัทเหล่านี้ ล้วนเกี่ยวพันกับกลุ่มธุรกิจเกษตรแปรรูปยักษ์ใหญ่ และ มีอิทธิพลทางการเมืองทั้งสิ้น

สัญญาการต้าต่างตอบแทนที่แม้วภูมิใจหนักหนา คือ โครงการรถไฟฟ้ามุลค่าหลายแสนล้านบาท
ที่มีสัญญาต่างตอบแทนกับยางพารา ก็ไม่แน่ใจว่า มันเกี่ยวข้องกับโครงการกล้ายางที่เพิ่งผ่านพ้น
คำวินิจฉัยของศาลไปเมื่อหลายวันที่ผ่านมานี้ด้วยหรือป่าว แต่ที่แน่ ๆ ในช่วงเวลานั้น แม้วได้เร่ง
นโยบายการปลูกยางพาราอย่างขนานใหญ่ ไม่รู้ว่า ณ ปัจจุบันได้มีการส่งสินค้ายางพาราตามสัญญาการค้า
ต่างตอบแทนไปมากน้อยแค่ไหน เพราะราคายางในปัจจุบันก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำ

หรือ โครงการสัญญาการค้าต่างตอบแทนนี้ เป็นเพียงเครื่องมือโฆษณาผลงาน เพื่อใช้ในการ
หาเสืยงของ แม้ว เท่านั้นหนอ
Last edited by bird on Mon Oct 19, 2009 7:35 pm, edited 1 time in total.
User avatar
bird
 
Posts: 1426
Joined: Wed Apr 01, 2009 1:25 pm

Re: เค้าลางแห่งความเลวร้าย...แม้ว

Postby แดง ขาว น้ำเงิน » Sat Oct 03, 2009 4:50 pm

ตามมาอ่านซีรี่ส์อย่างต่อเนื่อง :mrgreen:
"ผู้ที่ใช้สติปัญญาไม่เป็น คือคนโง่ ผู้ที่ไม่กล้าใช้สติปัญญา คือทาส" เพลโต้
User avatar
แดง ขาว น้ำเงิน
Moderator
 
Posts: 4943
Joined: Thu Feb 12, 2009 4:07 pm
Location: Earth

PreviousNext

Return to ห้องสมุด