กระทู้หมายเลข 1
viewtopic.php?f=2&t=14900ทำไมคนเสื้อแดงจึงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง บ้าคลั่ง และรุนแรง และกล่าวความเท็จด้วยความหยาบคายอยู่ตลอดเวลา
ข้อสังเกตก่อนเข้าสู่เนื้อหา
1.ในเวทีปราศรัยของเสื้อแดงจะเต็มไปด้วความหยาบคาย ดิบเถื่อนทางภาษาอันสะท้อนจิตใจผู้พูด (ยิ่งไม่ต้องพูดถึงภาษาในเวบสีแดง) เมื่อพิจารณาเนื้อหาก็จะพบว่าเป็นความเท็จมากว่า 90% ขึ้นไป คนที่ปกติไม่นิยมพูดเท็จก็พยายามพัฒนาตัวเองเป็นนักเท็จ เพื่อใได้โดนใจมวลชน มีอยู่บ้างบางคนเช่นจักรภพที่พยายามพูดความจริงตามทัศนะและความเชื่อส่วนตน แต่ก็หมดบทบาทไปแล้วเมื่อต้องอาญาแผ่นดินและหลบหนี ความน่าประหลาดใจนั้นอยู่ที่ว่าไม่เคยมีขบวนการต่อสู้ใดในโลกนี้ืั้จะชนะได้ด้วยความเท็จ และที่จริงแล้วเสื้อแดงสามารถสู้ได้ด้วยการพูดความจริงตามทัศนะตัวเอง (ทำนองเดียวกับที่จักรภพทำ) ขอหมายเหตุตรงนี้ว่า ทักษิณเองนั้นปีแรกๆเขาก็ยังเป็นคนพูดความจริงตามทัศนะตัวเอง ก่อนจะมากลายเป็นนักเท็จโดยสมบูรณ์ในปัจจุบัน
2.ความรุนแรงของเสื้อแดงที่อุดร
3.ความป่าเถื่อนของเสื้อแดงเชียงใหม่ เชียงราย
4.การเผาเมือง และไล่ฆ่าคนกลางเมืองหลวงช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา
ุ5.การลอบยิงพันธมิตรด้วยอาวุธสงครามจนเจ็บตายไปเป็นจำนวนมาก
6.ฯลฯ.....และยังไม่มีแนวโน้มเลยว่าเสื้อแดงจะเลิกเท็จ เลิกเกลียดชัง เลิกบ้าคลั่ง เลิกรุนแรง
ทำไมมวลชนแดงจึงเป็นเช่นนี้?????????
เหตุผลประการสำคัญคือความเชื่อและศรัทธา
ขบวนเสื้อแดงนั้นไม่ใช่ขบวนความรู้ ไม่ใช่ขบวนเรียนรู้ แต่เป็นขบวนความเชื่อและศรัทธา สิ่งที่พวกเขาศรัทธาในแง่ตัวบุคคลคือทักษิณ ซึ่งเป็นทรราชสมบูรณ์แบบ สิ่งที่เขาศรัทธาในแง่คุณค่า คือวัตุถุ เงินทอง ความร่ำรวยโดยไม่เลือกวิธี
เมื่อไม่มีความรู้และไม่เรียนรู้ จึงไม่อาจพัฒนาการมีเหตุผลภายในตน ยิ่งถูกกล่อมด้วยนักเท็จแกนนำ จึงยิ่งโงหัวไม่ขึ้น กลายเป็นขบวนลัทธิความเชื่อเข้มข้น ศรัทธาเข้มข้น อารมณ์แรงและโมโหร้าย เพราะไม่อาจใช้ข้อมูลและเหตุผลในการโต้แย้งได้
โดยปกติแล้วความเชื่อและความศรัทธานั้นไม่ใช่สิ่งที่ดี-ชั่ว หรือผิด-ถูก โดยตัวเอง การเข้าสู่การเรียนรู้นั้นตามธรรมชาติก็มักมีความเชื่อความศรัทธานำหน้าอยู่ก่อนเสมอ จากนั้นการเรียนรู้จึงค่อยเกิดขึ้น และเกิดสติปัญญาตามมา ในขบวนพันธมิตรเองก็มีกลุ่มมวลชนที่ขาดความรู้และใช้ศรัทธาความเชื่อนำหน้าอยู่ไม่น้อย เพียแต่ยังเอิญเชื่อและศรัทธาในคนดี ในข้อมูลที่ถูกต้อง เลยพาให้ดีไปด้วย (แต่ถ้าจมอยู่กับความเชื่อความศรัทธานานเกินไปก็อันตรายเหมือนกัน)
ปัญหาของคนเสื้อแดงเมื่อเชื่อผิดคนศรัทธาผิดทาง จึงพาพวกเขาดิ่งลงสู่ความมืดมนทางจิตใจ และไม่อาจก้าวต่อไปสู่การเรียนรู้ได้ การแสดงออกมาจึงเป็นควาหยาบคายและความรุนแรงที่ระบายออก เพราะเขาไม่อาจนั่งลงสนทนาด้วยสติ ข้อมูลความรู้และปัญญาได้
เมื่อมีอคติ จึงขาดข้อมูล(ไม่เปิดรับ)
เมื่อขาดข้อมูล จึงขาดความรู้
เมื่อขาดความรู้ จึงใช้ความเชื่อไม่ใช้เหตุผล
เมื่อขาดเหตุผล จึงใช้ความหยาบคาย ขาดสสติ
เมื่อขาดสติ จึงใช้ความรุนแรง (ในขบวนเสื้อแดงก็มีพระนำเมหือนกันแต่เป็นพระแบบมหาโช และพระกระโดดถีบรถนายก)
จึงนำไปสู่ขบวนแห่งความเกลียดชังคลั่งแค้น
แม้จนบัดนี้สภาพโดยรวมของเสื้อแดงก็ยังไม่ดีขึ้น แม้จะมีบางส่วนในระดับปัจเจกบุคคล เริ่มตระหนักว่า ความเชื่อ ความศรัทธา ความบ้าคลั่ง ความรุนแรง และความเท็จ ไม่ใช่หนทางสู่้เป้าหมาย แต่ก็ยังเป็นจำนวนน้อยเกินไป
เราจึงจะยังได้เห็นฝูงชนสีแดงที่บ้าคลั่งต่อไปอีกพอสมควร จนกว่าพวกเขาจะอกหัก พ่ายแพ้สลายตัวไป เพราะขบวนเช่นนี้จะไม่มีวันคว้าความสำเร็จใดๆได้เลย